ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Secret Room] by. Mazami

    ลำดับตอนที่ #1 : [FIC KHR] I WANT YOU เกิดใหม่ทั้งทีขอมีแฟนในโลกรีบอร์น!

    • อัปเดตล่าสุด 21 ต.ค. 60





    APPLICATION

    (Before)


    (After)

    "อ้าว...แย่แล้ว นี่ฉันอยู่ที่ไหนกันคะเนี่ย?"

    ชื่อ :  [ก่อนตาย / ฮินะ คาริต้า I Hina Carita I ความหมายของฮินะแปลว่าแสงอาทิตย์หรือเวลากลางวัน ส่วนคาริต้าเป็นภาษาสวีเดนแปลว่าผู้เป็นที่รัก ถ้าให้พูดความหมายโดยรวมคงเป็น แสงอาทิตย์ผู้เป็นที่รัก]
             [หลังม่องเเท่ง เอ้ย ตาย / อเบล เฟลิซิต้า I Abel Felicita I ความหมายของอเบลเเปลว่าลมหายใจ ส่วนเฟลิซิต้ามาจากภาษาอิตาลีแปลว่าความสุข ถ้าให้พูดความหมายโดยรวมคงเป็น ลมหายใจแห่งความสุข]


    ชื่อเล่น : ก่อนตาย / ฮินะ I  Hina
                   หลังตาย / อเบล I Abel

    อายุ : ก่อนตาย 16 ปี I หลังตาย 15 ปี

    ลักษณะภายนอก : 
                   ก่อนตาย I ฮินะเป็นเด็กสาวรูปร่างหน้าตาธรรมดาอย่างถึงที่สุด เธอมีใบหน้าที่ไม่โดดเด่นและจิดชืด ไม่ขี้เหร่แต่ก็ไม่ได้จัดว่าดูดีน่ามองอะไร ถึงจะเป็นเช่นนั้นตัวของฮินะก็ไม่ได้ใส่ใจว่ารูปลักษณฺของตัวเองจะดีหรือแย่แต่อย่างใด ฮินะเป็นคนที่มีใบหน้ากลมป้อม แก้มขาวออกสีชมพูฝาดๆอยู่เสมอยุ้ยน่าหยิก รอยยิ้มซื่อๆดูบริสุทธิ์และจริงใจเหมือนฤดูใบไม้ผลิมาเยือนในทุกครั้งที่เธอยิ้ม เธอรูปร่างอวบเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับอ้วน ไม่ได้มีความสูงเพรียวน่ามองตามค่านิยมหุ่นนางแบบในปัจจุบัน ตัวเล็กจนมักถูกเรียกเชิงล้อเลียนว่า 'ยัยอ้วนเตี้ย' แต่ฮินะก็ไม่ได้สนใจคำครหาเช่นนั้นเลย ท่าทางบุคลิกของตัวฮินะเองก็ไม่ได้มีความงามสง่าออกจะเงอะงะงุ่มง่ามอยู่ไม่น้อย ฮินะมีเรือนผมตัดสั้นประบ่าสีน้ำตาลเข้มโดยธรรมชาติ นัยน์ตาชั้นเดียวสีเข้มเหมือนเปลือกไม้หางตาตกเล็กน้อยและมีประกายอยากรู้อยากเห็นปะปนกับความใสซื่อจนเหมือนลูกสุนัขไม่มีผิด ผิวของฮินะนั้นออกขาวน้ำผึ้งแต่ก็ไม่ใช่สีสันที่สวยสะดุดตา ออกจะเกือบๆ เป็นสีเหลืองซีดไปแล้วด้วยซ้ำ ส่วนทางด้านการแต่งตัวฮินะมักสวมเสื้อคลุมสเวตเตอร์ตัวโคร่ และพันผ้าพันคอสีแดงในฤดูหนาว ใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง (หน้าร้อนคงไม่อาจเอื้อม) I ส่วนสูงของฮินะ 150 Cm. น้ำหนัก 51 Kg. 

