คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Fragrance of Love :: Chapter 6 : In The Dark
In The Dark
착하게 사랑한 죄 나쁜 이별에 아파야 알죠
(ชักฮาเก ซารังฮัน ชเว นาปึน อีบยอลเร อาพายา อัลจโย)
ความผิดบาปของความรัก เราจะรู้เมื่อตอนจบ
-โรงหนัง HK Cinema-
“…”
“…”
“เรื่องนี้อ่ะนะที่นายอยากดู” ฉันชี้ไปที่โปสเตอร์ที่ติดอยู่หน้าโรงหนังอย่างหวั่นๆ ร่างสูงข้างๆฉันพยักหน้าลงเล็กน้อยก่อนจะหันมามองหน้าฉันเพื่อหยั่งเชิงอะไรบางอย่าง...
“อย่าบอกนะว่าเธอกลัว?”
“เปล่ากลัว...ใครกลัวหนังแบบนี้กัน?” ฉันมองที่โปสเตอร์ ‘บ้านนี้...ผีจอง’ หนังเข้าใหม่ล่าสุดอีกครั้งพร้อมกลืนน้ำลายดังเอื้อก...ครั้งล่าสุดที่มาดูหนังผีกับยัยเจสส์ทำให้ฉันที่มาดูนอนไม่หลับไปสามวันสามคืนติดต่อกัน
“ไม่กลัวแล้วทำหน้าแบบนั้นทำไม? ไปๆ เข้าไปได้แล้ว”
ฉันทำท่าไม่ยอมที่จะเข้าในโรงหนัง...ก็ตอนที่เขาซื้อตั๋วเขาไม่ได้บอกฉันนี่ว่าจะดูเรื่องนี้!
เมื่อเขาเห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนปนกับหน้าตาที่หวาดกลัวสุดขีดของฉันเขาก็มาคว้าข้อมือฉันเอาไว้และกึ่งดึงกึ่งลากให้เข้าโรงหนังไปด้วยกัน
ระหว่างที่เริ่มโฆษณา...ฉันก็เปิดบทสนทนาเรื่องที่ค้างไว้เมื่อซักครู่ทันทีเพราะคิดว่าหลังจากจบหนังเรื่องนี้แล้วฉันอาจจะไม่มีชีวิตรอดมาเล่าให้หมอนี่ฟังก็เป็นไปได้
“นี่นาย”
เขาหันมายักคิ้วให้ฉันอีกครั้งเพื่อเป็นสัญญาณว่าว่าไงตามฉบับของเขา
ฉันหยิบกระดาษใบหนึ่งขึ้นมาจากกระเป๋ากระโปรงและคลี่มันออกมาให้ร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆได้อ่าน ทันทีที่อ่านจบตาของเขาก็เบิกกว้าง
“จากนี้เธอต้องอยู่กับฉันตลอดเวลาแล้วนะ เข้าใจมั้ย?”
“ฉันไม่เข้าใจ...”
“ส่งมาขู่กันขนาดนี้แล้วแสดงว่าเธอไม่ปลอดภัยอีกแล้วน่ะสิ”
ข้อความที่อยู่ในกระดาษที่ฉันได้มาระหว่างที่ปิดประตูห้องน้ำระบุไว้เป็นภาษาอื่นที่ฉันไม่คุ้นเคย...ร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆฉันตอนนี้อ่านพินิจพิจารณาทุกตัวอักษรราวกับว่าคนที่เขียนมันขึ้นมาเป็นคนที่ใกล้ตัวเขาหรือไม่ก็คนร้ายอาจจะเล่นกลโผล่ออกมาจากกระดาษใบนั้นขึ้นมาก็เป็นไปได้
“ข้อความบอกไว้ว่าไงอ่ะ...มันแปลว่าอะไรเหรอ?”
“…”
“…”
“…”
“ไม่เป็นไร...ไม่บอกตอนนี้ก็ไม่เป็นไร ดูหนังเถอะ”
หนังเริ่มดำเนินไปเรื่อยๆ...บวกกับฉันที่กลัวมากขึ้นไปเรื่อยๆ
เป็นหนังผีที่น่ากลัวที่สุดในประวัติการณ์ที่ฉันเคยดูมาเลย…
ฉันไม่รู้ว่าที่กั้นระหว่างฉันกับนายชังมินถูกยกหรือวาร์ปหายไปตั้งแต่ตอนไหน…
ฉันไม่รู้ว่าเรานั่งใกล้ชิดกันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่…
ฉันไม่รู้ว่าแขนสองข้างที่โอบรัดฉันไว้ในตอนนี้จะคลายออกหรือไม่…
และฉันไม่รู้ว่าฉันจะรอดชีวิตจากการหลับฝันร้ายในคืนนี้ได้ยังไง!
