ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF.EXO | R U N ◇ chanbaek / kaido / hunhan

    ลำดับตอนที่ #1 : Rubble and Ruin: Chapter 1 | chanyeol x baekhyun

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.47K
      1
      25 ม.ค. 56

    rubble and ruin

    chanyeol x baekhyun / pg-15 / angst, a bit of fluff actually, flashback included

     

     

    *

     

    Chapter 1

     

    เสียงกดแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ที่คละเคล้าลงตัวไปกับเสียงบทสนทนาในเรื่องงานหรือเรื่องฉอเลาะทั่วไปบรรเลงขึ้นอย่างเช่นเคย แสงไฟสีขาวสว่างที่สอดส่องหัวมุนษย์เงินเดือนทุกคนในห้องทำหน้าที่ของมันโดยการให้ความสว่างและคอยเป็นตัวปลุกวิญญาณของใครก็ตามที่กำลังจะเข้าฌาณให้กลับคืนสู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้า ชีวิตพนักงานออฟฟิศก็มีเพียงเท่านี้… กดคีย์บอร์ด เฝ้าโทรศัพท์ กินข้าวกล่องถูกๆ ตกเย็นกลับบ้านนอน ตื่นมาก็ทำกิจวัตรที่กล่าวมาทั้งหมดนี่อีกรอบ

     

    ชีวิตของ ‘ บยอนแบคฮยอน ’ ดูผิวเผินก็ไม่ต่างอะไรจากพนักงานออฟฟิศคนอื่น ๆ แต่มีข้อแตกต่างก็ตรงที่วันแต่ละวันของเขาไม่ได้แต่งแต้มด้วยบทสนทนากับเพื่อนร่วมงานหรือกินเลี้ยงหลังเลิกงานตามประสาคนทำงาน แต่ละวัน แต่ละคืนของแบคฮยอนมีแต่งาน เงินแล้วก็งาน สำหรับชายหนุ่มหน้าตาดีผู้ครอบครองตำแหน่งพนักงานดีเด่นตลอดห้าสมัยแล้ว ในสายตาคนรอบข้าง เขาควรจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่กับหญิงสาวสวยฐานะระดับนึงได้แล้ว แต่งงานมีครอบครัวพร้อม ๆ กับการงานที่มั่นคง แต่แบคฮยอนไม่ใช่คนแบบนั้น ใบหน้าเฉยเมยยากที่จะคาดเดาอารมณ์ของเขากลายเป็นเรื่องธรรมดาของคนทั้งออฟฟิศไปเสียแล้ว บางครั้งตัวเขาเองก็รู้สึกไร้ตัวตนขนาดที่ยังดูกลมกลืนไปกับอณูอากาศที่ถูกปล่อยออกมาจากเครื่องปรับอากาศนี่ด้วยซ้ำ อีกทั้งยังมีน้อยคนนักที่จะจดจำเสียงทุ้มนุ่มขัดกับหน้าของแบคฮยอนได้

     

    ขณะนี้ผู้โชคดีที่ได้ฟังเสียงของแบคฮยอนกำลังทยอยเดินออกมาจากห้องประชุมโดยที่ชายหนุ่มเจ้าของเสียงเดินออกมาเป็นคนสุดท้าย แบคฮยอนพาร่างเพรียวบางคล้ายหญิงสาวของตนเดินผ่านสายตาของแก๊งขาเม้าธ์ประจำแผนกอย่างเพิกเฉยจนถึงจุดหมายปลายทางก่อนจะหย่อนตัวลงบนเก้าอี้หมุนแล้วตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อ

     

    “เห้ย พี่อึนมี คุณแบคฮยอนนี่ดูดี ๆ เขาก็หล่อเนาะ เดินผ่านทีนี่อย่างกะนักร้องบอยแบนด์เลยอ่ะ” เสียงแจ๋แจ้นของหญิงสาวเอ่ยขึ้นโดยที่ยังไม่ละสายตาอันเต็มไปด้วยความหลงใหลในตัวหัวหน้าแผนกของหล่อน

     

