คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ขอนอนอีกแป๊บแล้วค่อยว่ากัน
เนื้อคู่ของบางคนอาจจะไม่ใช่คนในฝันก็ได้นะ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“ตื่นได้แล้วลูก”
“ขอนอนอีกแป๊บนะฮะ” กำลังฝันถึงเธอคนนั้นอยู่เลย
“แต่นี่มันสายแล้วนะลูก เดี๋ยวไปรายงานตัวไม่ทันนะ” ว่าแล้วแม่ก็เข้ามาลากผมลงจากเตียง
ณ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง
“ยินดีต้อนรับนักศึกษาทุกคนนะครับ ขอความกรุณาให้ผู้ปกครองรออยู่ด้านนอกด้วยนะครับ”
หลังจากรายงานตัวนักศึกษาแล้ว ก็ได้เวลาขนของเข้าหอซะที ผมง่วงนอนมากๆเลยล่ะครับ
“สวัสดีครับคุณน้า หวัดดีอัณณ์ แกอยู่ชั้นไหนเนี่ย” เสียงของเพื่อนผมทักผมกับแม่
“อัณณ์อยู่ชั้น ๓ น่ะ แล้วเค้กล่ะ อยู่ชั้นไหน” แม่ผมเป็นคนอัธยาศัยดีอย่างนี้แหละครับ และผมก็ได้ส่วนนี้มาจากแม่ด้วย
“ผมอยู่ชั้น ๒ ครับ ห้องติดบันไดนี่เองครับ”
เมื่อคุยกันพอหอมปากหอมคอแล้วพวกเราก็ขนของต่อจนครบ แม่กอดผมก่อนกลับไป ตอนนี้ผมก็อยู่ในห้องกับเพื่อนต่างคณะ
“หวัดดี เราชื่อไมค์ อยู่ PY เอ่อ...คณะเภสัชศาสตร์น่ะ”
“อ๋อ เราชื่ออัณณ์ อยู่ ET เทคโนโลยีการศึกษาแพทยศาสตร์”
“เดี๋ยวอีกคนก็มาละมั้ง” ไมค์พูด
สักพักก็มีคนขนของเข้ามาในห้อง ขณะที่ผมกำลังนอนอยู่
“หวัดดี เราชื่อไมค์ อยู่ PY เภสัชศาสตร์น่ะ”
“สวัสดี เราชื่อมิกซ์ อยู่ RT รังสีเทคนิค...เฮ้ย! อัณณ์พักอยู่ห้องนี้เหรอ”
“หือ...” ผมหันไปทางต้นเสียง “มิกซ์เองเหรอเนี่ย!”
“รู้จักกันด้วยเหรอ” ไมค์ถาม
“พวกเราเรียนห้องเดียวกันมาก่อนน่ะ” ผมบอกไมค์แล้วหันไปคุยกับมิกซ์ “ไอ้เค้กมันอยู่ชั้น ๒ นะ มันได้พักคนเดียวด้วย”
“อือ” มิกซ์ทำหน้านิ่งแล้วก็จัดของต่อ ส่วนผมน่ะเหรอ ขอนอนก่อนแล้วกันนะครับ
คณะของผมเป็นหลักสูตรที่มีเนื้อหาวิชาผสมผสานระหว่าง ศิลปกรรมศาสตร์ นิเทศศาสตร์ เทคโนโลยีการศึกษา และวิทยาศาสตร์การแพทย์ขั้นพื้นฐาน ดังนั้นก็ต้องมี วาดภาพ ถ่ายภาพ ทำกราฟฟิค และก็ต้องเรียนกายวิภาคของคนด้วย ปี ๑ ก็ไม่ได้เรียนอะไรมาก การเรียนของผมมันก็อยู่กลางๆนั่นแหละครับ
