ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ::Lohikaarme::

    ลำดับตอนที่ #5 : บทบรรเลงแห่งความสูญเสีย

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.ย. 49


     



             
    ยามเช้าวันนี้แตกต่างจากทุกที  แม้ว่าดวงอาทิตย์ที่ฉายแสงจะเป็นดวงเก่า  สายลมที่พัดเอื่อยก็ยังคงมีกลิ่นหอมอันเกิดจากดอกไม้แรกแย้ม  แต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือจิตใจอันว้าวุ่นของตัวเธอเอง  เซียว่าตื่นขึ้นมาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างดี  เพราะว่าวันนี้เป็นวันที่องค์จักรพรรดิจะเสด็จมาที่นี่  ที่แท่นบูชาที่ตระกูลของเธอดูแลอยู่  แม้ว่าเธอจะปลอบตัวเองว่ามันไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงใดๆขึ้น  หากแต่จิตใจเธอไม่สงบลงเสียเลย  ด้วยเกรงว่าจะเป็นดังเช่นความฝันนั้น


     

               "ตื่นแล้วหรือ  เซียว่า"  เวลิเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเธอเดินลงบันไดมา  เซียว่าพยักหน้ารับ เธอไม่อยากบอกให้เขารู้ว่าแท้จริงแล้วเธอตื่นมาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างเพราะไม่ต้องการให้เขาห่วงเธอมากเกินกว่าที่จะเตรียมตัวสำหรับเรื่องในวันนี้


     

               "ท่านพี่ไม่กังวลบ้างหรือ"  เซียว่าเอ่ยถามขึ้นในขณะที่เดินไปหยิบจานมาเพื่อตักข้าว  เธอมองดูอีกฝ่ายด้วยสายตาเป็นกังวล  เวลิมองเธอก่อนที่จะตอบปัดๆไป


     

               "ไม่หรอก  เจ้าเองก็อย่านึกกังวลไปมากนักเลย  มันไม่เกิดเรื่องร้ายแรงอะไรขึ้นหรอกน่า"  เวลิเอ่ยกับน้องสาว  แม้ว่าส่วนหนึ่งในประโยคสุดท้ายนั้นเขาพูดปลอบตัวเองด้วย  เซียว่าพยักหน้ารับก่อนที่จะเงียบลงในระหว่างที่ทานอาหาร  จิตใจนึกคำนึงไปถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้านี้  ถ้ามันไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นก็คงจะดีสินะ


     

    *****************************************


     

              เสียงเอะอะวุ่นวายเกิดขึ้นที่หมู่บ้านริเวอร์วินด์อันเป็นลักษณะปกติดังเช่นทุกๆเช้า  พวกชาวบ้านต่างก็เริ่มดำเนินวิถีชีวิตตามปกติของตน  เสียงแม้ค้าขายผักผลไม้เรียกลูกค้าดังขึ้นเป็นระยะๆ  กลิ่นขนมปังที่เพิ่งออกจากเตาหอมกรุ่นโชยมาเรียกเอาน้ำลายใครบางคนแทบไหล  วีถีชีวิตอันเรียบง่ายเช่นนี้เป็นเรื่องที่พบเห็นได้จนเจนตาสำหรับหมู่บ้านเล็กๆที่ตั้งอยู่ตรงรอยต่อของเขตแดน  แต่วันนี้ดูจะแตกต่างจากทุกที  เพราะมีเสียงซุบซิบกันอย่างหวานหวั่น  หนึ่งในคำพูดนั้นมีเอ่ยถึง  ทหารของจักรวรรดิ  ด้วย


     

              "รู้ไหม  วันนี้องค์จักรพรรดิจะเสด็จมาที่นี่ล่ะ"  เสียงหนึ่งดังขึ้นในวงสนทนาเล็กๆนั้น  น้ำเสียเต็มไปด้วยความเป็นกังวล


     

              "รู้สิๆ  ข่าวนี้คนพูดถึงเยอะจะตาย  ไม่รู้พระองค์นึกยังไงถึงจะเสด็จมาที่นี่กัน"


     

              "ข้าเห็นว่า..  จะเสด็จมาเพื่อปราบปรามพวกกบฏแถมชายแดนให้เงียบๆลงไปบ้างน่ะ"  ชายชราที่ยืนฟังอยู่ด้วยส่ายศีรษะเบาๆอย่างปลงๆ  เขาไม่ได้เชื่อถือในข่าวนี้นักหรอก..


