ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฝืนลิขิตฟ้า ท้าสวรรค์

    ลำดับตอนที่ #187 : การปะทะของผู้อาวุโสหลัก(2)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.71K
      908
      12 ก.พ. 63

    เพียงพริบตาสถานการณ์จากการต่อสู้ระหว่างศิษย์กลับกลายเป็นการต่อสู้ระดับสูงของเหล่าผู้อาวุโสหลักเสียแล้ว ความเปลี่ยนแปลงรวดเร็วเหนือความคาดหมาย

     

    ต่างฝ่ายต่างมีเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่ การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เหล่าศิษย์หรือผู้อาวุโสธรรมดาจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้เลย

     

    ถางอีเหวินที่ยืนนิ่งหันมามองไปทางผู้อาวุโส4ที่กำลังปลอมตัวเป็นศิษย์ภายนอก “ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เจ้าไม่ขึ้นมาพร้อมกันด้วยรึ?

     

    ผู้คนที่อยู่โดยรอบต่างเบิกตากว้าง ไม่เพียงแต่ท้าทายผู้อาวุโส11และ12เท่านั้น แต่ผู้อาวุโส2ยังกล้าท้าทายผู้อาวุโส4ที่อยู่ในรูปลักษณ์เซียนพนันใบไม้ผลิอีกด้วย

     

    ฉินหลิงเองยืนอยู่ไม่ห่างยังรู้สึกตกใจไม่น้อยกับคำพูดของผู้เป็นอาจารย์ ต้องรู้ว่าชายหญิงตรงหน้าก็เป็นผู้อาวุโสหลักที่มีพลังขั้นหลอมรวมเหมือนนาง แล้วนางยังอาจหาญถึงขนาดกล้าท้าทายผู้อาวุโสหลักอีกคนรึ? คำพูดของผู้อาวุโสถางอีเหวินผู้นี้สะเทือนขวัญเกินไป

     

    ผู้อาวุโส4หัวเราะอย่างเคอะเขิน “ไม่ดีกว่า พวกเราไม่ได้มีปัญหากัน เชิญพวกท่านจัดการธุระส่วนตัวไปเถิด ข้าไม่คิดจะเข้าไปแทรกแซง”

     

    “ชิ...เจ้าคนขี้ขลาด!!” ผู้อาวุโส2สบถใส่อย่างไม่เกรงใจ

     

    ผู้อาวุโส4ที่พึ่งโดนต่อว่าก็เปยรอยยิ้มขึ้นออกมาราวกับคำพูดเสียดสีที่ออกมาจากปากของเจ้าตำหนักสีชาดเป็นเพียงสายลม ฉินหลิงที่ยืนดูอยู่ไม่ห่างยังอดไม่ได้ที่จะนับถือกับความอดทนของผู้อาวุโสท่านนี้

     

    “เจ้าลงไปก่อน” ถางอีเหวินหันไปบอกศิษย์ชายของนางด้วยสีหน้านิ่งเฉยก่อนจะหันไปยังชายชราที่ทั่วร่างเต็มไปด้วยกลีบดอกไม้สีแดง “ส่วนเจ้าแก่นี้เกะกะสายตาจริงๆ” เอ่ยจบร่างกายของชายราจากตระกูลเฉิงระเบิดออกกลายเป็นกลีบดอกไม้ปลิวว่อนไปตามสายลมเเละค่อยๆล่วงหล่นลงมาอย่างงดงาม

     

    เหล่าศิษย์ที่อยู่โดยรอบมองไปยังกลีบดอกไม้สีแดงดุจโลหิตด้วยสีหน้าซับซ้อน หากไม่ได้เห็นกับตาใครจะรู้ว่ากลีบดอกไม้ที่งดงามนี้มาจากร่างเนื้อของผู้ฝึกตนขั้นแก่นทองคำจากตระกูลเฉิงผู้นั้น นี้เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นเคล็ดวิชาประจำตำหนักบุปผาสีชาด

     

    เฉิงหยุนซีขมวดคิ้วแน่น สายตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “ผู้อาวุโส2 ท่านทำเช่นนี้หมายความว่ายังไง มิใช่ว่าเราใช้การประลองเพื่อตัดสินชีวิตคนในตระกูลข้าหรอกรึ?

