ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Wang Yibo X Xiao Zhan | Red Thread: A Labyrinth (红线: 迷宫) #ด้ายแดงป๋อจ้าน

    ลำดับตอนที่ #4 : - คลังคำศัพท์ในเรื่องด้ายแดงป๋อจ้าน -

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.65K
      69
      1 ม.ค. 66

    คลังคำศัพท์ในเรื่อง

    อัพเดตล่าสุด 2023.01.01


    คลังคำศัพท์และข้อมูลต่างๆ ในเรื่องด้ายแดงป๋อจ้าน ทั้งตัวละคร ตระกูลทั้งห้า สถานที่ พลังปราณ สิ่งของต่างๆ และอื่นๆ อีกมากมายในเรื่อง หากใครอยากทราบข้อมูลสามารถหาอ่านได้ในตอนนี้ได้เลยนะคะ ข้อมูลอัพเดตเรื่อยๆ ค่ะ


    *หากใครอ่านในมือถือ แนะนำให้ตั้งค่าการอ่านเป็นแบบแนวนอนนะคะ เพราะจะได้เห็นดีเทลของข้อมูลอย่างชัดเจนด้วยค่ะ



    หมวดหมู่

    ตัวละครทั้งหมด

    • ตัวละครหลัก

    • ฝ่ายห้าตระกูลปราบมาร

    • พันธมิตรของห้าตระกูลปราบมาร

    • ฝ่ายมารทมิฬ

    • ตัวละครอื่นๆ


    ข้อมูลทั้งหมดในเรื่อง

    • ห้าตระกูลปราบมาร

    • ตระกูลอื่นๆ

    • พลังปราณ

    • สิ่งของ & อาวุธ

    • การนับเวลาของจีนโบราณ

    • ศัพท์ที่เกี่ยวกับเวลา

    • หน่วยวัดความยาว

    • เหตุการณ์สำคัญในเรื่อง

    • ตำนานด้ายแดงแห่งโชคชะตา



    ตัวละครหลัก

    นามของเซียน

    เนื้อเรื่อง

    รู้จักในนาม

    เซียวจ้าน

    เซียนหนุ่มที่มีชีวิตล่องลอยและอ้างว้างได้สิ้นชีวิตอยู่ ณ เนินเขาอย่างเดียวดาย ทว่าได้รับโอกาสให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่เขาได้สิ้นชีวิตไปหนึ่งปี อีกทั้งยังได้รับความสามารถที่มองเห็นด้ายแดงของคนอื่นรวมไปถึงตัวเอง

    เป็นคนร่าเริง มองโลกในแง่ดี ชอบดื่มสุรามาก แต่ลึกๆ แล้วเป็นคนที่มีน้ำใจ เห็นอกเห็นใจผู้อื่น ชอบช่วยเหลือและเป็นคนขี้กังวลด้วยเช่นกัน เซียวจ้านมักจะสวมหน้ากากเพื่อปิดบังใบหน้าของตนเองเอาไว้ตลอดเวลา เนื่องด้วยเหตุผลที่ว่าเคยถูกใส่ร้ายจนต้องหนีออกจากวัง และกลัวว่าจะถูกสังหารตามข่าวที่ได้ยินมา แต่จะถอดออกก็ต่อเมื่ออยู่กับหวังอี้ป๋อและหลิวเหวินจินเท่านั้น ทว่าภายหลังเซียวจ้านไม่สวมหน้ากากอีกต่อไปเพราะหลิวเหวินจินตัดหน้าม้าให้

    ชิงซีจวิน 清溪君 (สมญานาม)

    คุณชายเซียว (เจิ้งฝานซิง, หวังจื่ออี้, หวังอี้โจว,อนุชนสกุลหวัง, ประมุขสกุลอื่นๆ)

    อดีตองครักษ์เซียวจ้าน (ขุนนาง, เสนาบดี, บัณฑิต, ชาวบ้าน)

    เจ้าคนแซ่เซียว (ผู้อาวุโสสกุลหวัง)

    เจ้าศิษย์โง่เง่า / เจ้าศิษย์งี่เง่า (หลิวไห่ควาน)

    ซือจุน (เมิ่งเหม่ยฉี)

    หวังอี้ป๋อ

    รองผู้นำเซียนแห่งตระกูลหวัง เนื้อคู่ของเซียวจ้าน เป็นคนหน้านิ่ง เย็นชา เจ้าระเบียบ พูดน้อย มักจะใช้สายตาในการสื่อสารผู้อื่นโดยส่วนมาก เข้าหาคนอื่นไม่เก่ง แต่ลึกๆ  แล้วเป็นคนที่โหยหาความรักและความเอาใจใส่ของคนรอบข้างมาก

    เก่งศิลปะการต่อสู้ การใช้มนตร์ใช้ปราณในการปราบมาร จนหลายคนต่างก็นับถือเขาว่าเป็นเซียนที่เป็นเลิศทางด้านการปราบมารมาก หวังอี้ป๋อมักจะพกกระบี่ยาวที่มีนามว่ากระบี่หมิงเยว่เอาไว้ตลอดเวลาเพื่อป้องกันตัว

    หย่งเต๋อจวิน 勇德君 (สมญานาม)

    ท่านหวังเถียนเถียน (เซียวจ้าน)

    คุณชายรอง (เจิ้งฝานซิง, อนุชนสกุลหวัง)

