ลำดับตอนที่ #15
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : การต่อสู้ระหว่างองค์กษัตริย์กับนักฆ่า
                    คนตรงหน้านี้คือใครกัน ??
          ความคิดวูบแรกที่เข้ามาในหัวซาย่า  ร่างตรงหน้าเอามือเสยผมสีเงินที่ยาวสยายลงมาปิดตาไปด้านหลัง  เผยให้เห็นดวงตาสี
แห่งรัตติกาล  แวบหนึ่งที่ดูเหมือนใบหน้านั้นจะยิ้มให้เธอเล็กน้อย  แต่แล้ว
          “เคร้ง !!”  เสียงดาบที่ฟาดผ่านอากาศลงมากระทบกับอะไรบางอย่าง  เกราะโปร่งใสที่มีเรืองแสงสีแดงปรากฏขึ้นมาปก
ป้องซาย่าไว้ทันท่วงที
          “เวทย์คุ้มครองสินะ  นายคนนั้นก็ฉลาดดีเหมือนกันนี่ ”  ชายหนุ่มตรงหน้าพูดพึมพำขึ้นมาก่อนจะยกดาบขึ้นมาฟาดใส่
เกราะเวทย์นั้นครั้งแล้วครั้งเล่า  เกราะเวทย์ที่ถูกดาบฟันใส่หลายครั้งเข้าก็เริ่มมีรอยปริ  จนในที่สุดเมื่อดาบครั้งสุดท้ายถูกฟันลง
มา  เกราะนั้นก็แตกลงในที่สุด  ซาย่ามองภาพตรงหน้าอย่างทำอะไรไม่ถูก  ดาบของเธอตอนนี้มันอยู่ไกลเกินที่จะเอื้อมมือไปหยิบ
ทัน  แต่ถึงมันจะอยู่ใกล้มือก็ใช่ว่าเธอสามารถจะใช้มันได้ในสภาพเช่นนี้
          “ถึงเวลาแล้วนะครับ ”  เขาพูดขึ้น  ดาบในมือถูกลดระดับจนมาอยู่แนบลำตัวแล้วจึงยกมือขวาขึ้นและเริ่มร่ายเวทย์  พลัง
เวทย์สีดำที่ค่อยๆปรากฏขึ้นมาบนมือข้างนั้นเริ่มก่อตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆดูเหมือนลูกบอลขนาดใหญ่จนหยุดลงในที่สุด  “ขอบคุณที่ให้
ผมขโมยอายุของท่านจนได้ร่างกายที่โตพอที่จะทำงานนี้สำเร็จ  และลาก่อนครับ”  จบสิ้นคำพูดเวทย์ทั้งหมดที่อยู่บนมือนั้นก็พุ่ง
เข้าใส่ซาย่าโดยทันที
          เด็กหญิงค่อยๆลืมตาขึ้นหลังจากที่หลับตาลงเมื่อครู่ด้วยความตกใจที่พลังเวทย์นั้นพุ่งตรงมายังเธอโดยที่ไม่สามารถป้องกัน
ตัวเองได้  แต่ตอนนี้เธอกลับไม่รู้สึกว่าตนเองบาดเจ็บเลยแม้เพียงนิดเดียว  คนตรงหน้า  ใครคนนั้นมาช่วยเธอเอาไว้ได้ทันจาก
เวทย์เมื่อครู่
          “เฮอะ  ออกมาจนได้”  ชายหนุ่มผมเงินพูดเสียงขึ้นจมูกด้วยความไม่พอใจ    คนที่มาช่วยซาย่าไว้ทันเวลาจากเวทย์เมื่อครู่
คือเฟรเดคริกซ์นั่นเอง  เกราะเวทย์ถูกสร้างขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็ว  คราวนี้มีแสงสีแดงสว่างจ้าเพราะคนร่ายเวทย์อยู่
ใกล้ๆ  เฟรเดคริกซ์มองร่างคนร้ายตรงหน้าก่อนจะเอ่ยปากพูด
          “เป็นแกจริงๆด้วย  เด็กหัวขโมยนั่น”  เสียงพูดที่แสดงให้รู้ว่าเจ้าของเสียงนี้กำลังโกรธ  ก่อนที่เจ้าตัวจะหันมาส่งสายตาที่
ฉายแววโกรธให้เด็กหญิงที่นั่งหลบอยู่ด้านหลังหวั่นใจ
          “แต่ผมไม่ได้มีธุระกับท่าน  งานของผมคือฆ่าองค์หญิงที่อยู่ด้านหลังนั่น..!!”  แรนดัลซึ่งตอนนี้อยู่ในร่างที่โตพอที่จะสู้กับ