     

              "แต่ข้าว่า..  ที่เสด็จมาน่ะ  เห็นชัดๆว่ามาเพราะ แท่นบูชาโลอิคาร์เมร์ มากกว่า"   เจ้าของร้านเดินเข้ามาสมทบระหว่างที่ยกจานอาหารมาให้   เขาถอนหายใจเบาๆอย่างนึกห่วงถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้น


     

              "มันแปลกที่ว่าพระองค์น่ะ  เกลียดพวกมังกร  และผู้รับใช้มังกรจะตาย  ใครก็รู้..  แต่ว่าทำไมกึงยัง.."  หญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด


     

              "เพราะงี้น่ะสิ..  ข้าล่ะกลุ้มแทนสองคนนั่นจังเลย  ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า"  เจ้าของร้านพูดขึ้นพลางนึกถึงผู้รับใช้มังกรทั้งสองที่พวกเขารักใครมาก  คนอื่นต่างก็พบักหน้าอย่างเห็นด้วยในสิ่งที่กล่าวมา


     

              "เวลิ...  แม้จะยังหนุ่มแน่น  แต่ก็เป็นเด็กที่นิสัยดี  มีอะไรก็คอยช่วยพวกเราอยู่เสมอๆ  ส่วนเซียว่า  เด็กน้อยคนนั้นแม้ข้าจะไม่ได้เห็นหน้าเธอบ่อยๆเพราะร่างกายเธออ่อนแอ  แต่ทุกทีที่พบเจอเธอ  เธอก็ช่างน่ารักเหลือเกิน"  หญิงชราที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆเอ่ยเสริม


     

              "สองคนนั่นเป็นพี่น้องที่รักกันมาก  และยังเป็นเด็กดีด้วย  ข้าหวังเหลือเกินว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาสองคน"  เสียงหนึ่งในวงสนทนาเอ่ยขึ้นเบาๆ  นี่เป็นสิ่งที่ทุกคนต่างคิดอยู่ในใจ  จนกระทั่งวงสนทนานี้ต้องแตกฮือไปเพราะเสียงหนึ่งที่ดังขึ้น


     

              "ทหารของจักรวรรดิมาแล้ว"  เด็กหนุ่มผู้หนึ่งวิ่งโร่เข้ามาก่อนที่จะมาหยุดยืนอย่างเหนื่อยหอบ  นัยน์ตาเบิกกว้างกับสิ่งที่ตัวเขาเพิ่งพบเจอมาเมื่อครู่   พวกชาวบ้านที่จับกลุ่มสนทนาอยู่เมื่อครู่ต่างก็มีทีท่าตกใจอย่างปิดไม่มิด  ทั้งหมดมองตากันอย่างเลิกลั่ก  หนึ่งในนั้นเอ่ยถามเด็กหนุ่มที่วิ่งมาด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด


     

              "พวกนั้นมากันเยอะไหม"  เด็กหนุ่มพยักหน้าตอบรับกับคำถามนี้


     

              "เยอะครับ  ท่านผู้ใหญ่บ้าน  ราวกับจะมาเพื่อทำสงครามย่อมๆได้"  คำตอบนี้เล่นเอาหลายคนในที่นั้นยืนตัวแข็งไปขณะใหญ่  แต่ทว่าผู้ใหญ่บ้านกลับก้าวออกมา  แม้ว่าการไปเผชิญหน้ากับเหล่าทหารแห่งจักรวรรดินั้นเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากทำนัก  แต่ในเวลานี้ไม่มีทางเลือกให้เลือกมากมายนัก  อย่างน้อยการรู้จุดประสงค์ที่แน่นอนของผู้มาเยือนน่าจะดีกว่าไม่รู้


     

              "เดี๋ยวข้าคงต้องไปพบพวกนั้นเสียหน่อย"  เขาเอ่ยขึ้น  ในขณะที่พวกชาวบ้านจ้องมองเขาเป็นตาเดียว  ก่อนที่จะมีคำค้านเสียงอ่อย


     

              "แต่..ท่านผู้ใหญ่บ้านครับ.."


     

              "ไม่หรอก   ข้าน่ะไม่เป็นไรหรอก  ข้าว่าถ้าจะชะลอเวลาให้พี่น้องสองคนนั้นสักนิดก็ยังดี นี่เป็นสิ่งที่ข้าพอจะทำให้สองคนนั้นได้"  ไม่มีใครสามารถค้านอะไรขึ้นมาได้อีก  ทุกคนได้แต่มองดูร่างผู้ใหญ่บ้านเดินไปตามถนนเพื่อไปพบกับ  ทหารเครื่องแบบแดงแห่งกองกำลังของจักรวรรดิ 


     

    **************************************************


     

              "แกเองรึ  ผู้ใหญ่บ้าน"  ทหารนายหนึ่งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันเมื่อเห็นชายชราก้าวเข้ามา  เสียงนี้เรียกสายตาของบรรดาทหารรอบๆหัวไปจ้องมองดูผู้ที่เพิ่งเข้ามาใหม่เป็นตาเดียว


     

              "ข้าต้องขออภัยที่ออกมาให้การต้อนรับพวกท่านช้าไปหน่อย"


     

              "ไม่จำเป็น พอองค์จักรพรรดิเสร็จธุระเมื่อไร  พวกข้าก็จะเดินทางไปปราบพวกทางเหนือต่อเลย  อีกอย่าง.."  เขาหยุดพูดพลางมองไปรอบๆด้วยสายตาไม่หยี่ระต่อผู้ที่อยู่ตรงหน้าเท่าใดนัก  ก่อนที่จะต่อประโยคให้จบ


