ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Ultraman Trigger (จักรวาล ZI-O Rebirth)

    ลำดับตอนที่ #7 : ค่ำคืนแห่งคำอธิษฐาน

    • อัปเดตล่าสุด 15 ก.พ. 65


    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ณ วันนี้เป็นวันที่ 7 กรกฏาคม หรือวันทานาบาตะ

    มันเป็นวันเทศกาลที่สำคัญอีกวันนึงของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ วันที่เจ้าชายเลี้ยงวัวและเจ้าหญิงทอผ้าจะได้มาบรรจบพบกันอีกครั้งนึงในรอบปี ทางช้างเผือกบนฟากฟ้าสว่างไสวและสิ่งที่ขาดม่ได้คือคำอธิษฐานของผู้คนที่เขียนใส่กระโาษสีและผูกไว้ที่กอไผ่เพื่อความหวังและความฝันของบุคคลผู้นั้นอาจจะเป็นจริงขึ้นมาก็ได้

     

    ณ โรงเรียนสตรีฮานะซากิกาว่า

    ฮิคาว่า ซาโยะ คณะกรรมการรักษาระเบียบของโรงเรียนสตรีอฮานะโจแห่งนี้ได้กลับห้องมายังคาบโฮมรูมและนั่งลงที่นั่งตัวเองริมหน้าต่างทางซ้ายของห้องตรงที่ท้ายๆ

    ซาโยะผ่านอะไรมามากมายหลายอย่างเธอนั้นได้ถูกรับเลือกจากแสง ผ่านการต่อสู้มาพอสมควร และฝีมือการต่อสู้ของเธอก็พัฒนามาพอสมควรบ้างแล้ว

    “เฮ้อ……….” ด้วยความเหนื่อยหน่ายกับชีวิต ซาโยะวางกระเป๋าและนั่งถอนหายใจทิ้งไปดื้อๆ

    “อรุณสวัสดิ์นะซาโยะจัง” อายะและคาน่อนที่เรียนอยู่ห้องข้างๆได้เดินมาทักทายเธอ

    มารุยามะ อายะ
    มัตสึบาระะ คาน่อน

    “คุณมารุยามะ คุณมัตสึบาระ อรุณสวัสดิ์ค่ะ” ซาโยะกล่าว

    “เป็นอะไรไปเหรอคะคุณซาโยะ ดูไม่ค่อยสู้ดีเลย นอนน้อยเหรอคะ?” คาน่อนถามเธอ

    “จะว่าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ พักนี้มันหลายเรื่อง แถมวันนี้ฮินะไม่ได้ไปโรงเรียนด้วยค่ะ” ซาโยะกล่าว

    “เอ๋? ฮินะจังน่ะนะ!!! จริงสิจะว่าไปชั้นไลน์ไปฮินะจังไม่เห็นตอบเลยล่ะ เธอเป็นอะไรรึเปล่า?” อายะถามซาโยะ

    “ค่ะ หมกตัวในห้องตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว พอถามเธอไปเธอก็บอกว่าป่วย แม่เข้าไปเฝ้าไข้ให้ตั้งแต่เช้าแล้วล่ะค่ะ ชั้นเลยมาโรงเรียนได้” ซาโยะกล่าว

    “แหม ซาโยะจังเนี่ย เป็นพี่สาวที่ดีนะ เป็นห่วงฮินะจังเสมอเลย” อายะยิ้มให้

    “ค่ะ เป็นห่วงเสมอเหรอ?” ซาโยะเปลี่ยนสีหน้าทันที

    “มีอะไรเหรอคะ? ทำไมทำหน้าตาน่ากลัวแบบนั้นล่ะ?” คาน่อนตกใจหน้าตาเคร่งเครียดของซาโยะมาก

    “โอ๊ะ ขอโทษนะคะ” ซาโยะรีบขอโทษทันที

    “จริงด้วยสิ น่าเสียดายจังเลยวันนี้ในเมืองมีจัดเทศกาลวันทานาบาตะด้วยล่ะคืนนี้น่ะ” อายะกล่าว

