ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fragrance of Love รักอันตรายของคุณชายเย็นชา

    ลำดับตอนที่ #8 : Fragrance of Love :: Chapter 7 : In the morning,On this bed

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ค. 58


    B E R L I N ❀











    Chapter 7
    In the morning,On this bed

     
    THE GIRL IN : L

     아무렇지 않은 듯 웃어줘

     (อา มู รอ จี อา นึน ดึซ อู ซอ จวอ)
    ยิ้มเหมือนกับทุกอย่างเป็นไปด้วยดี

     

     

     

    Thursday

    13/11/20xx

    He’s Talk

    ฮ้าววว! -0-“ ผมหาวและบิดขี้เกียจอยู่บนเตียงหนานุ่มของยัยตัวเล็ก ก่อนที่จะพลิกตัวหันไปมองเธอ...

     

    โอ้ย! เมื่อยแขนเป็นบ้า! เมื่อคืนยัยนี่เล่นนอนทับผมทั้งตัวเลยน่ะสิ

     

    ผมมองคนตัวเล็กในอ้อมแขนเหมือนเมื่อคืนก่อนจะเอื้อมมือไปกอดเธอเอาไว้ อืม...ตัวเล็กจริงๆนั่นแหละ

     

    อื้ม... -3-”  ยัยตัวเล็กส่งเสียงครางในลำคอเล็กน้อยก่อนจะเอามือมากอดผมไว้เช่นกัน...กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มจากเสื้อเชิ้ตนักเรียนสีขาวส่งกลิ่นหอมเมื่อร่างบางขยับกายเข้ามาใกล้ผม ใบหน้าของเธอซุกอยู่ที่อกผม

     

    คงจะได้ยินเสียงหัวใจผมชัดเจนมากสินะ...ตอนนี้มันเต้นแรงมากเลยล่ะ

     

    ผมใช้นิ้วเกลี่ยเส้นผมที่ปรกหน้าของเธอไปเกี่ยวไว้ที่หู ก่อนจะแอบหอมแก้มเธอเบาๆ

     

    นานเท่าไหร่แล้วนะที่เราไม่ได้อยู่ใกล้กันขนาดนี้...

     

    ชัมจ๋า วันนี้มานอนที่บ้านเราใช่มั้ย...มาเล่นด้วยกันก่อนนะ ><’ เด็กหญิงตัวน้อยส่งเสียงเรียกเพื่อนของเธอด้วยน้ำเสียงร่าเริง

     

    ได้เลยเฟร มาเล่นกันเถอะๆเด็กชายตอบรับเพื่อนของเธอด้วยชื่อที่ย่อมาจากชื่อจริง เฟร ที่ย่อมาจาก   'เฟรแกรนซ์'   ซึ่งมีแต่เขาเท่านั้นที่เป็นคนเรียก

     

    ภาพความทรงจำของผมและเธอผุดขึ้นมาอีกครั้ง...คิดถึงจังเลยนะ

     

    เด็กๆ นอนได้แล้วนะ พรุ่งนี้จะได้ไปสวนสนุกกัน!’

     

    ค่ะแม่ / ครับน้า

     

    ผมและเธอต่างก็นอนกอดกันกลมเพราะสมัยก่อนเธอชอบบอกผมว่าเธอกลัวผีมาก...เหมือนเดิมไม่มีผิดเลยนะ...

     

    ผมนอนมองคนตัวเล็กตรงหน้าสักพักก่อนที่จะทิ้งตัวลงนอนหงายเหมือนเดิม...

     

    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด! >0<” ผมที่กำลังจะหลับตาลงกลับต้องสะดุ้งขึ้นเพราะเสียงกรีดร้องของร่างบางข้างๆตัว...

     

    อ๋อ! เมื่อคืนผมแค่ถอดเสื้อสูทตัวนอก ถอดโบที่อยู่ที่คอออก และปลดกระดุมให้เธอสองเม็ดเป็นอย่างต่ำเองนะ ไม่มีอะไรจริงๆ =__=

     

     

     

    She’s Talk

    อะ...อะไรเนี่ย?

