ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วุ่นนัก.....หลงรักคุณหนู

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอน 1 เปิดตัวหนูไวน์กับนายเบสท์

    • อัปเดตล่าสุด 3 มี.ค. 53


    "พ่อขา แม่ขา ช่วยไวน์ด้วย" เสียงลูกสาวคนเล็กของคฤหาสน์หลังงามดังลั่นตอนกลางดึก ทำให้ผู้เป็นพ่อแม่และพี่ชายต้องรีบวิ่งมาที่ห้องสีชมพูหวานแหววของผู้เป็นเจ้าของด้วยความตกใจ
    "ไวน์ เป็นอะไรลูก" แม่ครีมรีบเข้าไปกอดปลอบโยนเมื่อเห็นลูกสาวลุกขึ้นนั่งร้องไห้โฮอยู่บนเตียง ทันทีที่ผู้เป็นแม่ไปถึงเตียงสาวน้อยก็ผวาเข้ากอดแน่นผู้ชายอีกสองคนหน้าตาแตกตื่นไม่รู้จะทำอย่างไรดีเพราะน้ำตาของสาวน้อยของบ้านสะกดให้พวกเขาทำอะไรไม่ถูก ก็อย่างนี้แหละน้า พ่อกับพี่ชายแพ้น้ำตาของเจ้าตัวเล็กเป็นที่สุด
    "ไวน์ฝันร้ายค่ะ ฝันเห็นงูตัวเบ้อเริ่มเลย มันรัดไวน์จนไวน์หายใจไม่ออกเลย ไม่เอานะ ไวน์กลัวงู ฮือ ๆ ๆ ช่วยไวน์ด้วยไวน์กลัว"เสียงสะอื้นเล่าความฝันที่เจอมาให้ทุกคนได้รู้ คนเป็นแม่ได้แต่อมยิ้มกับความฝันของลูกสาว แต่พ่อกับพี่ชายยิ้มไม่ออกด้วยหรอก ยัยตัวเล็กฝันอย่างนี้ได้ไง มันเป็นลางไม่ดีสำหรับพวกเขามาก ๆ เลยทีเดียว
                “เหลวไหลน่าไวน์ ก่อนนอนเนี่ยดูหนังใช่ไหม ถึงเอาไปฝันเป็นตุเป็นตะ งูเงอที่ไหนกัน นี่มันห้องนอนนะจะมีได้ไง” พี่ชายเอ็ดด้วยเสียงหงุดหงิด ฝันอย่างนี้เขาไม่ชอบเลยจริง ๆ ให้ตายเถอะ ผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ชายจอมหวงน้องสาวที่สุดโวยวายกับน้องสาวสุดที่รักอย่างลืมตัวจนลืมไปว่าถ้าเขาดุยัยตัวเล็กของเขาทีไรเป็นได้เรื่องทุกครั้งไป แล้วครั้งนี้ก็เช่นกัน
                “พี่เบียร์ดุไวน์ ฮือ ๆ ๆ ใจร้าย ก็ไวน์กลัวนี่ ทำไมต้องมาว่าด้วยล่ะ ใจร้าย ฮือ ๆ ๆ” แล้วยัยตัวเล็กก็ร้องไม่หยุดจนพี่ชายต้องรีบเข้ามาโอ๋ทันที เพราะทนเห็นน้องสาวเสียน้ำตาไม่ได้
                “โอ๋ ๆ อย่าร้องนะ พี่ไม่ได้ดุ พี่ขอโทษก็ได้ อย่าร้องนะเด็กดีของพี่ แม่ครับช่วยหน่อยสิ ไวน์ร้องไม่หยุดเลย” พี่ชายต้องหันไปหาตัวช่วยซะแล้ว นักธุรกิจหนุ่มที่กำลังเป็นที่จับตามองของคนในวงการต้องมาหมดท่ากับสาวน้อยแค่คนเดียว ถ้าเรื่องนี้รู้ไปถึงหูคนนอกภาพลักษณ์ที่มีมาคงหมดกัน
                “เบียร์ พ่อว่าเราสองคนกลับห้องดีกว่า อยู่ไปก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก เราจะยิ่งทำให้น้องร้องหนักกว่าเดิมล่ะไม่ว่า” พ่อกลดเรียกลูกชายตัวแสบให้ออกมาโทษฐานที่ทำให้น้องร้องหนักกว่าเดิม แทนที่จะมาช่วยปลอบให้เงียบกลับทำให้ลูกสาวคนโปรดร้องไม่เลิกแทนซะนี่ เจ้าลูกคนนี้ใช้ไม่ได้เลยจริง ๆ
