WC - WC นิยาย WC : Dek-D.com - Writer

    WC

    โดย Hokzee

    เมื่อเธออันเป็นที่รักต้องหมดลมหายใจลงต่อหน้าต่อตา เขาจึงไม่อาจยอมรับโลกที่อ้างว้างเช่นนั้นได้ ฉะนั้นแล้วเราจะย้อน 'เปลี่ยน' มันใหม่ เพื่อไถ่ถามพระเจ้าถึงทางออกที่ดีที่สุด

    ผู้เข้าชมรวม

    178

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    178

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  19 เม.ย. 58 / 00:11 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      WC

       

                  สถานการณ์ของการชุมนุมยังคงรุกหน้าต่อต้านการทำงานของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ผู้ชุมนุมที่เพิ่มมากขึ้นทุกขณะทำให้ถนนสายหลักหลายสายของกรุงฮาริมโบไม่สามารถสัญจรผ่านได้ และในขณะนี้ก็ยังไม่มีทีท่าใดๆ จากฝ่ายรัฐบาล—’

                  ผมปิดทีวีที่ยังคงรายงานข่าวบ้านเมืองที่ตีกันไปมาด้วยความเบื่อหน่าย มันซ้ำซากจำเจยิ่งกว่าอาหารเช้าสูตรสำเร็จที่ประกอบไปด้วยเนื้อนมไข่เสียอีก

                  เฮ้ เมล เอ็งจะปิดทีวีทำไมวะ คนอื่นเขาดูอยู่ไม่เห็นหรอ

                  เสียงของชายอีกคนดังขึ้นมาทันที

                  มันทำให้ฉันเสียความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงาน สิ่งที่พวกนายกำลังดูอยู่มันไม่ต่างอะไรจากการมองหนูที่วิ่งวนไปวนมาในเขาวงกตซ้ำๆ เป็นหมื่นๆ รอบ เราเรียนรู้ผลลัพธ์ของการกระทำพวกนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากประวัติศาสตร์ เพราะฉะนั้นหากต้องการจะรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นก็แค่ลองคิดให้ตัวเองไปยืนอยู่ในหนังสือประวัติศาสตร์สักเล่มก็พอ

                  ผมตอบกลับไปโดยไม่หันหลังไปมอง แต่ก็พอเดาได้ว่าพวกนักวิทยาศาสตร์ปลายแถวพวกนั้นคงทำหน้าสีหน้าไม่พอใจแล้วแอบซิบซุบนินทาอะไรกันไปเรื่อยเปื่อย

                  แต่ผมไม่สนใจหรอก สิ่งที่กำลังทำให้ผมรู้สึกสนใจได้ตอนนี้มีเพียงจินตนาการที่กำลังแล่นไปมาในหัว ผมค่อยๆ หยิบปากกามาเคาะกับโต๊ะเอกสารพลางหมุนเก้าอี้ให้ส่ายไปเรื่อยๆ กวาดสายตามองเหม่อไปมาสักพักก็ดันไปเห็นรูปถ่ายของจีน่าเข้าตรงหางตา ทำให้ผมต้องหยุดและหยิบมันขึ้นมา

                  เธอเป็นผู้หญิงผิวแทนผมสั้นที่มีรอยยิ้มอันแสนวิเศษ แต่น่าเสียดายที่เราเพิ่งจะทะเลาะกันเมื่อไม่นานมานี้ แถมเธอยังเป็นตำรวจหน่วยสืบสวนพิเศษที่ต้องทำงานหนักกว่าปกติในตอนที่บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายแบบนี้ และสองสาเหตุที่กล่าวมาก็ทำให้ตอนนี้ผมกับเธอจำต้องห่างกันสักพัก

                  ในขณะที่ผมวางรูปลงและกำลังกลับไปหยิบปากกาเพื่อเคาะโต๊ะ เสียงของทีวีก็ดังขึ้นอีกครั้ง

                  ตอนนี้ตัวแทนของผู้ชุมนุมได้ก้าวขึ้นบนเวทีแล้ว คุณเนย์มาล อารีจาจะทำการกล่าวในหัวข้อ งานสังสรรค์ครั้งสุดท้าย ค่ะ

                  “นี่พวกนายคงไม่เข้าใจที่ฉันพูดสินะ?

                  ผมหันไปด้วยความเบื่อหน่าย เห็นพวกนั้นกำลังตั้งหน้าตั้งตามองไปยังทีวีที่ฉายอยู่เหมือนไม่ได้ยินที่ผมพูด เฮอะช่างอวดดีกันเสียจริง

                  แต่ยังไงซะคนหมู่มากก็คือพลังอันยิ่งใหญ่ในกฎเกณฑ์ของยุคประชาธิปไตย ดังนั้นผมเองก็คงต้องรอจนกว่าพวกคนเขลาเหล่านี้จะปิดทีวี ซึ่งอาจทำลายเวลาอันมีค่าของผมไปครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงเต็ม

                  ถ้าผ่านก้าวนี้ไปได้ฝ่ายปฏิวัติก็น่าจะล้มล้างรัฐบาลได้อย่างสมบูรณ์แล้วล่ะนะ

                  “หวังว่าจะเป็นงั้น ฉันรอวันที่บ้านเมืองจะได้เริ่มกลับมานับ 1 กันใหม่อยู่ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปมันมีแต่จะจมลงเรื่อยๆ

                  “แต่ถ้าคุณเนย์มาลเป็นอะไรไปคงลำบากน่าดู โชคดีที่มีคนเก่งๆ แบบนี้ออกมาต่อต้านเป็นแกนนำ

                  สหายนักวิทยาศาสตร์ต่างวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ต่างๆ ไปตามความคิด ส่วนผมก็ทำเพียงแค่หันมาเอาคางพาดพนักพิงของเก้าอี้แล้วเลื่อนตาเหม่อมองภาพฝูงคนที่ทำตัวเหมือนมดปลวกกำลังเบียดเสียดกันอยู่ในจอทีวี

                  แต่แล้วทันใดนั้นผมก็ถึงกับต้องตกใจจนลุกขึ้นมาเสียงดัง

                  จีน่า!”

