ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ::Lohikaarme::

    ลำดับตอนที่ #3 : เมฆหมอกปกคลุม

    • อัปเดตล่าสุด 22 ส.ค. 49




              พลัง.. ใครบ้างไม่สนใจ


              อำนาจ.. มีใครบ้างไม่ต้องการ


              ในเมื่อหากว่าผู้ใดได้ครอบครองทั้งสองสิ่งแล้ว  ก็เปรียบเสมือนโลกนั้นอยู่ในกำมือของคนผู้นั้น


              "เจ้าแน่ใจอย่างนั้นหรือ"  บุรุษวัยชราผู้นั่งหันหลังให้กับผู้ที่สนทนาด้วยเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว 


              "ข้าพระองค์ขอยืนยันตามที่ได้กล่าวไปเมื่อครู่พะย่ะค่ะ"  อีกฝ่ายผู้ด้วยบรรดาศักดิ์กว่าคุกเข่าลงกับพื้น  นัยน์ตาที่แฝงไปด้วยความมากเล่ห์จับจ้องยังร่างที่ประทับอยู่ตรงหน้า


              "มังกรแห่งริเวอร์วินด์อย่างนั้นรึ"


              "พะย่ะค่ะ  ข้าพระองค์มั่นใจว่าผลึกมังกรอยู่ที่แท่นบูชาที่นั่นไม่ผิดแน่พะย่ะค่ะ"


              "ผลึกที่รวบรวมพลังอำนาจของมังกรงั้นรึ  ไม่ว่าต้องใช้วิธีไหน  จงนำมันมาให้ข้าให้ได้"  ชายผู้สูงวัยกว่าสั่งขึ้นด้วยน้ำเสียงพึงพอใจในสิ่งที่ตนต้องการคว้ามาไว้ในมือ  อีกฝ่ายรับคำก่อนที่จะถวายความเคารพแล้วออกจากห้องไป


              "อำนาจที่เหนือกว่าผู้ใดในโลกนี้  ข้าจะต้องคว้ามาไว้ในมือให้ได้"  เสียงของผู้ที่ยังคงอยู่ในห้องเอ่ยขึ้นด้วยความทระนงตน  เขาลุกขึ้นมองภาพเบื้องล่างจากหน้าต่าง  ฝูงชนเดินขวักไขว่กันในตัวเมืองเป็นภาพที่เห็นจนชาชินตา  แม้ว่าอำนาจอันยิ่งใหญ่ในประเทศนี้จะอยู่ในมือเขา  หากแต่ว่ามันยังไม่เพียงพอ  เขายังคงต้องการมันมากกว่านี้


    ************************************************


              "พี่ชายมาอีกแล้วหรือคะ"  เสียงเซียว่าดังขึ้นเมื่อพบว่าที่ลานแท่นบูชามีบุรุษผู้หนึ่งยืนอยู่แล้วก่อนที่เธอจะไปถึง


              "เจ้าเองก็เถอะ  มาที่นี่ตั้งแต่เช้าเชียวนะ" 


              "ข้าชอบที่นี่น่ะค่ะ  ข้ามาบ่อยๆตั้งแต่เด็กๆแล้ว  มันเป็นที่ที่ทำให้ข้าสบายใจรองจากบ้านเลยนะคะ"  เซียว่ายิ้มตอบพลางเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายซึ่งยืนทอดสายตามองดูทิวเขาที่อยู่ไกลลิบอยู่  "พี่ชายไม่ใช่คนแถวนี้สินะคะ  ข้าไม่เคยเห็นท่านมาก่อนเลย"


              "เจ้าอยากรู้หรือ"  เขาถามกลับ  เซียว่ามองอีกฝ่ายอย่างสงสัยก่อนที่จะตอบเสียงค่อย


              "หากไม่ต้องการบอกก็ไม่เป็นไรค่ะ  ถือซะว่าข้าถามคำถามไร้สาระไปแล้วท่านไม่ต้องการจะตอบ"


              "ไม่เป็นไร  ข้าไม่ได้ว่าเจ้าผิดเสียหน่อย  เพียงแต่ข้าน่ะ  อยู่ที่นี่ต่างหาก"  เขาเอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้มหากแต่เซียว่ากลับมองอีกฝ่ายด้วยท่าทีสงสัย


