ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fragrance of Love รักอันตรายของคุณชายเย็นชา

    ลำดับตอนที่ #5 : Fragrance of Love :: Chapter 4 : I will protect you

    • อัปเดตล่าสุด 8 เม.ย. 58


    THE Free Lines ArrowINSANE









    Chapter 4

    I will protect you



    Learn from yesterday,
    live for today
    and hope for tomorrow.

    เรียนรู้จากเมื่อวาน ใช้ชีวิตอยู่กับวันนี้ และจงมีความหวังกับวันพรุ่งนี้

     




     

     

    06.00am

     

    -บ้านของนายปาร์คชังมินสุดมึน- (ฉันตั้งเองแหละ)

     

     

    "ฮ้าววววว -0-" ฉันตื่นมาและเดินออกไปที่ระเบียงเพื่อสูดอากาศที่สดชื่นยามเช้า ตอนอยู่ที่บ้านฉันทำแบบนี้ประจำ มันทำให้ฉันสดชื่นและพร้อมจะไปเรียนอย่างบอกไม่ถูก

     

     

    ฉันหมุนตัวกลับเพื่อไปเตรียมผ้าเช็ดตัวจะไปอาบน้ำแต่..

     

     

     

    "เฮ้ย! มาอีกละ มาได้ไงเนี่ยนาย!!"

     

     

     

    แล้วนายชังมินก็ชูกุญแจขึ้นอีกครั้ง.. พร้อมกับตีหน้านิ่ง ท่าเดียวกับครั้งที่แล้วเป๊ะๆแต่ครั้งนี้ใส่ชุดนอนเรียบๆสีน้ำเงิน เออว่ะค่ะ ฉันก็ลืมว่านายมีกุญแจ แต่เคาะประตูก่อนไขมั่งก็ดีนะ!

     

     

     

    "โอเค เดี๋ยวอาบน้ำแล้วจะรีบลงไปกินข้าว" และเขาก็พยักหน้าหงึกหงักราวกับจะบอกว่ารู้แล้วๆ

     

     

     

    "ฉันก็แค่ขึ้นมาดูเผื่อจะยังไม่ตื่น เธอมีเวรเช้าไม่ใช่รึไง"

     

     

     

    "ก็ใช่ ขอบใจ" ฉันยังไม่ทันพูดจบเขาก็ปิดประตูใส่หน้าฉันอย่างจัง  ท่าทางเขายังไม่ตื่นดีด้วยซ้ำ

     

     

     

    ฉันรีบอาบน้ำก่อนจะลงมากินข้าวพร้อมกับเขา คุณลุงจีซังและคุณป้ารีนะ(ลูกครึ่งญี่ปุ่นน่ะนะ)ก่อนจะไปโรงเรียนเหมือนทุกวัน  แต่มันไม่เหมือนเดิมอยู่สามอย่างคือหนึ่ง ฉันไปรถของที่บ้านนายชังมิน สอง ฉันไม่ได้ออกจากบ้านฉัน และสาม มีบอดี้การ์ดตามพวกเรามาเป็นพรวน ราวกับฉันจะกันฉันจากปาปารัชซี่ที่รุมสัมภาษณ์ตอนเดินพรมแดงรับรางวัลออสการ์ (เว่อร์)

     

     

     

    "นายอย่าบอกนะว่าพวกเขาต้องลงไปอยู่ที่โรงเรียนด้วยน่ะ?" ฉันกระซิบถามนายชังมินสุดฤทธิ์ แต่ท่าจะไม่ได้ผลเพราะคุณหยางได้ยินและตอบกลับมาอย่างสุภาพว่า "ครับ ลงครับ ปกติพวกเรามีหน้าที่ที่ต้องมาส่งอย่างเดียว แต่เพราะต้องคุ้มกันคุณหนู พวกเราจึงต้องไปอยู่ด้วย ผมจะไปอยู่กับคุณฟิน ส่วนเฟิงจะไปอยู่กับคุณชังมินนะครับ"

     

     

     

    "เอ่อ.. ไม่เป็นไรก็ได้มั้งคะ? นี่มันในโรงเรียนนะ ไม่มีใครทำอะไรหรอกค่ะ"

     

     

     

    "ไม่ได้หรอก เธอไม่รู้หรอกว่าในโรงเรียนเนี่ยแหละอาจจะมีคนแฝงตัวมาก็ได้นะ แล้วพวกเราก็ขออนุญาตทางโรงเรียนไว้แล้วด้วย" แล้วฉันก็นึกถึงเหตุการณ์ที่มีกระดาษเสียบไว้ในล็อคเกอร์ฉัน  ท่าจะจริง..