เฟรเดคริกซ์ได้แล้วพูดขึ้นก่อนที่จะกระโดดขึ้นและจับดาบฟันเตรียมฟันลงไปยังร่างเล็กตรงด้านหลังชายตรงหน้า  แต่ดาบที่ไวกว่า
ของเฟรเดคริกซ์ก็ได้เข้าขวางไว้ก่อน  เป็นสัญญาณว่างานในครั้งนี้จะไม่สำเร็จแน่  หากแรนดัลไม่สามารถเอาชนะกษัตริย์แห่ง
ประเทศรอซินยอลผู้มีชื่อในเรื่องดาบตรงนี้ได้
          “ดูเหมือนผมต้องเอาชนะท่านให้ได้จึงทำงานชิ้นนี้ได้สินะ”  คำถามนี้คนฟังยิ้มที่มุมปากให้เป็นคำตอบ  เมื่อเป็นเช่นนี้วิถี
ของดาบในมือแรนดัลจึงพุ่งเข้าหาเฟรเดคริกซ์อย่างเต็มที่สลับกับการใช้เวทย์ช่วยในการโจมตีแต่ละครั้งด้วย  หากแต่ทั้งหมดไม่
ได้ระคายถูกตัวคู่ต่อสู้ด้านหน้าแม้เพียงนิด  แต่ถึงกระนั้นเฟรเดคริกซ์ก็ไม่ได้โต้ตอบไปได้บ่อยครั้งนัก  เพราะส่วนหนึ่งในใจยังคง
พะวงกับร่างที่อยู่ด้านหลังมากกว่า  จนเมื่ออีกฝ่ายจับจุดถูกแล้วพูดออกมา
          “ไม่โต้กลับแล้วจะเอาชนะคู่ต่อสู้ได้อย่างไรล่ะ  หรือว่าผมไม่มีค่าพอให้ลงมือ..?!?”  คำพูดที่พูดพร้อมกับพลังเวทย์สีดำที่
พุ่งตรงมายังคู่ต่อสู้ที่ตอนนี้มัวแต่พะวงเรื่องอื่นจนเสียที  ซาย่ามองร่างตรงหน้าที่ปกป้องเธอทรุดลงกับพื้นด้วยสีหน้าตกใจ  ศัตรู
ตรงหน้ายังคงเดินเข้ามาใกล้ทุกทีแต่ตอนนี้ไม่มีใครหรืออะไรที่จะปกป้องตัวเธอได้แล้ว  เรียวดาบที่ถูกยกขึ้นมาชี้ตรงหน้าได้ถูก
เงื้อขึ้น  และกำลังจะฟันลงมาในชั่วพริบตานี้  หากแต่มันไม่สามารถสัมผัสถูกคอเธอได้
          “นี่แก ”  แรนดัลซึ่งตอนนี้ทรุดลงกับพื้นตรงหน้า  ดาบในมือถูกทิ้งลงกับพื้นเพราะเจ้าของร่างในขณะนี้มีบาดแผลใหญ่อยู่
เต็มตัว  ร่างที่เมื่อครู่คิดว่าถูกล้มไปได้แล้วลุกขึ้นยืนมองดูตัวเขาด้วยสายตาเย็นชา  ดวงตาสีหมอกที่ดูเหมือนจะไม่มีแววแห่ง
ความปราณีปรากฏขึ้นมาเลยในตอนนี้  ริมปากที่เหยียดขึ้นเหมือนยิ้มเยาะให้กับร่างที่เสียรู้ตรงหน้า
          “งานนี้ไม่มีวันสำเร็จแน่  หากว่าเธอยังที่นี่”  คำพูดที่ถูกเอ่ยไปจากปากสร้างความไม่พอใจต่อคนด้านหน้า  ซาย่ามอง
เฟรเดคริกซ์ด้วยสายตาหวาดกลัว  ถึงแม้เมื่อครู่เขาจะช่วยปกป้องเธอ  แต่ตอนนี้เธอกลับรู้สึกว่าเขาช่างเป็นคนที่น่ากลัวเกินกว่า
จะเข้าใกล้ไปได้เสียแล้ว  ร่างเล็กๆเริ่มเถิบถอยห่างไปจากชายหนุ่มตรงหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ  จนเจ้าตัวสังเกตเห็นจึงออกคำสั่งขึ้น
          “หยุดอยู่กับที่  ซาย่า..!!”  คำสั่งที่เด็กหญิงถึงกับสะดุ้งสุดตัว  ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงกับพื้น  เฟรเดคริกซ์เริ่มหันกลับมาหา
