ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (END) BTS | KookV Yoonmin | Another World : Bleeding Heart #ฟิคต่างภพกุกวี

    ลำดับตอนที่ #3 : Another World : Bleeding Heart | Chapter 3 [100%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.72K
      203
      9 ธ.ค. 61




    Another World : Bleeding Heart
    - Chapter 3 -


    เวลาผ่านไปนานเป็นหลายนาที เจเรมี่ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของวินเซนต์ที่เห็นว่าร่างบางไม่ลงมายังข้างล่าง เขาจึงตัดสินใจเดินขึ้นบันไดเพื่อไปตามให้ลงมาสังสรรค์ ที่ยอมไปตามนั้นก็เพราะเป็นห่วงเพื่อนว่าจะทำอะไรบ้าๆเกินเหตุ และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ถูกสั่งให้ไปตามโดยผู้อาวุโส


    ถึงแม้ว่าเขากับวินเซนต์จะเป็นเพื่อนกันมานานมากๆแล้วก็ตาม ความสนิทสนมระหว่างพวกเขาสองคนนั้นแทนที่จะสนิทกันมากๆจนแทบจะไม่เกรงใจกันเลย แต่กลับต้องมีเส้นบางๆกั้นอยู่ระหว่างความสัมพันธ์ของเขากับวินเซนต์ เพราะเนื่องจากว่าอีกฝ่ายนั้นอารมณ์ฉุนเฉียวได้ง่ายดายมาก แล้วก็ขี้สีนขี้เหวี่ยงด้วย ถ้าหากว่าล้ำเส้นเพียงเล็กน้อยล่ะก็อย่าหวังเลยว่าจะรอด


    เจเรมี่ยืนอยู่หน้าห้องนอนของวินเซนต์เป็นเวลาหลายนาทีเพระไม่กล้าเคาะประตู เวลานี้วินเซนต์อาจจะนอนหลับพักผ่อนอยู่ก็ได้ แล้วเขาเองก็ไม่อยากจะรบกวนอีกด้วย อีกนัยหนึ่งก็คือ กลัวว่าวินเซนต์จะโกรธเขาจนเลือดขึ้นหน้าเพราะรบกวนการนอนนั่นเอง


    'ทำไงดี เราเองก็ไม่กล้ารบกวนเขาด้วย' เจเรมี่คิดในใจ 'ถ้าหากว่าเราเข้าในห้องไปแล้วรบกวนเขาล่ะก็..ไม่อยากจะคิดถึงสภาพหลังจากนี้เลยแฮะ...' ภาพหลอนในใจของเจเรมี่เริ่มลอยเข้าทุกทีๆ ถ้าหากว่าเขาเคาะประตูแล้วก็เรียกชื่อของวินเซนต์ล่ะก็ จะเกิดอะไรขึ้นกันนะ


    เจเรมี่กัดฟันตนเองแน่น แล้วก็บ่นในใจที่วินเซนต์นั้นช่างหัวดื้อเหลือเกิน เอาแต่ใจตนเองแล้วก็ขี้วีนขี้เหวี่ยงบ่อยด้วย ผู้อาวุโสก็เช่นกัน ใช้ใครไม่ใช้ดันมาใช้เขาให้มาเรียกแวมไพร์หัวดื้อตนนี้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จึงยอมตอบด้วยความดื้อเงียบแล้วก็ยอมทำตามแต่โดยดี


    เขารวบรวมความกล้าขึ้นมา พลางเรียกขวัญกำลังใจของตนเองให้มากขึ้น ถ้าหากว่าเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นภายในไม่กี่วินาทีหลังจากนี้ เขาจะกลายเป็นผีมาหลอกแวมไพร์ทุกตนเลย!