     

     

     

    "ครับ คุณชังมินพูดถูกครับ  เตรียมตัวลงจากรถด้วยนะครับ พวกเราถึงแล้ว"

     

     

     

    ในที่สุดแล้วฉันก็ปฏิเสธพวกเขาไม่ได้จนต้องเดินลงจากรถตามพวกเขาไปติดๆ

     

     

     

    และฉันก็เห็นยัยเจสส์ยืนอยู่ที่เดิม  ฉันรีบวิ่งไปหาเธอ แต่คุณหยางก็รีบวิ่งตามมาอีกคนเพราะคิดว่าฉันจะหนี

     

     

     

    "คุณจะหนีไปไหนครับ"

     

     

     

    นั่นไง! ฉันจะหนีไปไหนได้ล่ะยะ ตอนเย็นก็ต้องกลับกับพวกนายอยู่แล้วนี่!!

     

     

     

    "เปล่าค่ะ ไม่ได้หนี แค่วิ่งมาหาเพื่อน" ฉันชี้นิ้วไปทางยัยเจสส์ที่กำลังกวักมือเรียกเหมือนนางกวักอยู่หน้าตึก

     

     

     

    ฉันมองเขาด้วยสายตาที่บอกว่าให้เขาไปอยู่ที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องตามฉันหรอก  เพราะบางทีฉันก็อยากเป็นส่วนตัวบ้างอ่ะ

     

     

     

    "งั้นผมจะยืนอยู่ห่างๆนะครับ มีอะไรเรียกผมได้ตลอดนะครับ" ก็ยังดีที่เขาเข้าใจและเดินไปหลบอยู่ใต้ต้นไม้ ทำท่าทางเหมือนเด็กชายที่โดนพี่สาวด่าแล้วไม่มีที่ไปงั้นแหละ ดูดิ ยืนทำหน้าสลดเชียว แต่เขาก็เปลี่ยนสีหน้า และยังลอบมองมาทางนี้อยู่ดี

     

     

     

    ฉันว่าบางที่บอดี้การ์ดของชังมินก็เป็นคนตลก.. สีหน้าเปลี่ยนได้ทุก 3 วิ -___-;

     

     

     

    "ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ"  ฉันตะโกนให้เขาได้ยินก่อนที่ฉันจะเดินไปหายัยเจสส์และมองเธอที่ยืนทำหน้าเอ๋อๆเหวอๆ อยู่ตรงหน้าฉัน  ฉันกลั้นขำแทบไม่อยู่  หน้ายัยนี่เวลาเอ๋อแล้วตลกมากอ่ะ เหมือนกับเวลาที่เด็กจดจ่อกับอะไรสักอย่างแล้วอ้าปากหวอให้แมลงบินเข้าปากได้เป็นสิบ

     

     

     

    "อย่ามาขำนะ ฉันรู้ดีว่าเวลาฉันทำหน้าเอ๋อแล้วมันตลกอ่ะ =_= ว่าแต่เค้าเป็นใครอ่ะแก หล่อเป็นบ้า!  เมื่อวานก็มากับชังมิน วันนี้ก็มากับหมอนี่ ว่าแต่เค้าใส่สูททำไมน่ะ อากาศร้อนๆแบบเนี้ย ไม่ไหวนะ -0-"

     

     

     

    "คุณหยางอ่ะ  เค้าเป็นบอดี้การ์ดบ้านชังมิน คาดว่าพ่อให้ชังมินหาบอดี้การ์ดมาคุมฉัน นายนั่นเลยสละเค้ามาให้ฉันหนึ่งคน -__-"

     

     

     

    "ห้ะ? บอดี้การ์ด?? ไอ้ฉันน่ะก็รู้อยู่นะว่าบ้านแกทำธุรกิจร้อยล้านและพ่อแม่แกมีบอดี้การ์ดก็จริง แต่ตั้งแต่แกมาเรียนที่นี่ฉันไม่เห็นว่าพ่อแกจะให้แกมีบอดี้การ์ดพกเป็นแพ็กเกจพิเศษเลยนะ"

     

     

     

    "ก็นั่นน่ะสิ พอเป็นแบบนี้ฉันก็เลยรู้สึกเหมือนไม่เป็นส่วนตัว  พ่อฉันคงเป็นห่วงน่ะ ไปทำงานที่ไม่มีเวลาติดต่อลูกสาว  ฝากลูกสาวไว้บ้านเพื่อนยังไม่พอ ยังให้บอดี้การ์ดติดตามอีก"

