บ้าน อพอลโล Apollo - นิยาย บ้าน อพอลโล Apollo : Dek-D.com - Writer
×

    บ้าน อพอลโล Apollo

    ผู้เข้าชมรวม

    203

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    203

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  10 ส.ค. 57 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                
     

    บ้านอพอลโล

    ทุกอย่างบนโลกล้วนแล้วแต่เป็นไปตามกฎของมัน ดิน ฟ้า ลม อากาศ สายน้ำ หรือแม้กระทั่งไฟ หรือสิ่งใดก็แล้วแต่

                มนุษย์ช่างสรรหา พวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์หนึ่งบนดาวเคราะห์ที่เรียกว่าโลก เกิดความอุดมสมบูรณ์และสิ่งเป็นไป มีทั้งกำเนิดและดับสูญ พวกเขาอยู่ภายใต้การดูแลและปกครองโดยเทพเจ้า ครั้งอดีตกาลล่วงมาแล้ว เผ่าพันธุ์มนุษย์เรืองอำนาจ พวกเขาเสพสุขความรุ่งโรจและจองหอง รวมพลต่อกรเหล่าเทพเจ้า พวกเขามิเคยย่างกราย แต่บัดนั้นเท้าที่กรุ่นไปด้วยความยโสถูกเหยียบย่ำเหนือพื้นโอลิมปัส...

    “อืม กรุ่นด้วยความยโส หรอ” ดวงตาสีเขียวมรกตหยุดนิ่งพินิจ คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน แล้วก็จ้องมองกระดาษที่ประทับรอยตัวหนังสือขยุกขยิกอ่านยาก มือเรียวหยิบยางลบในกระปุกใส่เครื่องเขียนที่เหลืออยู่เพียงเท่านิ้วก้อยขึ้นมาลบประโยคที่ตนไม่พึงใจออกไป

    แต่บัดนั้นเท้านับพันถูกเหยียบย่ำเหนือพื้นโอลิมปัส...

    อย่างน้อยมนุษย์ก็เป็นเผ่าพันธุ์ที่เป็นสายเลือดของฉันล่ะนะ

     

    “อ่าฮะ ค่อยยังชั่วหน่อย” อวาลีน   เทมัส ยิ้มอย่างพึงพอใจ ก่อนจะปิดปกสมุดแล้วก็ตบลงบนนั้น ปกสมุดสีน้ำตาลลายกระดาษเส้นใยที่เขียนด้วยตัวหนังสือขนาดใหญ่ว่า แด่...อวาลีนที่รัก ร่างบางลุกจากที่นั่งแล้วบิดขี้เกียจเพื่อคลายเส้นที่ปวดตึงก่อนจะหันขวับเพื่อดูนาฬิกาแขวนบนผนัง

    “โอะตายแล้ว! นี่มันสายแล้ว!” ปลายผมสีทองที่มัดลวกๆ สะบัดอย่างแรงจนยางรัดผมแทบหลุด ขาที่หุ้มด้วยกางเกงยีนสับวิ่งจนเกือบล้ม ก่อนจะจ้ำพรวดอย่างรวดเร็วออกประตูไป

    “เธอสาย” คู่หูหัวทองของอวาลีนยืนตระหง่านรออยู่ด้านหน้า เหงื่อตกพลักๆ เมื่อมีสายตาไม่สู้ดีกำลังจ้องมอง หญิงสาวยืนกอดอก พลางในมือก็กำลังกำม้วนกระดาษและดินสอแท่งสั้นกุดๆ

    “เอาน่าแค่ไม่กี่นาที” อวาลีหอบพลัก มือเรียวยกขึ้นมาปาดเหงือตรงหน้าผาก ขณะที่หายใจขลุกขลัก

    “ดูสิ เธอสายตั้งสามสิบนาที” มือเรียวของวิทนี่ชูนาฬิกาพกเรือนใหม่ขัดเงาขึ้นมาจ่ออยู่ตรงหน้าของเพื่อนสาวที่รักการมาสาย ดวงตาสีเขียวจ้อง

    “ฮ่ะๆ ทุกคนก็อยู่พร้อมหน้ากันนี่ ไม่ได้หนีไปไหน” อวาลีนทำทีส่องมองสมาชิกใหม่ของบ้านอพอลโลวไปพลางไหวไหล่ไปพลาง สีหน้าของวิทนี่ตอนนี้ไม่สบอารมณ์ แต่นี้คงเป็นครั้งที่เธอควรจะชินเสียแล้ว ร่างบางถอนหายใจหนัก ก่อนจะจูงแขนอวาลีน ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหัวหน้าของบ้านไปยังกลุ่มผู้คน

    “พวกเขาอยู่พร้อมหน้าก็จริง แต่การปกครองที่ไม่เข้มงวด จิตใจของผู้ใต้ปกครองอาจเปลี่ยนแปลงไป” วิทนี่พ่นคำบ่นไม่หยุดยั้ง

    “ฮ่ะๆ พวกเขาควรมีเสรีภาพบ้างสิ”

    “ฉันพูดในฐานะของผู้ที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆ กับเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย” วิทนี่หยุดเดินตรงหน้าโรงอาหารที่ผู้คนระเบิดเสียงสนธนากันจ้าละหวั่น พลางยักไหล่อย่างเหลืออด “ฉันรู้ว่าเธอคงเบื่อ แต่ควรจะชินแล้วจริงไหม แบบนี้มีให้เห็นทุกปีไป แต่เสรีภาพก็ควรอยู่ในขอบเขตบ้าง”