               หลังตาย I อเบลเป็นเด็กสาวที่กำลังก้าวสู่วัยแรกแย้ม ด้วยใบหน้าสวยหวานสะกดสายตา เป็นความสวยน่ารักน่าเอ็นดูประดุจดั่งตุ๊กตาล้ำค่า เทียบได้กับดอกไม้อันงดงามที่กำลังผลิบาน อเบลมีใบหน้ารูปไข่ล้อมกรอบใบหน้าด้วยเรือนผมสีบลอนด์ทองอ่อนๆ ยาวสลวยถึงบั้นเอว เรือนผมเงางามนุ่มนิ่มเหมือนเส้นไหมและให้ความรู้สึกยาวสัมผัสราวกับขนแมว ดวงตาของอเบลเป็นดวงตากลมโตเป็นประกายแวววาวเหมือนลูกแก้วสีเขียวมรกต สื่อถึงความอยากรู้อยากเห็น ความใสซื่อ ไม่ได้ต่างจากตอนยังเป็นฮินะเลยแม้แต่น้อย แพขนตาหนาสีอ่อนช่วยเสริมให้นัยน์ตาหวานซึ้ง คิ้วโค้งได้รูปแต่หางคิ้วนั้นตกเล็กน้อยทำให้ดูเป็นคนหัวอ่อน จมูกเล็กโด่งรั้นอย่างน่าเอ็นดูช่วยขับหน้าตาของเด็กสาวให้น่ารักมากขึ้นไปอีก อเบลมีแก้มยุ้ยไม่แพ้ตอนเป็นฮินะ เป็นแก้มที่นุ่มนิ่มเหมือนมาชเมลโล่สีชมพูระเรื่อน่าหยิกให้กลายเป็นสีแดงเข้ม ซึ่งเวลาเจ้าตัวโดยหยิกแก้มก็จะหยีตาทำหน้ายู่จนยิ่งทำให้ดูน่าแกล้งขึ้นไปอีก อเบลมีเอกลักษณ์ที่รอยยิ้ม ความเป็นฮินะไม่เคยหายไปจากตัวเธอ รอยยิ้มของเด็กสาวยังคงเป็นรอยยิ้มใสซื่อบริสุทธิ์และจริงใจ เป็นรอยยิ้มที่ชวนให้ผ่อนคลายและวางใจ เป็นรอยยิ้มสดใสและมีความสุขยิ่งกว่าใครที่มอบให้แก่ทุกคน ส่วนทางด้านรูปร่างของอเบลนั้นก็เรียกได้ว่ายังไม่เติบโตเต็มที่เท่าไหร่นัก ถึงอย่างนั้นก็เพรียวบางมีส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างพอเหมาะ ดูบอบบางราวกับจะปลิวตามลมไปได้เสียโดยง่าย ขนาดของตัวเล็กไม่ต่างจากตอนเป็นฮินะ อย่างมากก็ห่างกันไม่กี่เซนติเมตร แต่ด้วยความสวยที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงทำให้ผู้คนมองเธอว่าเป็น เด็กสาวตัวเล็กบอบบางน่าทะนุถนอมไม่ใช่ ยัยอ้วนเตี้ยอย่างที่เคยเป็น #อาเมน อะแฮ่มมาต่อ อเบลมีผิวขาวจัดนุ่มนิ่มเหมือนกระเบื้องเคลือบ และหากตากแดดนานๆก็จะขึ้นเป็นสีอมชมพู อเบลมักมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของวานิลาผสมกับกลิ่นของอบเชย เป็นกลิ่นหวานๆ เหมือนขนมไม่มีผิด ด้านเสื้อผ้าการแต่งกายอเบลมักสวมใส่ชุดกระโปรงหวานๆ เสื้อเชิ้ตแขนตุ๊กตา กระโปรงพลีทสีสันอ่อนๆ จำพวกสีขาว น้ำตาล สีครีม เป็นต้น รองเท้าส่วนมากจะสวมใส่รองเท้าผ้าหุ้มส้นสีสันอ่อนๆ เช่นเดียวกันกับชุดเสื้อผ้า แต่บางครั้งก็เปลี่ยนมาใส่รองเท้าผ้าใบสบายๆ บ้างตามโอกาสเช่นกัน และสิ่งที่ไม่เคยขาดเลยสำหรับการแต่งตัวของอเบลคือผ้าคลุมไหล่สีฟ้าอ่อนของเจ้าตัวนั่นเอง I ส่วนสูงของอเบล 152 Cm. น้ำหนัก 45 Kg.

                  
    ลักษณะนิสัยใจคอ : เอ่อ...งั้นก็มาเริ่มกันเลย ถ้าจะพูดถึงลักษณ์นิสัยของอเบล เฟลิซิต้า แล้วล่ะก็...นิสัยของเธอนั้นไม่ได้แตกต่างอะไรไปจากในตอนที่เธอยังเป็นฮินะ คาริต้าเลยแม้แต่น้อย ไม่สิ เพราะว่าความทรงจำของอเบลและฮินะต่างก็รับสืบทอดกันมา เธอจึงยังคงเป็นตัวเธออย่างไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงได้ เอ้า เกริ่นกันยาวไปแล้ว มาดูลักษณะนิสัยของอเบลกันเลยดีกว่า

