คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #205 : ศัพท์ภาษาอังกฤษน่ารู้
in this day and age แปลว่า ปัจจุบันนี้, ทุกวันนี้, ขณะนี้
spooky แปลว่า ขนพองสยองกล้า มากกว่า ให้ความหมายไปในทางน่ากลัว ขนลุกขนพอง
goosebumps จะหมายถึงขนลุก ขนลุกจากความหนาวหรือความกลัว
SECTION 1: The SLANG words of “HOW ARE YOU?”
WHAT’S UP? แปลว่า เป็นไงบ้างล่ะ?
WHAT’S SHAKIN’ แปลว่า เป็นไงบ้างล่ะ?
WHAT’S NEW? แปลว่า เป็นไงบ้าง?
HOW’S IT GOING? แปลว่า เป็นไงบ้าง?
HOW’S EVERYTHING GOING? แปลว่า เป็นไงบ้าง?
HOW’RE THINGS? แปลว่า เป็นไงบ้าง?
HOW’RE YOU GETTING ALONG? แปลว่า เป็นไงบ้างล่ะ?
ARE YOU DOING OK? แปลว่า สบายดีไหม?
PRETTY GOOD? แปลว่า ค่อนข้างดี
IT’S OK? แปลว่า มันก็โอเคดี
IT’S TERRIBLE? แปลว่า มันเลวร้ายมากเลย,มันแย่มากๆ
SECTION 2: ANSWER FROM NO.1
VERY WELL แปลว่า ดีมากเลยล่ะ
GOOD แปลว่า ดี
FINE แปล ว่า ก็ดีนะ (สามารถแปลว่า ก็ได้ ได้) เช่น Can you guy lend me your money? Fine แปลว่า อีนี่นายให้ฉันยืมเงินหน่อยจาได้หมายจ๊ะ (ออกแนวอินเดีย) … ก็ได้
QUITE WELL แปลว่า ค่อนข้างจะดี
SO SO แปลว่า ก็งั้นๆแหละ
NOT SO GOOD แปลว่า ไม่ดีมากหรอก
BAD แปลว่า ไม่ดีเลย
SO BAD แปลว่า ไม่ดีเอามากๆ,เซ็งอย่างแรง
SECTION 3: The SLANG words of “YES”
YEAH แปลว่า เออ,ใช่
YEA แปลว่า เออ,ใช่
YEP แปลว่า เออ,ใช่
AYE แปลว่า เออ,ใช่
ABSOLUTELY แปลว่า อย่างแน่นอนเลย
CERTAINLY แปลว่า อย่างแน่นอน
TOTALLY แปลว่า อย่างแน่นอน
SURE แปลว่า ใช่,แน่นอน
OF COURSE แปลว่า ใช่ค่ะ/ครับ
RIGHT แปลว่า ถูกต้องแล้วล่ะ
EXACTLY แปลว่า ถูกเผงเลย
SECTION 4: The SLANG words of “GUY”
DUDE แปลว่า หมอนั่น,นายนั่น,ผู้ชายที่ค่อนข้างเจ้าชู้
CHAP แปลว่า นายนั่น, หมอนั่น
BLOKE แปลว่า นายนั่น,หมอนั่น
FELLOW แปลว่า นายนั่น,หมอนั่น
SECTION 5: The same meaning of word “CLOSE FRIEND”
FRIENDSTER แปลว่า เหล่าบรรดาเพื่อนฝูง,พรรคพวก
FOLKแปลว่า เพื่อน,แก (เช่น Hey folk, what’s up? แปลว่า ไง แก เป็นไงบ้าง)
BUDDY แปลว่า เพื่อน, แก
PARTNER แปลว่า คู่หู,เพื่อนสนิท
PAL แปลว่า เพื่อน
CHUM, CHUMMY แปลว่า เพื่อนสนิท,เกลอ
GUYS, GIRLS แปลว่า เพื่อน,เธอ,นายน่ะ
SECTION 6: The SLANG words of “CRAZY”
CRACK แปลว่า บ้า,คนบ้า
BATTY แปลว่า บ้า
MAD แปลว่า บ้า,คลั่ง
FREAK แปลว่า ประหลาด,ความคิดวิตถาร
JERK แปลว่า บ้า,ประหลาด
WEIRD แปลว่า แปลกประหลาด,บ้าๆดี
SECTION 7 The SLANG words of “SWEAR WORDS”
OH! GOD แปลว่า โอ้ พระเจ้า(เรียกพระเจ้ามาช่วย อันนี้เชยมากๆเลย)
OH! MY LORD แปลว่า โอ้ พระเจ้า
FOR GODNESS! แปลว่า พระเจ้า,เจ้าประคุณเอ๋ย
FOR GOD’S SAKE! แปลว่า พระเจ้า,เจ้าประคุณเอ๋ย
FOR CHRIST’S SAKE! แปลว่า พระเจ้า,เจ้าประคุณเอ๋ย
JESUS CHRIST! แปลว่า พระเจ้า(JESUS คือชื่อของพระเยซู)
SHIT! ความหมายตรงตัวแปลว่าขี้ แต่ภาษาพูดแปลว่า ให้ตายสิ,บ้าชิบ
DAMN IT! แปลว่า ให้ตายสิ,บ้าชิบ
BULLSHIT! แปลว่า แหกตาชัดๆ, โกหกทั้งเพ
BULLCLAB! แปลว่า แหกตาชัดๆ, โกหกทั้งเพ
DAMN แล้วตามด้วย ADJECTIVEแปลว่า โค-ต-ร (เช่น Damn beautiful แปลว่า โค-ต-ร สวยเลย)
SUCK! แปลว่า ห่วยแตก (เช่น You suck แปลว่า นายมันห่วย)
SECTION 8 The SLANG words of “..”
ASSHOLE แอสโฮล (ใช้ด่าเฉพาะผู้ชาย-ความหมายแรง)?ความหมายตรงตัวแปลว่ารูตูด แต่ภาษาพูดแปลว่า อีตาบ้า,ไอ้บ้า?
BITCH (ใช้ด่าเฉพาะผู้หญิง-ความหมายแรงมาก)?แปลว่า นังแรด, ยัยแรด (เช่น You’re such a son of a b…i…t…c…h)
SLUTS (ใช้ด่าเฉพาะผู้หญิง-ความหมายแรงมาก) แปลว่า นังแรด, ยัยแรด
WHORE (ใช้ด่าเฉพาะผู้หญิง-ความหมายแรงมาก) แปลว่า คุณโส…,นังแพศยา
WIMP หมายถึง นายแหย (พี่แหยประจำโรงเรียน)
SISSY หมายถึง นายแหย (พี่แหยประจำโรงเรียน)
NERD หมายถึง พวกเรียนเก่งแต่เข้าสังคมไม่ได้, พวกทำตัวเฉิ่ม
GEEK หมายถึง พวกเรียนเก่งแต่เข้าสังคมไม่ได้
DORK หมายถึง พวกเรียนเห่ย
PREPS หมายถึง พวกป็อปแต่นิสัยแย่
JOGS หมายถึง นักกีฬาบึกๆที่ชอบหลงตัวเอง
BIMBO, DUMB BLONDE หมายถึง ผู้หญิงผมบลอนด์ที่สวยแต่ไร้สมอง
WANNABE หมายถึง พวกอยากป็อปแต่ไม่ป็อปซะที
SLAGGER หมายถึง เจ้าเด็กขี้เกียจ
SLEEPY HEAD แปลว่า เจ้าขี้เซา (เช่น Time to wake up, sleepy head. แปลว่า ได้เวลาตื่นแล้วเจ้าขี้เซา)
SECTION 9 The same meaning of word “BEAUTIFUL”
NICE แปลว่า สวย
GORGEOUS แปลว่า งดงาม, สวยแบบไม่มีที่ติ,สวยมาก,สวยกิ๋วกิ้ว?(ใช้กับพวกดารา Hollywoodทั้งหลาย)
DAMN GORGEOUS แปลว่า สวยโค-ต-ร ๆๆๆ
PRETTY แปลว่า สวยน่ารัก
HOT, SEXY แปลว่า สวยแบบร้อนแรง,เซ็กซี่
SECTION 10: The same meaning of word “STUPID”
ASS แปลว่า โง่ (เหมือนลาเลย)
BLOCKHEAD แปลว่า คนโง่,คนบ้า
CHUMP แปลว่า โง่
FOOL, FOOLLY แปลว่า โง่
DOLT แปลว่า คนโง่,เซ่อ
DUNCE แปลว่า คนโง่
DUNDERHEAD แปลว่า คนโง่
DULL แปลว่า คนโง่, ปัญญาทึบ
DUMMY แปลว่า ไอ้ปัญญาทึบ,ไอ้ทึ่ม
IDIOT แปลว่า คนโง่,คนบ้า
SILLY แปลว่า งี่เง่า,โง่,เซ่อ,บ้า
BLUNT แปลว่า โง่, ทื่อ,ทึ่ม
SECTION 11 The SLANG words of “GO AWAY”
GET AWAY แปลว่า ออกไปให้พ้นเลย
GET OUT! แปลว่า ออกไป (เช่น TAKSIN GET OUT! 555)
GET LOST แปลว่า ไปไกลๆส้นฉันเลย ไป๊!
GETTA HELL OUT OF MY WAY แปลว่า ไปลงนรกซะไป๊
GETTA FCUK OUT แปลว่า ไปไกลๆ…ฉันเลย ไป๊!
GET YOUR ASS OUT OF MY WAY แปลว่า ย้ายตูดของแกไปเร็วๆเลย เดี๋ยวโดนถีบ
FUCK OFF แปลว่า ไปไกลๆเลยไป
LEAVE THE PLACE! แปลว่า ออกไปจากที่ซะที (ตูเบื่อแล้ว)
GET OUT OF HERE! แปลว่า ออกไปจากที่นี่ซะ
GET OUT OF MY FACE! แปลว่า ไปให้พ้นหูพ้นตาฉันเลย
GET OFF MY TAIL! แปลว่า หยุดตามฉันซะที ไปไกลๆฉันเลย?(หรือจะเรียกว่า Stop follow me! ก็ได้)
BEAT IT! แปลว่า ไปไกลๆส้นฉันเลยนะ
SECTION 12 Some International abbreviations you may often see
AOL ย่อมาจาก American Online
ADDY ย่อมาจาก Address
BRB ย่อมาจากbe right back
CIS ย่อมาจาก Consumer Information Service
RTFM ย่อมาจาก Read the, uh, Friggin’ Manual
ROTFL ย่อมาจาก Rolling on the floor and laughing
PITA ย่อมาจากPain in the “acronym”
BTW ย่อมาจาก by the way
BFN ย่อมาจาก Bye, for now
IRC ย่อมาจาก Internet Relay Chat
TSR ย่อมาจาก Terminate and stay Resident program
TOS ย่อมาจาก Term of service
LOL ย่อมาจาก laughing out loud
OTOH ย่อมาจาก on the other hand
OTTH ย่อมาจาก on the third hand
FWIW ย่อมาจาก for what it’s worth
RSN ย่อมาจาก Real Soon Now
SASE ย่อมาจาก Self addressed stamp envelope
SM ย่อมาจาก Snail mail
SMA ย่อมาจาก Snail mail addy
WYSIWYG ย่อมาจากwhat you see is what you get
OIC ย่อมาจาก Oh! I see
IMHO ย่อมาจาก In my humble opinion [The speaker is never humble] IMCO ย่อมาจาก In my considered opinion
G, d&r ย่อมาจาก Grinning, ducking and running
OOTB ย่อมาจาก Out of the box
WB ย่อมาจาก Welcome back (being back on IRC)
WBS ย่อมาจาก Write back soon?
SECTION 13: The same meaning of word “WHAT HAPPENED?”
WHAT’S HAPPENING แปลว่า เกิดอะไรขึ้น
WHAT’S GOING ON แปลว่า มีอะไรเกิดขึ้น, เกิดอะไรขึ้นเนี่ย
WHAT’S WRONG แปลว่า มีอะไรเกิดขึ้นหรอ,มีอะไรผิดปกติหรอ?
