ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ::Lohikaarme::

    ลำดับตอนที่ #4 : ความฝันของเซียว่า

    • อัปเดตล่าสุด 20 ส.ค. 49




              เสียงดังเซ็งแซ่อันเกิดจากการเรียกรวมตัวของเหล่าทหารชั้นผู้น้อยเพื่อมารับฟังคำสั่งงานครั้งต่อไปจากผู้บังคับบัญชา 


              เด็กหนุ่มในชุดทหารเต็มยศนั่งมองภาพความวุ่นวายนี้ด้วยสายตาเบื่อหน่าย  นัยน์ตาสีทับทิมเหม่อมองไปยังที่ที่ไกลแสนไกลโดยไม่ได้จับจ้องอยู่ที่ ณ จุดใด  จนกระทั่งมีเสียงทักเขาดังขึ้น


              "ลินเนส  เจ้านั่งเหม่อมองอะไรอยู่น่ะ"  สิ้นเสียงทักเจ้าของชื่อจึงหันไปมองดูอีกฝ่าย  ชายหนุ่มผู้สูงวัยกว่ามองดูเขาพร้อมกับรอยยิ้มก่อนที่จะลากเก้าอี้ออกมาเพื่อนั่งลงด้านข้าง  "มีปัญหาอะไรหนักใจหรือเปล่า"  เขาซักถามเมื่อเห็นว่าผู้ถูกเอ่ยทักไม่ได้ตอบอะไร


              "ไม่มีอะไรหรอก  ท่านพี่  ข้าแค่.."  ลินเนสเอ่ยอย่างไม่เต็มเสียง


              "แค่อะไรรึ"


              ".. ไม่มีอะไรครับ  ข้าแค่คิดเรื่อยเปื่อยไปเท่านั้นเอง"  เขาตอบพลางก้มหน้ามองพื้น  อีกฝ่ายมองอย่างไม่ค่อยจะเข้าใจในความหมายนักหากแต่เขาก็ตบไหล่น้องชายอย่างให้กพลังใจพลางเอ่ยขึ้น


              "ถ้าเจ้าว่าอย่างนั้นข้าก็คงไม่มีสิทธิ์อะไรจะซักเจ้าหรอกนะ  เดี๋ยวข้าต้องขอตัวก่อนล่ะ"  เขาพูดก่อนที่จะลุกขึ้นเดินจากไป  ทิ้งให้ผู้เป็นน้องนั่งมองตามหลัง


              ภาพชายหนุ่มในชุดทหารสีแดงเข้มอันเป็นเครื่องแบบแห่งกองทัพอังเกรียงไกรของเคอิซารี  เอ็มไพร์  อาณาจักรแห่งนี้สะท้อนอยู่ในนัยน์ตาของลินเนส   ผมสีน้ำตาลเข้มถูกหวีจนเรียบดูเรียบร้อยเพื่อให้เหมาะสมกับชุดเครื่องแบบที่เต็มยศ  ท่วงท่าที่สง่างามจนเป็นที่ยอมรับจากผู้คน  แม้กระทั่งฝีมือการรบก็เชี่ยวชาญอยู่ในระดับต้นๆของอาณาจักร


              ..เพราะเจ้าเป็นน้องของอีริค  ข้าหวังว่าเจ้าคงจะทำหน้าที่นี้ได้ดีนะ..


              ลินเนสนั่งคิดถึงเรื่องหลายเรื่องที่ผ่านเข้ามา  ตั้งแต่เขายังเด็ก  พี่ชายคือคนที่เขานับถือ  แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่ผู้อื่นตั้งความหวังว่าตัวเขาจะต้องเป็นได้เช่นนั้นด้วย  แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ได้นึกอิจฉาในตัวอีริคเสียเท่าใดนัก 


              "นั่นไง  ลินเนส  ที่เป็นบุตรชายคนเล็กของท่านนายพลบุลเช่น่ะ"  เสียงหนึ่งดังแว่วมาจากเหล่านายทหารที่จับกลุ่มพูดคุยกันอยู่โดยไม่สนใจว่าเจ้าตัวจะอยู่ในสถานที่นั้นด้วย


