ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Remember Me พี่ครับ..อย่าลืมผมนะครับ [jinson]

    ลำดับตอนที่ #1 : First Remember

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.ย. 61







                   “ห้ะ!? เมื่อกี้หม่ามี้ว่าไงนะครับ?” เด็กหนุ่มวัยมัธยมปลายปีสุดท้ายทิ้งตัวนั่งลงข้างๆหญิงวัยกลางคนที่มีใบหน้าละม้ายคล้ายตัวเอง ไม่สิ ต้องเป็นเด็กหนุ่มเองนั่นแหละที่หน้าคล้ายหญิงคนนี้ เขาถามตาโตก่อนจะทำมุ่ยใส่เพราะค่อนข้างไม่พอใจกับสิ่งที่ตนเพิ่งได้ยิน


                    “อย่างที่บอกแหละกากา แค่ปิดเทอมนี้เอง ไม่นานหรอกจ้ะ นะคนดี” เธอตอบพร้อมกับดึงมือลูกชายมากุมไว้และลูบเบาๆเป็นเชิงอ้อนและขอร้องไปในตัว


                    “มี้ ปิดเทอมนี้ก็ตั้งสองเดือนนะครับ ใจร้ายเกินไปแล้ว ป๊าก็ด้วย” โวยวายคนเป็นแม่อยู่ดีๆก็หันไปโวยวายพ่อด้วย ทำเอาชายวัยกลางคนต้องรีบวางหนังสือแนะนำท่องเที่ยวในมือลงเพื่อง้อลูกชาย


                    “เอาหน่ากากา น้องก็โตแล้ว คงไม่ดื้อไม่ซนมากหรอก ช่วยป๊ากับหม่ามี้หน่อยนะ”


                    “ป๊าาาาาา”


                    “นะ กากานะ หม่ามี้รับปากคุณปาร์คไปแล้วด้วย”


                    “แล้วไมไม่ถามเจียก่อนอ่ะครับมี้”


                    “ก็คุณปาร์คจะไปกับป๊าและหม่ามี้ด้วย แล้วน้องจะอยู่ยังไงคนเดียว แล้วป๊าเห็นว่าปิดเทอมกากาก็ว่างไม่ได้ทำอะไร งั้นให้กากาช่วยดูแลน้องน่าจะดีกว่า”


                    “ป๊าอ่าาา ถึงเจียจะว่างก็ต้องถามเจียก่อนสิครับ แล้วป๊ากับมี้ก็ไปเที่ยวกันสนุก ทิ้งเจียไว้ที่บ้านอ่ะ ใจร้าย”


                    “กากา หม่ามี้ขอโทษนะ มันเป็นฮันนีมูนคู่น่ะ เราสี่คนวางแผนมานานแล้ว”


                    “นี่ฮันนีมูนหรือว่าดูทำเลเตรียมย้ายบ้านอ่ะมี้ ไปนานขนาดนั้น”


                    “โอ๋ๆ ไม่งอแงนะคนเก่งของมี้ เดี๋ยวป๊ากับมี้ก็คงไม่มีเวลาได้เที่ยวแบบนี้อีกแล้ว เข้าใจป๊ากับมี้หน่อยนะ”


                    “เฮ้อ คร้าบบบ เจียเข้าใจแล้วครับ แต่ที่โกรธอ่ะก็เพราะป๊ากับมี๊ไม่ถามเจียก่อน เกิดเจียไม่ว่างขึ้นมาทำไง เขาจะว่าเราเป็นคนไม่รักษาคนพูดนะครับ ที่หลังถามเจียก่อนนะ"


                    “จ้าๆ หม่ามี้จะไม่รับปากใครก่อนถามกากาแล้วจ้ะ หายโกรธหม่ามี้กับป๊านะกากานะ”