                  แฟนของผมเธอไปปรากฏตัวอยู่ในสถานที่ชุมนุมได้ยังไงกัน ทั้งๆ ที่อุตส่าห์ย้ำนักย้ำหนาว่าอย่าเอาตัวไปเสี่ยงแล้วแท้ๆ

                  เอ้า อะไรกันพ่อนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ จู่ๆ สมองแล่นขึ้นมารึไง?

                  หนึ่งในสมาชิกหน่วยวิจัยสัพยอกขึ้นมา แต่ผมไม่สนใจ วิ่งออกไปจากห้องเอกสารเพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานที่ชุมนุมทันที

                 

                  เวลาที่ใช้ในการเดินทางยาวนานกว่าปกติเพราะการจราจรติดขัด ผมออกจากรถไฟฟ้าแล้ววิ่งลงบันไดมาจนกระทั่งเจอกับผู้คนที่ยืนโห่ร้องกันอย่างฮึกเหิม ผมพยายามสอดส่ายสายตาหาจีน่าทั้งซ้ายขวา

                  จีน่า!!”
                  ทั้งร้องตะโกนออกไปโดยไม่สนว่าใครจะมองยังไง มันรู้สึกไม่ดีตั้งแต่ที่ได้เห็นจีน่าโผล่มาในที่แบบนี้ แถมสังหรณ์ของผมก็ช่วยเน้นย้ำว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ควรเกิดขึ้นเลยจริงๆ

                  ผมเดินหาเธอท่ามกลางฝูงคนที่แน่นขนัด กระทั่งเหงื่อไหลออกมาชโลมชุดเสื้อยืดสีขาวจนเปียกติดกับเนื้อก็ยังหาเธอไม่เจออยู่ดี

                  กรี๊ดดดดด~!”

                  ขณะที่ความกังวลของผมค่อยๆ ทะยานขึ้นก็มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งกรีดร้องมาจากด้านหน้าเวที ดึงสายตาทุกคู่ให้หันไปจับจ้องไม่เว้นแม้แต่ตัวผมเอง คนที่มุงดูค่อยๆ กระจายออกมาให้หน่วยแพทย์สนามวิ่งเข้าไปด้านใน

      ผมค่อยๆ ชะเง้อมองสิ่งที่เกิดขึ้นพลางภาวนาในใจ

                  “…”

                  มีศพของผู้ชุมนุมคนหนึ่งนอนอยู่บนกองเลือดแดงฉานเป็นผู้หญิงผิวสีแทนและผมสั้นเพียงต้นคอ อยู่ในชุดสูทสุภาพและกระโปรงสอบยาวถึงเข่าซึ่งเป็นชุดปฏิบัติงานนอกสถานที่ของหน่วยสอบสวนพิเศษ

                  ผมช็อคจนขยับตัวไม่ได้ ภาพในความคิดผมเห็นรอยยิ้มของเธอปรากฏขึ้นมาชัดเจนกว่าครั้งไหน คืนวันเก่าๆ ที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วย้อนกลับมาในเพียงเสี้ยววินาที เป็นความรู้สึกเจ็บแปลบที่อยู่ในสมองเหมือนกำลังมีรังแมลงสักสายพันธุ์กัดกินก้อนเนื้อในหัว

                  จีน่า!!”

                  ในที่สุดผมก็พุ่งตัวเข้าไปคว้าร่างของเธอมากอดไว้ ปากผมสั่นอุณหภูมิร่างกายของจีน่าเย็นลงอย่างรวดเร็ว ผมก้มมองรอยกระสุนที่เจาะทะลุกลางอกของเธอด้วยแววตาที่สั่นเครือ

                  แต่เพียงไม่นานหน่วยพยาบาลก็เข้ามาแยกผมออกจากเธอ สิ่งสุดท้ายที่ผมได้เห็นคือใบหน้าเรียบเฉยบนร่างไร้วิญญาณที่ค่อยๆ ถูกขนขึ้นเปลสนามไปยังรถพยาบาล ระหว่างขนย้ายผมสังเกตเห็นว่ามีอะไรบางอย่างหล่นออกมาจากมือที่กำแน่นของจีน่า

                  มันเป็นกระดาษขาวที่ไม่แปดเปื้อนใดๆ แม้แต่น้อย

                  เมื่อหยิบมันขึ้นมาคลี่ดูถึงได้เห็นตัวอักษรที่ถูกบรรจงเขียนไว้ด้านใน

                  WC—

                  “WhiteCollar”

                  มันเป็นชื่อกลุ่มของมือสังหารฝีมือดีที่อยู่ใต้อำนาจของรัฐบาล ซึ่งจีน่าเป็นคนรับผิดชอบสืบสวนเรื่องราวของคนกลุ่มนี้เป็นพิเศษ เธอกำลังจะบอกว่าคนที่สังหารเธอคือกลุ่ม WhiteCollar อย่างงั้นสินะ

                  คุณเมลคะ! พี่จีน่า…”

                  รุ่นน้องของจีน่าวิ่งมาหาผมด้วยท่าทางร้อนรน แต่พอเธอมองหน้าผมก็ทำหน้าเหมือนเห็นผียังไงยังงั้น

                  อาเรลเซ่…”

                  ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองทำหน้ายังไงอยู่ ผมยื่นกระดาษใบนั้นไปให้อาเรลเซ่ด้วยมือที่สั่นเทา อีกฝ่ายมองมันสลับกับสีหน้าของผมสักพักก็ก้มตัวลงเอามือกำขอบกระโปรงแน่น ท่าทางเหมือนอยากจะพูดอะไรที่ลำบากใจมากๆ ออกมา