    ก๊อกๆ



    กำปั้นเล็กเคาะบนแผ่นไม้สีดำสองครั้ง พลางเรียกชื่อเพื่อนสนิทหลายๆครั้งจนกว่าอีกฝ่ายจะตอบรับ "วินเซนต์! เจ้ายังหลับอยู่ใช่ไหม? ข้าขอเข้าไปนะ"


    แต่ทว่าอีกฝ่ายนั้นกลับเงียบตอบเจเรมี่ ไม่มีเสียงตอบรับจากความเงียบอันน่ากลัวแบบนี้สักนิด บรรยากาศในตอนนี้เดดแอร์และเย็นยะเยือกยิ่งกว่าไซบีเรียอีกเสียด้วยซ้ำ เวลาผ่านไปเป็นเกือบสองสามนาที เสียงตอบรับจากสรวงสวรรค์ก็ดังออกมา แต่ดันกลับเย็นชาซะอย่างนั้น "เข้ามาสิ"


    เจเรมี่กลั้นหายใจก่อนจะบิดลูกบิดประตูและดันเข้าไปข้างใน พบว่าวินเซนต์กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือที่อยู่ใกล้ๆกับเตียงท่ามกลางแสงจากโคมไฟ เขาปิดประตูอย่างเงียบๆเพื่อไม่ให้วินเซนต์ที่กำลังอ่านหนังสือต้องเสียสมาธิ


    "นั่งก่อนสิ" ร่างบางกล่าวโดยที่ไม่ได้หันหลังมาคุยกับเขาแต่อย่างใด สายตาทั้งสองนั้นกำลังจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าตนเองแทน เจเรมี่เดินไปนั่งบนโซฟาสีดำอย่างเงียบๆและช้าๆ ตั้งแต่ที่เขาเข้ามาในห้องนอนของวินเซนต์ก็ได้รู้สึกถึงพลังงานบางอย่างในห้องนี้


    "ทำไมห้องเจ้าหนาวจังเลยวินเซนต์" เขาถาม


    "ข้าชอบอากาศแบบนี้" วินเซนต์ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ก่อนจะย้อนถามกลับไป "แล้วเจ้ามาทำอะไรที่นี่? ผู้อาวุโสให้เจ้ามาตามข้าหรือ?"


    "จะ เจ้ารู้ได้ไง!?"


    "ที่เจ้ามาหาข้าในทุกๆครั้งก็มีแค่เรื่องนี้ไม่ใช่เหรอ?" ดวงตากลมละสายตาจากหนังสือมามองเพื่อนสนิทของตนเอง ก่อนจะหันกลับมาอ่านหนังสือเหมือนเดิมด้วยสีหน้าเรียบเฉย



    เย็นชาได้อีก



    "เจ้าไปบอกเขาซะ ว่าข้าไม่ลงไป"


    "นี่ๆ มีแวมไพร์มากหน้าหลายตามาประชุมนะ อีกอย่างพวกเขาอยากจะพบเจ้าด้วย เจ้าก็น่าจะรู้นะว่าเจ้าคือนักรบแวมไพร์ที่เก่งที่สุดน่ะ ยังไงๆเจ้าก็ต้องลงไปอยู่แล้ว"


    เจเรมี่พยายามเกลี้ยกล่อมวินเซนต์ให้คล้อยตาม แต่ทว่าอีกฝ่ายนั้นกลับไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย ซ้ำยังปล่อยให้อยู่ท่ามกลางความเย็นยะเยือกของอุณหภูมิในห้องและออร่าความน่ากลัวของวินเซนต์อีก


    ร่างบางถอนหายใจด้วยความรำคาญ ก่อนจะตอบเพื่อนสนิทของตนเองไป "ยังไงข้าก็ไม่ไป"



    กะไว้แล้วเชียวว่าต้องพูดแบบนี้



    "ไปเถอะน้าวินเซนต์ ข้าขอล่ะ" เจเรมี่ออดอ้อนเต็มที่ "ผู้อาวุโสให้ข้ามาตามเจ้า แล้วก็คาดโทษข้าเอาไว้ด้วยว่าถ้าหากว่าข้าไม่สามารถให้เจ้าลงไปต้อนรับแวมไพร์ได้ ข้าก็จะโดนเล่นงานนะ ลงไปด้านล่างกับข้าเถอะนะ นะๆๆ"


    "เจเรมี่" วินเซนต์กดเสียงต่ำจนน่ากลัว "ยังไงนั่นก็เป็นเรื่องของเจ้าอยู่แล้วนี่ ไม่เกี่ยวกับข้าเสียหน่อย"


    "นี่เจ้าจะไม่ลงไปจริงๆเหรอ...?"