    หลิวเหวินจิน

    สหายของเซียวจ้าน นักบุ๋นจากตระกูลหลิวที่เซียวจ้านชุบชีวิตขึ้นมาหลังจากที่ถูกสังหารโดยใครบางคน เป็นคนที่มีวาทะศิลป์ ตามใจคนอื่นมากจนเกินไป ชอบดื่มสุราเช่นเดียวกับเซียวจ้าน

    เป็นคนที่ควบคุมอารมณ์ร้อนของตนเองไม่ได้เมื่อมีใครมากล่าวว่าร้ายสหาย แต่จริงๆ  แล้วหลิวเหวินจินเป็นคนที่มั่นคงในความรู้สึกของตนเอง ซื่อสัตย์ รักสหายและยึดมั่นในอุดมการณ์มาก มักจะพกพัดขนนกชิงหลิงเอาไว้ตลอดเวลา

    ชิงเสวียหนี่ว์ 清雪女 / นารีหิมะว้าง (สมญานาม)

    เสี่ยวเหวิน (เซียวจ้าน)

    อาเหวิน (หลิวไห่ควาน)

    แม่นางหลิว (หวังจื่ออี้, หวังอี้โจว, เมิ่งเหม่ยฉี, อนุชนสกุลหวัง, ผู้อาวุโสสกุลหวัง, ประมุขสกุลอื่นๆ)

    เจิ้งฝานซิง 

    ศิษย์และอนุชนแห่งตระกูลหวัง เป็นหนึ่งในกลุ่มอนุชนที่มิใช่คนในตระกูล เนื่องจากว่าพลัดพรากจากครอบครัวมาตั้งแต่ยังเด็ก แล้วถูกคนในตระกูลหวังรับเลี้ยงและฝึกฝนจนได้เป็นหนึ่งในกลุ่มอนุชนของตระกูลหวัง

    เป็นคนนอบน้อมถ่อมตนมาก มีวาทะศิลป์ ใจเย็น แต่พูดและปฏิเสธคนอื่นไม่ค่อยเก่ง จึงมักจะถูกเอาเปรียบและถูกแกล้งอยู่บ่อยๆ ทว่าลึกๆ ในใจแล้วเป็นคนที่เข้มแข็ง ซื่อสัตย์และมีความเป็นผู้นำ

     



    ฝ่ายห้าตระกูลปราบมาร

    ตระกูลหวังแห่งหวายหนาน

    นามของเซียน

    สถานะ

    อื่นๆ

    หวังจื่ออี้

    ผู้นำเซียนและประมุขแห่งสกุลหวัง

    พี่ชายของหวังอี้ป๋อ

     

    หวังเจี้ยนเฉิง

    อนุชนแห่งสกุลหวัง

     

    หวังเยี่ยนเฉิน

    อนุชนแห่งสกุลหวัง

     

    หวังฮ่าวเซวียน

    อนุชนแห่งสกุลหวัง

     

    หวังจวิ้นข่าย

    อนุชนแห่งสกุลหวัง

     

    หวังหยวน

    อนุชนแห่งสกุลหวัง

     

    อี้หยางเชียนซี

    อนุชนแห่งสกุลหวัง

    เป็นหนึ่งในกลุ่มอนุชนที่มิใช่คนในตระกูลเช่นเดียวกับเจิ้งฝานซิง

    หวังอี๋เหริน

    อนุชนแห่งสกุลหวัง

    หมอหญิงแห่งสำนักแพทย์

     

    หวังเคอ

    อนุชนแห่งสกุลหวัง

    หมอหญิงแห่งสำนักแพทย์

     

    หวังอี้โจว

    สมญานาม : เซิ่งเทียนจวิน (圣天君)

    อดีตผู้นำเซียนและประมุขแห่งสกุลหวัง

    บิดาของหวังจื่ออี้และหวังอี้ป๋อ

     

    ผู้อาวุโสสกุลหวัง

    ชื่อจริง: - ไม่ปรากฏนาม -

     


    ตระกูลเฉินแห่งเสียนหยาง

    นามของเซียน

    สถานะ

    อื่นๆ

    เฉินเหว่ยถิง

    ประมุขแห่งสกุลเฉิน

     

    เฉินจั๋วเสวียน

    อนุชนแห่งสกุลเฉิน

     


    ตระกูลหยางแห่งเกาซาน

    นามของเซียน

    สถานะ

    อื่นๆ

    หยางมี่

    ประมุขแห่งสกุลหยาง

    ประมุขหญิงหนึ่งเดียวของสกุลหยาง

     

    หยางหยาง

    อนุชนแห่งสกุลหยาง

    พี่ชายของหยางจื่อ

     

    หยางจื่อ

    อนุชนแห่งสกุลหยาง

    น้องสาวของหยางหยาง

     


    ตระกูลโจวแห่งซื่อชวน (เสฉวน)

    นามของเซียน

    สถานะ

    อื่นๆ

    โจวเจี๋ยหลุน

    ประมุขแห่งสกุลโจว

    บิดาของโจวเจิ้นหนาน

     

    คุนหลิง (โจวฮูหยิน)

    ภริยาของโจวเจี๋ยหลุน

    มารดาของโจวเจิ้นหนาน

     

    โจวเจิ้นหนาน

    อนุชนแห่งสกุลโจว

    บุตรของโจวเจี๋ยหลุนและโจวฮูหยิน

     