     

     

     

    "แต่ว่าถ้าบอดี้การ์ดหล่อขนาดเป็นนายแบบได้อย่างนั้นนะ ฉันยอมให้ตามทั้งวันเลยอ่ะ เท้เท่ห์"

     

     

     

    "ค่ะ คุณเพื่อน  ไปเรียนกันดีกว่านะ เดี๋ยวสาย" ฉันกลอกตาแล้วยิ้มให้กับยัยเจสส์    ฉันรีบพลักหน้ายัยเจสส์ให้หันไปทางตึกเรียนอีกครั้งพร้อมทั้งดันหลังเธอให้เดินขึ้นตึกไป

     

     

     

     

     

     

     

    - ห้อง 5-2 -

     

     

    "นี่ๆ"

     

     

     

    เมื่อเข้าเรียนวิชาที่สามของช่วงเช้า นายชังมินก็เริ่มคำแรกที่พูดกันที่โรงเรียนว่า นี่ๆ พร้อมทั้งเอาดินสอมาจิ้มๆที่แขนฉันไม่หยุด แถมยังทำสีหน้าแบบออริจินัลของเขาที่ทำประจำ แบบนี้ (- -)

     

     

     

    "หืม?"

     

     

     

    "พักเที่ยงฉันไปกินข้าวด้วยได้ป่ะ?"

     

     

     

    "ห้ะ? นายจะไปทำไม ฉันไม่ให้ไปอ่ะ ได้มะ"

     

     

     

    "โถ่! เมื่อวานใครช่วยเธอไว้ห้ะ?! แค่ฉันขอเธอไปกินข้าวด้วยและกำลังจะขอให้เลี้ยงข้าวด้วยไม่ได้รึไง แล้วเรื่องน้องสาวฉันไปถึงไหนละ" เขายังตีหน้านิ่งมองมาทางฉันเหมือนเดิม แต่สายตาเขากำลังบอกว่าเขาเริ่มไม่พอใจอะไรบางอย่าง แล้วมามีหน้าให้ฉันเลี้ยงข้าวอีกแน่ะ เสียใจด้วย ฉันเอากล่องข้าวมาเองย่ะ!

     

     

     

    เออ ว่าแต่ฉันลืมเรื่องแชยอนไปเลยแฮะ! 

     

     

     

    "ไว้ฉันจะคุยให้"  ฉันพูดกับเขาพร้อมกับหันไปมองที่กระดานอีกครั้งเมื่อเห็นว่าอาจารย์มองอยู่ และก้มหัวนิดๆเชิงขอโทษที่เสียมารยาท พร้อมภาวนาไม่ให้หมอนี่ถามอะไรขึ้นมาอีก

     

     

     

    "แล้วตกลงจะให้ฉันไปกินข้าวด้วยป้ะ?" หมอนี่ถามขึ้นมาอีกจนได้ ฉันที่กำลังจะตอบว่าไม่กลับชะงักงันพร้อมกับได้ยินเสียงที่ประกาศิตมาจากหน้าห้องว่า

     

     

     

    "พวกเธอสองคนข้างหลังน่ะ คุยอะไรกันอยู่ได้!รบกวนเพื่อนที่เค้าตั้งใจเรียน  เย็นนี้เวรวันนี้ไม่ต้องทำ  ให้สองคนนี้ทำแทน เป็นบทลงโทษ เข้าใจไหม?!"

     

     

     

    "ค่ะ/ครับ" ไม่แปลกใจเลยที่คุณครูจะลงโทษโดยไม่ฟังเหตุผล ถึงฉันจะเข้ามาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนของที่นี่ได้ปีนึงแล้วกับนายชังมินที่เป็นนักเรียนใหม่ก็ยังไม่วายโดนไปด้วย ก็อย่างที่เด็กพูดกันน่ะนะ อาจารย์วิชาสังคมที่นี่ดุยิ่งกว่าอะไรดี

     

     

     

    นอกจากทำเวรเช้าแล้วฉันก็ต้องทำเวรเย็นด้วยสินะ.. เจริญมาก! ขอบคุณอย่างสุดซึ้งค่ะชังมิน!!!