    “โอ้ย ฉันคิดมาตั้งแต่เข้าทำงานมาใหม่ ๆ แล้วย่ะ แต่ดูท่าพี่แกจะไม่เคยสนใจผู้หญิงเลยน่ะสิ วัน ๆ ทำแต่งาน อีกนิดนึงฉันว่าแต่งงานเป็นผัวเป็นเมีย อยู่กินกันกับคอมพิวเตอร์แล้วมั้ง” เจ้าของนาม ‘ อึนมี ’ ตอบกลับพร้อมทั้งเบะเรียวปากสีแดงชาดนั้นออกจากกัน

     

    “พี่ก็พูดไปนั่น เอ๊ะ หรือว่าบางทีเขาอาจจะไม่ชอบผู้หญิงก็ได้นะพี่

     

    “เออเว้ย… ก็เข้าเค้าอยู่นะ รูปร่างหน้าตาก็ดูไม่ค่อยแมนอย่างงี้… เผลอ ๆ ที่ไม่เคยไปสังสรรค์หลังเลิกงานกับพวกเราอาจเป็นเพราะไปเริงร่าที่บาร์เกย์อยู่มั้ง”

     

    เสียงระเบิดหัวเราะของเจ้าหล่อนทั้งสองดังสนั่นไปทั่วชั้น ก่อนจะหยุดลงด้วยสายตาปรามที่ถูกส่งมาจากคนถูกกล่าวถึง แบคฮยอนหันกลับไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์อีกครั้ง นิ้วเรียวบางกดกระแทงแป้นพิมพ์อย่างช่ำชอง เอกสารชิ้นแล้วชิ้นเล่าไหลออกมาจากเครื่องปริ้นท์ก่อนจะถูกจัดเก็บเข้าแฟ้มอย่างเรียบร้อยและนำไปเสนอหัวหน้าแผนก ขณะที่สมาธิของชายหนุ่มยังคงจดจ่ออยู่กับงานตรงหน้า เสียงโทรศัพท์ตั้งโต๊ะของเขาก็ดังขึ้น แบคฮยอนใช้มือว่างอีกมือทำหน้าที่ของมัน

     

    “ฮัลโหลครับ”

     

    “อ่อ แบคฮยอน ช่วยมาหาฉันที่ห้องทำงานหน่อยสิ” ชายหนุ่มตอบรับเสียงทุ้มที่เขาคุ้นเคยของหัวหน้าแผนกก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ห้องทำงานอย่างไม่รอช้า

     

    มือเรียวเคาะไปที่ประตูไม้พอเป็นมารยาทก่อนจะผลักเข้าไปเบา ๆ ร่างของชายแก่อ้วนท้วมท่าทางใจดีผู้ที่แบคฮยอนให้ความเคารพสูงสุด ทั้งยังเป็นดั่งผู้อุปการะของเขาอีกคนไม่ต่างจากคุณพ่อของเขาเอง เพราะหัวหน้าแผนกควอนนั้นเป็นน้าแท้ ๆ ของเขานั่นเอง

     

    “เอ้า นั่งก่อนสิ งานที่ฉันสั่งไปใกล้เสร็จรึยัง?”

     

    “เหลือรวบรวมรายชื่อลูกค้าอีกนิดหน่อยก็จะเสร็จแล้วล่ะครับ เอ่อ… ขอโทษนะครับ หัวหน้าแผนกเรียกผมมามีอะไรรึเปล่าครับ?”

     

    “ไอ้มีน่ะมีแน่ ไม่งั้นฉันไม่เรียกให้เข้ามาห้องทำงานฉันหรอก” หัวหน้าแผนกควอนยักไหล่ขึ้นเล็กน้อย มือเหี่ยวย่นหยิบเอาแฟ้มเอกสารปึกหนาบนโต๊ะยืนให้แก่ชายหนุ่ม

     

    “คุณเยริมกรรมการใหญ่ของบริษัทเราท่านขอฝากคนไว้ที่บริษัทน่ะ ดูท่าจะเป็นญาติฝ่ายไหนของแกก็ไม่รู้ แต่เท่าที่ฉันดูประวัติการทำงานของหมอนี่ก็ใช้ได้เลยทีเดียว ฉันอยากให้นายดูแลเขาในช่วงแรก ๆ นี่หน่อยน่ะ ทำได้ใช้มั้ยแบคฮยอน?”

