คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : สองดวงจิตในร่างเดียว
"เพื่อที่จะสามารถคืนชีวิตให้น้องสาวเจ้าได้ ข้าจักสถิตย์อยู่ในร่างของเธอ พลังของข้าจะทำให้วิญญาณตรึงอยู่ในร่างได้ แต่เมื่อใดที่ข้าออกจากร่างของเธอ เมื่อนั้นน้องสาวของเจ้าจักหลับไปชั่วนิรันดร์" คำพูดนี้ดังก้องอยู่ในหัวของชายหนุ่มผู้กอดร่างน้องสาวอยู่อย่างใคร่ครวญ ในขณะที่อีกฝ่ายเอื้อมมือมาลูบใบหน้าที่ไร้ชีวิตของเด็กสาวก่อนที่จะเอ่ยต่อ
"พวกจักรวรรดิต้องตามล่าพวกเจ้าในข้อหากบฏแน่ แต่ข้าไม่อาจทำอะไรได้มากกว่านี้" ชายหนุ่มผมเงินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงโศกเศร้า เวลิกอดร่างเด็กสาวแน่นขึ้นก่อนที่จะยอมให้อีกฝ่ายอุ้มน้องสาวของตนขึ้นไป
"ข้ามีคำขอร้องพวกเจ้าหนึ่งอย่าง" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นในขณะที่รอบกายเขาประกายแสงสีเงินเรืองรอง และห่อหุ้มตัวเด็กสาวไว้ "ช่วยพาข้าไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ ที่นั่นร่างเธอจักได้รับการคุ้มครองโดยที่จักรวรรดิไม่อาจเอื้อมไปถึง" สิ้นเสียงร่างของเขาก็กลายเป็นมังกร ก่อนที่จะค่อยๆหายเข้าสู่ร่างเด็กสาว เวลิรีบเข้าไปรับร่างน้องสาวตนที่ตกลงสู่พื้นได้ทัน บัดนี้ร่างในอ้อมแขนเขามีลมหายใจขึ้นมาอีกครั้ง ดวงหน้าที่ไร้สีเลือดเริ่มมีเลือดฝาดขึ้นเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงชีวิตที่กลับคืนสู่ร่าง นัยน์ตาของเด็กสาวลืมขึ้นมาก่อนที่จะจ้องไปยังทหารแห่งจักรวรรดิผู้เดียวที่อยู่ในที่นั้นโดยตลอดมา ก่อนที่ริมฝีปากจะขยับเอ่ยขึ้นเป็นคำสั่ง
"ข้าขอสั่งให้เจ้าดูแลสองพี่น้องคู่นี้ยามที่ข้าไม่อาจออกมาได้ นี่เป็นสิ่งที่เจ้าต้องทำในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้คร่าชีวิตของเด็กสาวที่ข้ารักไป" คำสั่งของโลอิคาร์เมร์ถูกเอ่ยขึ้นในเสียงของเด็กสาวก่อนที่เธอจะฟุบหลับลงไปในอ้อมกอดของพี่ชาย ชายหนุ่มผู้ถูกสั่งค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้นก่อนที่จะเดินเข้ามาใกล้ร่างของทั้งคู่ เวลินั้นมองอีกฝ่ายผู้อยู่ใต้คำสั่งของบุคคลที่ลักพาชีวิตเด็กสาวไปด้วยสายตาที่ไม่วางใจ เมื่อมือของอีกฝ่ายยื่นเข้ามาหาร่างของเซียว่าจึงถูกเขาปัดออกไปโดยทันที
"ข้าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า" น้ำเสียงแข็งกร้าวดังขึ้นจากปากของชายหนุ่มผมสีน้ำทะเล นัยน์ตาเขาฉายแววโกรธเต็มที่ ไม่ว่านี่จะเป็นคำสั่งของท่านมังกรโลอิคาร์เมร์หรือไม่ก็ตาม แต่เขาไม่มีทางไว้ใจทหารจักรวรรดิเด็ดขาด
