ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Princess of Rossignol

    ลำดับตอนที่ #15 : การต่อสู้ระหว่างองค์กษัตริย์กับนักฆ่า

    • อัปเดตล่าสุด 6 มิ.ย. 47






                        คนตรงหน้านี้คือใครกัน…??







              ความคิดวูบแรกที่เข้ามาในหัวซาย่า  ร่างตรงหน้าเอามือเสยผมสีเงินที่ยาวสยายลงมาปิดตาไปด้านหลัง  เผยให้เห็นดวงตาสี



    แห่งรัตติกาล   แวบหนึ่งที่ดูเหมือนใบหน้านั้นจะยิ้มให้เธอเล็กน้อย  แต่แล้ว…





              “เคร้ง…!!”  เสียงดาบที่ฟาดผ่านอากาศลงมากระทบกับอะไรบางอย่าง   เกราะโปร่งใสที่มีเรืองแสงสีแดงปรากฏขึ้นมาปก



    ป้องซาย่าไว้ทันท่วงที





              “เวทย์คุ้มครองสินะ   นายคนนั้นก็ฉลาดดีเหมือนกันนี่…”  ชายหนุ่มตรงหน้าพูดพึมพำขึ้นมาก่อนจะยกดาบขึ้นมาฟาดใส่



    เกราะเวทย์นั้นครั้งแล้วครั้งเล่า   เกราะเวทย์ที่ถูกดาบฟันใส่หลายครั้งเข้าก็เริ่มมีรอยปริ  จนในที่สุดเมื่อดาบครั้งสุดท้ายถูกฟันลง



    มา   เกราะนั้นก็แตกลงในที่สุด  ซาย่ามองภาพตรงหน้าอย่างทำอะไรไม่ถูก  ดาบของเธอตอนนี้มันอยู่ไกลเกินที่จะเอื้อมมือไปหยิบ



    ทัน  แต่ถึงมันจะอยู่ใกล้มือก็ใช่ว่าเธอสามารถจะใช้มันได้ในสภาพเช่นนี้





              “ถึงเวลาแล้วนะครับ…”  เขาพูดขึ้น  ดาบในมือถูกลดระดับจนมาอยู่แนบลำตัวแล้วจึงยกมือขวาขึ้นและเริ่มร่ายเวทย์   พลัง



    เวทย์สีดำที่ค่อยๆปรากฏขึ้นมาบนมือข้างนั้นเริ่มก่อตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆดูเหมือนลูกบอลขนาดใหญ่จนหยุดลงในที่สุด   “ขอบคุณที่ให้



    ผมขโมยอายุของท่านจนได้ร่างกายที่โตพอที่จะทำงานนี้สำเร็จ   และลาก่อนครับ”  จบสิ้นคำพูดเวทย์ทั้งหมดที่อยู่บนมือนั้นก็พุ่ง



    เข้าใส่ซาย่าโดยทันที





              เด็กหญิงค่อยๆลืมตาขึ้นหลังจากที่หลับตาลงเมื่อครู่ด้วยความตกใจที่พลังเวทย์นั้นพุ่งตรงมายังเธอโดยที่ไม่สามารถป้องกัน



    ตัวเองได้  แต่ตอนนี้เธอกลับไม่รู้สึกว่าตนเองบาดเจ็บเลยแม้เพียงนิดเดียว  คนตรงหน้า  ใครคนนั้นมาช่วยเธอเอาไว้ได้ทันจาก



    เวทย์เมื่อครู่





              “เฮอะ   ออกมาจนได้”  ชายหนุ่มผมเงินพูดเสียงขึ้นจมูกด้วยความไม่พอใจ    คนที่มาช่วยซาย่าไว้ทันเวลาจากเวทย์เมื่อครู่



    คือเฟรเดคริกซ์นั่นเอง   เกราะเวทย์ถูกสร้างขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็ว  คราวนี้มีแสงสีแดงสว่างจ้าเพราะคนร่ายเวทย์อยู่



    ใกล้ๆ  เฟรเดคริกซ์มองร่างคนร้ายตรงหน้าก่อนจะเอ่ยปากพูด





              “เป็นแกจริงๆด้วย   เด็กหัวขโมยนั่น”  เสียงพูดที่แสดงให้รู้ว่าเจ้าของเสียงนี้กำลังโกรธ  ก่อนที่เจ้าตัวจะหันมาส่งสายตาที่