     

    “ครับ” หัวหน้าแผนกควอนพยักหน้าขึ้นลงช้า ๆ แสดงความพึงพอใจแก่คำตอบของอีกฝ่ายก่อนจะเอ่ยต่อ

     

    “ฉันรู้ว่างานที่ต้องสะสางน่ะยังมีอีกเยอะ รวมไปถึงโปรเจ็คในต้นเดือนหน้านี้อีก… แต่นายเป็นพนักงานคนเดียวที่ฉันพึ่งได้จริง ๆ ไม่อีเหระเขะขะ ไม่เป็นการเป็นงานเหมือนบางคน ฉันก็ขอโทษละกันที่เอาแต่ป้อนงานให้นายไม่รู้จบ”

     

    “อย่าพูดอย่างงั้นสิครับ ผมมาที่นี่เพื่อทำงาน ไม่ใช่มานั่งตากแอร์รอรับเงินเดือน มีงานก็ให้ผมทำนั่นแหละ ถูกต้องแล้วล่ะครับ”

     

    “อืม คิดอย่างงั้นได้ก็ดี ไม่ผิดหวังจริง ๆ ที่เป็นหลานชายฉัน” ชายแก่ร่างท้วมหัวเราะออกมาอย่างปลื้มใจจนดวงตาทั้งสองข้างหยีขึ้นเป็นรูปจันทร์เสี้ยว แบคอยอนเห็นท่าทีมีความสุขของผู้เป็นน้าก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มเบา ๆ ที่มุมปาก

     

    “เดี๋ยวบ่ายสองนี้เขาจะเข้าบริษัท ฉันให้ชื่อนายกับเขาไปแล้วเดี๋ยวถ้าเลขาคิมโทรมาก็ลงไปรับเขาที่ล็อบบี้ได้เลยนะ”

     

    ชายหนุ่มพยักหน้ารับพร้อมกับลุกขึ้นโค้งลาหัวหน้าแผนกควอน อีกมือถือแฟ้มเอกสารส่วนอีกมือใช้เปิดประตูห้อง ขายาวเดินไปยังโต๊ะของตัวเองก่อนจะเริ่มสะสางงานที่ติดค้างไว้อยู่

     

    ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่ชีวิตของเขามีแต่คำว่างาน ภาระและหน้าที่อยู่เต็มสมอง มันนานมากแล้วจริง ๆ จนภาพของเขาสมัยที่ยังเป็นผู้ชายธรรมดา ๆ ที่ชีวิตของเขายังอบอวลด้วยความสุขและความรักจากใครสักคนเริ่มเลือนลางเต็มที แต่ถึงเวลาจะเจอจางมันลงสักเท่าไร มันก็ไม่เคยหายไปเลยเพียงสักเสี้ยววินาที


     

    *

     
     

    ไม่นานนักเสียงโทรศัพท์ตั้งโต๊ะของเขาก็ดังขึ้น ดวงตาหยีเล็กเหลือบมองเวลาที่หน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อเช็คเวลาตามที่นัดหมาย แบคฮยอนรับสายของเลขาคิมเพื่อตอบรับหล่อนแล้วจึงค่อยมุ่งหน้าไปยังลิฟท์ประจำชั้นเพื่อตรงไปยังล็อบบี้รับแขกชั้นล่างสุดของตึก ร่างเพียวบางเดินตรงไปที่เคาท์เตอร์ก่อนจะเอ่ยนามเรียกหญิงสาวตรงหน้า

     

    “พนักงานใหม่อยู่ไหนเหรอครับ?”

     

    “อ่อ เมื่อกี้ฉันให้เขารอคุณอยู่แถวนี้น่ะค่ะแต่เงยหน้ามามองอีกทีก็เดินไปไหนแล้วก็ไม่รู้ จะให้โทรตามมั้ยคะคุณบยอน?” ใบหน้าของหญิงสาวหันซ้ายขวาไปมาเพื่อมองหาบุคคลที่กล่าวถึง

     

    “ไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวผมรอนี่ก็ได้” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างสุภาพก่อนจะคลี่ยิ้มบาง ๆ ให้แก่หล่อน

     