"ข้า..." ลินเนสเอ่ยขึ้นแต่ทว่าอีกฝ่ายไม่รอฟังให้เขาพูดจบ เวลิอุ้มเด็กสาวขึ้นโดยทันทีแม้ว่าร่างเขาจะมีบาดแผลอันเกิดจากดาบของหนึ่งในทหารจักรวรรดิที่คุมตัวเขาเมื่อครู่ก็ตาม เขาตะโกนใส่หน้าชายหนุ่มทีอยู่ตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อใจ
"ข้าไม่สนว่านี่จะเป็นคำสั่งของท่านมังกรโลอิคาร์เมร์หรือไม่ แต่ข้าคนเดียวก็ดูแลเธอได้ และที่สำคัญ ข้าไม่เชื่อใจเจ้า" เขาพูดพลางขยับตัวจะออกไปจากที่แห่งนี้ แต่ทว่าอีกฝ่ายท้วงเขาขึ้นเสียก่อน
"ข้าไม่ได้ทำเพราะเป็นคำสั่ง แต่ว่าข้าคิดว่ามันเป็นความรับผิดชอบของข้าด้วยที่ทำให้เธอต้องกลายเป็นเช่นนั้น" ลินเนสเอ่ยพร้อมๆกับมองร่างของเด็กสาวที่ยังไม่ลืมตาตื่นขึ้นแม้ว่าจะมีลมหายใจกลับคืนมาแล้วตาม เวลิหันกลับมามองด้วยสายตาแค้นเคือง
"เป็นความผิดของพวกเจ้าที่ทำให้เธอต้องกลายเป็นแบบนี้ ทั้งๆที่พวกเราสองพี่น้องพยายามอยู่อย่างสงบมาตลอด เธอแทบจะไม่ได้เข้าไปในตัวเมืองด้วยซ้ำ แต่ทำไมถึงต้องกลายเป็นแบบนี้ ก็เป็นเพราะพวกเจ้า" น้ำเสียงของเวลิแผดก้อง ในขณะที่ลินเนสได้แต่เพียงยืนนิ่งเพราะไม่อาจหาคำแก้ตัวใดๆได้ เวลิกัดฟันด้วยความโมโหก่อนที่จะหันหลังกลับแต่ในจังหวะนี้ร่างในอ้อมกอดของเขาเริ่มขยับ เปลือกตาของเด็กสาวค่อยๆเปิดขึ้นมา ก่อนที่จะเอ่ยเรียกคนที่โอบกอดร่างเธออยู่อย่างแผ่วเบา
"ท่านพี่" เสียงของเธอทำให้ผู้เป็นพี่นั้นลืมความโกรธไปได้ชั่วขณะ เวลิมองใบหน้าของเด็กสาวด้วยความยินดีก่อนที่จะกอดเธอแน่น
"ท่านพี่คะ... ท่านพี่ ข้าไม่เป็นอะไรหรอก ปล่อยข้าเถอะค่ะ" เซียว่าร้องขอแต่ก็ยอมให้อีกฝ่ายกอดเธอแต่โดยดี พอดีกับที่นัยน์ตาสีอะความารีนคู่นี้ไปสบเข้ากับนัยน์ตาของชายหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่ในที่นั้น อีกฝ่ายหลบสายตาของเธอลงไปมองพื้นแทน เซียว่าหันกลับมามองหน้าพี่ชายของตนก่อนที่จะเอ่ยขึ้น
"ท่านพี่คะ ปล่อยข้าลงได้แล้ว ข้ายืนเองได้นะคะ" เธอเอ่ยขึ้นแต่สีหน้าของเวลิกลับไม่มีทีท่าจะยอมปล่อยให้เธอยืนด้วยขาของเธอเองเลยแม้แต่นิด แต่เมื่อเด็กสาวส่งสายตาแน่วแน่มาเขาจึงจำยอมวางร่างของเธอลงบนพื้น ก่อนจะดึงมือเธอไว้จะเดินออกไปจากวิหารแห่งอิคาร์เมร์ แต่เซียว่ารั้งมือพี่ของเธอไว้ก่อน
"ท่านพี่ ท่านไม่ได้ฟังที่ท่านมังกรบอกเลยหรือ" เด็กสาวท้วงขึ้นพลางดึงมือพี่ชายเธอพร้อมๆกับมองไปยังอีกร่างที่ยังยืนนิ่งอยู่ เวลิจ้องมองไปยังผู้ที่ปิดปากเงียบมาตั้งแต่เซียว่าฟื้นขึ้นก่อนที่จะกัดฟันพูด
"พวกเราไม่จำเป็นต้องมีเขา เราก็ไปกันเองได้นะ เซียว่า" เวลิลิเอ่ยเสียงหนักแน่นในขณะที่มือกุมลงบนบ่าของเด็กสาว แต่เซียว่าไม่สนใจสิ่งที่พี่ชายพูดและยังคงยืนยันความคิดเดิม