                  คือพี่จีน่าเขาเป็นคนอาสา…”

                  “พอแล้ว!” ผมไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น สิ่งเดียวที่เธอทำได้ดีที่สุดก็คือลากคอไอ้พวก WhiteCollar นั่นมาฆ่าทิ้งให้เหี้ยน สำหรับฉัน ไม่สิ สำหรับการลงทัณฑ์ของพระเจ้านั่นคือสิ่งเดียวที่เธอจะทำได้เพื่อจีน่า

                  ผมรู้สึกไม่เป็นตัวเองเลยในตอนนี้ ความโกรธที่พุ่งพล่านมันควบคุมให้ประสาทสั่งการในสมองกลายเป็นระบบอัตโนมัติ ยัดกระดาษใบขาวนั่นใส่มือของอาเรลเซ่แล้วมุ่งหน้าเดินกลับไปที่ห้องวิจัยอีกครั้ง องค์ความรู้ที่พยายามสั่งสมมาแสนนานพลันประติดประต่อกันอย่างแจ่มชัดขึ้นมา

                  ผมคิดออกแล้ว งานวิจัยชิ้นสุดท้ายของผม

               

                เวลาล่วงเลยผ่านไป 3 เดือนอย่างรวดเร็ว ผมขลุกตัวอยู่ในห้องทดลองส่วนตัวชนิดที่แทบไม่ออกไปเจอแสงเดือนแสงตะวัน มีเพียงข่าวจากคอมพิวเตอร์โฮโรแกรมที่รายงานสถานการณ์การชุมนุมเท่านั้นที่คอยเป็นเสียงให้ห้องไม่เงียบสนิท

                  หลังจากเหตุการณ์การสังหารผู้ชุมนุมครั้งนั้นได้กลายเป็นบันไดเชื่อมไปสู่เบื้องหลังของรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งตอนนี้ได้จับตัวผู้ต้องสงสัยมาแล้ว 6 รายและที่เหลือยังคงหลบหนีอยู่ทั้งในและต่างประเทศ

                  สุดท้ายการล้มล้างรัฐบาลก็สำเร็จ พวก WhiteCollar ถูกประหารชีวิตตามที่ผมต้องการ แต่นั่นไม่ใช่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

                  ผมนั่งตั้งค่าซอร์ฟแวร์ของสิ่งประดิษฐ์ชิ้นล่าสุดแบบไม่วางมือ เจ้าสิ่งๆ นี้แหละที่จะนำผมไปสู่ทางออกที่ดีที่สุด ใช่แล้ว ทางออกที่ดีที่สุด

                  เมื่อผมกดปุ่ม Enter ครั้งสุดท้ายหน้าจอก็ประมวลผลภาพรวมทั้งหมด เพียงไม่นานก็ปรากฏกล่องข้อความว่า ‘Complete’ กลางหน้าจอ

                  เสร็จสักที…”

                  ผมหยิบซองกาแฟขึ้นมาฉีกและกระดกผงคาเฟอีนเข้าปากจนหมดในรวดเดียว ลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งจนแทบจะรากงอกเดินออกไปล้างหน้าในห้องน้ำ แต่เมื่อส่องกระจกก็รู้สึกว่าตัวเองแทบจะไม่เหลือเค้าของเมลเมื่อสามเดือนก่อนเลยสักนิด

                  ไม่เป็นไรรอฉันก่อนนะจีน่า

                  ผมละทิ้งตัวเองได้ ถ้าเพื่อจีน่าแล้วล่ะก็ผมสามารถทำได้แน่นอน ใช่ ทำได้แน่

                  ผมย้อนกลับไปในห้องวิจัยส่วนตัวที่เต็มไปด้วยซองกาแฟและก้อนกระดาษที่โดนขยำ หยิบอุปกรณ์ที่เป็นเหมือนกิ่งไม้อิเล็คโทรนิคโค้งงอขึ้นมาจากแท่นชาร์จ คาดมันไว้บนหัวให้ส่วนใบเล็กๆ ที่เรืองแสงค่อยๆ แนบติดกับศีรษะ ก่อนจะจิ้มนิ้วลงบนคีย์บอร์ดเพื่อสั่งให้โปรแกรมปฏิบัติการทำงาน

                  วันที่ 20 เดือน 10 ปี 2590”

      Enter

       

      นี่เมล ช่วยฉันคิดหน่อยสิว่าฉันจะรับงานไหนดี

      เสียงของจีน่าดังขึ้นมา สมองของผมเบลอจากการย้อนเวลาแบบทับซ้อนความทรงจำ ผมส่งความทรงจำจากอนาคตเข้ามาในสมองของตัวเองในอดีต รู้สึกเหมือนจะอ้วกเอาให้ได้เลยให้ตายสิ แต่อย่างน้อยก็โชคดีที่มันสำเร็จไปได้ด้วยดีตามทฤษฎี

      อย่าเอาแต่เงียบสิ นี่ฉันกำลังคุยกะเมลอยู่นะ

      จีน่า!”

      ห้ะ? อะไรของเมล จู่ๆ ทำอย่างกับไม่ได้เจอกันมานานงั้นแหละ

      เมื่อผมพุ่งเข้าไปจับแขน จีน่าก็ทำหน้าฉงนทั้งยังถือเอกสารไว้ในสองมือ

                  ตอนนี้ผมย้อนกลับมาในวันที่เธอกำลังต้องตัดสินใจในการรับคดี ระหว่างคดีของ WhiteCollar กับคดียาเสพติดในต่างเมือง จีน่าส่งสายตาเย็นชาพร้อมทำปากจู๋ขึ้นมาน่ารักจัง

                  งั้นเอาเป็นว่าฉันจะทำคดี WC นี่แหละจะได้อยู่เมืองนี้ด้วย ฉันไม่ชอบเดินทางไกลๆ เท่าไร

                  “ไม่ได้นะ!”