[ฮือออออออออ~ จะฆ่า...ฉันจะฆ่า!~]
บรรยากาศตอนนี้ช่างโหดร้าย ฮือออออ TOT
“นี่นายยยย หนังจะจบรึยังเนี่ยฉันหลอนไปหมดแล้ว! T^T”
“ยังเลย...นี่! เงยหน้าขึ้นมาสิ ไม่เห็นน่ากลัวเลย” ฉันเผลอเงยหน้าขึ้นตามที่ร่างสูงกระซิบ บนจอฉายในตอนนี้ปรากฏภาพของผู้หญิงที่มีผมปิดหน้าและเลือดเต็มตัวกำลังคลานเข้ามาๆ โอ้ย! ดูแบบธรรมดาไม่ได้รึไงทำไมต้องสามมิติ ฉันเริ่มไม่แน่ใจแล้วสิว่านี่มันนิยายสยองขวัญรึเปล่า T^T
ครึ่น!
กรี๊ดดดดดดดด!!!
ฟุ่บ!
ฮืออออ! ไม่น่าเงยหน้าขึ้นมาเลยจริงๆ รู้ว่าตัวเองกลัวผีแล้วยังจะดู ฉันหันไปหาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจข้างๆตัว จับเอาเสื้อสูทนักเรียนของร่างสูงไว้มั่นและถือวิสาสะดึงขึ้นมาบังหน้าทันใด ฉากเมื่อกี้มันน่ากลัวจริงๆนะ ผีโผล่มาจากซอกตึกแล้วอยู่ๆก็กระโจนขึ้นมาแปะหน้ากล้อง คนในโรงหนังส่งเสียงกรี๊ดกันไม่หยุดหย่อน แถมเสียงกรี๊ดที่เป็นเอฟเฟคในหนังทำให้มันยิ่งน่ากลัวกว่าเดิม แง!! T___T
แต่แบบนี้ก็น่ากลัวเหมือนกันแฮะ...เราสองคนในตอนนี้กอดกันตัวกลมดิ๊ก(เอ๊ะ! หรือฉันกอดเขาคนเดียว) ฉันเอาตัวซุกไปตรงแผงอกของเขา ความอบอุ่นพร้อมกลิ่นน้ำหอมจางๆจากเสื้อของเขาทำให้ฉันเคลิ้มจนแทบจะหลับ ถ้าไม่มีเสียงเอฟเฟคในหนังล่ะก็ป่านนี้ฉันคงหลับไปแล้ว -///-
ตึกตักๆ ตึกตักๆ
แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าจะมีเสียงๆหนึ่งที่ดังกว่าเสียงในหนังแล้วนะ...
ฉันรีบยกมือขึ้นมากุมหน้าอกตัวเองทันทีราวกับกลัวว่าใครจะได้ยินมันเข้า...พร้อมทั้งฟังเสียงที่ดังอยู่ใกล้ๆกับหูตัวเองไปด้วย...
เพราะเสียงหัวใจของฉันและเขามันดังออกมาจนแทบจะเป็นจังหวะเดียวกันอยู่แล้วเนี่ยสิ...
10.45pm.
หนังจบ...เราเดินกลับบ้านพร้อมกับบรรยากาศที่น่าอึดอัด หลังจากที่พวกเราเดินออกมาจากโรงหนังและตกลงว่าจะเดินกลับบ้าน...เราทั้งสองคนก็ได้แต่เงียบ ไม่ได้พูดอะไรขึ้นมาอีก
สายฝนที่สาดเทลงมาพร้อมกับความมืดมิดขณะที่พวกเราเดินกลับบ้านทำให้อากาศรอบตัวหนาวเหน็บขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้...
จะเข้าหน้าหนาวแล้วนี่เนอะ...
พวกเรามานั่งกันอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งเพื่อรอให้ฝนหยุดตก...
