คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ ๑ : ความทรงจำครั้งสุดท้าย
ความทรงจำครั้งสุดท้าย
ภายใต้ผืนฟ้าสีเทามืดที่เป็นการเตือนให้ได้รู้ว่าฝนกำลังจะเทลงมาในไม่ช้านี้ ยังมีเด็กสาวร่างบอบบางคนนึงกำลังก้มหน้าและกอดตัวเองแน่น เธอเดินไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดหมาย เดินผ่านบ้านคนมากมาย...แต่กลับไม่เจอใครเลย
ไม่ว่าจะผ่านบ้านคนมาเท่าไหร่ แต่สิ่งที่พบนั้นคือความว่างเปล่า และเธอที่เพียงเดินผ่านมานั้นก็ไม่อาจรู้สาเหตุนี้ได้...
“เธอเป็นใคร...”
แต่แล้วเสียงเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นท่ามกลางเสียงของสายฝน เป็นเสียงที่แผ่วเบาซะจนเด็กสาวเกือบจะไม่ได้ยิน เธอเงยหน้าและมองหาต้นเสียงนั้นอย่างเชื่องช้าเพราะความหนาวเหน็บ และได้เจอกับหญิงสาวร่างบางคนหนึ่งข้างขวามือของเธอ หญิงสาวคนนั้นมีผิวกายขาวผ่อง รูปร่างหน้าตาดี ผมและตาเป็นสีทองอร่าม เธออยู่ในชุดกระโปรงสีขาวสะอาดแต่เปียกปอนไปด้วยน้ำฝนทั้งตัวเหมือนอย่างเด็กสาว...
เมื่อเด็กสาวยืนมองเธอได้สักพักก็เอ่ยถามหญิงสาวบ้างด้วยความระเวง
“แล้วท่านล่ะ...ใครกัน”
หญิงสาวที่รู้ว่าเด็กตรงหน้ากำลังระเวงเธออยู่จึงลดสีหน้าให้ผ่อนคลายลงเพื่อให้เด็กตรงหน้าสบายใจขึ้นพร้อมตอบกลับไป
“อย่างกังวลไปเลย ฉันเป็นคนนึงที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้ ชื่อดลอร่า โกลด์เดล บ้านของฉันอยู่ลึกเข้าไปข้างในนู้น”
หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่ก็ยังคงไม่เผยรอยยิ้มออกมาราวกับคำพูดนั้นไม่ค่อยจริงใจนัก...แต่เด็กสาวที่ยืนมองดูนั้นรับรู้ถึงน้ำเสียงอันอ่อนโยนนั้น จึงลดความระเวงในตัวหญิงสาวลงและตอบหญิงสาวบ้าง
“ฉันชื่อรีเดลล่า ริเฮ็นน่า แค่เดินผ่านหมู่บ้านนี้มาเท่านั้นเอง”
“...อย่างนั้นเองหรือ...” หญิงสาวเอ่ยเสียงแผ่วเบาอีกครั้งแล้วหันหน้ามองเข้าไปในหมู่บ้านที่เงียบสงัดนั้น เหมือนกำลังเก็บภาพความทรงจำของที่นี่เอาไว้...ส่วนเด็กสาวที่มองเธออยู่นั้นก็นิ่งเงียบแล้วมองตามหญิงสาว เธอเห็นเพียงหมู่บ้านธรรมดาๆ แต่บรรยากาศนั้นดูแต่ต่างจากหมู่บ้านทั่วไป คือมันดูเศร้าหมอง...และส่วนหนึ่งคงเพราะสายฝนที่กระหน่ำลงมานี้ล่ะมั้งที่ทำให้บรรยากาศของหมู่บ้านนี้หมองลง
“รู้ไหม ฉันอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็ก...”
หญิงสาวที่เงียบมานานเกริ่นขึ้น สายตายังคงเหม่อมองไปยังข้างในหมู่บ้านแห่งนี้ และเด็กสาวที่ยืนอยู่ไกลจากเธอไม่มากนักเมื่อได้ยินหญิงสาวพูดเกริ่นออกมาจึงหันไปมองด้วยความสงสัย
และเมื่อเธอหันไปก็พบว่าใบหน้าของหญิงสาวที่เปียกน้ำฝนนั้นยังมีน้ำอย่างอื่นที่ไหลออกมาจากด้วยตาสีทองของเธออีกด้วย เด็กสาวรู้ได้ในทันทีเลยว่า...หญิงสาวที่เธอยืนมองอยู่กำลังร้องไห้...
เธอไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีเมื่อเห็นคนร้องไห้อย่างนี้ จึงได้แต่ยืนมองอยู่เงียบๆ
“เมื่อยังเป็นเด็ก ฉันได้แต่มองพ่อและแม่ของฉันทำงานบางอย่างที่ตัวฉันไม่เข้าใจ ผู้ใหญ่ที่หมู่บ้านนี้ทุกคนต่างก็ทำงานที่ฉันไม่เข้าใจนี้กันทั้งนั้น ฉันถามเพื่อนหลายคนว่างานนี่มันคืออะไร...เพื่อนของฉันก็ตอบไม่ได้เช่นกัน...
จนงานนั้นเสร็จสมบูรณ์แล้ว ฉันจึงได้รู้...ว่าสิ่งที่พ่อแม่และผู้ใหญ่ทุกคนกำลังทำคือการสร้างซาตานเพื่อให้ช่วยคุ้มครองหมู่บ้านแห่งนี้...”