WHAT’S THE MATTER แปลว่า มีปัญหาอะไร, เกิดอะไรขึ้น
WHAT’S THE PROBLEM แปลว่า มีปัญหาอะไร,เกิดปัญหาอะไรล่ะนี่
WHAT’S THE TROUBLE แปลว่า มีปัญหาอะไร, เกิดปัญหาอะไรล่ะนี่
SECTION 14: The same meaning of word “WAIT”
WAIT A MINUTE! แปลว่า รอฉันแป๊ปนึงนะ (คำว่าราวหนึ่งนาทีเป็นแค่การเปรียบเทียบ)
WAIT A SECOND! แปลว่า รอฉันแป๊ปนึงนะ (คำว่าราววินาทีเป็นแค่การเปรียบเทียบ)
WAIT A MOMENT! แปลว่า รอฉันครู่หนึ่งนะ
JUST A MINUTE! แปลว่า รอฉันแป๊ปนึงนะ (คำว่าราวหนึ่งนาทีเป็นแค่การเปรียบเทียบ)
JUST A SECOND! แปลว่า รอฉันแป๊ปนึงนะ (คำว่าราววินาทีเป็นแค่การเปรียบเทียบ)
JUST A MOMENT แปลว่า รอฉันครู่หนึ่งนะ
SECTION 15: The same meaning of word “IT DOESN’T MATTER”
NO PROBLEM แปลว่า ไม่เป็นไรหรอก,หยวนๆ
DON’T WORRY แปลว่า ไม่เป็นไร,ไม่ต้องกังวลหรอก
IT’S FINE แปลว่า มันไม่เป็นไร, มันโอเคดี
IT’S OK แปลว่า มันไม่เป็นไร, มันโอเคดี
SECTION 16: iNTerEstinG Words
Kidding แปลว่า ล้อเล่น (เช่น Are you kidding me?… เธอล้อฉันเล่นอ๊ะป่าว)
Find out แปลว่า เสาะแสวงหา, ค้นหา (เช่น I don’t know this word, l’ve to find out.)
Spring Break แปลว่า ช่วงปิดเทอม
SECTION 17 “EXCLAMATION”
WOW!? ว้าว
COOL!แปลว่า เจ๋งว่ะ
AWESOME! แปลว่า เจ๋งสุดๆ
THAT’S HOT! เจ๋งสุดๆ
THAT’S SMOKING!แปลว่า เจ๋งสุดๆ
THAT’S FAB! แปลว่า เจ๋งมากๆ
YOU GO GURL! แปลว่า ต้องอย่างงี้สิเพื่อนฉัน
FOR SHAME! แปลว่า น่าอายจริงเลย
SHAME ON YOU! แปลว่า น่าอายจริงเลยแก
MY WORD! แปลว่า แหม
WHAT CHEEK! แปลว่า ทะลึ่งจริง
YUM, YUM หรือ YUMMY เป็นเหมือนเสียงสูดปากแสดงความอยากกินอาหารชนิดนั้นๆ
LOOK! แปล ว่า นี่ ฟังนะ (ไม่ได้หมายความว่า มอง) (เช่น Look! I try to tell you but you don’t get it. แปลว่า นี่ ฟังนะ ฉันพยายาม บอกนายแล้ว แต่นายมันไม่เข้าใจเอง)
OH! BOYหรือ OH! MAN แปลว่า โอ้ ให้ตายสิ
WELL DONE! แปลว่า ทำได้ดี
GO ON! แปลว่า ทำต่อไป
SECTION 18: EXCLAMATION
WHAT A PITY! แปลว่า ไม่น่าเลย,น่าเสียดายจัง
OH DEAR! แปลว่า พุธโธ่
GOOD SHOT! แปลว่า แม่นจริง
HERE IT IS แปลว่า มาแล้วหรอ,นี่ยังไงล่ะ
HI! YOU THERE แปลว่า นี่คุณคนนั้นน่ะ
BY THE WAY แปลว่า เออ นี่ฉันมีเรื่องอยากจะพูด
THAT?S IT! แปลว่า นั่นแหละ,ถูกแล้ว,ต้องยังงั้น
REALLY! แปลว่า อ๋อ ยังงั้นรึ
BY ALL MEANS! แปลว่า เชิญเลย
UGH! เสียง อืย (แสดงความขยะแขยง)
OUCH! แปลว่า โอ๊ย
OOPS! แปลว่า อุ๊ย
GO IT! แปลว่า เอาเลย
9 คำอุทาน ถึงพระเจ้าไม่ช่วย ก็ทอดกล้วยเองได้
Oh my! , Goshh!
“โอ้พระเจ้า” แปลเหมือน Oh my god! เลยค่ะ
แต่บางคนเค้าจะถือว่าคำนี้สุภาพกว่าเพราะคำว่า god (พระเจ้า)
เหมือนเป็นการนำมากล่าวเล่นๆ ไม่นับถือ
.
Oh my goodness!
“โอ้คุณพระ” จะอุทาน เวลาประหลาดใจ
หรือในเวลาที่เราผิดหวังได้ด้วยค่ะ
.
Well done
“เยี่ยมไปเลย” ใช้ในเวลาชื่นชมบางอย่าง
แต่บางทีก็ใช้ในความหมายประชดได้เหมือนกันนะ
.
For God’sake
“เห็นแก่พระเจ้าเถอะ” ถ้าจะให้เข้าใจกันก็ประมาณ “ขอทีเถอะ” เช่น
For God’sake, don’t do that ขอทีเถอะอย่างทำอย่างนั้นเลย
.
Whatever
“ยังไงก็ได้” ถ้าจะให้ความรู้สึกแบบแปลตรงๆก็ “ช่างแม่งเถอะ”
หรือใช้เวลารู้สึกเบื่อๆ เหนื่อยหน่ายอะไรสักอย่าง
.
Oh! come on
แปลตรงๆ คือ “โธ่ ไม่เอาน่า” เช่น เวลาเราชวนเพื่อนไปไหนแล้วเพื่อนไม่ไป เราก็จะบอก oh! come on.
.
Blah-blah
มันเป็นเหมือนการเลียนเสียงแบบ “บลา บลา พูดไปเถอะ” ใช้เวลาแสดงความรำคาญ เวลาใครพูดอะไรที่เราไม่อยากฟัง
.
Holy cow!
วัวศักสิทธิ์ ใช่ซะที่ไหนล่ะ อารมณ์มันก็จะประมาณ “พระเจ้าช่วย” นั่นล่ะ
.
Oh really!
“โอ้ จริงอะ” ใช้ตอนรู้สึกแปลกใจแบบไม่น่าเชื่อ
หรือใช้เป็นคำประชดประชันเวลาเราไม่เชื่อใครสักคนก็ได้นะ
40 คำอุทานในภาษาอังกฤษที่ต้องรู้
2. Aha [อ่าฮ่า] เสียงแสดงชัยชนะ หรือจะใช้เยาะเย้ยอีกฝ่ายด้วยก็ได้
3. Ahem [อะเฮ่ม] เสียงกระแอมเพื่อเรียกความสนใจ แบบอะแฮ่มๆ
4. Argh [อ๊าร์ก] เสียงโวยวาย แสดงความไม่พอใจ มักเขียนตัว h เพิ่มยาวๆ ตามระดับความไม่พอใจ เหมือนกับ อ๊ากกกก ย๊ากกกก
5. Aw [อ่อว] เป็นได้ทั้งเสียงในแง่ลบและแง่บวก แง่ลบคือแสดงความผิดหวัง แง่บวกคือแสดงความเห็นใจหรือใช้เวลาเห็นอะไรน่ารักๆ เช่นเห็นเด็กน่ารักๆ ก็ Aw แบบลากเสียงยาวๆ
6. Aye [อ้าย] เสียงแสดงการเห็นด้วย ถ้าใครถามว่าตกลงมั้ยกับวิธีการนี้ ถ้าเห็นด้วยก็ตอบว่า Aye ได้เลย
7. Boo [บู้] เสียงจ๊ะเอ๋ให้ตกใจ เหมือนแฮ่
8. Boo-hoo [บูฮู] เสียงเยาะเย้ยเวลาคนที่เราแกล้งเขาร้องไห้ เป็นเสียงที่ไม่สุภาพ เพราะเป็นการรังแกคนอื่น
9. Bwah-hah-hah [บวาฮาฮ่า] เสียงหัวเราะอันชั่วร้ายของตัวร้ายเวลาชนะฝ่ายดีได้
10. Duh [ดะ] เสียงที่ใช้เมื่อฝ่ายตรงข้ามถามอะไรโง่ๆ หรือถามสิ่งที่เห็นได้ชัดอยู่แล้ว เลยตอบไปพร้อมเสียงนี้ เหมือนต่อท้ายว่า "ถามมาได้ไง" เช่น ถามว่า How did you get in here? เลยตอบว่า Through the door, duh. (เธอเข้ามาที่นี่ได้ยังไง - ก็เดินเข้าประตูมาน่ะสิ ถามได้)
11. Eh [เอ] ปกติมักมากับเครื่องหมายคำถาม (ออกเสียงเป็น เอ๋) ใช้ถามเพื่อให้พูดอีกครั้ง เพื่อเป็นการคอนเฟิร์มสิ่งที่ได้ยินในตอนแรก แต่บางทีก็เจอแบบที่ไม่เครื่องหมายคำถามเช่นกัน จะใช้แสดงความไม่สนใจ
12. Er, Erm [เอ่อร์, เอิ่ร์ม] เสียงที่ใช้เวลานึกอยู่ว่าจะพูดอะไร มักลากเสียงยาวๆ ใช้เพื่อยื้อเวลาไว้ก่อนว่าเราคิดอยู่นะ แป๊บนึง นอกจากนี้ก็ใช้คำว่า Uh [เอ่อ] ได้เช่นกัน
13. Ew [อิ้ว] เสียงแสดงความรังเกียจ ยิ่งเกลียดมากยิ่งลากเสียงยาว เวลาเขียนก็เช่นกัน มักลากยาวๆ ว่า Eeeeeeew หรือ Ewwwwwwww
14. Ha [ฮ่า] เสียงแสดงชัยชนะ หรือความดีใจมากๆๆๆๆ จะออก "ฮ่า" เดียว สั้นๆ
15. Haha [ฮ่าฮ่า] เสียงหัวเราะ เพราะตลก สนุกสนาน หรือจะหัวเราะเยาะเย้ยก็ได้ ขำมากก็เพิ่ม ha เข้าไปได้อีกเรื่อยๆ บางทีก็เป็นหัวเราะแบบประชด
16. Hee-hee [ฮี่ฮี่] เสียงหัวเราะแสดงความชั่วร้าย หัวเราะแบบเจ้าเล่ห์หรือมีแผนร้ายอะไรอยู่ บางครั้งเขียนเป็น Heh-heh [เฮะเฮ่] ก็ได้เช่นกัน
17. Hey [เฮ่] ใช้แสดงความตกใจ หรือแสดงความยินดี หรือใช้เรียกคนอื่นแบบ "เฮ้"
18. Hist [ฮิสต์] เสียงที่ใช้เป็นสัญญาณบอกให้เงียบ แบบจุ๊ๆ นอกจากนี้ก็มีเสียง Shh [ชือ] ที่ใช้บอกให้เงียบได้เหมือนกัน เหมือนชู่
19. Hm [หืม] เสียงแสดงความสงสัยใครรู้ ความสับสน ความไม่แน่ใจ ความลังเล มักเขียนใส่ตัว m เยอะๆ
20. Hooray [ฮูเร่] เสียงแสดงความยินดี ความสุข หรือชัยชนะ
21. Huh [ฮ่ะ/เฮอะ] เสียงแสดงความไม่อยากเชื่อ แต่ถ้าใส่เครื่องหมายคำถามไปด้วยจะเป็นการถามให้พูดซ้ำอีกครั้ง
22. Meh [เหมะฮ์] เสียงแสดงความไม่สนใจในคนนั้นหรือสิ่งที่คนนั้นกำลังพูด ไม่แคร์คนนั้นรู้สึกว่ามันน่าเบื่อมาก
23. Oh [โอ๊ะ/โอ้] มีความหมายหลายอย่าง สามารถใช้เป็นเสียงแสดงความเข้าใจ (โอ้ อย่างนี้นี่เอง) หรือจะใส่เครื่องหมายคำถามเป็นการถามย้ำว่าจริงๆ หรอ บางทีก็ใช้นำหน้าเวลาเรียกคน นอกจากนี้ยังใช้แสดงว่า "เพิ่งนึกขึ้นมาได้" หรือเป็นเสียงแสดงความเจ็บปวดหรือความสุข