     

     

     

     

     

     

     

    11.50am

     

     

      

    และแล้วก็ถึงเวลาอาหารเที่ยง ชังมินไม่ได้ตามมาอย่างที่เขาจะทำ ฉันเลยเดินมาพร้อมข้าวกล่องที่ฉันแอบเตรียมมาเองตอนเช้าตรู่ เพื่อไปกินที่สวนหลังโรงเรียน ฉันกับยัยเจสส์ชอบที่นั่นมาก มันเป็นที่ที่เรารู้จักกันครั้งแรก  ทั้งสงบเพราะไม่มีคนเพ่นพ่าน  พวกเราชอบมานั่งฟังเสียงน้ำตกที่โรงเรียนจัดไว้ มันฟังแล้วรู้สึกสบายใจดีน่ะ

     

     

     

    "เดี๋ยวยัยบ๊อง!" ฉันได้ยินเสียงนายชังมินพร้อมเสียงฝีเท้าของเขาวิ่งตามฉันมา แม้จะไม่ได้หันหลังฉันก็รู้อยู่แล้วว่าใคร  ยัยบ๊อง มีแค่ฉันกับยัยเจสส์ ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นฉัน เพราะแถวนี้ไม่มีคนแถมอยู่หลังตึกเรียนตึกใหญ่อีก

     

     

     

    "อะไร?!" ฉันหันไปมองเขา เขามองขึ้นไปบนตึกและ..

     

     

     

    "ระวัง!"

     

     

     

    ขณะที่ฉันกำลังจะถามเขาว่ามีอะไรรึเปล่า เขากลับวิ่งตรงมาทางฉันและฉุดแขนฉันจนเซไปอยู่ในอ้อมกอดเขา.. ส่วนยัยเจสส์ก็โดนฉุดแขนให้ไปยืนอยู่ด้านหลังเขาแทน

     

     

     

    เหวออออ.. แบบนี้ไม่ดีเลย หน้าฉันต้องแดงมากแน่ๆ  แดงกว่าตอนที่เขาเคยชุดฉันไปนั่งบนตักเขาคราวนั้นแน่ เขากอดฉันไว้แน่นราวกับไม่ให้หลุดไปไหน ฉันได้ยินเสียงหัวใจของเขาที่เต้นแรงมากได้อย่างชัดเจน แต่ที่ฉันจะบ้าก็คือหัวใจฉันมันก็เต้นแรงพอๆกับหัวใจของเขาเลย!

     

     

     

    ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก หลังจากที่นายชังมินฉุดฉันให้อยู่ในอ้อมกอดและฉุดยัยเจสส์ให้ไปหลบข้างหลัง ฉันก็รีบหันไปมองต้นเสียง และพบว่ามีกระถางต้นไม้สองใบหล่นแตก

     

     

     

    จุดเดียวกับที่ยัยเจสส์กับฉันยืนอยู่พอดี!

     

     

     

    "นี่! ปล่อยได้ยัง?" เขาคลายอ้อมกอดจากฉันและจับแขนฉันทั้งสองข้างเอาไว้แทน 

     

     

     

    "ฉันปล่อยเธอไว้ไม่ได้จริงๆนะเนี่ย ขนาดเธออยู่กับเพื่อน เพื่อนเธอยังเกือบโดนลูกหลงไปด้วยเลย" หน้าเขาแดงพอสมควร ไม่รู้ว่าเพราะอากาศมันร้อน ตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่ หรือเขาโกรธกันแน่ที่ไม่รู้ว่าใครทำกระถางนี่ตกลงมา

     

     

     

    "เฮ้ๆๆ  ฉันไม่เป็นไรง่ายๆหรอกน่า กระถางเมื่อกี้อาจจะวางไม่ดีแล้วหล่นลงมาเฉยๆก็ได้"  แต่ยัยเจสส์ที่หันไปมองกระถางต้นไม้อยู่ก็สมทบกับนายชังมินอีกแรง "ฉันว่าไม่น่าใช่นะแก ดูแบบนี้มันเหมือนกับว่ามีคนตั้งใจจะโยนใส่พวกเราอ่ะ ฉันโดนลอบทำร้ายบ่อย ฉันรู้ดี แล้วอีกอย่างกระถางต้นไม้ทุกต้นทุกห้องวางไว้บนตู้เก็บของหลังห้องเรียนไม่ใช่รึไง ไม่มีทางอยู่แล้วที่มันจะมาอยู่ที่หน้าต่างเองได้"

     

     

     

    ฉันหันไปมองเจสส์อีกครั้ง และเงยหน้าขึ้นไปมองห้องที่กระถางหล่นลงมา แล้วก็คิดตามเพื่อนสนิทพูด มันก็น่าจะจริง.. 

     

     

     

    "เห็นไหมเพื่อนเธอยังรู้เลย..  แล้วนี่หยางไปไหน?"

     

     

     

    "เอ่อ .. คุณหยางเค้า.."

