คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทบรรเลงแห่งความสูญเสีย
ยามเช้าวันนี้แตกต่างจากทุกที แม้ว่าดวงอาทิตย์ที่ฉายแสงจะเป็นดวงเก่า สายลมที่พัดเอื่อยก็ยังคงมีกลิ่นหอมอันเกิดจากดอกไม้แรกแย้ม แต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือจิตใจอันว้าวุ่นของตัวเธอเอง เซียว่าตื่นขึ้นมาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างดี เพราะว่าวันนี้เป็นวันที่องค์จักรพรรดิจะเสด็จมาที่นี่ ที่แท่นบูชาที่ตระกูลของเธอดูแลอยู่ แม้ว่าเธอจะปลอบตัวเองว่ามันไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงใดๆขึ้น หากแต่จิตใจเธอไม่สงบลงเสียเลย ด้วยเกรงว่าจะเป็นดังเช่นความฝันนั้น
"ตื่นแล้วหรือ เซียว่า" เวลิเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเธอเดินลงบันไดมา เซียว่าพยักหน้ารับ เธอไม่อยากบอกให้เขารู้ว่าแท้จริงแล้วเธอตื่นมาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างเพราะไม่ต้องการให้เขาห่วงเธอมากเกินกว่าที่จะเตรียมตัวสำหรับเรื่องในวันนี้
"ท่านพี่ไม่กังวลบ้างหรือ" เซียว่าเอ่ยถามขึ้นในขณะที่เดินไปหยิบจานมาเพื่อตักข้าว เธอมองดูอีกฝ่ายด้วยสายตาเป็นกังวล เวลิมองเธอก่อนที่จะตอบปัดๆไป
"ไม่หรอก เจ้าเองก็อย่านึกกังวลไปมากนักเลย มันไม่เกิดเรื่องร้ายแรงอะไรขึ้นหรอกน่า" เวลิเอ่ยกับน้องสาว แม้ว่าส่วนหนึ่งในประโยคสุดท้ายนั้นเขาพูดปลอบตัวเองด้วย เซียว่าพยักหน้ารับก่อนที่จะเงียบลงในระหว่างที่ทานอาหาร จิตใจนึกคำนึงไปถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้านี้ ถ้ามันไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นก็คงจะดีสินะ
*****************************************
เสียงเอะอะวุ่นวายเกิดขึ้นที่หมู่บ้านริเวอร์วินด์อันเป็นลักษณะปกติดังเช่นทุกๆเช้า พวกชาวบ้านต่างก็เริ่มดำเนินวิถีชีวิตตามปกติของตน เสียงแม้ค้าขายผักผลไม้เรียกลูกค้าดังขึ้นเป็นระยะๆ กลิ่นขนมปังที่เพิ่งออกจากเตาหอมกรุ่นโชยมาเรียกเอาน้ำลายใครบางคนแทบไหล วีถีชีวิตอันเรียบง่ายเช่นนี้เป็นเรื่องที่พบเห็นได้จนเจนตาสำหรับหมู่บ้านเล็กๆที่ตั้งอยู่ตรงรอยต่อของเขตแดน แต่วันนี้ดูจะแตกต่างจากทุกที เพราะมีเสียงซุบซิบกันอย่างหวานหวั่น หนึ่งในคำพูดนั้นมีเอ่ยถึง ทหารของจักรวรรดิ ด้วย
"รู้ไหม วันนี้องค์จักรพรรดิจะเสด็จมาที่นี่ล่ะ" เสียงหนึ่งดังขึ้นในวงสนทนาเล็กๆนั้น น้ำเสียเต็มไปด้วยความเป็นกังวล
"รู้สิๆ ข่าวนี้คนพูดถึงเยอะจะตาย ไม่รู้พระองค์นึกยังไงถึงจะเสด็จมาที่นี่กัน"
"ข้าเห็นว่า.. จะเสด็จมาเพื่อปราบปรามพวกกบฏแถมชายแดนให้เงียบๆลงไปบ้างน่ะ" ชายชราที่ยืนฟังอยู่ด้วยส่ายศีรษะเบาๆอย่างปลงๆ เขาไม่ได้เชื่อถือในข่าวนี้นักหรอก..