    ฉายแววโกรธให้เด็กหญิงที่นั่งหลบอยู่ด้านหลังหวั่นใจ





              “แต่ผมไม่ได้มีธุระกับท่าน   งานของผมคือฆ่าองค์หญิงที่อยู่ด้านหลังนั่น..!!”  แรนดัลซึ่งตอนนี้อยู่ในร่างที่โตพอที่จะสู้กับ



    เฟรเดคริกซ์ได้แล้วพูดขึ้นก่อนที่จะกระโดดขึ้นและจับดาบฟันเตรียมฟันลงไปยังร่างเล็กตรงด้านหลังชายตรงหน้า  แต่ดาบที่ไวกว่า



    ของเฟรเดคริกซ์ก็ได้เข้าขวางไว้ก่อน  เป็นสัญญาณว่างานในครั้งนี้จะไม่สำเร็จแน่  หากแรนดัลไม่สามารถเอาชนะกษัตริย์แห่ง



    ประเทศรอซินยอลผู้มีชื่อในเรื่องดาบตรงนี้ได้





              “ดูเหมือนผมต้องเอาชนะท่านให้ได้จึงทำงานชิ้นนี้ได้สินะ”  คำถามนี้คนฟังยิ้มที่มุมปากให้เป็นคำตอบ  เมื่อเป็นเช่นนี้วิถี



    ของดาบในมือแรนดัลจึงพุ่งเข้าหาเฟรเดคริกซ์อย่างเต็มที่สลับกับการใช้เวทย์ช่วยในการโจมตีแต่ละครั้งด้วย   หากแต่ทั้งหมดไม่



    ได้ระคายถูกตัวคู่ต่อสู้ด้านหน้าแม้เพียงนิด  แต่ถึงกระนั้นเฟรเดคริกซ์ก็ไม่ได้โต้ตอบไปได้บ่อยครั้งนัก   เพราะส่วนหนึ่งในใจยังคง



    พะวงกับร่างที่อยู่ด้านหลังมากกว่า  จนเมื่ออีกฝ่ายจับจุดถูกแล้วพูดออกมา





              “ไม่โต้กลับแล้วจะเอาชนะคู่ต่อสู้ได้อย่างไรล่ะ   หรือว่าผมไม่มีค่าพอให้ลงมือ..?!?”  คำพูดที่พูดพร้อมกับพลังเวทย์สีดำที่



    พุ่งตรงมายังคู่ต่อสู้ที่ตอนนี้มัวแต่พะวงเรื่องอื่นจนเสียที   ซาย่ามองร่างตรงหน้าที่ปกป้องเธอทรุดลงกับพื้นด้วยสีหน้าตกใจ  ศัตรู



    ตรงหน้ายังคงเดินเข้ามาใกล้ทุกทีแต่ตอนนี้ไม่มีใครหรืออะไรที่จะปกป้องตัวเธอได้แล้ว  เรียวดาบที่ถูกยกขึ้นมาชี้ตรงหน้าได้ถูก



    เงื้อขึ้น  และกำลังจะฟันลงมาในชั่วพริบตานี้  หากแต่มันไม่สามารถสัมผัสถูกคอเธอได้…





              “นี่แก…”  แรนดัลซึ่งตอนนี้ทรุดลงกับพื้นตรงหน้า  ดาบในมือถูกทิ้งลงกับพื้นเพราะเจ้าของร่างในขณะนี้มีบาดแผลใหญ่อยู่



    เต็มตัว   ร่างที่เมื่อครู่คิดว่าถูกล้มไปได้แล้วลุกขึ้นยืนมองดูตัวเขาด้วยสายตาเย็นชา   ดวงตาสีหมอกที่ดูเหมือนจะไม่มีแววแห่ง



    ความปราณีปรากฏขึ้นมาเลยในตอนนี้  ริมปากที่เหยียดขึ้นเหมือนยิ้มเยาะให้กับร่างที่เสียรู้ตรงหน้า





              “งานนี้ไม่มีวันสำเร็จแน่   หากว่าเธอยังที่นี่”  คำพูดที่ถูกเอ่ยไปจากปากสร้างความไม่พอใจต่อคนด้านหน้า  ซาย่ามอง