    เจเรมี่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลงด้วยความกลัว สายตาของแวมไพร์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนักรบที่เก่งที่สุด แล้วก็น่ากลัวที่สุดได้จับจ้องมาที่เขาเป็นลูกเดียว ให้ตายเถอะ เขารู้สึกว่าตนเองกำลังคุยกับหุ่นไล่กาอย่างไรอย่างนั้น เย็นชาจนน่ากล้วได้อีก


    ในที่สุด วินเซนต์ก็ยอมลงไปตามที่เจเรมี่ได้ออดอ้อนเอาไว้เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมานี้ เขาเดินผ่านเพื่อนสนิทและเปิดประตูเดินออกไปจากห้องด้วยความไม่สบอารมณ์ที่ถูกบังคับแบบนี้ ส่วนทางด้านแวมไพร์ที่ตัวเล็กกว่าที่พึ่งได้สตินั้นก็รีบตามไปทันที


    "วินเซนต์! เจ้าสอบไลแคนท์ได้กี่ตัวแล้ว?"


    "นี่วินเซนต์! เป็นยังไงบ้างกับการไล่ฆ่าไลแคนท์น่ะ?"


    "อีกไม่นานก็คงโดนพวกไลแคนท์เอาคืนบ้างแล้วล่ะ ไล่ฆ่าพวกนั้นซะแบบนั้นน่ะ"


    ร่างบางกัดฟันแน่นจนเป็นสันนูนขึ้นมาทั้งขมับและกราม มือบางทั้งสองก็กำแน่นราวกับว่าอัดอั้นอารมณ์โกรธเอาไว้ พลางนับเลขในใจเพื่อให้ความโกรธบรรเทาลงอย่างช้าๆ แต่ก็ไม่เป็นดังที่เขาได้คาดเอาไว้เลย


    เจเรมี่รู้สึกกังวลและรู้สึกผิดเป็นอย่างมากที่ลากวินเซนต์มาร่วมงานด้วย ใจจริงแล้วเขาน่ะไม่อยากจะบังคับเพื่อนตนเองแบบนี้เลย แต่คำสั่งของผู้อาวุโสนั้นเป็นประกาศิตมากที่สุด ขัดคำสั่งไม่ได้เลยสักนิด


    "เอ้า!! เงียบๆ!!" ผู้อาวุโสตะโกนท่ามกลางความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในห้องโถงใหญ่ ความเงียบปกคลุมไปทั่วเมื่อได้ยินคำสั่งอันหนักแน่น วินเซนต์หลับตาลงด้วยความรำคาญกลายๆกับขอบคุณคำสั่งของผู้อาวุโสที่ทำให้พวกแวมไพร์ปากดีพวกนี้เงียบจนได้


    "ที่ข้าเรียกพวกท่านทั้งหลายมาในวันนี้! ก็เพื่อฉลองชัยชนะของแวมไพร์!!"


    เสียงปรบมือและตะโกนด้วยความดีใจนั้นดังออกมาหลังจากจบประโยคของผู้อาวุโส ก่อนจะเงียบลงอีกครั้งเพื่อฟังคำประกาศอีกครั้ง วินเซนต์กอดอกของตนเองพร้อมกับพิงผนังมองแวมไพร์ที่มีอายุมากกว่าพูด


    "เหล่าไลแคนท์นั้นเป็นฝ่ายปราชัยแก่พวกเรามาหลายชั่วอายุ! จะไม่มีเรื่องใดที่ต้องกังวลแก่พวกมันอีกต่อไปแล้ว!! พวกมันก็เป็นแค่เหล่าไลแคนท์อมมือ ที่ไม่มีน้ำยามาต่อกรกับพวกเรา!!"