    ตระกูลเมิ่งแห่งไฉอี้

    นามของเซียน

    สถานะ

    อื่นๆ

    เมิ่งลี่เจิน

    ประมุขแห่งสกุลเมิ่ง

    บุตรของเมิ่งเยี่ยนจวินและเมิ่งฮูหยิน

     

    เมิ่งเจีย

    อนุชนแห่งสกุลเมิ่ง

    พี่สาวของเมิ่งจื่ออี้

     

    เมิ่งจื่ออี้

    อนุชนแห่งสกุลเมิ่ง

    น้องสาวของเมิ่งเจีย

     

    เมิ่งเหม่ยฉี

    อนุชนแห่งสกุลเมิ่ง

    ศิษย์ของเซียวจ้าน

     



    พันธมิตรของห้าตระกูลปราบมาร

    นามของเซียน

    สถานะ

    อื่นๆ

    อวี๋ปิน

    อัครเสนาบดีของราชสำนัก

    ผู้นำกลุ่มบัณฑิตเฟิงหย่งเจิ้ง (สายลมแห่งความกล้าและถูกต้อง)

    สหายของเซียวจ้าน

     

    จูจ้านจิ่น

    เสนาบดีของราชสำนัก

    หนึ่งในสมาชิกกลุ่มบัณฑิตเฟิงหย่งเจิ้ง

     

    กัวเฉิง

    บัณฑิตของราชสำนัก

    หนึ่งในสมาชิกกลุ่มบัณฑิตเฟิงหย่งเจิ้ง

    สหายของเจิ้งฝานซิง

    อายุน้อยที่สุดในสมาชิกกลุ่มบัณฑิต

    หลิวไห่ควาน

    อดีตหัวหน้าอัครมหาเสนาบดีของราชสำนัก และอดีตผู้นำกลุ่มบัณฑิตเฟิงหย่งเจิ้ง

    อาจารย์ของหวังอี้ป๋อและเซียวจ้าน

    ลุงของหลิวเหวินจิน

     



    ฝ่ายมารทมิฬ

    นามของเซียน

    สถานะ

    อื่นๆ

    อัครมหาเสนาบดีเหอเสวี่ยตง

    หัวหน้าอัครมหาเสนาบดีของราชสำนัก

    เป็นผู้ที่คิดอยากจะกุมอำนาจทั้งหมดไว้ในมือ จึงใส่ร้ายเหล่าขุนนางรวมไปถึงเซียวจ้านจนหนีออกจากวังและการจับกุมของเหล่าทหารเมื่อหนึ่งปีก่อน

    เจ้าแห่งมารทมิฬฉีลา

    จอมมารทมิฬ สหายสนิทของอัครมหาเสนาบดีเหอเสวี่ยตง

    ทำการตกลงกับอัครมหาเสนาบดีเหอเสวี่ยตงเพื่อที่จะยึดอำนาจของราชสำนักและยุทธภพ

    เหอซื่อเหลียน

    บุตรชายคนโตของอัครมหาเสนาบดีเหอเสวี่ยตง

    เจ้าเมืองซือโฉว

    แม่ทัพหลวงของราชสำนัก

     

    สมเด็จพระจักรพรรดิซีฉาง

    นามเดิม : เหอซื่อเยี่ยน

    บุตรชายคนรองของอัครมหาเสนาบดีเหอเสวี่ยตง

    ฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน

     

    กุ่ยซานโยวหมิง

    หัวหน้าของเจ้าแห่งมารทมิฬฉีลาที่หลับใหลอยู่ในนรกมากว่าสิบล้านปี

     



    ตัวละครอื่นๆ

    ชื่อตัวละคร

    สถานะ

    อื่นๆ

    เมิ่งเยี่ยนจวิน

    อดีตประมุขแห่งสกุลเมิ่ง

    บิดาของเมิ่งลี่เจิน

    ปัจจุบันได้สิ้นชีวิตไปแล้ว

    เสี่ยวอิงเถา

    ม้าของเซียวจ้าน

    แปลว่าเชอร์รี่น้อย



    ห้ตระกูลปราบมาร

    ตระกูลหวังแห่งหวายหนาน (淮南王氏) ตระกูลแห่งสายลม

    สถานที่ตั้ง : หวายหนาน (สมญานาม : อ่าวจันทรา) อาศัยอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ บรรยากาศโดยรอบจะมีสายลมพัดผ่านตลอดเวลา มีแม่น้ำชื่อว่าซินเหอไหลผ่าน มีหมู่แมกไม้และดอกไม้เป็นจำนวนมาก

    จุดเด่นคือยึดถือกฎระเบียบห้าร้อยข้อเป็นหลัก ทำให้ตระกูลหวังนั้นขึ้นชื่อด้านการปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัดและการปราบมาร ถนัดการใช้กระบี่ มนตร์และลมปราณต่างๆเป็นหลัก ตระกูลหวังนั้นเป็นตระกูลเดียวที่ฝึกฝนเหล่าอนุชนให้เป็นเซียน อนุชนแห่งตระกูลหวังจะสวมอาภรณ์สีขาว เพื่อแสดงให้เห็นถึงสายลมที่พร้อมจะปัดเป่าเมฆหมอกแห่งหายนะออกไป