    เฟรเดคริกซ์ด้วยสายตาหวาดกลัว   ถึงแม้เมื่อครู่เขาจะช่วยปกป้องเธอ  แต่ตอนนี้เธอกลับรู้สึกว่าเขาช่างเป็นคนที่น่ากลัวเกินกว่า



    จะเข้าใกล้ไปได้เสียแล้ว  ร่างเล็กๆเริ่มเถิบถอยห่างไปจากชายหนุ่มตรงหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ  จนเจ้าตัวสังเกตเห็นจึงออกคำสั่งขึ้น





              “หยุดอยู่กับที่  ซาย่า..!!”  คำสั่งที่เด็กหญิงถึงกับสะดุ้งสุดตัว  ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงกับพื้น   เฟรเดคริกซ์เริ่มหันกลับมาหา



    แรนดัลอีกครั้ง  ก่อนจะเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงที่ฟังเหมือนเป็นคำสั่งมากกว่า





              “บอกมา  ใครใช้แกมา”   คนบาดเจ็บตรงหน้าเชิดหน้ามองคนออกคำสั่งอย่างไม่ชอบใจ  และเงียบเสียงต่อไป   จนอีกฝ่าย



    เริ่มย้ำคำถามอีกครั้งและคราวนี้เพิ่มเรื่องเข้าไปด้วย  “แล้วถอนเวทย์ที่นายร่ายให้องค์หญิงด้วย..!!”  คนฟังยิ้มเยาะตอบก่อนที่จะ



    เอ่ยปากพูดตอบกลับ





              “เป็นองครักษ์ที่แสนดีจริงๆนะท่าน…   แน่จริงก็ไปหาเวทย์แก้ไขเองสิ   มาถามหัวขโมยคนนี้ทำไม..??”  คำตอบกลับกวนๆ



    ยิ้มทำให้คนฟังเริ่มกระชับดาบในมือให้แน่นขึ้น  ก่อนที่จะกระชากเสื้อร่างตรงหน้าและจ่อดาบไปที่คอ  หากแต่อีกฝ่ายไม่มีสีหน้า



    แสดงให้เห็นว่ากลัวเลยสักนิด  กลับยังคงยิ้มเยาะต่อไปเสียด้วยซ้ำ  ทันใดนั้นก็มีแสงสีดำปรากฏสีรอบๆตัวแรนดัล  แต่ก่อนที่จะเกิด



    อะไรขึ้นให้เห็นก็ได้มีร่างๆหนึ่งตัดหน้าชิงเอาตัวคนบาดเจ็บตรงหน้านี้ไปเสียก่อน   ใครบางคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดที่แสดง



    ให้เห็นถึงฝีมือที่รวดเร็วยิ่งกว่าสายลม







              เฟรเดคริกซ์เพ่งสายตามองหาบุคคลอื่นในห้องที่มืดสนิทนี้แต่ก็ไม่พบเจอใครอื่นอีก   เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงหันกลับไปหาเด็ก



    หญิงที่ยังคงนั่งทรุดอยู่กับพื้นด้านหลังตัวเขาเอง   แต่เมื่อเขาเอื้อมมือเข้าไปหาเธอก็สะดุ้งสุดตัวก่อนที่จะร้องไห้ออกมาเสียงดัง  



    เฟรเดคริกซ์มองร่างซาย่าซึ่งตอนนี้กลับกลายเป็นเด็กด้วยความรู้สึกบางอย่างในใจ   ก่อนจะเอามือลูบหัวเธอเพื่อปลอบให้หยุด



    ร้องไห้  เด็กหญิงหยุดร้องไห้เพราะรู้สึกถึงมือที่อบอุ่นลูบอยู่บนหัวเธอก่อนที่จะเงยหน้ามองคนตรงหน้า  แววตาเย็นชาเมื่อครู่จาง



    หายไปแล้วเหลือเพียงแววตาที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นมากกว่า  เมื่อเห็นเธอหยุดร้องไห้แล้วใบหน้านั้นก็ยิ้มให้  ไม่ใช่รอยยิ้มที่เหยียด



    ขึ้นมุมปากดังเช่นทุกทีที่ทำให้เธอรู้สึกกลัว   ครั้งนี้เป็นยิ้มที่ทำให้เธอรู้สึกไว้ใจคนตรงหน้ายิ่งกว่าเมื่อครู่มากนัก  แต่เมื่อถึงตอนนี้