24. Ooh [โอ้] เสียงนี้จะลากยาวกว่าเสียงเมื่อกี้ ใช้แสดงความสนใจ ความชื่นชม แต่บางครั้งก็เหมือนเป็นการประชดว่าเหมือนจะสนใจ แต่จริงๆ แล้วไม่แคร์เลยซักนิด
25. Oops [อุ๊ปส์] เสียงที่ใช้เมื่อเกิดความผิดพลาด
26. Ouch [เอ้าช์] เสียงแสดงความเจ็บปวดทั้งทางกาย เช่นหกล้มเป็นแผล และทางใจ เช่นโดนด่าแล้วเจ็บจนจุกไปเลย ก็เอ้าช์ได้เช่นกัน
27. Pff [พึฟ/เพิฟ] แสดงความรู้สึกว่าน่ารำคาญจัง หรือแสดงว่าผิดหวัง น่ารังเกียจ บางทีก็ใช้ลงท้ายประโยคเพื่อย้ำว่าเรื่องที่พูดไปนั้นมันเป็นเรื่องแย่หรือเรื่องที่น่ารำคาญจริงๆ
28. Poof [พุฟ] เสียงที่ใช้เวลาเล่นมายากลให้อะไรหายไป "พุฟ กระต่ายหายไปแล้ว"
29. Tchah [จึ๊] ออกเสียงโดยเอาลิ้นแตะด้านหลังของฟันหน้าบน แล้วพ่นลมออกมาพร้อมดีดลิ้นลงมา (ยากเนอะ) เป็นเสียงจิ๊จ๊ะแสดงความน่ารำคาญค่ะ บางทีก็เขียน Tch เฉยๆ หรือ Tsk ก็ออกเสียงคล้ายๆ กัน
30. Ugh [เอิ๊ก] เสียงแสดงความรังเกียจ
31. Uh-huh [อ่าฮะ/อ่าฮ่ะ] เสียงแสดงความเห็นด้วย หรือแสดงความเข้าใจ
32. Um [เอิ่ม] เสียงที่ใช้เวลากำลังนึกอยู่ว่าจะพูดอะไรต่อ โดยที่สิ่งที่จะพูดต่อนั้นก็ยังไม่ค่อยมั่นใจด้วย
33. Whee [วี่] เสียงแสดงความสนุกสนานตื่นเต้น เช่นเวลาเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุก มักลากเสียงยาวๆ
34. Whoa [โว่ว] เสียงที่ใช้เมื่ออยากบอกให้อีกฝ่ายหยุด หรือทำอะไรให้ช้าลง เช่นอีกฝ่ายเติมน้ำให้เราเยอะมาก เราเลยบอกว่า Whoa เพื่อให้เทช้าลงหรือให้พอ
35. Wow [ว่าว] เสียงแสดงความตกตะลึง หรือมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้น เหมือนว้าว
36. Yay [เย่] เสียงแสดงความยินดี หรือดีใจด้วย เหมือนเย้
37. Yikes [ไย้คส์] เสียงแสดงความกลัวหรือความกังวล แต่จะออกแนวทะเล้น หรือแกล้งจงใจพูดมากกว่า
38. Yoo-hoo [ยู้ฮู] เสียงเรียกให้หันมาสนใจ หรือเสียงทักทายให้คนหันมา
39. Yuck [ยัค] เสียงแสดงความรังเกียจ หรือขยะแขยง
40. Yum, Yummy [ยัม, ยัมมี่] เสียงแสดงความอร่อยเวลาทานของอร่อย หรืออาจใช้เวลามีเพศตรงข้ามหน้าตาดีเดินผ่านมาแล้วเราส่งสัญญาณบอกเพื่อนว่าอาหารตาน่ากินมาแล้ว ก็ใช้ยัมแต่ลากเสียง ม. ยาวๆ เป็น Yummmmmm
กว่า 100 คำอุทานภาษาอังกฤษ ที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน และบทสนทนากับชาวต่างชาติ!!!
Well? แล้วยังไง? ต้องการอะไร? มีอะไรพูดอีกไหม?
Well, ก็ตามใจ อย่างนั้นก็ได้ (ยินยอมแบบไม่เต็มใจนัก) หรือ พอกันที (จบเรื่องแล้ว) หรือ เอ (แสดงความไม่แน่ใจ)
Well then ถ้ายังงั้นละก็
Oh! (เสียงสูง) ยังงั้นรึ?, (เสียงต่ำ) โอ (แสดงความประหลาดใจหรือความดีอกดีใจ), (ทอดเสียงสูงขึ้นเป็นลำดับ) แสดงความประหลาดใจ หรือไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้, (เสียงต่ำ) อ้อ (แสดงว่านึกขึ้นได้ว่ามีอะไรจะพูดอีก), (เสียงต่ำ) เอาเถอะ ช่างเถอะ (แสดงความทอดอาลัย)
Ouch (ออกเสียงว่า “อ๊าว-ฉึ”) หรือ Ow (ออกเสียงว่า “อ๊าว) ทั้งสองคำจะใช้อุทานเวลาร้องโอ๊ยเจ็บ
Oops (ออกเสียงว่า “อุ๊ปส์”) เทียบกับภาษาไทยว่า “อุ๊ย” ใช้เมื่อทำอะไรพลาดโดยไม่ได้ตั้งใจ ถ้าเป็นผู้หญิงก้อจะนิยมยกมือขึ้นมาปิดปากตอนพูดว่า “Oops!” ด้วย (ชบาว่าหลายคนคงคุ้นคำนี้นะคะ จากเพลง Oops! I did it again ของ Britney Sphere)
Woah (ออกเสียงว่า “โว้ว”) หรือ Wow (ออกเสียงว่า “ว้าว”) เทียบกับภาษาไทยว่า “ว๊าว” ใช้เวลาตกใจเพราะบางสิ่งบางอย่างเจ๋งมาก
Dang (ออกเสียงว่า “แดง”) สามารถใช้อุทานเช่นเดียวกับ Woah หรือ Wow แบบว่า “มันสุดยอดมาก” ยิ่งถ้าอุทานยืดเสียงออกไป คือยิ่งยาวสุดยอดดดดดดดดดดดด! อ้อ Dang สามารถใช้อุทานเวลาผิดหวังได้อีกด้วย จะแปลว่า “แย่จัง”
Aw (ออกเสียงว่า “อ่อ) แปลว่า “แย่จัง” เป็นอีกคำที่ใช้อุทานเวลาผิดหวัง นอกจากนี้ Aw ยังสามารถใช้อุทานเวลาเราเห็นอะไรน่ารักๆ เช่น เด็กๆ หรือ อะไรที่ซาบซึ้ง เช่น มีคนบอกรัก สามารถใช้ Aw อุทานใน 2 กรณีนี้ ยิ่งอุทานแล้วยึดเสียงยาวๆ หมายถึงยิ่งน่ารักหรือยิ่งซึ้ง ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่นิยมอุทานว่า “Aw” เวลาคนอุทานแบบนี้ นิยมเอียงหัวไปทางหนึ่งแล้วทำหน้าแอ๊บแบ๊วด้วย (ต๊ายๆๆๆ ชบาจะจำใปใช้ คริคริ)
What’s up / Holla / Holla at cha boy ที่ใช้ทักทายกัน ยังสามารถนำมาใช้อุทานได้เวลาที่เราดีใจมากๆ หรือคำว่า Alright (ซึ่งหมายถึง “เยี่ยมมาก”) ก็สามารถนำมาใช้อุทานว่า Yes ได้เช่นกัน หรือจะใช้ Woohoo (ออกเสียงว่า “วู้-ฮู่”) เวลาเราดีใจก็ได้ด้วยเช่นกัน หรือจะใช้ Hooray ก็ได้ แต่วัยรุ่นไม่ค่อยพูดกัน (ต๊าย! คำนี้ชบาจะไม่จำไปใช้ค่ะ เพราะชบายังวัยรุ่นอยู่) หรือจะใช้ Yahoo เวลาเราดีใจก็ได้ด้วย (ห้ามอุทานว่า Google นะคะ ไม่เกี่ยวกันถึงแม้จะเป็น search engine เหมือน Yahoo ก็ตามเถอะ) และจะมีคำสำหรับคาวบอยนิยมใช้กันเวลาดีใจคือ Yeehaw (ออกเสียงว่า “ยี้-ฮ่อ”) แต่คนทั่วไปไม่นิยมใช้กัน เพราะมันไม่เท่ แต่ถ้าอยากจะเท่ละก็ต้องใช้คำนี้ Woot (ออกเสียงว่า “วู้ท) เป็นคำที่วัยรุ่นชอบอุทานเวลาดีใจมั่กมาก
มาถึงคำอุทานที่ค่อนไปทางหยาบคายหน่อย ที่พอจะใช้อย่างสุภาพหน่อยก็มี What the heck? หรือ What the เฉยๆ (แปลว่า “อะไรว้า”) ซึ้งใช้เวลาเราอึ้งหรือตกใจ คำว่า heck นี้ เมื่อเปลี่ยนเป็นคำอื่นจะทำให้การอุทานหยาบคายขึ้น (ชบาเดาว่าต้องเป็นคำว่า เอฟ ยู ซี เค แหง่ๆ แต่ในที่นี้ครูเบนไม่ได้บอกไว้นะคะ ชบาคาดเดาเอาเอง)
Holy cow (ไม่ได้แปลว่า “วัวศักดิ์สิทธิ์” นะคะ) หรือใช้ holy เฉยๆ ก็ได้ (แปลว่า โฮ้โห) คำนี้จะใช้เมื่อเราตกใจก็ได้เช่นกัน และหากเปลี่ยนคำว่า cow เป็นคำอื่น การอุทานก็จะหยาบคายขึ้น
Shoot เป็นอีกหนึ่งคำอุทานที่เราสามารถใช้ได้เวลาเกิดเรื่องแย่ๆ เช่น
Kameal: Homie, it’s all fake. (เพื่อน มันของปลอมทั้งนั้น)
Ben: Shoot
(แย่จัง)
รวมประโยคพูดให้กำลังใจ ภาษาอังกฤษ ซึ้งสุดๆ
Be strong! เข้มแข็งไว้นะ
Cheer up! ร่าเริงหน่อยสิ
Chill out! ใจเย็นๆ นะ
Don’t discourage. อย่าเพิ่งท้อแท้ไปเลย
Don’t feel so bad. อย่ารู้สึกแย่ไปเลย
Don’t think too much. อย่าคิดมากเลยน่า
Don’t worry about it. อย่ากังวลใจไปเลย
I feel for you. ฉันเห็นใจเธอนะ
I’ ll encourage you. ฉันจะเป็นกำลังใจให้นะ
It can’t be that bad. มันไม่ได้แย่ขนาดนั้นมั้ง
Pull yourself together. ทำตัวให้สดชื่นหน่อย
Snap yourself out of it. ลืมมันไป ไม่ต้องเก็บมาใส่ใจ
Look on the bright side. มองโลกในแง่ดีบ้างเถอะ
it’s could happen to anyone. เรื่องแบบนี้อาจเกิดกับใครก็ได้
I hope you get well soon. หวังว่าคุณคงจะหายดีเร็วๆ นี้นะ
I hope you get better soon. หวังว่าคุณคงจะดีขึ้นเร็วๆ นี้นะ
keep fighting สู้เค้า
fight on สู้ต่อไป (ทาเคชิ)
keep going ก้าวต่อไป
hang in there สู้ๆ อย่าหยุด
hang on / hang on there สู้ดิเฮ้ย
don’t give up อย่ายอมแพ้
don’t get discouraged อย่างเพิ่งหมดกำลังใจ
it's gonna be ok เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง
You’ll get through this เดี๋ยวเธอก็ผ่านมันไปได้นะจ๊ะ
I’m always here for you ฉันอยู่ข้างเธอเสมอนะ