    อเบล เฟลิซิต้า เด็กสาวผู้มีความเอ๋อเป็นพื้นฐานชีวิต (?)
    ตามหัวข้อเลย เธอเป็นคนที่ค่อนข้างจะ...เอ๋อนิดๆ ? จะให้ใช้คำเรียกดูดีก็คงเป็นใสซื่อบริสุทธิ์ นั่นล่ะนะ เธอเป็นคนที่ค่อนข้างจะน่าเป็นห่วงสักหน่อย ก็เพราะไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวกับอะไรรอบกายเลยแม้แต่นิด ความรู้สึกช้าว่าแย่แล้วแต่การตอบสนองต่อสิ่งรอบตัวช้าหนักกว่าความรู้สึกนี่น่าปวดหัวไม่น้อย ให้อธิบายให้เห็นภาพก็คงเป็น เขาเล่นมุขกันอยู่ ตบมุขกันเสร็จเรียบร้อย (ขณะเล่นมุขอเบลจะทำหน้ายิ้มๆ เหมือนใจลอย) จนจบไปพักใหญ่ๆ สาวเจ้าเพิ่งจะมาทุบมือดังปุแล้วหัวเราะท้องคัดท้องแข็งว่า 'มุขนั้นตลกจังเลยค่ะ' ตอนคนอื่นเขาเงียบกันแล้ว (=_=;) ซ้ำยังชอบเหม่อลอยเป็นงานอดิเรก และฝันกลางวันได้ในทุกย่างก้าว ถึงขนาดเดินโดยไม่ดูสัญญาณจารจรเวลาข้ามถนน เดินไปเหยียบหางสุนัขจนถูกมันวิ่งไล่งับ หรือเดินลื่นเเอ่งน้ำขังเล็กๆ จนหัวฟาดพื้นอีก #กรรม ด้วยความเอ๋อนี้ทำให้เธอถูกมองว่าซุ่มซ่ามไปด้วยในตัว ซึ่งมันก็ค่อนข้างจะจริง แต่อย่างน้อยๆ อเบลก็ไม่ขนาดสะดุดอากาศล้มแล้วกัน อเบลเหมือนพวกมีโลกล้ำลึกในหัวของตัวเองค่ะ เจ้าตัวสามารถจมอยู่กับโลกส่วนตัวของตัวเองโดยนั่งยิ้มไปแต่ความคิดนี่คือไปไกลถึงอวกาศแล้ว ไม่ได้สนใจหรอกว่าคนอื่นๆ เขากำลังพูดหรือทำอะไรกัน เรียกได้ว่าโลกส่วนตัวสูงพอดูเลยล่ะ ซ้ำยังเป็นคนใสซื่อ (โง่?) จนน่าเป็นกังวล เพราะโดนหลอกง่ายมาก เคยมีคนส่งสลอตให้อเบลแล้วบอกว่ามันคือยาบำรุงร่างกาย อเบลเลยเอามาผสมในขนมให้คนอื่นทานอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่...แบบหมดขวด ก็นั่นล่ะนะ เธอเป็นพวกเชื่อคนง่ายไปเสียหน่อย แต่ก็สามารถแยกแยะว่าอะไรถูกอะไรผิด ไม่ได้ใสซื่อจนบื้อไปเสียทีเดียว เอาล่ะ มาขยายความคำว่ารู้สึกช้าของอเบลกันอีกนิด อเบลนั้นความรู้สึกช้าไม่ใช่แค่การตอบสนองต่อสิ่งเร้า(?) แต่เป็นความรู้สึกช้าในทุกๆ ด้าน ขนาดมีคนยื่นจดหมายรักให้แล้วพูดว่าโปรดรับไว้ด้วยเถอะนะครับ เธอก็จะทำหน้าเหมือนกำลังประมวลความคิดแล้วเผยรอยยิ้มซื่อพร้อมกล่าว 'ใบปลิวสินะคะ ได้ค่ะ' แล้วรับจดหมายนั่นมา ก่อนจะเดินผ่านไป หรือไม่ก็ อเบลตากฝนมา ตัวเปียกซก พร้อมเสื้อแนบเนื้อจนเห็นไปถึงไหนต่อไหน เจ้าตัวก็ยังยิ้มเอ๋อๆ ไม่รู้เรื่องรู้ราวจนต้องมีคนเตือนหรือไม่ก็เอาเสื้อไปคลุมทับให้เท่านั้นแหละ...