     

              "หมู่บ้านเล็กๆนี่ก็ไม่มีอะไรน่าสนหรอก  มีแต่ของพื้นๆ"  สิ้นเสียงพูดก็มีเสียงเอ็ดดังขึ้นจากผู้ที่มีอำนาจในการสั่งการทหารในกองนี้


     

                    "ทหารของจักรวรรดิไม่ควรพูดจาดูหมิ่นชาวเมืองเช่นนั้น   ข้าต้องขอโทษด้วยนะ  ท่านผู้ใหญ่บ้าน"  เสียงเอ่ยขอโทษดังขึ้นพร้อมๆกับเจ้าของเสียงที่โค้งลงเล็กน้อย  ผมสีทองถูกหวีจนเรียบสะท้อนแสงแดดเป็นประกายยิ่งส่งให้ใบหน้าที่ดูคมคามอยู่แล้วหล่อเหลายิ่งขึ้น  นัยน์ตาสีน้ำตาลทองเหลียวมองหาบุคคลผู้หนึ่งก่อนที่จะเอ่ยปากเรียก


     

                    "ลินเนส   องค์จักรพรรดิประสงค์อะไรบ้างไหม"


     

                    "ไม่ครับ  พระองค์ประทับอยู่ในรถทรง  ตรัสออกมาเพียงคำเดียวว่าต้องการพบนักเวทผู้รับใช้มังกรของที่นี่"  ลินเนสเอ่ยตอบกลับ  นัยน์ตาสีทับทิมนั้นไม่มีวี่แววแห่งความกระตือรือร้นในหน้าที่อันสำคัญนี้เท่าใดนัก  เป็นเพราะเจ้าตัวไม่นึกยินดีในการที่ต้องมาเป็นราชองรักษ์ภายใต้สายตาที่กดดันจากรอบข้าง


     

                    "อีริค"  สุรเสียงตรัสเรียกดังแทรกขึ้นมา  ก่อนที่จะมีรับสั่งต่อไป


     

                    "ถ้าเจ้านักเวทนั่นยังไม่มา  ข้าจะไปยังแท่นบูชานั่นก่อน"  คำดำรินี้ทำให้ผู้ใหญ่บ้านมองดูไปทางรถม้าทรงนั้นอย่างตื่นตกใจ  ผ้าม่านที่ปิดกั้นแสงแดดนั้นถูกเลิกขึ้นพร้อมๆกับร่างที่ประทับอยู่ด้านในนั้นก้าวออกมา  พวกทหารต่างตั้งขบวนแถวอย่างดีต่อหน้าพระพัตร  พระเนตรที่ดูดุดันนั้นบัดนี้ฉายแววกร้าวออกมาให้พวกชาวบ้านที่อยู่ตรงหน้าหวาดหวั่นในตัวองค์จักรพรรดิว่าจะประสงค์สิ่งใดที่เลวร้ายจากบุคคลที่เป็นที่รักของพวกเขาทั้งคู่หรือไม่


     

                    "ข้าอยากไปดูแท่นบูชานั่น  เจ้านำทางไปได้ใช่หรือไม่"  สุรเสียงเย็นเยียบดังขึ้นพร้อมๆกับพระเนตรที่ทอดมองมาทางตัวผู้ใหญ่บ้านที่บัดนี้คุกเข่าอยู่อย่างเกรงพระอาญา  พวกชาวบ้านทั้งหมดหันไปจ้องมองหน้ากันโดยที่ไม่มีใครเอ่ยพูดอะไร  บางคนหันกลับไปมองผู้ใหญ่บ้านอย่างภาวนาในใจไม่ให้เกิดเรื่องขึ้น


     

                    "ข้าถามว่า  เจ้านำทางไปได้ใช่ไหม"  บัดนี้มีแววโกรธาปนอยู่ในสุรเสียงรับสั่งเต็มเปี่ยม  ผู้ใหญ่บ้านก้มหน้ามองพื้นกัดฟันอย่างหวาดหวั่นในชะตาของตนที่อยู่ในเงื้อมพระหัตถ์ของผู้ที่ประทับอยู่ตรงหน้า  เมื่อเห็นว่าไม่มีคำตอบใดๆออกมาจากปากร่างที่มัวแต่ก้มหน้ามองพื้นเช่นนั้น  ทหารสองนายจึงก้าวออกมาแล้วชักดาบขึ้น


     

                    "ทำไมแกไม่ตอบคำถามที่ทรงถาม"  คมดาบทั้งสองถูกวาบทาบตรงต้นคอของผู้ใหญ่บ้านอย่างเตรียมลงทัณฑ์   แต่ทว่ามีผู้มาขัดจังหวะเสียก่อน


     

                    "ขอประทานอภัยที่ข้าเดินทางมาถวายการต้อนรับพระองค์ช้า"  เวลิที่รีบวิ่งเข้ามาแทรกคุกเข่าลงพื้นแสดงความเคารพเท่าที่จะทำได้ต่อองค์จักรพรรดิ  แม้ว่าในใจของเขาจะไม่มีคำว่าเคารพให้กับบุคคลผู้นี้เลยก็ตาม