              "งั้นก็เป็นน้องของท่านอีริคน่ะสิ"  อีกเสียงหนึ่งดังขึ้น


              "แหงสิ  ก็เป็นลูกท่านนายพลเหมือนกัน  ไม่ใช่พี่น้องแล้วจะเป็นอะไรกันวะ"  เสียงเดิมตอบกลัวพร้อมกับเสียงเฮฮาที่ดังขึ้นอย่างถูกใจยิ่งนัก


              "ดูท่าทางไม่เห็นจะเก่งตรงไหนเลย  ไม่รู้ทำไมถึงได้เป็นตั้งพันโท"  อีกเสียงหนึ่งออกความเห็น


              "เฮ้ย  นายจะรู้อะไร  คิดดูสิ  พ่อก็ใหญ่  พี่ก็ใหญ่ แล้วอย่างนี้ตำแหน่งดีๆจะไปไหน  จริงไหม"  เจ้าตัวไม่พูดเปล่าทำท่าทำทางประกอบเอาเสียด้วยเรียกเสียงหัวเราะอีกระลอกใหญ่


              ลินเนสมองดูนายทหารเหล่านั้นด้วยสายตาที่ไร้ซึ่งความรู้สึก  เรื่องเหล่านี้ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่เขาได้ยินมาจนชาชินแล้วพอๆกับประโยคที่ให้เขาทำตัวให้ได้ทัดเทียมอีริค  เขาแสร้งไอขึ้นมาเบาๆหนึ่งครั้งก่อนที่จะลุกขึ้นเดินออกจากที่แห่งนั้นไป  โดยที่มีสายตานับสิบที่มีแววหวาดหวั่นเจืออยู่เล็กน้อยจ้องมองเขาจากด้านหลัง


              ลมเย็นๆพัดเข้ามาปะทะกับใบหน้าของลินเนสทำให้เขารู้สึกดีขึ้นบ้าง  เขามองดูเบื้องล่างจากดาดฟ้าสูงที่เขายืนอยู่หมายจะปลดปล่อยความเครียดที่อยู่ในหัวออกให้หมด  ผู้คนที่เดินกันขวักไขว่นั้นทำให้เขารู้สึกรื่นเริงขึ้นได้บ้างจากการคอยดูวิถีชีวิตที่เรียบง่ายที่ค่อยๆดำเนินไป


    **************************************************


              "เซียว่า"


              เสียงเรียกดังขึ้นเรียกให้เด็กสาวตื่นจากภวังค์  เธอหันไปยังเวลิด้วยแววตาสงสัยก่อนที่จะเอ่ยถาม


              "ท่านพี่เรียกข้าทำไมหรือคะ"


              "ก็ข้าเห็นว่าเจ้านั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างแบบนี้มาตั้งนานแล้ว  เลยลองเรียกดู  เจ้านั่งคิดอะไรอยู่หรือเปล่า"  เวลิพูดพร้อมกับเดินเข้ามานั่งด้านข้าง  เซียว่าเหลือบมองพี่ชายของตนอย่างชั่งใจชั่วครู่ก่อนที่จะตัดสินใจพูดขึ้น


              "เมื่อคืนข้าฝันแปลกน่ะค่ะ  ท่านพี่  มันดูไม่เหมือนความฝันเลย"  เด็กสาวเอ่ยขึ้นพลางถอนหายใจ


              "ฝันแปลกๆ  เจ้าฝันว่าอะไรล่ะ"  เวลิถามขึ้น


              "ข้าฝันเห็นคนเยอะแยะเลย  ทุกคนแต่งเครื่องแบบสีแดงกันหมด  พวกเขามาที่แท่นบูชาแล้วก็ทำลายรูปสลัก  แต่อยู่ๆก็มีแสงสว่างวาบขึ้นมา..  คนพวกนั้นหายไปจนหมด  แต่พอแสงมืดไป  ทุกสิ่งรอบข้างก็ดับวูบลงไปหมด  มันแปลกไหมคะ  ท่านพี่"  เซียว่าพูดพลางมองหน้าอีกฝ่ายอย่างรอความเห็น  เวลิครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเอ่ยตอบน้องสาวผู้นั่งรอคอยคำพูดเขาอยู่อย่างใจจดใจจ่อ