    “จริงสิ วันนั้นของปีมาถึงอีกแล้วเหรอ เทศกาลคืนนี้ต้องสนุกมากแน่เลย” คาน่อนกล่าว

    “ซาโยะจังจะมารึเปล่าจ้ะ?” อายะถามเธอ

    “ค่ะ ไว้ว่างแล้วจะเเวะไปดูนะคะ” ซาโยะยิ้มให้

    จากนั้นทั้งสามก็แยกย้ายกลับไปเรียนวิชาโฮมรูมของตนเอง

    ซาโยะที่นั่งฟังอาจารย์คาบโฮมรูมก็กำลังคิดเรื่องของจิซาโตะที่หายไปนานมากแล้วอีกครั้ง

    “(ป่านนี้คุณชิราซากิจะไปอยู่ที่ไหนกันนะ ไม่มีเบาะแสอะไรเลย และทำไมเพื่อนสนิทของเธออย่างคุณมารุยามะดูสบายใจได้ล่ะ? หรือว่า…..)” ซาโยะกำลังนั่งคิด

    “ถ้าอย่างนั้น กิจกรรมชมรมตอนเย็นวันนี้ก็อยากขอความร่วมมือเรื่องการงดใช้ห้องพละที่กำลังปรับปรุงนะคะ ใครมีคำถามอะไรมั้ย?” อาจารย์ที่ปรึกษาของซาโยะกำลังจะเลิกคาบโฮมรูม

    “เปลี่ยนแปลงความทรงจำแบบที่คุณไดโกะทำ!!!!” ซาโยะสะดุ้งเฮือกและลุุกขึ้นมา

    ทั้งห้องต่างพากันตกใจซาโยะ

    “เอ่อ คุณฮิคาว่า เป็นอะไรมั้ยคะ?”

    “วะ….หวา…..ขอโทษค่ะ” ซาโยะเพิ่งรู้ตัวและตกใจอายมากพร้อมกับนั่งลงไปที่เก้าอี้ใหม่อีกรอบด้วยความร้อนรน

     

    คืนวันนั้นเอง

    งานเทศกาลทานาบาตะจัดขึ้นทั่วทุกที่ในเมือง ผู้คนต่างออกมาสุขสันต์กับงานเทศกาลในค่ำคืนที่มีปีละครั้งเท่านั้น

    ฮินะที่ยังนอนอยู่ที่บ้านกำลังเหม่อมองหน้าต่างที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวมากมาย

    “ดาวตกเหรอ?” ฮินะหวนนึกถึงความทรงจำในอดีตของเธอที่มีต่อพี่สาว

    “จริงสิ วันนี้เเม่ไม่อยู่นี่นา คงต้องออกไปข้างนอกเองแล้วล่ะ" ฮินะนึกขึ้นได้ว่าวันนี้ไม่มีใครอยู่บ้านเลย เธอเลยตัดสินใจออกจากห้องหลังจากอยู่มาทั้งวันแล้วเพื่อที่จะออกไปหาอาหารเย็นมาทานที่บ้าน

    ระกว่างทางของฮินะที่เดินออกมาจากบ้านนั้นเอง

    “อ้าว ฮินะ ดีขึ้นแล้วเหรอ?” ริสะกล่าว

    อิมาอิ ริสะ

    “รุ่นพี่ฮินะคะ หายไข้แล้วเหรอคะ?” สึกุมิเองก็มากับริสะด้วย

    ฮาซาว่า สึกุมิ

    “สึกุจัง? ริสะจิ? มาทำอะไรกันเนี่ย?” ฮินะกล่าว

    “แหม เราได้ยินว่าวันนี้ฮินะไม่ไปโรงเรียนน่ะสิ พวกเราสองคนเป็นห่วงเเทบแย่เลยเนอะสึกุ” ริสะกล่าว

    “ค่ะ เราสองคนซื้อของกินมาฝากรุ่นพี่ฮินะด้วยนะคะ” สึกุมิหิ้วถุงของกินมาฝากให้

    “ส่วนชั้นก็เอาการบ้านของวันนี้มาให้ด้วยล่ะ ว่าแต่ซาโยะล่ะ? ยังไม่กลับมาบ้านเหรอ?” ริสะถามเธอ