     

    “ข้าไม่เคยบอกซักคำว่าข้าจะไว้ชีวิตมัน ความตายของมันถือว่าข้าเมตตามากแล้ว เป็นถึงผู้อาวุโสแต่กลับกล้าลงมือกับศิษย์ ไม่ว่าจะในฐานะผู้อาวุโสหรือผู้พิทักษ์ ข้าไม่มีทางปล่อยให้มันมีชีวิตรอดกลับไปอย่างแน่นอน!!” ผู้อาวุโส2เอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มโหดเหี้ยมจนผู้คนต้องหวาดกลัว

     

    “ศิษย์พี่หญิง ท่านทำเช่นนี้ก็ไม่ถูกนัก ถึงคนผู้นั้นจะทำผิดจริงแต่เราควรส่งเขาไปยังหอลงทัณฑ์ มิใช่ตัดสินชีวิตเขาตามอำเภอใจ ข้าคิดว่าท่านที่เป็นถึงผู้พิทักษ์แต่กลับใช้อำนาจเช่นนี้ดูไม่ค่อยถูกน่ะเจ้าค่ะ” หญิงรูปงามหรือผู้อาวุโส11เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานด้วยท่าทางราวกับว่ากำลังหวังดีต่อพี่สาวคนหนึ่ง

     

    วูปป!!!

     

    ผู้อาวุโส2ที่ได้ยินคำว่าศิษย์พี่หญิงจากหญิงรูปงามก็เผยสีหน้าเยือกเย็นก่อนจะพุ่งเข้าไปกุมคอผู้อาวุโส11อย่างรวดเร็วจนเเม้เเต่เจ้าตัวก็ยังไม่ตั้งตัว

     

    “ข้าจำได้ว่าพึ่งบอกแก่เจ้าว่าหากเจ้ากล้าเรียกข้าว่าศิษย์พี่หญิงอีก ข้าจะกรีดปากเจ้า หากวันนี้ข้าทำไม่ได้ก็อย่ามาเรียกข้าว่าถางอีเหวิน” ผู้อาวุโส2บีบรัดคอของสตรีรูปงามจนแน่น

     

    สีหน้าของผู้อาวุโส11รูปงามเขียวคล้ำในขณะที่หันไปมองพันธมิตรของนาง “ระ...เร็วเข้า ช่วยข้าด้วย แค๊กๆ”

     

    ผู้อาวุโส12ที่ได้สติก็รีบพุ่งเข้ามาพร้อมกับประสานอินและปล่อยคลื่นวายุขนาดใหญ่ไปทางผู้อาวุโส2เพื่อหวังช่วยหญิงสาวรูปงามที่ตกอยู่ในกำมือของนางมารร้ายอย่างผู้อาวุโส2

     

    เมื่อเห็นคลื่นวายุพุ่งเข้ามา ผู้อาวุโส2ก็โยนหญิงสาวในมือไปทางนั้นอย่างไม่รอช้า

     

    เฉิงหยุนซีที่เห็นผู้อาวุโส11ถูกซัดมาทางคลื่นวายุของตนก็รีบเปลี่ยนทิศทางคลื่นวายุให้เบนไปทางด้านข้างที่มีเหล่าศิษย์ยืนอยู่อย่างไม่ลังเล

     

    ตู๊ม!!!

     

    เสียงปะทะของคลื่นวายุกับกำแพงพลังที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้อาวุโส4ดังสนั่น

     

    “เฮ้ๆๆ อย่าเล่นแบบนี้ซิ” ผู้อาวุโส4ที่อยู่ด้านล่างปาดเหงื่อทิ้ง หากเมื่อครู่เขากางม่านพลังไม่ทันอาจมีลูกศิษย์หลายร้อยคนต้องสิ้นชีพไปแล้วก็ได้

     