smile on chin up ยิ้ม เริ่ด เชิด จบ
You can do it เธอทำได้แน่
May the force be with you ขอให้พลังจงสถิตย์อยู่กับคุณ
เวลาให้กำลังใจคนอื่นเป็นภาษาอังกฤษ คนไทยส่วนใหญ่ชอบใช้คำว่า "fighting!!" แต่จริงๆ แล้วมันผิด มันแปลว่า "กำลังสู้กับอะไรซักอย่าง" ซึ่งคนละเรื่องกับการให้กำลังใจเลยนะ นอกจากคำด้านบนแล้ว ยังมีประโยคอีกมากมายให้กำลังใจพูดได้หลายแบบ ไปดูกันเลย
Don’t worry, be happy ! แปลว่า อย่ากังวัลไปเลย จงมีความสุขซะนะ
Cheer up! It’s not that bad! หรือ Come on, it isn’t that bad. แปลว่า ร่าเริงหน่อย มันไม่ได้แย่หรอกนะ
Come on, just look on the bright side, you could have แปลว่า ไม่เอาน่า มองไปยังด้านดีๆ ที่คุณมีซิ
Every cloud has a silver lining. แปลว่า หลังก้อนเมฆมีแสงสว่างเรืองรองอยู่เสมอ หรือก็คือ ย่อมมีสิ่งดีๆ ตามหลังจากสิ่งที่ไม่ดีเสมอ
Nothing lasts forever. แปลว่า ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืนหรอก (อย่าเสียใจไปเลยนะ)
There are plenty more fish in the sea. แปลว่า ยังมีปลาอีกมากมายในท้องทะเล ใช้ปลอบเพื่อนเวลาอกหัก ว่ายังมีคนดีๆ รออยู่อีกเยอะ อย่าเสียใจไปเลย
Get over it! แปลว่า อย่าไปคิดถึงมันเลย (ไปทำอย่างอื่นดีกว่า)
Just count your blessings. แปลว่า ลองนับสิ่งดีๆ ที่คุณมีสิ (อย่าไปคิดมากกับเรื่องที่ไม่ดีเลย)
There’s a light at the end of the tunnel. แปลว่า มีแสงสว่างอยู่ที่ปลายอุโมงเสมอ (ความหวังไม่เคยหมดไปหรอกนะ)
It’s not the end of the world. แปลว่า มันไม่ใช่จุบจบของโลกหรอกนะ (อย่าคิดมากไปเลย)
Keep on fighting. / Never give up. / Fight on. แปลว่า สู้ๆ นะจ๊ะ
I’m behind you all the way. / I’m right behind you. แปลว่า ฉันจะอยู่ข้างหลังคุณตลอดทั้งเส้นทาง (จะคอยเป็นกำลังใจให้คุณนั่นเอง)
You have my full support. / You have my backing. แปลว่า คุณมีแรงสนับสนุนของฉันอย่างเต็มกำลังเลย
Keep going, I’ll support you. แปลว่า ทำต่อไปนะ ฉันจะสนับสนุนคุณ
Keep going, I’ll cheer you up. แปลว่า สู้ต่อไปนะ ฉันให้กำลังใจคุณอยู่
อังกฤษ ปะทะ อเมริกา : 10 คำสแลงแห่งปี 2016 ที่ไม่ใช้ไม่ได้!
SQUAD
มาทินีค: กลุ่มเพื่อนที่ไปเที่ยวด้วย หรืออยากจอยด้วย นึกถึงเทเลอร์ สวิฟและเพื่อนๆนางแบบของนาง
“I can’t go to the party without my squad.”
“ฉันไปปาร์ตี้ไม่ได้ถ้าไม่มี squad ของฉัน”
ทอม: สำหรับผมแล้วคำนี้หมายถึงทีมฟุตบอล ผมว่าคำนี้ยังไม่ฮิตในอังกฤษ หรือบางทีอาจจะฮิตแล้ว แต่ผมตกเทรนเอง *อีโมจิเศร้าน้ำตาหนึ่งหยด*
BAE
ม: คำนี้เป็นตัวย่อของ Before. Anyone. Else. (มาก่อนใครทั้งหมด) และหมายถึงคนรักของคุณ – ไม่ว่าจะเป็นแฟนหนุ่ม แฟนสาว หรือขนมรอบดึกอันโปรด
“If bae never gets jealous, then bae is not bae.”
“ถ้า bae ไม่หึง bae ก็ไม่ใช่ bae”
ท: อันนี้ผมเคยลองใช้ แต่แฟนผมไม่ชอบ แล้วผมก็ชอบสะกดมันอย่างนี้ bæ เพราะมันถูกหลักภาษาศาสตร์มากกว่า
ON FLEEK
ม: อะไรที่เป๊ะเวอร์ หรือแทบจะสมบูรณ์แบบ อาจหมายถึงคิ้ว หรือชุด หรือทรงผมก็ได้
“OMG, your eyebrows are on fleek!”
“ต๊าย! คิ้วเธอนี่เป๊ะเวอร์อ้ะ”
ท: อันนี้ใช้ขำๆดีที่สุด โดยเฉพาะเวลาพูดถึงอะไรเกี่ยวกับตัวเอง อย่าง “ทุกคนอย่าตกใจนะ แต่เช้านี้ผมนี่คือเป๊ะเวอร์อ่ะ” ผมอาจจะเคย หรือไม่เคยใช้คำนี้พูดถึงตัวเองมาก่อน เปลี่ยนเรื่องๆ…
QUEEN
ม: บียอนเซ่เท่านั้น แม่ก็คือแม่
“Beyoncé is Queen.”
“บีซอนเซ่คือราชินี”
ท: ไม่มีใครเป็นราชินีนอกจากพระราชินีตัวจริงในอังกฤษ แม้แต่บียอนเซ่ก็ไม่ใช่ แต่ผมก็อยากเห็นพระราชินีอลิซาเบ็ทที่ 2 เต้นเพลง Single Ladies อยู่นะ
THROWING SHADE
ม: อันนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการโดนแดดเผาแต่อย่างใด: ถ้าคุณกำลัง “throwing shade” ไปที่ใครสักคน แปลว่าคุณกำลังส่งสายตาอาฆาตไปที่คนๆนั้น เป็นการจ้องแบบไม่เห็นด้วยและตัดสิน
“That girl just threw shade at me for talking to her boyfriend.”
“ยัยคนนั้นพึ่ง throw shade ใส่ฉันเพราะฉันคุยกับแฟนนาง”
ท: อันนี้ผมไม่รู้ แต่อาจจะเริ่มใช้ตั้งแต่นี้ไป ผมว่าคนต้องมองกลับแบบงงๆและไม่พอใจแน่เลย
ROAST
ม: อันนี้ไม่ได้หมายถึงย่างหมูกระทะอะไรอย่างนั้นนะ แต่หมายถึงการด่าใครสักคนจนคนนั้นรู้สึกเหมือนถูกย่างสด
“Justin Bieber used to get roasted all the time before his last album.”
“จัสติน บีเบอร์ เคยถูกย่างสดตลอดๆก่อนจะออกอัลบัมล่าสุด”
ท: เห็นคำนี้แล้วผมนึกถึงแต่ข้าวเย็นอร่อยๆแบบดั้งเดิมที่มีเนื้อเป็นหลักที่ครอบครัวคนอังกฤษส่วนใหญ่ทานกันเย็นวันอาทิตย์ ว่าแล้วก็ชักหิว
DEAD
ม: ยังมีชีวิตอยู่ค่ะไม่ได้ตายจริง แต่สิ่งคุณได้ยินหรือได้เห็นทำให้รู้สึกเหมือนจะตายเอาให้ได้
*Sees something funny* “Dead!”
*เห็นอะไรตลกๆ* “ขอตายแป๊ป!”
ท: ผมกับเพื่อนใช้คำนี้บ่อย – ปรกติจะตามมาด้วยอีโมจิรูปหัวเราะทั้งน้ำตา 5 อันติด
LIFE
ม: สิ่งที่ทำให้โลกของคุณมีความหมาย
“Oreos are life.”
“โอริโอ้คือชีวิต”
ท: รายชื่อของอาหารที่ให้ชีวิตผมนี่เรียกว่าไม่มีที่สิ้นสุด ไม่รู้ว่าจะเริ่มใช้คำนี้ดีมั้ย เพราะกลัวจะใช้กันไม่จบไม่สิ้น
SLAY
ม: ย้อนไปในสมัยศตวรรษที่17 slaying (ฆ่า) ใช้กับศัตรูเท่านั้น แต่ในปัจจุบันหมายถึงการทำอะไรได้ประสบความสำเร็จสุดๆ
“Beyoncé doesn’t just live, she slays.”
“บียอนเซ่ไม่ได้แค่ร้องเพลงสดนะ แต่นาง slay”
ท: คำว่า slaying นั้นเคยใช้เพื่ออธิบายความกล้าหาญของอัศวินผู้เอาชนะมังกรร้าย แต่ตอนนี้ผมใช้เพื่ออธิบายสิ่งที่ผมทำกับพิซซ่าเมื่อคืน
CHILL
ม: สองสามปีก่อน chill นั้นแค่หมายถึงการผ่อนคลาย หรืออะไรง่ายๆ แต่ปัจจุบันคำนี้ดิ้นได้มากขึ้น: เป็นคำคุณศัพท์หรือคำนามก็ได้สำหรับคนที่คุณคิดว่าเท่มากๆ หรือติดดิน และเป็นคำกิริยาหมายถึงเวลาที่คุณอยากจะนัดเจอกัน ทำอะไรง่ายๆ หรือดูหนัง
“You have, like, zero chill.”
“เธอนี่มีความชิลเป็นศูนย์อ่ะ”
ท: นี่พึ่งถูกบอกว่าไม่มีความชิล ก็ไม่รู้จะทำตัวยังไง แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าไม่ได้ถูกชม ฉะนั้นถึงคนที่ว่าผมไว้นะ: เดี๋ยวจะทำให้ดูว่านี่เป็นคนชิลมาก ชิลเต็ม ชิลที่สุดในสามโลก
Hands off! อย่าจับต้อง อย่ามายุ่ง
Hands up! ยกมือขึ้น
Stick’em up! ยกมือขึ้น (ผู้ร้ายสมัยใหม่มักชอบใช้แบบนี้)
For shame! น่าอายจริง
Shame on you! น่าละอายจริง แกนี่!
Easy! เบาๆค่อยๆ (ไม่ใช่ง่ายๆ)
Go easy! ทีละน้อย
No fear! ไม่ได้แน่! ไม่มีทาง! (ไม่ใช่ไม่กลัวหรือไม่ต้องกลัว)
My word! แหม!
Good riddance!เออ ไปเสียก็ดี! พ้นๆไปเสียที!
None of your impudence!อย่าทะลึ่งนักเลย
What cheek! ทะลึ่งจริง
For goodness’ sake! เพื่อเห็นแก่พระเจ้า
a penny for your thought กำลังคิดอะไรง่วนอยู่? (ถ้าบอกมาจะให้สตางค์)
Get a move on! เร็วๆเข้า
Look sharp! เร็วๆเข้า
Look alive! เร่งไม้เร่งมือเข้า
Shut up! หยุดพูดที!
Dry up! (ภาษาสแลง) เงียบเสียที!
Quiet! อย่าเอะอะ! เงียบ!
Hush! เบาๆหน่อย! อย่าพูด!
Hark! ฟัง! (เป็นภาษาค่อนข้างโบราณ)
Tell that to the marines! อย่ามาพูดเลย ไม่มีใครเชื่อหรอก!