    อเบล เฟลิซิต้าเป็นพวกหลงทิศหลงทางเข้าขั้นโคม่าและฟีโรโมนประหลาด
    ใช่แล้ว เธอเป็นพวกหลงทิศทางอย่างสาหัส (เเทบจะทัดเทียมกับโซโ-อยู่แล้วนั่น) ขนาดซ้ายขวาบางทีอเบลยังลืม ทางเลี้ยวเยอะๆ นี่อย่าหวัง เขาวงกตสำหรับเด็กสาวดีๆนี่เอง ให้เทียบอย่างเห็นภาพก็คงเป็นอเบลอยากเดินไปโรงเรียนนามิโมริ เธอถามทางคนเเถวนั้นและมีแผนที่ในมือเป็นอย่างดี แต่ทำไมไม่รู้จุดหมายปลายทางที่เธอไปโผล่กลับเป็นศาลเจ้านามิโมริไปได้? ก็นั่นล่ะ เพราะฉะนั้นห้ามปล่อยให้เด็กคนนี้ไปไหนมาไหนเองเป็นอันขาดเลยทีเดียวเชียว นอกจากนั้นยังมีฟีโรโมนประหลาดที่ดึงดูดพวกสัตว์ให้เข้าหา เเค่เธอนั่งๆ อยู่ที่สวนสาธารณะแผลเเพลบเดียวคุณก็จะได้เห็นฝูงนกพิราบที่มารุมล้อมรอบตัวและเกาะไหล่เกาะหัวเธออยู่ให้วุ่นไปหมด เจ้าตัวก็จะยิ้มซื่อๆ และเล่นกันพวกนกไปเสียอย่างนั้น อเบลเคยกล่าวว่าเธอเหมือนจะสื่อสารกับสัตว์รู้เรื่อง!? และก็เหมือนจะจริงโดยที่ไม่มีใครพิสูจน์ได้ แต่อเบลก็สามารถขอร้องให้สัตว์เหล่านั้นทำตามคำสั่งเธอได้ ไม่ว่าจะเป็นตามหาคน หาของ เรื่องจิปาถะ ส่งจดหมายอะไรเทือกๆ นี้ หรือไม่ก็ให้พวกสัตว์ช่วยปกป้องตัวเธอก็ทำได้เช่นกัน 

    อเบล เฟลิซิต้าเป็นเด็กสาวจิตใจดี
    มันก็แน่นอนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นอเบลหรือฮินะ ต่างก็มีพื้นฐานความจิตใจงามอยู่ในตัวกันทั้งนั้น เธอมองโลกในแง่ดีและไม่มีอคติต่อใคร (ด้วยความเอ๋อด้วยล่ะนะ..) และเป็นเด็กสาวที่อารมณ์ดีตลอดเวลาราวกับว่าเธอไม่เคยมีเรื่องทุกข์ใจเลย เธอสามารถมีความสุขได้อย่างง่ายดาย เช่น เธอเห็นเด็กกลุ่มหนึ่งวิ่งเล่นกันที่สนามอย่างร่าเริง หรือ เธอเห็นแม่แมวคอยดูแลลูกแมว กับเรื่องแค่นี้ก็ทำให้อเบลมีความสุขได้สมชื่อลมหายใจแห่งความสุขของเจ้าตัวจริงๆ มีรอยยิ้มดีใจได้ด้วยเพียงเรื่องเล็กๆน้อยๆ หากมีคนทำอะไรเพื่อเธอแม้จะไม่ใช่เรื่องใหญ่ อเบลก็จะหาวิธีทางตอบแทนอย่างเต็มกำลัง หรือไม่ก็ของทุกอย่างที่อเบลได้รับมาจากคนอื่นนั้น เธอก็จะดูแลรักษามันอย่างดี และเธอยังเป็นคนที่มีจิตใจเข้มแข็งมากเสียด้วย ถึงจะมีเรื่องทุกข์ใจแค่ไหน อเบลก็จะไม่เก็บมันไว้เป็นความเศร้าหมอง แต่เธอจะเข้มแข็งขึ้นแล้วเปลี่ยนความทุกข์นั้นให้กลายเป็นพลังเพื่อก้าวต่อ เธอไม่เคยเก็บเอาคำครหานินทาของคนอื่นๆมาใส่ใจ ไม่คิดมากและไม่ใช่คนมีอารมณ์อ่อนไหวเลยแม้แต่น้อยเรียกได้ว่ามั่นคงขัดกับท่าทีอ่อนแอบอบบางอย่างที่สุด แต่จะถึงอย่างไรเธอก็ยังเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง หากถึงจุดที่ทนไม่ไหวจริงๆ ก็คงมีร้องไห้กันบ้าง ถึงอย่างนั้นอเบลก็จะไม่ร้องไห้ให้ใครเห็นอย่างแน่นอนและในไม่นานเด็กสาวคนนี้ก็จะยืนหยัดได้อีกครั้งด้วยตัวเอง เธอไม่เคยอยากเอาชนะใคร ไม่มีความทะเยอทะยาน เธอเพียงแค่คอยเอาชนะตัวเองเพื่อพัฒนาไปเรื่อยๆ ก็แบบนี้ล่ะนะ จะว่าโลกสวยก็ได้ แต่เราจะเลือกมองด้านร้ายๆของโลกให้เจ็บปวดทำไมล่ะจริงมั้ย? อเบลเป็นเด็กสาวที่มีนิสัยง่ายๆ สบายๆ ไม่เรื่องมาก ทั้งการกินการนอน เธอทานได้ทุกอย่างโดยไม่เลือกทาน หรือแม้แต่ที่นอนเด็กสาวก็สามารถนอนพื้นได้โดยไม่ตะขิดตะขวงใจ ค่อนข้างตามน้ำกับผู้อื่นเสียเรื่อย ว่าไงก็ว่าตามกันประมาณนั้น 