    "ขี้โม้ซะไม่มี..." ร่างบางพูดในใจพร้อมกับจี้ปากด้วยความไม่พอใจกับคำพูดของผู้อาวุโสที่บอกว่าพวกไลแคนท์เป็นแค่เด็กอมมือ ไม่มีทางมาต่อกรกับแวมไพร์



    แต่หารู้ไม่ว่า คำสบประมาทนั้นมันทำให้พวกไลแคนท์ที่ปะปนอยู่ ณ ที่แห่งนี้รู้สึกโกรธขึ้นมาแล้ว...



    วินเซนต์มองซ้ายมองขวาพลางเอามือบางซุกเข้าในเสื้อคลุมสีดำของตนเองไปด้วยความระแวง คิ้วทั้งสองขมวดเป็นปมเพื่อพิจารณาของแวมไพร์ที่อยู่ตรงนี้ว่าตนไหนมีความผิดปกติบ้าง เพราะเขารู้สึกว่า ที่ตรงนี้มันไม่ได้มีแค่เหล่าแวมไพร์อย่างแน่นอน


    "วินเซนต์? เจ้าทำอะไรของเจ้า? เอามือซุกเข้าในเสื้อคลุมทำไม?"


    "ท่านไม่รู้หรอกว่าตรงนี้กำลังจะเกิดอะไรขึ้น" คนตัวเล็กเว้นคำพูด "มันไม่ได้มีแค่แวมไพร์ที่อยู่ตรงนี้" ก่อนที่สายตาจะจับผิดแขกเหรื่อที่มางานฉลองในวันนี้


    "เจ้ากำลังพูดอะไรของเจ้า? ที่นี่มีแค่แวมไพร์นะ เจ้าคิดมากไปหรือเปล่า"


    "ข้าไม่ได้คิดมาก เพราะมันคือเรื่องจริง" ร่างบางก็ยังคงยืนยังคำพูด "ข้าได้กลิ่นสาปของหมาแถวๆนี้ด้วยน่ะสิ"


    "ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงล่ะก็...ตายโหงล่ะสิ..." เจเรมี่เอามือล้วงกระเป๋าทั้งสองของตนเองพลางจับผิดแวมไพร์ที่ละตนๆตามเพื่อนสนิทของตนเอง แต่ก็ไม่เกิดเหตุการณ์อะไรที่ผิดปกติเลยสักนิด


    ความกดดันเริ่มเกิดขึ้นกับแวมไพร์ทั้งสองตน เหงื่อเริ่มผุดออกมาจากรูขุมขน เป็นสัญญาณให้รู้ว่าตอนนี้เขาทั้งสองนั้นตื่นเต้นเพียงใด แล้วก็รอไลแคนท์ว่าจะโผล่มาตอนไหน


    ผู้อาสุโสก็ยังคงพูดต่อไปโดยไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่าเหตุการณ์ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น บรรยากาศก็ยังคงครึกครื้นเหมือนเดิมราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น


    มีชายคนหนึ่งหันไปมองเพื่อนที่ยืนอยู่ไม่ใกล้แล้วก็ไม่ไกลจากกัน พวกเขาพยักหน้าหนึ่งครั้งก่อนจะก้มตัวลงกับพื้น แล้วทันใดนั้นเอง ร่างกายของพวกเขาทั้งสองก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับขนสีน้ำตาลเข้มที่ผุดออกมาจากร่าง


    เสียงคำรามดังก้องไปทั่วคฤหาสน์ แวมไพร์ทุกตนต่างก็เบิกตากว้างเมื่อเห็นร่างที่แท้จริงของไลแคนท์ ไม่อยากจะเชื่อว่าพวกไลแคนท์จะแฝงตัวมาในนามของแวมไพร์มาในคฤหาสน์แห่งนี้ได้ เสียงกรีดร้องของดหบ่าแวทไพร์อลหม่านไปหมด ทำให้พวกแวมไพร์ที่มีหน้าที่คุ้มกันผู้อาวุโสก็ต้องออกมายับยั้งเหตุการณ์นี้ให้จงได้


    "ไลแคนท์!!"


    "โฮกกก!!"