"แต่ข้าว่า.. ที่เสด็จมาน่ะ เห็นชัดๆว่ามาเพราะ แท่นบูชาโลอิคาร์เมร์ มากกว่า" เจ้าของร้านเดินเข้ามาสมทบระหว่างที่ยกจานอาหารมาให้ เขาถอนหายใจเบาๆอย่างนึกห่วงถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้น
"มันแปลกที่ว่าพระองค์น่ะ เกลียดพวกมังกร และผู้รับใช้มังกรจะตาย ใครก็รู้.. แต่ว่าทำไมกึงยัง.." หญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
"เพราะงี้น่ะสิ.. ข้าล่ะกลุ้มแทนสองคนนั่นจังเลย ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า" เจ้าของร้านพูดขึ้นพลางนึกถึงผู้รับใช้มังกรทั้งสองที่พวกเขารักใครมาก คนอื่นต่างก็พบักหน้าอย่างเห็นด้วยในสิ่งที่กล่าวมา
"เวลิ... แม้จะยังหนุ่มแน่น แต่ก็เป็นเด็กที่นิสัยดี มีอะไรก็คอยช่วยพวกเราอยู่เสมอๆ ส่วนเซียว่า เด็กน้อยคนนั้นแม้ข้าจะไม่ได้เห็นหน้าเธอบ่อยๆเพราะร่างกายเธออ่อนแอ แต่ทุกทีที่พบเจอเธอ เธอก็ช่างน่ารักเหลือเกิน" หญิงชราที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆเอ่ยเสริม
"สองคนนั่นเป็นพี่น้องที่รักกันมาก และยังเป็นเด็กดีด้วย ข้าหวังเหลือเกินว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาสองคน" เสียงหนึ่งในวงสนทนาเอ่ยขึ้นเบาๆ นี่เป็นสิ่งที่ทุกคนต่างคิดอยู่ในใจ จนกระทั่งวงสนทนานี้ต้องแตกฮือไปเพราะเสียงหนึ่งที่ดังขึ้น
"ทหารของจักรวรรดิมาแล้ว" เด็กหนุ่มผู้หนึ่งวิ่งโร่เข้ามาก่อนที่จะมาหยุดยืนอย่างเหนื่อยหอบ นัยน์ตาเบิกกว้างกับสิ่งที่ตัวเขาเพิ่งพบเจอมาเมื่อครู่ พวกชาวบ้านที่จับกลุ่มสนทนาอยู่เมื่อครู่ต่างก็มีทีท่าตกใจอย่างปิดไม่มิด ทั้งหมดมองตากันอย่างเลิกลั่ก หนึ่งในนั้นเอ่ยถามเด็กหนุ่มที่วิ่งมาด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
"พวกนั้นมากันเยอะไหม" เด็กหนุ่มพยักหน้าตอบรับกับคำถามนี้
"เยอะครับ ท่านผู้ใหญ่บ้าน ราวกับจะมาเพื่อทำสงครามย่อมๆได้" คำตอบนี้เล่นเอาหลายคนในที่นั้นยืนตัวแข็งไปขณะใหญ่ แต่ทว่าผู้ใหญ่บ้านกลับก้าวออกมา แม้ว่าการไปเผชิญหน้ากับเหล่าทหารแห่งจักรวรรดินั้นเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากทำนัก แต่ในเวลานี้ไม่มีทางเลือกให้เลือกมากมายนัก อย่างน้อยการรู้จุดประสงค์ที่แน่นอนของผู้มาเยือนน่าจะดีกว่าไม่รู้
"เดี๋ยวข้าคงต้องไปพบพวกนั้นเสียหน่อย" เขาเอ่ยขึ้น ในขณะที่พวกชาวบ้านจ้องมองเขาเป็นตาเดียว ก่อนที่จะมีคำค้านเสียงอ่อย
"แต่..ท่านผู้ใหญ่บ้านครับ.."
"ไม่หรอก ข้าน่ะไม่เป็นไรหรอก ข้าว่าถ้าจะชะลอเวลาให้พี่น้องสองคนนั้นสักนิดก็ยังดี นี่เป็นสิ่งที่ข้าพอจะทำให้สองคนนั้นได้" ไม่มีใครสามารถค้านอะไรขึ้นมาได้อีก ทุกคนได้แต่มองดูร่างผู้ใหญ่บ้านเดินไปตามถนนเพื่อไปพบกับ ทหารเครื่องแบบแดงแห่งกองกำลังของจักรวรรดิ
**************************************************
"แกเองรึ ผู้ใหญ่บ้าน" ทหารนายหนึ่งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันเมื่อเห็นชายชราก้าวเข้ามา เสียงนี้เรียกสายตาของบรรดาทหารรอบๆหัวไปจ้องมองดูผู้ที่เพิ่งเข้ามาใหม่เป็นตาเดียว