“นี่...ยัยบ๊อง” นายชังมินพูดขึ้นหลังจากที่ไม่ได้พูดมาตลอดทางเดิน
“หืม?”
“ฉันหิวอ่ะ” หิวแล้วมาบอกฉันทำไมเล่าตาบ้า!
“แล้วบอกทำไม?”
“ฉันจะไปซื้อราเมนจากข้างในมาให้ แค่จะถามว่ากินด้วยกันมั้ย”
“ไม่ดีกว่า...นายไปเถอะ อีกไม่นานฝนก็คงจะหยุดแล้ว”
เขาเดินหายเข้าไปในร้านสะดวกซื้อซักพักก็เดินออกมา
“อ่ะนี่”
เขายื่นบางสิ่งบางอย่างมาให้ฉันที่กำลังมองไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย
“รับไปสิ”
สิ่งที่เขายื่นมาให้คือแก้วที่มีนมสดร้อนอยู่ ฉันหันไปมองเขาอย่างไม่เข้าใจ
“จะได้สูงขึ้น...เป็นผู้หญิงไม่ควรดื่มแอลกอฮอลล์”
ฉันมองไปที่มืออีกข้างของเขา...แทนที่จะเป็นราเมน กลับกลายเป็นขวดโชจูหนึ่งขวด
“ยังเป็นเด็กอยู่ ดื่มแอลกอฮอลล์มันไม่ดีนะนาย”
“กรณีฉันเป็นข้อยกเว้น” อะไรกัน...เขาดื่มโชจู ส่วนฉันต้องมานั่งดื่มนมสดร้อนเนี่ยนะ ไม่ยุติธรรมเลย ฉันควรจะเป็นคนดื่มเพราะเฟลเรื่องที่พี่ยุนนอกใจสิ
“ไม่ยุติธรรมนี่!”
“ยุติธรรมดิ...เพราะถ้าเธอดื่มแล้วเมาขึ้นมาฉันไม่อยากแบกกลับบ้านแล้วจะทิ้งไว้ตรงนี้นะ...แต่ถ้าฉันเมาฉันว่าเธอยังแบกฉันกลับบ้านได้อยู่” ทันทีที่เขาพูดจบเขาก็กระดกโชจูขึ้นดื่มทันใด
ฉันนั่งมองนมสดร้อนที่เขาซื้อมาให้ก่อนที่จะดื่มมันลงคอตามไปเหมือนกัน
ความหนาวเหน็บที่รู้สึกได้เมื่อกี้เริ่มหายไป...ฉันหันไปหาร่างสูงข้างๆฉันที่ตอนนี้กำลังมองไปบนถนนข้างหน้าอีกครั้ง สายตาของเขาบ่งบอกว่ากำลังท้อกับอะไรบางอย่างที่ฉันไม่สามารถทราบได้
เขาคิดอะไรอยู่นะ? เรื่องเกี่ยวกับที่ฉันโดนข้อความขู่นั่นรึเปล่า?
“นาย...เรื่องน้องสาวนายน่ะ เดี๋ยวฉันจะลองคุยกับเขาดูนะ ฉันจะอ้างว่าให้ไปช่วยในชมรมของฉันที่โรงเรียน แล้วฉันก็จะยื่นใบสมัครนักเรียนที่โรงเรียนให้หลังจากนั้นก็จะให้แสดงละครเวทีคริสมาสต์นี้”
“อืม...”
“คิดอะไรอยู่รึเปล่า”
“เปล่า...”
“ฉันไม่เชื่อนายเลย”
“จากนี้เธอต้องอยู่กับฉันตลอดนะ...เข้าใจมั้ย”
อะไรกัน...ฉันอยากจะรู้แล้วสิว่าในกระดาษใบนั้นเขียนไว้ว่ายังไง
“อืม...”
ฉันตอบแค่นั้นแล้วก็หันไปหาร่างสูง มองมือข้างที่ถือขวดโชจูที่มีอยู่เกือบเต็มขวดนิ่งๆ ก่อนจะแย่งมันมาจากมือเขาได้สำเร็จ ในเมื่อเขาอยากจะเมา ฉันก็จะเมาเป็นเพื่อนเขาเอง! อีกอย่าง ถ้าเมาแล้วอาจจะลืมเรื่องดูหนังผีไปเลยก็ได้!