    วินเซนต์และเจเรมี่รีบเอาหลังชนกันเพื่อที่จะมองเห็นได้รอบด้าน มือบางรีบคว้าปืนที่ซ่อนเอาไว้ในเสื้อคลุมสีดำออกมาพร้อมกับระดมยิงไปที่ไลแคนท์ทุกตนที่ได้กลายร่างเป็นร่างที่แท้จริงแล้ว


    ร่างบางรีบวิ่งออกจากเพื่อนสนิททันทีเมื่อมีไลแคนท์ตนหนึ่งพุ่งเข้ามาหมายที่จะทำร้ายพวกเขาอย่างรวดเร็ว กรงเล็บของไลแคนท์กวัดแกว่งไปทั่วจนวินเซนต์แทบหลบไม่ทัน


    คนตัวเล็กรีบใช้เท้าเหยียบไปที่แขนซ้ายของไลแคนท์ตนที่กำลังเข้ามาทำร้ายอย่างรวดเร็ว ก่อนจะดีดร่างของตนเองให้ตีลังกาข้ามศีรษะไปอย่างรวดเร็ว และใช้ปืนทั้งสองกระบอกที่ถืออยู่นั้นยิงเข้าไปที่ท้ายทอยของไลแคนท์ตนนั้นจนสมองกระจุย


    เลือดสีแดงสาดกระเซ็นเลอะพื้นและผนังห้องเต็มไปหมด ขาบางทั้งสองสัมผัสกับพื้นอย่างสวยงาม ในขณะที่ร่างบางกำลังนั่งคุกเข่าอยู่นั้นก็รีบใช้ปืนที่ถือมือขวายิงไปที่ศีรษะไลแคนท์ที่กำลังจะเข้ามาทำร้ายเขาทันที จนแน่นิ่งไปในที่สุด สรุปคือ นัดนั้นร่างบางยิงโดยที่ไม่ได้หันไปมองเลย


    เสียงปืนดังก้องไปทั่ว ลูกกระสุนนับร้อยตกลงบนพื้นลูกแล้วลูกเล่า เหล่าแวมไพร์บางตนได้สิ้นชีพไปเนื่องจากถูกไลแคนท์ทำร้ายปางตายและทรมานจากบาดแผลอย่างหนัก หรือไม่ก็ถูกฆ่าไปแล้ว ตัวเลขไม่แน่ชัดแต่ว่ามีแวมไพร์นับสิบสิ้นชีพใน ณ ที่แห่งนี้



    ไม่เคยคิดเลยว่า พวกไลแคนท์จะใช้จังหวะนี้ในการลอบสังหารแวมไพร์



    ดวงตากลมมองไปรอบๆเพื่อหาไลแคนท์ต่อไป ภาพที่เขาเห็นนั้นคฤหาสน์เต็มไปด้วยรูพรุนเนื่องจากกระสุน เพดานหล่นลงมาทับแวมไพร์ โชคดีแค่บาดเจ็บสาหัส โชคร้ายสำหรับบางตนจนตายคาที่ เพลิงร้อนนั้นกำลังไหม้เฟอร์นิเจอร์ต่างๆจนไม่แทบเหลือชิ้นดี


    "วินเซนต์! ระวังข้างหลังเจ้า!" เจเรมี่ตะโกนบอกวินเซนต์เมื่อเห็นไลแคนท์ที่ตัวใหญ่ที่สุดกำลังวิ่งมาทางนี้ ร่างบางรีบลุกขึ้นและใช้โซ่ที่ซ่อนเอาไว้ใต้แขนเสื้อเอาออกมา เขาควงไปควงมาสองสามรอบก่อนจะเหวี่ยงไปที่ไลแคนท์จนปมนั้นมัดเข้าที่แขนซ้ายอย่างแรง


    วินเซนต์ออกแรงจับและดึงเชือกเต็มที่ ไลแคนท์ตนนั้นเหวี่ยงแขนไปมาจนร่างบางปลิวไปตามแรงเหวี่ยง มือบางที่ถือปืนอยู่นั้นก็ระดมยิงไปที่ไลแคนท์ให้ทั่วร่าง ส่วนมืออีกข้างก็ยังคงจับเชือกสีขาวแน่นไม่ยอมปล่อยๆ


    เสียงคำรามด้วยความเจ็บปวดนั้นดังออกมาทุกครั้งเมื่อลูกกระสุนที่ออกมาจากปืนกระทบร่างของไลแคนท์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้ จุดสุดท้ายของความอดทนและความเจ็บนั้นส่งผลทำให้ไลแคนท์ตนนั้นเหวี่ยงเชือกลงหมายที่จะให้ร่างของวินเซนต์กระแทกพื้น



    ซึ่งมันก็เป็นจริง



    ตึง!!