                    “ครับ ไม่โกรธแล้ว ในเมื่อมี้รับปากไปแล้วเจียก็ทำอะไรไม่ได้แล้วนี่ งั้นเจียก็จะดูแลน้องอย่างดีเลย ไม่ต้องห่วงนะครับ” สุดท้ายก็ยอมอยู่ดีถึงจะขัดใจตัวเองอยู่บ้างก็ตาม แต่ก็เพราะแจ็คสันเข้าใจพ่อกับแม่นั่นแหละ เขาเองก็ไม่ได้อยากขัดความสุขของพ่อกับแม่ อีกอย่างแค่สองเดือนเองคงไม่นานมากหรอก


                    “กากาของเรานี่น่ารักและใจดีจริงๆ เน๊อะป๊าเน๊อะ เด็กดีของมี้” หญิงวัยกลางคนทั้งกอดทั้งหอมลูกชายคนเก่งอย่างดีใจที่ลูกชายไม่โกรธตนแล้ว เด็กหนุ่มเองก็ไม่ได้ขัดขืนปล่อยให้คนเป็นแม่หอมอยู่อย่างนั้นถึงแม้จะเริ่มรู้สึกเจ็บที่แก้มอยู่บ้างเพราะแรงที่กดลงมาดูจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ


                    “พอแล้วหน่าคุณ แก้มลูกจะช้ำหมดแล้ว” เป็นคุณพ่อที่ช่วยหยุดการฟัด(?)ลูกชายของคุณแม่ไว้ได้ ไม่งั้นแก้มเนียนของเด็กหนุ่มคงต้องช้ำจริงๆแน่ เขาได้แต่ลูบๆแก้มเพื่อบรรเทาความเจ็บ


                    “ก็กากาน่ารักนี่คุณ หรือคุณว่าลูกชายเราไม่น่ารัก”


                    “น่ารักเสมอแหละ แต่นี่ดึกแล้วไง เข้าใจตรงกันแล้วก็ดี ได้เวลานอนแล้ว พรุ่งนี้ต้องเดินทางอีก ปะๆ ไปนอนกันดีกว่า ฝันดีนะครับกากา” ชายวัยกลางคนลุกขึ้นยืนมาลูบหัวลูกชายก่อนจะจับมือคุณแม่ให้ลุกขึ้นตาม


                    “ผันดีครับป๊าหม่ามี้”


    “คนเก่งของมี้ ฝันดีจ้ะ อย่านอนดึกนะ” หญิงวัยกลางคนจรดปลายจมูกลงบนกลุ่มเส้นผมนุ่มของเด็กหนุ่มก่อนจะเดินไปยังห้องนอนที่อยู่ชั้นสองของตัวบ้าน

     



     

    09:00 น. @สนามบิน

     

                    หลังจากที่เช็คอินและโหลดกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ทั้งหกก็รอเวลาขึ้นเครื่องซึ่งจริงๆก็เหลืออีกไม่กี่นาทีก็ได้เวลาแล้ว จึงได้เตรียมตัวล่ำลากัน


                    “แจ็คสันจ๊ะ น้าฝากน้องด้วยนะ น้องไม่ดื้อไม่ซนเลี้ยงง่าย เราเองอยู่กับพี่เขาก็ต้องฟังพี่เขานะ อย่าดื้ออย่าซน เดี๋ยวกลับมาจะเอาของมาฝากทั้งคู่เลยนะ” คุณนายปาร์คกล่าวกับเด็กหนุ่มอย่างใจดีก่อนลดตัวลงไปคุยกับลูกชายวัย 8 ขวบของเธอ


                    “คุณน้าไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมจะดูแลน้องอย่างดีเลย” เด็กหนุ่มกล่าวตอบพร้อมรอยยิ้มสดใสตามสไตล์เจ้าตัวที่ไม่ว่าใครเห็นเป็นอดมองไม่ได้ รวมถึงเด็กชายที่ยืนอยู่ข้างแจ็คสันในตอนนี้ก็ยังมองตาไม่กระพริบ แต่เจ้าของรอยยิ้มกลับไม่ได้รู้ตัวเลย


                    “ขอบใจมากนะจ้ะ แจ็คสันนี่น่ารักจริงๆเลยนะ น้าล่ะอยากจะได้มาเป็นลูกอีกคน คุณพี่ยกให้น้องได้ไหมคะ”