              "ข้าว่าเจ้าคงคิดมากไปเรื่องเมื่อคืนล่ะมัง"  เขาสรุปขึ้น


              "แต่ว่าท่านพี่คะ"  เซียว่าเอ่ยค้านเสียงค่อย  เธอควรจะบอกอย่างไรดีว่าใจเธอรับรู้เหมือนมันจะเกิดขึ้นจริงๆ


              "ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกเซียว่า  เจ้าไม่ต้องคิดมากหรอก"  เวลิปลอบเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน  เด็กสาวพยักหน้าหงึกๆรับรู้ก่อนที่จะลุกขึ้นยืน


              "งั้นข้าขอไปที่แท่นบูชานะคะ"  เซียว่าเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สดใสขึ้นกว่าเมื่อครู่  เธอไม่ได้รอคำตอบของพี่ชายหากแต่เดินตรงไปที่ประตูทันที


              เสียงประตูเปิดและปิดลงเบาๆพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ค่อยๆจางหายไปบ่งบอกว่าเด็กสาวได้เดินออกไปแล้ว  เวลิมองดูร่างของเซียว่าผ่านหน้าหน้าด้วยสายตาเอ็นดู  ก่อนที่จะมานั่งครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่เธอเล่าให้เขาฟังเมื่อครู่


              "ท่าทางจะมีเรื่องวุ่นๆแล้วสินะ"  เวลิเอ่ยเบาๆกับตนเอง  เขาพอรู้ว่าความฝันนั้นหมายความว่าอย่างไร  แต่จะเป็นการดีกว่าที่จะไม่ให้น้องสาวของเขาต้องมานั่งกลุ้มใจในเรื่องที่หนักหนาเกินตัวเช่นนี้


              ทหารเครื่องแบบสีแดงคือทหารของจักรวรรดิเคอิซารี  หมู่บ้านริเวอร์วินด์นี้เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่อยู่ทางตอนเหนือของดินแดนนี้  แต่เดิมแล้วที่แห่งนี้ไม่ได้อยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิ  หากแต่ว่าเมื่อครั้งที่เกิดสงครามเพื่อที่จะขยายดินแดน  เป็นธรรมดาที่ผู้แพ้จะถูกรวบเอาแผ่นดินมาเป็นหนึ่งของประเทศผู้ชนะ  และนี่คือสาเหตุที่ริเวอร์วินด์กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของเคอิซารี


              แม้จะเป็นเรื่องที่เกิดมานานแล้ว  แต่เวลิยังคงจำเหตุการณ์ร้ายๆเหล่านั้นได้ดีราวกับมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน  ไฟแห่งสงครามที่แผดเผาบ้านเรือนหลังแล้วหลังเล่า  พวกทหารไร้คุณธรรมที่ฆ่าชาวบ้านที่ไร้ทางสู้อย่างเลือดเย็น  ทั้งพ่อและแม่ต่างก็เสียชีวิตไปในการที่เอาตัวเข้าปกป้องเขาที่โดนทหารนายหนึ่งจับได้  เหตุการณ์ครั้งนั้นเซียว่ายังเด็กอยู่มาก  และเขาก็ไม่อยากไปรื้อฟื้นความทรงจำที่แสนเจ็บปวดนั้นขึ้นมาใหม่


              "มันแปลกเพราะพระองค์ท่านที่ไม่โปรดเรื่องมังกรกลับจะเสด็จฯ มาด้วยองค์เอง   จนถึงบัดนี้แล้ว..  ยังจะประสงค์สิ่งใดจากเราทั้งคู่อีก"  เวลิพูดกับตัวเองในขณะที่นั่งเหม่อมองหน้าหนังสือที่พลิกเปิดเองตามแรงลมที่พัดเข้ามา