    “ไม่น่ะ พี่ยังยน่าจะวุ่นกับงานกรรมการวินัยน่ะ และอีกอย่างพี่ไม่น่าจะสนใจชั้นหรอก….” ฮินะกล่าวด้วยท่าทีเศร้าสร้อย

    “ทำไมล่ะ ก็ซาโยะดูจะเข้ากับเธอได้ดีนี่นา เห็นไปไหนซาโยะก็ดูแลเธอดีตลอดแน่ะ” ริสะถามอีกครั้ง

    “ริสะจิ…..” ฮินะกล่าว

    “ทำไมเหรอ?”

    “เธอน่ะไม่รู้อะไรเลยด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าพี่น่ะเป็นคนยังไง ไม่รู้ว่าที่จริงแล้วพี่น่ะคิดยังไงกับชั้นด้วยซ้ำ เพราะชั้นเองยังไม่รู้เลย” ฮินะกล่าว

    “เอ่อ หมายความว่ายังไงน่ะ?” ริสะสงสัย

    “เอ๊ะ? เอ่อ ลืมๆมันไปเถอะนะ 555+” ฮินะหัวเราะกลบเกลื่อน

    “งั้นรุ่นพี่ฮินะคะ วันนี้เราไปเทศกาลทานาบาตะกันมั้ยคะ?” สึกุมิถาม

    “นี่ ฮินะป่วยอยู่นะสึกุจัง ถ้าฮินะเป็นอะไรไปล่ะ?” ริสะถามซ้ำ

    “ไม่หรอกริสะจิ ชั้นไม่เป็นไรเเล้วล่ะ ก็ได้สิ ถ้าไปกับริสะจิกับสึกุจังล่ะก็น่าจะสนุกก็ได้นะ” ฮินะยิ้มออกมาเล็กน้อย

    “งั้นตกลงตามนั้น ไปกันเลยมั้ยล่ะ ส่วนของเอาไปฝากที่ร้านของสึกุก่อนสิ” ริสะกล่าว

    ทั้งสามคนก็เดินทางไปงานเทศกาลกันทันที

    ทางด้านของซาโยะที่ทำงานเอกสารเย็นนี้เสร็จแล้วนั้น

    เธอได้เดินออกจากโรงเรียนและเดินหน้ากลับบ้านทันที

    “เฮ้อ…………เหนื่อยชะมัด บ้าบอจริงๆ” ซาโยะเดินบ่นและมองไปรอบๆข้างทาง

    ไม่นานนักซาโยะก็เดินผ่านหน้าร้านขนมปังยามาบุกิเบเกอรี่ไป

    กริ๊ง!!! มีสาวน้อยเดินออกมาจากร้านขนมปังนั่นพร้อมกับหอบขนมปังแสนหอมหวานจำนวนหนึ่งใส่ถุงกระดาษเดินออกมาจากในร้าน

    “ไว้มาอีกนะ อิเลน่าจัง” ซายะโบกมือลาเธอ

    “ค่ะ" อิเลน่าเดินออกมาพร้อมกับกำลังจะโซ้ยช็อกโก้โคโรเน็ตชิ้นเเรกอยู่นั้น

    พลั่ก!! ซาโยะเดินชนเธอจนล้มลงไปกันทั้งคู่

    “โอ้ย!!!” ซาโยะที่เอาเเต่เดินก้มหน้าไม่ได้มองทางเลย

    “อ้าาาาา!!!” อิเลน่าทำขนมปังร่วงลงพื้นจนเลอะเทอะ

    “ตายแล้ว!!! ขอโทษนะคะ!!! ขอโทษค่ะ!!! เดี๋ยวชั้นซื้อให้ใหม่นะคะ!!!” ซาโยะตกใจมาก

    “อ๋อ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ มันเป็นอุบัติเหตุเเน่ะ ชั้นเข้าใจ” อิเลน่ากล่าวและหยิบถุงขนมขึ้นมา

    “เอาล่ะ 3…2…1…..ทาด้า!!” อิเลน่าเสกเวทย์มนต์ขนมที่ตกพื้นจนสะอาดเหมือนทำออกมาใหม่ๆ

    “เอ๋?!!!” ซาโยะตกใจกว่าเดิมอีก

    “ทำไมเหรอ?”