    อเบล เฟลิซิต้า มีความเชื่อมั่น มีความมุ่งมั่นที่ไม่ธรรมดาและยังเป็นคนจริงใจเสียด้วย
    เห็นเธอเอ๋อๆ (?) แบบนี้ แต่ก็เป็นคนที่ถ้าหากเชื่อใจในอะไรหรือในตัวใครแล้ว ต่อให้คนรอบข้างจะหมดหวัง แต่อเบลก็ยังคงเชื่อมั่นต่อไป จะเรียกว่าหัวรั้นนิดหน่อยก็ได้ และอเบลไม่เคยยอมแพ้ในสิ่งไหน เธอไม่เคยตัดใจหรือคิดว่าตนเองไร้ความสามารถ ที่เธอคิดเวลาที่ไม่สามารถทำอะไรได้นั้นคือ 'เธอไม่มีความพยายามและความมุ่งมั่นมากพอต่างหาก' ถึงภายนอกจะดูอ่อนแอบอบบางยังไง แต่จริงๆ แล้วก็เป็นเด็กสาวที่อ่อนนอกแข็งในได้อย่างไม่น่าเชื่อเชียวล่ะ ถึงปกติจะเอ๋อก็เถอะ...ถึงอย่างนั้นก็ยังมีความสะเพร่าและความไม่เด็ดขาด ขาดภาวะในการตัดสินใจ ไร้ความเป็นผู้นำ แต่เหมาะสมมากสำหรับการเป็นที่พึ่งทางจิตใจให้กับคนอื่นๆ บรรยากาศรอบตัวอเบลล้วนชวนให้รู้สึกสงบและสบายใจ เพียงอยู่กับเธอเงียบๆ ก็ทำให้จิตใจผ่อนคลายได้อย่างไม่น่าเชื่อ #เธอคือกัญ** ด้วยความที่เธอเป็นคนจริงใจใสบริสุทธิ์นี้ ทำให้ใครๆ ต่างก็ปรับทุกข์กับอเบลอย่างไม่ตะขิดตะขวงใจเลย และอเบลก็ค่อนข้างจริงจังเรื่องการรักษาความลับด้วยทำให้เชื่อมั่นได้เลยว่าเธอจะไม่แพร่งพรายความลับของคุณแน่นอน ต่อให้เธอจะโดยอะไรก็เถอะ ถึงเช่นนั้นอเบลก็ยังเถรตรงด้วยเถอะ (เรื่องรักษาความลับกับปากตรงกับใจมันคนละเรื่องกัน) คิดอะไร เห็นอะไรอเบลก็พูดออกไป ไม่มีการเสเเสร้งปั้นแต่งเลยแม้แต่น้อย อเบลโกหกใครไม่เป็นเเละเล่นละครไม่เก่ง เธอไม่ชอบการเข้าหาโดยสวมหน้ากาก เธอชอบการคุยกันตรงๆ จากตัวตนจริงๆ มากกว่า

    อเบล เฟลิซิต้า ชื่นชอบความสงบสุขและรอยยิ้ม บางครั้งก็ดูจะไร้เป้าหมายไปเสียหน่อย?
    สิ่งที่อเบลชื่นชอบคือความสงบสุขและรอยยิ้มของคนรอบข้าง เธอมีความสุขแค่ได้เฝ้ามองสิ่งเหล่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นถ้าหากคุณถามเธอว่าอเบลต้องการอะไร มีความฝันอะไร อเบลจะไม่สามารถตอบได้เลย เพราะตลอดชีวิตเด็กสาวไม่ได้ต้องการอะไรเพื่อตัวเองเลย ความฝันก็ไม่เคยตั้งไว้ สิ่งที่อยากได้คงมีเเค่ให้ทุกๆคนมีรอยยิ้มมีความสุขแบบนี้ตลอดไป จะเปรียบเธอเหมือนกับแสงตะวันที่มอบความอุบอุ่น (ฮินะ) ก็ได้ แล้วเธอยังเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย ไม่มีอีโก้ ไม่หยิ่งยโส มนุษยสัมพันธ์ดีและเป็นมิตรต่อมนุษย์ทุกเพศทุกวัย