“เฮ้ย! เธอดื่มรวดเดียวเยอะไปแล้วนั่นน่ะ พอแล้วๆ” ฉันไม่ได้ฟังเสียงของร่างสูงที่ตะโกนขึ้นและกระดกโชจูขึ้นดื่มต่อไปเยอะพอสมควรจนเกือบหมดขวด...สายตาเริ่มพร่าเลือน เบลอๆมองอะไรไม่ค่อยชัด อุณหภูมิร่างกายเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทราบสาเหตุ ปกติฉันไม่ใช่คนคออ่อนนะ แต่ถ้าเป็นโชจูแล้วเบลอทุกที
ฉันพยายามวางขวดโชจูลงกับพื้นให้ตรงๆก่อนจะลุกขึ้นยืนและเริ่มออกเดิน สองมือเริ่มปัดป่ายอย่างสะเปะสะปะ หน้าฉันต้องแดงมากแน่ๆ ฉันสะบัดหัวไล่ความมึนนั้นออกไป
“นี่! คออ่อนแล้วยังจะดื่มอีก...บอกแล้วไงว่าไม่ให้ดื่ม” ร่างสูงลุกขึ้นตามและรั้งข้อมือฉันไว้
“มานั่งนี่เลย มานั่งที่เดิมเลย เดี๋ยวฝนหยุดแล้วค่อยกลับบ้าน”
ฉันหันกลับมานั่งที่เดิมอย่างว่าง่าย หันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆฉันที่มองกลับมาเหมือนกัน จากนั้นฉันก็เอนไปซบกับไหล่เขาอย่างไม่รู้ตัว
“อื้อ! กลิ่นน้ำหอมนายหอมจังเลย~”
“นี่! เธอเมาแล้วนะ อย่าพูดจาเลอะเทอะน่า”
ฉันเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงอีกครั้งก่อนจะยิ้มและหัวเราะเบาๆ
“นี่นายยยยย...หน้าแดงปายโหมดแล้วน้า! เขินเหรออออ น่ารักจางงง *0*” ฉันยกสองมือขึ้นมาจับและลูบไล้ใบหน้าไปตามแก้มใสของเขาอย่างแผ่วเบา
“...”
“...”
เขาหน้าเอ๋อไปซักพักก่อนที่จะกลับมาทำสีหน้าเย็นชาตามปกติ หลังจากนั้นฉันก็นึกได้ว่าฉันไม่ควรพูดอะไรแบบนั้นออกไป เราสองคนพากันเงียบ มีแค่แสงสว่างจากหลอดไฟข้างถนนเท่านั้นที่ทำให้ยังมองเห็นว่าอะไรเป็นอะไร ฉันยังไม่เลิกกับแฟนนะ ทำตัวอย่างนี้ได้ไงเนี่ย!
เราสองคนมองหน้ากันอยู่ซักพัก...เขาอยู่ในท่าที่กำลังก้มมองลงมา ส่วนฉันก็เงยหน้าขึ้นไปมองเขา เราสองคนนั่งจ้องตากันอยู่อย่างนั้น เนิ่นนานราวกับหยุดเวลาเอาไว้...
ใบหน้าขาวใสของเขาเริ่มก้มลงต่ำและเข้าใกล้ขึ้นมาเรื่อยๆ จมูกโด่งๆของเขาฝังเข้ามาที่แก้มฉันอย่างอ่อนโยน ใบหน้าเราสองคนอยู่ใกล้กันมากจนริมฝีปากแทบจะแตะกัน พร้อมกับสติที่เริ่มเลือนหายไปทีละนิดของฉัน จากนั้นสัมผัสบางเบาก็เกิดขึ้นที่ริมฝีปากอ่อนนุ่มเพียงไม่กี่วินาทีก่อนจะผละออกไป...แค่แตะกันเบาๆเท่านั้น กลับทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงได้อย่างไม่น่าเชื่อ...
ตึกตักๆ ตึกตักๆ!
“ขอโทษ...ฉันไม่ควรทำแบบนี้”
เขาพูดขึ้นก่อนจะดันตัวฉันให้ออกห่างในระยะที่ไกลพอสมควร
“งืมๆ”
“กลับบ้านกันเถอะนะ ฝนเริ่มหายแล้วล่ะ”
“อือ!”