"ข้ารู้ว่าท่านพี่ไม่ชอบพวกทหารจักรวรรดิ แต่เขาต่างออกไปจากคนเหล่านั้นไม่ใช่หรือคะ ท่านพี่ไม่เห็นหรือว่าเขาเป็นเพียงคนเดียวที่ค้านองค์จักรพรรดิ"
"แต่ข้า... ก็ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น สมควรแล้วที่ท่านจะไม่เชื่อในสิ่งที่ข้าพูด" ลินเนสพูดขึ้น เซียว่าหันไปมองบุรุษตรงหน้าอย่างชั่งใจชั่วครู่ ก่อนที่จะเอ่ยตอบ
"แต่มันก็เป็นสิ่งที่ท่านกล้าทำ และ...เพราะเหตุนี้ไม่ใช่หรือ ที่ท่านมังกรบอกให้ท่านตามพวกเราไป" เซียว่าพูดขึ้นก่อนที่จะหันหน้าไปหาเวลิแล้วพูดต่อ "ท่านพี่คะ ข้ารู้ว่าท่านไม่ชอบแบบนี้ แต่เขาไม่ใช่คนไม่ดีขนาดที่ท่านคิดนะคะ"
"แต่เพราะพวกมันนะ ที่ทำให้เจ้าต้องตายไปน่ะ" เขาพูดขึ้นอย่างไม่เห็นด้วยในความคิดของน้องสาว แต่ทว่าเธอแย้งขึ้น
"แต่เพราะเขา ท่านพี่ถึงยังไม่ตาย ถ้าเขาลงมือไปตามที่องค์จักรพรรดิสั่งจริงๆ ถึงข้าจะฟื้นขึ้นมาได้เพราะท่านมังกร ข้าก็ไม่นึกดีใจนักหรอกค่ะ" เด็กสาวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ มือทั้งคู่จับชายแขนเสื้อของผู้เป็นพี่แน่น เวลิฟังคำน้องก่อนที่จะเอามือลูบหัวเธอเบาๆก่อนที่จะเอ่ยปากยอมรับ
"ข้ายอมก็ได้ แต่ข้ายังไม่ไว้ใจเจ้าเสียทีเดียวหรอกนะ" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นในขณะที่เหลือบมองอีกฝ่ายผู้อยู่ในเครื่องแบบสีแดงแห่งจักรวรรดิด้วยสายตาที่โอนอ่อนลงตามคำขอของน้องสาว
"อย่าพูดแบบนี้สิคะ ท่านพี่" เสียงเด็กสาวต่อว่าผู้เป็นพี่ ก่อนที่เธอจะหันไปหาผู้ที่ยืนเงียบอยู่แล้วเอ่ยขึ้น
"หลังจากนี้คงต้องรบกวนอีกหลายเรื่อง ข้าชื่อเซียว่า ส่วนท่านพี่ข้าชื่อเวลิค่ะ แล้ว..." เด็กสาวหยุดไปชั่วขณะเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายชื่อว่าอะไร เขามองหน้าเธอชั่วครู่ก่อนที่จะเอ่ยต่อให้
"ข้าชื่อลินเนสครับ ข้าขอโทษที่ทำให้พวกท่านต้องเจอเรื่องเลวร้ายเมื่อครู่" ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเสียใจ แต่เด็กสาวกลับยิ้มให้
"ไม่ใช่ความผิดของท่านที่เรื่องเกิดขึ้น และมันเป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้วที่จะต้องปกป้องที่นี่ และไม่ว่าอย่างไร จากนี้ไปก็ขอรบกวนด้วยนะคะ"
"ก็หวังแต่ว่าเจ้าจะไม่ส่งตัวพวกเราเข้าสู่เงื้อมมือจักรวรรดิละกัน" เวลิเอ่ยขึ้นให้เด็กสาวหันไปทำหน้างอใส่ ไม่ว่าอย่างไรก็ยากที่จะให้เขาเชื่อใจคนผู้นี้อย่างสนิทใจ
-----------------------------------------------------------------