"ข้าต้องขออภัยที่ออกมาให้การต้อนรับพวกท่านช้าไปหน่อย"
"ไม่จำเป็น พอองค์จักรพรรดิเสร็จธุระเมื่อไร พวกข้าก็จะเดินทางไปปราบพวกทางเหนือต่อเลย อีกอย่าง.." เขาหยุดพูดพลางมองไปรอบๆด้วยสายตาไม่หยี่ระต่อผู้ที่อยู่ตรงหน้าเท่าใดนัก ก่อนที่จะต่อประโยคให้จบ
"หมู่บ้านเล็กๆนี่ก็ไม่มีอะไรน่าสนหรอก มีแต่ของพื้นๆ" สิ้นเสียงพูดก็มีเสียงเอ็ดดังขึ้นจากผู้ที่มีอำนาจในการสั่งการทหารในกองนี้
"ทหารของจักรวรรดิไม่ควรพูดจาดูหมิ่นชาวเมืองเช่นนั้น ข้าต้องขอโทษด้วยนะ ท่านผู้ใหญ่บ้าน" เสียงเอ่ยขอโทษดังขึ้นพร้อมๆกับเจ้าของเสียงที่โค้งลงเล็กน้อย ผมสีทองถูกหวีจนเรียบสะท้อนแสงแดดเป็นประกายยิ่งส่งให้ใบหน้าที่ดูคมคามอยู่แล้วหล่อเหลายิ่งขึ้น นัยน์ตาสีน้ำตาลทองเหลียวมองหาบุคคลผู้หนึ่งก่อนที่จะเอ่ยปากเรียก
"ลินเนส องค์จักรพรรดิประสงค์อะไรบ้างไหม"
"ไม่ครับ พระองค์ประทับอยู่ในรถทรง ตรัสออกมาเพียงคำเดียวว่าต้องการพบนักเวทผู้รับใช้มังกรของที่นี่" ลินเนสเอ่ยตอบกลับ นัยน์ตาสีทับทิมนั้นไม่มีวี่แววแห่งความกระตือรือร้นในหน้าที่อันสำคัญนี้เท่าใดนัก เป็นเพราะเจ้าตัวไม่นึกยินดีในการที่ต้องมาเป็นราชองรักษ์ภายใต้สายตาที่กดดันจากรอบข้าง
"อีริค" สุรเสียงตรัสเรียกดังแทรกขึ้นมา ก่อนที่จะมีรับสั่งต่อไป
"ถ้าเจ้านักเวทนั่นยังไม่มา ข้าจะไปยังแท่นบูชานั่นก่อน" คำดำรินี้ทำให้ผู้ใหญ่บ้านมองดูไปทางรถม้าทรงนั้นอย่างตื่นตกใจ ผ้าม่านที่ปิดกั้นแสงแดดนั้นถูกเลิกขึ้นพร้อมๆกับร่างที่ประทับอยู่ด้านในนั้นก้าวออกมา พวกทหารต่างตั้งขบวนแถวอย่างดีต่อหน้าพระพัตร พระเนตรที่ดูดุดันนั้นบัดนี้ฉายแววกร้าวออกมาให้พวกชาวบ้านที่อยู่ตรงหน้าหวาดหวั่นในตัวองค์จักรพรรดิว่าจะประสงค์สิ่งใดที่เลวร้ายจากบุคคลที่เป็นที่รักของพวกเขาทั้งคู่หรือไม่
"ข้าอยากไปดูแท่นบูชานั่น เจ้านำทางไปได้ใช่หรือไม่" สุรเสียงเย็นเยียบดังขึ้นพร้อมๆกับพระเนตรที่ทอดมองมาทางตัวผู้ใหญ่บ้านที่บัดนี้คุกเข่าอยู่อย่างเกรงพระอาญา พวกชาวบ้านทั้งหมดหันไปจ้องมองหน้ากันโดยที่ไม่มีใครเอ่ยพูดอะไร บางคนหันกลับไปมองผู้ใหญ่บ้านอย่างภาวนาในใจไม่ให้เกิดเรื่องขึ้น
"ข้าถามว่า เจ้านำทางไปได้ใช่ไหม" บัดนี้มีแววโกรธาปนอยู่ในสุรเสียงรับสั่งเต็มเปี่ยม ผู้ใหญ่บ้านก้มหน้ามองพื้นกัดฟันอย่างหวาดหวั่นในชะตาของตนที่อยู่ในเงื้อมพระหัตถ์ของผู้ที่ประทับอยู่ตรงหน้า เมื่อเห็นว่าไม่มีคำตอบใดๆออกมาจากปากร่างที่มัวแต่ก้มหน้ามองพื้นเช่นนั้น ทหารสองนายจึงก้าวออกมาแล้วชักดาบขึ้น
"ทำไมแกไม่ตอบคำถามที่ทรงถาม" คมดาบทั้งสองถูกวาบทาบตรงต้นคอของผู้ใหญ่บ้านอย่างเตรียมลงทัณฑ์ แต่ทว่ามีผู้มาขัดจังหวะเสียก่อน
"ขอประทานอภัยที่ข้าเดินทางมาถวายการต้อนรับพระองค์ช้า" เวลิที่รีบวิ่งเข้ามาแทรกคุกเข่าลงพื้นแสดงความเคารพเท่าที่จะทำได้ต่อองค์จักรพรรดิ แม้ว่าในใจของเขาจะไม่มีคำว่าเคารพให้กับบุคคลผู้นี้เลยก็ตาม