เด็กสาวไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรนักกับสิ่งที่ได้ฟัง แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็พอรู้ว่าซาตานคืออะไร และพอจะเดาได้คร่าวๆ ว่าเหตุใดเธอจึงไม่เห็นผู้คนในหมู่บ้านนี้นอกจากหญิงสาว...แต่เธอก็ยังคงนิ่งเงียบไม่ได้ตอบรับหญิงสาวแต่อย่างใดเพราะกำลังรอฟังต่อ
“แต่รู้ไหม...ฉันไม่คิดว่าซาตานจะช่วยคุ้มครองอะไรหมู่บ้านนี้ได้ ซาตานก็ยังคงเป็นซาตานที่คนส่วนใหญ่รู้จักนั่นแหละ คือมีพฤติกรรมแตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป และตรงกันข้ามกับแองเจิ้ล ฉันเองคิดว่าสิ่งที่พวกผู้ใหญ่ทำนั้นนำความหวาดกลัวมาให้เด็กๆ อย่างพวกเราซะมากกว่า...”
น้ำเสียงของหญิงสาวหนักแน่นในบางคำ ซึ้งแตกต่างจากน้ำเสียงก่อนหน้านี้ที่แผ่วเบาจนเหมือนเสียงฝนจะกลบไปได้ เด็กสาวนั้นยังเด็กอยู่จึงไม่ทันเข้าใจสิ่งที่หญิงสาวกำลังจะบอก จนหญิงสาวหันกลับมาหาเธอที่ยืนมองอยู่ไม่ไกล...แล้วยิ้มเหี้ยมให้เด็กสาวราวกับนั่นเป็นคนละคนกับหญิงสาวคนเมื่อกี้ !
เด็กสาวแสดงสีหน้าตกใจเล็กน้อยกับท่าทางที่เปลี่ยนไปของหญิงสาว แต่ด้วยความอ่อนล้าจากการเดินทางและแรงของลมและสายฝนกระหน่ำที่กระทบเนื้อตัวของเธอนั้น ทำให้ตอนนี้เธอไม่มีแม้แต่แรงที่จะให้แสดงสีหน้าตกใจ
หญิงสาวที่ยิ้มเหี้ยมให้นั้นเดินมาหาเธอที่ยืนนิ่งอยู่ หญิงสาวเบิกตาขึ้นพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างอย่างโหดเหี้ยม เผยให้เห็นฟันที่แหลมคมราวกับไม่ใช่คน เธอเดินเข้าไปใกล้เด็กสาวมากขึ้น ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ และ...
วูบบ...
จู่ๆ สติของเด็กสาวก็วูบดับลงซะเฉยๆ ร่างของเด็กสาวค่อยๆ ล้มลงตรงหน้าหญิงสาว แต่หญิงสาวก็ยังคงเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เหมือนรู้ว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้...จนมาถึงตัวเด็กสาวในที่สุด จากนั้นหญิงสาวก็ก้มลงแล้วอ้าปากกว้างพร้อมที่จะกลืนกินร่างของเด็กสาวตรงหน้า !
----------------------------------------------------------------
“อืมม..”
เด็กสาวครางพร้อมลืมตาขึ้นอย่างงุนงง แล้วดันตัวขึ้นในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน
“ที่นี่ที่ไหนอีกล่ะ”
เธอมองไปรอบกายก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องห้องหนึ่งซึ่งเป็นที่ไหนเธอก็ไม่อาจทราบได้ เธอนอนอยู่บนพื้นห้องเปล่าๆ เพราะในห้องนี้ไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรเลย เว้นแค่ประตูไม้หนาที่มุมห้องด้านซ้ายมือของเธอ...ถึงเธอจะไม่รู้ว่าเข้ามาในห้องนี้ได้ยังไง แต่ตอนนี้เสื้อผ้าที่เปียกฝนมาก็แห้งสนิทแล้ว และบรรยากาศในห้องนี้ก็ไม่อุ่นไม่ชื้นจนเกินไป ทำให้เด็กสาวตัดสินใจจะลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องนี้
เด็กสาวลุกขึ้นแล้วเดินไปจับลูกบิดประตู แต่ไม่ทันที่เธอจะเปิดประตูออกไป ลูกบิดประตูก็หมุนเอง ทำให้เด็กสาวรู้ว่ามีใครบางคนกำลังจะเข้ามาข้างในห้องนี้ เธอจึงหมุนตัวเข้าไปหลบหลังประตูเพื่อไม่ให้คนที่เข้ามาใหม่สังเกตเห็นเธอ
“...คิดว่าร่างที่ได้มานี้อาจแสดงผลลัพธ์ที่ควรจะได้ออกมาไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่ก็เท่าที่ดูมา...ร่างนี้เหมาะสำหรับการใช้งานในครั้งนี้มากที่สุดแล้ว”
เด็กสาวได้ยินเสียงของใครบางคนที่กำลังเดินเข้ามานี้กำลังพูดอะไรอยู่ เธอเดาได้สองอย่างคือเขากำลังพึมพำกับตัวเอง หรือไม่ก็คงมีอีกคนที่จะเดินเข้ามาด้วย แต่เท่าที่ฟังมา...คงจะเป็นอย่างที่สอง
“แอ๊ดด...”
ประตูห้องค่อยๆ แง้มเข้ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งบานประตูนั้นบังร่างของเด็กสาวได้มิดพอดี...และดูเหมือนว่าคนที่กำลังจะเข้ามานี้ยังไม่สังเกตว่าร่างของเด็กสาวหายไปไหน เด็กสาวจึงไม่ได้ยินเสียงพวกเขาโวยวายอะไรเมื่อเข้ามา เธอจึงใช้โอกาสนี้เบียดตัวออกมาจากหลังประตูแล้วเดินออกมาจากห้องนั้น
“แล้วผู้หญิงที่เจอกันในหมู่บ้านเมื่อกี้ล่ะ...คงไม่ใช่ว่าเราโดยเธอกินเข้าไปแล้วมาโผล่ที่นี่หรอกนะ”
ความคิดเห็น