     

     

     

    "คุณหนูครับบบบบบ!"

     

     

     

    "นั่นไง .____."

     

     

     

    "ขอโทษด้วยครับที่ไม่ได้อยู่ดูแลคุณหนู พอดีว่าคุณหนูฟินเธอบอกไว้ว่าจะไปทานข้าวที่โรงอาหารน่ะครับ ผมเลยไปรอที่นั่น แต่เฟิงไปตามผมมา เลยรู้ว่าคุณอยู่ที่นี่" คุณหยางหันมาบอกฉันแล้วก็หันไปพูดกับชังมินแทน

     

     

     

    "เธอ! เธอนี่มันแสบจริงๆเลยว่ะ" นายชังมินหันมามองหน้าฉันราวกับจะฉีกฉันเป็นชิ้นๆ ฉันเลยได้แต่ยิ้มและหัวเราะแหะๆกลับไป

     

     

     

    "เหอะน่าๆ ยัยนี่ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วน่า นายน่ะไปได้แล้วคุณปาร์ค บอดี้การ์ดเค้ารอนายอยู่ ไม่ไปกินข้าวกับเพื่อนรึไง?"

     

     

     

    ยัยเจสส์พูดขึ้นด้วยสีหน้ารำคาญเหตุการณ์ตรงหน้าเต็มที ท่าทางจะโมโหหิวน่ะนะ

     

     

     

    "ไปก็ได้   หมดพักเที่ยงแล้วก่อนกลับห้องโทรมาด้วย เดี๋ยวเดินมาหา!"

     

     

     

    แล้วนายชังมินก็เดินจรลีหนีไป

     

     

     

    "ฉันว่าบางทีนายปาร์คนี่ก็ห่วงแกเกินไปนะ นี่จะบอกอะไรให้  วันเดียวฉันก็ดูออกแล้วว่าเหมือนเขาชอบแกอ่ะ!" เป็นไปไม่ได้  เขาเจอฉันแค่ไม่กี่วันจะชอบฉันได้ยังไง อีกอย่างดูเหมือนเขาจะไม่ญาติดีกับฉันซักเท่าไหร่ (เขาชอบแกตั้งแต่เด็กแล้วย่ะ : ไรท์)

     

     

     

    "ห้ะ!? ไม่จริงหรอกน่า" ฉันรีบโบกมือพัดหน้าพัลวัน ฉันว่าฉันหน้าแดงเพราะคิดถึงเรื่องที่เขาฉุดฉันไปกอดเมื่อกี้ และหัวใจก็เต้นแรงอีกครั้ง บ้าน่า อย่าไปเขินสิ เขาก็แค่ช่วยเพราะกลัวกระถางต้นไม้หล่นใส่ ก็แค่นั้น! ทีกับคนอื่นไม่เห็นเป็นงี้เลย!!

     

     

     

    "ฉันว่าเค้าดูเหมือนพ่อฉันมากกว่า แม้แต่พ่อฉันยังไม่จูจี้จุกจิกขนาดนี้เลยนะเนี่ย" ฉันบอกยัยเจสส์

     

     

     

    "เออว่ะ ดูๆไปเค้าก็เหมือนลุงแก่ๆที่เป็นห่วงหลานมากเกินไปอ่ะนะ คิคิ" 

     

     

     

     

     

     

     

     

    หลังจากนั้นฉันก็นั่งกินข้าวอยู่กับยัยเจสส์พร้องกับคุยเรื่องต่างๆนานาไปเรื่อยๆจนกระทั่งเกือบหมดพัก ดีแล้วแหละที่ยัยเจสส์ไม่ถามเรื่องที่ฉันถูกลอบทำร้ายน่ะ พวกเราสัญญากันไว้แล้วว่าถ้ามีอะไรจะเล่าให้ฟังเอง ไม่ต้องถามกัน รอจนกว่าอีกฝ่ายพร้อมที่จะเล่า

     

     

     

    และฉันก็ยังไม่พร้อมที่จะเล่าด้วยสิ  ฉันกลัวยัยนี่เป็นห่วง..

     

     

     

    "เออแก รีบโทรหาคุณพ่อแกให้มารับได้ละ รออยู่แล้วมั้งน่ะ" ยัยเจสส์ประชดนายชังมิน

     

     

     

    "เออว่ะ ลืมเลย" ยัยเจสส์พยักหน้าและเตรียมตัวที่จะกลับไปที่ห้อง ถึงจะอยู่ห้องเดียวกันแต่พอนั่งคนละฟากของห้องเราก็เลยไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไร เจอกันก็ตอนเช้า พักเที่ยง แล้วก็เย็นเลย

     

     

     

    "ว่าแต่เสาร์นี้ว่างมะ?"