      ผมตะคอกออกไปแรงจนตัวเองยังตกใจ แต่พอเห็นสีหน้าสงสัยของจีน่าแล้วก็ค่อยๆ ลดเสียงลง

      คือฉันคิดว่าเราลองไปต่างเมืองบ้างก็ดีนะ

      เราหรอ? หมายความว่าไง

      ผมหลุบตาลงพื้นมองหลุกหลิกไปมา พวกประโยคหวานๆ มันไม่ค่อยถูกปากผมเท่าไร แต่ก็ยังถือว่าโชคดีที่เธอคนนี้คือจีน่า ผมไม่ถนัดเรื่องการสื่อสารทั่วไปกับคนอื่นถ้าไม่ใช่เธอ ถึงกระนั้นก็ทำได้เพียงพยักหน้าลงหนึ่งที

      เมลจะไปด้วยหรอ แล้วงั้นงานของเมลล่ะ?

      พอจีน่าถามต้อนเข้ามาผมก็เกิดปฏิกิริยาตอบสนองแบบฉับพลัน ยืดตัวขึ้นแล้วพูดเสียงดังฟังชัด

      ฮะๆๆ ฮ่า! ฉันยังไม่ได้บอกเธอสินะเรื่องขอลาหยุด นักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่อย่างฉันเพิ่งทำโปรเจคใหญ่เสร็จก็เลยได้โบนัสแล้วก็ถือโอกาสลาหยุดไปด้วยเลย แน่นอนว่าไม่มีใครขัดฉันได้!”

      โกหกทั้งเพ ก็บอกแล้วว่าผมพูดไม่ค่อยเก่ง

      หรอ เมลคิดว่าฉันควรปฏิเสธคดี WC งั้นสินะ

      พอผมพยักหน้าลงเบาๆ จีน่าก็ค่อยๆ แย้มยิ้มขึ้นมา แม้จะเป็นยิ้มเล็กๆ ที่ไร้ความแตกต่างชนิดที่คนทั่วไปดูไม่ออก แต่สำหรับผมนั้นมันช่างยอดเยี่ยมจริงๆ นี่แหละคือรอยยิ้มแสนวิเศษที่ผมหมายถึง

      ก็ได้ ฉันเชื่อเมล

                 

                  หลังจากวันนั้นเราสองคนก็ออกเดินทางไปต่างเมืองทันที จีน่าต้องทำเรื่องย้ายสำนักงานเล็กน้อยส่วนผมก็เบิกเงินที่ฝากไว้เกือบทั้งชีวิตตัวออกมาในฐานะ โบนัสที่เคยโม้ไว้

                  งานสืบสวนที่ต่างจังหวัดไม่เข้มข้นเหมือนสถานการณ์ในเมืองหลวง ดังนั้นเราจึงมีเวลาว่างมากขึ้น ผมเองซึ่งละทิ้งงานโดยพละการก็ไม่ได้สนใจว่าจะถูกไล่ออกหรือเปล่า สิ่งเหล่านั้นมันไม่สำคัญเท่ากับเวลาที่ผมได้อยู่กับเธอตอนนี้หรอก

                  ยิ้มอะไรของเมลน่ะ

                  จีน่าที่นั่งอยู่อีกฟากของโต๊ะอาหารส่งเสียงเรียบๆ ออกมาทำให้ผมรู้สึกตัว

                  ฮึ จะอะไรซะอีกล่ะ ฉันกำลังนึกถึงไอเดียสุดประเสริฐที่จะทำให้มวลมนุษยชาติต้องแดดิ้นแทบเท้าฉันอยู่น่ะสิ

                  ความจริงแล้วผมก็แค่กำลังทบทวนสิ่งที่ทำไปช่วงนี้เท่านั้นแหละ

      พวกเราใช้ชีวิตในวันหยุดไปกับการเที่ยวและเสพสุขในแบบที่มนุษย์ควรทำ ไปสวนสนุก ชมพิพิธภัณฑ์ ไปสวนสัตว์ กินมื้อค่ำในร้านอาหารดีๆ สักร้าน แล้วก็กลับบ้านอันอบอุ่นด้วยกันแบบในหนังครอบครัวเกรด B สักเรื่อง

                  เมลทำตัวแปลกไปนะพักนี้จีน่าค่อยๆ ยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นดื่ม

                  แปลก? แปลกอะไร ก็ไม่นี่ แค่—”

                  “ปกติเมลไม่เคยชวนฉันไปเที่ยว ไม่เคยสนใจเรื่องของกิน ไม่เคยใส่เสื้อเชิ้ตเรียกว่าไม่เคยมีเสื้อเชิ้ตในตู้เสื้อผ้าเลยมากกว่า แถมเรื่องทรงผมก็ไม่เคยคิดจะจัดให้มีระเบียบเหมือนตอนนี้ นี่ยังไม่เรียกว่าแปลกหรอ

                  อึกผมถึงกับสะอึก หรือนี่อาจจะเป็นผลของการอ่านนิตยสารครอบครัวผสมกับแฟชั่นเลยทำให้สิ่งที่ออกมามันดูพิลึกพิลั่นเกินไป

                  ฮึๆๆ เธอนี่มันช่างผิวเผินซะจริง นั่นน่ะมันก็แค่การศึกษาจิตวิทยาของมนุษย์ทั่วไปเท่านั้นเอง!”