    “แหงสิ เธอไม่ได้อยู่ดูแลตลอดนี่” ผู้ถูกบ่นเบือนหน้าคล้ายหงุดหงิด

    “เธอเป็นหัวหน้า ก็ต้องทำตามหน้าที่ให้ดีที่สุดสิ“

    “โอเค มันคงไม่แย่กว่าทุกปีที่ผ่านมาล่ะนะ” อวาลีนทำใจยอมรับ “แต่ได้ข่าวว่ารุ่นนี้แสบใช่ย่อย” หน้ามนผ่อนเสียงกระซิบ ทำเอาเพื่อนสาวหลุดขำ เธอไม่พูดอะไรเพียงแต่ทำท่าคะยั้นคะยอให้อวาลีนพูดเสียที

    “อะแฮ่มๆ ฉันชื่ออวาลีน  เทมัสนะทุกคน” เสียงใสเอ่ยพูดกังวาน บทสนธนาระหว่างกลุ่มเพื่อนหยุดลงโดยอัตโนมัติ พวกเขาหันมาเป็นตาเดียวยังอวาลีน ร่างบางรู้สึกประหม่าเล็กน้อย

    “อวาลีน... ดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์น่ะหรอ ฮ่าๆๆๆ ศักดิ์สิทธิ์จริงหรือเปล่านังหนู ฮ่าๆๆๆ” ชายร่างอ้วนท้วม มีเบอเกอร์คาบคาอยู่ในปาก พูดด้วยเสียงที่อุดอู้จากการเคี้ยวเบอเกอร์ไม่หมด แต่ก็ทำให้อวาลีนรู้สึกตงิดแทบอยากชกหน้า เสียงหัวเราะคิกคักเริ่มแผ่ขยายเป็นวงกว้าง

    “นั่นมัน อวาลอน..*” อวาลีนขมวดคิ้วพ่นลมฟู่อย่างหงุดหงิด จนทำให้วิทนี่ที่ยืนอยู่ด้านหลังต้องยกมือขึ้นมาแตะบ่า “ไอ่อ้วน...” ร่างบางหลุดพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำคล้ายกระซิบ เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายได้ยิน เย็นไว้ๆ

    “โอ้ โอเค” เสียงหัวเราะขมุบขมิบเริ่มเบาลง เหลือไว้เพียงน้ำเสียงของอวาลีน

    “เอาล่ะ ฉันขอต้อนรับทุกคนเข้าสู่บ้านแห่งอพอลโล ฉันไม่รู้หรอกนะว่าที่นี่มีคนชอบกินเนื้อสุนัขบ้ามาหรือเปล่า” ดวงตาสีเขียวขุ่นเคืองจ้องไปยังชายรูปร่างอ้วนท้วม ราวกับราชสีห์จะตะครุบกระต่ายตัวอ้วน “แต่ที่นี่ทุกคนที่สิทธิเท่าเทียมกัน ถึงแม้หมาบ้าจะกัดไม่ปล่อย แต่เราทุกคนคงรู้วิธีสู้มันใช่ไหม” อวาลีนใช้คำพูดเหน็บแนม วิทนี่ยกมือมาตบไหล่ของเพื่อนสาวเพื่อปรามไว้เป็นครั้งที่สอง

    ร่างบางผ่อนลมหายใจฟู่ๆ

    “เอาล่ะสวัสดิการที่นี่คงสู้โรงแรมห้าดาวแถวชานเมืองไม่ได้ แต่ก็มีอาหารพอให้ทุกคนได้กินนะ ที่นี่มีที่นอน... ฉันคงไม่ต้องบอกหรอกใช่ไหมว่ามีหมอนกับผ้าห่มด้วย” วิทนี่หลุดขำอยู่ข้างหลัง “เอาล่ะ พวกเธอก็ควรจะไปเรียกดูห้องได้แล้ว ติดชื่อเอาไว้ด้วย ผ้าห่มกับหมอนจะได้อยู่ครบ”

    สิ้นเสียงหัวหน้าสาว สมาชิกใหม่ก็กรูกันออกจากโรงอาหาร เหลือก็แต่คนสุดท้ายที่พอจะลุกอยากหน่อยนึง อวาลีนเบ้ปากใส่ชายร่างอ้วนท้วมพุงปริ ที่กำลังย่างสามขุมผ่านหน้าเธอไป ฝีเท้าเขาหนักพอจะเกิดเสียงสนั่นเหนือพื้นดิน บางครั้งเธอก็รู้สึกหวั่นเกรงเขาหน่อยๆ ก้านขาเขาสามารถทุบหัวเธอสลบได้ในทันทีโดยไม่ต้องออกแรงอะไรมากเลยนะนั่น

    วิทนี่ยื่นหน้ามาพร้อมกับคลี่ยิ้มอย่างพึงพอใจกับสิ่งที่เพื่อนสาวได้ทำไป เธอหัวเราะคิกคัก แต่อวาลีนกลับทำสีหน้ามึนตึงไม่สบอารมณ์
     

    ----------------------------------------------------------------------

    * อวาลอน คือเกาะในตำนานกษัตริย์อาเธอร์ ได้ชื่อว่ามีแอปเปิลที่สวยงาม

    ------------------------------------------------------


    ใครอยู่บ้านพักอพอลโลรายงานตัวด่วนจ้าาาา

     

    ปล. กฎก็คือ... เดี๋ยวจะบอกอีกทีที่บทความกิจกรรมละกันเน้อ อยู่ไปแบบนี้ก่อนนะกันนะ ตื่นเต้วดีออก ฮ่าๆ

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น