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ร้อนมาก ที่วิทยาเขตนี้ร้อนแบบนี้อยู่แล้วล่ะ ผมเริ่มชินแล้ว ตอนนี้ผมนั่งรถรางไปเรียนวิชาศึกษาทั่วไป(เรียนคละคณะกัน) แต่เอ๊ะ! ผมรู้สึกว่ามีคนกำลังมองผมอยู่นะ ผมหันไปมองก็เห็นนักศึกษาหญิงรุ่นเดียวกันกับผมมองมาที่ผมแล้วเบือนหน้าไปทางอื่น จะว่าไปเธอก็จัดว่าหน้าตาดีนะ ถ้าเธอผอมกว่านี้สักหน่อยคงน่ารักทีเดียวอาจจะน่ารักพอๆกับเธอคนนั้น(ในฝัน)ของผมเลยล่ะ แต่ก็ชั่งเถอะ ของีบสักนิดละกัน
เรียนรวมกันหลายๆคณะแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ผมมีเพื่อนต่างคณะทุกคณะเลยล่ะ ผมได้อยู่กลุ่มเดียวกันกับเพื่อนในคณะของเค้กคนหนึ่งชื่อขิง เธอก็น่ารักดี เป็นกันเอง ผมชอบเรียกว่าน้องชมพูเพราะผิวขาวอมชมพู
ณ โรงอาหาร
“หวัดดีอัณณ์” เค้กทักแล้วกวักมือเรียกผมไปนั่งด้วย
“หวัดดีเค้ก หวัดดีน้องชมพู”
“เฮ้ย! เรียกเค้าว่าขิงดีกว่านะ” ขิงบอกผมในขณะที่คนที่นั่งหัวโต๊ะอีกคนกำลังหัวเราะ
“ลืมแนะนำ อัณณ์นี่เพียร์ เพียร์นี่อัณณ์” เค้กพูดขึ้น ผมมองไปทางเพียร์ นี่มันคนที่มองผมตอนนั้นนี่นา
“หวัดดีเพียร์”
“อืม...สวัสดี” เพียร์ยิ้มให้ผม แต่รอยยิ้มนั่นมัน...ทำไมผมถึงรู้สึกว่ามันเป็นรอยยิ้มของเธอคนนั้น(ในฝัน)ของผมนะ
ผมคุยจ้อกับเค้กและขิง ส่วนเพียร์ก็นั่งฟังเฉยๆ เพียร์ไม่ค่อยพูดเลย ถ้าให้เพียร์กับมิกซ์อยู่ด้วยกัน ไม่รู้ว่าจะคุยกันกี่คำ
“เมื่อคืนนี้เค้าฝันเห็นงูด้วยล่ะ” เค้กเปิดประเด็นใหม่
“ว้าว! แกจะได้เจอเนื้อคู่รึเปล่าวะเค้ก” ดูขิงตื่นเต้นกว่าเค้กอีก
“งูอะไรล่ะ” อยู่ดีๆเพียร์ก็พูดขึ้น
“งูเหลือมนี่แหละ” เค้กพูด
“งูเหลือมตัวใหญ่อยู่นิ่งๆ ไม่ได้เข้ามาทำร้ายแกใช่ไหม” เพียร์ยังคงถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“แกรู้ได้ไง” ไม่ใช่แค่เค้กหรอก ผมและขิงก็สงสัยเหมือนกัน
“ก็ไม่ได้รู้หรอก แต่ถ้าฝันแบบนั้นมันหมายถึงเจ้าที่ ไม่ใช่เนื้อคู่หรอกนะ” ผมอึ้งนิดๆนะ
ลักษณะท่าทางของเพียร์เหมือนมิกซ์มากเลย นี่เป็นเหตุผลที่เค้กเป็นเพื่อนกับเพียร์รึเปล่านะ
“ฮ่าๆๆ เสียใจด้วยนะเค้ก” ขิงหัวเราะร่วน ทำเอาเค้กงอนเดินไปคุยกับเพื่อนโต๊ะอื่นเลย
“ถึงจะเจอเนื้อคู่ตอนนี้ เค้กมันก็คงไม่มองเขาหรอก” เพียร์พูดขึ้นทำให้ขิงหยุดหัวเราะทันที
“เค้กมีแฟนแล้วเหรอ” ขิงถาม
“ยังนี่” ผมตอบ
“แต่เอาหัวใจให้คนคนนั้นไปแล้ว” เพียร์พูดพร้อมกับมองหน้าผม นี่เพียร์รู้เรื่องนั้นแล้วเหรอ
“ขิงกับเพียร์เคยฝันถึงใครก็ไม่รู้ไหม” ผมถามเพื่อกลบเกลื่อน แต่ก็ทำให้เพียร์ตาโตขึ้นมาทันที
“เคยสิ/เคย” ขิงกับเพียร์ตอบพร้อมกัน