    เรือนพิรุณ : เป็นเรือนขนาดใหญ่ ภายในเรือนเป็นห้องโถงที่ใช้สำหรับทำกิจกรรมหรือพิธีกรรมต่างๆ โดยส่วนมากแล้วจะเป็นห้องทำงานของผู้อาวุโสสกุลหวังเสียมากกว่า

    หอสกุณา : หอฝึกจิตและหอน้ำชาของสกุลหวัง

    ห้องสุคนธมารุต : ห้องทำงานและห้องนอนของหวังอี้โจว

    เรือนนิลปัทม์ : ห้องนอนของหวังอี้ป๋อ

    เรือนมังกรหยก : ห้องนอนของหวังจื่ออี้

    เรือนพิสุทธิ์ : ห้องนอนของเซียวจ้าน


    ตระกูลเฉินแห่งเสียนหยาง (咸阳陈氏) ตระกูลแห่งแมกไม้

    สถานที่ตั้ง : เสียนหยาง (สมญานาม : ป้อมเกาทัณฑ์) อาศัยอยู่ทางตอนกลาง บรรยากาศโดยรอบของตระกูลนั้นรายล้อมไปด้วยป่าใหญ่ ทำให้บ้านเรือนของตระกูลเฉินนั้นเป็นสีเขียวและน้ำตาลเสียส่วนใหญ่

    เป็นตระกูลที่ขึ้นชื่อด้านการใช้ธนูเป็นอาวุธ ตระกูลเฉินนั้นเป็นตระกูลเดียวที่ฝึกฝนเหล่าอนุชนให้เป็นนักธนู อนุชนแห่งตระกูลเฉินนั้นจะสวมอาภรณ์สีเขียวเข้ม เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับธรรมชาติ

     

    ตระกูลหยางแห่งเกาซาน (高山杨氏) ตระกูลแห่งน้ำและสายฟ้า

    สถานที่ตั้ง : เกาซาน (สมญานาม : ดรรชนีวชิระ) อาศัยอยู่ทางตอนกลางและที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับตระกูลเฉิน ทว่าที่ตั้งของตระกูลหยางนั้นอยู่บนภูเขาสูงและมีน้ำตกใหญ่

    ขึ้นชื่อด้านการใช้พลังน้ำ กระบี่และไม้เท้าเป็นอาวุธเพื่อร่ายมนตร์อัญเชิญสายฟ้า ตระกูลหยางนั้นเป็นตระกูลเดียวที่ฝึกฝนเหล่าอนุชนให้เป็นนักอัญเชิญสายฟ้า อนุชนแห่งตระกูลหยางจะสวมอาภรณ์น้ำเงินและม่วง แสดงให้เห็นถึงความอ่อนโยนตามกระแสน้ำที่ไหลวน อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงการชำระสิ่งที่แปดเปื้อน หายนะและมลทินต่างๆ ให้ออกไปอีกด้วย

     

    ตระกูลโจวแห่งซื่อชวน (四川周氏) ตระกูลแห่งดิน

    สถานที่ตั้ง : ซื่อชวน (เสฉวน) (สมญานาม : ภูผาวิหคอาศัยอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ มีแม่น้ำสามสายบรรจบกัน คือแม่น้ำว่านหลี่ แม่น้ำเจียงอี และแม่น้ำหลินอัน

    ขึ้นชื่อด้านการใช้ทวนและพลังแห่งอสูร ตระกูลโจวนั้นเป็นตระกูลเดียวที่ฝึกฝนเหล่าอนุชนให้เป็นนักรบ อนุชนแห่งตระกูลโจวจะสวมอาภรณ์สีน้ำตาล ดำและเทา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความหนักแน่นในคำสัตย์สาบานดั่งขุนเขาที่จะกวาดล้างมารทมิฬออกไปจากยุทธภพ

     

    ตระกูลเมิ่งแห่งไฉอี้ (才艺孟氏) ตระกูลแห่งไฟ

    สถานที่ตั้ง : ไฉอี้ (สมญานาม : แดนอัคคีเผาล้าง) อาศัยอยู่ทางตอนใต้ ตระกูลเมิ่งนั้นมีจุดเด่นก็คือสภาพโดยรอบนั้นจะมีลาวาอยู่รอบๆ เนื่องจากมีที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับภูเขาไฟที่ปะทุตลอดเวลา

    ขึ้นชื่อด้านการใช้ร่ม สนับมือกรงเล็บและมีดสั้นเป็นอาวุธ เนื่องจากว่าตระกูลเมิ่งนั้นเป็นตระกูลเดียวที่ฝึกฝนเหล่าอนุชนให้เป็นนักฆ่า อนุชนแห่งตระกูลเมิ่งจะสวมอาภรณ์สีแดงเป็นหลัก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความร้อนแรงของเพลิงที่จะแผดเผาทุกสิ่งทุกอย่างให้ย่อยยับ โดยเฉพาะเหล่าอธรรม อีกทั้งเหล่าอนุชนแห่งตระกูลเมิ่งยังต้องสวมผ้าปิดหน้าสีม่วงเพื่อซ่อนเร้นใบหน้าของตนเองเอาไว้ด้วย

    หออนธการ : หอประชุมและห้องโถงใหญ่ของสกุลเมิ่ง



    ตระกูลอื่นๆ

    ตระกูลหลิวแห่งเสวี่ยนหยวน (烜园刘氏) ตระกูลแห่งหิมะและความหนาวเย็น

    สถานที่ตั้ง : เสวี่ยนหยวน (สมญานาม : วิหารว้างนภา) อาศัยอยู่ทางตอนเหนือสุดของยุทธภพ มีหิมะปกคลุมตลอดปี