    แล้วอยู่ๆซาย่าก็รู้สึกว่าเปลือกตาเริ่มหนักขึ้นทุกที  จนในที่สุดก็ฝืนตาไม่ให้หลับลงไม่ได้  





              ร่างของเด็กหญิงล้มลงนอนทันทีทำให้ชายหนุ่มตรงหน้าหวาดหวั่นในใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างนี้อีกหรือไม่   แต่เมื่อเห็นว่า



    เธอหายใจตามปกติ  และมีรอยยิ้มเล็กๆเผยให้เห็นซึ่งแสดงว่าเจ้าตัวหลับลงไปแล้วจึงยิ้มขึ้นอย่างเบาใจ  มือเล็กๆซึ่งตอนนี้จับที่



    มืออีกข้างของเขาไม่ยอมปล่อยทำให้เขานึกขำในใจ  ก่อนที่จะอุ้มร่างเล็กขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วนั่งลงด้านข้างเตียง  นึกถึงเมื่อใน



    ครั้งที่เจ้าของร่างตรงหน้ายังอยู่ในร่างนี้จริงๆ





              “นี่ข้าทำผิดหรือเปล่านะ…”  เฟรเดคริกซ์พูดเบาๆขณะที่มองร่างเด็กหญิงด้านข้างพร้อมๆกับนั่งนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต







                        ผิดหรือเปล่า…  ที่ไปแย่งเอาบัลลังก์ที่ควรจะเป็นของเธอมา…





                        ทำให้เธอต้องออกไปอาศัยอย่างยากลำบากอยู่ด้านนอกจนมาถึงตอนนี้…





                        แต่…มันเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดสำหรับข้าแล้วในช่วงนั้น…





                        ขอโทษนะ…





             เฟรเดคริกซ์คิดในใจขณะเอามือลูบหัวเด็กหญิงที่นอนหลับอยู่ด้วย  ด้านนอกหน้าต่างเริ่มมีแสงแดดยามเช้าสาดส่องมาบ้าง



    แล้วแสงแดดที่สาดส่องเข้ามาด้านในกระทบกับร่างบนเตียง  และแล้วเวทย์คำสาปที่เธอโดนอยู่ก็เริ่มเสื่อม  ร่างเล็กค่อยๆเติบโต



    ขึ้นมาทีละนิด   อีกฝ่ายที่ยังคงกุมมือเธออยู่มองร่างตรงหน้าอีกครั้งก่อนที่จะลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป





    ===========================================





                        มือใครกันนะ…  รู้สึกดีจัง…





              ซาย่าลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้าแล้วเอามือจับหัวตนเองอย่างงงๆ   ไออุ่นที่ยังรู้สึกได้นั้นอาจจะเป็นเพียงแค่ความฝันของ



    เธอเท่านั้นหรืออย่างไรกัน   สักพักเอทัวล์ก็เดินเข้ามาในห้องเพื่อนำเสื้อมาให้เธอเปลี่ยน





              “ดีนะ  ที่กลับคืนร่างนี้ได้โดยไม่ต้องไปลำบากหาเวทย์แก้ที่ไหนอีก”  เอทัวล์พูดขึ้นมาทำให้ซาย่างง  ก่อนที่จะเอ่ยปากถาม



    กลับ





              “กลับคืนร่างอะไร..??”  คำถามย้อนกลับที่ทำให้อีกฝ่ายมีสีหน้าแปลกใจกับตัวคำถาม  ก่อนที่จะได้ทันพูดออกไปถึงเรื่องทั้ง



    หมด  ซึ่งเจ้าตัวคนโดนเวทย์กลับมีสีหน้าแปลกใจในเรื่องที่เกิดขึ้น





              “ฉันเนี่ยนะ  โดนเวทย์ที่ทำให้กลายเป็นเด็ก   แล้วเมื่อวานก็มีนักฆ่าเข้ามาที่นี่ด้วย…??   ล้อเล่นหรือเปล่า..??”  ซาย่าพูด



    ด้วยน้ำเสียงตกใจในเหตุการณ์ทั้งหมด   สำหรับเธอเรื่องทั้งหมดเป็นเหมือนความฝันที่เวลาตื่นขึ้นก็ลืมเลือนไป  เอทัวล์มองหน้า