เขายืนขึ้นพร้อมกับฉุดฉันที่นั่งอยู่ให้ลุกขึ้นตาม แต่ร่างของฉันกลับรู้สึกหนักอึ้ง ลุกไม่ขึ้นอย่างบอกไม่ถูก จากนั้นเขาจึงฉุดให้ฉันลุกขึ้นอย่างเต็มแรง ทำให้ตัวของเขาเซถลาล้มลงไปกับพื้น ตามด้วยร่างของฉันที่ถูกฉุดขึ้นไปนอนทับเขาอย่างช่วยไม่ได้
และอีกครั้งที่ฉันได้มองหน้าเขาในระยะใกล้แบบนี้ ตาก็จะปิด สติก็เริ่มจะเลือนหาย ฉันมองหน้าร่างสูงที่อยู่ภายใต้ร่างของฉัน ก่อนที่จะดันตัวลุกขึ้น
“ขอโทษนะนายยย~”
“อืม...ไม่เป็นไร คราวนี้กลับบ้านได้แล้วนะ”
เขาจับแขนฉันไปพาดไหล่ตัวเองเอาไว้ก่อนที่จะเริ่มออกเดินและกลับบ้านไปด้วยกัน...
ให้ตาย! หัวใจที่เต้นแรงขนาดนี้จะหยุดมันยังไงดีนะ!?
-บ้านชังมิน-
11.25pm.
He’s Talk
ให้ตายเถอะ! กว่าจะมาถึงบ้านได้ผมนี่แทบจะล้มลงไปกองกับพื้น…
สาเหตุก็มาจากยัยตัวเล็กที่ผมอุ้มอยู่เนี่ยแหละ...บอกแล้วว่าไม่ให้ดื่มๆก็ยังจะดื่มโชจูนั่นเข้าไป
ผลสุดท้าย เมาแอ๋...และผมก็อดดื่มโชจู
ผมเปิดประตูบ้านเข้าไปอย่างเงียบเชียบ...ท่าทางคนในบ้านจะทยอยไปนอนกันหมดแล้ว บ้านทั้งบ้านปิดไฟมืดสนิท ผมวางร่างของยัยตัวเล็กลงบนโซฟา ก่อนจะให้เปลี่ยนท่ามาขี่หลังแทน...
ผมเริ่มย่องขึ้นไปด้านบนราวกับกลัวว่าใครในบ้านจะตื่น...ผมเปิดประตูห้องของเธอก่อนจะวางยัยตัวเล็กลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา…
ผมเดินไปเปิดไฟภายในห้อง ก่อนจะเข้าไปหยิบกะละมังใส่น้ำพร้อมผ้าสะอาดในห้องน้ำมาเช็ดตัวให้...โดนฝนแล้วอาจจะไม่สบายก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะครับ…
ผมเช็ดตัวให้เธอ เข้าไปอาบน้ำล้างตัวก่อนจะกลับมาเปิดเครื่องปรับอากาศภายในห้อง...ในห้องๆนี้เงียบสนิท แทบจะไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายใจ ผมทิ้งตัวลงนอนข้างๆเธอและมองดูคนตัวเล็กในอ้อมแขนที่กำลังหลับใหล ใช้นิ้วเกลี่ยผมที่ลงไปปิดหน้าเธออย่างแผ่วเบาราวกับว่าเธอจะตื่นขึ้นมา ก่อนที่จะยิ้มให้กับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น...
ผมชวนเธอไปดูหนัง เพื่อให้เธอคลายเครียดเรื่องแฟน แต่กลับกลายเป็นว่าเธอกลัวผีจนตัวสั่นและกอดผมแน่นไม่ยอมปล่อย เหตุการณ์นั้นทำให้ผมเขินจนแทบจะวิ่งหนีไปจากเธอถ้าไม่ติดว่าอยู่ในโรงหนังน่ะนะ
ผมชวนเธอกินราเมนหลังจากที่ชวนกันเดินกลับบ้าน แต่ที่ผมซื้อมากลับกลายเป็นนมสดร้อนๆกับโชจูหนึ่งขวด...