                  จีน่าคลายมือออกจากแก้วน้ำ ตอบกลับมาด้วยใบหน้าที่ตายด้าน

                  หรอ ก็ดีนะ

                  มันทำให้ผมโล่งใจและคลี่ยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้

                  ก็คิดว่าน่าจะศึกษาอีกสักพักแหละ

                  คืนวันที่น่าจดจำของเราผ่านพ้นไปในก้าวเดินอันแสนสุข ผมคิดว่าความจริงแล้วการปลดปล่อยตัวเองออกจากสิ่งน่าสนใจทางวิทยาศาสตร์มันก็เป็นเรื่องที่ทำให้คนเรารู้สึกดีไปอีกแบบหนึ่ง แต่ยังไงๆ ผมก็ยังเชื่อมั่นในวิทยาศาสตร์และความรุ่งโรจน์ของมนุษยชาติไม่ผันแปรอยู่ดี

                  ผมยังคงผลาญเงินเก็บต่อไปโดยไร้แนวทางที่จะแต่งเสริมเติมต่อให้มันกลับมา สิ่งเดียวที่ผมตั้งตารอคือวันนี้วันเดียว วันที่ทำให้ผมต้องคิดค้นเครื่องส่งความทรงจำขึ้นมา

                  ตอนนี้ตัวแทนของผู้ชุมนุมได้ก้าวขึ้นบนเวทีแล้ว คุณเนย์มาล อารีจาจะทำการกล่าวในหัวข้อ งานสังสรรค์ครั้งสุดท้าย ค่ะ

                  ทีวีฉายภาพนักข่าวหญิงยืนประกาศคำเดิมเหมือนที่เคย ผมแย้มยิ้มอย่างผู้มีชัยขึ้นมาเมื่อตอนนี้จีน่าอยู่ข้างกายผม เธอจะไม่มีวันไปปรากฏตัวในสถานที่ชุมนุมแน่นอน

                  เรานั่งบนโซฟาเพื่อรอดูสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป ผมแอบพึมพำกับตัวเองเบาๆ ว่า ปังและทันใดนั้นก็เกิดเสียงกรีดร้องตามขึ้นมาจากในทีวี นักข่าวหญิงและตากล้องพากันตกใจจนภาพสั่นไปครู่หนึ่ง ก่อนที่กล้องจะซูมไปตรงชายที่เพิ่งขึ้นไปยืนบนเวทีได้ไม่นาน

                  ตัวแทนของผู้ชุมนุม เนย์มาล อารีจา ล้มหน้าคว่ำพาดโพเดียมพร้อมเลือดที่ไหลออกจากศีรษะ

                  ผมฉีกยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิมเมื่อคิดว่าทุกอย่างจบลงแล้ว

                  แต่ผมคิดผิดไปมหันต์

      สามเดือนหลังจากวันที่เนย์มาลตายสถานการณ์การชุมนุมก็เกิดพลิกผัน เมื่อไร้ซึ่งผู้นำที่แข็งแกร่งพวกที่ติดสอยห้อยตามก็แตกกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว บ้างเพราะถูกลอบสังหารแบบเดียวกันกับเนย์มาล บ้างก็กลัวจนหนีไปซ่อนตัวและเงียบหายจากสังคม

                  แย่ที่สุด…”

                  เหลือเพียงจีน่าที่นั่งพึมพำอยู่กับกองเอกสารบนโต๊ะส่วนตัวของเธอ สุดท้ายเมื่อเวลาผ่านไปคดี WC ก็กลายเป็นที่จับตามองของตำรวจจนเธอต้องลงไปคลุกคลีกับมันอีกครั้ง

                  ผมค่อยๆ เดินไปด้านหลังเธอ พยายามจะเอื้อมมือไปโอบไหล่แต่ก็รู้สึกประหม่าเลยเลือกที่จะกระแอ่มขึ้นมาแทน

                  ยังจับไม่ได้งั้นหรอ?

                  จีน่าเงยหน้าขึ้นมามองผม สายตาของเธอสื่อถึงความหนักใจออกมาได้น้อยนิดเหลือเกิน

                  ไม่เชิงหลักฐานครบแล้ว แต่เราทำอะไรไม่ได้ คนที่หนุนหลัง WC มีเส้นสายแข็งแรงมากในหน่วยงานต่างๆ ตอนนี้พวกคนที่ทำคดีนี้ก็ถูกเก็บไปหลายคนแล้ว

                  ในขณะที่จีน่ายังไม่รู้ตัว ผมแอบสังเกตเห็นจุดแดงๆ ที่สั่นไหวเบาๆ ตรงขมับของเธอ

                  แต่ยังไม่ทันทำอะไรลูกกระสุนปืนไรเฟิลก็ถูกส่งผ่านหน้าต่างบ้านเข้ามาเสียแล้ว

                  อา…”

                  ผมได้แต่อ้าปากค้าง ร่างของจีน่าร่วงจากเก้าอี้ลงไปกองบนพื้นก่อนที่เลือดจะไหลนอง ดวงตาผมสั่นพร่าจนมองภาพไม่ชัดเจน หัวใจของผมกรีดร้องออกมาจนแทบจะหยุดทำงาน

      แต่ความอันตรายที่บีบเค้นอยู่ในตอนนี้ทำให้ผมต้องหันมองไปทางหน้าต่างที่แตกเป็นเสี่ยงๆ เห็นแสงเลเซอร์สีแดงกำลังส่องเข้ามา

                  ผมดีดตัวเต็มแรงไปทางผนังเพื่อหลบกระสุนที่วิ่งเข้ามาอย่างเฉียดฉิว ใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ สายตาพลันมองทุกอย่างรอบตัวด้วยความหวาดระแวง โต๊ะ เก้าอี้ ประตู โซฟา ทีวี นาฬิกาแขวน พรม ตู้เย็น คอมพิวเตอร์

                  ใช่! คอมพิวเตอร์

                  ผมวิ่งไปหาคอมพิวเตอร์และรีบเปิดเครื่องทันที ภาพโฮโรแกรมลอยขึ้นมาให้ใช้งานอย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย ทันใดนั้นก็ได้ยืนเสียงฝีเท้าของกลุ่มคนวิ่งเข้ามาในเขตตัวบ้าน พวกมันถีบประตูบ้านด้านล่างและวิ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนผมแทบจะเป็นบ้า

                  ผมค่อยๆ หยิบเครื่องย้อนเวลาที่เก็บไว้ใต้เสื้อคลุมออกมา ที่ผมแอบทำมันไว้ก่อนก็เพื่อวินาทีนี้

                  ฮึๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ! พวกแกไม่มีทางชนะฉันหรอก เจ้าโง่!”