"เจ้าสินะที่เป็นนักเวทผู้รับใช้มังกรของที่นี่" พระองค์ตรัสถามพลันพระโอษฐ์นั้นยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้ทำให้ผู้พบเห็นยินดีเสียเท่าไรนัก แต่กลับยิ่งทวีความหวาดกลัวให้มากยิ่งขึ้น เวลิได้เพียงแค่มองกลับไปตรงๆก่อนที่จะตอบกลับอย่างไม่กลัวเกรง
"ใช่กระหม่อม หม่อมฉันคือนักเวทผู้รับใช้มังกร ไม่ทราบว่าพระองค์ประสงค์สิ่งใดจากที่นี่กัน"
"นำทางข้าไปยังแท่นบูชา เดี๋ยวนี้" น้ำเสียงรับสั่งดังขึ้น เวลิได้เพียงมองคนตรงหน้านี้ตรงๆก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วเดินนำ
"งั้นเชิญทางนี้กระหม่อม... แต่ถ้าพระองค์ประสงค์สิ่งใดนอกเหนือจากการมาทอดพระเนตร หม่อมฉันคงไม่สามารถให้พระองค์ได้" ชายหนุ่มออกเดินนำทางไปยังแท่นบูชาโลอิคาร์เมร์ พลางนึกภาวนาในใจว่าอย่าให้น้องสาวคนสำคัญของตนอยู่ในที่นั้นเวลานี้เลย บางทีความฝันที่น้องสาวบอกเขาไว้เมื่อไม่นานนี้ อาจจะกำลังกลายมาเป็นความจริง ถ้าเช่นนั้นมันคือหน้าที่ของเขาที่จะปกป้องแท่นบูชาจากการทำลายล้างของจักรพรรดิ
**********************************************************
สายลมกรรโชกแรงได้พัดให้หน้าต่างที่เปิดอยู่นั้นกระแทกปิดลงอย่างแรงทำให้เด็กสาวที่อยู่ในบ้านเพียงผู้เดียวนั้นสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ อากาศที่ขมุกขมัวด้านนอกบ่งบอกถึงการมาของฝนฟ้าคะนองในอีกไม่ช้า เซียว่าเดินไปปิดหน้าต่างบานอื่นพลางนึกกังวลถึงเวลิที่รีบออกจากบ้านไปเมื่อครู่ ทั้งๆที่เธอไม่อยากให้เขาออกไปนักเพราะเธอสังหรณ์ไม่ดีมาตั้งแต่เช้าแล้ว
"คิดไปเองมากกว่าน่ะ" เธอพูดปลอบขวัญตนเอง ก่อนที่จะก้าวเดินไปที่ชั้นวางของแล้วหยิบแก้วขึ้นมาหวังจะรินน้ำดื่ม แต่ทว่า...
เพล้ง !!
เศษแก้วแตกกระจายอยู่บนพื้นพร้อมๆกับที่ดวงจิตของเธอที่หล่นวูบไป ร่างของเด็กสาวสั่นระริกกับภาพที่เห็นในหัวในขณะนี้ ทหารชุดแดงในความฝันร้ายเมื่อไม่กี่วันก่อนกำลังจะทำร้ายพี่ชายของเธอ ความฝันนั่นอาจจะกลายมาเป็นความจริง เมื่อพลันที่เธอตั้งสติได้ เซียว่าก็รีบวิ่งออกไปจากบ้านโดยทันที สองขารีบสาวก้าวไปให้เร็วที่สุดเพื่อไปยังแท่นบูชาแห่งโลอิคาร์เมร์
***********************************************************
"นี่พระองค์มีพระราชประสงค์จะทำอะไรกัน" เสียงเวลิตะโกนก้องขึ้นมาเมื่อพอทันทีที่จักรพรรดิก้าวเข้ามาถึงแท่นบูชานั้น ทหารจักรวรรดิก็เข้ามาจับกุมเขาโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว หากแต่องค์จักรพรรดินั้นไม่ประสงค์จะทรงตอบคำถามนี้ เพราะทรงสาวพระบาทเข้าไปยังรูปปั้นมังกรที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือแท่นบูชา
"พวกเจ้า ทำลายรูปปั้นนี้ซะ" สุรเสียงฉียบขาดดังขึ้น