แสงนวลของดวงดาราทออยู่บนผืนฟ้ารายล้อมด้วยแสงระยิบระยับของหมู่ดาวสะท้อนอยู่บนผิวน้ำในสระกว้าง วงคลื่นเล็กเกิดจากปลาที่โผล่ขึ้นมาฮุบแมลงที่เคราะห์ร้ายตกลงไปเป็นเหยื่อ สายลมพัดปะทะใบหน้าของชายหนุ่มผู้ยืนอยู่เพียงผู้เดียวในความมืดมิด
อีริคยืนนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อยามกลางวันอย่างหนักใจ เมื่อตอนที่นักเวทซึ่งติดตามเสด็จไปด้วยนั้นใช้เวทเคลื่อนย้ายพาองค์จักรพรรดิกับทหารกลุ่มหนึ่งซึ่งรวมถึงเขาด้วยออกมาจากที่แห่งนั้น เขาไม่สามารถนำพาน้องชายของเขาออกมาจากที่แห่งนั้นได้ และเพราะการที่ลินเนสไม่ทำตามรับสั่งเช่นนั้น เขารู้ดีว่ามันหมายถึงอะไร ใครก็ตามที่ขัดขวางพระราชประสงค์ย่อมถูกตราว่าเป็นกบฏทั้งสิ้น
เสียงลมหายใจเฮือกใหญ่ดังขึ้นก่อนที่เขาจะเดินกลับเข้าในตัวบ้าน ภายในใจหวังอย่างยิ่งว่าจะไม่มีรับสั่งใดๆที่ทำให้น้องชายของตนเป็นอันตราย ทั้งที่ลึกลงไปข้างในมันฟ้องว่าสิ่งที่เขาหวังอยู่ในตอนนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นได้จริง
--------------------------------------------------------------
"ไอ้พวกนั้น" เสียงเวลิสบถขึ้นด้วยความไม่พอใจในขณะที่ก้าวเข้ามาในห้องเรียกสายตาของเซียว่าจ้องมองอย่างตกใจ ชายหนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้ด้านข้างของเด็กสาวก่อนที่จะหยิบเอาผ้าคลุมผืนใหญ่ออกมาจากถุงสัมภาระที่เก็บออกมาอย่างเร่งรีบจากที่บ้านแล้วส่งมาให้น้องสาวของตน
"คลุมนี่ไว้ซะ ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่" เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด เซียว่ามองดูอีกฝ่ายด้วยความแปลกใจในคำสั่งนี้แต่ก็ยอมนำผ้าคลุมนั้นมาสวมแต่โดยดี
"พวกจักรวรรดิมันเริ่มตามหาตัวพวกเราแล้ว เราคงอยู่ที่เมืองนี้ไม่ได้นาน" เวลิพูดขึ้นพลางลุกขึ้นเดินไปเดินมารอบห้องอย่างใช้ความคิด เด็กสาวมองตามร่างที่เดินไปมานั้นด้วยความกังวลใจ เธอเหลียวมองไปยังบุรุษอีกผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ตรงมุมห้อง ก่อนที่จะเอ่ยขึ้น
"ที่ตามพวกเรามานี่ ทำให้ท่านต้องเดือดร้อนหรือเปล่าคะ" เธอถามชายหนุ่มผู้ที่แทบจะไม่พูดคุยใดๆเลยตลอดคืน บางทีการตัดสินใจของเธอที่ให้เขามาด้วยนั้นอาจจะเป็นผลร้ายต่อตัวเขาเองมากกว่าดีก็ได้
"ไม่หรอกครับ ถึงอย่างไรข้าก็ต้องได้รับโทษที่ขัดรับสั่งอยู่ดี ไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบไหนก็ไม่แตกต่างกันนักหรอครับ" เขาเอ่ยขึ้นเบาๆพลางมองออกไปด้านนอก เวลิมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นชาก่อนที่จะเอ่ยเสียงห้วน