    เป็นตระกูลที่มีขนาดใหญ่พอๆกับห้าตระกูลปราบมาร แต่ไม่นับว่าเป็นหนึ่งในห้าตระกูลปราบมาร เนื่องจากว่าประมุขของตระกูลหลิวนั้นมิต้องการให้ตระกูลของตนนั้นมีชื่อเสียง เพราะตระกูลหลิวมีการเก็บรักษาดาบไร้ฆาตเอาไว้ หากมีชื่อเสียงมากขึ้นก็จะทำให้เหล่ามารทมิฬบุกโจมตีเพื่อชิงดาบก็เป็นได้ ทว่าสุดท้ายแล้วตระกูลหลิวก็ล่มสลายลงเนื่องจากถูกลอบโจมตีและถูกชิงดาบไร้ฆาตไป เหลือเพียงหลิวเหวินจินเท่านั้นที่รอดชีวิต

    โดยตระกูลหลิวนั้นขึ้นชื่อด้านการฝึกฝนเป็นนักบุ๋นและใช้พัดขนนกเป็นอาวุธ ตระกูลหลิวนั้นเป็นตระกูลเดียวที่มีการฝึกให้เป็นนักบุ๋น อนุชนแห่งตระกูลหลิวจะสวมอาภรณ์สีฟ้าเป็นหลัก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเยือกเย็นตามสภาพอากาศของเสวี่ยนหยวน และพลังบุ๋นของเหล่าอนุชนที่เป็นเอกลักษณ์ของตระกูล นอกเหนือจากนี้คนในตระกูลหลิวล้วนมีความเชื่อว่า พัดขนนกซึ่งเป็นอาวุธประจำกายนั้นจะผูกเข้ากับจิตวิญญาณของเหล่าอนุชน ซึ่งเรียกว่า "ผูกมัดด้วยพันธสัญญาแห่งจิตวิญญาณสกุลหลิวและพลังบุ๋น" จึงมีข้อห้ามว่าห้ามทำพัดขนนกหาย หรือเสียหายเป็นอันขาด เพราะมิเช่นนั้นดวงวิญญาณของอนุชนผู้นั้นจะแตกสลายไปด้วย



    พลังปราณ

    ชื่อพลังปราณ

    สถานะเมื่อร่ายออกมา

    อื่นๆ

    ม่านวารี

    มีลักษณะเป็นกำแพงน้ำ สามารถกักขังศัตรูมิให้หนีรอดไปไหนได้

    ทว่าปราณที่ร่ายออกมานั้นจะไม่แข็งแรงและมีสถานะเป็นของเหลว ไม่สามารถกักขังศัตรูเอาไว้ได้เป็นระยะเวลานาน สามารถกักขังเอาไว้ได้เพียงชั่วขณะเท่านั้น

    ปราณสดับวิญญาณ

    สามารถมองเห็นภาพเหตุการณ์ก่อนตายของคนผู้นั้นได้ หากสัมผัสเข้าที่ข้าวของเครื่องใช้ของผู้ตาย หรือจุดที่เสียชีวิต

     

    จิตอัสนีคลั่ง

    มีพลังอานุภาพในการทำลายเป็นจำนวนมาก ต้องใช้พลังกายหรือกำลังทั้งหมดที่มีอยู่ในการรวบรวมพลังปราณออกมา มีความกึ่งร้ายแรงกึ่งไม่ร้ายแรง หากใช้ในทางที่ถูกต้องและดีก็จะสูญเสียพลังกายจนอ่อนเพลียเท่านั้น หากใช้ในทางที่ผิดพลาดก็ถึงอาจแก่ชีวิตได้

    พลังปราณนี้ถือว่าเป็นพลังปราณขั้นสูง ต้องเป็นเซียนระดับปรมาจารย์เท่านั้นที่จะใช้ได้

    ปราณประสานชีพ

    คนที่จะร่ายปราณนี้ออกมาต้องเจาะจงว่าจะดึงวิญญาณของผู้ใดกลับเข้าร่างไร้ที่วิญญาณ อาจเป็นเจ้าของร่างหรือเป็นวิญญาณเร่ร่อนก็ได้

    คนที่จะร่ายปราณออกมานั้นต้องรอบรู้เรื่องพลังปราณเหลือล้น เพราะต้องใช้กำลังในการดึงวิญญาณที่ล่องลอยกลับเข้าร่าง หากไม่ได้ฝึกพลังปราณหรือมีพลังไม่มากพอ การดึงวิญญาณก็จะไม่เป็นผลและจะทำให้สูญเสียพลังปราณเป็นอย่างมาก

    ปราณชีพทมิฬ

    เมื่อร่ายปราณออกมาแล้วจะเกิดพลังสีดำและลอยเข้าสู่ร่างไร้วิญญาณ ซึ่งจะทำให้ร่างนั้นกลับมาเหมือนมีชีวิตอีกครา แต่ว่าไม่ใช่เป็นการดึงวิญญาณกลับเข้าสู่ร่าง เป็นการร่ายพลังปราณทมิฬเข้าสู่ร่างแทนวิญญาณ อีกทั้งยังไม่เจาะจงอีกด้วยว่าต้องเป็นคนเดียว อาจเป็นหลายๆ คนภายในเวลาเดียวก็ได้