    อเบล เฟลิซต้า ความสามารถการเรือน...ติดลบ?
    อืม...ก็นะ ถ้าหากให้อเบลทำความสะอาด ทำอาหารนี่ ก็เปรียบเหมือนทำลายบ้านไปด้วยทางอ้อมเลยก็ว่าได้ ก็เพราะเธอไม่ถนัดของพวกนี้เอาซะเลยล่ะนะ ล้างจานก็อาจได้ยินเสียงเพล้งๆๆดังติดกันหลายๆหน ซักผ้าก็อาจจะทำให้น้ำในเครื่องมันล้นจนเลอะเทอะ รีดผ้าอาจทำผ้าขาดเป็นรู หุงข้าวอาจทำหม้อระเบิด #ห๊ะ สรุปให้เธออยู่เฉยๆ เถอะ แม้ว่าเจ้าตัวจะดูไม่รู้ถึงสกิลการทำลายล้างของตัวเองและพยายามจะช่วยงานบ้านบ่อยๆ ก็เถอนะ...แต่ด้วยความเหลือเชื่อ เธอที่การทำอาหารไม่ได้ความจะเก่งกาจด้านการทำของหวานเสียอย่างนั้น? พอลงมือทำของหวานนี่ไม่มีการเงอะงะ เป็นคนละคนกับเด็กป้ำเป๋อที่พยายามทำความสะอาดโดยสิ้นเชิงเลยล่ะ

    อเบล เฟลิซิต้า ชอบงานรื่นเริงและมีความสามารถด้านดนตรี
    อ่าฮะ ถึงจะเอ๋อ เหม่อ ความรู้สึกช้ายังไง เธอก็เป็นพวกชอบความสนุกสนานนะ พวกงานเทศกาลดอกไม้ไฟนี่ยิ่งชอบ เพราะตั้งแต่เกิดใหม่ก็อยู่อิตาลีซะค่อนชีวิตเลยคิดถึงพวกงานวัฒนธรรมญี่ปุ่นอะไรงี้สุดๆ ชอบเล่นสนุกเป็นเด็กเสมอ แม้อายุจริงๆ จะปาไป 32 แล้วก็ตาม (รวมก่อนตายและหลังตาย) คือมีอะไรน่าสนุกอเบลก็ไปหมดน่ะค่ะ พลังงานล้นเหลือและกะตือรือร้นกับเรื่องสนุกสนานงานรื่นเริงเอามากๆ เรื่องดนตรีก็ใช่อีก อเบลมีความสามารถด้านนี้เรียกได้ว่าอัจฉริยะไม่แพ้โกคุเทระเลยทีเดียว แต่เป็นไวโอลีนนะ ไม่ใช่เปียโน อ้อ แล้วก็อเบลยังชอบถ่ายรูปด้วย เธอมักพกกล้องเหมือนที่ช่างถ่ายภาพพกกันใส่ในกระเป๋าสะพายข้างสีน้ำตาลใบโปรด และจะถ่ายอะไรก็ตามที่เธออยากจะเก็บมันเป็นความทรงจำที่ดีเอาไว้ 

    อเบล เฟลิซิต้า รักษารอยยิ้มบนใบหน้าเอาไว้เสมอและสุภาพเอามากๆ
    เพราะเธอเชื่อว่าหากมีรอยยิ้มจะต้องมีเรื่องดีๆ เข้ามาแน่ ดังนั้นไม่ว่าจะสถานการณ์เลวร้ายเฉียดตายแค่ไหน อเบลยังคงยิ้ม...ยิ้มอย่างมีความสุขจากใจอยู่เสมอ นอกจากนั้นยังเป็นคนสุภาพมารยาทงามมาก เหมือนกุลตรีโดยเเท้เลยล่ะ คำพูดจะเป็นทางกายมีหางเสียงอย่างอ่อนหวานเสมอจนทำให้คนที่สนทนาด้วยเผลอตัวใช้ภาษาระดับทางการไปโดยไม่รู้ตัวเลย แถมยังอ่อนน้อมถ่อมตน รู้จักสัมมาคารวะและให้เกียรติผู้ใหญ่และคนที่ควรเคารพเป็นอย่างดี 