Halt! หยุด! (เป็นคำบอกแถวทหาร)
Right oh!, Right you are! ได้ครับ! ได้ซี!
Shoo! เสียงไล่นก ฯลฯ
Yum, yum! เป็นเสียงแสดงความอยากกิน เทียบกับเสียงสูดปากของไทย
Eh! ใช้แสดงความแปลกใจหรือสงสัยหรือเป็นการซ้อมความเข้าใจหรือดักคอ คล้ายๆกับ ใช่ไหมล่ะ!
Oho! โอ้โฮ!
Ah! โอ! (แสดงความประหลาดใจ) โอ้ (แสดงความสงสาร)
Aha! เออแน่ะ ยังงั้นซี (แสดงความประหลาดใจ ความมีชัย ความพึงพอใจ)
All together! ทุกคนพร้อมกัน!
No more of your cheek! อย่ามาทะลึ่งอีกเลย!
What a pity! เสียดายจริง! ไม่น่าเลย! ไม่ควรที่เลย!
What a nuisance! น่ารำคาญจริง!
What, again! บ๊ะ เอาอีกแล้วหรือนี่!
Come! Come! นี่พูดจริงๆนะ
Go on! มีสองความหมายคือ 1.ทำต่อไป! 2.อย่าพูดเหลวไหลน่า
Mind! ระวัง!
Come on! เร็วเข้า! ไม่เอาน่า!
Not at all! ไม่เป็นไรมิได้ (ใช้เป็นคำตอบเมื่อมีผู้แสดงความขอบใจ)
Look out! ระวัง! (ไม่ใช่ให้โผล่หน้าต่างออกไป)
Bother! อุบ๊ะ! ยุ่งจริง!
Why yes! อ๋อ ก็ถูกแล้ว (ไม่น่าถามเลย)
Why no! เอ๊ะ อย่างนั้นไม่ได้ ไม่ใช่อย่างนั้น
Believe it or not! เชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามใจ
You don’t say so! ยังงั้นเชียวรึนี่!
Let me see! ไหนเรื่องนั้น ขอคิดดูก่อน
Now เอาละทีนี้
Now then เอาละทีนี้
What of it? แล้วยังไงล่ะ
So what! แล้วยังไงล่ะ (ทันสมัยกว่า และเป็นภาษาแบบอเมริกัน)
That’s a dear ต้องยังงั้นคนดี (มักใช้พูดกับเด็ก เป็นการเอาใจให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้)
Oh, dear! พุทโธ่เอ๋ย! อพิโธ่! (แสดงความประหลาดใจ ความพิศวงงงงวย หรือความรำคาญ)
Dear me! อนิจจา
Good Heavens! คุณพระช่วย (คำว่า Heavens ในที่นี้หมายถึง พระเจ้า ไม่ใช่สวรรค์)
Good gracious! ตายจริง
Goodness gracious! คุณพระคุณเจ้า! (คำว่า goodness หมายถึง พระเจ้า คำอุทานนี้ผู้ใช้มักเป็นผู้หญิง)
Capital! วิเศษณ์จริง!
Splendid! วิเศษณ์แท้!
Well done! ดีจริง
Good shot! แม่นจริง!
Well tackled! ต้องจับยังงั้นซี! (ใช้ในการชมกีฬารักบี้)
There! There! โอ๋! โอ๋! (คำปลอบเด็ก)
There you are! นั่นปะไร
Here it is! นี่ยังไงล่ะ! อ้อ มาแล้วรึ!
There’s a good boy! นั่นเด็กดีต้องยังงั้น
Hi! You there! นี่คุณคนนั้นน่ะ!
By the way เออ มีเรื่องอยากจะพูด
Look where you’re going!เอ ไม่มีตาหรือยังไง
Encore! ขอ (ฟัง) อีกที
That’s it ใช่แล้ว! ถูกแล้ว! ต้องยังงั้น!
Let him have it! ล่อมันเข้าสักทีเถอะนะ
Keep at it! ทำเข้า (อย่าเลิก)
Here goes! เอาล่ะ ฉันจะพูดละ
Very well! ยังงั้นก็ดีแล้ว
Oh well! เออ ทำยังไงได้
Oh no you don’t อ๋อ ทำยังงั้นไม่ได้แน่
By all means เชิญเลย
Of course แน่นอน ไม่มีปัญหา
Certainly ได้สิ
Certainly not ไม่ได้แน่
No such luck! โชคไม่ดีอย่างนั้นหรอก!
Hard luck! โชคไม่ดีเลย
Just my luck! โชคฉันไม่ดีเอง โทษใครไม่ได้
Really? (เสียงสูง) จริงหรือ? (แสดงความประหลาดใจ) / (เสียงต่ำ) ยังงั้นเรอะ (แสดงการเยาะเย้ย) /(เสียงกลางๆ) ยังงั้นรึ (แสดงความไม่สนใจ)
Get set! ระวัง (เป็นคำที่ผู้ปล่อยตัวนักวิ่งร้องเตือนก่อนยิงปืน)
Ugh! อืย (แสดงความขยะแขยง)
Ouch! โอ๊ย อุ๊ย
Blah! เฮ้อ (แสดงความเอือมระอา)
Bah! ว้า อุวะ (แสดงความเหยียดหยาม)
Wow! โอ้โฮ! แม่เจ้าโว้ย!
Go it! เอาเลย
Enough of that! พอที
What did I tell you? บอกแล้วไหมล่ะ
Catch me doing that! ฉันไม่มีวันทำยังงั้นหรอก
Stop thief! ขโมย! ขโมย!
Fire! ไฟไหม้
Who goes there? ใครนั่น? (เป็นคำทักของทหารยาม)
There he (she) goes. เขา/เธอ เริ่มแล้วไหมล่ะ (แสดงความรำคาญคนพูดมากที่เริ่มพูด)
32 คำสบถในภาษาอังกฤษพร้อมคำแปล ที่เหล่าชาวต่างชาติมักใช้กันเป็นประจำ!!
Shut the F..ck up = หุบปากไปเลยนะคะสัตว์โลก
Suck my dick = หุบปากไปเลยนะคะคุณสัตว์โลก!! (หยาบคายขั้นรุนแรงนะอันนี้)
Go f..ck yourself = ไปให้ไกลๆ บาทาเลยนะ(ด่าด้วยคำนี้ถือว่าค่อนข้างซีเรียสนะ ส่วนใหญ่ไม่เอามาพูดเล่นหรือพูดกับเพื่อนกันหรอกนะจ้า)
Get the F..ck out = ไปให้พ้นๆ เลย (ตัวอย่างเช่น Get the F..ck out of my face = ไปให้พ้นๆ ใบหน้าเลยคะคุณ)
Damn!! = เป็นคำอุทาน!!! อารมณ์ประมาณว่า แม่คุณเอ้ยยย!! แม่คุณเอ้ยยยยย
God damn it!!!! = เป็นคำอุทานเหมือนกัน ความหมายเดียวกับ Oh My God (shh) แต่หยาบกว่านิดหน่อย
Oh my F..cking God!!! = คำอุทาน ความหมายเหมือน Oh My God แต่ หยาบมากๆ (สามารถใช้ในกุล่มเพื่อนๆ ได้ไม่ค่อยซีเรียส)
Oh shit!! = ให้แปลตรงตัวก็ โอ้ อุนจิ!!! เย้ยๆๆ ไม่ใช่แล้ว ความหมายจริงๆ ของ อารมณ์เดียวกับ Damn
Oh F..ck = เป็นคำอุทานเหมือนกัน แต่ความหมายจะหยาบกว่ามากๆ อารมณ์แบบว่า ขับรถอยู่แล้วจู่ๆ โดนปาดหน้า จึงสบถออกมาว่า ไอ้ปิ้กกาจู๊เอ้ย!!
Holy shit, Holy F..ck, Holy hell = (Holy แปลว่าศักดิ์สิทธิ์)
เป็นคำอุทาน ที่หยาบคายนิดหน่อย ความหมายเดียวกับ Damn!! = แม่คุณเอ้ยยยยยย, เวรกรรมจริงหนอ!!
Hell Yeah = แปลว่า Yes !! แต่จะหยาบกว่านั้นนิดนึง ถ้าเป็นภาษาไทยก็ เออดิ…
F..ck You = ถ้าใช้กับฝรั่ง ก็อารมณ์ประมาณว่า ไปตายเลยนะคะคุณอ่ะ
Damn you = ความหมายเหมือน F..ck you แต่จะหยาบกว่า และซีเรียสกว่า แบบไม่พูดเล่นๆ กันนะจ้า
Go to F..cking hell = ไปตายซะเถอะนะคุณอ่ะ, ไปรับเวรรับกรรมในนรกเถอะ
Don’t kiss my ass = อย่ามาสตอเบอร์รี่นะยะขอร้อง!!
Sons of bitch = คุณคือลูกที่เกิดจากโสเพณีคะ T^T (แร๊งงงงงงมากกกกคำนี้)
am in deep shit = ฉันกำลังจะซวยแล้ว, ความซวยกำลังมาเยือนแล้ว
I F..cked up = ความหมายเดียวกับ I am in deep shit คำที่สุภาพกว่านี้ก็คือ I am in trouble
Screw you = พ่อคุณเสียแล้ว
Screw up = ไม่ใช่คำด่านะ แต่เป็นคำอุทาน ประมาณว่า โอ๊ะ โอ!! ซวยแล้ว
Chicken = เมื่อถูกเอามาใช้ในคำด่า มันแปลว่า ไอ้ไก่อ่อน
Noob, Loser = noob นี่เชื่อว่าสาวกเกมส์ออนไลน์ทั้งหลายคงจะเคยโดนด่าคำนี้กันมาถ้วนหน้า มันแปลว่า อ่อนอะ กาก เกรียน เด็กน้อยวะ
Dick = ปิ้กกาจู้
Dick head = หัวปิกกาจู้
Jerk = ไอ้ทึ่ม
Go jerk yourself = คุณไปเล่นว่าวของคุณเหอะ!!
ass, ass hole = แปลว่า คุณเป็นที่เลวมาก
Pervert = ไอ้โรคจิต!!!
Jackass = คุณนี่ไม่ฉลาดเลยนะ ฉลาดน้อยมากๆ เลย, คุณหน้าเหมือนกระบือเลย
You twat, You are a twat = ทำไมคุณหน้าผู้หญิงจังเนี่ย!!!!!
Low life, Low level of intellegence = สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ (พวกผู้ดีเค้าชอบด่ากันแบบเนี้ย)
~ 15 ประโยค "บอกลา" ภาษาอังกฤษที่ใช้ "บ่อยสุดๆ" ~
หมายถึง ลาก่อน
Example: It was nice talking to you. Bye!
ตัวอย่าง: ดีใจที่ได้คุยกันนะ บาย
✿ See you later
หมายถึง แล้วเจอกันน่ะ
Example: It was good seeing you. See you later!
ตัวอย่าง: ดีใจที่ได้เจอนะ แล้วเจอกันใหม่นะ
✿ See you soon
หมายถึง เจอกันเร็วๆนี้
Example: It was great seeing you. See you soon!
ตัวอย่าง: ดีใจที่ได้เจอกัน แล้วเจอกันเร็วๆนี้นะจ๊ะ
✿ Talk to you later
หมายถึง แล้วคุยกันวันหลัง
Example: It was good chatting with you. Talk to you later.
ตัวอย่าง: ดีใจที่ได้แชทกับเธอน้า แล้วค่อยคุยกันวันหลังค่ะ
✿ I’ve got to get going
หมายถึง เราต้องไปก่อน
Example: Great seeing you. I've got to get going.
ตัวอย่าง: ดีใจที่ได้เจอเธอ แต่เราต้องไปก่อนน้า
✿ I must be going.
หมายถึง เราต้องไปละ
Example: Okay! Good seeing you but I must be going.
ตัวอย่าง: โอเค ดีใจที่ได้เจอเธอนะ แต่เราต้องไปละ
✿ Take it easy.
หมายถึง ดีๆละกัน
Example: It's good talking to you. Take it easy!