     

                    "เจ้าสินะที่เป็นนักเวทผู้รับใช้มังกรของที่นี่"  พระองค์ตรัสถามพลันพระโอษฐ์นั้นยิ้มออกมา  เป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้ทำให้ผู้พบเห็นยินดีเสียเท่าไรนัก  แต่กลับยิ่งทวีความหวาดกลัวให้มากยิ่งขึ้น   เวลิได้เพียงแค่มองกลับไปตรงๆก่อนที่จะตอบกลับอย่างไม่กลัวเกรง


     

                    "ใช่กระหม่อม  หม่อมฉันคือนักเวทผู้รับใช้มังกร  ไม่ทราบว่าพระองค์ประสงค์สิ่งใดจากที่นี่กัน" 


     

                    "นำทางข้าไปยังแท่นบูชา  เดี๋ยวนี้"  น้ำเสียงรับสั่งดังขึ้น  เวลิได้เพียงมองคนตรงหน้านี้ตรงๆก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วเดินนำ


     

                    "งั้นเชิญทางนี้กระหม่อม...  แต่ถ้าพระองค์ประสงค์สิ่งใดนอกเหนือจากการมาทอดพระเนตร  หม่อมฉันคงไม่สามารถให้พระองค์ได้"  ชายหนุ่มออกเดินนำทางไปยังแท่นบูชาโลอิคาร์เมร์   พลางนึกภาวนาในใจว่าอย่าให้น้องสาวคนสำคัญของตนอยู่ในที่นั้นเวลานี้เลย  บางทีความฝันที่น้องสาวบอกเขาไว้เมื่อไม่นานนี้ อาจจะกำลังกลายมาเป็นความจริง  ถ้าเช่นนั้นมันคือหน้าที่ของเขาที่จะปกป้องแท่นบูชาจากการทำลายล้างของจักรพรรดิ


     

    **********************************************************


     

                    สายลมกรรโชกแรงได้พัดให้หน้าต่างที่เปิดอยู่นั้นกระแทกปิดลงอย่างแรงทำให้เด็กสาวที่อยู่ในบ้านเพียงผู้เดียวนั้นสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ   อากาศที่ขมุกขมัวด้านนอกบ่งบอกถึงการมาของฝนฟ้าคะนองในอีกไม่ช้า  เซียว่าเดินไปปิดหน้าต่างบานอื่นพลางนึกกังวลถึงเวลิที่รีบออกจากบ้านไปเมื่อครู่   ทั้งๆที่เธอไม่อยากให้เขาออกไปนักเพราะเธอสังหรณ์ไม่ดีมาตั้งแต่เช้าแล้ว


     

                    "คิดไปเองมากกว่าน่ะ"  เธอพูดปลอบขวัญตนเอง  ก่อนที่จะก้าวเดินไปที่ชั้นวางของแล้วหยิบแก้วขึ้นมาหวังจะรินน้ำดื่ม  แต่ทว่า...


     

                    เพล้ง !!


     

                    เศษแก้วแตกกระจายอยู่บนพื้นพร้อมๆกับที่ดวงจิตของเธอที่หล่นวูบไป   ร่างของเด็กสาวสั่นระริกกับภาพที่เห็นในหัวในขณะนี้   ทหารชุดแดงในความฝันร้ายเมื่อไม่กี่วันก่อนกำลังจะทำร้ายพี่ชายของเธอ   ความฝันนั่นอาจจะกลายมาเป็นความจริง  เมื่อพลันที่เธอตั้งสติได้  เซียว่าก็รีบวิ่งออกไปจากบ้านโดยทันที  สองขารีบสาวก้าวไปให้เร็วที่สุดเพื่อไปยังแท่นบูชาแห่งโลอิคาร์เมร์


     

    ***********************************************************


     

    "นี่พระองค์มีพระราชประสงค์จะทำอะไรกัน"  เสียงเวลิตะโกนก้องขึ้นมาเมื่อพอทันทีที่จักรพรรดิก้าวเข้ามาถึงแท่นบูชานั้น  ทหารจักรวรรดิก็เข้ามาจับกุมเขาโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว   หากแต่องค์จักรพรรดินั้นไม่ประสงค์จะทรงตอบคำถามนี้  เพราะทรงสาวพระบาทเข้าไปยังรูปปั้นมังกรที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือแท่นบูชา


     

                    "พวกเจ้า  ทำลายรูปปั้นนี้ซะ"  สุรเสียงฉียบขาดดังขึ้น


     

                    "พวกแก  กล้าเข้ามาก็ลองดูสิ"  เวลิที่ในที่สุดก็ดิ้นหลุดจากการการคุมตัวของทหารสองนายนั้นวิ่งเข้าไปขวาง   นัยน์ตาสีไพลินนั้นจ้องมองอยางพร้อมมีเรื่องเต็มที่หากว่าพวกทหารนั้นก้าวเข้าไปใกล้มากกว่านี้  พวกทหารที่ครั้งแรกทำท่าจะก้าวเข้าไปทำลายรูปปั้นตามดำรัสรับสั่งนั้นก็ชะงักไป  โดยที่มีร่างหนึ่งก้าวเข้ามาถึงพอดี


