คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Fragrance of Love :: Chapter 2 : Let me go
Let me go
Sometimes, the looking is more important than the findings.
บางครั้งการมองหาก็สำคัญกว่าการค้นพบ
-หน้าโรงเรียนมัธยมเซนโช โซล-
ฉันมาถึงโรงเรียนและลงจากรถคันหรูของนายชังมิน แล้วก็ต้องรีบเดินหนีสายตาหลายๆคู่ที่กำลังมองมาทางฉันและ เขา
"นายไปหาครูที่ห้องพักครูเองได้ใช่ไหม?"
"อืม" ใบหน้าขาวๆของเขายังคงตีหน้านิ่งเหมือนเดิม คราวนี้ฉันมองเห็นหน้าเขาชัดขึ้นเพราะเมื่อเช้าตอนที่อยู่ในห้องฉันไม่ได้สังเกตเท่าไหร่เพราะห้องมันมืด
ผู้ชายคนนี้จัดว่าหน้าตาดีใช้ได้เลยนะ ใบหน้าขาวๆ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากสีชมพูอ่อน พระเจ้าสร้างเขามายังไงให้ดูดีขนาดนี้ สังเกตง่ายๆนะ ฉันใช้เกณฑ์จากคนที่มองเขาเยอะๆนั่นแหละว่าเขาดูดี
ถ้าเขาไม่หล่อ คนก็ไม่มอง จริงไหม? แต่ที่แย่คือพวกนักเรียนก็มองฉันด้วยนี่สิ ฉันเลยรีบเดินไปที่หน้าตึก
โอ้ยยย ทำไมต้องตกเป็นเป้าสายตาด้วยนะ ฉันไม่ชอบมันเอาเสียเลย..
ฉันมองไปที่หน้าตึกเรียนก่อนจะพบเพื่อนสนิทของฉัน 'เจสส์' กำลังรอฉันอยู่ตรงล็อคเกอร์หน้าบันไดขึ้นตึก
เจสส์เป็นผู้หญิงที่ถือว่าสวยมากพอสมควร เธอเป็นผู้หญิงผิวขาว รูปร่างดี ใบหน้าเหมือนลูกครึ่งญี่ปุ่น (จริงๆแล้วเธอลูกครึ่งฝรั่งเศสน่ะนะ)
ผมสีน้ำตาลยาวสลวย ดวงตาสีน้ำตาลเข้มกลมโตนั่นกำลังจ้องมองมาทางฉันอย่างกับว่ามีคำถามเยอะแยะมากมายที่จะต้องรู้วันนี้ให้ได้!
"ยัยฟิน~"เดาได้ว่าในอีก20วินาทีเจสส์จะต้องถามว่าใครมากับฉัน
ออ แน่นอนค่ะ นายชังมินเพิ่งมาเรียนที่นี่ เห็นว่าย้ายมาจากอเมริกา เรียนม.5ต่อที่นี่ แต่ไม่รู้ว่าห้องไหนเนี่ยสิปัญหา
"หืมม?"
"แกมากับใครน่ะ?" ปิ๊งป่อง! ฉันบอกผิดซะเมื่อไหร่ล่ะ
"อ๋อ คนที่.."