"พวกแก กล้าเข้ามาก็ลองดูสิ" เวลิที่ในที่สุดก็ดิ้นหลุดจากการการคุมตัวของทหารสองนายนั้นวิ่งเข้าไปขวาง นัยน์ตาสีไพลินนั้นจ้องมองอยางพร้อมมีเรื่องเต็มที่หากว่าพวกทหารนั้นก้าวเข้าไปใกล้มากกว่านี้ พวกทหารที่ครั้งแรกทำท่าจะก้าวเข้าไปทำลายรูปปั้นตามดำรัสรับสั่งนั้นก็ชะงักไป โดยที่มีร่างหนึ่งก้าวเข้ามาถึงพอดี
"เซียว่า !!" เสียงเวลิตะโกนขึ้นเมื่อพบว่าร่างที่ก้าวเข้ามานั้นเป็นใคร เด็กสาววิ่งตรงเข้ามาหาเขาแต่ทว่าไม่อาจมาได้ถึงก็โดนจับตัวไว้เสียก่อน
"โอ๊ย.." เสียงเซียว่าร้องครางขึ้นด้วยความเจ็บปวดเมื่อแขนของเธอโดนดัดไพล่หลัง ในขณะที่องค์จักรพรรดินั้นสาวพระบาทเข้ามาใกล้ตัวเธอ เวลิจะก้าวเข้ามาช่วยเธอแต่ก็พอดีกับทหารสี่นายที่เข้ามาจับตัวเขาไว้
"ยัยนี่เป็นน้องสาวของแกสินะ" พระองค์ตรัสด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ ก่อนที่จะเดินตรงไปที่ทหารนายหนึ่งแล้วชักดาบออกจากฝักที่เหน็บไว้ข้างกายทหารนายนั้น ก่อนที่จะหันคมดาบเข้าหาเซียว่า
"ช้าก่อนครับ" เสียงร้องห้ามดังขึ้นจากหนึ่งในราชองครักษ์ที่ตามเสด็จมา ลินเนสก้าวออกมาจากแถวพลางเอ่ยขึ้นต่อไป
"ข้าพระองค์ขอประทานอภัยที่ขัด แต่เธอผู้นี้ไม่ได้ทำผิดอะไรที่พระองค์จะทรงหันดาบใส่เธอเช่นนี้" คำแย้งของเขาได้รับคำตอบกลับเป็นเสียงสรวลที่เย็นชา ก่อนที่จะมีกระแสดำรัสตอบ
"ข้าไม่สนหรอกว่ามันผิดหรือไม่ สิ่งที่ข้าทำถูกต้องเสมอ และถ้าหากยังนึกรักหัวของตนเองอยู่ก็จงอย่าแส่ไม่เข้าเรื่อง... เจ้าอบรมน้องให้มันมากกว่านี้สิ อีริค" ประโยคหลังนั้นไพล่ไปหาผู้เป็นพี่ของชายหนุ่มที่หาญกล้ามาขัดพระราชประสงค์อย่างที่ไม่มีใครกล้าทำมาก่อน คมดาบนั้นถูกจ่อเข้าไปใกล้คอของเด็กสาวมากยิ่งขึ้น ซึ่งนี่ก็มากเพียงพอแล้วที่จะทำให้เวลิสิ้นความอดกลั้นที่ทนมาตลอด พลังเวทถูกรวมไว้ที่มือก่อนที่จะพุ่งใส่ร่างผู้ที่กำลังจะทำร้ายน้องสาวของเขาอย่างรวดเร็ว ร่างใหญ่นั้นเซไปเล็กน้อยเพราะจุดที่โดนคลื่นพลังปะทะนั้นคือพระอังสาขวาเท่านั้น ด้ามดาบถูกตบเข้าใส่หน้าเวลิอย่างแรงจากนายทหารที่คุมตัวเขาอยู่ ชายหนุ่มที่บัดนี้เลือดกบปากอันเป็นผลจากการกระทำเมื่อครู่ยังคงจ้องมองอย่างเอาเรื่อง และยิ่งทำให้อีกฝ่ายโมโหยิ่งขึ้น ครั้งนี้ดาบในฝักถูกชักออก คมดาบสะท้อนวาววับก่อนที่จะวาดใส่ร่างของเวลิ
"ท่านพี่!!" เซียว่าร้องขึ้นพร้อมๆกับที่ร่างของเธอสั่นรัว เธอหลับตาแน่นโดยหวังว่าเหตุการณ์ตรงหน้าจะไม่ดำเนินไปจนจบ ร่างกายของเด็กสาวทรุดลงไปกับพื้นเพราะเกิดความไม่สมดุลภายใน พลังที่ถูกเก็บอยู่ภายในกำลังดิ้นรนที่จะออกมาหากแต่ถูกร่างกายขวางกั้นไว้ เสียงเวลิที่ตะโกนขึ้นดังแว่วขึ้นแต่เหมือนอยู่ในที่ที่แสนไกลสำหรับตัวเธอ
ดวงเนตรของร่างสูงใหญ่จับจ้องดูอาการของเด็กสาวผู้ทรุดลงไปต่อหน้าพระพัตรอย่างยินดี พลังแห่งมังกรที่อยู่ในตัวตนของเธอถูกต่อต้านโดยร่างกายเสียเอง ขอเพียงแค่กำจัดสองพี่น้องนี่เท่านั้นก็จะไม่มีผู้ใดที่ใช้พลังเวทมังกรได้อีก ดาบในพระหัตถ์กระชับแน่นพร้อมจะหยิบยื่นความตายให้แก่ร่างตรงหน้า แต่ยังมิทันได้กระทำตามที่ดำริก็เกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้นมาเสียก่อน