    ประวัติ : ก่อนตาย I ฮินะเป็นเด็กสาวจากครอบครัวชนชั้นกลาง ครอบครัวของเธออบอุ่นนัก แม้จะไม่ได้รวยลั้นฟ้าฐานะดี แต่ก็พอมีพอกิน พ่อกับแม่ ฮินะ คุณพ่อเป็นชาวอิตาลีที่เลือกจะเเต่งงานกับแม่ที่เป็นคนญี่ปุ่นและอาศัยที่ญี่ปุ่นตั้งแต่นั้น ฮินะรักพ่อกับแม่และพ่อแม่ที่งานยุ่งกลับบ้านดึกดื่นทุกวันกระนั้นก็ยังคอยเอาใจใส่ลูกสาวเป็นอย่างดี ชีวิตของเด็กสาวสุขสมบูรณ์แม้จะโดยคนที่โรงเรียนกลั่นแกล้งบ้าง แต่เธอก็มีเพื่อนมีสังคมที่ดี จนกระทั่ง ในวันที่อากาศดี ซากุระปลิดปลิวว่อน  ฮินะยืนถ่ายรูปต้นซากุระผลิดอกอยู่ที่ฟุตบาทข้างทาง เสียงเอี๊ยดและเสียงกรีดร้องดังมาจากด้านหลัง เด็กสาวหันหน้ากลับไป แล้วเห็นเด็กน้อยคนหนึ่งยืนขึงนิ่งไม่ขยับ ได้เเต่เบิกตามองรถบนทุกคันใหญ่ที่ขับพุ่งเข้ามาใกล้ ไวกว่าความคิด ร่างกายของเด็กสาวขยับไปผลักเด็กน้อยคนนั้นให้พ้นทาง และแรงอัดกระแทกมหาศาลก็ปะทะกับร่างกายเธออย่างรุนแรง เด็กสาวปลิวหวือไปตกกระแทกถนน ดอกซากุระปลิดปลิวพร้อมทัศนวิสัยที่ถูกย้อมเป็นสีแดงฉาน ร่างกายของฮินะชาจนไม่มีแม้แรงจะขยับเขยื้อน เสียงจอแจดังมาพร้อมกับสติของเธอที่พร่าเลือนไปทุกที เด็กสาวยังคงแย้มยิ้ม 'ซากุระ สวยจริงๆด้วย ...แย่จัง ไม่ได้กลับไปทานข้าวเย็นของหม่าม้าแล้วสิเรา...' และเธอก็สิ้นใจไปตรงนั้นนั่นเอง
                 PS - ฮินะรู้จักเรื่องรีบอร์น แต่ไม่ได้รู้ลึก รู้จริง เป็นแฟนคลับ คนที่ชอบน่ะมันเพื่อนเธอ แล้วชอบเอารูปตัวละครมาให้ดูแล้วสาธยายบทบาทความหล่อเหล่าของตัวละครนั้นๆให้เธอฟัง ฮินะเลยพอรู้ว่าตัวนี้ชื่อนี้ ตัวนั้นชื่อนั้น มีอาวุธเป็นไอ้นี่ มีธาตุเป็นธาตุนั่น เท่านั้นเอง
                 
                  หลังตาย I อเบลเกิดในตระกูลฐานะดีและเป็นญาติมาเฟีย คนในครอบครัวนั้นรักและเอ็นดูเด็กสาวผู้เหมือนตุ๊กตาสูงค่าราวไข่ในหิน รวมถึงญาติของเธอคือคาบัคโรเน่แฟมิลี่ แต่กระนั้นอเบลก็รู้จักดีโน่ผู้เป็นผู้สืบทอดเพียงผิวเผิน เคยเล่นด้วยกันสองสามหนตอนงานรวมญาติ และดีโน่นี่เองทำให้อเบลรู้ตัวว่าตนเองหลงมาโลกรีบอร์นซะแล้วล่ะ...ภายหลังพอโตขึ้นเลยอยากรู้ว่าโลกนี้เป็นยังไง เพราะเหตุการณ์ในมังงะส่วนใหญ่ที่เด็กสาวรู้มันเกิดที่ญี่ปุ่น เธอเลยแอบหนี(?)ออกจากบ้านไปญี่ปุ่นตอนอายุ 15 ปีเสียเลย ทางบ้านที่แสนจะตามใจจึงได้แต่ฝากฝังดีโน่ที่ชอบไปญี่ปุ่นให้ดูแลยัยหนูที และอเบลก็ได้สมัครเข้าเรียนม.ต้นปี3 ที่โรงเรียนนามิโมริเสียด้วย แต่ไปๆ มาๆ คนแรกที่เธอเจอตอนมานามิโมริ คือยามาโมโตะ ทาเคชิ ซะอย่างนั้น เหตุคือเธอหลงทางแล้วถามทางไปโรงเรียนนามิโมริกับเขา แต่เขาดันอธิบาย ปิ้วเปิ้วๆ ได้รู้เรื่องมากกก #ประชด สุดท้ายยามาโมโตะเลยไปส่งเธอที่โรงเรียนด้วยตัวเอง ส่วนเรื่องจะไปยุ่งกับเนื้อเรื่องมั้ย อเบลคิดว่าคงจะไม่ เพราะเธอก็ไม่ได้รู้รายละเอียดเรื่องรีบอร์นมากมายอยู่แล้ว ก็ได้แต่ไหลตามสถานการณ์แล้วปล่อยไปตามนั้นนั่นล่ะ
                    PS - ภายหลังพวกสึนะรู้จักอเบลในฐานะญาติของดีโน่

    สิ่งที่ชอบ : - ขนมหวาน (ชอบทำด้วย)
                        - ถ่ายภาพ
                        - ความสุข รอยยิ้ม
                        - เล่นไวโอลิน
                        - เทศกาล ความสนุกสนาน

    สิ่งที่เกลียด : ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เธอไม่เคยเกลียดอะไรเลยอ่ะ...