    แน่นอนว่าผู้อาวุโสทั้งสองไม่ได้สนใจสิ่งที่ชายหนุ่มด้านล่างพูดแม้แต่น้อย สายตาของพวกเขากำลังจดจ่ออยู่กับสตรีผู้มีใบหน้าน่ากลัว ความเร็วของผู้อาวุโส2เมื่อครู่นั้นทำให้เฉิงหยุนซีรู้สึกตะลึง ไม่ต้องพูดถึงผู้อาวุโส11เลย แม้แต่เขาที่ฝึกเคล็ดวิชาสายลมยังแทบมองไม่ทัน

     

    “ผู้อาวุโส11 ท่านไม่เป็นอะไรน่ะ” เฉิงหยุนซีหันไปถามสาวงามด้านข้างด้วยสีหน้าจริงจัง

     

    ผู้อาวุโส11ลูบบริเวณคอไปมา รอยแดงจากฝ่ามือของผู้อาวุโส2ยังจารึกบนลำคอที่เรียวระหงของนางอยู่เลย

     

    “ข้าไม่เป็นอะไร ขอบคุณท่านมาก พวกเราห้ามประมาทเด็ดขาด ศิษย์พี่ผู้นี้ของข้าไม่ธรรมดาจริงๆ ใส่สุดแรงไปเลย” สายตาของนางจ้องไปยังผู้อาวุโส2นั้นแฝงไว้ด้วยความเกียจชัง

     

    สีหน้าของผู้อาวุโส2เปลี่ยนเป็นจริงจัง ช่องว่างระหว่างแขนเสื้อของนางค่อยๆมีกลีบดอกไม้สีแดงร่วงหล่นจนกองทับกันเป็นเหมือนภูเขาดอกไม้ขนาดย่อม

     

    ด้านล่างเวที ผู้อาวุโส4ที่กางข่ายพลังคอยดูแลความปลอดภัยของเหล่าศิษย์มองไปยังบนเวทีด้วยสีหน้าจริงจังทั้งยังแฝงไว้ด้วยความหวาดกลัว “มาแล้วซิน่ะ อสรพิษสีชาด”

     

    กองกลีบดอกไม้สีแดงดุจโลหิตค่อยๆหมุนตัวแล้วเปลี่ยนรูปร่างเป็นอสรพิษร้ายสีแดง

     

    อสรพิษที่เกิดจากกองกลีบดอกไม้ค่อยๆชูคอขึ้นเหนือฟ้า บนหัวของเจ้างูร้ายมีสตรีนางหนึ่งยืนเหลือบลงมาด้านล่างราวกับสรรพสิ่งทุกอย่างคือมดปลวกไม่ควรค่าให้สนใจ

     

    ผู้อาวุโส11และ12ที่จับคู่กันแหงนมองไปยังตำแหน่งของคู่ต่อสู้ด้วยสีหน้าจริงจัง พวกเขาทั้งสองล้วนเป็นผู้อาวุโสรุ่นใหม่ที่พึ่งดำรงตำแหน่งได้ไม่ถึงร้อยปีเท่านั้น นอกจากเรื่องเล่าวีรกรรมที่ดูเกินจริง พวกเขาต่างไม่เคยเห็นเคล็ดวิชาของผู้อาวุโส2

     

    “เคล็ดวิชาวายุโหมกระหน่ำ”

     

    “เคล็ดวิชาบุปผาผลิบาน”

     

    สองผู้อาวุโสหลักที่เห็นความน่ากลัวของอสรพิษยักษ์ตรงหน้าก็รีบผสานพลังร่วมกัน พายุขนาดใหญ่ที่มีกลีบดอกไม้หมุนวนอยู่ด้านในปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วและพุ่งไปบนหัวของอสรพิษตำแหน่งที่ผู้อาวุโส2ยืนอยู่

     

    ถางอีเหวินที่ยืนเหนือหัวอสรพิษร่างยักษ์เหลือบมองไปยังเคล็ดวิชาผสานอย่างดูแคลนก่อนจะกระโดดลอยบนฟ้าปล่อยให้อสรพิษยักษ์ของนางพุ่งเข้าปะทะกับคลื่นพายุตรงหน้า

     

    ฟิ๊ว!!! ตู๊มมมม

     

    หัวอสรพิษที่ทำมาจากกลีบดอกไม้สีแดงเปล่งแสงขึ้นมาในขณะที่มันพุ่งชนพายุที่ผสานรวมกับกลีบดอกไม้อย่างไม่เกรงกลัว