     

                    "เซียว่า !!"  เสียงเวลิตะโกนขึ้นเมื่อพบว่าร่างที่ก้าวเข้ามานั้นเป็นใคร   เด็กสาววิ่งตรงเข้ามาหาเขาแต่ทว่าไม่อาจมาได้ถึงก็โดนจับตัวไว้เสียก่อน


     

                    "โอ๊ย.."  เสียงเซียว่าร้องครางขึ้นด้วยความเจ็บปวดเมื่อแขนของเธอโดนดัดไพล่หลัง  ในขณะที่องค์จักรพรรดินั้นสาวพระบาทเข้ามาใกล้ตัวเธอ  เวลิจะก้าวเข้ามาช่วยเธอแต่ก็พอดีกับทหารสี่นายที่เข้ามาจับตัวเขาไว้


     

                    "ยัยนี่เป็นน้องสาวของแกสินะ"  พระองค์ตรัสด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ  ก่อนที่จะเดินตรงไปที่ทหารนายหนึ่งแล้วชักดาบออกจากฝักที่เหน็บไว้ข้างกายทหารนายนั้น  ก่อนที่จะหันคมดาบเข้าหาเซียว่า


     

                    "ช้าก่อนครับ"  เสียงร้องห้ามดังขึ้นจากหนึ่งในราชองครักษ์ที่ตามเสด็จมา  ลินเนสก้าวออกมาจากแถวพลางเอ่ยขึ้นต่อไป


     

                    "ข้าพระองค์ขอประทานอภัยที่ขัด  แต่เธอผู้นี้ไม่ได้ทำผิดอะไรที่พระองค์จะทรงหันดาบใส่เธอเช่นนี้"  คำแย้งของเขาได้รับคำตอบกลับเป็นเสียงสรวลที่เย็นชา  ก่อนที่จะมีกระแสดำรัสตอบ


     

                    "ข้าไม่สนหรอกว่ามันผิดหรือไม่  สิ่งที่ข้าทำถูกต้องเสมอ   และถ้าหากยังนึกรักหัวของตนเองอยู่ก็จงอย่าแส่ไม่เข้าเรื่อง...  เจ้าอบรมน้องให้มันมากกว่านี้สิ  อีริค"  ประโยคหลังนั้นไพล่ไปหาผู้เป็นพี่ของชายหนุ่มที่หาญกล้ามาขัดพระราชประสงค์อย่างที่ไม่มีใครกล้าทำมาก่อน  คมดาบนั้นถูกจ่อเข้าไปใกล้คอของเด็กสาวมากยิ่งขึ้น  ซึ่งนี่ก็มากเพียงพอแล้วที่จะทำให้เวลิสิ้นความอดกลั้นที่ทนมาตลอด  พลังเวทถูกรวมไว้ที่มือก่อนที่จะพุ่งใส่ร่างผู้ที่กำลังจะทำร้ายน้องสาวของเขาอย่างรวดเร็ว  ร่างใหญ่นั้นเซไปเล็กน้อยเพราะจุดที่โดนคลื่นพลังปะทะนั้นคือพระอังสาขวาเท่านั้น  ด้ามดาบถูกตบเข้าใส่หน้าเวลิอย่างแรงจากนายทหารที่คุมตัวเขาอยู่   ชายหนุ่มที่บัดนี้เลือดกบปากอันเป็นผลจากการกระทำเมื่อครู่ยังคงจ้องมองอย่างเอาเรื่อง  และยิ่งทำให้อีกฝ่ายโมโหยิ่งขึ้น  ครั้งนี้ดาบในฝักถูกชักออก  คมดาบสะท้อนวาววับก่อนที่จะวาดใส่ร่างของเวลิ


     

                    "ท่านพี่!!"  เซียว่าร้องขึ้นพร้อมๆกับที่ร่างของเธอสั่นรัว  เธอหลับตาแน่นโดยหวังว่าเหตุการณ์ตรงหน้าจะไม่ดำเนินไปจนจบ  ร่างกายของเด็กสาวทรุดลงไปกับพื้นเพราะเกิดความไม่สมดุลภายใน  พลังที่ถูกเก็บอยู่ภายในกำลังดิ้นรนที่จะออกมาหากแต่ถูกร่างกายขวางกั้นไว้  เสียงเวลิที่ตะโกนขึ้นดังแว่วขึ้นแต่เหมือนอยู่ในที่ที่แสนไกลสำหรับตัวเธอ 


     