                  นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่ผมตะคอกออกไป ก่อนที่ประตูจะเปิดขึ้นเห็นชายชุดดำสามสี่คนที่มีอาวุธครบมือ ผมแย้มยิ้มอาฆาตให้พวกมันก่อนจะกด ‘Enter’

       

      นี่เมล ช่วยฉันคิดหน่อยสิว่าฉันจะรับงานไหนดี

                  จีน่าพร้อมพลางมองเอกสารในมือทั้งสองข้างสลับกันไปมา

                  ใช่แล้ว ผมย้อนกลับมาในวันที่เธอต้องตัดสินใจเลือกคดี แต่ครั้งนี้แหละผมจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย

                  คดี WC!”

                  ผมให้คำตอบฉะฉานจนจีน่าเอียงคอแปลกใจ

                  งั้นหรออื้ม โอเค ฉันเชื่อเมล

                  เธอเลือกที่จะวางเอกสารคดียาเสพติดในต่างแดนลงบนโต๊ะอย่างง่ายดาย จากนั้นผมก็เริ่มใส่ข้อมูลให้เธอทันที

                  จีน่าฟังนะ พวกนักฆ่ารับจ้างกลุ่มนี้เป็นลูกน้องของรัฐบาล พวกมันจะฆ่าเจ้าเนย์มาลตอนขึ้นกล่าวบนเวทีในหัวข้อ งานสังสรรค์ครั้งสุดท้ายเธอต้องหยุดมันให้ได้ก่อนที่มันจะฆ่าเนย์มาลทิ้ง ไม่งั้นกลุ่มปฏิวัติจะไม่มีทางชนะรัฐบาลได้

                  ทว่าจีน่ากลับมองหน้าผมแล้วขมวดคิ้วลงเล็กน้อย

                  เพ้อเจ้ออีกแล้วนะเมล เรื่องกลุ่ม WC มันก็แค่ข่าวลือเอง แถมตอนนี้รัฐบาลเองก็ดูจะยอมอ่อนข้อให้แล้วด้วย อีกไม่นานการชุมนุมก็คงจบแล้ว

                  ไม่ใช่ผมจะบอกจีน่ายังไงดี ที่รัฐบาลยอมอ่อนข้อให้ในตอนนี้น่ะเพราะมันกำลังวางแผนระยะยาวต่างหาก ปัดโธ่เอ้ย! ผมไม่มีทางเลือกแล้ว

                  “จีน่า ฟังฉันนะ!” ผมคว้าไหล่เธอดังหมับ ฉันมาจากอนาคต!”

                  “จ้าๆ รู้แล้ว พ่อนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ นี่คิดจะสร้างไทม์แมชชีนหรอ?

                  “จีน่าฉันไม่ได้ล้อเล่นนะ!”

                  พอเห็นผมทำสีหน้าจริงจังเธอก็ต้องประสานตากับผมอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะหรี่ตาลงเล็กน้อย

                  “อธิบายมาซิ

                  หลังจากนั้นผมก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอรู้ ทั้งเรื่องที่ผมเห็นเธอตายมาแล้วถึง 2 ครั้ง ทั้งเรื่องเหตุการณ์ทางการเมืองที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงเบาะแสทั้งหมดเกี่ยวกับกลุ่ม WC แบบระบุเวลาและสถานที่ แน่นอนว่าครั้งนี้ทีน่าจะสามารถจับพวกมันและล้มล้างรัฐบาลได้สำเร็จร้อยเปอร์เซ็น

                  แต่ทว่า

                  “พอแล้วฉันว่าเราเลิกคุยเรื่องนี้กันดีกว่า

                  “ฮะ?”

                  “ฟังนะเมล ฉันรู้ว่าเมลไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล แต่การที่เอาอคติของตัวเองมาใส่แบบไม่มีหลักฐานแบบนั้นมันใช้ไม่ได้

                  “จีน่า นี่เธอไม่เชื่อที่ฉันพูดงั้นหรอ…”

                  ผมรู้สึกใจหายแวบเหมือนตกลงมาจากที่สูง

                  จีน่าสูดลมหายใจเข้าและผ่อนออกช้าๆ

                  เมลก็รู้ว่าฉันเชื่อในสิ่งที่เห็นและความเป็นจริงตรงหน้าเท่านั้น

                  “ให้ตายเถอะ! ขอร้องล่ะจีน่า ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะช่วยฟังกันหน่อยเถอะ!”

                  ผมลุกขึ้นทุบโต๊ะดังปัง จีน่าเหลือบมองขึ้นมาด้วยสายตาเย็นชาโดยไม่พูดอะไร

                  ฉันย้อนเวลากลับมาเพื่อบอกเธอทุกอย่าง เตือนเธอเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ต้องตาย เข้าใจรึเปล่า!”

                  “พอแล้ว…”

                  จีน่าตัดบทแล้วลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องทันที แต่ผมวิ่งไปคว้าตัวเธอเอาไว้ได้ทัน

                  โธ่เอ้ย! ฟังกันหน่อยสิ

                  เพี๊ยะ!