              "แต่ข้าไม่เคยเห็นท่านเลยนะคะ  แม้ว่าข้าจะไม่ได้ออกไปในตัวหมู่บ้านบ่อยนัก  แต่ข้าไม่คุ้นหน้าท่านเลย"  เด็กสาวพูดพลางเพ่งพินิจมองดูอีกฝ่ายอย่างใคร่รู้


              "ข้าอยู่มานานแล้ว  เจ้าไม่ได้สังเกตเองมากกว่า   ที่สำคัญกว่านั้น  ทั้งที่อากาศก็ออกจะดีแท้ๆ  ทำไมเจ้าไม่ไปเดินเล่นในตัวเมืองล่ะ มาที่นี่ทำไม"  อีกฝ่ายตอบเมื่อเห็นว่าเธอจ้องมองตัวเขาจนเกินพอแล้ว  เซียว่าละสายตาจากเขาไปเมื่อได้รับคำถามกลับเช่นนั้น  เธอมองดูใบไม้ที่ไหวลู่ตามลมราวกับจะนึกเค้นคำตอบจากมัน  จนในที่สุดเธอก็ยอมตอบคำถามนั้น


              "ข้าร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงน่ะค่ะ  การจะเข้าไปในตัวเมืองก็ต้องใช้เวลาไม่น้อย  ข้าก็เดินทางได้ไม่ไกลนัก"  เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยร่าเริงดังครั้งแรก  แต่เมื่อนึกขึ้นได้เธอจึงพูดต่อด้วยท่าทางที่พยายามให้ดูแจ่มใสกว่าเก่า


              "แต่ข้าไม่นึกเสียใจหรอกนะคะ  ข้าน่ะชอบที่จะมาที่นี่มากกว่าเข้าไปในตัวเมืองเสียอีก"


              "กลัวท่านมังกรเหงาอย่างนั้นรึ  เจ้านี่นะ"  เขาเอ่ยหยอกให้สาวน้อยหันมาทำหน้างอใส่  ก่อนที่จะว่ากลับ


              "อย่าพูดล้อเล่นแบบนั้นสิคะ  ท่านมังกรมีอยู่จริงๆนะ  ท่านพ่อกับท่านแม่บอกว่าท่านมังกรอยู่ที่นี่มานานแสนนาน  ตั้งแต่สมัยก่อนท่านปู่ท่านย่าอีกค่ะ"  เธอพูดมาถึงตรงนี้ก่อนที่จะหยุดไปชั่วครู่แล่วค่อยเอ่ยต่อ  "ข้าคิดอยู่เสมอๆว่า  การที่ท่านมังกรต้องอยู่มานานขนาดนั้น แถมยังอยู่ตัวคนเดียวอีก  คงจะต้องเหงาแน่ๆเลย  ตัวข้าเวลาที่ท่านพี่ไม่อยู่บ้านแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ  ข้ายังรู้สึกเหงาเลย"


              "ดูท่าทางครอบครัวเจ้าคงอบอุ่นน่าดูสินะ"  เขาเอ่ยเมื่อฟังเธอพูดจนจบ  เซียว่าพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้ม


              "ข้ารักทุกๆคนมากเลยค่ะ  ถึงแม้ว่าท่านพ่อท่านแม่จะไม่อยู่แล้วก็ตาม  แต่ท่านพี่เวลิก็ยังอยู่นี่คะ"


              "เจ้ารักที่นี่มากไหม"  เขาเอ่ยถาม  เซียว่ามองดูอีกฝ่ายด้วยความไม่เข้าใจว่าคำถามนี้สื่อถึงอะไรหรือเปล่า  แต่เธอก็ตอบรับ


              "รักสิคะ"  เมื่อสิ้นเสียงตอบอีกฝ่ายก็ยิ้มออกมา  เซียว่ามองเขาอย่างไม่เข้าใจว่าครั้งนี้เธอทำเรื่องใดอีกฝ่ายจึงยิ้มออกมาเช่นนี้


              "พี่ชายยิ้มทำไมล่ะคะ  ข้าทำอะไรแปลกๆไปหรือ..??"  เธอถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจเมื่อพบว่าอีกฝ่ายหัวเราะออกมาในที่สุด