ตัวอย่าง: ดีใจที่ได้คุยกันนะ ดีๆละกันจ๊ะ
✿ Until the next time.
หมายถึง แล้วเจอกันคราวหน้าจ๊ะ
Example: Thanks for hanging out. Until the next time!
ตัวอย่าง: ขอบคุณที่มาแฮงเอ้าท์กับเรานะ แล้วเจอกันคราวหน้าจ๊ะ
✿ Have a good one.
หมายถึง ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีนะ
Example: Thanks for coming to see me. Have a good one!
ตัวอย่าง: ขอบคุณที่มาเจอกันนะ ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีนะ
✿ Take care
หมายถึง เทคแคร์น่ะ
Example: Happy to see you today. Take care!
ตัวอย่าง: ดีใจที่ได้เจอกันนะวันนี้ เทคแคร์จ๊ะ
✿ Later, Laters, หรือ Catch you later
หมายถึง ค่อยว่ากัน
Example: I really don't time today. Catch you later!
ตัวอย่าง: วันนี้เราไม่มีเวลาละ แล้วค่อยว่ากัน
✿ Peace หรือ Peace out [วลีนี้เป็นสแลงค่ะ]
หมายถึง ไปก่อนนะ
Example: We'll have to meet again. Peace out!
ตัวอย่าง: เราคงต้องนัดเจอกันใหม่ ไปก่อนนะ
✿ I’m out / I’m out of here
หมายถึง เราไปก่อนนะ
Example: It's time. I'm out of here.
ตัวอย่าง: ถึงเวลาแล้วอะ เราไปก่อนนะ
✿ I gotta jet
หมายถึง เราต้องออกเดินทางละ
Example: Oh my gosh! I'm late. I gotta jet!
ตัวอย่าง: โอมายก๊อด สายแล้ว เราเผ่นก่อนนะ
✿ I gotta take off
หมายถึง เราต้องไปละน่ะ
Example: Taxi is here. I gotta take off!
ตัวอย่าง: แท็กซี่มาแว้ว ฉันไปก่อนน้า
150 ศัพท์แสลงในภาษาอังกฤษ ที่สามารถพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน
SECTION 1: The SLANG words of “HOW ARE YOU?”
WHAT’S UP? แปลว่า เป็นไงบ้างล่ะ?
WHAT’S SHAKIN’ แปลว่า เป็นไงบ้างล่ะ?
WHAT’S NEW? แปลว่า เป็นไงบ้าง?
HOW’S IT GOING? แปลว่า เป็นไงบ้าง?
HOW’S EVERYTHING GOING? แปลว่า เป็นไงบ้าง?
HOW’RE THINGS? แปลว่า เป็นไงบ้าง?
HOW’RE YOU GETTING ALONG? แปลว่า เป็นไงบ้างล่ะ?
ARE YOU DOING OK? แปลว่า สบายดีไหม?
PRETTY GOOD? แปลว่า ค่อนข้างดี
IT’S OK? แปลว่า มันก็โอเคดี
IT’S TERRIBLE? แปลว่า มันเลวร้ายมากเลย,มันแย่มากๆ
SECTION 2: ANSWER FROM NO.1
VERY WELL แปลว่า ดีมากเลยล่ะ
GOOD แปลว่า ดี
FINE แปล ว่า ก็ดีนะ (สามารถแปลว่า ก็ได้ ได้) เช่น Can you guy lend me your money? Fine แปลว่า อีนี่นายให้ฉันยืมเงินหน่อยจาได้หมายจ๊ะ (ออกแนวอินเดีย) … ก็ได้
QUITE WELL แปลว่า ค่อนข้างจะดี
SO SO แปลว่า ก็งั้นๆแหละ
NOT SO GOOD แปลว่า ไม่ดีมากหรอก
BAD แปลว่า ไม่ดีเลย
SO BAD แปลว่า ไม่ดีเอามากๆ,เซ็งอย่างแรง
SECTION 3: The SLANG words of “YES”
YEAH แปลว่า เออ,ใช่
YEA แปลว่า เออ,ใช่
YEP แปลว่า เออ,ใช่
AYE แปลว่า เออ,ใช่
ABSOLUTELY แปลว่า อย่างแน่นอนเลย
CERTAINLY แปลว่า อย่างแน่นอน
TOTALLY แปลว่า อย่างแน่นอน
SURE แปลว่า ใช่,แน่นอน
OF COURSE แปลว่า ใช่ค่ะ/ครับ
RIGHT แปลว่า ถูกต้องแล้วล่ะ
EXACTLY แปลว่า ถูกเผงเลย
SECTION 4: The SLANG words of “GUY”
DUDE แปลว่า หมอนั่น,นายนั่น,ผู้ชายที่ค่อนข้างเจ้าชู้
CHAP แปลว่า นายนั่น, หมอนั่น
BLOKE แปลว่า นายนั่น,หมอนั่น
FELLOW แปลว่า นายนั่น,หมอนั่น
SECTION 5: The same meaning of word “CLOSE FRIEND”
FRIENDSTER แปลว่า เหล่าบรรดาเพื่อนฝูง,พรรคพวก
FOLKแปลว่า เพื่อน,แก (เช่น Hey folk, what’s up? แปลว่า ไง แก เป็นไงบ้าง)
BUDDY แปลว่า เพื่อน, แก
PARTNER แปลว่า คู่หู,เพื่อนสนิท
PAL แปลว่า เพื่อน
CHUM, CHUMMY แปลว่า เพื่อนสนิท,เกลอ
GUYS, GIRLS แปลว่า เพื่อน,เธอ,นายน่ะ
SECTION 6: The SLANG words of “CRAZY”
CRACK แปลว่า บ้า,คนบ้า
BATTY แปลว่า บ้า
MAD แปลว่า บ้า,คลั่ง
FREAK แปลว่า ประหลาด,ความคิดวิตถาร
JERK แปลว่า บ้า,ประหลาด
WEIRD แปลว่า แปลกประหลาด,บ้าๆดี
SECTION 7 The SLANG words of “SWEAR WORDS”
OH! GOD แปลว่า โอ้ พระเจ้า(เรียกพระเจ้ามาช่วย อันนี้เชยมากๆเลย)
OH! MY LORD แปลว่า โอ้ พระเจ้า
FOR GODNESS! แปลว่า พระเจ้า,เจ้าประคุณเอ๋ย
FOR GOD’S SAKE! แปลว่า พระเจ้า,เจ้าประคุณเอ๋ย
FOR CHRIST’S SAKE! แปลว่า พระเจ้า,เจ้าประคุณเอ๋ย
JESUS CHRIST! แปลว่า พระเจ้า(JESUS คือชื่อของพระเยซู)
SHIT! ความหมายตรงตัวแปลว่าขี้ แต่ภาษาพูดแปลว่า ให้ตายสิ,บ้าชิบ
DAMN IT! แปลว่า ให้ตายสิ,บ้าชิบ
BULLSHIT! แปลว่า แหกตาชัดๆ, โกหกทั้งเพ
BULLCLAB! แปลว่า แหกตาชัดๆ, โกหกทั้งเพ
DAMN แล้วตามด้วย ADJECTIVEแปลว่า โค-ต-ร (เช่น Damn beautiful แปลว่า โค-ต-ร สวยเลย)
SUCK! แปลว่า ห่วยแตก (เช่น You suck แปลว่า นายมันห่วย)
SECTION 8 The SLANG words of “..”
ASSHOLE แอสโฮล (ใช้ด่าเฉพาะผู้ชาย-ความหมายแรง)?ความหมายตรงตัวแปลว่ารูตูด แต่ภาษาพูดแปลว่า อีตาบ้า,ไอ้บ้า?
BITCH (ใช้ด่าเฉพาะผู้หญิง-ความหมายแรงมาก)?แปลว่า นังแรด, ยัยแรด (เช่น You’re such a son of a b…i…t…c…h)
SLUTS (ใช้ด่าเฉพาะผู้หญิง-ความหมายแรงมาก) แปลว่า นังแรด, ยัยแรด
WHORE (ใช้ด่าเฉพาะผู้หญิง-ความหมายแรงมาก) แปลว่า คุณโส…,นังแพศยา
WIMP หมายถึง นายแหย (พี่แหยประจำโรงเรียน)
SISSY หมายถึง นายแหย (พี่แหยประจำโรงเรียน)
NERD หมายถึง พวกเรียนเก่งแต่เข้าสังคมไม่ได้, พวกทำตัวเฉิ่ม
GEEK หมายถึง พวกเรียนเก่งแต่เข้าสังคมไม่ได้
DORK หมายถึง พวกเรียนเห่ย
PREPS หมายถึง พวกป็อปแต่นิสัยแย่
JOGS หมายถึง นักกีฬาบึกๆที่ชอบหลงตัวเอง
BIMBO, DUMB BLONDE หมายถึง ผู้หญิงผมบลอนด์ที่สวยแต่ไร้สมอง
WANNABE หมายถึง พวกอยากป็อปแต่ไม่ป็อปซะที
SLAGGER หมายถึง เจ้าเด็กขี้เกียจ
SLEEPY HEAD แปลว่า เจ้าขี้เซา (เช่น Time to wake up, sleepy head. แปลว่า ได้เวลาตื่นแล้วเจ้าขี้เซา)
SECTION 9 The same meaning of word “BEAUTIFUL”
NICE แปลว่า สวย
GORGEOUS แปลว่า งดงาม, สวยแบบไม่มีที่ติ,สวยมาก,สวยกิ๋วกิ้ว?(ใช้กับพวกดารา Hollywoodทั้งหลาย)
DAMN GORGEOUS แปลว่า สวยโค-ต-ร ๆๆๆ
PRETTY แปลว่า สวยน่ารัก
HOT, SEXY แปลว่า สวยแบบร้อนแรง,เซ็กซี่
SECTION 10: The same meaning of word “STUPID”
ASS แปลว่า โง่ (เหมือนลาเลย)
BLOCKHEAD แปลว่า คนโง่,คนบ้า
CHUMP แปลว่า โง่
FOOL, FOOLLY แปลว่า โง่
DOLT แปลว่า คนโง่,เซ่อ
DUNCE แปลว่า คนโง่
DUNDERHEAD แปลว่า คนโง่
DULL แปลว่า คนโง่, ปัญญาทึบ
DUMMY แปลว่า ไอ้ปัญญาทึบ,ไอ้ทึ่ม
IDIOT แปลว่า คนโง่,คนบ้า
SILLY แปลว่า งี่เง่า,โง่,เซ่อ,บ้า
BLUNT แปลว่า โง่, ทื่อ,ทึ่ม
SECTION 11 The SLANG words of “GO AWAY”
GET AWAY แปลว่า ออกไปให้พ้นเลย
GET OUT! แปลว่า ออกไป (เช่น TAKSIN GET OUT! 555)
GET LOST แปลว่า ไปไกลๆส้นฉันเลย ไป๊!
GETTA HELL OUT OF MY WAY แปลว่า ไปลงนรกซะไป๊
GETTA FCUK OUT แปลว่า ไปไกลๆ…ฉันเลย ไป๊!