    “นี่คุณทำอะไรกับขนมปังนั่นเหรอคะเนี่ย?”

    “ถามมาได้ ก็นี่น่ะเวทย์มนต์เลยนะ เวทย์มนต์สารพัดประโยชน์ดีออก อ้ะ? ลืมไปเลยคนที่นี่ไม่รู้จักเวทย์มนต์นี่นา” อิเลน่ากล่าว

    “เวทย์มนต์เหรอคะ?” ซาโยะกล่าวด้วยความสงสัย

    “เอาเป็นว่าชั้นชื่ออิเลน่าค่ะ แล้วคุณล่ะ?" อิเลน่าทักทาย

    อิเลน่า

    “ซาโยะค่ะ ฮิคาว่า ซาโยะค่ะ” ซาโยะเเนะนำตัว

    “คุณซาโยะเหรอคะ? อืม งั้นก็เรื่องใช้เวทย์มนต์เมื่อกี้ก็ขอช่วยเก็บเป็นความลับด้วยนะ” อิเลน่าขอร้องเธอ

    “ช่างเถอะค่ะ ชั้นไม่ปากสว่างหรอกนะคะ เอาเป็นว่าเราทางใครทางมันดีกว่าค่ะ ลาก่อนค่ะ” ซาโยะกล่าวเเละเดินจากไป

    “เอ่อ……ทำไมกันนะ คนคนนั้นไม่ค่อยยิ้มออกมาจากใจจริงเลยนะเนี่ย?” อิเลน่ากล่าวเเละจากไป

     

    ณ ภายในงานเทศกาล

    “เอ้า ฮินะกินนี่ซะสิ อร่อยนะ” ริสะซื้อแอปเปิ้ลเคลือบมาให้ฮินะกิน

    “ขอบคุณนะ” ฮินะกินขนมที่ริสะยื่นให้

    “รุ่นพี่ฮินะคะ ชั้นไปซื้อน้ำมาให้แล้วค่ะ” สึกุมิซื้อน้ำมาให้ทั้งสองคน

    “แต้งกิ้วนะสึกุ” ริสะรับน้ำนั่นมา

    “สึกุจังเนี่ย แบ่งเวลายังไงกันนะทั้งที่เป็นรองประธานนักเรียนกับชั้นตลอดแท้ๆ แต่ทำไมถึงดูว่างบ่อยจังล่ะ?”

    “เพราะว่าหนูมีงานที่ต้องมาทำที่ร้านยังไงล่ะคะ เลยต้องเเบ่งเวลามากกว่าเดิมช่วงนี้เลยนอนน้อยไปหน่อยน่ะค่ะ อย่างวันนี้ที่รุ่นพี่ฮินะไม่อยู่เนี่ย ก็ยุ่งสุดๆไปเลยด้วย” สึกุมิกล่าว

    “อย่าหักโหมตัวเองสิสึกุมิ” ริสะกล่าว

    “แฮะแฮะ ขอโทษค่ะ พอดีว่าเวลามีคนมาคาดหวังอะไรมักจะชอบทำให้มันได้ตามที่เขาหวังน่ะค่ะ” สึกุมิกล่าว

    ระหว่างนั้นเองที่อีกด้านนึงของงานเทศกาล

    ซาโยะถือโอกาสหาอาหารเย็นทานก่อนที่จะกลับบ้านไปเพราะวันนี้พ่อแและแม่ไม่อยู่บ้าน

    “กินโซบะเย็นเเถวนี้ก่อนกลับบ้านเลยดีไหมนะ?” ซาโยะกำลังมองร้านอาหารในงานรอบๆ

    “อ้าว คุณซาโยะนี่นา” อิเลน่าเดินมาและพบกับเธออีกครั้ง

    “คุณอิเลน่า?” ซาโยะเดินตรงมาทันที

    “มางานเทศกาลนี่ด้วยกันอย่างนั้นเหรอคะ?”