              "ไม่มีอะไรหรอก  แค่เจ้าทำให้ข้านึกถึงใครบางคนน่ะ"  เขาเอ่ยพลางมองใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสงสัยของเซียว่า


              "คนรู้จักของพี่ชายหรือคะ..??"  เซียว่าเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเอาแต่จ้องหน้าเธอไม่ละสายตา


              "ก็ทำนองนั้นล่ะมัง  ข้าเองก็ชอบที่นี่มากเหมือนกัน.."  เขาหยุดพูดไปพักใหญ่ก่อนที่จะหันมาถามเด็กสาวด้วยน้ำเสียงจริงจังผิดกับเมื่อครู่ 


              "แล้วถ้าหากว่ามีใครต้องการจะทำลายที่นี่  เจ้าจะทำอย่างไรล่ะ  สาวน้อย"


              เซียว่าเงยหน้ามองอีกฝ่ายอย่างนึกแปลกใจในคำถามถึงเรื่องที่เธอไม่เคยนึกถึงมาก่อน  ลมพัดมาวูบใหญ่พาเอากิ่งไม้ไหวเอนไปมาอย่างแรงจนเกิดเสียงขัดสีกันของเปลือกไม้ดังให้ได้ยินชัดเจนในความเงียบที่ปกคลุมอยู่เช่นนี้


              "ทำลาย..  ที่นี่งั้นหรือคะ"  เธอเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแปลกใจระคนตกใจ  "แต่  ข้าไม่เห็นรู้เลยว่าจะมีใครมาทำลายแท่นบูชาของท่านมังกรด้วย"


              "ไม่ช้าก็เร็ว  เจ้าคงจะรับรู้เรื่องเหล่านี้"


              "แต่ว่า  ถึงทำลายที่นี่ไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาไม่ใช่หรือคะ  แล้วทำไมต้องทำลายล่ะคะ"  เซียว่าถามอย่างไม่เข้าใจ  อีกฝ่ายมองหน้าเธอก่อนที่จะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความหมายบางอย่าง


              "เพื่อพลังไงล่ะ  เพื่อครอบครองพลังอำนาจแห่งมังกร  พวกมนุษย์ทำได้ทุกอย่างนั่นแหละ"


              เสียงที่ลดระดับลงมาจนเบาเหลือราวกับเสียงกระซิบ  เซียว่ามองอีกฝ่ายอย่างไม่ค่อยจะเข้าใจนัก  บางทีเรื่องนี้อาจจะยิ่งใหญ่เกินไปสำหรับตัวเธอ  แต่แล้วทันใดนั้นก็มีเสียงเรียกเธอดังมจากด้านหลัง


              "เซียว่า"


              เด็กสาวหันหลังไปมองตามเสียงเรียก  เธอเห็นเวลิวิ่งตรงมายังจุดที่เธอยืนอยู่อย่างเร่งรีบ  ก่อนที่จะมาหยุดยืนหอบอยู่ตรงหน้าเธอ


              "ท่านพี่  รีบวิ่งมาทำไมหรือคะ"  เซียว่าถามหลังจากปล่อยให้พี่ชายเธอยืนพักอยู่ชั่วครู่  เวลิมองเซียว่าด้วยแววตาแปลกใจพลางเอ่ยถาม


              "เจ้ายืนคุยกับใครน่ะ  เมื่อครู่"


              "อ๋อ  พี่ชายที่ข้าเล่าให้ท่านพี่ฟังเมื่อวานไงล่ะคะ..  เขา.."  เซียว่าหันไปยังจุดที่ชายหนุ่มผู้สนทนากับเธอตั้งแต่เมื่อครู่ยืนอยู่  แต่ทว่า...


              ว่างเปล่า...