    ผู้ที่ร่ายปราณนั้นจะต้องฝึกวิชานอกรีตหรือวิชาผีวิถีมาร

    เคล็ดวิชากระบี่เวหา

    เป็นเคล็ดวิชากระบี่ที่หวังอี้โจวเป็นผู้คิดค้นขึ้นมา เคล็ดวิชานี้มีพลังในการทำลายค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับจิตอัสนีคลั่ง หากร่ายออกมาจะสามารถแยกกระบี่ของผู้นั้นออกเป็นสิบหรือร้อยเล่ม ซึ่งเหมาะแก่การสังหารฝ่ายตรงข้ามที่มีจำนวนมากให้ลดน้อยลงได้   

    ผู้ที่ร่ายปราณออกมานั้นต้องครอบครองกระบี่เท่านั้น อาวุธอื่นมิสามารถใช้ได้

    ผู้ที่สามารถใช้พลังปราณนี้ได้มีเพียงแค่คนในสกุลหวังแห่งหวายหนานเท่านั้น



    สิ่งของ & อาวุธ

    ชื่อสิ่งของและอาวุธ

    ผู้ครอบครอง

    ประเภท

    คำแปล

    อื่นๆ

    ดาบไร้ฆาต

    อดีต : - ตระกูลหลิวแห่งเสวี่ยนหยวน

    - เหอซื่อเหลียน

    ปัจจุบัน : เซียวจ้าน

    อาวุธ (ดาบยาว)

     

    เป็นดาบที่มีคมดาบยาวสีแดงและมีไอสีแดงเปลวออกมาจากคมดาบ เป็นดาบที่ตระกูลหลิวเก็บรักษามาตั้งแต่ครั้นบรรพกาล สามารถใช้สังหารเหล่ามารทมิฬได้พริบตา คนธรรมดาไม่ได้ฝึกวิชาเซียนนั้นจะไม่สามารถแตะต้องได้ เนื่องจากไอแห่งความตายและอาคมของดาบไร้ฆาตนั้นมีมาก เพียงแตะแค่ปลายเล็บก็ทำให้ร่างของผู้นั้นมอดม้วยเป็นเถ้าธุลีได้

    กระบี่หมิงเยว่

    หวังอี้ป๋อ

    อาวุธ (กระบี่ยาว)

    แสงจันทรา

    มีคมดาบและด้ามจับเป็นสีเทาส่องไสวดั่งแสงของจันทรา จึงเป็นที่มาของชื่อนี้

    ในตอนแรกกระบี่หมิงเยว่เป็นกระบี่ไร้นาม

    เซียวจ้านตั้งชื่อให้

    กระบี่เหลี่ยวเจี๋ย

    เซียวจ้าน

    อาวุธ (กระบี่ยาว)

    จบสิ้น

     

    กระบี่ไป๋เสวี่ย

    ฉินลู่เหวิน

    หวังจื่ออี้

    อาวุธ (กระบี่ยาว)

    สิ่งของ (กู่ฉินเจ็ดสาย)

    หิมะขาว

    หยกลายเมฆา

     

    กระบี่เฟิงเฉิน

    เจิ้งฝานซิง

    อาวุธ (กระบี่ยาว)

    สลาตันแห่งรุ่งอรุณ

     

    พัดขนนกจื๋ออวี่

    กระบี่เยว่เลี่ยง

    หลิวไห่ควาน

    อาวุธ (พัดขนนก)

    อาวุธ (กระบี่ยาว)

    ขนนกม่วง

    จันทร์กระจ่าง

     

    กระบี่จิ่วเหลียน

    หวังอี้โจว

    อาวุธ (กระบี่ยาว)

    นพบงกช

     

    พัดขนนกชิงหลิง

    หลิวเหวินจิน

    อาวุธ (พัดขนนก)

    จิตวิญญาณแห่งความถ่อมตน

     

    ร่มกระดาษเจินหรง

    เมิ่งเหม่ยฉี

    อาวุธ (ร่มกระดาษ)

    ความรุ่งโรจน์อันพิสุทธิ์

     

    สุราฉางเอ๋อร์

     

    สิ่งของ (สุรา)

     

    เป็นสุราที่เซียวจ้านและหลิวเหวินจินชอบดื่ม

    ชื่อของสุรามาจากเทพธิดาแห่งดวงจันทร์ตามความเชื่อปรัมปราของจีน

    ถังหูลู่

     

    สิ่งของ (ขนมหวาน)

     

    เป็นขนมหวานที่หวังอี้ป๋อชอบทาน

    ชื่อขนมหวานเคลือบน้ำตาลชนิดหนึ่ง ใช้ผลไม้ เช่น สตรอว์เบอร์รี พุทราจีน ฯลฯ เสียบไม้ไผ่เป็นแท่งเหมือนลูกชิ้นแล้วจุ่มลงในน้ำเชื่อม

    หมายเหตุ

    *สาเหตุที่เซียวจ้านสามารถครอบครองดาบไร้ฆาตได้มีอยู่ 3 ประการ ดังนี้

     ดาบไร้ฆาตเลือกเจ้าของคือเซียวจ้าน

     เนื่องจากว่าเซียวจ้านเคยเสียชีวิตไปแล้วหนึ่งครั้ง เมื่อฟื้นขึ้นมาจึงมีไอความตายเป็นไอสีดำติดตัว ซึ่งดาบไร้ฆาตเองก็มีไอแห่งความตายด้วยเช่นกัน พลังสามารถเชื่อมเข้าหากันได้