แรนดัลอีกครั้ง  ก่อนจะเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงที่ฟังเหมือนเป็นคำสั่งมากกว่า
          “บอกมา  ใครใช้แกมา”  คนบาดเจ็บตรงหน้าเชิดหน้ามองคนออกคำสั่งอย่างไม่ชอบใจ  และเงียบเสียงต่อไป  จนอีกฝ่าย
เริ่มย้ำคำถามอีกครั้งและคราวนี้เพิ่มเรื่องเข้าไปด้วย  “แล้วถอนเวทย์ที่นายร่ายให้องค์หญิงด้วย..!!”  คนฟังยิ้มเยาะตอบก่อนที่จะ
เอ่ยปากพูดตอบกลับ
          “เป็นองครักษ์ที่แสนดีจริงๆนะท่าน   แน่จริงก็ไปหาเวทย์แก้ไขเองสิ  มาถามหัวขโมยคนนี้ทำไม..??”  คำตอบกลับกวนๆ
ยิ้มทำให้คนฟังเริ่มกระชับดาบในมือให้แน่นขึ้น  ก่อนที่จะกระชากเสื้อร่างตรงหน้าและจ่อดาบไปที่คอ  หากแต่อีกฝ่ายไม่มีสีหน้า
แสดงให้เห็นว่ากลัวเลยสักนิด  กลับยังคงยิ้มเยาะต่อไปเสียด้วยซ้ำ  ทันใดนั้นก็มีแสงสีดำปรากฏสีรอบๆตัวแรนดัล  แต่ก่อนที่จะเกิด
อะไรขึ้นให้เห็นก็ได้มีร่างๆหนึ่งตัดหน้าชิงเอาตัวคนบาดเจ็บตรงหน้านี้ไปเสียก่อน  ใครบางคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดที่แสดง
ให้เห็นถึงฝีมือที่รวดเร็วยิ่งกว่าสายลม
          เฟรเดคริกซ์เพ่งสายตามองหาบุคคลอื่นในห้องที่มืดสนิทนี้แต่ก็ไม่พบเจอใครอื่นอีก  เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงหันกลับไปหาเด็ก
หญิงที่ยังคงนั่งทรุดอยู่กับพื้นด้านหลังตัวเขาเอง  แต่เมื่อเขาเอื้อมมือเข้าไปหาเธอก็สะดุ้งสุดตัวก่อนที่จะร้องไห้ออกมาเสียงดัง 
เฟรเดคริกซ์มองร่างซาย่าซึ่งตอนนี้กลับกลายเป็นเด็กด้วยความรู้สึกบางอย่างในใจ  ก่อนจะเอามือลูบหัวเธอเพื่อปลอบให้หยุด
ร้องไห้  เด็กหญิงหยุดร้องไห้เพราะรู้สึกถึงมือที่อบอุ่นลูบอยู่บนหัวเธอก่อนที่จะเงยหน้ามองคนตรงหน้า  แววตาเย็นชาเมื่อครู่จาง
หายไปแล้วเหลือเพียงแววตาที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นมากกว่า  เมื่อเห็นเธอหยุดร้องไห้แล้วใบหน้านั้นก็ยิ้มให้  ไม่ใช่รอยยิ้มที่เหยียด
ขึ้นมุมปากดังเช่นทุกทีที่ทำให้เธอรู้สึกกลัว  ครั้งนี้เป็นยิ้มที่ทำให้เธอรู้สึกไว้ใจคนตรงหน้ายิ่งกว่าเมื่อครู่มากนัก  แต่เมื่อถึงตอนนี้
แล้วอยู่ๆซาย่าก็รู้สึกว่าเปลือกตาเริ่มหนักขึ้นทุกที  จนในที่สุดก็ฝืนตาไม่ให้หลับลงไม่ได้ 
          ร่างของเด็กหญิงล้มลงนอนทันทีทำให้ชายหนุ่มตรงหน้าหวาดหวั่นในใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างนี้อีกหรือไม่  แต่เมื่อเห็นว่า
เธอหายใจตามปกติ  และมีรอยยิ้มเล็กๆเผยให้เห็นซึ่งแสดงว่าเจ้าตัวหลับลงไปแล้วจึงยิ้มขึ้นอย่างเบาใจ  มือเล็กๆซึ่งตอนนี้จับที่
มืออีกข้างของเขาไม่ยอมปล่อยทำให้เขานึกขำในใจ  ก่อนที่จะอุ้มร่างเล็กขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วนั่งลงด้านข้างเตียง  นึกถึงเมื่อใน