    "อั่ก!!"


    วินเซนต์ร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อแผ่นหลังบางกระแทกพื้นอย่างรุนแรง จนในตอนนี้ร่างกายไม่สามารถขยับร่างไปไหนได้ ราวกับว่าร่างกำลังจะแตกสลายเป็นผุยผงหากขยับเพียงนิดเดียว แค่หายใจก็เจ็บไปหมดแล้ว


    "วินเซนต์!" เจเรมี่รีบวิ่งเข้ามาช่วยเพื่อนสนิทของตนเองเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายสู้ไม่ไหวแล้ว แต่ทว่าไลแคนท์ที่ทำร้ายร่างบางนั้นปามีดไปยังเจเรมี่จนร่างเล็กกระเด็นไปติดผนัง เพราะแรงที่ปามีดนั้นมากมายมหาศาลเหลือเกิน


    เมื่อได้สติ ร่างเล็กรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมากที่ข้อมือข้างซ้ายของตนเอง พอหันไปมองก็พบว่า มีดเล่มใหญ่กำลังปักบนมือของเขา ซ้ำยังทะลุเนื้อไปยังผนังจนธารน้ำสีแดงฉานไหลออกมาไม่หยุด เจเรมี่กรีดดร้องด้วยความเจ็บปวดและเห็นวินเซนต์ที่สลบไปแล้วถูกไลแคนท์ตนนั้นอุ้มหนีไปจากคฤหาสน์แห่งนี้


    "วินเซนต์!! ไม่นะ!"


    เจเรมี่ออกแรงกระชากมีดที่ปักทะลุเนื้อของตนเองจนสามารถเอาออกได้ มือเล็กกำแน่นก่อนจะวิ่งตามไลแคนท์ตนนั้นไปอย่างรวดเร็ว แต่กลับไม่ทันเสียแล้ว วินเซนต์ถูกลักพาตัวไปเรียบร้อยแล้ว


    เจเรมี่ทรุดนั่งลงบนพื้นด้วยความเสียใจที่ไม่สามารถช่วยเหลือเพื่อนสนิทตนเองได้ น้ำใสๆเอ่อล้นออกมาจากดวงตาทั้งสอง เหตุการณ์ยุติลงเมื่อไลแคนท์ตัวใหญ่ที่สุดได้พาเพื่อนสนิทของเขาไปเสียแล้ว ไลแคนท์ตนอื่นๆที่เหลือนั้นก็รียตามหัวหน้าไปอย่างรวดเร็ว จนเหบือไว้แค่บาดแผลและร่องรอยจากการต่อสู้เอาไว้ให้แวมไพร์ดูต่างหน้า


    มือเล็กทั้งสองทุบพื้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า พลางนึกโทษตนเองที่คะยั้นคะยอเพื่อนสนิทของตนเองให้ลงมาชั้นล่าง ตอนนี้เขารู้แล้วว่าทำไมวินเซนต์ถึงไม่ยอมลงมาสังสรรค์ที่ด้านล่าง ยอมเก็บตัวอยู่แต่ในห้องแบบนั้น เพราะถ้าหากว่าเขาลงไป พวกไลแคนท์ที่แฝงตัวมานั้นหมายที่จะลักพาตัววินเซนต์ไปนั่นเอง แล้วพวกแวมไพร์จะได้ไม่ต้องมีนักรบที่เก่งที่สุดมาเป็นตัวขัดขวางพวกไลแคนท์