    “เอ้อ แปลกจริง ๆ เขาไปไหนของเขาน่ะ…” เสียงถอนหายใจลอยออกมาตามคำพูดของหล่อน แบคฮยอนเองก็ไม่ยืนนิ่งดูดาย เขากวาดสายตาไปมาเรื่อย ๆ แม้เขาจะไม่เคยเห็น หรือแม้กระทั่งชื่อของพนักงานใหม่ที่คุณเยริมฝากฝังก็ยังไม่ทราบ เขาคิดว่าคนเรามันก็น่าจะมีคอมมอนเชนส์กันบ้าง ถ้าหากเห็นพนักงานมารอรับที่จุดนัดพบตามเวลานัด อย่างน้อยก็น่าจะเดินมาหาด้วยตนเองได้ คิดไปคิดมาเขาเองก็ไม่รู้จักชื่อของเป้าหมายที่ตัวเองกำลังตามหาด้วยซ้ำ นึกได้ดังนั้นแบคฮยอนจึงหันไปพูดกับหญิงสาว

     

    “ขอโทษนะครับคุณคิม ไม่ทราบว่าพนักงานคนใหม่นี่ชื่ออะไรเหรอครับ?”

     

    “อ่าว หัวหน้าแผนกยังไม่บอกคุณเหรอคะ?”

     

    “เอ่อ ยังครับ ผมเองก็ลืมที่จะถามท่านเหมือนกัน”

     

    “อ๋อ ฮ่า ๆ ๆ ๆ ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกค่ะ เขาชื่อ… อ๊ะ! นั่นไงคะ เขายืนอยู่ตรงนั้นหล่ะค่ะ!

     

    ชายหนุ่มหันขวับไปตามสายตาของหญิงสาวตรงหน้า ปรากฏภาพของชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง เรือนผมประกายน้ำตาลเข้มสะท้อนแสงแดดที่ลอดผ่านประตูกระจกผืนใหญ่ ผิวขาวเนียนที่ยังมีสีสันจากการบ่มแดด ใบหน้าหล่อเหลาตามฉบับผู้ชายเกาหลีแท้ ๆ และดวงตาคู่นั้นที่แม้จะมองจากระยะไกลก็ยังเห็นประกายระยิบระยับดึงดูดผู้ที่เผลอสบตา


     

    นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้เจอผู้ชายคนนี้

     
     

    นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้ชายคนนี้


     

    นานเท่าไหร่แล้วที่ความสุขของเขาคงเหลือไว้เพียงเศษฝุ่น

     

     

     

    “ชานยอล

     

     

     

    *

     

    “สวัสดีครับ ปาร์คชานยอลครับ”

     

    การที่มีสมาชิกใหม่เพิ่มเข้ามาในชั้นเรียนด้วยเหมือนจะเป็นเรื่องปกติของนักเรียนมัธยมปลาย พวกเขาต่างคิดว่ามันเลยวัยของพวกเขามาแล้วที่จะตื่นเต้นกับการได้เพื่อนใหม่ ส่วนใหญ่เพื่อนที่สนิทสนมกันอยู่ก็ต่างเป็นคนเก่าคนแก่ที่เห็นกันมาตั้งแต่เล็ก กรณีของ ‘ ปาร์คชานยอล ’ อาจจะแตกต่างกันอยู่นิดหน่อย

     

    ร่างสูงชะรูดในเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงสีดำถูกต้องตามเครื่องแบบของโรงเรียนเปล่งเสียงแนะนำตัวอย่างฉะฉาน เรียกความสนใจของนักเรียนทั้งห้องได้เป็นอย่างดี พร้อมยังฉีกยิ้มกว้างจนเห็นฟันสีขาวมุกเรียงตัวแน่นเต็มปาก ดูท่าว่ารอยยิ้มจริงใจบวกกับใบหน้าหล่อเหลาและทรงผมหยิกหยอยสีส้มคาราเมลสด ๆ ของเขาจะทำปฏิกิริยาต่อบรรดานักเรียนหญิงในห้องซะแล้ว แต่กลับได้ผลตรงกันข้ามกับนักเรียนชายทั้งห้อง

     

    รวมไปถึงกับ ‘ บยอนแบคฮยอน ‘ เองก็เช่นเดียวกัน

     

     

    “เอ้า ชานยอล เธอไปนั่งที่ตรงนู้นนะ หน้าแบคยอนน่ะ”

     