ครั้งที่เจ้าของร่างตรงหน้ายังอยู่ในร่างนี้จริงๆ
          “นี่ข้าทำผิดหรือเปล่านะ ”  เฟรเดคริกซ์พูดเบาๆขณะที่มองร่างเด็กหญิงด้านข้างพร้อมๆกับนั่งนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต
                    ผิดหรือเปล่า   ที่ไปแย่งเอาบัลลังก์ที่ควรจะเป็นของเธอมา
                    ทำให้เธอต้องออกไปอาศัยอย่างยากลำบากอยู่ด้านนอกจนมาถึงตอนนี้
                    แต่ มันเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดสำหรับข้าแล้วในช่วงนั้น
                    ขอโทษนะ
        เฟรเดคริกซ์คิดในใจขณะเอามือลูบหัวเด็กหญิงที่นอนหลับอยู่ด้วย  ด้านนอกหน้าต่างเริ่มมีแสงแดดยามเช้าสาดส่องมาบ้าง
แล้วแสงแดดที่สาดส่องเข้ามาด้านในกระทบกับร่างบนเตียง  และแล้วเวทย์คำสาปที่เธอโดนอยู่ก็เริ่มเสื่อม  ร่างเล็กค่อยๆเติบโต
ขึ้นมาทีละนิด  อีกฝ่ายที่ยังคงกุมมือเธออยู่มองร่างตรงหน้าอีกครั้งก่อนที่จะลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป
===========================================
                    มือใครกันนะ   รู้สึกดีจัง
          ซาย่าลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้าแล้วเอามือจับหัวตนเองอย่างงงๆ  ไออุ่นที่ยังรู้สึกได้นั้นอาจจะเป็นเพียงแค่ความฝันของ
เธอเท่านั้นหรืออย่างไรกัน  สักพักเอทัวล์ก็เดินเข้ามาในห้องเพื่อนำเสื้อมาให้เธอเปลี่ยน
          “ดีนะ  ที่กลับคืนร่างนี้ได้โดยไม่ต้องไปลำบากหาเวทย์แก้ที่ไหนอีก”  เอทัวล์พูดขึ้นมาทำให้ซาย่างง  ก่อนที่จะเอ่ยปากถาม
กลับ
          “กลับคืนร่างอะไร..??”  คำถามย้อนกลับที่ทำให้อีกฝ่ายมีสีหน้าแปลกใจกับตัวคำถาม  ก่อนที่จะได้ทันพูดออกไปถึงเรื่องทั้ง
หมด  ซึ่งเจ้าตัวคนโดนเวทย์กลับมีสีหน้าแปลกใจในเรื่องที่เกิดขึ้น
          “ฉันเนี่ยนะ  โดนเวทย์ที่ทำให้กลายเป็นเด็ก  แล้วเมื่อวานก็มีนักฆ่าเข้ามาที่นี่ด้วย ??  ล้อเล่นหรือเปล่า..??”  ซาย่าพูด
ด้วยน้ำเสียงตกใจในเหตุการณ์ทั้งหมด  สำหรับเธอเรื่องทั้งหมดเป็นเหมือนความฝันที่เวลาตื่นขึ้นก็ลืมเลือนไป  เอทัวล์มองหน้า
คนตรงหน้าอย่างเหนื่อยใจแล้วพูดต่อ
          “ใช่   มีนักฆ่าเข้ามาจะฆ่าเธอได้สำเร็จแล้ว  ถ้าไม่ใช่เพราะเฟรเดคริกซ์ช่วยไว้”  พอสิ้นคำพูดซาย่าก็พูดขึ้นทันทีอย่าง
แปลกใจ
          “คนๆนั้นน่ะเหรอ   ช่วยฉัน  คงจะมาช่วยฆ่ามากกว่าล่ะมั้ง”  เอทัวล์มองหน้าคนพูดด้วยสายตาแปลกๆก่อนที่จะเอ่ยขึ้นในที่
สุด
          “งั้นทำไมเธอไม่ไปถามเจ้าตัวเขาเองเลยล่ะ ??”