     

     

     

    "ว่างดิ วันนี้วันอังคารอยู่เลย ว่างเสมอ!"

     

     

     

    "ไปช็อปปิ้งเป็นเพื่อนหน่อยดิ  ดูหนังด้วย ไม่ได้ไปนานละ คลายเครียดหน่อยเพื่อน!"

     

     

     

    "โอเค แกค่อยโทรมานัดฉันแล้วกันนะ"

     

     

     

    "เออ ฉันอยากไปนัมซานโซลทาวเวอร์ด้วยอ่ะแก  อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วก็ยังไม่ได้ไปอ่ะ" ฉันเห็นด้วยกับยัยเจสส์นะ เพราะตั้งแต่ฉันมาที่นี่ ฉันก็ยังไม่ได้ไปที่นัมซานทาวเวอร์เลยอ่ะ

     

     

     

    "ได้ๆ ฉันโทรหาชังมินแป๊บนะ เออ เดี๋ยวไม่ต้องให้นายนั่นมารับดีกว่า แกไปที่ล็อคเกอร์เป็นเพื่อนฉันแป๊บดิ" ยัยเจสส์พยักหน้ารับรู้แล้วเราก็เดินไปที่ทางขึ้นตึกด้วยกัน

     

     

     

    "ฮัลโหล นายไม่ต้องมาหาฉันนะ ฉันว่าจะไปเอาของที่ล็อคเกอร์แป๊บนึงอ่ะ ลืมไว้  เออๆ เดี๋ยวไป คุณหยางนายก็พาเค้าไปด้วยแล้วนี่ เออ เดี๋ยวเจอกัน"

     

     

     

     

     

    หลังจากนั้นเด็กสาวสองคนก็เดินคุยกันไปและหัวเราะกันไปอย่างสนุกสนาน..

     

     

     

    โดยที่ไม่รู้ว่ามีสายตาคู่หนึ่ง มองพวกเธออยู่หลังต้นไม้ต้นใหญ่ใกล้ๆพวกเธอนี่เอง!

     

     

     

     

     

     

    ฉันเดินมาเอาหูฟังที่ลืมไว้ในล็อคเกอร์ ก่อนจะเจอกับกระดาษสีดำอีกครั้ง ยัยเจสส์ไม่ได้หันมาทางฉัน ฉันก็เลยรีบอ่านและเก็บใส่กระเป๋ากระโปรง รีบพายัยเจสส์ขึ้นไปที่ห้องเรียนทันที

     

     

     

    'ฉันมองเธออยู่ตลอดนะฟิลิเป้   เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆนะ  จำไว้ว่า ฉันมองเธออยู่ตลอด ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ฉันจะไม่ปล่อยเธอไว้เด็ดขาด

                                      KDH.'

     

     

    แม้แต่ตอนที่ฉันขี้ด้วยใช่มั้ยยย? ตอบบบบบบ! TOT (นี่หรือนางเอก =_=)

     

     

     

     

     

     

     

    ห้อง 5-2

     

     

    04.00pm

     

     

     

    "นี่นาย!"  ฉันเอาดินสอจิ้มแขนนายชังมินที่ฟุบกับโต๊ะอยู่ พลางเก็บของเตรียมจะกลับและถามเรื่องที่ฉันอยากรู้ทันที

     

     

     

    "หืม?"  เขามองมาทางฉันและทำหน้ามึน  เขามีหน้าเดียวรึไงวะเนี่ย!

     

     

     

    "นายคงรู้เรื่องกระดาษสีดำแล้วใช่ไหม?"

     

     

     

    "อืม รู้"

     

     

     

    "มันมาอยู่ในล็อคเกอร์ฉันตั้งแต่เมื่อวานแล้วอ่ะ  แล้ววันนี้มันก็มีมาอีกแผ่น"

     

     

     

    "ไหนเอามาดูดิ้"

     

     

     

    "อ่ะ" ฉันยื่นกระดาษแผ่นนั้นให้เขาดู

     

     

     

    "KDH .. อีกแล้วเหรอ?"