“ฝันเห็นคนคนเดียวกันติดต่อกันหลายๆครั้งรึเปล่า” ผมถามแล้วก็หันไปมองเพียร์ เห็นเพียร์พยักหน้า
“ใช่ๆ คือว่าเค้าฝันเห็น...” ขิงได้โอกาสพูดต่อ ผมก็ฟังและสวนไปบ้าง แต่ผมอยากรู้เรื่องของเพียร์มากกว่า
“เพียร์ๆ” มีผู้หญิงกลุ่มหนึ่งกวักมือเรียกเพียร์
“ขอตัวนะอัณณ์ เดี๋ยวมานะ น้องขิงสีชมพู” เพียร์พูดแล้วรีบวิ่งไปทันที ปล่อยให้ขิงงอนกับฉายาที่ได้รับต่อไป ส่วนผมเองก็เริ่มง่วงแล้วขอไปนอนอีกแป๊บแล้วค่อยว่ากันนะครับ
ผมไม่รู้หรอกนะว่าความจริงมันคืออะไร เพียร์จะเป็นคนในความฝันของผมจริงๆรึเปล่า ผมพยายามมองหน้าเพียร์ทุกครั้งที่เจอกัน แต่ดูเหมือนเพียร์จะหลบหน้าผมตลอด ผมจึงไม่มีโอกาสเข้าไปคุยกับเพียร์เลย
ช่วงนี้ผมต้องไปเรียนวิชาคณะที่อีกวิทยาเขต ทำให้ได้เจอพี่เรย์ รุ่นพี่ในคณะของเค้ก พี่เขาเป็นคนหน้าตาดี อัธยาศัยดี ดีกรีเดือนคณะ ใช่แล้วครับ พี่เขาเป็นผู้ชาย พี่เขาดีกับผมมาก คอยเป็นห่วงเป็นใยผม จนบางครั้งก็ทำให้ผมลืมคนในความฝันของผมไปเลย ผมเริ่มสับสนในความรู้สึกของตนเองแล้วสิครับ
จนกระทั่งวันหนึ่ง ผม ไมค์ และมิกซ์ ไปเล่นที่ห้องเค้ก
“เฮ้ยเค้ก ได้ข่าวว่าคบกับรุ่นพี่ในคณะเหรอ” ไมค์ถาม
“อือ ข่าวไปไวเนอะ” เค้กพูดเสียงเรียบแล้วมองหน้ามิกซ์ ซึ่งมิกซ์ก็ยังคงทำหน้านิ่งเล่นเกมต่อไป
“แล้วคบกับใครอยู่ล่ะ” ผมถาม
“พี่เรย์ไง” ได้ยินแบบนี้แล้ว รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูกเลย
“แล้วจะเลิกตอนไหนล่ะ” ดูไมค์พูดสิครับ เดี๋ยวเค้กมันก็เสียใจแย่หรอก
“อัณณ์ พรุ่งนี้ว่างไหม ไปเที่ยวเป็นเพื่อนเราหน่อยนะ” เค้กเปลี่ยนเรื่องเฉยเลยนะ
และแล้วผมก็ต้องมาเที่ยวเป็นเพื่อนเค้ก แต่ว่าพี่เรย์ก็มาด้วย ผมรู้สึกอึดอัดมากเลย จนตอนเที่ยง
“เป็นไง ข้าวอร่อยไหม” พี่เรย์ถาม
“อร่อยครับ” ผมตอบ
“แน่ล่ะ สวีตกันซะ ไม่น่ามาเป็น กขค. เลย” เค้กหมายถึงผมมาเป็น กขค. ระหว่างเค้กกับพี่เรย์รึเปล่านะ
“เอาน่าเค้ก ถือซะว่า...” ยังไม่ทันที่พี่เรย์จะพูดจบ เค้กก็ทำท่าตกใจ
“อัณณ์หลบไปใต้โต๊ะก่อน” ผมทำตามที่เค้กบอก ถึงจะไม่รู้เหตุผลก็เถอะ สักพักเค้กก็บอกให้ผมกินข้าวต่อจนเสร็จ
“มีอะไรจะพูดก็รีบพูดเลยนะ เดี๋ยวผมไปดูต้นทางให้” เค้กพูดแล้วเดินออกไป
“เอ่อ...คือพี่...พี่ชอบอัณณ์นะครับ” อึ้งเลยล่ะครับ ถึงจะไม่ใช่ผู้ชายคนแรกที่มาชอบผม แต่พี่เรย์เป็นผู้ชายคนแรกที่ผม...