GET YOUR ASS OUT OF MY WAY แปลว่า ย้ายตูดของแกไปเร็วๆเลย เดี๋ยวโดนถีบ
FUCK OFF แปลว่า ไปไกลๆเลยไป
LEAVE THE PLACE! แปลว่า ออกไปจากที่ซะที (ตูเบื่อแล้ว)
GET OUT OF HERE! แปลว่า ออกไปจากที่นี่ซะ
GET OUT OF MY FACE! แปลว่า ไปให้พ้นหูพ้นตาฉันเลย
GET OFF MY TAIL! แปลว่า หยุดตามฉันซะที ไปไกลๆฉันเลย?(หรือจะเรียกว่า Stop follow me! ก็ได้)
BEAT IT! แปลว่า ไปไกลๆส้นฉันเลยนะ
SECTION 12 Some International abbreviations you may often see
AOL ย่อมาจาก American Online
ADDY ย่อมาจาก Address
BRB ย่อมาจากbe right back
CIS ย่อมาจาก Consumer Information Service
RTFM ย่อมาจาก Read the, uh, Friggin’ Manual
ROTFL ย่อมาจาก Rolling on the floor and laughing
PITA ย่อมาจากPain in the “acronym”
BTW ย่อมาจาก by the way
BFN ย่อมาจาก Bye, for now
IRC ย่อมาจาก Internet Relay Chat
TSR ย่อมาจาก Terminate and stay Resident program
TOS ย่อมาจาก Term of service
LOL ย่อมาจาก laughing out loud
OTOH ย่อมาจาก on the other hand
OTTH ย่อมาจาก on the third hand
FWIW ย่อมาจาก for what it’s worth
RSN ย่อมาจาก Real Soon Now
SASE ย่อมาจาก Self addressed stamp envelope
SM ย่อมาจาก Snail mail
SMA ย่อมาจาก Snail mail addy
WYSIWYG ย่อมาจากwhat you see is what you get
OIC ย่อมาจาก Oh! I see
IMHO ย่อมาจาก In my humble opinion [The speaker is never humble] IMCO ย่อมาจาก In my considered opinion
G, d&r ย่อมาจาก Grinning, ducking and running
OOTB ย่อมาจาก Out of the box
WB ย่อมาจาก Welcome back (being back on IRC)
WBS ย่อมาจาก Write back soon?
SECTION 13: The same meaning of word “WHAT HAPPENED?”
WHAT’S HAPPENING แปลว่า เกิดอะไรขึ้น
WHAT’S GOING ON แปลว่า มีอะไรเกิดขึ้น, เกิดอะไรขึ้นเนี่ย
WHAT’S WRONG แปลว่า มีอะไรเกิดขึ้นหรอ,มีอะไรผิดปกติหรอ?
WHAT’S THE MATTER แปลว่า มีปัญหาอะไร, เกิดอะไรขึ้น
WHAT’S THE PROBLEM แปลว่า มีปัญหาอะไร,เกิดปัญหาอะไรล่ะนี่
WHAT’S THE TROUBLE แปลว่า มีปัญหาอะไร, เกิดปัญหาอะไรล่ะนี่
SECTION 14: The same meaning of word “WAIT”
WAIT A MINUTE! แปลว่า รอฉันแป๊ปนึงนะ (คำว่าราวหนึ่งนาทีเป็นแค่การเปรียบเทียบ)
WAIT A SECOND! แปลว่า รอฉันแป๊ปนึงนะ (คำว่าราววินาทีเป็นแค่การเปรียบเทียบ)
WAIT A MOMENT! แปลว่า รอฉันครู่หนึ่งนะ
JUST A MINUTE! แปลว่า รอฉันแป๊ปนึงนะ (คำว่าราวหนึ่งนาทีเป็นแค่การเปรียบเทียบ)
JUST A SECOND! แปลว่า รอฉันแป๊ปนึงนะ (คำว่าราววินาทีเป็นแค่การเปรียบเทียบ)
JUST A MOMENT แปลว่า รอฉันครู่หนึ่งนะ
SECTION 15: The same meaning of word “IT DOESN’T MATTER”
NO PROBLEM แปลว่า ไม่เป็นไรหรอก,หยวนๆ
DON’T WORRY แปลว่า ไม่เป็นไร,ไม่ต้องกังวลหรอก
IT’S FINE แปลว่า มันไม่เป็นไร, มันโอเคดี
IT’S OK แปลว่า มันไม่เป็นไร, มันโอเคดี
SECTION 16: iNTerEstinG Words
Kidding แปลว่า ล้อเล่น (เช่น Are you kidding me?… เธอล้อฉันเล่นอ๊ะป่าว)
Find out แปลว่า เสาะแสวงหา, ค้นหา (เช่น I don’t know this word, l’ve to find out.)
Spring Break แปลว่า ช่วงปิดเทอม
SECTION 17 “EXCLAMATION”
WOW!? ว้าว
COOL!แปลว่า เจ๋งว่ะ
AWESOME! แปลว่า เจ๋งสุดๆ
THAT’S HOT! เจ๋งสุดๆ
THAT’S SMOKING!แปลว่า เจ๋งสุดๆ
THAT’S FAB! แปลว่า เจ๋งมากๆ
YOU GO GURL! แปลว่า ต้องอย่างงี้สิเพื่อนฉัน
FOR SHAME! แปลว่า น่าอายจริงเลย
SHAME ON YOU! แปลว่า น่าอายจริงเลยแก
MY WORD! แปลว่า แหม
WHAT CHEEK! แปลว่า ทะลึ่งจริง
YUM, YUM หรือ YUMMY เป็นเหมือนเสียงสูดปากแสดงความอยากกินอาหารชนิดนั้นๆ
LOOK! แปล ว่า นี่ ฟังนะ (ไม่ได้หมายความว่า มอง) (เช่น Look! I try to tell you but you don’t get it. แปลว่า นี่ ฟังนะ ฉันพยายาม บอกนายแล้ว แต่นายมันไม่เข้าใจเอง)
OH! BOYหรือ OH! MAN แปลว่า โอ้ ให้ตายสิ
WELL DONE! แปลว่า ทำได้ดี
GO ON! แปลว่า ทำต่อไป
SECTION 18: EXCLAMATION
WHAT A PITY! แปลว่า ไม่น่าเลย,น่าเสียดายจัง
OH DEAR! แปลว่า พุธโธ่
GOOD SHOT! แปลว่า แม่นจริง
HERE IT IS แปลว่า มาแล้วหรอ,นี่ยังไงล่ะ
HI! YOU THERE แปลว่า นี่คุณคนนั้นน่ะ
BY THE WAY แปลว่า เออ นี่ฉันมีเรื่องอยากจะพูด
THAT?S IT! แปลว่า นั่นแหละ,ถูกแล้ว,ต้องยังงั้น
REALLY! แปลว่า อ๋อ ยังงั้นรึ
BY ALL MEANS! แปลว่า เชิญเลย
UGH! เสียง อืย (แสดงความขยะแขยง)
OUCH! แปลว่า โอ๊ย
OOPS! แปลว่า อุ๊ย
GO IT! แปลว่า เอาเลย
brb = be right back
btwn = between
LOL = Laugh of laugh
TC = Take Care
BTW = By the Way
OMG = Oh My God!
TTYL = Talk to You later
WTF = What The F**K **เดาเอง
ASAP = As Soon As Possilble
sth = something
yr = year
tmr = tomorrow
LOL = laugh out loud
cuz = because
hv = have
SUL = see u later
st =sometime
A.D. = after dead
B.C. = before christ
ill = i will
pls = please
CU / CUl8r = see you later แล้วเจอกันใหม่
IC = I see อ๋อ อืมเข้าใจแล้ว
Pls.. = please นะ ได้โปรด
Sry = sorry ขอโทษ
sth = something นะคะ
afk = away from keyboard
atm = at the moment
b4n = bye for nao
bbs = be back soon
bc = b'coz
bf = boy friend
brb = be right back
jk = just kidding
SOC = SOMEONE CARE
sry = sorry
เจ๋ง! 32 คำศัพท์ภาษาอังกฤษ แสดง "อารมณ์" ต่างๆ
อารมณ์นี้หมายถึง พร้อม, เตรียมพร้อม, เสร็จ, รวดเร็ว, ทันที
ตัวอย่าง: ฉันพร้อมที่เรียนภาษาอังกฤษกับหลิงๆ (อิๆ)
Example: I am ready to learn English with LingLing.
▶Sad (แซด)◀
อารมณ์นี้หมายถึง เสียใจ, เศร้าโศก, สลดใจ, ตรอมใจ
ตัวอย่าง: " ฉันรู้สึกเศร้าเพราะฉันทำเงินหาย"
Example: "I feel sad because I lost my money."
▶Ecstatic (เอคสแทท'ทิค)◀
อารมณ์นี้หมายถึง ปลาบปลื้มยินดี, ดีใจอย่างเหลือล้น
ตัวอย่าง: "พวกเราดีใจอย่างมากเพราะทีมของเราชนะฟุตบอลรางวัลที่1"
Example: "We feel ecstatic because our team won first place in football."
▶ Enraged (เอนเรจ)◀
อารมณ์นี้หมายถึง โกรธจัด, โกรธแค้น, โมโห, กราดเกรี้ยว
ตัวอย่าง: "หลิงๆโกรธมากๆที่น้องชายของหลิงๆยืมแมคบุ๊คไปใช้แล้วดันทำเเสีย! "
Example: "LingLing was enraged because her brother broke her Macbook."
▶ Ashamed (อะเชมด์)◀
อารมณ์นี้หมายถึง อับอาย,กระดากใจ, ละอายแก่ใจ
ตัวอย่าง: "เธอรู้สึกละอายใจเพราะเธอขโมยร้องเท้าของพี่/น้องสาวของเธอ"
Example: "She feels ashamed because she stole her sister's shoes."
▶ Anxious (แอง'เชิส)◀
อารมณ์นี้หมายถึง ห่วงใย, น่าห่วง, กังวลใจ, เป็นทุกข์
ตัวอย่าง: "ฉันรู้สึกกังวลมากเพราะพรุ่งนี้ฉันต้องสัมภาษณ์งาน"
Example: " I feel anxious because I have a job interview."
▶ Bored ('บอร์ด)◀
อารมณ์นี้หมายถึง น่าเบื่อ, เบื่อหน่าย
ตัวอย่าง: "เธอรู้สึกเบื่อเพราะเธอนั่งอยู่ตรงนี้เป็นเวลาสี่ชั่วโมงแล้ว"
Example: "She is bored because she has been sitting here for four hours."
▶ Cautious (คอ'เชิส)◀
อารมณ์นี้หมายถึง รอบคอบ, ระมัดระวัง
ตัวอย่าง: "เขาระมัดระวังมากเพราะการตัดสินใจของเขาจะส่งผลกระทบต่อทุกคน"
Example: "He is cautious because his decision will affect everyone."
▶Confident (คอน'ฟิเดินท์)◀
อารมณ์นี้หมายถึง มั่นใจ, กล้าหาญ, แน่ใจ
ตัวอย่าง: "ฉันรู้สึกมั่นใจเพราะฉันเตรียมพร้อมมาอย่างดี"
Example: "I feel confident because I'm well-prepared. "
▶Surprise (เซอไพรซ์)◀
อารมณ์นี้หมายถึง ประหลาดใจ, ตะลึง หรือง่ายๆก็คือ "เซอไพรซ์"
ตัวอย่าง: "ฉันแปลกใจมากที่เจอคุณเพราะไม่มีใครบอกฉันว่าเธอจะมา"
Example: " I am surprised to see you because no one told me you are coming."
▶ Depressed (ดีเพรสด์) ◀
อารมณ์นี้หมายถึง หดหู่ใจ, เศร้าใจ, ห่อเหี่ยว, สิ้นหวัง cry emoticon
ตัวอย่าง: "แฮร์รี่รู้สึกสิ้นหวังไปเลยเพราะคู่หมั้นของเขายกเลิกการหมั้น"
Example: "Harry is depressed because his fiancée broke off the engagement."
▶ Disgusted (ดิสกัสด์)◀
อารมณ์นี้หมายถึง ขยะแขยง, สะอิดสะเอียน, น่ารังเกียจ
ตัวอย่าง: "ฉันรู้สึกสะอิสะเอียนกับตัวเองเพราะฉันกินมากเกินไป (555+)"
Example: 'I feel disgusted with myself because I ate too much."
▶Embarrassed (เอมแบ'เริสด์)◀
อารมณ์นี้หมายถึง คำนี้แปลว่า น่าอับอาย, ขายหน้า
ตัวอย่าง: "ฉันรู้สึกอายเพราะฉันพูดชื่ออาจารย์ผิดระหว่างพรีเซ็นท์งาน"
Example: "I feel embarrassed because I said my teacher's name wrong during my presentation."
▶ Exhausted (เอกซอสท์'เทด)◀
อารมณ์นี้หมายถึง อารมณ์หมดเรี่ยวแรง, อ่อนเพลีย
ตัวอย่าง: "รอนรู้สึกหมดแรงเพราะเขาเพิ่งวิ่งมาราธอนเสร็จ"
Example: "Ron feels exhausted because he just finished a marathon."