สาเหตุที่ผมซื้อโชจูมาเพื่อจะดื่มให้ลืมว่าเธอมีแฟนและเพิ่งได้รับความเจ็บปวดมาจากแฟนเธอนั่นแหละ...ผมไม่อยากคิดเรื่องนั้น
แต่กลับกลายเป็นว่าผมดื่มไปได้เพียงนิดเดียว คนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆก็แย่งมันไปซะก่อนที่ผมจะยกขึ้นดื่มอีกรอบ
แถมยังดื่มจนเกือบหมดไม่มีเหลือด้วยนะ...
เธอเริ่มเมา สติเริ่มเลือนหาย...เธอจับแก้มผม ลูบหน้าผม ผมนี่เขินจนตัวแทบจะระเบิด ยัยบ๊องเอ้ย! ถ้าเธอเมาแล้วยังน่ารักได้ขนาดนี้นะ...
ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอลล์(ที่มีอยู่น้อยนิด) ทำให้ผมจูบ(เบาๆจนแทบจะไม่รู้สึก)ลงบนริมฝีปากของเธอ...จากนั้นก็ผละออกอย่างรวดเร็ว คนตัวเล็กมองผมด้วยสายตาฉงนสงสัย ผมจึงพาเธอกลับบ้าน
ด้วยความที่เธอไม่ยอมลุก ผมจึงฉุดเต็มแรง จนล้มลงไปกับพื้นทั้งคู่ หัวใจผมเต้นแรงมาก หลังจากที่มันเหี่ยวเฉามานาน...
และสุดท้ายผมถึงได้พาเธอมาถึงบ้านนั่นแหละ...แต่ถ้าจะให้เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอมันก็จะเกินไป ระหว่างที่ผมพาเธอกลับมาที่บ้าน เธอไม่ค่อยเปียกเท่าไหร่เพราะผมนำเสื้อสูทนักเรียนที่ผมใส่ไว้ไปคลุมให้เธอเกือบจะมิดทั้งตัว
ผมลุกขึ้นไปนำผ้าผืนเล็กมาเช็ดผมให้เธออย่างแผ่วเบา ก่อนจะวางมันไว้ที่หัวเตียงและทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง...
คงจะไม่ว่าอะไรนะที่ผมขอนอนด้วยคืนนี้น่ะ?
ผมหยิบรีโมตมาปิดไฟห้องและยื่นมือไปปิดไฟตรงหัวเตียง ก่อนจะพูดกับคนตัวเล็กในอ้อมแขน
ท่ามกลางความมืดคืนนี้...ให้ผมอยู่เป็นเพื่อนเธอเองนะ...
“ฝันดีนะครับ...”
To be Continued
มุมเล็กๆของไรท์เตอร์ :
อ้ายยยยยย อยากมีคนเทคแคร์ ><
ชังมินนายมาเป็นแฟนฉันแทนมั้ยยยยยยย? >0<
คือจะบอกว่าแต่งไปฟินไป... รีดฟินไม่ฟินยังไงบอกเหอะ 55555 แต่ไรท์ฟิน
ชังมินได้ประโยชน์นะบทนี้ นางเอกเริ่มสับสนนนนปนระคนสงสัย(ภาษาอัลไล)
เจอกันได้พาร์ทหน้า เริ่มจะต่อกับอีกเรื่องแล้วนะหนู 55555
เม้นให้กำลังใจไรท์เตอร์ที่โคตรอู้งานหน่อยเร้วววว 5555
รักรีดเสมอ จุ้บบบบบ
ฝากอีกเรื่องด้วย พี่ยุนกับน้องเจสส์ บทสี่กำลังจะมา
เรื่องเก่ายังไม่ทันหาย เรื่องใหม่ก็เข้ามาแทรก แอ้กกกกก -*-
เรื่องนี้อัพต่อแล้ว ละเลยมากกกก 55555 ประโยคใต้เพลงบทนี้ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาบทแต่อย่างใด
เนื้อหาเพลงเลอค่ามากกกก สาระค่ะ T^T เม้นด่าให้กำลังใจอะไรก็ได้บ้างน้า เงียบเหงาสุดๆ
ไรท์แต่งสองเรื่อง ทุ่มให้กับเรื่องนู้นมากกว่า 555555
เม้นเร็วมาเร็วเด้อ! ><
วาร์ปเจสส์ยุนเหตุเกิดเมื่อลงแบนเนอร์ไม่ได้ จิ้ม
http://writer.dek-d.com/ttiadna/story/view.php?id=1340722
ความคิดเห็น