                “ผมก็ว่างั้นแหละพ่อ เรากลับไปนอนดีกว่า พรุ่งนี้ผมค่อยหาของขวัญมาขอโทษน้องละกัน ไม่งั้นคงงอนไปอีกหลายวัน” เมื่ออยู่ไปก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา พ่อลูกเลยกลับห้องตัวเองดีกว่า เพราะพรุ่งนี้มีงานสำคัญของบริษัทต้องไปดูความเรียบร้อยกันตั้งแต่เช้า ปล่อยหน้าที่ปลอบโยนสาวน้อยให้กับมารดาเป็นดีที่สุด ไม่ว่าเรื่องอะไรถ้าแม่ของเขาเป็นคนจัดการก็รับรองผลได้เลยว่าสำเร็จแน่นอน
                “ไม่มีอะไรแล้วนะไวน์ อย่าร้องอีกเลย ดูซิพ่อกับพี่เขาหนีกลับห้องไปแล้ว นอนต่อดีกว่านะลูก เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่สวยนะ” แม่ครีมพยายามล่อหลอกเพราะรู้ว่าลูกสาวรักสวยรักงามเป็นที่สุด ยิ่งพรุ่งนี้มีงานใหญ่ของครอบครัว ซึ่งแต่ไหนแต่ไรมาสาวน้อยคนนี้มักจะเป็นจุดเด่นเสมอ ทุกคนล้วนชื่นชมความสวยและความน่ารักของสาวน้อยคนนี้กันไม่ขาด ฉะนั้นงานพรุ่งนี้ก็เช่นกันเธอจะไม่ยอมให้ลูกสาวคนสวยตกหล่นจากมาตรฐานเด็ดขาด
                “แม่นอนกับไวน์ที่นี่นะคะ ไม่งั้นไวน์นอนไม่หลับแน่เลย แม่นอนกอดไวน์ไว้นะ ไวน์จะได้ไม่กลัวอีกไง” ลูกสาวคนเล็กช่างออดอ้อนคนนี้รู้วิธีที่จะทำให้คนอื่นปฏิเสธไม่ลง เธอใช้การอ้อนที่ใครต่อใครยอมจำนนเป็นอาวุธมาตั้งแต่เด็ก แล้วก็ไม่มีซักครั้งที่ใครจะทนได้ ต้องยอมตามใจเธอกันทุกคน คืนนั้นสองแม่ลูกเลยนอนกอดกันกลมบนเตียงนุ่มในห้องนอนสีหวานแหววหลับไปพร้อมกัน
    ไวน์ หรือ ปานหทัย ลูกสาวคนเล็กของบ้านเลิศพาณิชย์ เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศ สาวน้อยอายุยี่สิบสองปี ใกล้จบปริญญาตรีในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่นิสัยของเธอกลับยังเหมือนเป็นเด็กน้อยอยู่เลย ทำให้ที่บ้านและเพื่อนสนิทต่างเป็นห่วงนักหนาว่าเมื่อเธอเรียนจบแล้วต้องเข้ามาสู่แวดวงธุรกิจของทางบ้านจะไปรอดหรือไม่ ถึงแม้จะมีทั้งพ่อและแม่ รวมทั้งพี่ชายที่ทำตัวเหมือนพ่อคอยกางแขนปกป้องอยู่ก็ตาม แต่ในวงการธุรกิจทุกคนต่างรู้ดีว่ามีอุปสรรคมากมายซักเพียงไหน มีทั้งเล่ห์เหลี่ยมมากมายที่คนอย่างสาวน้อยไม่คุ้นเคย แล้วสาวสวยที่แสนอ่อนหวานคนนี้จะก้าวทันกับคนพวกนั้นได้อย่างไร
                คุณทรงกลดและคุณคีรีมามีลูกสาวคนนี้ห่างจากปกปักษ์ หรือ เบียร์คนพี่เกือบสิบปี ทำให้เธอเป็นดั่งแก้วตาดวงใจของคนในบ้าน ความช่างออดอ้อนของเธอทำให้ทุกคนมีรอยยิ้ม โดยเฉพาะพี่เบียร์ที่หลงสาวน้อยคนนี้มากกว่าใคร ไม่ว่ายัยตัวเล็กอยากได้อะไรก็จะหามามอบให้แทบทุกอย่าง และน้ำตาของเธอคือสิ่งที่เขาจะทนไม่ได้มากที่สุด พี่ชายคนเก่งจึงแพ้ทางสาวน้อยอยู่เสมอ