▶ Frightened (ไฟร'เทินด์)◀
อารมณ์นี้หมายถึง ตกใจ, สะดุ้งตกใจกลัว
ตัวอย่าง: "ฉันกลัวบ้านผีสิงมากๆ"
Example: "I'm frightened of haunted house."
▶ Frustrated (ฟรัสเทร'ทิด)◀
อารมณ์นี้หมายถึง ท้อแท้, หงุดหงิด, ข้องใจ, อึดอัดใจ, คับอกคับใจ
ตัวอย่าง: "เขารู้สึกท้อแท้เพราะไม่มีอะไรเป็นไปตามที่วางแผนไว้เลย"
Example: "He feels frustrated because nothing is going as planned"
▶ Crazy (เคร'ซี) ◀
อารมณ์นี้หมายถึง บ้า,บ้าคลั่ง,จิตฟั่นเฟือน confused emoticon
ตัวอย่าง: "เธอกำลังเป็นบ้าเพราะเขายังไม่โทรหาเธอสักที"
Example: "She is going crazy because he is not calling her back."
▶ Disappointed (ดิสอะพอย'ทิด)◀
อารมณ์นี้หมายถึง เสียใจ, ผิดหวัง
ตัวอย่าง: "หลิงๆผิดหวังที่คริสมาสนี้ไม่ได้กลับเมืองไทย"
Example: "LingLing is disappointed that she will not be able to go back to Thailand."
▶ Happy (แฮพ'พี)◀
อารมณ์นี้หมายถึง สุข,สบาย, แฮปปี้, เบิกบาน, รื่นเริง, สุขใจ
ตัวอย่าง: "หลิงๆรู้สึกดีใจ แฮปปี้ที่ได้สอนภาษาอังกฤษ "
Example: "LingLing feels happy because I get to teach English."
▶ Hopeful (โฮพ'ฟูล)◀
อารมณ์นี้หมายถึง มีหวัง, เต็มไปด้วยความหวัง
ตัวอย่าง: "ฉันรู้สึกมีความหวังมากเพราะฉันเพิ่งรู้ว่าฉันได้งานใหม่"
Example: "I feel hopeful because I found out I got a new job."
▶ Jealous (เจล'ลัส)◀
อารมณ์นี้หมายถึง อิจฉา, ริษยา, ขี้หึง, หึงหวง
ตัวอย่าง: "ฉันอิจฉาที่คุณมีเจ้านายที่ดี"
Example: "I'm jealous that you have a good boss."
▶Lonely/Needy (โลนลี่ หรือ นีด'ดี)◀
อารมณ์นี้หมายถึง เปล่าเปลี่ยว, เดียวดาย, หงอยเหงา, อ้างว้าง
ตัวอย่าง: "อัลบัสรู้สึกเหงาเพราะเขาอยู่ในห้องเรียนนี้คนเดียว"
Example: "Albus feels lonely because he is the only one in this classroom."
▶ Love struck (เลิฟ สทรัค)◀
อารมณ์นี้หมายถึง ตกหลุมรัก
ตัวอย่าง: "พวกเราตกหลุมรักทันทีเมื่อได้ฟังออสติน มาโฮน ร้องเพลง ♫♪♫"
Example: " We are lovestruck when we listen to Austin Mahone sings."
▶Playful (เพล'ฟูล)◀
อารมณ์นี้หมายถึง ขี้เล่น, สนุกสนาน, ซน, ร่าเริง, แจ่มใส, ฟรุ้งฟริ้ง!
ตัวอย่าง: "ฉันรู้สึกร่าเริงเพราะวันนี้ครอบครัวของฉันจะไปเที่ยวสวนสนุกกัน!"
Example: "I feel playful just because my family is going to a theme park today!"
▶Content (คอน'เทนท์)◀
อารมณ์นี้หมายถึง อิ่มอกอิ่มใจ หรือ พึงพอใจ
ตัวอย่าง: "ฉันพอใจกับงานใหม่ของฉันมากๆ"
Example: "I'm very content with my new job"
▶ Mischievous (มิส'ชะเวิส)◀
อารมณ์นี้หมายถึง ซุกซน, แก่นแก้ว, เกเร, ประสงค์ร้าย, กอกวน devil emoticon
ตัวอย่าง: "เดรโกรู้สึกสนุกกับความป่วนเพราะเขากำลังจะแกล้งใครสักคน"
Example: "Draco feels mischievous because he is about to prank someone."
▶ Cute (คิวท์)◀
อารมณ์นี้หมายถึง น่ารัก, สวย, เก๋ kiss emoticon
ตัวอย่าง: "หนังเรื่องนี้น่ารักเพราะมันเป็นเรื่องราวของความรักระหว่างเจ้าชายและเจ้าหญิง
♥♥♥ "
Example: "This movie is cute because it's love story between a prince and a princess. "
▶Angry (แอง' กรี)◀
อารมณ์นี้หมายถึง โกรธ, โมโห, ฉุนเฉียว, ขุ่นเคือง
ตัวอย่าง: "ฉันรู้สึกโกรธเพราะเพื่อนข้างบ้านเปิดเพลงเสียงดัง"
Example: "I feel angry because my neighbor is playing loud music."
▶Strong (สตรอง)◀
อารมณ์นี้หมายถึง หนักแน่น, เด็ดเดี่ยว, ไม่เปลี่ยนแปลง, หรือชัดเจนกับบางสิ่ง
ตัวอย่าง: "ฉันรู้สึกตั้งใจและหนักแน่นที่จะพัฒนาภาษาอังกฤษให้ได้" (อัยยะ)
Example: "I feel strong about improving my English!"
▶Blah (บลา)◀
อารมณ์นี้หมายถึง บลา, ซึมๆ, หดหู่, เซงๆ, น่าเบื่อ
ตัวอย่าง: "วันนี้เยอะอะ ต้องทำงาน, ทำการบ้าน, เขียนโพส, ซักเสื้อผ้า, นู้น นี้ นั้น เยอะไปหมดเลยอะ"
Example: "Today, I have to work, do homework, write a post, wash my clothes, and blah blah blah."
▶Shocked (ชอค'ด์)◀
อารมณ์นี้หมายถึง "ช็อค!" หรือ อารมณ์ตื่นตะลึง, สะดุ้งตกใจ
ตัวอย่าง: ทอมเกิดอาการช็อคเพราะเพื่อนเค้าเกิดอุบัติเหตุ
Example: Tom is shocked because his friend got into an accident.
▶ Shy (ชาย)◀
อารมณ์นี้หมายถึง เขิน, อาย
ตัวอย่าง: ฉันรู้สึกเขินอายเวลาที่ต้องพูดภาษาอังกฤษ
Example: I feel shy when I speak English.
เป็นฟิลแบบภาษาวิบัติ 55 ใช้แทนกันเล่นๆ น่ารักดี
แทนกันตรงๆเลย: i'm jealous = i'm jelly
jelly much? อิจฉามากปร๊ะะะะะ *smirks* แบบแซวกันเล่นๆ
แล้วก็ bleh = เบ้ปากมองบน 55
butterfly = ประมาณว่า ท้องไส้ปั่นป่วน วูบวาบ แบบมีความรักไรงี้
เช่น i feel butterflies / i got butterflies in my stomach
แบบโอ้ยยอยู่กะคนนี้มันเขินจัง อย่างกะมีผีเสื้อกระพือปีกอยู่ในท้อง 555
~ 10 คำ "ข อ บ คุ ณ" ภาษาอังกฤษที่ "ใช้บ่อยที่สุด" ~
แปลว่า ขอบคุณมากๆ
Example: Thanks a lot for coming to the party.
ตัวอย่าง: ขอบคุณมากที่มางานปาร์ตี้
Thanks a bunch ⁙ แท็งซ์ เอ บัช
คำว่า bunch หมายถึง รวมกัน
ตรงนี้เลยแปลตรงตัวว่า ขอบคุณรวมๆกัน ซึ่งมีความหมายประมาณว่า ขอบคุณมากๆ
Example: Thanks a bunch for the cake you made.
ตัวอย่าง: ขอบคุณมากๆนะ สำหรับเค้กที่คุณทำมาให้
Appreciate it ⁙ ไอ อะพรี'ชีเอท อิท
หมายถึง ซาบซึ้ง
Example: I appreciate all that you did for me.
ตัวอย่าง: ฉันซาบซึ้งในสิ่งที่คุณทำให้ฉันนะ
You shouldn't (have) ⁙ ยู ชูด'เดินท์ (แฮฟว์)
ประโยคนี้จะหมายความประมาณว่า จริงๆไม่ต้องก็ได้นะ
แนวๆ ไม่น่าเลย เราเกรงใจอะ
Example:
A: These flowers are for you.
B: These are lovely flowers! You shouldn't have...
ตัวอย่าง:
เอ: อะ ดอกไม้พวกนี้ให้คุณ
บี: ดอกไม้สวยมากเลย คุณไม่น่าเลย.... ขอบใจน้า
I owe you one ⁙ ไอ โอ ยู วัน
owe หมายถึง ติดหนี้บุญคุณ
ประโยคนี้หมายถึง เรารู้สึกติดหนี้บุญคุณเธอ
Example:
A: I turned in your homework for you yesterday.
B: I owe you one!
ตัวอย่าง:
เอ: เราส่งการบ้านให้เธอแล้วนะเมื่อวานอะ
บี: รู้สึกเป็นหนี้บุณคุณเธอมาก
Cheers ⁙ เชียร์ส
คำนี้เป็นสแลงของคำว่า ขอบคุณ ค่ะ
Example:
A: Here’s that book you wanted to borrow.
B: Oh, cheers!
ตัวอย่าง:
เอ: อะ หนังสือที่เธออยากจะยืม
บี: อ๋อ ขอบใจจ๊ะ
What would I do without you ⁙ วอท วูด ไอ ดู วิธเอ้าท์ ยู
อาจจะดูเป็นประโยคคำถาม การใช้จะคล้ายๆกับเวลาที่เราพูดว่า ถ้าไม่มีเธอฉันไม่รู้จะทำยังไงนะเนี่ย ขอบใจน้า
Example:
A: I've already paid your school tuition.
B: What would I do without you!
ตัวอย่าง:
แม่: แม่จ่ายค่าเทอมให้แล้วนะ
ลูก: ขอบคุณมากค่ะ ลูกจะทำยังไงถ้าไม่มีแม่เนี่ยยยย
Much obliged ⁙ มัช อะไบลจ์'ด
ประโยคนี้ออกแนวเก่านิสนึงค่ะ แปลว่าขอบคุณเนี่ยแหละค่ะ
แต่ถ้าเอาไปใช้ก็จะดูดีไปอีกแบบ
Example: I'm much obliged to you for your patience during the recent difficulties.
ตัวอย่าง: ฉันขอบคุณมากสำหรับความอดทนของคุณในช่วงยากลำบากที่ผ่านมานี้
You've saved my life ⁙ ยู แฮฟว์ เซฟ'ด์ มาย ไลฟ์
ประโยคนี้แปลว่า คุณได้ช่วยชีวิตฉันไว้
ความหมายก็ประมาณว่า เธอช่วยชีวิตเราไว้เลยนะเนี่ย ขอบคุณนะ
Example: Thanks for giving me a ride to the university. You saved my life.
ตัวอย่าง: ขอบคุณที่ขับรถไปส่งที่มหาลัยนะ เธอช่วยชีวิตฉันไว้เลยละ
You're too kind ⁙ ยู อาร์ ทู ไคด์
ความหมายก็ประมาณว่า คุณใจดีสุดๆเลย ขอบคุณนะ
Example:
Mom: Here's $20 for you.
Daughter: Oh, you're too kind!
ตัวอย่าง:
คุณแม่: นี้ 20 ดอลลาร์ให้ลูกจ๊ะ
ลูก: ขอบใจมากค้าคุณแม่ ใจดีเลยเกินน้าค้า
ความคิดเห็น