    “เปล่าค่ะ ไม่ได้จะมาร่วมประเพณีอะไรหรอกค่ะ เเค่จะมาหาอะไรทานแล้วกลับน่ะค่ะ” ซาโยะกล่าว

    “งั้นพอดีเลยค่ะ ชั้นจะหาโซบะเย็นทานพอดีเลย มาทานด้วยกันไหมล่ะ?” ฮิเลน่าถามเธอ

    “อืม เอางั้นก็ได้ค่ะ” ซาโยะเดินตามอิเลน่าไปในร้านโซบะทันที

    ไม่นานนักทั้งสองก็ทานโซบะเย็นด้วยกันและเดินออกมาจากร้าน

    “อร่อยดีนะคะเนี่ย? บะหมี่กับซอสเย็นๆพวกนั้นน่ะ” อิเลน่ากล่าว

    “ไม่เคยทานแสดงว่า ก่อนมาญี่ปุ่นเนี่ย ไม่เคยทานโซบะเย็นมาก่อนเลยเหรอคะ?”

    “อื้ม ก่อนมาที่นี่กินแต่อะไรเดิมๆน่ะสิ เบื่อมากเลยหล่ะ เเถมประเทศนี้มีของกินหลายเเบบจะตาย ดีสุดๆไปเลยค่ะ เหมือนกับตัวเองเป็นนักล่าอาหารเลยนะคะ” อิเลน่ากล่าว

    “งั้นเหรอคะ? อ้ะ? คนเดินไปไหนกันน่ะ?” ซาโยะสงสัย

    “ลองไปดูกันมั้ยล่ะคะ” อิเลน่าเชิญชวน

     ทั้งสองเลยลองตามฝูงชนไปยังที่แห่งนั้นด้วยกัน

    ทางด้านของฮินะและเพื่อนๆ

    “นี่ ทั้งสองคนจริงด้วยสิ วันนี้มีเรื่องจะบอกด้วยล่ะ จะจ้างงง!!!” ริสะหยิบกระดาษสีออกมา

    มันเป็นกระดาษสีที่มีลวดลายสวยงามต่างๆ ซึ่งมันมีสัญลักษณ์รูปดาวที่เหนือกระดาษด้วยทุกแผ่น

    “กระดาษทังซะกุนี่คะ?” สึกุมิกล่าว

    “เจ้านี่น่ะ มีคนแจกมาตั้งแต่เมื่อวานเเล้วน่ะสิ เขาบอกว่าคนที่เอาทังซะกุพวกนี้ไปเขียนขอพรจะสมหวังแน่นอนยังไงล่ะ เเต่ต้องไปที่ต้นไผ่ต้นใหญ่ที่มีหยิงแก่คนแจกปลูกคนนั้นเท่านั้นนะ” 

    “หญิงแก่เหรอ?” ฮินะสงสัย

    “อ๋อ เป็นคุณยายคนนึงที่เอากระดาษพวกนี้มาเเจกทุกคนในเมืองเมือวานน่ะสิ ยายแกแสดงความสามารถออกมาด้วยล่ะคนเลยเชื่อว่ามันเป็นจริงน่ะสิ” ริสะกล่าว

    “ความสามารถ?” ฮินะสงสัย

    “อื้ม เมื่อวานมีไฟไหม้ตึกแถวนั้นน่ะสิ ยายคนนี้โชว์ดับไฟด้วยพลังตัวเองก่อนที่แอนตี้สกิลมากันอีกน่ะ แต่พอจบปั๊ปยายคนนั้นก็หายไปเลย คนเลยพากันเชื่อว่ายายคนนั้นมีปาฏิหารย์น่ะสิ”

    “โห ขนาดนั้นเลยเหรอคะ?” สึกุมิกล่าว

    “ก็นะ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ลองไปขอพรกันนิดๆหน่อยๆห็ไม่เสียหายนี่เนอะ” ริสะกล่าว

    “งั้นเหรอคะ? งั้นรุ่นพี่ฮินะว่ายังไงคะ?” สึกุมิถาม

    “เอ่อ ถ้าทั้งสองคนไป ชั้นก็ไปด้วยนะ” 