ร่างที่ทรุดอยู่บนพื้นนั้นเปล่งแสงเรืองรองออกมาจากภายใน ลมหายใจที่ดังอย่างแผ่วเบานั้นบ่งบอกถึงความทรมานของเจ้าของร่างได้อย่างดี ภาพในดวงตาของเธอสะท้อนให้เห็นร่างของสัตว์ที่มีขนาดตัวมหึมา เกล็ดสีเงินยวงเปล่งประกายแสงสีเดียวกับที่เปล่งประกายออกมาจากร่างของเด็กสาวในยามนี้ นัยน์ตาสีเงินใสนั้นมองเหล่าผู้ที่บุกรุกเข้ามายังถิ่นของตนอย่างโกรธเกรียว
"ท่านมังกร" ริมฝีปากของเซียว่าพึมพำออกมาเบาๆก่อนที่จะไอออกมาอย่างแรง แสงเรืองรองรอบกายเธอเริ่มขาดหายไปอย่างไม่เป็นจังหวะเพราะยามนี้เจ้าของร่างไม่สามารถทานทนพละกำลังอันมหาศาลของพลังเวทในกายได้อีกแล้ว เลือดที่ออกมาพร้อมกับอาการไอเมื่อครู่เปรอะเปื้อนอยู่ในมือที่บอบบางนั้นเป็นเครื่องชี้ชัดได้อย่างดี และร่างตรงหน้าก็ไม่ปล่อยให้เธอมีชีวิตยืนยาวไปมากกว่านี้
ฉัวะ!!!
โลหิตสีแดงฉานสาดกระจายไปทั่วร่างของเด็กสาวผู้ถูกปลิดชีพโดยองค์จักรพรรดิ นัยน์ตาสีฟ้าเรืองรองนั้นเบิกกว้างอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะหลับลงไปตลอดกาล เวลิมองเหตุการณ์ที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าด้วยนัยน์ตาที่เบิกโพลงอย่างตื่นตระหนก เขารวบรวมกำลังเฮือกใหญ่สะบัดให้หลุดจากการจับกุมก่อนที่จะวิ่งตรงมาหาร่างที่นอนสิ้นลมอยู่บนพื้น แม้ว่าบาดแผลบนกายเขาจะร้องอุทธรณ์ออกมาเป็นความเจ็บปวดที่เกินคาดจนเขาไม่อาจวิ่งได้อย่างใจนึก แต่เขานึกถึงร่างน้องสาวผู้เป็นที่รักยิ่งมากกว่า นอกจากเวลิแล้ว ยังมีอีกผู้หนึ่งที่มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างตื่นตระหนกในการกระทำของผู้เป็นใหญ่ที่สุดในแผ่นดินนี้ด้วยเช่นกัน
นัยน์ตาสีแดงทับทิมของลินเนสจับจ้องมองภาพตรงหน้าอย่างรู้สึกสลดใจ หน้าที่ของทหารที่ดีคือต้องไม่ขัดกับคำสั่งของผู้เป็นนาย ยิ่งบุคคลผู้นั้นคือองค์จักรพรรดิที่เทียบได้ว่าเป็นนายเหนือหัวด้วยแล้ว แต่เขาไม่นึกเห็นด้วยในการสังหารผู้ที่ไร้ทางสู้เช่นนี้เลย
"กำจัดมันซะ" คำประกาศิตดังมาจากองค์จักรพรรดิในขณะที่ทรงยื่นอาวุธที่เพิ่งปลิดชีพเด็กสาวมาให้ลินเนส ชายหนุ่มเงยหน้ามองผู้ที่ดำริสั่งด้วยแววตาไม่เข้าใจ จนคำประกาศิตดังขึ้นอีกครั้ง "ข้าบอกให้เจ้าไปกำจัดไอ้นักเวทมังกรนั่นซะ"
ลินเนสรับดาบมาจากอีกฝ่าย แต่ทว่าเขายังคงยืนนิ่งอยู่ ก่อนที่จะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ
"ข้าพระองค์ทำไม่ได้ ไม่มีเหตุอันใดที่จะต้องฆ่าพวกเขาเลย..." สิ้นเสียงก็มีคำตรัสดังขึ้นด้วยน้ำคำเฉียบขาด
"หมายความว่าเจ้าไม่รับคำสั่งข้างั้นรึ" ถ้อยคำที่เต็มไปด้วยความกดดันนี้ทำให้ผู้ที่รับคำสั่งรู้สึกขัดแย้งระหว่างหน้าที่กับความถูกต้องในมโนธรรม ลินเนสก้าวเท้าตรงไปยังที่ซึ่งเวลิคุกเข่าลงประคองร่างไร้วิญญาณของเด็กสาว ดาบเปื้อนเลือดในมือถูกยกขึ้นสูง ก่อนที่จะ...