     

     

     

    "ฉันว่าน่าจะคนเดียวกันกับเมื่อวานนั่นแหละ"

     

     

     

    "ก็แหงสิยัยบ๊อง ถ้าไม่ใช่คนเดียวกับเมื่อวานคงลงท้ายไว้เหมือนเมื่อวานเด๊ะๆแบบนี้หรอกนะ"

     

     

     

    เออว่ะ! ลืมอีกละ =___=

     

     

     

    "ว่าแต่ ตอนที่นายสู้กับพวกนั้นนายไม่เห็นหน้าเขาเลยรึไง?"

     

     

     

    "ไม่อ่ะ มันปิดไฟ รีบชกๆให้มันจบๆไปแล้วจะได้รีบกลับ ไม่มีเวลาหารีโมตเปิดหรอก"

     

     

     

    เออ เก่งว่ะค่ะ! สู้แบบปิดไฟได้ จับสัมผัสเวลาหายใจกันรีไงวะ?

     

     

     

    "ค่อยคุยเรื่องนี้กันที่บ้านเหอะ  ขอนอนแป๊บนึง ทำเวรเสร็จแล้วเรียกด้วย"

     

     

     

    เออ แล้วก็โยนหน้าที่ทำความสะอาดมาให้ฉันอีก ขอบคุณค่ะคุณชายชังมิน !!!

     

     

     

     

     

     

     

     

    ระหว่างทางที่นั่งรถกลับบ้าน ฉันก็มองออกไปนอกหน้าต่างแล้วก็คิดว่าใครเป็นคนที่บงการเรื่องนี้ เจ้าหนี้อีกที่นึงของพ่อหรอ? เพราะคนที่บ้านนายชังมินไม่มีทางทำแน่ๆ เพราะดูจากท่าทางที่คนที่บ้านเขาดูแลฉันอย่างดี ไม่มีทางที่เขาจะให้ลูกน้องมาเจ็บตัวเพราะโดนเจ้านายชกเองหรอกน่า

     

     

    เรื่องต่อมาที่ฉันคิดก็คือเรื่องพ่อกับแม่ของฉัน  ฉันคิดถึงแม่มากเลย เพราะตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่กัน แม่ก็กลับไปกลับมาระหว่างกรุงเทพกับลอนดอนบ่อยๆเพราะต้องเจรจาธุรกิจ เลยไม่ได้เจอกันเลย ได้ข่าวอีกทีก็ตอนที่โดนจับตัวไปนั่นแหละ พ่อยังติดต่อมาบ้าง แต่แม่ไม่ได้ติดต่อมาเลย พวกท่านจะเป็นยังไงบ้างนะ?

     

     

     

     

    "เธอคิดอะไรอยู่น่ะ  เห็นมองออกไปนอกหน้าต่างนานละ?" ชังมินที่คาดว่าแอบมองมาทางฉันเป็นระยะๆถามขึ้น 

     

     

     

    "คิดหลายเรื่องอ่ะ แต่ตอนนี้ฉันคิดถึงเรื่องพ่อกับแม่ ท่านจะเป็นยังไงก็ไม่รู้"

     

     

     

    ฉันนึกถึงข้อความในจดหมายที่ขู่ว่าจะฆ่าพ่อแม่ของฉันแล้วน้ำตาก็คลอ เพราะฉันเป็นห่วงพวกท่าน ฉันเคยคิดว่าฉันจะไม่ได้อยู่กับพวกท่านอีกก็ตอน7ขวบ ใครที่เจอเหตุการณ์แบบฉันคงจะเข้าใจ

     

     

     

    ปัง!

     

     

     

    'พ่อคะ! แม่คะ!'

     

     

    ฟุ่บ! 

     

     

    'อ๊ะ!!!'  เด็กสาวตัวน้อยที่กำลังหันไปหาพ่อกับแม่กลับต้องสิ้นเสียงลงแค่นั้น  กระสุนปืนที่ฝังร่างของเธอทำให้เธอล้มลงไป ศีรษะกระแทกพื้นและไม่ได้สติ

     

     

     

    'ขอโทษนะคะที่หนูอาจจะไม่ได้อยู่กับพ่อและแม่อีก'  

     

     

     

    ความทรงจำย้อนเข้ามาในหัวฉันอีกครั้ง นั่นทำให้ฉันปวดหัว  และนั่นคือความคิดสุดท้ายที่ฉันคิดได้ก่อนที่จะหมดสติไป ฉันนึกว่าฉันจะตายแล้วซะอีก

     

     

     

    แต่ฉันก็แค่สูญเสียความทรงจำตั้งแต่เกิดไปจนหมด จำได้แค่พ่อกับแม่และเหตุการณ์ก่อนหน้าที่ฉันจะโดนยิงเท่านั้น..