    คุณครูสาวสวยชี้นิ้วเรียวยาวของหล่อนไปที่ ๆ โต๊ะว่างข้างหน้าร่างบาง แต่ยังไม่ทันขาดคำ ชายหนุ่มเจ้าของพื้นที่ข้างหลังก็ตะโกนกลับขึ้น

     

    “โห ครูครับ ให้ไอ้ยักษ์นี่มานั่งหน้าผมแล้วผมจะมองเห็นกระดานมั้ยล่ะ?!” คิ้วทั้งคู่ขมวดเข้าหากันด้วอารมณ์คุกกรุ่นก่อนจะเบะริมฝีปากสีชมพูสดออกราวกับเด็กเล็ก ๆ

     

    “นี่บยอนแบคอยอน ระวังคำพูดคำจาหน่อยนะ! อยากโดนทำโทษหรือไงห๊า!? ชานยอล เข้าไปนั่งที่ซะ ฉันจะเริ่มสอนแล้ว” ร่างสูงโปร่งก้มหน้าตอบรับผู้เป็นครู ขายาวยืดรีบเดินฉับ ๆ ไปที่ ๆ นั่งของตน แบคฮยอนเมื่อเห็นว่าคำบ่นของตัวเองไม่ได้ผลก็ได้แต่จิ๊ปาก เก็บความหงุดหงิดไว้ในใจ ไอ้เรื่องที่เขาโดนบังนี่จริง ๆ ก็ไม่เท่าไหร่ แต่เขาหงุดหงิดที่ต้องมาโดนแย่งความนิยมจากสาว ๆ ในห้องไปนี่สิ
     

     

     

    “เอ่อ นาย แบคฮยอน” หัวหยอย ๆ ของคนตรงหน้าเริ่มขยับ ร่างสูงเอี้ยวตัวเล็กน้อยเพื่อให้เขาสามารถสบตาคนข้างหลังได้

     

    “อะไร!!?”

     

    “เอ่อ... คือ... ฉันขอโทษจริง ๆ นะที่ทำให้นายโดนครูดุ

     

    “รู้ตัวก็ดี! ทีนี้นายจะให้ฉันเรียนหนังสือได้ยัง?!” หนังสือเล่มหนาถูกวางบนโต๊ะอย่างแรง จนอีกฝ่ายสะดุ้งไปกับเสียงโครามครามนั่น

     

    “อ่อ โอเค ๆ เอ่อ... คือว่า...”

     

    “นี่ ฉันไม่มีเวลามานั่งคุยกับนายทั้งวันนะเว่ย! มีอะไรก็พูด ๆ ออกมาให้มันจบ ๆ อ้ำอึ้งอยู่ได้... เป็นโรคเอ๋อหรือไงวะ?!!

     

    ระดับความดังของเสียงของร่างบางดังขึ้นอย่างที่เจ้าตัวไม่รู้สึก จนคุณครูหยุดเขียนอะไรบางอย่างบนกระดานก่อนจะหันมาปรามเด็กหนุ่มอีกรอบ

     

    “บยอน! แบค! ฮยอน! วันนี้อยู่เย็น!!!”

     

    “ห๊า?!”

     

    เพื่อนในห้องต่างพากันหัวเราะการกระทำของร่างบาง จนคนถูกหัวเราะรู้สึกอับอายขนาดที่อยากจะหาถุงกระดาษมาคลุมหัวตัวเองเอาไว้ แต่เมื่อได้เห็นใบหน้าหงอย ๆ ของตัวต้นเหตุ ความหงุดหงิดก็เริ่มทวีคูณพันร้อยสิบเท่า

     

    “แบคฮยอน ฉันขอโทษจริง ๆ นะ ขอโทษจริง ๆ ๆ ๆ” ใบหน้าหล่อขยับขึ้นลงเพื่อไปการขอโทษ แต่นั่นกลับไม่ข่วยให้อะไรดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย ดูเหมือนเส้นความอดทนเล็ก ๆ ของร่างบางจะขาดผึงลงซะแล้ว

     

    “เลิกยุ่งกับฉันซักที!!!” เสียงแว้ดของแบคอยอนดังขึ้นท่ามกลางความเงียบสงบในห้องเรียน ทุกคนในห้องต่างหันขวับไปหาต้นเสียง

     

    .

    .

    .

     

    “บยอน!!! แบค!!! ฮยอน!!!