    ฉันที่ตื่นมาในตอนเช้าก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงเดียวกับนายชังมิน...

    เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น? แล้วทำไมฉันปวดหัวได้มากมายขนาดนี้เนี่ย?

    ไม่รู้ล่ะ...ขอกรี๊ดก่อน -_-;

     

    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด! >0<”

     

    โอ้ย! อะไรของเธอเนี่ย!! คนจะหลับจะนอน

     

    นายจะมานอนที่นี่ไม่ได้นะ เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น?

     

    ไม่เกิดอะไรขึ้น

     

    ไม่เกิดอะไรขึ้นแล้วนายมานอนในห้องฉันได้ยังไง?

     

    หลังจากที่เธอเดินออกจากร้านสะดวกซื้อมาได้สองร้อยเมตรฉันก็เป็นคนอุ้มเธอเดินกลับมาที่บ้าน พาเธอขึ้นมาที่ห้อง เช็ดตัวเช็ดผมให้ เปิดแอร์ห่มผ้าให้ ฉันก็แค่เหนื่อย เลยทิ้งตัวลงนอนเนี่ย! ฉันจะนอนต่อได้ยัง?

     

    อะไรนะ? เช็ดตัว? แล้วเอ่อ..?

     

    อะไรอีก?

     

    นายได้...เอ่อ...

     

    เอ่ออะไร?

     

    นายได้ถอดชุดฉันไปมั้ย? -///-” ฉันถามด้วยเสียงที่แผ่วเบาราวกับจะกระซิบ หมอนั่นได้แต่นิ่งไปนิดๆก่อนจะใช้ความคิด...เรื่องแบบนี้มันต้องคิดด้วยหรอวะ?

     

    ...

     

    ว่าไง? ฉันถามด้วยน้ำเสียงที่เบากว่าเดิม

     

    ถอด...ร่างสูงพึมพำคำตอบออกมาเบาๆ ฉันเลยพอจะเดาได้ว่าอะไรเป็นอะไร -///-

     

    เอ่อ...แล้วถอดหมดเลยมั้ย?

     

    ถอด...ซะที่ไหนกันเล่ายัยบ๊อง! ก็ถอดเท่าที่เห็นเนี่ยแหละ ไม่ได้ถอดอะไรมากกว่านั้น ฉันเพลียมาก อีกอย่างเธอก็ไม่มีอะไรที่น่าดูให้ดูซักหน่อย!”

     

    หนอยยยยยย!

     

    ไม่มี!

     

    ไม่มี!!

     

    ไม่มีหรอย๊าาาาา!!!

     

    ย้ากกกกกกกก!!!” ฉันที่เตรียมยกหมัดขึ้นเสยกลับต้องชะงักเมื่อร่างสูงกลับดึงผ้าห่มมาคลุมโปงซะอย่างนั้น

     

    ฮึ่ย! ฝากไว้ก่อนเหอะตาบ้า!!

     

    ภาพความทรงจำเมื่อคืนแวบขึ้นมาในหัวฉัน...

    เมื่อคืนเราเดินกลับบ้าน...

    เมื่อคืนฉันดื่มโชจูเกือบหมดขวด...

    เมื่อคืนนายชังมินหอมแก้มและจูบฉัน...

    เอ๊ะ! มีประโยคอะไรแปลกๆมั้ย?

     

    เฮ้ย! นาย!!”

     

    อะไรอีกเล่า!” คนในผ้าห่มโผล่หัวขึ้นมาพร้อมสีหน้าที่บ่งบอกความไม่พึงพอใจอย่างสุดขีดเนื่องจากฉันไปรบกวนเวลานอนของเขา

     

    เมื่อคืน...เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า?

     

    อะไรอีก? เกิดอะไรของเธอ?

     

    เมื่อคืน...หน้าร้านสะดวกซื้อ...นายจูบฉันรึเปล่า?

     

    ...