              สิ่งที่เธอพบเมื่อหันกลับไปมองอีกฝ่ายนั่นคือเขาหายตัวไปแล้ว  ตั้งแต่เมื่อไรนั้นเธอไม่รู้เลย  เด็กสาวยืนนิ่งอย่างแปลกใจก่อนที่จะหันมาบอกผู้เป็นพี่ด้วยน้ำเสียงงุนงง


              "เมื่อกี้เขายังยืนอยู่ตรงนี้เลยนี่คะ  หายไปตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้  ทั้งที่ข้ายังไม่รู้ชื่อเลยแท้ๆ"


              "ไม่ใช่หรอก เซียว่า.."  เวลิจ้องมองเธอด้วยสายตาแปลกๆจนเธอนึกสงสัยในอากัปกิริยาของพี่ชายเธอตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว


              "มันไม่มีใครเลยตั้งแต่แรกแล้ว  ตั้งแต่ข้าเดินมานี่ข้าเห็นเจ้าพูดคุยอยู่คนเดียวต่างหาก"  เวลิพูดถึงสิ่งที่เขาพบเห็นเมื่อครู่ให้เด็กสาวฟัง  ความจริงอันแปลกประหลาดนี้สร้างความสับสนให้กับเซียว่าจนต้องเอ่ยย้อนถามอีกฝ่ายอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ


              "ท่านพี่ไม่ได้ดูผิดหรือคะ  ข้าจะคุยคนเดียวทำไมกัน  ไม่ใช่ว่าเขาหายไปตอนท่านพี่มาหรอกหรือคะ"


              "ไม่ผิด  ข้ามองมานานแล้ว  เจ้าอยู่คนเดียวที่นี่จริงๆ"


              เซียว่าได้แต่แย้งเวลิซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่เพิ่งได้รับฟัง  จนอีกฝ่ายต้องยอมแพ้ในการที่จะพูดถึงเรื่องนี้ไปโดยปริยายทั้งที่ยังติดใจสงสัยกันอยู่ทั้งสองฝ่าย  ในที่สุดเวลิก็เอ่ยบอกเหตุที่ทำให้ตนต้องออกมาตามหาตัวเธออย่างเร่งรีบเช่นนี้


              "เซียว่า  ข้าได้รับสาสน์จากองค์จักรพรรดิว่าจะเสด็จฯ มาประทับที่หมู่บ้านริเวอร์วินด์  และจะเสด็จมาทอดพระเนตรแท่นบูชาที่นี่ด้วย"


              "จริงหรือคะ..??"  เซียว่าเอ่ยอย่างไม่เชื่อหู  ปัจจุบันที่แห่งนี้เรียกได้ว่าถูกลืมจากคนส่วนใหญ่  และที่สำคัญ  องค์จักรพรรดิไม่เคยแสดงพระประสงค์ว่าโปรดที่แห่งนี้มาก่อน  ไม่เคยแม้แต่จะตรัสถึงด้วยซ้ำไป  เซียว่ามองดูหน้าพี่ชายที่ดูหนักใจในข่าวนี้เช่นกัน


              "ท่านพี่คะ ข้าเคยได้ยินแต่ข่าวที่ไม่ค่อยดีของพระองค์  ข้าหวังว่าตัวตนที่แท้จริงของพระองค์คงไม่ใช่ตามที่ได้ยินนะคะ"  เซียว่าเอ่ยเสียงเศร้า  เวลิทำได้เพียงลูบหัวน้องสาวอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร


              "ข้าก็หวังว่าอย่างนั้น  เซียว่า  ข้าว่าเรากลับกันเถอะ  เพื่อจะได้ไปนึกหาวิธีในการต้อนรับองค์จักรพรรดิ"  เวลิเอ่ยขึ้นพลางจูงมือเซียว่าเดินออกไปจากที่แห่งนั้น


    ***********************************************************


              "ท่านพี่คะ"  เซียว่าเอ่ยขึ้นในคืนนั้น  เธอมองดูพี่ชายที่เงยหน้าขึ้นจากการอ่านหนังสือเพื่อรับฟังสิ่งที่เธอจะพูดอย่างสงสัย


              "พี่ชายที่ข้าเจอบอกข้าว่า  มีคนคิดจะทำลายแท่นบูชานั่น  ท่านพี่คะ  ถ้ามันเป็นจริงเขาจะทำเพื่ออะไรหรือคะ"  เซียว่าเอ่ยถามขึ้นในที่สุด  เวลิมองเะฮอย่างครุ่นคิดชั่วครู่ก่อนที่จะตอบออกไป