                    ดวงเนตรของร่างสูงใหญ่จับจ้องดูอาการของเด็กสาวผู้ทรุดลงไปต่อหน้าพระพัตรอย่างยินดี  พลังแห่งมังกรที่อยู่ในตัวตนของเธอถูกต่อต้านโดยร่างกายเสียเอง  ขอเพียงแค่กำจัดสองพี่น้องนี่เท่านั้นก็จะไม่มีผู้ใดที่ใช้พลังเวทมังกรได้อีก  ดาบในพระหัตถ์กระชับแน่นพร้อมจะหยิบยื่นความตายให้แก่ร่างตรงหน้า  แต่ยังมิทันได้กระทำตามที่ดำริก็เกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้นมาเสียก่อน


                    ร่างที่ทรุดอยู่บนพื้นนั้นเปล่งแสงเรืองรองออกมาจากภายใน  ลมหายใจที่ดังอย่างแผ่วเบานั้นบ่งบอกถึงความทรมานของเจ้าของร่างได้อย่างดี   ภาพในดวงตาของเธอสะท้อนให้เห็นร่างของสัตว์ที่มีขนาดตัวมหึมา   เกล็ดสีเงินยวงเปล่งประกายแสงสีเดียวกับที่เปล่งประกายออกมาจากร่างของเด็กสาวในยามนี้   นัยน์ตาสีเงินใสนั้นมองเหล่าผู้ที่บุกรุกเข้ามายังถิ่นของตนอย่างโกรธเกรียว


     

                    "ท่านมังกร"  ริมฝีปากของเซียว่าพึมพำออกมาเบาๆก่อนที่จะไอออกมาอย่างแรง   แสงเรืองรองรอบกายเธอเริ่มขาดหายไปอย่างไม่เป็นจังหวะเพราะยามนี้เจ้าของร่างไม่สามารถทานทนพละกำลังอันมหาศาลของพลังเวทในกายได้อีกแล้ว  เลือดที่ออกมาพร้อมกับอาการไอเมื่อครู่เปรอะเปื้อนอยู่ในมือที่บอบบางนั้นเป็นเครื่องชี้ชัดได้อย่างดี  และร่างตรงหน้าก็ไม่ปล่อยให้เธอมีชีวิตยืนยาวไปมากกว่านี้


     

                    ฉัวะ!!!


     

                    โลหิตสีแดงฉานสาดกระจายไปทั่วร่างของเด็กสาวผู้ถูกปลิดชีพโดยองค์จักรพรรดิ  นัยน์ตาสีฟ้าเรืองรองนั้นเบิกกว้างอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะหลับลงไปตลอดกาล   เวลิมองเหตุการณ์ที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าด้วยนัยน์ตาที่เบิกโพลงอย่างตื่นตระหนก  เขารวบรวมกำลังเฮือกใหญ่สะบัดให้หลุดจากการจับกุมก่อนที่จะวิ่งตรงมาหาร่างที่นอนสิ้นลมอยู่บนพื้น  แม้ว่าบาดแผลบนกายเขาจะร้องอุทธรณ์ออกมาเป็นความเจ็บปวดที่เกินคาดจนเขาไม่อาจวิ่งได้อย่างใจนึก  แต่เขานึกถึงร่างน้องสาวผู้เป็นที่รักยิ่งมากกว่า  นอกจากเวลิแล้ว  ยังมีอีกผู้หนึ่งที่มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างตื่นตระหนกในการกระทำของผู้เป็นใหญ่ที่สุดในแผ่นดินนี้ด้วยเช่นกัน


     

                    นัยน์ตาสีแดงทับทิมของลินเนสจับจ้องมองภาพตรงหน้าอย่างรู้สึกสลดใจ  หน้าที่ของทหารที่ดีคือต้องไม่ขัดกับคำสั่งของผู้เป็นนาย  ยิ่งบุคคลผู้นั้นคือองค์จักรพรรดิที่เทียบได้ว่าเป็นนายเหนือหัวด้วยแล้ว  แต่เขาไม่นึกเห็นด้วยในการสังหารผู้ที่ไร้ทางสู้เช่นนี้เลย


     

                    "กำจัดมันซะ"  คำประกาศิตดังมาจากองค์จักรพรรดิในขณะที่ทรงยื่นอาวุธที่เพิ่งปลิดชีพเด็กสาวมาให้ลินเนส  ชายหนุ่มเงยหน้ามองผู้ที่ดำริสั่งด้วยแววตาไม่เข้าใจ  จนคำประกาศิตดังขึ้นอีกครั้ง  "ข้าบอกให้เจ้าไปกำจัดไอ้นักเวทมังกรนั่นซะ"


     

                    ลินเนสรับดาบมาจากอีกฝ่าย  แต่ทว่าเขายังคงยืนนิ่งอยู่  ก่อนที่จะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ


     

                    "ข้าพระองค์ทำไม่ได้    ไม่มีเหตุอันใดที่จะต้องฆ่าพวกเขาเลย..."  สิ้นเสียงก็มีคำตรัสดังขึ้นด้วยน้ำคำเฉียบขาด


     

                    "หมายความว่าเจ้าไม่รับคำสั่งข้างั้นรึ"  ถ้อยคำที่เต็มไปด้วยความกดดันนี้ทำให้ผู้ที่รับคำสั่งรู้สึกขัดแย้งระหว่างหน้าที่กับความถูกต้องในมโนธรรม  ลินเนสก้าวเท้าตรงไปยังที่ซึ่งเวลิคุกเข่าลงประคองร่างไร้วิญญาณของเด็กสาว  ดาบเปื้อนเลือดในมือถูกยกขึ้นสูง  ก่อนที่จะ...