"ถ้ากลัวที่จะตายนักก็ไม่ต้องตามมา ข้าไม่คิดจะพึ่งเจ้าอยู่แล้ว" สิ้นเสียงชายหนุ่ม เด็กสาวเพียงผู้เดียวในห้องก็หันกลับไปมองพี่ชายเธออย่างตำหนิ
"ท่านพี่ เลิกพูดแบบนั้นเสียทีเถอะค่ะ" เซียว่าร้องขอขึ้นพลางลุกขึ้นพร้อมกับดึงมือพี่ชายของเธอ ก่อนที่จะเดินเข้ามาหาลินเนส แล้วจับมือของชายหนุ่มทั้งคู่มาไว้ด้วยกัน พลางเอ่ยขึ้น
"ทะเลาะกันมันไม่ดีนะคะ ท่านพี่เองก็เคยบอกข้าแบบนั้นบ่อยๆไม่ใช่หรือ แต่ท่านกลับมาเป็นเสียเองแบบนี้" เธอพูดขึ้นพลางมองดูใบหน้าของทั้งคู่ด้วยแววตาจริงจัง ก่อนที่จะพูดย้ำอีกครั้ง "พวกเราต้องเดินทางด้วยกันอีกนานนะคะ ถ้าท่านพี่ทำแบบนี้มันจะลำบากมากเลยนะ" เด็กสาวพูดพลางมองหน้าพี่ชายที่ไม่ยอมสบตาชายหนุ่มผู้เป็นอดีตทหารจักรวรรดิ เวลิถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะยอมตอบรับคำขอของน้องสาว
"ก็ได้ ถ้าเจ้าว่าอย่างนั้นนะ เซียว่า ข้าจะเลิกพูดแบบนั้นใส่เขาก็ได้"
"ท่านพี่คะ..." เธอเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความขอร้อง
"ก็ได้ๆ ข้าจะไม่พูดจาดูถูกเจ้าเช่นนั้นอีก ลินเนส" เวลิยอมโอนอ่อนตามน้องสาวเรียกชื่ออีกฝ่ายออกมาในที่สุด เขาทรุดนั่งลงไปบนเตียงอย่างแรงก่อนที่จะเปิดเสื้อออกดูบาดแผลที่พันผ้าไว้ เซียว่ารีบเดินเข้าไปดูอาการของพี่ชายก่อนที่จะเอ่ยถาม
"ท่านพี่หยิบยามาด้วยหรือเปล่าคะ" คำถามนี้เวลิพยักหน้าก่อนที่จะหยิบห่อผ้าที่นำติดตัวมาแก้ออกและนำขวดที่บรรจุน้ำใสไว้ออกมา เขาเปิดจุกขวดออกก่อนที่จะเทน้ำในนั้นออกมาสองสามหยดลงบาดแผล บาดแผลนั้นค่อยๆสมานตัวขึ้น แม้ว่าจะยังคงมีร่องรอยอยู่แต่ทุเลาลงมากกว่าเมื่อครั้งแรกเห็น ลินเนสมองภาพตรงหน้าด้วยความแปลกใจ ซึ่งเด็กสาวหันมาเห็นนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของเขาเข้าพอดีจึงพูดขึ้น
"นี่เป็นน้ำทิพย์ที่ท่านพี่ใช้เวทมังกรในการทำขึ้นมาน่ะค่ะ แม้ว่าบาดแผลจะหนักหนาแค่ไหนน้ำนี้ก็ทำให้ทุเลาลงได้ แม้ว่าจะไม่หายเลยในทีเดียวก็ตาม" เธอพูดขึ้นหากแต่ลินเนสยังติดใจสงสัยอยู่เรื่องหนึ่ง เขาคิดใคร่ครวญอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะเอ่ยถามออกมา
"นักเวทผู้รับใช้มังกรทำเรื่องเช่นนี้ได้ด้วยหรือ แต่ที่ข้าเคยรู้มามัน..." เขาเอ่ยยังไม่ทันจบเวลิก็เอ่ยต่ออย่างรู้ทันว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรต่อมา
"มันมีแต่เวททำลายล้าง และใช้พลังเหล่านี้ในการก่อกบฏใช่ไหมล่ะ" เวลิเอ่ยขึ้นพร้อมกับหัวเราะอย่างประชดประชัน นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มคู่นี้มองไปยังใบหน้าของลินเนสตรงๆก่อนที่จะพูดต่อ