              "มันเป็นเรื่องที่เล่าต่อๆกันมาน่ะ  เซียว่า  ว่าด้านในรูปสลักมังกรนั่นมีผลึกอันเป็นแหล่งที่รวบรวมพลังของมังกรอยู่  บางที  ถ้ามันเป็นเรื่องจริงเขาอาจจะทำเพื่อสิ่งนี้ก็ได้มั้ง" 


              "พลังของมังกร  แบบพลังเวทที่ท่านพี่ใช้ได้หรือเปล่าคะ"  เด็กสาวถามต่อ


              "ก็คล้ายๆ  เซียว่า  เจ้ารู้ใช่ไหมว่าสำหรับตระกูลเรา  พลังเวทที่เป็นหนึ่งนี้คือสิ่งที่ได้รับมาจากมังกร"  เวลิถามอีกฝ่ายซึ่งพยักหน้ารับแล้วเอ่ยต่อ  "แต่ผลึกอันนั้นจะให้พลังที่ต่างออกไป  ว่ากันว่าเป็นพลังที่มากพอจะทำลายสมดุลของโลกนี้ให้เสียได้เลยล่ะ  เพราะเหตุนี้จึงได้ถูกเก็บไว้ในรูปสลักนั้น...  แต่นี่เป็นแค่เรื่องที่เล่าต่อๆกันมานะ  เซียว่า  ข้าเองก็ไม่ยืนยันว่ามันมีหินที่ว่านี่จริงหรือไม่"


              "แต่ข้าว่าบางทีอาจจะมีจริงๆก็ได้นะคะ"  เซียว่าเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยมั่นใจ  แต่กระนั้นเธอก็ยังเชื่อว่าสิ่งที่เล่าต่อกันมานั้นเป็นเรื่องจริง


              "ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน  เจ้าไปนอนได้แล้วล่ะ  เซียว่า  นอนดึกเดี๋ยวก็ไม่สบายอีก"  เวลิเอ่ยไล่ให้เด็กสาวขึ้นไปนอนซึ่งเธอก็รับคำแต่โดยดี  แต่ก่อนที่เธอจะก้าวเท้าออกจากห้องนั้นก็ได้หันกลับมาพูดกับเวลิอีกครั้ง


              "ท่านพี่คะ..  ท่านพ่อเคยบอกข้าว่าการที่ข้าไม่สามารถใช้พลังเวทได้เป็นเพราะร่างกายของข้าต่อต้าน  แต่ข้าเคยคิดว่า..  ข้าเกิดขึ้นมาในตระกูลนี้แบบเปล่าประโยชน์หรือเปล่า..  ถ้าข้าสามารถใช้พลังได้ก็คงจะดีกว่านี้"  น้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเศร้าเรียกให้อีกฝ่ายมองเธอ  ก่อนที่จะเอ่ยขึ้น


              "ไม่หรอก  เซียว่า  เจ้าเป็นแบบนี้ไม่ใช่ความผิดใคร  แล้วไม่มีใครโทษเจ้าด้วย  ไปนอนซะ  เซียว่า"  เวลิเอ่ยตัดบทสนทนาให้อีกฝ่ายเดินขึ้นบันไดพลางนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น


              "ก็..ข้าไม่ชอบเลยนี่นา  ทั้งที่ถ้าข้าใช้พลังได้  ท่านพี่จะได้ไม่ต้องคอยห่วงข้าแท้ๆ  แต่เพราะตัวของข้าเป็นเสียแบบนี้  ท่านพี่เลยต้องลำบากอยู่คนเดียว"  เซียว่าเอ่ยขึ้นเบาๆกับตนเองเมื่อก้าวเข้ามาในห้องแล้ว   เวลิต้องรับหน้าที่เป็นนักเวทประจำหมู่บ้าน  เมื่อมีเหตุอะไรเกิดขึ้นเขาจึงต้องเป็นคนแรกๆที่พวกชาวบ้านนึกถึงเสมอๆ  เพราะสำหรับตระกูลเธอแล้ว  พลังเวทที่มีอยู่ถือเป็นสายที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาผู้ใช้เวทด้วยกัน


              "องค์จักรพรรดิจะเสด็จฯ ด้วยพระองค์เองเสียด้วย   ข้ากังวลจัง"  เธอพึมพำขณะที่ล้มนอนไปบนเตียง  ก่อนที่จะผล็อยหลับไป


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×