    สิ่งที่แพ้ / กลัว : ความมืด I มืดสนิทไม่มีแสงเลยนะ มืดแบบมองไม่เห็นมือตัวเองน่ะ เพราะสมัยม.ต้นในโลกก่อนจะตาย เธอเคยโดนจับคนที่โรงเรียนแกล้งจับขังไว้ในห้องเก็บของใต้บันไดของโรงเรียน มันมืดสนิท ไม่มีเสียงอะไร และเธอตัวคนเดียว ตอนเช้าโน่นจึงจะมีภารโรงมาเปิดให้ จึงทำให้กลายเป็นความกลัวฝังใจตามติดอเบลมาด้วย

    คู่ : ยามาโมโตะ ทาเคชิ 

    แนวความรักที่ต้องการ : ปั๊บปี้เลิฟ น่ารักๆ I คิดว่าความรักของคู่นี้คงเป็นคู่สบายๆ ที่เข้ากันได้ดี เป็นความสัมพันธ์ที่คืบหน้าจากเพื่อนอย่างช้าๆ อืม อาจจะเข้ากันในอนาคตด้วยมั้งยามาโมโตะคนเนียนกับอเบลคนซื่อบื้อ (?)
    มุมสัมภาษณ์ตัวละคร

    "หวัดดีจ๊ะ ฉันคือพระเจ้านะจ๊ะ" 
    ตอบ "สวัสดีค่ะ คุณพระเจ้า?" ฮินะยิ้มแย้มตอบ เธอมองไปรอบๆ อย่างสนใจ

    "ช่วยแนะนำตัวให้ฟังหน่อยได้มั้ยจ๊ะ พูดมาเท่าที่อยากพูดเลยนะ!"
    ตอบ "ได้เลย ฉันชื่อฮินะ คาริต้า อายุ16 ปี เลือดกรุ๊บบี ราศีกันย์ ส่วนสูง150เซนติเมตร น้ำหนัก51 กิโลกรัม คนอื่นๆ บอกว่ามันอ้วยนะ แต่ฉันไม่คิดมากหรอก ว่าแต่ถ้าหากเธอเป็นพระเจ้าแปลว่าที่นี่เป็นสวรรค์สินะคะ ฉันก็คิดว่าคนที่จะไปสวรรค์ได้ต้องเป็นคนดีมากๆ เสียอีก หรือว่าผลจากการช่วยเด็กไม่ให้โดนรถชจะทำให้ฉันมีแต้มความดีเพิ่มกันนะ น่าสงสัยจริง เอาเป็นว่ายินดีที่ได้รู้จักนะคะ" เจ้าตัวพูดยาวเหยียดโดยไม่พักหายใจแล้วยิ้มแฉ่งโดยไม่มีอาการหอบเลยแม้แต่น้อย

    "เธออยากจะกลับไปใช้ชีวิตอีกมั้ยล่ะ? ถ้าไม่...ฉันขอเสนอให้เธอไปที่โลกอนิเมะและมังงะที่เธอชอบนะ เอามั้ยล่ะ?"
    ตอบ "โลกอนิเมะ มังงะ? ฉันไม่ค่อยสนใจด้วยสิคะ แต่ก็น่าสนใจดีเหมือนกันนะ" ฮินะพยักหน้ารับอย่างสบายๆ

    "แต่ก่อนจะไปเกิดใหม่ ขอถามอะไรสักข้อได้มั้ย?"
    ตอบ "ได้สิ คุณพระเจ้า" เธอยิ้มแล้วเลิกคิ้ว พร้อมให้ถามทุกเมื่อ

    "เธอคิดว่า อะไรคือ 'สิ่งที่แตกหักได้แม้จะไม่ได้กุมมันเอาไว้' งั้นเหรอ?"
    ตอบ "คำถามปรัชญาเหรอคะ..ยากเหมือนกันนะ คำตอบน่ะ มันไม่ตายตัวไม่ใช่หรอคะ ก็แล้วแต่คนจะคิดนั่นล่ะ" เธอเเบมือส่ายหน้าอย่างจนใจไม่รู้จะตอบอย่างไร

    "โชคดีกับชีวิตใหม่ของเธอนะจ๊ะ!"
    ตอบ "เอ๊ะ..เอ๋? ไปตอนนี้เลยเหรอคะ" แล้วภาพตรงหน้าก็พร่าเลือนไป

    มุมผู้ปกครอง

    สวัสดีค่ะ เราฮาคุราอินะคะ เตงชื่ออะไรเอ่ยยย : เรียกเราว่ามาซามิก็ได้ค่ะ!

    ถ้าไม่ผ่านจะมาเผาบ้านเรามั้ยคะ? : ไม่หรอกค่ะ ฮะๆ^^;;

    ถ้าหลุดคาร์สักนิดท่านจะให้อภัยเรามั้ยคะ(...) : เราเองก็ไม่เคยสมัครมาก่อน คาแรคอาจไม่ค่อยดี หลุดคาร์คงไม่เป็นไรหรอกค่ะ!

    ขอให้โชคดีนะคะ! : ขอบคุณนะคะ ไรท์เตอร์ก็เช่นกัน><


     
      CR.SQW
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×