"ข้าไม่แปลกใจหรอก ถ้าหากพวกเจ้าจะรู้จักพวกเราในฐานะเช่นนี้ ก็เพราะองค์จักรพรรดิรับสั่งว่าพวกเราเป็นเช่นนี้ล่ะสิ" เขาพูดพลางเอามือลูบหัวเด็กสาวก่อนจะลุกขึ้น
"ข้าจะออกไปดูด้านนอกหน่อย เซียว่าเจ้าอยู่ข้างในห้องนี่แหละ" เวลิเอ่ยก่อนที่จะชะงักเล็กน้อย แต่ก็ยอมพูดออกมาแต่โดยดี "ข้าฝากเจ้าดูแลเซียว่าด้วย... อย่าทำอะไรที่จะเป็นอันตรายต่อเธอเด็ดขาด"
"ถ้าท่านจะออกไปด้านนอก ข้าออกไปแทนก็ได้" ลินเนสท้วงขึ้น แต่อีกฝ่ายส่ายศีรษะปฏิเสธก่อนที่จะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
"ขืนเจ้าออกไปด้านนอกในชุดของจักรวรรดิเช่นนี้สิ เมื่อคืนเพราะมันมืดแล้วเจ้าของโรงแรมนี้ถึงไม่ได้สังเกตอะไร แต่ตอนนี้ด้านนอกมีติดประกาศจับตัวเจ้าไปทั่ว ข้าว่าข้าไปหาชุดมาเปลี่ยนให้เจ้าก่อนดีกว่า" เวลิตอบกลับพลางมองผู้ที่เสนอตัวอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะออกจากห้องไป เสียงฝีเท้าค่อยๆห่างไกลออกไปทุกขณะบ่งบอกว่าเจ้าของร่างนั้นเดินไปไกลแล้ว
"ข้าขอโทษนะคะ ที่ทำให้ต้องมาพัวพันเรื่องวุ่นวายแบบนี้" เซียว่าพูดขึ้นในขณะที่จ้องมองอีกฝ่าย ลินเนสยิ้มให้กับเด็กสาวก่อนที่จะเอ่ยขึ้น
"ข้าบอกแล้วว่าไม่ใช่เพราะท่าน ไม่จำเป็นที่ท่านจะต้องมากังวลเช่นนี้เลย" เขาเอ่ยพลางเดินมานั่งที่เก้าอี้ แล้วหยิบดาบที่เขานำติดตัวมาตลอดวางลงบนโต๊ะ ก่อนที่จะหันกลับไปหาเด็กสาวที่จ้องมองเขาอย่างไม่ละสายตาด้วยความแปลกใจ
"มีอะไรหรือ" ลินเนสถามขึ้นด้วยน้ำเสียงแปลกใจ เด็กสาวส่ายหน้าเบาๆก่อนที่จะตอบกลับ
"เปล่าค่ะ ข้าแค่...สงสัยเท่านั้น" เซียว่าหยุดไปชั่วครู่ก่อนที่จะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ "พวกท่านเห็นว่าการมีอยู่ของพวกเรา ของท่านมังกร เป็นสิ่งที่อันตรายถึงเพียงนั้นเชียวหรือคะ" นัยน์ตาของเธอจับจ้องไปยังใบหน้าคู่สนทนา น้ำเสียงของเธอไม่ได้มีความโกรธเจืออยู่เลยแม้เพียงน้อยนิด มีเพียงความสงสัยเท่านั้น เพราะบทสนทนาของพี่ชายกับชายหนุ่มตรงหน้าเมื่อครู่
ลินเนสมองหน้าเด็กสาวผู้มีสายเลือดของนักเวทผู้รับใช้ตรงหน้าอย่างจนด้วยคำพูด เขาไม่เคยรับรู้เลยว่าความจริงคืออะไร สิ่งที่เวลิเอ่ยถึงเมื่อครู่เป็นคำบอกเล่าของนักเวทชั้นสูงที่อยู่ภายในวังหลวงจริง ทหารทุกนายต่างได้รับการปลูกฝังมาอย่างเข้มงวดในเรื่องนี้ ทุกๆคนต่างก็เชื่อว่าการมีอยู่ของมังกรและนักเวทผู้รับใช้มังกรถือเป็นอันตรายอันใหญ่หลวงของจักรวรรดิเคอิซารี
บางทีเขาควรจะคิดใหม่... ถึงเรื่องที่เคยได้รับการบอกกล่าวมา
ใครกันแน่ที่เป็นอันตรายอันใหญ่หลวงของจักรวรรดิเคอิซารี