                สิ่งที่ผมได้กลับมานั้นคือรอยแดงที่แก้มซ้าย จีน่าหันมาตบผมแล้วมองด้วยสายตาที่ขุ่นเคือง

                  ฉันเคารพในการตัดสินใจของเมลมาตลอด แต่นี่คืองานของฉัน เมลก็ควรเคารพในการตัดสินใจในแบบของฉันเช่นกัน

                  จากนั้นเธอก็ปิดประตูแล้วสตาร์ทรถขับออกไป

                  นั่นสินะทำไมสมองผมถึงไม่จำเรื่องแบบนี้บ้าง ครั้งที่แล้วที่เราทะเลาะกันก็เพราะเหตุผลนี้ ผมคัดค้านความเชื่อที่เธอยึดมั่นมาตลอด มันเป็นเหมือนการทำลายตัวตนของอีกฝ่ายแบบอ้อมๆ คล้ายกับการที่คนคนหนึ่งปั้นตุ๊กตาหิมะขึ้นมาอย่างสวยงามแต่กลับถูกกรรมการบอกว่านี่มันคืองานแข่งสร้างปราสาททราย แม้แต่ตัวผมเองก็เถอะ ถ้าวันหนึ่งไม่สิ มีหลายๆ คนที่ขยันเข้ามาทำลายจุดยืนของผมด้วยการบอกว่าผมไม่มีทางประสบความสำเร็จบ้างล่ะ บ้างก็บอกว่าความคิดของผมมันเป็นแค่จินตนาการของคนโลกแคบบ้างล่ะ และสิ่งที่ผมทำกับคนพวกนั้นก็คือการตัดพวกมันออกจากสารบบของชีวิต นับเป็นทางเลือกที่ขี้ขลาดมากเมื่อเทียบกับสิ่งที่จีน่าเพิ่งทำกับผมเมื่อกี้นี้

                  หลังจากวันนั้นผมก็หยุดอยู่บ้านเฉยๆ โดยไม่ไปทำงานอีก นั่งย้อนคิดถึงสิ่งที่จะทำได้เพื่อช่วยแก้ไขอนาคตอันเลวร้ายทั้งสองแบบที่ผมเคยเผชิญ

                  ทำไมมือสังหารถึงเลือกยิงจีน่าในการประชุมครั้งนั้นแทนที่จะเป็นเนย์มาล

      ถ้าหากจีน่าไม่เข้ารับคดีนี้และถูกยิง กลุ่มคณะปฏิวัติก็จะพ่ายแพ้

                ผมเอาความคิดของตัวเองไปบอกใครไม่ได้ เพราะผมไม่มีเพื่อนและสื่อสารไม่เก่ง แถมพูดไปก็จะโดนหาว่าบ้าเอาเปล่าๆ

                ถ้าหากผมตัดสินใจเปลี่ยนแปลงการกระทำของตัวเอง ก็จะเท่ากับว่าอนาคตที่ผมเคยรู้นั้นจะไม่เป็นอย่างนั้นอีกต่อไป

                  ผมพยายามขบคิดกับเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อนี้กลับไปกลับมา คิดหาเหตุผลและทางออกที่น่าจะดีที่สุดออกมาซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่เงื่อนไขที่ 1 มันเหมือนจะเป็นคำถามคาใจมากกว่าจะเรียกว่า เงื่อนไขมันเป็นคำถามที่ติดค้างจนผมสลัดไม่ออก

                  ความจริงถ้ามือสังหารลงมือยิงเนย์มาลซะตั้งแต่ตอนนั้นงานก็จบเรียบร้อยไปแล้ว แต่ทำไมถึงเป็นจีน่า

                  ผมนั่งครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่หลายวัน จนกระทั่งได้เห็นนกฝูงหนึ่งบินพาดผ่านฟากฟ้า ฝูงนกเหล่านั้นล้วนหน้าตาเหมือนกันจนแยกไม่ออก ถ้าจะให้ตั้งชื่อแล้วเรียกก็คงสลับกันอย่างช่วยไม่ได้

                  อย่างนี้นี่เอง!”

                 

                  หลังจากผมคิดออกสิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือรอให้เวลาไหลผ่านไป กระทั่งหน้าจอทีวีฉายข่าวเดิมซ้ำขึ้นมาเป็นครั้งที่ 3

                  ตอนนี้ตัวแทนของผู้ชุมนุมได้ก้าวขึ้นบนเวทีแล้ว คุณเนย์มาล อารีจาจะทำการกล่าวในหัวข้อ งานสังสรรค์ครั้งสุดท้าย ค่ะ

                  ทว่าตอนนี้ผมไม่ได้รออยู่ในห้อง แต่กำลังมองหน้าจอทีวีขนาดใหญ่ที่ฉายอยู่ ณ ที่ชุมนุม

                  ท่ามกลางผู้คนที่ส่งเสียงเอะอะโวยวายสายตาของผมไม่ยอมปล่อยให้จีน่าคลาดไป ผมค่อยๆ สะกดรอยตามเธอมาเรื่อยๆ พลางมองนาฬิกา

                  ผมเข้าใจแล้วว่าอะไรเป็นอะไร

                  นาฬิกาดิจิตอลแสดงตัวเลข 16.14 ซึ่งหมายความว่าอีกแค่นาทีเดียวมือสังหารจะลงมือ เจ้าเนย์มาลกำลังเดินขึ้นเวทีพร้อมโบกมือให้กับประชาชนที่แห่แหนกันมาอย่างเนืองแน่น แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้นเลยสักนิดเดียว

                  ผมพ่นลมหายใจออกมาเพื่อบอกให้ตัวเองเตรียมใจ

                  ความจริงแล้วเนย์มาลที่ขึ้นเวทีปราศรัยวันนี้นั้นเป็นตัวปลอม และจีน่านั่นแหละคือคนที่รู้ตัวก่อน สมแล้วที่เธอเป็นแฟนอันน่าภูมิใจของผม ดังนั้นจึงมีการใช้ตัวปลอมขึ้นมาเป็นเหยื่อล่อให้การสังหารครั้งนี้ แต่น่าเสียดายที่กลุ่ม WC เองก็ไหวตัวทัน ดังนั้นเป้าหมายของพวกมันจึงถูกสับเปลี่ยนกะทันหัน

                  —16.15—

                  ผมโผเข้าไปหาจีน่าที่ยืนห่างออกไปไม่กี่ช่วงมือ เบียดเธอจนกระเด็นไปชนผู้คนที่กำลังยืนส่งเสียงโวยวาย

                  และทันใดนั้น

                  อึก!”