                    “แหม คุณน้อง คงไม่ได้หรอกจ้ะ คุณแม่หวง ฮ่าๆๆๆ” หญิงวัยกลางคนทั้งสองคุยกันถูกคอหัวเราะชอบใจใหญ่ ปล่อยให้หนุ่มๆได้แต่ยืนมองนิ่งๆ


                    “เอ่อ..ผมว่า ป๊าหม่ามี้และคุณน้ารีบเข้าเกตเถอะครับ เดี๋ยวจะตกเครื่องเอาแล้วจะอดเที่ยวนะครับ”


                    “อ๊ะ ใช่ๆ รีบไปกันเถอะค่ะคุณพี่ แจ็คสันน้าขอบใจมากจริงๆนะจ้ะ ส่วนเราก็อย่าดื้ออย่าซนนะ เข้าใจไหม? รักลูกนะครับ” คุณนายปาร์คย้ำกับลูกชายตัวน้อยของเธอก่อนจะหอมเข้าที่แก้มนิ่มนั่นหนึ่งที เด็กชายไม่ได้ตอบแต่ทำเพียงแค่พยักหน้าเป็นเชิงว่าเข้าใจแล้ว


    “อืมๆ งั้นป๊ากับมี้ไปก่อนนะ / กากา มี้ฝากดูแลน้องดีๆนะจ้ะ” ทั้งสองสวมกอดลูกชายก่อนจะออกเดินทาง

    “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ เดินทางปลอดภัยและก็เที่ยวให้สนุกนะครับ ติดต่อมาหาเจียบ้างนะอย่าเที่ยวจนลืมเจีย”


    “จ้าๆ ไม่ลืม ลูกชายน่ารักขนาดนี้ใครจะลืมได้ มี้กับป๊าไปแล้วนะ ดูแลน้องดูแลตัวเองดีๆ ไหนมาให้มี้หอมก่อนไปทีนึงสิ” เด็กหนุ่มยื่นแก้มตัวเองให้กับคนเป็นแม่ทันที เธอเองก็ไม่รอช้ากดจมูกลงบนแก้มเนียนของลูกชาย ก่อนเดินโบกมือลากันจนลับสายตาไปทั้งคู่


    ลึกๆแล้วเธอเองก็เป็นห่วงลูกชายอยู่ไม่น้อย ถึงแม้ว่าแจ็คสันจะชินกับการอยู่บ้านคนเดียวอยู่บ้างเวลาที่เธอกับสามีไม่อยู่ แต่เธอก็ไม่เคยปล่อยให้ลูกชายต้องอยู่โดยลำพังนานเป็นเดือนแบบนี้  อย่างมากก็แค่สามสี่วัน พอจะต้องจากจริงๆมันก็อดห่วงไม่ได้


    คุณนายหวังได้แต่ถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำอีก ตั้งแต่เข้าเกตมาตลอดจนเข้ามานั่งบนเครื่องก็ยังหยุดไม่ได้ ทำเอาคนเป็นสามีรับรู้ถึงความไม่สบายใจของเธอ เขาจึงกุมมือภรรยาและยิ้มให้บางๆ ปลอบว่าลูกชายของพวกเขานั้นเก่งจะต้องอยู่ได้แน่ๆ และเขาก็หวังว่าตลอดสองเดือนนี้จะทำให้ลูกชายของเขาโตเป็นผู้ใหญ่และมีความรับผิดชอบมากขึ้น


    ทางด้านแจ็คสันที่พอเห็นพ่อกับแม่เข้าเกตเรียบร้อยแล้วเขาก็เริ่มหันมาสนใจเด็กชายที่ยืนอยู่ข้างตน จริงๆถ้าไม่บอกว่าเด็กคนนี้อายุ 8 ขวบแล้ว แจ็คสันต้องคิดว่าเด็กคนนี้คงจะ 6 ขวบแน่ๆ ด้วยส่วนสูงที่ไม่เกิน 120 เซนติเมตรของเจ้าตัว ไหนจะแขนเล็กๆขาเรียวๆนั่นอีก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแจ็คสันถึงคิดว่าเด็กคนนี้อายุน้อยกว่า 8 ขวบ


