บ้านโพไซดอน Poseidon - นิยาย บ้านโพไซดอน Poseidon : Dek-D.com - Writer
×

    บ้านโพไซดอน Poseidon

    บ้านโพไซดอนหลังใหม่ แปลกใหม่แห่งนี้ ได้ขยายให้ใหญ่ขึ้นจากครั้งก่อน หลังจากทั้งสามมหาเทพได้ตกลงยกเลิกสัญญาต่อกัน

    ผู้เข้าชมรวม

    193

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    193

    ความคิดเห็น


    19

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  30 มิ.ย. 57 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



    บ้านโพไซดอน

     

          สาวผมน้ำตาลลอนยาวประบ่าชะโงกหน้าออกมาจากห้องที่ทุกคนก็รู้จักดี ห้องน้ำ เธอเลิ้กคิ้วขึ้นแล้วตาโตทันที “มากันแล้วสินะ” เธอพูดขึ้นพร้อมกับเดินมาทางสมาชิกใหม่ของบ้านหลังนี้

          ทุกคนจากที่คุยกันจ้อดังเมื่อครู่เงียบเสียงลงอย่างพร้อมเพรียงโดยมิได้นัดหมายพลางพากันจ้องมองหญิงสาวที่เดินมาข้างหน้า เธอเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าทุกคนก่อนจะยิ้มอย่างเป็นมิตร “ยินดีต้อนรับทุกคนนะ ฉันเป็นสมาชิกเก่าชื่อเอสเทอร์ ไวซ และก็

          “เฮ้! เอสเทอร์ช่วยฉันลากโอเลียรี่ออกไปจากห้องทีสิ” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากด้านบนของบ้านหลังนี้หยุดสิ่งที่เอสเทอร์กำลังจะพูดออกมา เอสเทอร์จิ้มเจื่อนๆ ให้กับเหล่าสมาชิกใหม่ที่เริ่มทยอยเข้ามาในบ้านหลังนี้ เธอกรอกตาขึ้นฟ้าก่อนจะตะโกนกลับ “รอก่อนได้มั้ยไทสัน ฉันกำลังต้อนรับสมาชิกใหม่อยู่นะ!” และเธอก็หันหน้ามาทางสมาชิกทั้งหมดที่ดูเหมือนจะมากันครบแล้ว “โอเคๆ บ้านหลังนี้อาจเปลี่ยนไปมาก เพราะสมาชิกเราเยอะขึ้น ฉันก็ไม่เข้าใจจริงๆ ตั้งแต่พ่อยกเลิกสัญญาบ้าๆ นั่นกับฮาเดส และก็ซุส พวกเธอก็ทยอยกันมาอย่างกับน้ำป่าไหลหลาก” เธอทำหน้าเซ็งสักพักก่อนจะกำหมัดแล้วชู้ขึ้นฟ้า

          ครื้น!!! เสียงฟ้าร้องดังขึ้นบ่งบอกว่าคนที่ถูกอ้างถึงนั้นรับรู้ทุกคำที่เอสเทอร์พูด “โอเคๆ บ้านหลังนี้อาจจะรกไปหน่อยน่ะนะ เพราะช่วงปิดเทอมก่อนเราก็มีกันแค่สามคน แต่บ้านก็ถูกขยายให้ใหญ่ขึ้นเพื่อสมาชิกใหม่ที่เข้ามา และเร็วๆ นี้เราจะมีปาร์ตี้ตอนรับสมาชิกใหม่อดใจรอไว้นะ” เธอพูดและรีบเดินไปยังบันได แต่แล้วเธอหันกลับมาอีกครั้ง ดวงตาสีฟ้าเบิกโต “เรามีกฎด้วยนะ อย่าแหกกันบ่อยนักล่ะ อันตรายต่อคะแนนนะรู้มั้ย อืมใช่ นี่จะมีการเก็บคะแนนของบ้านแต่ละหลังด้วยสโลแกนที่ว่า อยู่กันอย่างสันติสุข ครึกครื้น พอดีและลงตัว ลองตีความดูสิ ว่าหมายความว่าอย่างไร คะแนนจะตามคำที่บอกมานั่นแหละ ถ้าตีความได้ก็บอกคนในบ้านด้วยล่ะ จะได้คะแนนที่โอเคเลยทีเดียว” พูดจบเธอก็เตรียมตัวจะวิ่งขึ้นบันไดอีกครั้ง

          “เดี๋ยวก่อนครับ” เด็กหนุ่มผมม่วงดวงตาสีเขียวมรกตพูดพลางยกมือขึ้น

          เอสเทอร์ชะงักเท้าอีกครั้งก่อนจะหันมามองเสียงปริศนา “อ่าฮะ พูดมาเลย” เธอค้างเติ่งอยู่ท่านั้นรอคำถามของเด็กหนุ่มผมม่วง

          “แล้วผมอยู่ห้องไหนเหรอครับ” เด็กหนุ่มผมม่วงเลิ้กคิ้วแล้วมองหน้าเอสเทอร์

          “เอ้อ นั่นสิ โอเค ทุกคนจะอยู่ห้องไหนเลือกเอาตามสบายเลยนะ พอเลือกได้แล้วก็แปะชื่อของพวกเธอไว้หน้าห้องนั้น แล้วค่อยมาลงชื่อทีหลัง” พูดจบเธอก็เงียบไปสักพัก “นายชื่ออะไร?” คิ้วเธอเลิ้กขึ้นมองมายังเด็กหนุ่มผมม่วงอีกครั้ง