===========================================
          เมื่อซาย่าเปิดประตูออกไปด้านนอกก็พบว่าทุกคนกำลังวุ่นวายกับการจัดงานอะไรบางอย่าง  เธอถามนางกำนัลที่เดินผ่านก็
ได้ความว่าจัดงานฉลองวันพระราชสมภพของเฟรเดคริกซ์  เธอนึกอะไรบางอย่างในใจเล็กน้อย  แต่สายตายังคงมองหาตัวเจ้าของ
งานนี้ต่อไป  เมื่อพบว่าเฟรเดคริกซ์กำลังยืนสั่งงานอยู่ท่ามกลางเหล่าทหารอยู่จึงรีบเดินฝ่าเข้าไป  หากแต่เจ้าตัวหันกลับเดินออก
ยังทางเดินที่นำไปสู่สวนด้านหลัง
          พอซาย่าเดินออกตามไปถึงก็เห็นเขานั่งอยู่บนขอบอ่างน้ำพุนั้นด้วยสีหน้าเหนื่อยอ่อน  ก่อนที่สายตาคู่นั้นจะเหลือบมาเห็นตัว
เธอ  เฟรเดคริกซ์ผายมือขึ้นในลักษณะที่ชวนให้นั่งลงด้านข้างแต่ซาย่าไม่ยอมนั่ง  แล้วก็เอ่ยถามขึ้นมาทันทีอย่างไม่อ้อมค้อม
          “เมื่อวานนี้เกิดเรื่องขึ้นใช่ไหม..??”  คนฟังมองหน้าสาวน้อยตรงหน้าก่อนที่จะพยักหน้ารับ  เธอเริ่มพูดต่อไปโดยไม่หวังจะ
ให้อีกฝ่ายได้ตอบคำถาม 
          “แล้วก็มีนักฆ่าจะมาฆ่าฉัน    แล้วนายก็เข้าไปช่วย    จริงๆแล้วก็ไม่ต้องเข้าไปช่วยก็ได้นะ  ถ้าไม่ได้หวังแบบนั้น
จริงๆ    ไม่ต้องมาหลอกให้ฉันตายใจอีกแล้ว   มันจะต้องไม่เป็นแบบเมื่อสิบปีก่อน  ที่ฉันจะ ”  พูดมาถึงตรงนี้สิ่งที่เธออดทนกลั้น
มันมาตลอดก็พังทลายทำนบลงมาจนได้  น้ำตาไหลหยดลงมาตามแก้ม  ซาย่าพยายามรีบเช็ดโดยหวังไม่ให้คนตรงหน้าเห็นทัน 
แต่ก็สายไปเสียแล้วเพราะตอนนี้เธอตกอยู่ในอ้อมกอดคนตรงหน้าเรียบร้อยแล้ว
          “คนที่เขามาช่วยเขาอาจจะอยากทำจริงๆก็ได้นะ”  ประโยคคำพูดลอยๆหลุดขึ้นมาจากปากชายหนุ่ม  ก่อนที่จะเช็ดน้ำตาอีก
ฝ่ายออกไป  คำพูดเมื่อครู่ทำให้ในใจซาย่าเริ่มสับสน
                    หรือว่าบางที เธออาจจะเข้าใจผิดมาตลอด
                    คนตรงหน้าเธอนี้อาจจะไม่ใช่คนร้ายที่เธอตามหามาตลอดสิบปีนี้..??