     

    “…”

     

    เปล่า...เธอคิดไปเองป้ะเนี่ย หรือฝัน? อย่างฉันเนี่ยนะจะกล้าจูบเธอ ไม่มีทางอ่ะ

     

    ฉันขยี้หัวตัวเองอย่างเซ็งจิต สงสัยฉันคงฝันไป ฝันประหลาดใช้ได้เลยแฮะ!

     

    อ้อ! ยาแก้แฮงค์ตั้งอยู่บนโต๊ะหัวเตียงข้างๆเธออ่ะ กินซะด้วย

     

    ฉันพยักหน้ารับรู้ ก่อนที่จะนึกย้อนไปในความคิดอีกครั้ง... แล้วสัมผัสที่ฉันรู้สึกเมื่อคืนล่ะ?

     

    ในฝันไม่น่าจะมีเอฟเฟคเสมือนจริงขนาดนั้นนะ...หรือเดี๋ยวนี้ความฝันมันพัฒนาแล้ววะ?

     

    ฉันเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวในห้องน้ำก่อนจะเดินออกมาอีกครั้ง...นายชังมินลุกไปแล้วแฮะ

     

     

    ฉันลงไปกินข้าวพร้อมกับครอบครัวนายชังมินอีกครั้ง ก่อนจะไปตกลงเรื่องโรงเรียนกับซูจี(ตอนนี้ฉันเรียกชื่อนี้แล้วเพราะเธอไม่มีอะไรต้องปิดบังอีก)เรียบร้อย เธอบอกกับฉันว่าจะพยายามไปโรงเรียนกับฉัน ให้ส่งใบสมัครไปได้เลย

     

    ฉันมาถึงโรงเรียนอีกครั้ง...เมื่อคืนดูท่าทางฉันจะแฮงค์หนักไปหน่อย ยัยเจสส์เลยถามฉันด้วยคำถามประหลาดๆที่ฉันก็ยังงงว่ายัยนี่รู้ได้ยังไง

     

    นี่ยัยฟิน...แกไปดื่มโชจูมาใช่มะ? รู้ทั้งรู้ว่าแกคออ่อนกับโชจูมากแล้วยังจะไปดื่มมันอีก ตาคล้ำเชียว

     

    และเมื่อยัยเจสส์ทักอย่างนั้น ฉันเลยรีบบึ่งไปที่ห้องน้ำพร้อมกับเพื่อนตัวแสบทันที

     

    ขอบตาฉันคล้ำจริงๆอ่ะแก T0T”

     

    อ่าห้ะ เล่ามาเดี๋ยวนี้เลยนะว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ฉันรอแกทักมาตั้งนานไม่ทักมาซักที นึกว่าไหลตายไปแล้ว!”

     

    นี่หรือเพื่อนฉัน...

     

    ฉันเดินออกจากห้องน้ำเพื่อไปที่ตู้ล็อคเกอร์ ระหว่างที่เดินไปฉันจึงเล่าเรื่องให้เธอฟังทั้งหมดก่อนที่จะถอนหายใจอย่างปลงๆ ฉันเล่าเรื่องราวในฝันให้ฟังด้วย ดูเหมือนเธอจะขำนิดๆ

     

    นี่ยัยบ๊อง! ไม่มีหรอกนะความฝันที่มันมีเอฟเฟคเสมือนจริงน่ะ...ในเมื่อเมื่อคืนแกไปที่หน้าร้านสะดวกซื้อนั่นจริง มันก็ต้องเกิดขึ้นจริงสิ...มีใครบ้างที่ดื่มเสร็จแล้วจู่ๆก็หลับไปทันทีน่ะ ไม่เคยมี!” ยัยเจสส์พูดเสร็จก็ยื่นมือมาเขกหัวฉันเบาๆ

     

    โอ้ย! เขกหัวฉันทำไมเล่า เจ็บนะ

     

    เผื่อจะนึกได้ว่าเมื่อคืนไม่ใช่ความฝัน...เธอคิสๆกับนายชังมินแล้วจริงๆ

     

    เจ้าตัวก็บอกว่าฉันฝัน ไม่ก็เพ้อเจ้อไปเองนะ ไม่น่าจะใช่ความจริงหรอก

     