    รุ่งเช้า ครอบครัวอันแสนอบอุ่นลงมาทานอาการเช้าด้วยกันเช่นเคย และเป็นจริงดังคาด สาวน้อยของบ้านงอนพี่ชายไม่ยอมพูดด้วย โทษฐานที่มาดุเธอเมื่อคืน ไม่ว่าพี่ชายจะง้ออย่างไรเธอก็ไม่ใจอ่อน โดยที่พ่อกับแม่ก็ทำเป็นทองไม่รู้ร้อนไม่สนใจว่ายัยตัวเล็กจะแสดงอาการปั้นปึ่งกับพี่ชายขนาดไหน เพราะรู้ดีว่า พี่ชายตัวดีต้องหาทางออกจนได้แหละ แต่วันนี้เขามีงานสำคัญต้องเข้าบริษัทแต่เช้าเลยยังง้อไม่สำเร็จ แต่ไม่ต้องกลัว เขามั่นใจว่าเย็นนี้ยัยตัวเล็กต้องกลับมายิ้มหวานให้เขาเหมือนเดิมแน่ ถ้าเห็นของขวัญที่เขาจะให้
    งานสำคัญในวันนี้ คืองานเปิดตัวคอนโดหรูใจกลางเมืองที่อยู่ในย่านธุรกิจสำคัญของเมืองฟ้าอมร ด้วยคอนเซ็ปต์ที่ไม่เหมือนใครคือทุกสิ่งเป็นความลับ ขนาดช่วงก่อสร้างยังปิดกั้นอาณาเขตไม่ให้ภายนอกได้เห็น และไม่มีการโปรโมตโครงการในสื่อใด ๆ ทั้งนั้นก่อนหน้าจะแถลงข่าววันเปิดตัว ทำให้เป็นที่จับตามองกันว่าคอนโดแห่งนี้จะสร้างออกมาในรูปลักษณ์ใด บัตรเชิญมางานนี้ถูกส่งถึงแขกผู้มีเกียรติร่วมพันคนก่อนหน้าวันงานเพียงหนึ่งสัปดาห์ สถานที่จัดงานก็ไม่ใช่อื่นไกล คือ โรงแรมของครอบครัวนั่นเอง
    เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางและตรวจสอบความเรียบร้อยของงานเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว เบียร์ รีบดิ่งมายังห้างหรูชื่อดังทันที เพื่อซื้อของขวัญกลับไปง้อสาวน้อยที่บ้าน จุดหมายคือร้านเพชรร้านประจำของครอบครัว น้องของเขารักสวยรักงามเป็นชีวิตจิตใจ เครื่องประดับจึงเป็นของที่มักได้ผลเสมอเมื่อเอาไปง้อขอคืนดี เจ้าของร้านเข้ามาต้อนรับอย่างคุ้นเคยและยิ่งอมยิ้มรับกับเหตุผลที่เจ้าตัวต้องมาซื้อของชิ้นนี้ในวันที่มีงานรัดตัวอย่างเช่นวันนี้ด้วยตัวเอง เขาเลือกสร้อยคอที่มีจี้เป็นทับทิมรูปหัวใจล้อมด้วยเพชร พร้อมต่างหูที่เข้าชุดกัน เพราะรู้ว่าคืนนี้ยัยตัวเล็กใส่ชุดสีชมพูหวานสีโปรดของตัวเองไปงานแน่นอน ดังนั้นเครื่องประดับชุดนี้คงเข้ากับชุดที่เธอจะใส่ จากนั้นเขาก็รีบตรงกลับบ้านเพื่อเปลี่ยนชุดไปงานพร้อมครอบครัวทันที
    ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นขณะที่ไวน์กำลังสำรวจความเรียบร้อยและเลือกเครื่องประดับที่จะใส่ไปงานอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้ง สาวน้อยบอกเพียงว่าประตูไม่ได้ล็อคให้เข้ามาได้เลยเพราะคิดว่าเป็นสาวใช้ที่ทุกคนให้มาตาม แต่เมื่อประตูเปิดออกและเห็นว่าเป็นใคร ไวน์ก็ทำหน้าตาบึ้งตึงและไม่ยอมหันไปมองหน้าอีกเลย เบียร์ได้แต่ส่ายหน้ากับความช่างงอนของยัยตัวเล็กจึงเดินเข้ามาปะชิดตัวก่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
    “ยังไม่เสร็จอีกเหรอ พวกเราต้องรีบไปนะครับ”
    ยัยตัวเล็กก็ยังไม่ยอมตอบแถมส่งสายตาขุ่นเคืองมาให้อีกต่างหาก แปลได้ว่าเรื่องเก่ายังไม่หายงอนเลยนะอยากจะหาเรื่องใหม่อีกใช่ไหม พี่ชายเลยรีบยิ้มประจบก่อนถาม
    “ยังไม่หายโกรธพี่อีกเหรอครับ พี่บอกแล้วไงว่าขอโทษ เรามาดีกันดีกว่านะ”
    พี่เบียร์จับไหล่น้องสาวให้หันมามองหน้าแต่ยัยตัวเล็กก็ทำเมินใส่ แต่ก็ต้องรีบหันมาทันทีเมื่อเห็นกล่องกำมะหยี่สีแดงยื่นมาตรงหน้า ไม่บอกก็รู้ว่าต้องเป็นของขวัญของเธอแน่นอน ก็ทุกครั้งที่เธองอนพี่ชายทีไร ก็มักจะมีกล่องหน้าตาอย่างนี้ให้เห็นทุกทีเวลาที่พี่ชายมาง้อ
    “อะไรคะ” เธอถามตาแป๋วมองพี่ชาย ที่ตอนนี้ยิ้มได้แล้วเมื่อสาวน้อยยอมพูดด้วย
    “ของไวน์ไง พี่ให้เป็นการไถ่โทษ”
    “แล้วอะไรล่ะคะ” เธอถามด้วยความอยากรู้ แววตาเป็นประกายเจิดจ้าน่ามองกว่าตอนที่ทำหน้าบึ้งเป็นไหน ๆ
    “เปิดดูสิว่าชอบไหม” พี่เบียร์ยื่นกล่องไปให้ เธอจึงเปิดออกดูแล้วต้องร้องด้วยความดีใจเมื่อได้เห็นของที่อยู่ข้างใน
    “สวยจัง เข้ากับชุดวันนี้เลย ขอบคุณนะคะ”
    “หายโกรธพี่แล้วใช่ไหม”
    “ใครจะโกรธพี่เบียร์ที่น่ารักได้ลง ขอบคุณนะคะ” เธอยิ้มหวานให้พี่ชายก่อนที่จะเขย่งไปหอมแก้มเบา ๆ ทำให้พี่เบียร์ยิ้มอย่างดีใจที่น้องสาวผู้น่ารักของเขากลับมาแล้ว
    “พี่สวมให้ไหม” เขาถามก่อนที่จะรับสร้อยมาจากมือเธอและบรรจงสวมให้อย่างอ่อนโยน ก่อนจะหอมแก้มอย่างอดไม่อยู่ไปอีกหนึ่งฟอด ไวน์ก็ไม่ได้ว่าอะไร เธอหยิบต่างหูขึ้นมาใส่และสำรวจความเรียบร้อยอีกครั้งก่อนจะหยิบกระเป๋าแล้วคล้องแขนพี่ชายลงมาข้างล่างที่พ่อกับแม่รออยู่ก่อนหน้าแล้ว
    พอเห็นว่าพี่น้องเดินมาด้วยกันอย่างนี้ ทั้งคู่ก็รู้เลยว่านายเบียร์ง้อยัยไวน์ได้สำเร็จเหมือนเคย และต่างส่งยิ้มอย่างรู้กันว่า สร้อยคอเส้นงามที่ใส่วันนี้คงเป็นสาเหตุที่ยัยตัวเล็กยอมหายงอนแน่นอน
    งานเปิดตัวในวันนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แขกผู้มาร่วมงานนับพันคนต่างสนใจในคอนโดหรูแห่งนี้กันทั้งนั้น ต่างสอบถามรายละเอียดจากพนักงานที่เตรียมไว้ต้อนรับทุกคนผู้ที่จะมาสอบถามอย่างคล่องแคล่ว เมื่อถึงเวลาอันสมควรสไลด์เปิดตัวอย่างเป็นทางการก็ฉายขึ้นที่เวทีใหญ่ เรียกความสนใจจากทุกคนให้ติดตามได้เป็นอย่างดี เมื่อสไลด์จบลงพิธีกรของรายการก็เชิญคุณทรงกลดขึ้นไปกล่าวอะไรเล็กน้อย ก่อนที่จะเปิดแชมเปญฉลองความสำเร็จครั้งนี้อย่างยิ่งใหญ่