    **************************************************


              แสงแดดอ่อนส่องผ่านยอดไม้ลงมาเบื้องล่าง  ผีเสื้อกำลังบินอยู่ในทุ่งดอกไม้หลากสีที่ผลิบานเพื่อแต่งแต้มสีสันให้โลกนี้อีกวันหนึ่ง  เซียว่าเหลียวดูรอบข้างอย่างนึกกังวล  จะเกิดอะไรถ้าสิ่งเหล่านี้ถูกทำลายลงไปหมด  มันจะมืดมิดดั่งความฝันเมื่อคืนอย่างนั้นหรือ


              "ทำไมทำหน้าตาเป็นกังวลอย่างนั้นล่ะ  ไม่สมกับเป็นเจ้าเลยนะ"  เสียงทักดังขึ้น  เด็กสาวเงยหน้าขึ้นไปก็พบกับชายปริศนาคนเดิม  ผมสีเงินนั้นสะท้อนรับกับแสงอาทิตย์เป็นประกายสีสวยดูแปลกตา  เซียว่ายิ้มให้อีกฝ่ายก่อนที่จะเอ่ยทักขึ้นบ้าง


              "ไม่มีอะไรหรอกค่ะ  พี่ชายมาตั้งแต่เมื่อไรเหรอคะ"


              "ข้าอยู่มาตั้งแต่ต้นแล้วต่างหาก"  เขาแก้ให้ก่อนที่จะนั่งลงกับพื้นด้านข้างเธอ  เซียว่าหันมามองเขาด้วยสายตาที่เจือด้วยแววโกรธเล็กน้อย


              "เมื่อวานอยู่ๆพี่ชายก็หายไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้  ทำให้ท่านพี่ว่าข้าคุยอยู่คนเดียวเลยนะ" เด็กสาวตัดพ้อพลางทำหน้างอแบบเดียวกับเด็กๆ  อีกฝ่ายมองหน้าเธอยิ้มๆก่อนที่จะเอ่ยปากขอโทษ


              "ข้าขอโทษ  แต่ข้าไม่ค่อยชอบพูดคุยกับใครน่ะ"  คำตอบที่ได้รับนี้ทำเอาเด็กสาวหันหน้าขวับมาอย่างตกใจ


              "เหรอคะ  งั้นข้ามากวนพี่ชายหรือเปล่าคะ  ถ้างั้นข้าจะไม่พูดกับพี่ชายอีกแล้วก็ได้"  เธอพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักอย่างลังเลใจว่าเธอมาทำให้อีกฝ่ายรู้สึกรำคาญหรือไม่  แต่สิ่งที่ได้รับมีเพียงเสียงหัวเราะอย่างอดไม่ได้


              "ข้ายังไม่ทันว่าเจ้าสักหน่อย  ถ้าข้าไม่อยากคุยกับเจ้าคงไม่ออกมาให้เห็นหรอก" เขาพูดตอบเธอทั้งที่ยังคงหัวเราะออกมาอยู่


              "จริงสิ  ข้ายังไม่รู้ชื่อพี่ชายเลย  พี่ชายชื่ออะไรหรือคะ"  เธอเอ่ยถามขึ้นเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้  ว่าจนป่านนี้แล้วเธอยังไม่รู้ชื่อของคนตรงหน้าเลย  หากแต่อีกฝ่ายมีทีท่าอึดอัดขึ้นมาทันทีที่เธอถามเช่นนั้น


              "ข้า.."  คำตอบที่ถูกเอ่ยอย่างไม่ค่อยจะเต็มใจนักในขณะที่มองหน้าเด็กสาวที่นั่งรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ


              "เรียกข้าว่า โลอิ  ละกัน"  เขาตอบออกมาในที่สุด


              "โลอิหรือคะ พี่ชายนี่ชื่อแปลกจังนะ  อ๊ะ  ข้าชื่อเซียว่าค่ะ"  เธอพูดตอบเขาอย่างรวดเร็ว


              "งั้นเซียว่า  เจ้ากังวลใจเรื่องอะไรหรือ  ถึงได้ทำหน้าเป็นกังวลเช่นนั้น"  โลอิเอ่ยถามอย่างสงสัย  เซียว่ามองหน้าเขาอย่างชั่งใจเล็กน้อย  ก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงลังเลใจ


              "พี่ชายฟังแล้วต้องไม่หัวเราะเยาะข้านะคะ"  เด็กสาวพูดขึ้นพลางมองหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาลังเลชั่วครู่  ก่อนจะจะกล่าวต่อ  "ข้ากำลังกลุ้มเรื่องความฝันแปลกๆเมื่อคืนอยู่น่ะค่ะ  มันแปลก  แต่ก็ให้ความรู้สึกเหมือนจริงมากเลย" 


              "ฝันว่าอะไรล่ะ"  เขาซักต่ออย่างสนใจ  เซียว่าหลับตาลงชั่วครู่ในขณะที่พยายามนึกทวนฝันให้ขัดออกเป็นรูปร่าง


              "ทหารชุดแดงเข้ามาล้อมที่นี่ไว้จนหมด  แล้ว..  อยู่ๆก็มีแสงสว่างวาบขึ้นมาจากรูปสลักมังกร  พวกทหารหายไป  แต่ว่าพอสิ้นแสงสว่างนั้น รอบข้างก็มืดมิดลงไปหมด"  เซียว่าพูดด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น  อีกฝ่ายมองเะฮอย่างชั่งใจอยู่ชั่วครู่แล้วเอ่ยปลอบ


              "แต่มันแค่ความฝันเท่านั้นเองนี่  จริงไหม"


              "พี่ชายพูดเหมือนท่านพี่เวลิเลย  มันดูสมจริงมากเลยนะคะ"


              "งั้นหรือว่าเจ้า  เชื่อว่าจะมีคนมาทำลายที่นี่ลงได้จริงๆงั้นหรือ"


              เซียว่าส่ายศีรษะอย่างแรง  เธอไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่ามีใครคิดจะมาทำลายที่นี่จริงๆ  แม้ว่ามันจะเกิดขึ้นจริง  เธอก็ยังคงไม่เข้าใจอยู่ดีว่าเขาจะทำเพื่ออะไร  เด็กสาวเหลือบมองดูชายหนุ่มผู้นั่งอยู่ด้านข้างเธออย่างนึกสงสัยในสิ่งที่เขาเคยพูดไว้เมื่อไม่นานมานี้


              "พี่ชายเคยบอกข้าว่าจะมีใครมาทำลายที่นี่ไม่ใช่หรือคะ"


              "ก็ใช่  แต่ข้าไม่อยากให้เจ้ากังวลในเรื่องที่ยังไม่เกิดเช่นนั้นนี่  จริงไหม..?? ดูสิ  หน้าของเจ้าตอนเวลาทำหน้านิ่วคิ้วขมวดน่ะดูไม่น่ารักเอาเสียเลยนะ"  เขาด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะให้เด็กสาวค้อนขวับเข้าให้


              "ท่านพูดเหมือนถึงแม้จะเกิดอะไรขึ้น  ข้าก็ช่วยอะไรไม่ได้อย่างนั้นแหละ"


              "แต่มันเป็นความจริงไม่ใช่หรือ  เจ้าน่ะ  ยังเด็กอยู่แท้ๆ  ไม่ควรจะมานั่งกังวลเรื่องที่ใหญ่เกินตัวเช่นนี้หรอก"  อีกฝ่ายตอบกลับ


              "แต่ข้าน่ะ  ไม่ใช่เด็กเล็กๆแล้วนะคะ  แล้วหน้าที่ของข้าคือต้องดูแลและปกป้องที่แห่งนี้ให้ดีที่สุด"  เซียว่าพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังและหนักแน่น  โดยเฉพาะประโยคสุดท้ายที่เธอเน้นย้ำไว้ในใจ


              "ถ้าเจ้าว่าเช่นนั้น ข้าก็ขอให้เจ้าทำมันได้ดังใจเจ้าหวังละกันนะ  เซียว่า" 