แล้วฉันก็ต้องชะงัก และคิดว่าควรบอกเรื่องนี้กับยัยเจสส์รึเปล่า เพราะถ้าเกิดพ่อส่งตัวฉันมาอยู่บ้านเขาแบบนี้ แน่นอน มันต้องเป็นความลับ เพราะถึงกับลักพาตัวฉันไปอยู่ ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ควรเปิดเผย
"คนที่อะไรแก..~" ยัยเจสส์ทำสีหน้าเคลิ้มฝัน
"อย่าบอกนะว่าแฟน? มีแฟนเมื่อไหร่ ทำไมไม่บอกเพื่อน แฟนหล่อขนาดนี้ เพื่อนต้องรู้สิ"
"ไม่ใช่แฟนฉัน นั่นชังมิน เค้าเป็นลูกเพื่อนพ่ออะ ช่วงนี้พ่อฉันไม่ว่างเลยฝากคนที่บ้านชังมินไปรับไปส่งทุกวันน่ะ"
"อ๋อออ นึกว่าเพื่อนมีแฟนแล้วไม่บอกเพื่อน ถ้าเพื่อนมีแล้วไม่บอกเพื่อน เพื่อนจะงอนเพื่อนรอเพื่อนมาง้อให้ตายยังไงก็ไม่คืนดีเลยนะเพื่อน" <--- ทุกคนเข้าใจยัยนี่ไหม ไม่ต้องสงสัยนะ ยัยนี่มันเพี้ยน
"อืมๆ ไว้มีแล้วจะบอกนะ "
หลังจากนั้น 20 นาที
"รีบเอาของแล้วขึ้นไปเรียนเหอะ" ฉันเปิดล็อคเกอร์ของตัวเองแล้วหยิบรองเท้าสำหรับใส่บนตึกมาใส่ หยิบหนังสือข้อสอบที่ฉันเอามาอ่านแต่ขี้เกียจเอากลับบ้านติดมาด้วย แต่เมื่อฉันจะเอารองเท้านักเรียนใส่เข้าไปในล็อคเกอร์ ฉันก็ต้องเจอกับกระดาษสีดำแผ่นนึงวางอยู่ในสุดของล็อคเกอร์
ฉันหยิบขึ้นมาดูแล้วคิดว่าจะเปิดดี หรือ ไม่เปิดดี?
"อะไรน่ะฟิน?"
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน มันมาอยู่ในล็อคเกอร์ฉันอ่ะ"
"เก็บไว้ก่อนก็ได้ ค่อยอ่านเหอะ เดี๋ยวขึ้นเรียนสายแล้วครูจะด่าเอานะ"
"อือๆ รีบไปเหอะ คาบแรกคณิตใช่มะ"
ระหว่างที่ฉันกับเจสส์เดินไปเรื่อยๆ ฉันก็คิดไปด้วยว่า กระดาษใบนั้นมันมีอะไรกันแน่ เพราะคนที่จะเปิดล็อคเกอร์ฉันได้มันต้องมีกุญแจ ไม่ก็รหัสปลดล็อค ฉันจึงตัดสินใจหยิบมันมาดู เมื่อฉันอ่านข้อความที่ปรากฏในนั้น ฉันก็รู้สึกเหมือนถูกตรึงอยู่กับที่ ไม่อยากแม้แต่จะขยับร่างกายตัวเอง
"เฮ้ยฟิน เป็นไรของแกวะ?"
"เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอก"ฉันรีบตอบไม่ให้เจสส์สงสัยอะไรอีก
'พ่อและแม่เธออยู่กับฉัน ถ้าไม่มีเงินมาให้ฉันภายใน2ทุ่มของวันนี้ พวกเขา ตาย!
The Westin Chosun ชั้น 15 หาห้องเอาเอง'
นี่มันเรื่องอะไรกันวะเนี่ย !!
ห้อง 5-2
คาบคณิตศาสตร์
คุณครูเข้ามาแล้ว แทนที่จะเป็นครูคณิตศาสตร์ กลับกลายเป็นคุณครูประจำชั้นซะอย่างนั้น
"เอาล่ะนักเรียน วันนี้ครูขอคาบครูคณิตศาสตร์ไว้ 10นาทีนะ และวันนี้ก็มีนักเรียนใหม่ย้ายมาจากอเมริกาด้วยนะจ๊ะ ขอให้ต้อนรับเพื่อนแล้วก็ดูแลเพื่อนดีๆนะ" ยะ.. อย่าบอกนะว่า..
"เข้ามาได้เลยจ้ะ"
ครืดด..
กรี๊ดดดดดดดดด~
"หล่อโฮกกอ่ะแก เค้าเป็นใครวะ?"
เพื่อนคนที่นั่งอยู่ข้างหน้าฉันหันมาถาม
"เฮ้ย ฉันว่าหน้าหมอนี่คุ้นๆว่ะ คนที่มากับเธอเมื่อเช้ารึเปล่าฟิลิเป้?"