    ถ้าหากว่าแวมไพร์ขาดนักรบที่เก่งที่สุดอย่างวินเซนต์ไปล่ะก็ ราวกับว่าพวกเขาไม่มีแขนซ้ายและขวาเลยล่ะ



    ซึ่งผลพวงเหล่านั้นทำให้วินเซนต์ต้องถูกลักพาตัว ตอนนี้เหล่าแวมไพร์ได้รับรู้แล้วว่า พวกไลแคนท์นั้นได้แข็งแกร่งขึ้นมากแค่ไหนถึงสามารถวางแผนมาอย่างดีจึงจับวินเซนต์ไปได้แบบนี้


    "นี่สินะ คือการตอบโต้ของไลแคนท์หลังจากที่ถูกแวมไพร์กดขี่มาโดยตลอด"









    ++









    ในสถานที่แห่งหนึ่ง บนเตียงใหญ่นุ่มๆนั้นปรากฏร่างหนึ่งที่กำลังนอนหลับใหล ใช้เวลาไม่นานนัก เปลือกตาบางก็ค่อยๆเปิดขึ้นมา กระพริบสองสามทีก่อนจะเบิกกว้างเมื่อรู้สึกว่าสถานที่แห่งนี้เขาไม่รู้จักเลย รู้เพียงแต่ว่านี่อาจจะเป็นห้องนอนของใครสักคนเท่านั้น


    ร่างบางพยายามพลิกร่างของตนเองขึ้นมานั่งบนเตียง แต่กลับไม่สามารถทำเช่นนั้นได้เลย เพราะเนื่องจากบาดเจ็บหลังจากการต่อสู้กับแวมไพร์ตนนั้น เขาจำได้แค่ว่าตนเองถูกเหวี่ยงลงบนพื้นอย่างแรง หลังจากนั้นก็ไม่ได้สติอีกเลย


    "เจเรมี่ล่ะ?" คนตัวเล็กกลอกตาซ้ายขวาไปมาเพื่อมองหาเพื่อนสนิทของตนเอง แต่ทว่าก็ไม่พบแม้แต่เสียงและร่างของเจเรมี่เลยสักนิด ตอนนี้วินเซนต์รู้สึกหมดอาลัยตายอยากมาก แค่ขยับตัวก็ทำไม่ได้ ทำได้แค่นอนนิ่งๆแล้วก็กลอกตาไปมาเท่านั้น


    วินเซนต์จำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่ตนเองเคยลุกขึ้นไปไหนบ้างหลังจากตื่นนอน จำไม่ได้แม้กระทั่งว่าตนเองทำอะไรไปบ้างในทุกๆเช้า พอมารู้ตัวอีกทีก็ไม่สามารถขยับไปไหนได้เลย ความสิ้นหวังเริ่มเกาะกินหัวใจของร่างบางทีละนิดๆ มันช่างทรมานเหลือเกิน



    แอ๊ด...



    เสียงเปิดประตูดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบงัน ดวงตากลมมองไปที่ประตูเพราะอยากรู้ว่าใครกันที่เข้ามา พบว่า มีชายคนหนึ่งกำลังยืนกอดอกและพิงขอบประตูอยู่ตรงนั้น


    "ฟื้นแล้วเหรอ?" เขาถาม แต่ร่างบางไม่คิดที่จะตอบ ชายคนนั้นกระตุกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะปิดประตูและสาวเท้าเข้ามาใกล้ๆเตียงที่ร่างบางกำลังนอนอยู่


    วินเซนต์หรี่ตามองเพื่อพินิจพิเคราะห์รูปร่างหน้าตาของอีกฝ่าย คนนั้นดูตัวสูงกว่าเขา แล้วก็เหมือนจะเป็นพวกเล่นกล้ามเสียด้วย ถ้าให้มาเทียบกับเขาล่ะก็ เขากลายเป็นพวกขี้ก้างไปเลย ในขณะที่อีกฝ่ายขนะขาดลอยเลยล่ะ


    "รู้อะไรไหม? เจ้าเล่นข้าเสียเป็นแผลเลยนะ ไม่พอ เยอะด้วยล่ะ" เขากระตุกยิ้ม ก่อนจะพูดต่อ "อย่าทำหน้างงสิวินเซนต์ เจ้าน่ะยิงข้าซะจนร่างของข้าแทบจะพรุนไปหมดแล้วเนี่ย จำไม่ได้เหรอ? :)"



    ร่างบางเบิกตากว้าง อย่าบอกนะว่า...คนๆนี้คือหัวหน้าไลแคนท์น่ะ!?