    เออ! แกจะไม่เชื่อฉันก็แล้วไป แต่ฉันขอบอกว่านายชังมินอะไรนั่นน่ะ โกหกแกแน่นอน

     

    ฉันเดินคุยกับยัยเจสส์ไปเรื่อยๆจนมาถึงล็อคเกอร์เก็บของตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ หน้าล็อคเกอร์นั้นมีเด็กนักเรียนมารุมอยู่กันเต็มไปหมด เมื่อฉันเดินมาทุกคนก็พากันหลีกทางออกจากล็อคเกอร์นั้นทันที

     

    นี่! เกิดอะไรขึ้นน่ะ?ยัยเจสส์ถามคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆเธอ

     

    มีอะไรอยู่ในล็อคเกอร์เธอไม่รู้อ่ะฟิน กลิ่นมันเหม็นมาก เหมือนหนูตายอ่ะ!”

     

    หนูตายหรอ? มีใครมาแกล้งแกรึเปล่าเนี่ย?

     

    ลางสังหรณ์ของฉันรู้สึกแปลกๆพิกล ฉันรู้สึกว่ามันจะไม่ใช่แค่การแกล้ง แต่มันเป็นการข่มขู่...

     

    ฉันตัดสินใจเปิดล็อคเกอร์ของตัวเองออกมาก่อนจะพบว่ามีกล่องของขวัญสีชมพูกล่องหนึ่งถูกผูกไว้ด้วยโบสีแดงสด ฉันหยิบมันขึ้นมาก่อนจะเริ่มแกะโบที่ผูกอยู่ให้หลุดออก...

     

    ฉันเปิดฝามันออกมา...และฉันก็ต้องช็อคและเผลอทำกล่องนั้นหล่นลงพื้นตั้งแต่เมื่อไหรไม่รู้ มืออีกข้างยังจับฝากล่องไว้มั่น ข้างในนั้นระบุข้อความเป็นตัวอักษรสีแดงที่เป็นสีคล้ายๆเลือด

     

    กรี๊ดดดดดด!!!” เพื่อนๆที่ยืนอยู่ใกล้ๆกันต่างส่งเสียงกรีดร้อง บ้างก็ปิดตา พวกเด็กผู้ชายก็ตกใจและช่วยกันยืนบังไปตามๆกัน

     

    ฉันจะให้เธอเสวยสุขได้ซักพัก...อีกไม่นานก็จะครบกำหนดวันเกิดใหม่ของเธอแล้ว 10ปีแล้วสินะ ฉันรอมันมานานมาก อีกสองเดือนเท่านั้น... ของขวัญชิ้นนี้ฉันส่งไปรอความตายให้เธอล่วงหน้า ขอให้มีความสุข

    รอนับวันตายของเธอไว้ได้เลย!

    KDH.’

    ภายในกล่องใบนั้นบรรจุซากหนูตายอย่างที่เพื่อนคนนั้นได้บอกจริงๆ ต่างกันแค่ที่ว่ามันถูกสับหรือฉีกจนเละไม่มีชิ้นดี

     

    น้ำตาฉันหยดลงพื้นทีละหยด...สองหยด... หยดแล้วหยดเล่าไม่จบไม่สิ้น เสียงกรีดร้องเริ่มหายไป ผู้มาเยือนคนใหม่ได้เข้ามาแทน...

     

    หลบไปนะ!” นายชังมินวิ่งเข้ามาประคองหน้าฉัน เป็นอะไรไป...อย่าร้องไห้สิ

     

    มะ...มัน...มัน...ยัยเจสส์ที่ยืนอยู่และเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างเข้ามาปลอบฉันอีกแรง ดูแล้วว่าน่าจะเป็นเด็กผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ช็อคไปแต่ไม่ได้กรี๊ด

     

    แก...ไหวมั้ย? ออกไปกับฉันก่อนเหอะ

     

    ฝากด้วยนะ

     

    นายน่ะจัดการทางนี้เลย...เพื่อนฉัน ฉันดูแลได้!”