"ดูเหมือนเด็กน้อยของข้าได้ถามคำถามที่เจ้าตอบลำบากเข้าเสียแล้วสินะ" เสียงที่เอ่ยขึ้นปลุกให้ลินเนสตื่นขึ้นจากภวังค์ ก่อนที่จะมองดูอีกฝ่ายด้วยความแปลกใจ
นัยน์ตาของเซียว่าบัดนี้เรืองแสงสีเงินออกมาโดยภายในนั้นมิสะท้อนภาพใดๆออกมาโดยสิ้นเชิง แม้ว่าจะไม่มีสิ่งใดสะท้อนอยู่ในกระจกตาคู่นั้นแต่มันก็จับจ้องดูใบหน้าของชายหนุ่มที่มีแววแห่งความตื่นตระหนกอยู่เต็มสีหน้า เธอยิ้มออกมาก่อนที่จะพูดขึ้น
"เซียว่าเธอหลับไปแล้ว การที่ให้ดวงจิตของเธอคงอยู่ได้ต้องให้เธอได้พักบ้าง นอกจากนี้ข้ามีเรื่องจักพูดคุยกับพวกเจ้าด้วย" เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง พลางหันมองหาอีกผู้หนึ่งที่มิได้อยู่ภายในห้องก่อนที่จะพูดต่อ "คนพี่ยังไม่กลับมาหรอกรึ" อีกหนึ่งดวงจิตในร่างของเด็กสาวเอ่ยขึ้น
"ท่าน..." เสียงเอ่ยขึ้นด้วยความไม่แน่ใจของลินเนส ใบหน้าของเซียว่าหันมาจ้องมองอีกฝ่ายที่มีแววตาตื่นตระหนกอย่างไม่พอใจ
"ทำหน้าตื่นตระหนกด้วยเหตุใดล่ะ เจ้ามนุษย์" ถ้อยคำที่เปล่งออกมายืนยันถึงตัวตนผู้กล่าวได้เป็นอย่างดี มิใช่เด็กสาวเจ้าของร่างแน่ หากแต่เป็น...
"ท่าน มังกรอย่างนั้นหรือ" ลินเนสเอ่ยเสียงแผ่ว เขาเรียกร่างนั้นด้วยชื่อที่เด็กสาวเคยพูดถึง ในขณะที่นัยน์ตาของร่างนั้นยังคงจ้องมองดูใบหน้าเขาอย่างไร้ความรู้สึก ก่อนที่เจ้าของนามที่ถูกเอ่ยเรียกจะตอบกลับ
"ใช่ พวกเจ้าเรียกข้าเช่นนั้น แต่จักดียิ่งกว่าหากเจ้าเรียกด้วยชื่อข้า มิใช่ในนามของเผ่าพันธุ์" เสียงนั้นหยุดไปชั่วครู่ก่อนที่จะดังขึ้นอีกครั้ง
"ชื่อข้าคือ โลอิคาร์เมร์" สิ้นเสียงกล่าวก็มีสียงเปิดประตูดังขึ้น พร้อมๆกับร่างของเวลิซึ่งหอบข้าวของเข้ามาในห้อง เขามองดูร่างของคนทั้งคู่ที่มีทีท่าแปลกไปด้วยสายตาแปลกใจ และยิ่งกับร่างของเด็กสาวซึ่งไม่มีความเป็นตัวเองหลงเหลืออยู่เลย นัยน์ตาคู่นั้นประกายสีเงินเรืองรองออกมาชวนให้นึกหวั่นเกรงในอำนาจ
"ท่าน...มังกร" เวลิเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักด้วยความแปลกใจ ร่างของเด็กสาวหันมามองเขาก่อนที่จะเอ่ยตอบ
"ข้าเพิ่งกล่าวกับทหารจักรวรรดินี่ไปเมื่อครู่เองถึงการเรียกชื่อข้า..." ร่างนั้นเงียบเสียงลงไปอย่างเหนื่อยใจ ก่อนที่จะกล่าวต่อ "ครั้งหน้าหากเรียกข้า ให้เรียกชื่อ มิใช่นามแห่งเผ่าพันธุ์" สิ้นเสียงเจ้าตัวก็สังเกตเห็นแววตาของเวลิ จึงได้เอ่ยขึ้นต่อไป
"เซียว่ามิได้เป็นอะไร เพียงแค่เธอหลับอยู่เท่านั้น ข้าเลยออกมาเพราะมีเรื่องจักต้องพูดกับเจ้าทั้งคู่" คำกล่าวที่ทำให้ผู้เป็นพี่ของเด็กสาวเบาใจขึ้น เขาเอ่ยถามพร้อมๆกับวางข้าวของในมืลงบนโต๊ะ
"มีเรื่องอะไรหรือครับ"
"เรื่องดินแดนศักดิ์สิทธิที่ข้าเคยกล่าวถึง"
ความคิดเห็น