    "เบิกตากว้างยังกะไข่ห่านเลยนะ"


    นิ้วชี้แข็งไล้ไปตามกรอบหน้าของคนตัวเล็ก สายตาอันเฉียบคมจับจ้องไปที่คนสวยซึ่งกำลังนอนอยู่ แวมไพร์ตนนี้ถึงจะเป็นนักรบที่เก่งและแกร่งที่สุด แต่ก็สวยและหน้าหวานในสายตาของไลแคนท์และแวมไพร์อีกหลายตนมากๆ โดยเฉพาะเขา...


    "เจเดน เจเค. วอคเกอร์" เขาพูด "นั่นคือชื่อของข้า"


    "เอามือออกไปนะ..." ร่างบางกล่าวด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว พยายามที่จะยกมือขึ้นมาปัดมือของอีกฝ่ายออกไป แต่กลับทำไม่ได้เลย ใบหน้าหวานรีบหันไปทางอื่นเพื่อหลบสัมผัสแปลกๆนี้ "จะ เจ้าต้องการอะไรจากข้า? ต้องการฆ่าข้าใช่ไหม?"


    คนที่กำลังสนุกกับการแกล้งแวมไพร์หน้าหวานตนนี้ก็หัวเราะลั่น นึกไม่ถึงจริงๆว่าร่างบางจะไร้เดียงสาได้ถึงเพียงนี้ ถึงจะเก่งและแกร่งที่สุด แต่ก็ไร้เดียงสาจนอยากจะแกล้งให้หนักๆกว่านี้อีกนิด


    "หะ หัวเราะทำไม! มันน่าขำตรงไหนมิทราบ!"


    "เจ้านี่ยังเหมือนตอนนั้นเลยนะ ไร้เดียงสาและน่ารักแบบนี้ไม่มีผิดเพี้ยน แต่น่าเสียดายที่..." เขาเว้นคำพูด "เจ้าคิดว่าข้าต้องการอะไรจากเจ้างั้นหรือวินเซนต์ เอนเดอร์...?"


    ปลายนิ้วชี้หนาไล้จากพวงแก้มสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย กรีดลงมายังซอกคอขาวลงมายังทรวงอกข้างซ้าย ใบหน้าคมกริบกระซิบเข้าที่ใบหูของร่างบางด้วยน้ำเสียงแหบพร่าจนสติของร่างบางปั่นป่วนไปหมด


    "ข้าต้องการ 'ไอ้นี่' กลับมาต่างหากล่ะ :)"






    #ฟิคต่างภพกุกวี






    TBC. [26:06:2018]


    โว้ยยยยยย อยากจะร้องไห้เป็นภาษาเยอรมัน พระนางพบกันแย้วววว ;-; จุดพลุค่ะทุกคน! จุดพลุ!! ปังๆๆๆ!! เล่นบ้าอะไรเนี่ยโอ้ยยยย 5555555 ผ่านมาตั้งสามตอน ฮือๆๆ กว่าจะมีมม. เจเดนกับวินเซนต์สักที รู้สึกปลื้มปริ่มปานถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง วินเซนต์จ๋าา เย็นชาได้อีก เจเรมี่เขาก็กลัว 5555 มาหาแม่มะลูก (พากิงนม and ตบตูดนอน ZZzzz...)


    อย่าลืมเฟบ โหวต แชร์ กดให้กำลังใจ สกรีมฟิคในทวิตเตอร์หรือว่าคอมเมนต์เพื่อเป็นกำลังใจให้ไรเตอร์ด้วยนะคะ ถ้าฟีดแบคดีเท่ากับไรเตอร์ได้กำลังใจและอัพตอนต่อๆไปนะคะ :)

    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×