    ผอมไปไหมเนี่ย ประโยคแรกที่ขึ้นมาในหัวของแจ็คสัน ไม่ค่อยกินข้าวรึไงนะ สงสัยต้องให้เข้าคอสช่วยเพิ่มน้ำหนักและส่วนสูง by แจ็คสัน ซะแล้ว เด็กหนุ่มคิดในใจ


    “งั้น..เราก็..ไปกันเถอะเน๊าะ”  แจ็คสันเอ่ยขึ้นมาทำลายความเงียบระหว่างทั้งคู่ แต่ดูจะไม่เป็นผลเท่าไร เพราะเด็กชายทำเพียงแค่หันมามองหน้าเขาเท่านั้นไม่มีเสียงตอบรับอะไรกลับมาเลย แต่หลังจากนั้นก็พยักหน้าให้เขาเบาๆแทน


    “เอากระเป๋ามานี่มา พี่ถือให้” แจ็คสันกำลังเอื้อมมือไปหยิบที่วางอยู่ข้างๆเด็กชาย แต่เจ้าของกระเป๋ากลับดึงหลบมือเขาซะงั้น ทำเอาแจ็คสันนิ่งทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ


    “โอเคๆ พี่ไม่ถือให้ก็ได้ งั้นจับมือพี่ไว้ด้วย” แจ็คสันยื่นมือไปตรงหน้าเด็กชาย แต่อีกฝ่ายกลับเอาแต่ยืนมองมือเขา อะไรกันเด็กคนนี้ มือเขามันมีอะไรหรือไง แล้วน้องก็ไม่ยอมคุยด้วยเลย สองเดือนนี้จะรอดไหมเนี่ยเจียเจีย ถ้าลองใช้มุขขู่เด็กจะได้ผลไหมนะ


    “ไม่จับหรอ? แล้วแต่ละกัน ถ้าหลงพี่ไม่รู้ด้วยนะ” จังหวะที่เด็กหนุ่มกำลังหันหลังกลับ มือเล็กก็รีบคว้ามือซ้ายของเขาทันทีและรีบก้มหน้าเพื่อซ่อนแก้มที่ขึ้นสีไม่ให้แจ็คสันเห็น  แต่ก็ปิดไม่มิดอยู่ดีเพราะหูของเด็กชายมันแดงกว่าที่แก้มซะอีก


    เด็กหนุ่มเห็นแบบนั้นก็ได้แต่ยิ้มตามกับความน่ารักตรงหน้า จริงๆแล้วก็แอบเขินสินะ แจ็คสันไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะกลัวน้องจะเขินกว่าเดิม จึงทำเพียงแค่พาเด็กชายวัย 8 ขวบคนนี้เดินไปขึ้นรถและกลับบ้าน


    ตลอดทางกลับบ้านเด็กชายก็เอาแต่มองออกนอกหน้าต่างรถไม่พูดอะไรสักคำ ขนาดแจ็คสันชวนคุยด้วยก็ยังไม่มีเสียงอะไรหลุดออกมาจากปากของเด็กคนนี้ เลยแม้แต่นิดเดียว คงจะคิดถึงพ่อกับแม่ล่ะมั้ง ต้องอยู่ห่างจากพ่อแม่ตั้งสองเดือนเลย แล้วนี่แค่เด็ก 8 ขวบเอง ถ้าจะรู้สึกเหงาที่ไม่มีพ่อแม่อยู่ใกล้ๆก็คงไม่แปลก แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะพี่จะช่วยไม่ให้น้องต้องเหงาเอง เด็กหนุ่มคิดในใจ