          “ผมฟรอส คริสตอฟครับ” ฟรอสยิ้มแล้วบอกชื่อเขาไป

          “ระหว่างนี้ ฉันฝากนายดูแลทุกคนทีนะ ฉันจะขึ้นไปช่วยไทสันสักหน่อย” พูดจบเอสเทอร์ก็วิ่งไฮสปีดขึ้นไปด้านบนทันที

          “เจริญแล้ว ไอ้เราก็เด็กใหม่ด้วย” ฟรอสพึมพำกับตัวเองก่อนที่เขาจะหันไปมองทุกคนถึงจะไม่มากมายนักแต่ก็ทำให้เขาตื่นเต้นมากทีเดียว เขาหลับตาลงสักพักก่อนจะมองตรงไปข้างหน้า “เอาล่ะทุกคน ช่วยฟังผมด้วยครับ” หลังจากที่เขาได้ตัดสินใจพูดออกไปแล้วทุกคนก็เงียบลงอีกครั้ง

     

          ปัง! เสียงเปิดประตูดังตามมาทันทีเมื่อเสียงฝีเท้าหยุดลง เอสเทอร์มองไปข้างในก็พบสาเหตุว่าทำไมไทสันจึงเรียกเธอขึ้นมา “ทำไมนายไม่ยกโอเลียรี่ออกล่ะ” เธอถอนหายใจยาว

          “ใช่ ฉันควรจะทำอย่างนั้น ถ้าไม่ติดว่ายกเธอออกแล้วบ้านหลังนี้จะพังน่ะสิ” ไทสันพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงคนข้างล่างไม่น้อย

          คุณนายโอเลียรี่หันมาอ้าปากกว้างให้กับเอสเทอร์ ลิ้นที่ห้อยออกมานั้นก็พาน้ำลายเหนียวหนืดหยดลงพื้นออกมาด้วย มันเริ่มส่ายหางดีใจที่เจอเพื่อนเล่น และบ้านทั้งหลังก็เริ่มสั่นไหว

          “โอเคๆ โอเลียรี่ ฉันว่า เราไปเล่นที่อื่นกันดีกว่านะ” เอสเทอร์เดินเข้าไปหาคุณนายโอเลียรี่พลางลูกขนสีดำของมัน ตัวของมันที่ใหญ่แทบจะคับห้องนี้เริ่มลุกขึ้น โอเค มันได้ผล

          เอสเทอร์ยิ้มมุมปากสักแป๊บก่อนจะพูดขึ้น “ถ้าเธออยากเจอเพอร์ซีย์ล่ะก็ พาไทสันออกไปด้านนอกสิ แต่อย่างเสียงดังนะ”

          “โอ้ ไม่นะ” ไทสันพูดยังไม่ทันจบคำดีคุณนายโอเลียรี่ก็ใช้หางก็เธอปัดไทสันที่นั่งอยู่ลอยออกหน้าต่างไปก่อนที่เธอจะใช้การเดินทางผ่านเงาออกจากห้องนี้ไปอย่างไร้เสียงดังโหวกเหวก(ของคุณนายโอเลียรี่น่ะนะ)

         

          “นายว่ายังไงนะฟรอส คิดว่าใหญ่มาจากไหน” เด็กหนุ่มตัวใหญ่ผมดำตาสีเทาเดินมายืนจังก้าอยู่ตรงหน้าฟรอสที่พึ่งบอกทุกคนให้เงียบไปเมื่อสักครู่

          “ดูท่าจะมีเรื่องแล้วล่ะ”

          “ฉันก็ไม่ได้ติดใจอะไรหรอกนะ เหมือนเขากำลังจะบอกอะไรเรา”

          “ใช่ แต่เราได้ยินกันหมดแล้ว”

          “มันก็จริง แต่เราควรจะอยู่ในความสงบแล้วหาห้องพัก”

          ตึ้มๆๆๆ! เสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมตัวบ้านที่ส่ายไปมา ทุกคนมองซ้ายมองขวาด้วยความแตกตื่น และเริ่มจะพากันวิ่งอย่างชุลมุน

          “เดี๋ยวก่อน ทุกคน ใจเย็นๆ มันจะไม่มีอะไร!” ฟรอสยกมือห้ามปรามทุกคนที่เริ่มแตกตื่นยกเว้นคนข้างหน้าเขาที่ไม่มีทีท่าว่าจะไปไหนเลย

          “นายทำแบบนี้เพื่ออะไร!? นายก็เห็นไม่ใช่เหรอว่าเหล่าเทพเจ้าพวกนั้นไม่เคยใส่ใจพวกเราเลย!” เด็กหนุ่มผมดำตะโกนขึ้นแข่งกับผู้คนที่เริ่มชุลมุนน้อยลง และสุดท้านทุกคนก็ตั้งสติได้แล้วมองไปยังเขาแทน

          “เฮ้ ฉันบอกแล้วนะว่าอย่าแหกกฎให้มากนัก” เสียงเย็นยะเยือกของเอสเทอร์ดังขึ้นเมื่อเจ้าตัวเดินลงมาถึงหน้าบันได “เข้าใจมั้ยไอ้หนู” เธอแสยะยิ้มมาทางเด็กหนุ่มผมดำ รอยยิ้มนั้นทำเอาทุกคนสยองขวัญผวากันเป็นรายๆ ไป
     


     

    ปล. ใครที่อยู่บ้านพักโพไซดอน รายงานตัวด้วยน้าาา

         ปลล. กฎก็คือ...เดี๋ยวจะบอกอีกทีที่บทความกิจกรรมละกันเน้อ อยู่ไปแบบนี้ก่อนละกันนะ ตื่นเต้วดีออก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น