"ห้ะ เค้ามากับเธอเมื่อเช้าหรอ เค้าคือใครอ่ะฟิน เค้าคือครายยยย?"
"เอ่อ.. คือ.."
เพื่อน2คนข้างหน้าทั้งชายและหญิงหันมาพูดกับฉันอย่างสนอกสนใจ แต่ก็โดนขัดโดยเสียงครูประจำชั้นที่แทบจะไม่ต้องตะโกนก็ได้ยินชัดมาถึงพวกเราที่นั่งอยู่ข้างหลังห้อง
"เงียบๆก่อนพวกเธอ ไหน เธอน่ะ แนะนำตัวกับเพื่อนสิ"
"ครับ สวัสดี ชื่อปาร์คชังมิน ย้ายไปเรียนอเมริกา1ปีตอนม.4 แล้วกลับมาเรียนที่นี่ ยินดีที่ได้รู้จัก"
... กา ... กา ... กา...
ทุกคนตกอยู่ในความเงียบเพราะไม่คิดว่าเขาจะแนะนำตัวสั้นๆง่ายๆได้ใจความ และ ตีหน้านิ่งแฝงความโหด เหมือนไม่พอใจอะไรซักอย่าง
"ฮ่ะๆๆ ปรบมือสิทุกคน ต้อนรับเพื่อนใหม่ไง" นายจอนจินหัวหน้าห้องยืนขึ้นแล้วบอกหันไปบอกทุกคน หลังจากนั้นก็เริ่มได้ยินเสียงปรบมือเป็นระลอก เพื่อนๆฉันคงกลัวเขาหมดแล้วมั้งเนี่ย
"พอๆๆ เอาล่ะ ไหนดูสิที่นั่งตรงไหนยังว่าง" ทุกคนเริ่มหันมองรอบตัว ฉันเริ่มจะไม่สนใจเขาและหยิบหนังสือขึ้นมาตั้งบนโต๊ะ
"คุณเฟรแกรนซ์ ที่ข้างๆเธอว่างใช่ไหม? งั้นให้คุณปาร์คไปนั่งตรงนั้นนะ โอเค คุณครุมารอนานแล้ว ฉันไปล่ะ ตั้งใจเรียนนะเด็กๆ"
เอ๊ะเดี๋ยว.. เมื่อกี้มันชื่อฉันใช่ไหมน่ะ? อย่าบอกนะว่า ..
"สวัสดี ยัยบ๊อง"
นี่มันเรื่องอะไรกันวะเนี่ยยยยยย!!! X2
He's Talk
"ฮ้าววว -0-"
วิชาคณิตศาสตร์เป็นอะไรที่ผมเกลียดจริงๆนะ นั่งหาวเป็นสิบรอบได้ละมั้ง ผมนั่งมองเด็กผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆแล้วอดคิดถึงเรื่องพ่อแม่ของเธอไม่ได้
'อาฝากดูแลเค้าหน่อยหน่า อาจจะวุ่นวายบ้าง สร้างปัญหาบ้าง แต่อย่าโกรธเค้า รำคาญเค้านะ อาขอร้อง อาเสร็จเรื่องนี้เมื่อไหร่แล้วจะมารับตัวกลับไปทันที โอเคนะ?'