     

    สองผู้อาวุโสหลักที่เห็นอสรพิษสีชาดสามารถต้านเคล็ดวิชาผสานของพวกเขาได้ก็เผยสีหน้าเคร่งเครียดและรีบประสานอินเพื่อเพิ่มพลังให้แก่คลื่นพายุ

     

    หลังจากได้เพิ่มพลังใส่พายุจนมีขนาดใหญ่กว่าร่างของอสรพิษ ทั่วร่างของอสรพิษสีชาดที่เกิดมาจากกลีบดอกไม้สีแดงก็แตกกระจายฟุ้งไปทั่วเวทีประลอง

     

    ครันเห็นอสรพิษถูกทำลายลงไป ผู้อาวุโส11และ12ก็ผ่อนลมหายใจออกมา หากว่าการผสานพลังของพวกเขายังไม่อาจปราบเจ้าปีศาจนี้ได้อีก ผู้อาวุโส2จะน่ากลัวปานใด?

     

    ผู้อาวุโส4ที่เห็นท่าทางของผู้อาวุโสหลักรุ่นใหม่ทั้งสองคนก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าเบาๆ ในอดีตเขาเองก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่เคยล้อมสู้กับผู้อาวุโส2 และเหตุการณ์นั้นยังทำให้เขาจดจำได้อยู่จวบจนทุกวันนี้

     

    กลีบดอกไม้ที่ร่วงหล่นมาจากร่างของอสรพิษยักษ์ก็หมุนวนเป็นพายุด้านหลังของผู้อาวุโสทั้ง2ที่กำลังประมาท

     

    ฟิ๊วๆๆๆ

     

    กลีบดอกไม้สีแดงรวมตัวกับเป็นรูปลักษณ์เกาทัณฑ์พุ่งเข้าใส่ด้านหลังของผู้อาวุโส11และ12อย่างจัง

     

    ขณะที่สองผู้อาวุโสหลักกระเด็นออกมาจากการถูกโจมตีเข้าด้านหลัง ด้านหน้าก็ปรากฏสตรีผู้หนึ่งกำลังพุ่งเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม

     

    กำปั้นที่ดูบอบบางถูกส่งเข้ากลางอกของผู้อาวุโส12จนเขากระอักเลือดออกมา แทบจะในเวลาเดียวกันผู้อาวุโส2ก็เข้าไปประชิดหญิงรูปงามและกุมคอของนางเหมือนตอนแรกราวกับเป็นเหตุการณ์เดิม

     

    “วันนี้เจ้าไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของข้าไปได้” ถางอีเหวินแหยะยิ้มออกมาในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งปรากฏมีดขนาดเล็กที่ด้ามจับถูกสลักลวดลายอย่างสวยงาม

     

    เพียงพริบตาการต่อสู้ระหว่างผู้อาวุโส11และ12ก็จบลง ด้วยชัยชนะของผู้อาวุโส2อย่างขาดลอย แม้แต่ปลายเสื้อยังไม่มีรอยยับ

     

    สีหน้าของผู้อาวุโส11รูปงามแปรเปลี่ยนเป็นหวาดกลัว นางไม่คิดเลยว่าศิษย์ร่วมอาจารย์เดียวกันอย่างถางอีเหวินจะก้าวหน้าไปไกลยิ่งกว่าที่นางคิด ในอดีตนางได้ยินท่านอาจารย์พูดเปรียบเทียบระหว่างนางและถางอีเหวินจนเกิดเป็นความชิงชังอย่างไม่รู้ตัว

     

    เพื่อแสดงให้ท่านอาจารย์รู้ว่านางเหนือกว่าศิษย์พี่ผู้ที่กล้าทำร้ายแม้แต่อาจารย์ของตนเอง นางจึงฝึกฝนจนก้าวมาสู่ระดับหลอมรวมและเป็นหนึ่งในอาวุโสหลักของสำนักเพื่อบ่งบอกอาจารย์ว่านางเองก็ไม่ด้อยกว่าศิษย์พี่ผู้เป็นอาวุโส2 อย่างไรก็ตามคำตอบของผู้เป็นอาจารย์กลับทำให้นางเกรี้ยวกราดยิ่งขึ้น เจ้าไม่มีทางเหนือกว่าเด็กคนนั้นได้ ไม่มีทาง!’