     จินตาน (พลังฝึกปรือ) ของเซียวจ้านไม่ได้ถูกทำลายเมื่อตอนที่เลือกจบชีวิต อีกทั้งวิญญาณกลับเข้าร่างเดิม จินตานไม่สลายไป กระบี่จดจำเจ้าของได้ ทำให้เซียวจ้านสามารถใช้จินตานขับเคลื่อนทั้งกระบี่ประจำตัวของตัวเองและดาบไร้ฆาตได้



    การนับเวลาของจีนโบราณ

    ชื่อยาม

    ช่วงเวลาเมื่อเทียบกับปัจจุบัน

    ยามจื่อ

    ช่วงเวลาระหว่าง 23.00 - 00.59 น.

    ยามโฉ่ว

    ช่วงเวลาระหว่าง 01.00 - 02.59 น.

    ยามอิ๋น

    ช่วงเวลาระหว่าง 03.00 - 04.59 น.

    ยามเหม่า

    ช่วงเวลาระหว่าง 05.00 - 06.59 น.

    ยามเฉิน

    ช่วงเวลาระหว่าง 07.00 - 08.59 น.

    ยามโหย่ว

    ช่วงเวลาระหว่าง 17.00 - 18.59 น.

    ยามซวี

    ช่วงเวลาระหว่าง 19.00 - 20.59 น.

    ยามไฮ่

    ช่วงเวลาระหว่าง 21.00 - 22.59 น.



    ศัพท์ที่เกี่ยวกับเวลา

    ชื่อเวลา

    ช่วงเวลาเมื่อเทียบกับปัจจุบัน

    หนึ่งเค่อ / เค่อ

    เทียบเท่าได้กับช่วงเวลา 15 นาที

    ช่วงเวลาหนึ่งก้านธูป

    เทียบได้ราวๆ 15 นาที หรือ 30 นาที ซึ่งขึ้นอยู่กับความยาวของก้านธูป



    หน่วยวัดความยาว

    ชื่อหน่วยวัดความยาว

    ความหมาย

    จั้ง

    หน่วยมาตรฐานวัดความยาวของจีน 1 จั้ง เท่ากับ 3.33 เมตร

    ชุ่น

    มาตราวัดความยาวของจีน 10 ชุ่น เท่ากับ 1 ฉื่อ หรือมีความยาวราวๆ 1 ฟุต

    หลี่ (ลี้)

    เป็นหน่วยวัดระยะทางของจีน 1 หลี่ (ลี้) เท่ากับ 500 เมตร



    เหตุการณ์สำคัญในเรื่อง

    เหตุการณ์

    สถานที่

    สาเหตุ

    อื่นๆ

    การดักสังหารที่เส้นทางบนเขา

    เส้นทางบนเขา

    ฝ่ายมารทมิฬดักสังหารสกุลหลิวแห่งเสวี่ยนหยวน และชิงดาบไร้ฆาต

     

     

    ศึกยุทธนาวีอี้หาน

    ทะเลสาบอี้หาน ซึ่งเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่กั้นเมืองเหลียวหนิงเอาไว้ 

    สกัดกั้นกองกำลังของมารทมิฬที่จะบุกแย่งชิงเมืองเหลียวหนิง

    เป็นการปะทะครั้งแรกระหว่างห้าตระกูลปราบมารและเหล่ามารทมิฬ

    ยุทธการที่วัดทิพยวิหาร

    วัดทิพยวิหาร ทางตะวันตกเฉียงเหนือของไฉอี้

    สกุลหวังแห่งหวายหนานปราบฝ่ายมารทมิฬ

     

    เหตุการณ์ชิงดาบไร้ฆาตที่เมืองสวี่หลิว

    เมืองสวี่หลิว

    ปราบเหอซื่อเหลียนและชิงดาบไร้ฆาต

     

    โศกนาฏกรรมวางเพลิงเผาหวายหนาน

    เมืองหวายหนาน

    สกุลหวังแห่งหวายหนานถูกมารทมิฬเข้าโจมตี และหวายหนานถูกเผาจนวายวอด

     



    ตำนานด้ายแดงแห่งโชคชะตา

    ตำนานด้ายแดงแห่งโชคชะตา (จีนตัวเต็ม : 紅線 จีนตัวย่อ : 红线 พินอิน : hóng xiàn / หงเซี่ยน) เป็นตำนานความเชื่อในด้านความรักของชาวจีนและญี่ปุ่น มีคำกล่าวว่าในชีวิตของเรานั้นจะมีด้ายแดงเส้นหนึ่งผูกเอาไว้ที่ข้อเท้าหรือนิ้วก้อยข้างใดข้างหนึ่งของเรา แล้วด้ายแดงนี้จะยาวประมาณสองรอบโลก ซึ่งด้ายแดงนี้จะนำทางเราไปหาคู่ชีวิต หรือเนื้อคู่ของเราที่ถูกลิขิตมา