    ทั้งสองมาถึงบ้านอย่างปลอดภัย เด็กหนุ่มจ่ายค่าโดยสารให้กับคนขับก่อนจะไปยกกระเป๋าเสื้อผ้าออกจากกระโปรงท้ายรถ แต่ยังไม่ทันที่จะวางถึงพื้นดีเด็กชายก็รีบคว้ากระเป๋าไปถือเอง และเพราะออกแรงดึงมากเกินไป เด็กชายจึงล้มก้นจ้ำเบ้าลงไปกองกับพื้นพร้อมกับกระเป๋า แถมมือเล็กทั้งสองข้างยังถลอกเป็นแผลเพราะเสียดสีกับพื้นและก้อนหินบริเวณนั้นอีก


    “เฮ้ยยยย น้อง!!” แจ็คสันกำลังเข้าไปช่วยแต่เด็กชายก็ลุกขึ้นมาก่อน เด็กหนุ่มจึงรีบปิดฝากระโปรงแล้วกล่าวขอบคุณคนขับ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เด็กชายเก็บกระเป๋าขึ้นมาวางดีๆ “บอกแล้วว่าให้พี่ถือให้ก็ไม่เอา เห็นไหมได้แผลเลยเนี่ย เจ็บไหม?” ถึงจะบ่นใส่แต่ก็ถามด้วยความอ่อนโยน แจ็คสันจับมือเล็กที่เป็นแผลเบาๆเหมือนกลับว่ามือนั่นจะหักถ้าจับแรงไปมากกว่านี้ เด็กชายไม่ตอบคำถามของแจ็คสันแต่กลับส่ายหน้าให้แทน


    “รู้หน่าว่าเจ็บ เดี๋ยวพี่เป่าให้แล้วกัน” เด็กหนุ่มก้มลงบรรจงเป่าลมออกมา ลมอุ่นๆที่ปะทะเข้ากับฝ่ามืออย่างแผ่วเบาทำเอาใบหน้าของเด็กชายขึ้นสีอีกครั้ง และก่อนที่จะเขินไปมากกว่านี้เจ้าของมือเล็กต้องรีบดึงมือกลับและเสมองไปทางอื่น แต่ก็นะ ปิดไม่มิดเพราะหูนั่นแหละ แจ็คสันจึงลุกขึ้นยืนและจูงมือเด็กชายเข้าบ้าน


    “นั่งรอตรงนี้ก่อนนะ พี่จะทำแผลให้” เด็กชายนั่งรอที่โซฟาตามที่แจ็คสันบอกอย่างว่าง่าย ไม่นานเด็กหนุ่มก็กลับมาพร้อมกล่องปฐมพยาบาลใบเล็ก แจ็คสันวางกล่องปฐมพยาบาลลงบนโต๊ะและนั่งลงข้างเด็กชาย จัดการอุปกรณ์ต่างๆที่ต้องใช้ก่อนดึงมือเล็กมาเช็ดเบาๆด้วยสำลีชุบน้ำเปล่าเพื่อเอาเศษดินเศษหินออก


    “จริงๆต้องไปล้างน้ำนะ แต่พี่กลัวน้องจะเจ็บอ่ะ พี่เช็ดให้แทนละกัน ไม่ต้องห่วงนะ พี่ช่วยงานครูห้องพยาบาลประจำ รับรองว่าพี่ทำแผลให้ไม่เจ็บแน่นอน” พูดจบแจ็คสันก็ยิ้มให้เด็กชายตรงหน้า เพราะใจดีแบบนี้ไงแจ็คสันถึงได้เป็นที่รักของเพื่อนๆและทุกคนที่รู้จัก


    หลังจากเอาเศษหินและดินออกแล้ว แจ็คสันก็จัดการเอาสำลีฉุบแอลกอฮอล์เช็ดรอบๆแผลฆ่าเชื่อโรคทำเอาเด็กชายสะดุ้งเพราะความเจ็บเล็กน้อย “อ๊ะ เจ็บหรอ แป๊บนะ เดี๋ยวเสร็จแล้ว” เด็กชายแทบไม่ได้ยินคำพูดของแจ็คสันด้วยซ้ำ เพราะแค่มองใบหน้าสวยที่กำลังตั้งใจทำแผลให้ตนอยู่เด็กชายก็ลืมความเจ็บในทันที แจ็คสันจัดการทายาไว้บางๆเป็นขั้นตอนสุดท้ายก็เป็นอันเสร็จ