แล้วผมจะตอบอะไรได้ล่ะ ก็ต้องตกลงสิ เพราะถึงตอบว่าไม่ได้ พ่อผมก็ต้องมาด่าผมเหมือนกัน แล้วก็จะพ่วงประโยคต่อท้ายว่า 'พวกเขาช่วยเราไว้เยอะแล้ว แค่เรื่องเงินที่เขายืมไปกับเรื่องดูแลลูกสาวเขา ทำไมถึงจะทำไม่ได้'
กรี๊งงงงง~
ผมฟุบลงกับโต๊ะ กะว่าจะนอนพักผ่อนยาวๆซักงีบ แต่ก็มีดินสอมาจิ้มๆบริเวณแขนผมจนผมต้องเงยหน้าขึ้นมามองอีกครั้ง
"นี่นาย"
สายตาที่เธอมองมาเหมือนกับว่าเธออยากขอความช่วยเหลือ แต่ไม่อยากจะรบกวนซักเท่าไหร่ ผมยักคิ้วให้หนึ่งครั้งเป็นเชิงบอกว่าว่าไง
"เย็นนี้ฉันขอออกไปข้างนอกแป๊บนึงได้มะะ ฉันมีเรื่องที่จะต้องทำอะ รับรองไม่เกิน 3ทุ่ม"
"ไม่ได้"
"ทำไมอ่ะะ? ขอเหอะหน่า วันนี้วันเดียว ช่วยบอกคุณลุงคุณป้าด้วยว่าฉันแค่ไปทำรายงานบ้านเพื่อน อาจจะกลับดึกหน่อยอ่ะ " เธอเริ่มทำหน้าบูดบึ้งและขอร้องผม
"ยังไงก็ไม่ได้"
"เหอะ ไม่รู้ล่ะ เย็นนี้ฉันจะไปธุระ เดี๋ยวฉันกลับมาจริงๆ" แล้วเธอก็ลุกขึ้นเดินไปหาเพื่อนและออกจากห้องไป "ปล่อยให้ฉันไปเถอะ"
ผมนี่แทบจะเอาหูไปแปะใกล้ๆปากเธอ เพราะเสียงที่เธอพูดในประโยคสุดท้ายมันเบามากจนแทบจะไม่ได้ยิน จับใจความได้ว่า 'ปล่อยให้เธอไป' อะไรทำนองนั้นมั้ง.. ตอนนั้นเองก็มีกระดาษที่อยู่ในโต๊ะเธอร่วงลงมา มันเป็นกระดาษสีดำ เมื่อผมเปิดดูก็เห็นตัวอักษรที่เขียนด้วยลิควิดแบบหวัดๆเหมือนรีบเขียน แต่นั่นไม่น่าสนใจเท่ากับ เวลาที่เธอบอกว่าจะกลับไม่เกิน3ทุ่ม และในกระดาษใบนี้ระบุเวลาไว้ 2ทุ่มด้วยสิ ก่อนเวลาที่เธอบอกว่าจะกลับบ้าน
ฉันรู้แล้วล่ะว่าเธอจะไปไหน ฉันไม่ยอมให้เธอไปคนเดียวหรอก
She's Talk
07.40pm.
-The Westin Chosun Seoul-
เมื่อ15นาทีที่แล้วฉันนั่งแท็กซี่มาลงที่นี่ ตอนนี้ฉันหยุดยืนอยู่ที่ล็อบบี้และไม่กล้าที่จะขึ้นไปตามเวลานัดที่บอกไว้ว่าก่อน 2 ทุ่ม เนื่องจากไม่ค่อยไว้ใจเท่าไรว่าคนที่จับตัวพ่อแม่ฉันมาจะต้องการเงิน เพราะดูจากโรงแรมที่ใหญ่มากและหรูมากก็คาดเดาได้ว่า คนที่มาเปิดห้องใดห้องหนึ่งในนี้ต้องไม่ธรรมดาและไม่น่าจะต้องการเงิน
แต่ฉันต้องช่วยพ่อกับแม่ก่อนนี่นา !
"จะขึ้นไปดีมั้ยวะเนี่ย" ฉันเผลอบ่นออกมา และบริเวณที่ฉันยืนอยู่มันก็ใกล้กับเคาท์เตอร์ พนักงานหญิงที่อยู่ที่เคาท์เตอร์ก็เลยเอ่ยถามฉันด้วยความสุภาพ
"คุณมาพบใครรึเปล่าคะ ฉันต่อสายขึ้นไปด้านบนก็ได้นะคะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันขึ้นไปเองก็ได้ .. อ๋อ ไม่ทราบว่ามีคนมาเปิดห้องพักชั้น 15 กี่ห้องหรอคะ?"