     
     

    *


     

     “เห้อ...”

     

    เข็มนาฬิกาค่อย ๆ เคลื่อนไปยังเลขหกช้า ๆ อันเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าการกักบริเวณยามเย็นของเขาใกล้จะสิ้นสุดแล้ว นิ้วเรียวเล็กไล้ไปตามปุ่มกดบนโทรศัพท์อย่างแม่นยำจนเกิดเสียงปิ๊บ ๆ ดังทั่วห้องก่อนจะยกขึ้นมาแนบใบหู

     

    “เซฮุน ไอ้เหี้ยฮุน มึงอยู่ไหนวะ? …เอ๊า ทำเหี้ยไรที่ห้องสมุด ไปแดกหนังสือเหรอไง? ไอ้เหี้ยแล้วก็ไม่รอกู... เออ ๆ กูกำลังจะกลับเนี่ย แม่งยัยปากเป็ดให้กูนั่งเป็นง่อยพิจารณาตัวเองในห้องถึงหกโมง โคตรซวย ...เออ อืม ๆ งั้นเจอกันที่โรงเรียนพรุ่งนี้ บายเพื่อน”

     

    เสียงกดวางสายดังขึ้นพร้อม ๆ กับเสียงขาเก้าอี้ลากพื้นกระเบื้อง กระเป๋าสีน้ำเงินกรมท่าถูกพาดไปที่ไหล่บาง แบคฮยอนสาวเท้าเดินออกจากห้องอย่างรวดเร็วโดยไม่ลืมที่จะปิดไฟ ปิดแอร์ที่ตนเองถือวิสาสะปรับอุณหภูมิให้ต่ำลงรับกับลมร้อนของฤดูร้อน

     

    ส่วนตัวแบคฮยอนไม่มีข้อกังขาใด ๆ เกี่ยวกับการทำโทษโดยการกักบริเวณหรืออะไรอยู่แล้ว คิดในแง่ดีเขาเองก็ชอบใช้เวลาอยู่กับความเงียบที่หาได้ยากนักในโรงเรียน พื้นกระเบื้องลายหินกรวดที่ถูกทารุณกรรมโดยฝีเท้านักเรียนตั้งแต่เช้าจนบ่ายป่านนี้มีเพียงเท้าคู่เล็กของร่างบางอ้อนแอ้นเท่านั้นที่ยังคงเดินเต็ดเตร่ไปมาบนชั้นอย่างไม่รีบร้อน ลมอุ่นวิ่งเข้าปะทะผิวขาวเนียนอย่างจังตามมาติด ๆ ด้วยแสงของพระอาทิตย์ยามเย็น ดวงตากลมเล็กมองไปยังทิวทัศน์ข้างนอกหน้าต่างนั่น แม้อาคารเรียนจะไม่ได้สูงขนาดที่จะมองเห็นหลังคาบ้านทุกบ้าน ดาดฟ้าตึกทุกตึกได้ แต่มันก็สูงพอที่จะสัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนในชานเมืองนี้ได้

     

    เขามองเห็นจุดเล็ก ๆ ที่คาดว่าน่าจะเป็นหัวคนเดินไปมาตามถนน จุดตรงนั้นน่าจะเป็นหัวของคุณป้าเจ้าของร้านชำ ดูท่าหล่อนกำลังจะปิดร้านซะด้วย สายตาเรียวกวาดไปรอบชุมชนที่เขาคุ้นเคยก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ประตูทางเข้าของโรงเรียน

     

    ไอ้เด็กใหม่นั่นนิ

     

    แบคฮยอนรู้สึกตัวอีกทีเมื่อเขาพาร่างทั้งร่างไปยังประตูทางเข้าของโรงเรียนอันปรากฏหุ่นของคู่อริคนใหม่ของเขา

     

    “ทำบ้าอะไรน่ะ?”

     

    ร่างทั้งร่างสะดุ้งขึ้นเมื่อเสียงแหบขัดกับใบหน้าหวานถูกเปล่งออกมา

     

    “อ้าว แบคฮยอน… คุณครูเพิ่งปล่อยเหรอ?”