                  ผมก็ได้รับรู้ทันทีว่าฉากในหนังที่พระเอกโดนยิงความจริงแล้วมันเจ็บขนาดไหน รู้สึกจุกเสียดจนหายใจแทบไม่เข้าปอด จะอ้าปากพูดเป็นคำยังแย่เลย แต่นี่แหละคือทางออกที่ดีที่สุดแล้ว เพราะผมไม่สามารถยับยั้งกระสุนนัดนี้ได้ และหากจะบอกให้ใครมารับกระสุนแทนก็คงไม่มีใครยกมืออาสาแน่ ดังนั้นแล้วคนที่สามารถทำหน้าที่นี้และทำให้อนาคตเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุดก็คือคนที่ไม่มีใครสนใจแบบผมนั่นเอง

                 

                  ผมลืมตาขึ้นอีกครั้งที่โรงพยาบาล มันเป็นห้องคนไข้เดี่ยวที่มีพื้นที่ไม่มากนัก ข้างๆ มีจีน่ากำลังกุมมือเอาไว้ด้วยใบหน้าที่บ่งบอกถึงความรู้สึกผิดออกมามากเป็นพิเศษ

                  เมลเกือบตายแล้วรู้บ้างไหม

                  ผมหลุบตามองลงมาตรงบาดแผลที่บริเวณอกขวา ที่แท้ผมโดนยิงตรงนี้เองหรอเนี่ย ถ้าเบี่ยงองศาไปอีกนิดหน่อยผมคงไม่ได้ลืมตาตื่นแน่นอน

                  ทำไมถึงทำแบบนี้…”

                  “ก็มันเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วนี่นา

                  พอผมพูดจีน่าก็ส่ายหัวเบาๆ

                  ฉันรู้แล้วว่าเมลย้อนเวลาได้จริง แล้วทำไมเมลถึงไม่ย้อนกลับไปทดลองหาทางออกที่ดีที่สุดล่ะ ถ้าเป็นเมลล่ะก็—”

                  ผมแย้มยิ้มออกมาเล็กน้อยพลางยื่นนิ้วออกไปแตะที่ริมฝีปากของเธอ

                  ก็เหมือนเหตุผลที่เธอเสี่ยงเอาตัวเองเป็นเหยื่อสำรองในการชุมนุมวันนั้นนั่นแหละ เธอต้องการให้กลุ่ม WC ยิงฆ่าใครสักคนเพื่อให้กระสุนนัดนั้นเป็นหลักฐานชิ้นสุดท้ายที่จะมัดตัวพวกมัน และเหยื่อที่คาดไว้ทั้งสองคนซึ่งก็คือเธอกับเนย์มาลตัวปลอมก็ล้วนแต่กำกระดาษที่เขียนว่า WC ไว้ทั้งคู่

                  ไม่เห็นเกี่ยวกับที่ฉันถามเลยนี่ จะเปลี่ยนประเด็นหรอ?

                  “เปล่า ก็กำลังจะบอกว่าเหมือนกับเธอที่อุตส่าห์เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงแทนที่จะให้คนอื่นทำหน้าที่นั้นนั่นแหละ

                  ผมรู้ดีว่าไม่มีเหตุผลใดในการกระทำของจีน่า มันเป็นเพียงทิฐิของเธอล้วนๆ เธอเป็นพวกที่เลือกให้ตัวเองเป็นฝ่ายเจ็บมากกว่าเฝ้ามองผู้อื่นเจ็บปวด ฉะนั้นแล้วผมจึงแย้มยิ้ม

                  ถ้าจะให้ฉันย้อนกลับไปเพื่อทดลองหาอนาคตที่ดีที่สุด แต่ต้องเห็นเธอตายในทุกครั้งที่มันผิดพลาด ถึงตอนนั้นสิ่งที่จะตายไปน่ะคือหัวใจของฉันเองต่างหาก

                  ผมแบมือขึ้นและมองนัยน์ตาอันพร่าไหวของจีน่า

                  “ขอกระดาษใบนั้นหน่อยสิ

                  จีน่าอึ้งอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเข้าใจว่าผมกำลังสื่ออะไร ก้มตัวลงหยิบกระเป๋าและค้นอยู่พักหนึ่งก็ยื่นมันออกมาให้ผม กระดาษขาวที่เขียนว่า ‘WC’

                  “ฉันให้

      ผมยื่นมันกลับไปให้เธอ จีน่าเอียงคอสงสัยผมจึงเพิ่มคำใบ้ลงไป

                  มันคืออักษรย่อที่พระเจ้าทรงประทานมาให้มนุษย์น่ะลองเขียนคำเต็มสิ

                  จีน่าหยิบกระดาษขึ้นมามองสลับกับรอยยิ้มแฝงเล่ห์ของผม สักพักเธอก็ทำตาเป็นประกายแล้วหันมามองผม ก่อนจะแย้มยิ้มอันแสนวิเศษจนกว้างกว่าครั้งไหน

                  WC — WorldChanged

                  โลกใบนี้เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเฉกเช่นจิตใจของมนุษย์ ไม่ว่าคุณเป็นใครหรือกำลังทำอะไร จงรับรู้ไว้ว่ามันไม่มีทางหยุดนิ่ง ดังนั้นแล้วต่อให้คุณย้อนเวลาได้ก็ตามที ในทุกครั้งที่ย้อนไปสิ่งที่จะสูญเสียไปด้วยก็คือจิตใจของคุณเอง

                  ฉะนั้นก็จงเสพสุขกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้เต็มที่ และเปลี่ยนความคิดอันเน่าเฟะที่กำลังบ่อนทำลายคุณเสียตอนนี้

                  เช่นนั้นแล้วผมจึงเอ่ยปาก

                  ฉันรักเธอนะ จีน่า

                  “… ค่ะ

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×