              "ค่ะ  แต่ถ้าหากว่าจะไม่มีใครมาทำลายที่นี่คงจะดีที่สุดนะคะ"  เด็กสาวรับคำเบาๆ


    **********************************************


              ความมืดมิดแห่งรัตติกาลเข้าปกคลุม  แสงตะวันลาลับไปจากผืนโลกเหลือเพียงแสงจากดวงจันทร์ที่เข้ามาแทนที่  และแสงริบหรี่ของดวงดาวน้อยใหญ่เต็มท้องฟ้าอันมืดมิด  แสงไฟที่ส่องผ่านหน้าต่างแต่ละบานในเมืองเป็นเหมือนดวงไฟที่บ่งบอกถึงการมีตัวตนอยู่ของคนแต่ละคนในบ้านหลังนั้น  ยิ่งเวลาล่วงเลยไปจนดึกดื่น  ดวงไฟเหล่านั้นก็ค่อยๆดับไปทีละดวง  จนเหลือไฟหลักที่ยังคงส่องสว่างไม่กี่ดวงเท่านั้น


              ลินเนสจ้องมองดูภาพเหล่านี้ราวกับจะซึมซาบมันลงไปสู่จิตใจ  เขายืนตากลมอยู่ด้านนอกมานานมากแล้ว  แต่ทว่าก็ยังไม่นึกอยากกลับเข้าไปด้านในตัวบ้าน  ทั้งนี้ทั้งนั้นในใจเขามัวแต่คิดทบทวนสิ่งที่เขาพบเจอมาในวันนี้


              "องค์จักรพรรดิจะเสด็จไปปราบพวกกบฏที่หมู่บ้านทางตอนเหนือ  ข้าต้องการให้เจ้าไปเป็นองครักษ์พระองค์ด้วยกันกับอีริคนะ  เข้าใจไหม"  เสียงสั่งของท่านนายพลบุลเช่ผู้เป็นบิดาดังก้อง  ตัวเขาเองพยักหน้ารับก่อนที่จะเอ่ยปากรับคำ


              "ครับ  ท่านนายพล"  ลินเนสตอบรับ  ท่ามกลางสายตานับสิบคู่ที่มองตรงมาทางเขาด้วยความรู้สึกสองทาง  หนึ่งคือมองด้วยความคาดหวังในผลงานที่คาดว่าว่าจะออกมาอย่างดีตามแบบฉบับเช่นเดียวกับผู้เป็นพี่  และอีกความรู้สึกที่มีมาไม่แพ้กันคือความริษยาในตำแหน่งที่สมควรจะแบ่งสรรกันตามขั้นอาวุโส  แม้ว่าจะไม่มีใครแย้งว่าฝีมือดาบของเขาเองมิได้เลวร้าย  แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ดีกว่าผู้เป็นพี่เสียเท่าไหร่  เหนือสิ่งอื่นใด  คนเราย่อมไม่ชอบเห็นใครดีเด่นเกินหน้าตาตนอยู่แล้ว


              ด้วยเหตุนี้  หลังจากจบการประชุมทหารในคราวนั้นตัวเขาจึงยิ่งโดนเพ่งเล็งกว่าเดิม  ลินเนสได้แต่ถอนใจอย่างเหนื่อยล้ากับวิถีชีวิตที่เขาเป็นอยู่ในตอนนี้  แต่มันก็เป็นหน้าที่ที่เขาต้องทำมันให้สำเร็จโดยไม่อาจหลีกหนีได้


              ลินเนสหยิบดาบในมือขึ้นมาเพ่งพินิจดู  มันตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เขาเริ่มเห็นว่าดาบนี้เป็นสิ่งที่หนักหน่วงกว่าที่คิดหลายเท่านัก  ทั้งที่แต่ก่อนมันเป็นสิ่งที่เขาอยากได้มากที่สุด  เพราะว่าเขาชื่นชมในตัวของพ่อที่เป็นนายพลที่สง่างามเช่นนั้น  และการได้ฝึกฝนดาบกับอีริคมันก็สนุกดี  แต่มันเพราะอะไรกัน...??


              "หึ..นี่ข้ากำลังดูถูกชีวิตของทหารแห่งจักรวรรดิอยู่งั้นหรือนี่.."  เขาเอ่ยเบาๆกับตนเองก่อนที่จะเก็บดาบลงไป  แล้วเดินกลับเข้าไปในห้องก่อนที่จะดับไฟในห้องลง


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×