     

                    "เคร้ง"  เสียงดาบถูกเก็บเข้าฝัก พร้อมๆกับลินเนสที่หันกลับมาเผชิญหน้าผู้เป็นนายก่อนที่จะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น


     

                    "ข้าพระองค์ทำตามคำรับสั่งไม่ได้   การฆ่าคนที่ไร้ความผิดผิดกฎบัญญัติของทหารที่ดีมิใช่หรือพะย่ะค่ะ" 


     

                    "พวกมันผิด  เจ้ายังจะไม่ลงโทษมันอีกรึ"  สุรเสียงเย็บเยียบตรัสขึ้น  ในขณะที่ดวงเนตรนั้นจ้องมองผู้ที่กล้าขัดรับสั่งอย่างเย็นชา


     

                    "แต่ข้าพระองค์ไม่เห็น..."  เขายังพูดไม่ทันจบก็มีกระแสรับสั่งตอบขัดขึ้นมา


     

                    "ผิดเพราะข้าบอกว่าผิด   ข้าไม่ต้องการให้มีนักเวทมังกรหลงเหลืออยู่  การมีอยู่ของพวกมันถือเป็นความผิด"  ดำรัสรับสั่งนั้นเรียกแววตาที่โกรธเกรี้ยวจากนักเวทมังกรผู้หลงเหลืออยู่ผู้เดียวในที่นั้นได้อย่างดี  ร่างของเวลิสั่นไหวเล็กน้อยเพราะอารมณ์โกรธที่พลุ่งพล่านในร่าง  นัยน์ตาสีน้ำทะเลนั้นจ้องมองไปยังผู้ที่สังหารน้องสาวตนอย่างไม่ใยดี  ก่อนที่จะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นรัว


     

    "พระองค์มีพระราชประสงค์พลังแห่งมังกรทำไม  ในเมื่อพระองค์ทรงเกลียดการมีอยู่ของมัน"  คำพูดนี้ได้รับคำตอบคือเสียงสรวลอย่างเย็นชา


     

                    "แต่ใช่ว่าข้าจะไม่ต้องการพลังของพวกมัน   ลินเนส  ถ้าเจ้าลงมือเองไม่ได้  ข้าก็จะทำมันเอง"  สิ้นเสียงพระองค์ก็ทรงสาวพระบาทเข้ามาใกล้และทรงชักเอาดาบออกมา   ลินเนสขยับตัวเข้าขวางแต่อีกฝ่ายมิได้ใส่พระราชหฤทัยกับการกระทำของทหารตามเสด็จนี้นักยังทรงตั้งมั่นแน่วแน่ที่จะพระราชทานความตายให้แก่ทุกชีวิตที่ขวางพระราชประสงค์  แต่พลันที่พระหัตถ์นั้นทรงดาบแผ่นดินก็สั่นสะเทือนด้วยอำนาจของผู้ที่สถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้


     

                    "เจ้ามนุษย์ผู้มากด้วยความโลภ  อยากได้พลังของข้าขนาดนั้นเลยรึ"  ร่างหนึ่งเอ่ยขึ้นเรียกสายตาทุกคู่ที่อยู่ในที่นั้นหันไปมอง   ชายหนุ่มผู้มีเรือนผมสีเงินยืนอยู่ด้านข้างรูปปั้นมังกรตั้งแต่เมื่อไรไม่มีใครรู้  นัยน์ตาสีเงินเรืองรองนั้นจ้องมองผู้ที่บุกรุกเข้ามาอย่างไม่พอใจ  และยิ่งมองไปยังร่างของเด็กสาวที่ไร้ชีวิตแล้วก็ยิ่งโกรธเคืองมากยิ่งขึ้น   ผืนแผ่นดินยิ่งสั่นสะเทือนแรงยิ่งขึ้นตามแรงโกรธของมังกร


     

                    ร่างผู้มาใหม่เดินตรงเข้ามาหาสองพี่น้องผู้คอยปกป้องแท่นบูชาของตน  ก่อนที่จะก้มมองดูร่างของเด็กสาวอันเป็นที่รัก  เวลิมองร่างตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา  เพียงแค่บังเอิญที่แผ่นดินไหวเกิดพร้อมกับการปรากฏกายของคนผู้นี้   หรือว่านี่คืออำนาจที่เกินกว่าที่เขาจะเข้าใจ


     