"เคร้ง" เสียงดาบถูกเก็บเข้าฝัก พร้อมๆกับลินเนสที่หันกลับมาเผชิญหน้าผู้เป็นนายก่อนที่จะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
"ข้าพระองค์ทำตามคำรับสั่งไม่ได้ การฆ่าคนที่ไร้ความผิดผิดกฎบัญญัติของทหารที่ดีมิใช่หรือพะย่ะค่ะ"
"พวกมันผิด เจ้ายังจะไม่ลงโทษมันอีกรึ" สุรเสียงเย็บเยียบตรัสขึ้น ในขณะที่ดวงเนตรนั้นจ้องมองผู้ที่กล้าขัดรับสั่งอย่างเย็นชา
"แต่ข้าพระองค์ไม่เห็น..." เขายังพูดไม่ทันจบก็มีกระแสรับสั่งตอบขัดขึ้นมา
"ผิดเพราะข้าบอกว่าผิด ข้าไม่ต้องการให้มีนักเวทมังกรหลงเหลืออยู่ การมีอยู่ของพวกมันถือเป็นความผิด" ดำรัสรับสั่งนั้นเรียกแววตาที่โกรธเกรี้ยวจากนักเวทมังกรผู้หลงเหลืออยู่ผู้เดียวในที่นั้นได้อย่างดี ร่างของเวลิสั่นไหวเล็กน้อยเพราะอารมณ์โกรธที่พลุ่งพล่านในร่าง นัยน์ตาสีน้ำทะเลนั้นจ้องมองไปยังผู้ที่สังหารน้องสาวตนอย่างไม่ใยดี ก่อนที่จะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นรัว
"พระองค์มีพระราชประสงค์พลังแห่งมังกรทำไม ในเมื่อพระองค์ทรงเกลียดการมีอยู่ของมัน" คำพูดนี้ได้รับคำตอบคือเสียงสรวลอย่างเย็นชา
"แต่ใช่ว่าข้าจะไม่ต้องการพลังของพวกมัน ลินเนส ถ้าเจ้าลงมือเองไม่ได้ ข้าก็จะทำมันเอง" สิ้นเสียงพระองค์ก็ทรงสาวพระบาทเข้ามาใกล้และทรงชักเอาดาบออกมา ลินเนสขยับตัวเข้าขวางแต่อีกฝ่ายมิได้ใส่พระราชหฤทัยกับการกระทำของทหารตามเสด็จนี้นักยังทรงตั้งมั่นแน่วแน่ที่จะพระราชทานความตายให้แก่ทุกชีวิตที่ขวางพระราชประสงค์ แต่พลันที่พระหัตถ์นั้นทรงดาบแผ่นดินก็สั่นสะเทือนด้วยอำนาจของผู้ที่สถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้
"เจ้ามนุษย์ผู้มากด้วยความโลภ อยากได้พลังของข้าขนาดนั้นเลยรึ" ร่างหนึ่งเอ่ยขึ้นเรียกสายตาทุกคู่ที่อยู่ในที่นั้นหันไปมอง ชายหนุ่มผู้มีเรือนผมสีเงินยืนอยู่ด้านข้างรูปปั้นมังกรตั้งแต่เมื่อไรไม่มีใครรู้ นัยน์ตาสีเงินเรืองรองนั้นจ้องมองผู้ที่บุกรุกเข้ามาอย่างไม่พอใจ และยิ่งมองไปยังร่างของเด็กสาวที่ไร้ชีวิตแล้วก็ยิ่งโกรธเคืองมากยิ่งขึ้น ผืนแผ่นดินยิ่งสั่นสะเทือนแรงยิ่งขึ้นตามแรงโกรธของมังกร
ร่างผู้มาใหม่เดินตรงเข้ามาหาสองพี่น้องผู้คอยปกป้องแท่นบูชาของตน ก่อนที่จะก้มมองดูร่างของเด็กสาวอันเป็นที่รัก เวลิมองร่างตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา เพียงแค่บังเอิญที่แผ่นดินไหวเกิดพร้อมกับการปรากฏกายของคนผู้นี้ หรือว่านี่คืออำนาจที่เกินกว่าที่เขาจะเข้าใจ