“แล้วเค้กล่ะครับ พี่เป็นแฟนเค้กไม่ใช่เหรอ”
“พี่เป็นแฟนกำมะลอให้เค้กน่ะ ก็เห็นว่ามีโรคจิตคอยตามเค้กอยู่ไม่ใช่เหรอ”
“อ๋อ อั่งเปาเหรอครับ ผมเข้าใจแล้ว” จริงๆอั่งเปาก็เคยตามจีบผมอยู่ระยะหนึ่งนะ น่ากลัวมากเลย
“งั้นอัณณ์จะเป็นแฟนพี่ได้ไหมครับ” เล่นถามอย่างนี้ หน้าแดงสิครับ
หลังจากที่ผมได้เป็นแฟนพี่เรย์ ผมกลับต้องเจอเพียร์บ่อยขึ้น และก็กลายเป็นผมที่เป็นฝ่ายหลบหน้าเพียร์แทน เรื่องของผมกับพี่เรย์ พ่อแม่ของเราสองคนก็รู้นะครับ โชคดีที่ท่านเข้าใจพวกเรา แต่ก็แปลกที่ผมไม่ได้ฝันเห็นผู้หญิงคนนั้นอีกเลย จนกระทั่งวันที่อารมณ์มันพาไป ผมกับพี่เรย์เป็นของกันและกันก่อนที่ผมจะเปิดเทอมปี ๒ เพียงไม่กี่วัน ผมก็ยิ่งรู้สึกผิดกับผู้หญิงในฝันของผม
พอถึงวันเปิดเทอม ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับวันรับน้องของมหาวิทยาลัย คณะผมกับคณะของพี่เรย์(ก็คณะเดียวกับเค้กนั่นแหละ)ต้องรับน้องด้วยกัน ผมได้เจอเพียร์อีกครั้ง เพียร์ผอมลงนะ ยิ่งผอมลงยิ่งเหมือนผู้หญิงในความฝันของผมเลยครับ เหมือนเพียร์อยากคุยกับผมนะ สุดท้ายเราสองคนก็ได้แต่เงียบ แต่ผมก็ยังเห็นเพียร์ยิ้มอยู่นะ ยิ้มที่ทำให้ผมรู้สึกว่าเป็นรอยยิ้มของผู้หญิงคนนั้น เธอให้อภัยผมแล้ว
ขากลับจากรับน้อง คณะผมกับเค้กได้นั่งรถคันเดียวกัน ผมกับเพียร์นั่งหลังสุดโดยมีเค้กและขิงคั่นกลาง
“ทำไมเรารู้สึกเจ็บแปลกๆ” มันรู้สึกอึดอัดในใจบอกไม่ถูก
“มันเป็นยังไง เอายาสมุนไพรไหม” ขิงเตรียมพร้อมใช้ความรู้ที่เรียนมาอย่างเต็มที่
“มันเจ็บเสียวๆ เจ็บแปลบๆ ที่ใจ” ผมบอกไปตามความรู้สึก หรือนี่เป็นความรู้สึกของเพียร์ที่ส่งมาถึงผมรึเปล่า
“หทยังพิการรึเปล่าวะ” ขิงพูดกับเค้ก “ว่าแต่เพียร์มันเป็นอะไร หทยังพิการอีกคนรึไง” ขิงพูด ทำให้ผมรู้สึกผิดอีกรอบเลย
“นั่นสิ เห็นเพียร์บ่นๆว่าอกหัก ตั้งแต่เทอมที่แล้ว แถมรู้สึกว่าจะเฮิร์ตขั้นรุนแรงก่อนรับน้องไม่กี่วันนี่เอง” เค้กรู้ละเอียดมาก เอ๊ะ! เทอมที่แล้วก็เป็นตอนที่ผมกับพี่เรย์ตกลงเป็นแฟนกัน แล้วก่อนวันรับน้องผมกับพี่เรย์ก็...