"ห้องพักชั้น 15 หรอคะ ? รอซักครู่นะคะ"
เธอรีบหันไปเปิดดูข้อมูลในคอมพิวเตอร์ของโรงแรม นั่นมันทำให้ฉันหาห้องพักที่นัดไว้ได้ง่ายขึ้นไงล่ะ เอ้อ ทำไมฉันเพิ่งฉลาดวะคะ ฮ่ะๆ
"ห้องพักชั้น15มีอยู่ห้องเดียวค่ะที่เปิดอยู่ คือห้อง 1505 น่ะค่ะ"
"ขอบคุณนะคะ แล้วพอจะทราบไหมคะว่าใครเป็นคนเปิดห้องนี้ไว้?"
"ขอโทษด้วยจริงๆนะคะ พอดีคุณผู้ชายที่มาเปิดห้องนี้ไว้เค้าขอให้ปิดเป็นความลับน่ะค่ะ สงสัยกลัวว่าจะมีคนมารบกวนมั้งคะ"
"อ๋อ ขอบคุณมากค่ะ"
"แต่ยกเว้นคุณนะคะ เค้าบอกให้บอกเลขห้องกับคุณได้ มีรูประบุตัวคุณชัดเจนด้วยนะคะ สงสัยเค้าน่าจะไว้ใจคุณ" ห้ะ! รูป? รูปอะไร!?
"แล้วตอนที่เค้ามาเปิดห้องหรือหลังจากนั้นมีใครพาผู้ชายกับผู้หญิง2คนขึ้นไปที่ห้องรึเปล่าคะ?"
"น่าจะไม่นะคะ ฉันก็ไม่เห็นเหมือนกัน เพิ่งเข้ามาทำงานแทนเพื่อนเมื่อซักครู่เองค่ะ"
"ขอบคุณมากนะคะ" ฉันไม่สนใจเรื่องรูปถ่ายฉันเพราะเขาอาจจะเอามาจากที่อื่นได้ ฉันจึงตัดสินใจที่จะขึ้นไปชั้น15 ขณะที่ฉันกำลังจะหมุนตัวเพื่อไปที่ลิฟต์ พนักงานคนนั้นก็เรียกไว้ซะก่อน
"คุณคะ!"
"คะ?" ฉันหันกลับไปมองที่หน้าเคาท์เตอร์อีกครั้งหลังจากที่เดินออกมาได้สองสามก้าว
"คนที่มาเปิดห้องเค้าฝากของไว้ให้คุณโดยเฉพาะน่ะค่ะ ฉันเกือบลืมแน่ะ ขอโทษด้วยนะคะ"
ฉันมองของในมือของพนักงานหญิงคนนั้น มันเป็นกระดาษแผ่นนึงที่ถูกพับไว้อย่างดี
"คุณน่าจะเอารูปถ่ายนี่ไปด้วยนะคะ"
พนักงานสาวยื่นรูปถ่ายที่เธอเป็นคนบอกว่าใช้ระบุตัวฉันให้ ฉันหยิบมาดู ยังไม่าทันได้กล่าวขอบคุณอีกครั้ง(ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไร) ฉันก็หันไปถามอีกครั้ง
เพราะมันเป็นรูปที่เพิ่งถ่ายตอนที่ฉันยืนอยู่ตรงล็อบบี้นี้พอดีน่ะสิ..
"คุณได้รูปถ่ายนี้มาตอนไหนคะ?"
"เมื่อซักครู่นี้เองค่ะ ส่งมาก่อนที่คุณจะเดินตรงมาหยุดที่หน้าลิฟต์ข้างเคาท์เตอร์"
"ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ" พนักงานคนนั้นยิ้มให้ฉันก่อนจะโค้งตัวให้ ฉันจึงรีบเดินออกไปและกดลิฟต์ขึ้นไปยังชั้น 15
ระหว่างนั้นฉันเปิดอ่านข้อความที่อยู่ในแผ่นกระดาษ
'มาแล้วหรอ ฉันคิดไว้แล้วว่าเธอต้องมา เงินที่บอกไว้ได้เอามาด้วยรึเปล่า นาฬิกาเดินไปเรื่อยๆนะ รีบๆขึ้นมาเร็วเข้า
ก่อนที่มันจะสายเกินไป :)
KDH.'
KDH. งั้นหรอ.. ใครกันแน่นะ?
ฉันมาถึงที่ชั้น15และพบว่ามีกระดาษแผ่นนึงแปะอยู่หน้าประตู ..