                    "เจ้าผู้เป็นใหญ่ของเหล่ามวลมนุษย์   หากเจ้าต้องการพลัง   ข้าจักมอบให้ตามที่หวัง"  เสียงที่ดังก้องไปทั่วบริเวณก่อนที่ร่างของชายหนุ่มที่มาใหม่จะกลับกลายเป็นร่างมังกรยักษ์  เกล็ดสีเงินยวงเรืองแสงระยิบระยับภายใต้ความมืดเพราะดวงตะวันถูกบดบังด้วยอำนาจของมังกรที่โกรธจัด  ร่างสีเงินทะยานขึ้นสูงก่อนที่จะก้มลงปล่อยลำแสงสีขาวบาดตาเข้าสู่ผู้บุกรุก   เวลิหลับตาแน่นเพราะไม่อาจฝืนดูแสงสว่างที่เกินนัยน์ตาจะรับได้นั้น  แต่เมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้งก็พบร่างของนายทหารหลายนายนอนไร้ชีวิตอยู่   แต่ผู้ที่พระราชทานความตายแก่น้องสาวเขานั้นหายไปแล้ว  เสียงมังกรคำรามก้องอยู่เหนือหัวอย่างโกรธเกรี้ยวดังขึ้นยาวนาน  จนในที่สุดร่างสีขาวนั้นก็ลงมายังพื้นก่อนที่จะกลายร่างมาเป็นบุรุษผมเงินอีกครั้ง


     

                    "ไม่คิดว่ามันจะนำนักเวทติดมาด้วย  เพราะแบบนั้นมันถึงได้หนีออกไปได้พร้อมกับทหารกลุ่มหนึ่ง"  ร่างนั้นเอ่ยขึ้นพร้อมๆกับเดินตรงเข้ามาหาชายหนุ่มนักเวทผู้รับใช้แห่งตน


     

                    "ข้า...ขอโทษ"  น้ำคำแห่งความเสียใจดังขึ้นพร้อมๆกับมือใหญ่ที่ทาบลงบนใบหน้าของเด็กสาว  เวลิก้มหน้านิ่งอย่างระงับความโศกเศร้าก่อนที่จะเอ่ยตอบ


     

                    "ท่านไม่ผิดหรอก  เป็นหน้าที่ของข้ากับน้องสาวอยู่แล้วที่จะปกป้องที่แห่งนี้"


     

                    "แต่ก็อย่างที่เจ้าเห็น  ข้าสามารถไล่พวกนั้นออกไปได้ด้วยตัวเอง  และเพราะข้า...น้องสาวเจ้าถึงเป็นแบบนี้"   เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เสียใจอย่างสุดซึ้ง  และตอนนี้เองที่เวลินึกถึงคำบอกเล่าของเซียว่าถึงพี่ชายผมเงินขึ้นมาได้  ที่แท้คนที่เธอพบเจอบ่อยครั้งตั้งแต่สมัยเด็กคือ...


     

                    "..ข้ามีวิธีที่จะทำให้เธอฟื้นขึ้นมาได้   แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่มีอยู่จำกัด"  เสียงของอีกฝ่ายดังขึ้นเรียกให้เวลิหลุดพ้นจากความโศกเศร้าขึ้น  เขาเงยมองดูผู้ที่เอ่ยประโยคเมื่อครู่นั่นออกมาอย่างมีหวัง


     

                    "ท่านมีวิธี"  เวลิเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่เชื่อหู  มีวิธีใดที่สามารถฟื้นคืนชีพให้ผู้ที่ตายแล้วด้วยหรือ


     

                    "แต่บางทีมันอาจไม่ใช่วิธีที่ดีนัก   เพราะมันไม่ใช่วิธีที่ทำให้เธอกลับมามีชีวิตดังเดิม..."  เขาเอ่ยขึ้นพลางมองไปอีกด้าน  ที่ซึ่งนายทหารนายหนึ่งที่เขาจงใจเพียงแค่ให้สลบไปเท่านั้นมิได้จะมอบความตายให้ดังเช่นทหารจักรวรรดินายอื่น  เพราะคนผู้นี้เป็นผู้เดียวที่กล้าขัดรับสั่ง


     

                    "ข้าชื่นชมในตัวเจ้า  ที่กล้าขัดคำสั่งนั่น  แต่หากเจ้ายังคงมีความคิดจะทำตามหน้าที่ที่รับมา  ข้าก็ไม่อาจปล่อยเจ้าไว้เช่นเดียวกัน"  เสียงคำพูดดังก้องขึ้นในหัวของลินเนสแม้ว่าบุรุษผมเงินตรงหน้าเขาที่เมื่อครู่นี้กลายร่างเป็นมังกรขาวจะไม่ได้ขยับปากพูดเลยก็ตาม


     

                    "หากท่านมีวิธีที่จะทำให้เซียว่าฟื้นขึ้นมาได้  ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรข้าก็ยอมรับตามนั้น"


     

                    "เพื่อที่จะสามารถคืนชีวิตให้น้องสาวเจ้าได้   ข้าจักสถิตย์อยู่ในร่างของเธอ   พลังของข้าจะทำให้วิญญาณตรึงอยู่ในร่างได้   แต่เมื่อใดที่ข้าออกจากร่างของเธอ  เมื่อนั้นน้องสาวของเจ้าจักหลับไปชั่วนิรันดร์"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×