     

    “เหอะ เปล่าหรอก ฉันเห็นว่ามันหกโมงตามที่เขาบอกพอดีก็เลยลงมา แล้วนายทำบ้าอะไรวะ ไม่กลับบ้านกลับช่อง”

     

    หัวหยิกหยอยก้มลงเล็กน้อยแต่รอยยิ้มแปลก ๆ นั่นยิ่งทำให้ร่างบางตรงหน้าไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่

     

    “ก็... ฉันกะจะรอนายน่ะ”

     

    แสงอาทิตย์สาดกระทบฟันซี่ขาวนั่นจนเกิดแสงวิบวับ ดวงตากลมโตที่ดูชุ่มชื้นเองก็ต้องกับแสงอาทิตย์จนเป็นประกายระยิบระยับเช่นกัน ใบหน้าของคนตรงหน้านี้ดูไม่คุ้นเคยเอาซะเลย แต่สายตาของแบคฮยอนกลับถูกตรึงขังไว่ที่คนตรงหน้าซะอย่างนั้น ไออุ่นที่แก้มทั้งสองนี่จะเกิดจากลมร้อนรอบตัวเขาหรือยังไงก็ไม่ทราบ

     

     

    ตอนนี้หน้าของเขาจะเป็นยังไงนะ? มันคงดูเอ๋อใช่มั้ย?

     

     

    “แบคฮยอน แบคฮยอน”

     

    มือหนาโบกไปมาในระยะประชิดจนสายตาของร่างบางไม่สามารถปรับโฟกัสไปที่อะไรบางอย่างที่ขยับขึ้นลงตรงหน้านี้ ในที่สุดคนตัวเล็กก็หลุดออกจากภวังค์ความคิด

     

    “นาย... ไม่สบายเหรอ? บ้านนายอยู่ไหนล่ะ เดี๋ยวฉันไปส่ง”

     

    “บบ้า ไม่จำเป็น นายกลับไปเหอะ ฉันไปละ”

     

    ยังไม่ทันที่คำพูดจะเล็ดลอดออกจากริมฝีปากหนา แบคฮยอนก็ตัดสินใจบอกลาเขาด้วยแผ่นหลังเล็กที่เดินออกไปจากที่ ๆ เขายืนอยู่อย่างรวดเร็ว

     

    เพราะอากาศร้อนหรือไง?...บ้าจริง

     

    “แบคฮยอนนา!

     

    สายลมพัดเอาเสียงทุ้มของคนอีกคนเข้ามาสู่แก้วหูของร่างบาง หัวทุยหันไปมองหาต้นเสียงช้า ๆ รอยยิ้มสดใสนั่นถูกส่งมาให้เขาอีกแล้ว แขนยาวกวาดตวัดไปมาบนอากาศราวกับเด็กเล็ก

     

     

     

    “กลับบ้านดี ๆ นะ!

     

     

     

    ริมฝีปากเรียวเล็กกระตุกยิ้มเบา ๆ อย่างที่เจ้าตัวไม่รู้สึกด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังทำอะไร บยอนแบคฮยอนกลับถึงบ้านด้วยอารมณ์ที่แปลกไปจากทุกวันและตัวเลขบนหน้าปัดบอกอุณภูมิแอร์คอนดิชันเนอร์ที่ถูกปรับจนต่ำสุดเพราะเกรงว่าที่อุณหภูมิของร่างกายสูงขนาดนี้อาจเป็นเพราะเจ้าลมอุ่นที่กราดเกรี้ยวในฤดูร้อนนี่น่ะสิ แต่ในใจลึก ๆ แบคฮยอนเองก็คิดสงสัยว่าเพียงเพราะลมแค่นั้นน่ะเหรอที่ทำให้ตัวเขาร้อนจี๋ขนาดนี้

     

     

    น่าจะเป็นเพราะอย่างอื่นมากกว่า…




     background music  : i hate you (니가 싫어) / urban zakapa


     

    สวัสดีค่ะ ไรท์เตอร์ ' ตูน ' เองน้าヽ(๏∀๏ )ノ
    นี่เป็นช็อตฟิคเอ็กโซและการนำมาลงในเด็กดีครั้งแรกของไรท์เตอร์
    ผิดพลาดประการใดก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ อ่านเสร็จแล้วอย่าลืมเม้นกับโหวตด้วยนะ 


    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ ⊙▽⊙

     

    :)  © Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×