          และแล้วก็มีคนเข้ามาขัดจังหวะก่อนจนได้  ดอร์ร่าซึ่งตอนนี้มีผ้าพันมืออยู่เนื่องจากเหตุการณ์เมื่อคืนวิ่งเข้ามาตามตัว
เฟรเดคริกซ์เพราะการจัดงานภายด้านในมีปัญหา  ทำให้ทั้งคู่ผละแยกออกจากันในทันที  แล้วเฟรเดคริกซ์ก็เดินออกไปยังด้าน
ในโดยที่ดอร์ร่ายังคงยืนอยู่กับซาย่าต่อ  เธอหันมามองนางกำนัลด้านข้างอย่างสงสัยถึงทีท่าที่ดูแปลกจากปกติจนต้องเอ่ยปากถาม
ที่สุด
          “เป็นอะไรไปน่ะ  ดอร์ร่า..??  ทำไมถึงทำท่าแบบนั้น”  คำถามนี้เจ้าตัวคนถูกถามกลับยิ้มร่าเริงให้องค์หญิงไม่สมกับที่ตน
เองบาดเจ็บเอาเสียเลย  ก่อนที่จะตอบกลับด้วยคำตอบที่ไม่ใช่คำตอบของคำถามนี้
          “องค์หญิงเสด็จกลับห้องแล้วก็จะรู้เองนะเพคะ  ตอนนี้รีบเสด็จเถอะเพคะ”  ซาย่าทำหน้างงๆกับคำตอบเช่นนี้ก่อนที่จะเร่ง
ฝีเท้าเดินกลับตามคำขอของเจ้าหล่อน  และด้วยความอยากรู้ส่วนตัว
=============================================
          เมื่อเธอกลับมาถึงห้องแล้วก็พบของต่างๆวางอยู่เต็มห้อง  แต่ที่เด่นสะดุดตานั้นคือชุดราตรีสีขาวที่ดูสวยสง่าวางอยู่บน
เตียง  แล้วยังจะมีพวกเครื่องประดับต่างๆวางอยู่บนโต๊ะ  โดยบนโต๊ะมีกระดาษยาวๆหนึ่งแผ่นวางอยู่ด้วย  เธอเดินเข้าไปหยิบขึ้น
อ่านแล้วก็หันกลับมาถามดอร์ร่าด้วยน้ำเสียงตกใจระคนไม่พอใจ
          “นี่มันอะไรกันน่ะ  ดอร์ร่า ??  การเต้นรำ  มารยาทการรับประทานอาหารบนโต๊ะ  แล้วไหนจะอะไรอีกตั้งหลาย
อย่าง..??”  คำพูดที่ดอร์ร่าแทบจะอยากปรับระดับเสียงนายหญิงของตนให้เบาลงหากทำได้  ก่อนที่จะตอบกลับ
          “ก็อีกสองวันข้างหน้าก็จะมีงานฉลองวันพระราชสมภพขององค์กษัตริย์แล้วนะเพคะ  องค์หญิงก็ต้องฝึกเรื่องพวกนี้ไว้ด้วยนะ
คะ ”  ดอร์ร่าพูดตอบ  แต่ตอนนี้ดูเหมือนคนฟังคงไม่ได้ยินเสียแล้วเพราะยังคงตกใจกับรายการที่เธอต้องฝึกภายในระยะเวลา
สองวัน
          “ไม่ฝึกได้ไหม..??”  คำถามเบาๆเรียนบๆดังขึ้นจากปากองค์หญิง  ดอร์ร่าส่ายหัวแทบจะทันทีก่อนตอบกลับไป
          “ไม่ได้นะเพคะ  อันนี้องค์กษัตริย์เป็นคนกำหนดและทรงเตรียมให้องค์หญิงด้วยพระองค์เองเลยนะเพคะ ”  ซาย่ารับฟังคำ
ตอบอย่างที่เธอนึกอยู่แล้วในใจ  ก่อนจะชำเลืองมองของทั้งหมดในห้อง  ไหนจะชุดที่สำหรับตัวเธอแล้วเรียกมันว่าชุดฟูฟ่องนั่น 
เธอต้องทนใส่ทั้งหมดนี่หรือไงกันนะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น