"เจ้าผู้เป็นใหญ่ของเหล่ามวลมนุษย์ หากเจ้าต้องการพลัง ข้าจักมอบให้ตามที่หวัง" เสียงที่ดังก้องไปทั่วบริเวณก่อนที่ร่างของชายหนุ่มที่มาใหม่จะกลับกลายเป็นร่างมังกรยักษ์ เกล็ดสีเงินยวงเรืองแสงระยิบระยับภายใต้ความมืดเพราะดวงตะวันถูกบดบังด้วยอำนาจของมังกรที่โกรธจัด ร่างสีเงินทะยานขึ้นสูงก่อนที่จะก้มลงปล่อยลำแสงสีขาวบาดตาเข้าสู่ผู้บุกรุก เวลิหลับตาแน่นเพราะไม่อาจฝืนดูแสงสว่างที่เกินนัยน์ตาจะรับได้นั้น แต่เมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้งก็พบร่างของนายทหารหลายนายนอนไร้ชีวิตอยู่ แต่ผู้ที่พระราชทานความตายแก่น้องสาวเขานั้นหายไปแล้ว เสียงมังกรคำรามก้องอยู่เหนือหัวอย่างโกรธเกรี้ยวดังขึ้นยาวนาน จนในที่สุดร่างสีขาวนั้นก็ลงมายังพื้นก่อนที่จะกลายร่างมาเป็นบุรุษผมเงินอีกครั้ง
"ไม่คิดว่ามันจะนำนักเวทติดมาด้วย เพราะแบบนั้นมันถึงได้หนีออกไปได้พร้อมกับทหารกลุ่มหนึ่ง" ร่างนั้นเอ่ยขึ้นพร้อมๆกับเดินตรงเข้ามาหาชายหนุ่มนักเวทผู้รับใช้แห่งตน
"ข้า...ขอโทษ" น้ำคำแห่งความเสียใจดังขึ้นพร้อมๆกับมือใหญ่ที่ทาบลงบนใบหน้าของเด็กสาว เวลิก้มหน้านิ่งอย่างระงับความโศกเศร้าก่อนที่จะเอ่ยตอบ
"ท่านไม่ผิดหรอก เป็นหน้าที่ของข้ากับน้องสาวอยู่แล้วที่จะปกป้องที่แห่งนี้"
"แต่ก็อย่างที่เจ้าเห็น ข้าสามารถไล่พวกนั้นออกไปได้ด้วยตัวเอง และเพราะข้า...น้องสาวเจ้าถึงเป็นแบบนี้" เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เสียใจอย่างสุดซึ้ง และตอนนี้เองที่เวลินึกถึงคำบอกเล่าของเซียว่าถึงพี่ชายผมเงินขึ้นมาได้ ที่แท้คนที่เธอพบเจอบ่อยครั้งตั้งแต่สมัยเด็กคือ...
"..ข้ามีวิธีที่จะทำให้เธอฟื้นขึ้นมาได้ แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่มีอยู่จำกัด" เสียงของอีกฝ่ายดังขึ้นเรียกให้เวลิหลุดพ้นจากความโศกเศร้าขึ้น เขาเงยมองดูผู้ที่เอ่ยประโยคเมื่อครู่นั่นออกมาอย่างมีหวัง
"ท่านมีวิธี" เวลิเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่เชื่อหู มีวิธีใดที่สามารถฟื้นคืนชีพให้ผู้ที่ตายแล้วด้วยหรือ
"แต่บางทีมันอาจไม่ใช่วิธีที่ดีนัก เพราะมันไม่ใช่วิธีที่ทำให้เธอกลับมามีชีวิตดังเดิม..." เขาเอ่ยขึ้นพลางมองไปอีกด้าน ที่ซึ่งนายทหารนายหนึ่งที่เขาจงใจเพียงแค่ให้สลบไปเท่านั้นมิได้จะมอบความตายให้ดังเช่นทหารจักรวรรดินายอื่น เพราะคนผู้นี้เป็นผู้เดียวที่กล้าขัดรับสั่ง
"ข้าชื่นชมในตัวเจ้า ที่กล้าขัดคำสั่งนั่น แต่หากเจ้ายังคงมีความคิดจะทำตามหน้าที่ที่รับมา ข้าก็ไม่อาจปล่อยเจ้าไว้เช่นเดียวกัน" เสียงคำพูดดังก้องขึ้นในหัวของลินเนสแม้ว่าบุรุษผมเงินตรงหน้าเขาที่เมื่อครู่นี้กลายร่างเป็นมังกรขาวจะไม่ได้ขยับปากพูดเลยก็ตาม
"หากท่านมีวิธีที่จะทำให้เซียว่าฟื้นขึ้นมาได้ ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรข้าก็ยอมรับตามนั้น"
"เพื่อที่จะสามารถคืนชีวิตให้น้องสาวเจ้าได้ ข้าจักสถิตย์อยู่ในร่างของเธอ พลังของข้าจะทำให้วิญญาณตรึงอยู่ในร่างได้ แต่เมื่อใดที่ข้าออกจากร่างของเธอ เมื่อนั้นน้องสาวของเจ้าจักหลับไปชั่วนิรันดร์"
ความคิดเห็น