    “เสร็จแล้ววว เที่ยงพอดีเลย โทรสั่งข้าวมากินแล้วกัน กินเสร็จค่อยออกไปหาซื้อของที่ซูเปอร์ไว้มาทำตอนเย็นกันดีมะ? เดี๋ยวพี่เอากล่องนี่ไปเก็บที่เดิมก่อนนะ ถ้าจะเข้าห้องน้ำก็อยู่ทางนั้นนะ” แจ็คสันพูดยืดยาวแต่เด็กชายก็ยังคงทำเพียงพยักหน้าตอบเท่านั้น


    “แจ็คสัน ขอบคุณนะครับ” ในจังหวะที่เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืนเขาก็ได้ยินเสียงคนตรงหน้าพูดกับเขาเป็นประโยคแรก นี่มันอเมซิ่งยิ่งกว่าเอเลี่ยนบุกโลก เขาไม่ได้หูฝาดไปเอง เด็กหนุ่มเริ่มทำอะไรไม่ถูกแต่ก็กลับลงไปนั่งตามเดิม


    “อ่า ไม่เป็นไร แต่ว่านะ เมื่อกี้..เรียกแค่ชื่อพี่ใช่ไหม?” เด็กชายมองหน้าเด็กหนุ่มอย่างใสซื่อและพยักหน้าตอบช้าๆเหมือนกลัวว่าจะถูกดุ ทำเอาแจ็คสันที่ตอนแรกรู้สึกโมโหนิดๆกลับไม่กล้าดุซะแล้ว


    “เห้อ ทีหลังเรียกคนที่อายุมากกว่าต้องมีคำว่าพี่ด้วยนะ จะเรียกแจ็คสันเฉยๆไม่ได้ ต้องเรียก พี่-แจ็ค-สัน เข้าใจไหมงับ?”


    “ครับ” เด็กชายพยักหน้าตอบรับ

    “ว่าแต่ น้องชื่ออะไรนะ พี่ยังไม่รู้ชื่อเลย ลืมถามคุณน้าไว้ ป๊ากับมี้ก็ไม่ได้บอกไว้”

    “จินยองครับ ปาร์คจินยอง”

    “อ๋าาา น้องจินยอง”

    “เรียกแค่ชื่อก็ได้นะครับ ไม่ต้องมีน้องก็ได้ แต่ถ้าแจ็ค..พี่แจ็คสันอยากจะเรียกแบบนั้นก็เรียกได้ครับ”

    “อ่า โอเค จินยองกินจาจังมยอนได้ใช่ไหม? พี่จะได้สั่งมา”

    “ครับ”  


    แจ็คสันพยักหน้าตอบเด็กชายก่อนที่จะลุกขึ้นเอากล่องปฐมพยาบาลไปเก็บที่เดิม โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าเด็กชายวัย 8 ขวบคนนี้จะเป็นอันตรายต่อหัวใจของเขา “ทั้งใจดีทั้งน่ารัก แถมมือก็นุ๊มนุ่ม แจ็คสันต้องเป็นของผมคนเดียว แม่ครับผมจองคนนี้นะครับ” เด็กชายยิ้มอยู่คนเดียวกับรอยแผลที่มือตัวเองซึ่งมันเป็นยิ้มที่ดูไม่ค่อยน่าไว้วางใจเอาซะเลยสำหรับเด็กวัย 8 ปีอย่างนี้...





                                   .....................................................................................

    รู้สึกว่าค่อนข้างหนักไปทางสนทนามากกว่าบรรยาย XD

    แหม่ กว่าจะยอมพูด กว่าจะได้รู้ชื่อ เหนื่อยแทนเจียเลยค่ะ

    ยืนยันคำเดิมนะคะ ว่านี่ จินสัน ไม่ใช่ แจ็คจิน นะ
    น้องเจียเคะแน่นอนจ้าาาา


    #อย่าลืมจินสัน #RMjinson

       
       
         T
    B
       
      
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×