    ชายหนุ่มในสูทดำ รูปร่างสูงเพรียว หน้าตาดีชนิดที่สามารถเล่นเป็นพระเอกได้สบาย ๆ ยืนโดดเด่นในหมู่เพื่อนฝูงที่ไม่ได้พบหน้ากันมานานพอควร เพราะเจ้าตัวพึ่งจบโทกลับมาจากอเมริกา เขาคือทายาทห้างสรรพสินค้าหรูที่แวดวงนักธุรกิจชอบไปจับจ่ายใช้สอยนั่นเอง
    เบสท์ เป็นหนึ่ง สินเกรียงไกร หนุ่มหล่อนักเรียนนอก มาเปิดตัวในงานนี้พร้อมครอบครัวเป็นครั้งแรก หลังจากสำเร็จการศึกษากลับมาได้เพียงสัปดาห์เศษ นอกจากเป็นที่จับตามองของนักธุรกิจแล้ว เขายังเป็นที่สนใจของสาว ๆ ผู้มาร่วมงานอีกด้วย เนื่องจากนิสัยเจ้าชู้ของชายหนุ่ม ทำให้สาวคนไหนที่ได้เข้าใกล้ต่างหลงเสน่ห์ คาดว่าชายหนุ่มจะติดอันดับเพลย์บอยรูปหล่อชวนฝันของสาว ๆ ในอีกไม่นาน เพราะแค่มางานได้ไม่กี่ชั่วโมง พ่อคุณก็ไปสอยเบอร์สาว ๆ มาได้เพียบชนิดที่เพื่อน ๆ ต่างอิจฉาตาร้อนกันเป็นแถว แต่เจ้าตัวก็เพียงแค่หัวเราะเป็นเรื่องขำ ตั้งแต่เข้ามาในงานสาวที่ได้เบอร์มาแต่ละคนก็แค่จีบเล่น ๆ ยังไม่เห็นมีใครที่น่าสนใจจริง ๆ ซักคน จนกระทั่งเวลาดื่มฉลองมาถึง สายตาเขาจึงไปสะดุดกับสาวสวยชุดชมพูหวานแหววที่อยู่ข้างกายชายหนุ่มชุดขาว ซึ่งน่าจะเป็นเจ้าของงานเพราะเห็นอยู่บนเวทีพร้อมกับคุณกลดเจ้าของงานนี้
    ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนอย่างเขาจะสะดุดกับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ท่าทางอ่อนหวานปานน้ำผึ้งขนาดนั้น เพราะโดยส่วนตัวแล้วเขาว่าเขาชอบผู้หญิงที่ดูเซ็กซี่ ร้อนแรงกว่านี้มากกว่า แต่ให้ตายเหอะ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่สามารถถอนสายตามาจากสาวน้อยคนนั้นได้เลย และอาจจะเป็นเพราะเขาไม่ได้ฟังที่เพื่อนพูดเลยกระมัง เพราะเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตอบรับ ทำให้คนอื่นสังเกตเห็นว่าเขาจ้องใครอยู่
    “สนหรือไง สาวน้อยชุดชมพูคนนั้นน่ะ” เพื่อนคนหนึ่งตบไหล่เขาเบา ๆ ก่อนที่จะถามคำถามที่แทงใจเขานัก ก็เห็นอยู่แล้วยังจะมาถามให้มากเรื่องอีกทำไม
    และเมื่อเขาหันไปมองหน้าคนถามพร้อมกับหน้าเพื่อนคนอื่น ๆ เขาก็ได้เห็นรอยยิ้มขบขันกับท่าทางที่ปิดไม่มิดเอาเสียเลยของเขา
    “แล้วพวกนายรู้ไหมว่า สาวน้อยคนนั้นเป็นใคร” เมื่อปิดไม่มิดแล้ว ก็หน้าด้านถามไปเลยดีกว่า เพื่อนคนเดิมจึงสงเคราะห์ตอบให้