    คนตรงหน้าอย่างเหนื่อยใจแล้วพูดต่อ





              “ใช่…  มีนักฆ่าเข้ามาจะฆ่าเธอได้สำเร็จแล้ว  ถ้าไม่ใช่เพราะเฟรเดคริกซ์ช่วยไว้”  พอสิ้นคำพูดซาย่าก็พูดขึ้นทันทีอย่าง



    แปลกใจ





              “คนๆนั้นน่ะเหรอ…  ช่วยฉัน   คงจะมาช่วยฆ่ามากกว่าล่ะมั้ง”  เอทัวล์มองหน้าคนพูดด้วยสายตาแปลกๆก่อนที่จะเอ่ยขึ้นในที่



    สุด





              “งั้นทำไมเธอไม่ไปถามเจ้าตัวเขาเองเลยล่ะ…??”





    ===========================================





              เมื่อซาย่าเปิดประตูออกไปด้านนอกก็พบว่าทุกคนกำลังวุ่นวายกับการจัดงานอะไรบางอย่าง  เธอถามนางกำนัลที่เดินผ่านก็



    ได้ความว่าจัดงานฉลองวันพระราชสมภพของเฟรเดคริกซ์   เธอนึกอะไรบางอย่างในใจเล็กน้อย  แต่สายตายังคงมองหาตัวเจ้าของ



    งานนี้ต่อไป  เมื่อพบว่าเฟรเดคริกซ์กำลังยืนสั่งงานอยู่ท่ามกลางเหล่าทหารอยู่จึงรีบเดินฝ่าเข้าไป  หากแต่เจ้าตัวหันกลับเดินออก



    ยังทางเดินที่นำไปสู่สวนด้านหลัง





              พอซาย่าเดินออกตามไปถึงก็เห็นเขานั่งอยู่บนขอบอ่างน้ำพุนั้นด้วยสีหน้าเหนื่อยอ่อน   ก่อนที่สายตาคู่นั้นจะเหลือบมาเห็นตัว



    เธอ  เฟรเดคริกซ์ผายมือขึ้นในลักษณะที่ชวนให้นั่งลงด้านข้างแต่ซาย่าไม่ยอมนั่ง  แล้วก็เอ่ยถามขึ้นมาทันทีอย่างไม่อ้อมค้อม





              “เมื่อวานนี้เกิดเรื่องขึ้นใช่ไหม..??”  คนฟังมองหน้าสาวน้อยตรงหน้าก่อนที่จะพยักหน้ารับ  เธอเริ่มพูดต่อไปโดยไม่หวังจะ



    ให้อีกฝ่ายได้ตอบคำถาม  





              “แล้วก็มีนักฆ่าจะมาฆ่าฉัน    แล้วนายก็เข้าไปช่วย    จริงๆแล้วก็ไม่ต้องเข้าไปช่วยก็ได้นะ  ถ้าไม่ได้หวังแบบนั้น



    จริงๆ    ไม่ต้องมาหลอกให้ฉันตายใจอีกแล้ว…  มันจะต้องไม่เป็นแบบเมื่อสิบปีก่อน  ที่ฉันจะ…”  พูดมาถึงตรงนี้สิ่งที่เธออดทนกลั้น



    มันมาตลอดก็พังทลายทำนบลงมาจนได้   น้ำตาไหลหยดลงมาตามแก้ม   ซาย่าพยายามรีบเช็ดโดยหวังไม่ให้คนตรงหน้าเห็นทัน  



    แต่ก็สายไปเสียแล้วเพราะตอนนี้เธอตกอยู่ในอ้อมกอดคนตรงหน้าเรียบร้อยแล้ว





              “คนที่เขามาช่วยเขาอาจจะอยากทำจริงๆก็ได้นะ”  ประโยคคำพูดลอยๆหลุดขึ้นมาจากปากชายหนุ่ม  ก่อนที่จะเช็ดน้ำตาอีก



    ฝ่ายออกไป  คำพูดเมื่อครู่ทำให้ในใจซาย่าเริ่มสับสน







                        หรือว่าบางที…เธออาจจะเข้าใจผิดมาตลอด





                        คนตรงหน้าเธอนี้อาจจะไม่ใช่คนร้ายที่เธอตามหามาตลอดสิบปีนี้..??