     

     

     

    ย้อนมาปัจจุบัน   พ่อกับแม่ฉันเคยโดนจับตัวไปแล้วเมื่อวาน วันนี้ฉันได้จดหมายสีดำมาขู่  เหตุการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจด้วยซ้ำ แล้วพวกท่านจะมีไม่มีโอกาสที่จะถูกจับตัวไปอีกรึไง! ขนาดว่าพวกท่านมีบอดี้การ์ดส่วนตัวนะ ยังโดนจับตัวไปได้เลยดูดิ..

     

     

     

    "เฮ้ย อย่าร้องดิ!"

     

     

     

    บ้าจริง! น้ำตาฉันไหลลงมาจนได้ เพราะคิดเรื่องในอดีตแท้ๆ ฉันกำลังกลัว กลัวว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบเมื่อสิบปีก่อน ฉันอาจจะไม่ฟื้นมาเจอพ่อแม่อีกก็ได้

     

     

     

     

    "ฮือออออออ TOT" ดราม่าเฉยเลย ไม่เอาดิ ไม่ได้อยากร้องไห้ตอนนี้ พ่อกับแม่ยังไม่เป็นไรซักหน่อย ท่านแค่อาจจะอยู่ในที่ปลอดภัยที่ไหนก็ได้ที่ฉันไม่รู้อ่ะ! ร้องไห้เก่งจังเลยฉันเนี่ย T^T

     

     

     

    "ฉันคงไม่ถามเธอว่าเธอคิดอะไรอยู่หรอกถ้ารู้ว่าเธอจะร้องไห้แบบเนี้ย ฉันขอโทษ  หยุดร้องน่า ฉันไม่ชอบเวลาผู้หญิงร้องไห้นะเว้ย หยุดๆๆๆๆ!" เขาพูดพร้อมกับหันมามองหน้าฉัน 

     

     

     

    แล้วนายชังมินก็ดึงฉันเข้าไปกอดอีกครั้ง  กอดอย่างแนบแน่นพร้อมปลอบฉันและบอกกับฉันว่า พ่อกับแม่ของฉันจะไม่เป็นไร พวกท่านจะปลอดภัย เขาติดต่อกับพ่อแม่ของฉันแล้ว พวกท่านบอกว่า ไม่เป็นไร ตอนนี้แค่หนีไปอยู่ต่างจังหวัดเท่านั้น เดี๋ยวเหตุการณ์ดีขึ้นเมื่อไหร่จะกลับมาที่โซล .. 

     

     

     

    ได้ยินแค่นั้นฉันก็โอเคแล้วล่ะ แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี

     

     

     

    "เอาเหอะ! อย่าร้องไห้นะ..  จากนี้ฉันจะอยู่ข้างๆเธอ  และจะปกป้องเธอเอง"  ชังมินพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนมากจนฉันสัมผัสได้

     

     

     

     

    และนั่นคือประโยคสุดท้ายที่ฉันได้ยิน ก่อนที่ฉันจะผล็อยหลับไปในอ้อมแขนของเขา..  ซะงั้น!



     

    To be Continued


    Talk :
    เอ่าาาา เฮฮฮฮฮ  อัพให้ละนะเตงงงงง หลังจากพยายามเปลี่ยนฟ้อนต์มาชาติเศษ
    ก็เลยไม่เปลี่ยนละ เรื่องนี้เรื่องแรกที่ตั้งใจแต่ง หาธีมเองโค้ดเพลงเอง
    แต่เจือกทำฟ้อนแบบอื่นไม่เป็น เปลี่ยนแล้วไม่สวย เอาวะ ไม่ทำละ 55555
    ต่อเนื้อเรื่องงงง
    คือแบบบทนี้ไม่รู้จะจบยังไงเลยให้ฟินดราม่าคิดถึงพ่อแม่ซะงั้น 5555555
    ตอนต่อไปอยากได้แนวไหนบอก เราจะจับไปพิจารณาคดีแล้วจะลงให้ทราบโดยทั่วกัน
    คือจะบอกว่าไรท์ไม่มีโค้ดเพลงมาลงละอ่ะะะะะ หามิได้ 55555 
    ตอนหน้าเป็นยังไงยังไม่รู้ หัวสมองตีบตัน พอดีมีคนขอให้อัพก็อัพ โอเคมะล่าาาา
    คืนนี้จะปั่นอย่างด่วน อยากได้ฉากไหนเด็ดๆรีเควสมาได้ค่ะ
    ฉากที่ใช้ได้จริงนะเฟ้ยยยย
    ไปละน้าาา จุ้บบบ > <


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×