    “คุณหนูไวน์ ลูกสาวคนเล็กของคุณกลดเจ้าของงานนี้ไง”
    “ชื่อไวน์เหรอ อ่อน ๆ แต่ชวนให้มึนเมา ช่างเข้ากับเธอซะจริง ๆ” เขารำพันกับตัวเองแต่เสียงคงไม่เบานักเพราะเพื่อนต่างหัวเราะชอบใจก่อนที่จะมีคนแซวขึ้นมา
    “ท่าทางจะเป็นเอามากว่ะ แต่จะพูดไปแล้วก็ไม่เคยเห็นนายเป็นอย่างนี้มาก่อน เอาจริงเหรอวะ ท่าทางหน่อมแน้มไร้เดียงสาอย่างนั้นไม่ใช่สเป็คนายไม่ใช่เหรอ”
    “รสนิยมมันเปลี่ยนกันได้ แล้วหนุ่มชุดขาวนั่นใคร ดูท่าทางเป็นเจ้าข้าวเจ้าของสาวน้อยนั่นเหลือเกิน ตั้งแต่มองมานี่ยังไม่ห่างกันซักนาที” เสียงของเขาหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
    “คุณเบียร์ พี่แท้ ๆ ของคุณหนูไวน์ ได้ข่าวมาว่าหวงน้องสาวยิ่งกว่าคุณกลดคนเป็นพ่อเสียอีก เห็นหลายรายแล้วที่เข้าไปจีบคุณเธอ แต่เจอพี่ชายซัดกระเด็นออกมาทุกราย จนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ แล้วนายล่ะ กล้าพอหรือเปล่า” พวกบ่างช่างยุช่างตีได้ถูกจุดซะจริง ๆ เพราะคนอย่างเขาเป็นหนึ่ง ไม่เคยยอมใคร ก็ให้มันรู้ไปสิว่าผู้ชายที่ไม่เคยแพ้ใครอย่างเขา จะมาแพ้พี่ชายจอมหวงแค่คนเดียว
    “เอาเป็นว่า ถ้าใครแยกคุณเบียร์ออกไปได้ เบอร์สาว ๆ ที่ได้มาทั้งหมด เราจะยกให้คนนั้นไปละกัน” ข้อเสนอที่ไม่น่าปฏิเสธอย่างนี้ เหล่าพวกพ้องทั้งหลายมีหรือจะไม่รีบตะครุบไว้ แต่หลายหัวย่อมดีกว่าหัวเดียว จึงตกลงไปกันทั้งทีมแล้วค่อยมาแบ่งกันทีหลังจะดีกว่า พวกเขาเลยเริ่มปฏิบัติการดึงคุณเบียร์ออกมาจากสาวน้อยคนสวยนั้นทันที ซึ่งก็สำเร็จเสียด้วยเมื่อเข้าไปพร้อมกันกลุ่มใหญ่ ทำให้เจ้าของงานไม่กล้าขอตัวออกมาก่อน จำต้องปล่อยสาวน้อยให้คลาดสายตา
    ชายหนุ่มเจ้าของแผนการรีบตรงรี่เข้าไปหาเธอทันที เพราะมีเวลาไม่มากนัก เพื่อนตัวแสบทั้งหลายจะดึงพี่ชายไว้ได้นานแค่ไหนก็ไม่รู้ ฉะนั้นต้องรีบทำคะแนนไม่อย่างนั้นจะเสียเครดิตเพลย์บอยอย่างเขาหมด

    .............................................................................................................................................................................................................

    สวัสดีค่ะเพื่อนนักอ่านทุกคน


    เรื่องนี้บางคนอาจจะเคยอ่านมาแล้วนะคะ เพราะเคยลงมารอบนึงแล้ว แต่ว่าอันนี้เป็นฉบับที่รีไรท์ค่ะ มีการเพิ่มตอนใหม่ด้วย

    อยากให้ลองอ่านกันดูนะคะ แล้วใครมีอะไรอยากจะติชมตรงไหน ก็โพสต์บอกไว้เลยค่ะ ไม่ต้องเกรงใจ


    ขอบคุณมากนะคะที่เข้ามาอ่าน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×