'เข้ามาได้เลย ฉันรอต้อนรับเธออยู่ เคาะประตูสามครั้งก่อนนะ'
ฉันเงื้อมือเพื่อจะเคาะประตู แต่ยังไม่ทันได้เคาะ ประตูก็เปิดออกซะก่อน .. แล้วจะให้ฉันเคาะเพื่อ..?
ภายในห้องนั้นมืดสนิท ฉันเดินเข้าไปในห้องและใช้มือคลำหาสวิตช์ไฟที่น่าจะอยู่บริเวณประตู แต่ก็ไม่มี ลืมไปว่ามันใช้รีโมต ก็ที่ไทยมันเป็นสวิตช์นี่ T^T
ฉันเดินเข้าไปลึกพอสมควร เดินมาถึงบริเวณห้องนั่งเล่น ทันใดนั้นก็มีมือมารัดตัวฉันไว้และเอาบางอย่างมาโปะบริเวณหน้าของฉัน
และโลกของฉันก็ดับวูบลง..
He's Talk
ผมหลบอยู่หลังเสาต้นหนึ่งของโรงแรม แน่นอน ผมมาดักรอเธออยู่ตรงนี้ก่อนเธอจะมาถึง มองเธอตั้งแต่เธอคุยกับพนักงานตรงเคาท์เตอร์ รับของบางอย่างมา จนกระทั่งเธอเข้าไปในลิฟต์
ผมจึงรีบวิ่งไปหน้าลิฟต์และรอไปเรื่อยๆจนกระทั่งมันหยุดลงที่ชั้น 15 ผมหันกลับไปมองที่เคาท์เตอร์ที่มีพนักงานคนเดิมยืนอยู่
"ผู้หญิงคนนั้นกำลังไปที่ห้องไหนหรอครับ?"
และผมก็รีบตามมาที่ห้อง 1505 ตามที่พนักงานบอกทันที
'นี่เป็นของที่คนที่เปิดห้องฝากมาให้คุณเหมือนผู้หญิงคนนั้นเหมือนกันค่ะ'
'ขอบคุณมากครับ'
ผมเปิดกระดาษใบนั้นเพื่อจะอ่าน ข้อความระบุไว้ด้วยลายมือที่เหมือนกับจดหมายที่หล่นจากโต๊ะยัยนั่นเมื่อตอนกลางวัน..
'ฉันรู้.. ว่านายต้องตามเธอมา ขอให้สนุกนะกับการไล่ล่าครั้งนี้ ตามฉันให้ทันแล้วกัน
ฉันเอง.. คนที่นายรู้จักดี'
เมื่อมาถึงชั้น15ผมก็รีบตรงไปที่ห้องๆนั้นทันที.. รู้สึกไม่ดีแล้วสิ!
To be Continued
Talk :
ฟินของช้านนนนน เป็นไรไปแล้ว ลุ้นได้ไม่ว่ากัน >____<
ฟินเป็นไรกับยาสลบรึเปล่าเอ่ยย? เจอกันบ่อยจัง -____-;
เค้ามาอัพให้ละเตง จุ้บบบ เม้นไว้ด้วย เศร้ามากไม่มีเม้น งือออ T^T
เปลี่ยนชื่อโรงแรมนิดนึงน้า อยากให้ลองเป็นสถานที่จริง 55555
Figlease เป็น The Westin Chosun Seoul นะ
อัพจบแล้วอย่าอ่านอย่างเดียวสิ เม้นด้วย หัวสมองไม่แล่นเลยอ่าาา :(
เรื่องแรกอาจจะไม่ดีมากแต่ไรท์ก็ตั้งใจเขียนมันอย่างสุดสมองจริงๆนะ 55555
ตอนหน้านี่ผูกปมเล่าอดีตแล้วนะ ฟินเคยเสียความทรงจำด้วยนะเออ
ผูกเองแก้เอง แต่งให้ยากแล้วอยากจะร้อง งือออ 55555
ไปละ เดี๋ยวอัพให้น้าาา ไว้เจอกันใหม่ค่ะ
ความคิดเห็น