     

    “ศิษย์พี่ ท่านปล่อยข้าไปเถิด ข้าผิดไปแล้ว ข้าขอโทษ” ผู้อาวุโส11ร้องไห้ออกมาแสดงออกมาถึงความเสียใจ

     

    “ข้าไม่ใช่ศิษย์ของยายแก่สารเลวนั้นอีกต่อไป แล้วเจ้าก็ไม่ใช่ศิษย์น้องของข้า” สีหน้าของถางอีเหวินกลายเป็นน่าหวาดกลัวในขณะที่กำลังยกมีดชี้ไปทางใบหน้าที่งดงามของผู้อาวุโส11

     

    “หยุดน่ะ!!!!!” เสียงตะโกนของบุรุษดังขึ้นมาจากบนฟ้า

     

    “มาแล้วรึ?” ถางอีเหวินแหงนมองชายวัยกลางคนที่กำลังลอยอยู่บนฟ้าด้วยสีหน้าเยาะเย้ย

     

    เหล่าผู้อาวุโสขากตำหนักกลางหันไปมองบนฟ้าก็แข็งค้างก่อนจะรีบคุกเข่าและคำนับ “คารวะท่านเจ้าสำนัก”

     

    ศิษย์มากมายที่ได้รู้ถึงสถานะของชายที่ลอยอยู่บนฟ้าก็ต่างพากันตื่นตกใจและรีบคุกเข่าลงกับพื้นตามเหล่าผู้อาวุโส นอกจากผู้อาวุโส4ที่คอยกางม่านพลังอยู่ก็มีเพียงฉินหลิงเท่านั้นที่ไม่ได้คุกเข่าคำนับผู้ที่ถูกเรียกว่าเจ้าสำนัก

     

    “ผู้อาวุโส2 เจ้าที่เป็นถึงผู้พิทักษ์ของสำนักแต่กลับกล้าทำร้ายผู้อาวุโสคนอื่น ไม่เห็นกฎสำนักอยู่ในสายตาเลยรึยังไง!!” เจ้าสำนักที่อยู่ในรูปลักษณ์ชายวัยกลางคนซึ่งมีท่าทางน่าเคารพเอ่ยตำหนิผู้อาวุโส2ด้วยน้ำเสียงจริงจัง

     

    “ฮาๆๆๆ หากข้าไม่เห็นกฎสำนักอยู่ในสายตาแล้วจะทำไม? หรือเจ้าต้องการจะมาลงโทษข้าเอง ไอกระจอกที่อาศัยอำนาจบรรพชนอย่างเจ้าไม่มีสิทธิมาสั่งการข้า หากไม่เพราะท่านบรรพชนมีหรือเจ้ายังได้วางท่าอยู่เช่นนี้ ชิ...มาทำให้ข้าเสียเวลาซ่ะได้” เอ่ยจบผู้อาวุโสก็เสียบมีดเข้าไปในปากของหญิงงามที่อยู่ในกำมือของนางอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจเจ้าสำนักที่กำลังโกรธแค้นจนหน้าตาแดงกล่ำแม้แต่น้อย

     

    “ท่านเจ้าสำนักช่วยข้าด้ว.... อ๊าคคค!!!

     

    ฉึกกก!!!

     

    ถางอีเหวินกระชากมีดจากปากไปจนเกือบถึงหูอย่างรวดเร็ว หน้าตาที่งดงามของผู้อาวุโส11ถูกทำลายทิ้งภายในพริบตาท่ามกลางเหล่าศิษย์นับพัน

     

    “เจ้าก็รู้ว่าข้าริษยาคนที่หน้าตางดงามกว่าข้า ต่อไปหากว่าเจ้ากว่าเอ่ยเรียกข้าว่าศิษย์พี่อีก ข้าจะกรีดปากอีกด้านของเจ้าด้วย” ผู้อาวุโส2ลูบใบหน้าของผู้อาวุโส11ก่อนจะโยนร่างทิ้งไปด้านข้างอย่างไม่สนใจ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×