    ถึงแม้ว่าเส้นด้ายจะยุ่งเหยิงมากแค่ไหนและอยู่ใกล้ไกลแค่ไหน สุดท้ายแล้วเส้นด้ายจะไม่มีวันตัดขาดออกจากกันและสั้นลงเรื่อยๆ ให้เรามาพบเจอกับคู่ชีวิตในที่สุด ถ้าหากว่าเราไม่ได้อยู่เคียงคู่กัน หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจากกันไปโดยที่ไม่ได้ครองรักกัน เส้นด้ายก็จะขาดไปเอง

    มีตำนานได้กล่าวไว้ว่าในสมัยราชวงศ์ถัง มีเด็กชายคนหนึ่งมานามว่า เหวยกู่ เห็นชายชราคนหนึ่งกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ โดยที่เหวยกู่นั้นไม่รู้ว่าชายชราคนนั้นเป็น เฒ่าจันทรา หรือเยว่เซี่ยเหลา (月下老) โดยเฒ่าจันทรานั้นมีหน้าที่ผูกด้ายแดงไว้ที่ข้อเท้าหรือนิ้วก้อยข้างใดข้างหนึ่งของชายหญิงที่เป็นเนื้อคู่กัน และเมื่อผูกกันแล้วก็จะได้ครองรักกัน ไม่ว่าจะมีอุปสรรคขวากหนามมากมายเพียงใดก็ตาม มีเพียงเฒ่าจันทราเท่านั้นที่มองเห็นด้ายแดง อาจจะมีการผูกปมเพื่อให้พบรักกันเร็วขึ้นหรือช้าลง หรือถ้าหากว่าเฒ่าจันทราเห็นว่าความรักนี้ไม่เหมาะสมก็จะใช้ "กรรไกรตัดวาสนา" ตัดด้ายแดงออกเพื่อให้หมดสิทธิ์รักกัน

    ด้วยความสงสัยเหวยกู่เอ่ยปากถามเฒ่าจันทราว่าอ่านหนังสืออะไรอยู่ เฒ่าจันทราบอกว่าเป็นตำราการแต่งงานของชาวโลก เหวยกู่รู้สึกสนใจในเรื่องนี้จึงเอ่ยปากถามเฒ่าจันทราว่าเนื้อคู่ของตนนั้นมีลักษณะเป็นเช่นไร เฒ่าจันทราบอกกับเหวยกู่ว่าจะพาไปหาเนื้อคู่ของตนและเดินไปที่ตลาดเก่าๆ แห่งหนึ่ง เฒ่าจันทราพาเหวยกู่มาหยุดลงตรงหน้าเด็กหญิงหน้ามอมแมมคนหนึ่ง และบอกกับเหวยกู่ว่านี่คือเนื้อคู่ของเขา พร้อมกับหายตัวไป ทำให้เหวยกู่รู้สึกโกรธเป็นอย่างมากที่ถูกล้อว่าเด็กหญิงเนื้อตัวมอมแมมคนนี้เป็นเนื้อคู่ของเขา หลังจากที่เหวยกู่กลับบ้านก็สั่งให้คนรับใช้ไปสังหารเด็กหญิงคนนั้นเสีย

    เวลาผ่านไปหลายปีเหวยกู่เติบโตขึ้นและสอบได้เป็นจอหงวน พร้อมกับเจ้าเมืองที่ยกลูกสาวของตนให้แต่งงานกับเขา หลังจากที่ครองคู่กันไปได้สักพักหนึ่ง เหวยกู่ก็สังเกตเห็นว่าหน้าผากของภรรยานั้นมีสัญลักษณ์บางอย่างอยู่ จึงถามนางว่าคืออะไร นางก็เล่าให้ฟังว่าแท้จริงแล้วนางนั้นมิใช่ลูกของเจ้าเมืองแต่อย่างใด หากแต่เป็นลูกของแม่ค้าจนๆ ในวัยเด็กมีชายคนหนึ่งใช้มีดกรีดหน้าของตนแล้วจากไป และเจ้าเมืองผ่านมาเห็นพอดีจึงรับอุปการะเป็นบุตรสาว

    เมื่อฟังจบแล้วเหวยกู่ได้ตามคนรับใช้ที่ให้จ้างไปสังหารมา คนรับใช้ได้สารภาพว่าแท้จริงแล้วเขาไม่อาจทำใจสังหารเด็กน้อยคนนั้นได้ลงคอ จึงเพียงใช้มีดกรีดหน้าผากเป็นรอยสัญลักษณ์เท่านั้น หลังจากที่เหวยกู่ทราบเรื่องทั้งหมดแล้วจึงรู้ว่าสิ่งที่เฒ่าจันทรากล่าวเอาไว้นั้นเป็นความจริง เหวยกู่จึงขอขมาภรรยาและแม่ของนาง ก่อนที่จะครองรักกันไปอย่างมีความสุข


    เพิ่มเติม : ตำนานของจีนและญี่ปุ่นจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อยค่ะ ฝั่งชาวจีนเชื่อว่าคนเรามีด้ายแดงผูกอยู่ที่ข้อเท้า ส่วนญี่ปุ่นเชื่อว่าด้ายแดงผูกอยู่ที่นิ้วก้อยข้างใดข้างหนึ่งของเราค่ะ ซึ่งเรื่องนี้เรายึดถือตำนานของจีนเป็นหลักนะคะ เพราะว่าโลเคชั่นในเรื่องนี้ดำเนินอยู่ในประเทศจีนค่ะ

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×