              และแล้วก็มีคนเข้ามาขัดจังหวะก่อนจนได้   ดอร์ร่าซึ่งตอนนี้มีผ้าพันมืออยู่เนื่องจากเหตุการณ์เมื่อคืนวิ่งเข้ามาตามตัว



    เฟรเดคริกซ์เพราะการจัดงานภายด้านในมีปัญหา   ทำให้ทั้งคู่ผละแยกออกจากันในทันที   แล้วเฟรเดคริกซ์ก็เดินออกไปยังด้าน



    ในโดยที่ดอร์ร่ายังคงยืนอยู่กับซาย่าต่อ  เธอหันมามองนางกำนัลด้านข้างอย่างสงสัยถึงทีท่าที่ดูแปลกจากปกติจนต้องเอ่ยปากถาม



    ที่สุด





              “เป็นอะไรไปน่ะ  ดอร์ร่า..??  ทำไมถึงทำท่าแบบนั้น”  คำถามนี้เจ้าตัวคนถูกถามกลับยิ้มร่าเริงให้องค์หญิงไม่สมกับที่ตน



    เองบาดเจ็บเอาเสียเลย  ก่อนที่จะตอบกลับด้วยคำตอบที่ไม่ใช่คำตอบของคำถามนี้





              “องค์หญิงเสด็จกลับห้องแล้วก็จะรู้เองนะเพคะ   ตอนนี้รีบเสด็จเถอะเพคะ”   ซาย่าทำหน้างงๆกับคำตอบเช่นนี้ก่อนที่จะเร่ง



    ฝีเท้าเดินกลับตามคำขอของเจ้าหล่อน  และด้วยความอยากรู้ส่วนตัว





    =============================================





              เมื่อเธอกลับมาถึงห้องแล้วก็พบของต่างๆวางอยู่เต็มห้อง  แต่ที่เด่นสะดุดตานั้นคือชุดราตรีสีขาวที่ดูสวยสง่าวางอยู่บน



    เตียง  แล้วยังจะมีพวกเครื่องประดับต่างๆวางอยู่บนโต๊ะ   โดยบนโต๊ะมีกระดาษยาวๆหนึ่งแผ่นวางอยู่ด้วย  เธอเดินเข้าไปหยิบขึ้น



    อ่านแล้วก็หันกลับมาถามดอร์ร่าด้วยน้ำเสียงตกใจระคนไม่พอใจ





              “นี่มันอะไรกันน่ะ  ดอร์ร่า…??  การเต้นรำ  มารยาทการรับประทานอาหารบนโต๊ะ  แล้วไหนจะอะไรอีกตั้งหลาย



    อย่าง..??”  คำพูดที่ดอร์ร่าแทบจะอยากปรับระดับเสียงนายหญิงของตนให้เบาลงหากทำได้   ก่อนที่จะตอบกลับ





              “ก็อีกสองวันข้างหน้าก็จะมีงานฉลองวันพระราชสมภพขององค์กษัตริย์แล้วนะเพคะ   องค์หญิงก็ต้องฝึกเรื่องพวกนี้ไว้ด้วยนะ



    คะ…”  ดอร์ร่าพูดตอบ  แต่ตอนนี้ดูเหมือนคนฟังคงไม่ได้ยินเสียแล้วเพราะยังคงตกใจกับรายการที่เธอต้องฝึกภายในระยะเวลา



    สองวัน





              “ไม่ฝึกได้ไหม..??”  คำถามเบาๆเรียนบๆดังขึ้นจากปากองค์หญิง  ดอร์ร่าส่ายหัวแทบจะทันทีก่อนตอบกลับไป





              “ไม่ได้นะเพคะ   อันนี้องค์กษัตริย์เป็นคนกำหนดและทรงเตรียมให้องค์หญิงด้วยพระองค์เองเลยนะเพคะ…”  ซาย่ารับฟังคำ



    ตอบอย่างที่เธอนึกอยู่แล้วในใจ  ก่อนจะชำเลืองมองของทั้งหมดในห้อง  ไหนจะชุดที่สำหรับตัวเธอแล้วเรียกมันว่าชุดฟูฟ่องนั่น  



    เธอต้องทนใส่ทั้งหมดนี่หรือไงกันนะ





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×