“เค้กๆ เพียร์รู้เรื่องเรากับพี่เรย์รึเปล่า” ผมกระซิบเค้ก
“คงไม่รู้หรอก เพียร์ไม่สนิทกับพี่เรย์ซะหน่อย เราเองก็ยังไม่ได้พูดเรื่องนี้กับใครเลยนะ” เค้กบอก
“เรื่องอะไรเหรอ” ดูขิงอยากรู้มากเลย
“แกจะบอกก็ได้นะ เราอนุญาต” ผมบอกกับเค้ก
“ว่าไงเพียร์ เพียร์ยังไม่บอกเค้าเลยนะว่าใครทำให้เพียร์อกหักอยู่เนี่ย” ขิงเริ่มเปลี่ยนประเด็น
“ใครว่าเราอกหัก เรากำลังคิดอยู่ว่าจะปฏิเสธใครก่อนดี ระหว่างน้องน้ำกับน้องหวาน ดันเป็นเพื่อนกันด้วยสิ” อึ้งและโล่งครับ
“แหมๆ มีผู้หญิงสองคนมาชอบเลยเหรอ” ขิงแซว
“ใครว่าผู้หญิง น้องน้ำน่ะเป็นกระเทยคิดว่าเราเป็นทอม ส่วนน้องหวานน่ะเป็นทอมคิดว่าเราเป็นดี้ โอ้ย! เครียด” คำเฉลยของเพียร์เล่นเอาเค้กกับขิงขำตลอดทางเลยครับ
“ว่าแต่ กระดาษแผ่นนั้นน่ะ เพียร์เขียนอะไรเหรอ” เพื่อนในคณะของผมถามเพียร์ ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าเขาไปรู้จักกันตอนไหน
“แปลงเพลงเจ็บแต่จบเล่นๆน่ะ ตอนนั้นอกหักอารมณ์เลยพาไป แต่ตอนนี้กลับมาปกติแล้วล่ะ” เพียร์ยิ้มให้เพื่อนคนนั้น
“เค้าขอนะ” เค้กพูดขึ้น
“เอาไปสิ ฝากเอาไปทิ้งด้วยนะ มันเพี้ยนแปลกๆน่ะ” เพียร์พูดแล้วยื่นให้ แล้วเค้กก็อ่านในใจ
“มันแปลกๆจริงๆด้วย เอาไปทิ้งเถอะ ฝากทิ้งหน่อยนะอัณณ์” แล้วเค้กก็เอากระดาษยัดใส่กระเป๋าผม
ผมเอากลับมาอ่านที่หอครับ แล้วผมก็รู้ว่า เพียร์เองก็คงฝันถึงผมเหมือนที่ผมฝันถึงเพียร์เหมือนกัน เราอยู่ในความฝันของกันและกัน แต่ในความจริง เราแทบไม่มีโอกาสได้คุยกันเลย ไม่สิ ไม่ใช่ว่าไม่มีโอกาส แต่พวกเราไม่คว้าไว้ต่างหากล่ะ จากที่คิดว่าเป็นเนื้อคู่ กลับกลายเป็นเพียงแค่คนรู้จักกันเท่านั้นเอง
“เธอเชื่อเรื่องเนื้อคู่ไหม ส่วนหนึ่งที่หาย ในชีวิตเรา
เรื่องเธอกับฉัน และเธอกับเขา แล้วใครคู่ใคร ยังไม่รู้เลย
แต่ฉันเพิ่งเข้าใจวันนี้ เรื่องของความรัก เรื่องความเสียใจ
เมื่อเธอและเขา ผูกพันหัวใจ แต่ลึกลงข้างใน เรายังฝันถึงกัน
*มันคงเป็นแค่ฝัน ความรักเธอกับฉัน อย่าให้มันทำร้ายใคร
เมื่อตอนนี้ เขาให้เธอทั้งหัวใจ ก็อย่าลังเลอีกเลย*
**เนื้อคู่ของเธอ ใช่ฉันรึเปล่า ปล่อยไป ไม่รู้ ดีกว่า
ถ้าฝันถึงกัน แล้วมันต้องทรมาน ตัดใจเถอะเรื่องเมื่อวาน ให้มันจบ**
ฉันจะเสียใจแค่ไหน แต่ก็ทนไหว เจ็บคงไม่นาน
เรื่องเธอกับฉัน เมื่อมันเปลี่ยนไป ฉันก็เข้าใจ เธอไม่ต้องกังวล (ซ้ำ *,**)
แม้ฉันจะเป็น เนื้อคู่ของเธอ ตอนนี้ก็ไม่สำคัญ
ร้อยเรียงหัวใจ เขาและเธอไว้ด้วยกัน แบบนี้ไปนานแสนนาน แค่นั้นพอ”
จะแปลกๆรึเปล่าผมไม่รู้ แต่ผมก็ต้องขอบคุณเพียร์มากเลย ว่าแต่ตอนนี้...ขอนอนอีกแป๊บแล้วค่อยว่ากันนะ
ความคิดเห็น