     

    อืม…”

     

    ฉันหันไปมองนายชังมินอีกครั้งก่อนที่จะเดินไปที่สวนพร้อมกับยัยเจสส์ เธอคงอยากให้ฉันสงบสติอารมณ์ซักหน่อย

     

    แกโอเคมั้ย?

     

    ไม่...ไม่เลย...ไม่โอเคเลย...ไม่โอเคเลยแกน้ำตาฉันพรั่งพรูลงมาอย่างไม่ขาดสาย...ฉันกลัวสิ่งที่เรียกว่าความตาย เพราะฉันเคยเห็นมันมาก่อน ฉันเคยเห็นคนตายมาก่อน...

     

    ภาพความทรงจำย้อนเข้ามาในสมอง...

     

    ปัง!

     

    แกสมควรตายแล้ว แกทำให้ลูกสาวฉันต้องเจ็บปวด แกต้องชดใช้

     

    ขอร้อง...อย่าทำผมเลย ผมผิดไปแล้ว อย่าฆ่าผมเลย

     

    ชายคนนั้นหันหลังให้ผู้ร้องขอชีวิต ชายผู้รอดชีวิตกลับมายิ้มอีกครั้ง ชายที่ถือปืนคนนั้นหันกลับมาอีกครั้งก่อนที่จะรัวปืนใส่ไม่ยั้ง...

     

    อย่าดีใจไปหน่อยเลย...แกทำให้พวกเราต้องเดือดร้อนมากพอแล้ว ถึงคราวที่แกต้องชดใช้!’

     

    พ่อ!!!!! ม่ายยยยยยยยยยยยย!!!!!’

     

    ปังๆๆๆๆ

     

    โอ้ย! โอ้ยย!!” ฉันยกมือทั้งสองข้างขึ้นมากุมศีรษะตัวเองเอาไว้เมื่อรู้สึกถึงอาการปวดหัวขั้นรุนแรงที่ย้อนกลับมาทำร้ายฉันอีกครั้งทั้งๆที่ไม่เกิดขึ้นเป็นเวลานาน

     

    แก...แก! แกเป็นอะไร

     

    ฉันไม่เป็นไร แค่ปวดหัวนิดหน่อย เดี๋ยวก็หาย

     

    ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไรยัยเจสส์ดึงฉันเข้าไปกอดอีกครั้ง...อ้อมกอดของคนเป็นเพื่อนมันอบอุ่นแบบนี้สินะ...ขอบใจนะแกที่อยู่เป็นเพื่อนฉัน...

     

     

    จากนี้จะมีเรื่องอะไรเลวร้ายเกิดขึ้นอีกมั้ยเนี่ย...ฉันกลัว...



     

    To be continued


     

    มุมเล็กๆของไรท์เตอร์ :
    อัพแล้ววววววว 2ตอนรวดๆ เม้นด่วนๆ ไรท์ปั่นด่วนๆจริงๆวันนี้
    ไรท์หมกอยู่หน้าจอโน้ตบุ๊คตัวเองเป็นเวลา 3 ชั่วโมงด้วยกัน
    สาเหตุ ปั่นตอน6 และตอน7 ให้พวกรีดได้อ่านกัน
    เม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์นิดนึงนะ จะร้อง เลือดตาแทบกระเด็น T^T
    แจ้งนิดนึง ไรท์จะเปิดเทอมละน้า

    จากนี้จะมาอัพบ้างไม่อัพบ้างเป็นช่วงๆ สาเหตุ ไม่ว่างสุดหัวใจ

    อีไรท์อยากเรียนหมอเลยต้องตั้งใจเป็นพิเศษ

    ไรท์เพิ่งขึ้นม.3เองค่า เลยต้องเรียนเยอะ เตรียมสอบเข้าอีก

    ชีวิตรันทด T___T

    ไว้เจอกันได้นะคะ ทวงได้ ไม่ว่ากัน

    รักรีดที่เม้นและรีดที่ซุ่มอ่านสุดหัวใจ

    ไรท์อู้งาน


     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×