    “โย้ชช่า งั้นเป็นเอกฉันทร์ไปกันเถอะเราสามค ลุยโลด” ริสะกล่าว

    ทั้งสามก็เดินไปพร้อมกัน

     

    ณ ลานว่างในสวนเลยจากงานในเทศกาล

    มียายแก่ๆจมูกยาวคนนึงในชุดสีดำราวกับตัวเองเป็นแม่มดจอมขมังเวทย์กำลังนั่งยิ้มอย่างสยองขวัญและยิ่นกระดาษเขียนคำอธิษฐานให้กับทุกคนที่มาร่วมกิจกรรมกับเธอตอนนี้

    “เร่เข้ามา เร่เข้ามา ข้าสามารถทำให้คำขอของเหล่าวัยรุ่นหนุ่มสาวอย่างพวกเจ้าเป็นจริงได้แน่นอน แค่แขวนมันไว้ที่ต้นไผ่ของข้าต้นนี้เลย” หญิงแก่คนนั้นกล่าว

    ซาโยะเเละอิเลน่าเดินมาพอดี

    “คนเยอะจังเลยนะคะเนี่ย?” ซาโยะกล่าว

    “นั่น คนคนนั้นทำไมดูแปลกๆจังเลยนะ” อิเลน่าหยีตามองเเละเพ่งไป

    “นั่น ฮินะนี่นา?!!!” ซาโยะตกใจมาก

    ฮินะและริสะกับสึกุมิเดินมาเพื่อจะร่วมกิจกรรมของยายแก่คนนั้น

    วัยรุ่นหนุ่มสาวมากมายต่างพกความหวังและคำอธิษฐานเขียนใส่กระดาษเพื่อขอให้ตนเองได้สิ่งที่สมหวังตามที่ต้องการ

    “เอาน่า ทั้งสองคนเขียนอะไรลงไปกันล่ะ บอกกันหน่อยสิ” ริสะพยายามมาแอบดูสึกุมิกับฮินะเขียนกระดาษขอพร

    “ไม่เอาน่าริสะจิ ความลับนะ ความลับ” ฮินะกล่าว

    “จริงด้วยค่ะ ความลับเรื่องส่วนตัวค่ะ” สึกุมิกล่าว

    “โด่ น่าเบื่ออ่า” ริสะกล่าวและเอาเชือกผูกกระดาษแขวนใส่ต้นไผ่ตรงนั้นทันที

    ฮินะและสึกุมิก็ทำเช่นเดียวกัน

    “เขาทำอะไรกันเหรอคะ?” อิเลน่าถามซาโยะ โดยที่ทั้งสองคนนั้นยืนกันอยู่ห่างจากฝูงชนตรงนั้นพอสมควรเเละคุยกันเอง

    “เขียนกระดาษทังซะกุขอพรกันน่ะค่ะ เพียงแค่นี่มันคนเยอะผิดปกติเกินไปเท่านั้นเอง” ซาโยะกล่าว

    อิเลน่าหันมาและมองมาที่ยายแก่คนนั้นที่กำลังรับลูกค้าอย่างล้นหลาม

    “อ้าว แม่หนูสองคนตรงนั้นมานี่สิ มาเขียนขอพรกันเถอะ ข้าทำให้มันเป็นจริงได้นะ” 

    ซาโยะเห็นฮินะที่อยู่อีกฝากกับพวกริสะเลยจะเดินเข้าไป

    “เดี๋ยวก่อน!!!” อิเลน่าจับเเขนซาโยะเอาไว้

    “คะ?”

    “มันมีบางอย่างแปลกๆ ดูที่เงากระจกข้างตึกนั่นสิคะ?!!!” อิเลน่ากล่าว

    ซาโยะเพ่งมองไปยังกระจกหน้าทางเข้าตึกและเห็นเงาสะท้อนของคนตรงนั้นทั้งหมด ยกเว้น…….

    “อะไรกัน ยายคนนั้นไม่มีเงาในกระจก?!!!” ซาโยะตกใจมาก

    “ใช่ จริงๆด้วย ตัวจริงของยายคนนั้นต้องเป็นจอมขมังเวทย์แน่ๆ ส่วนกระดาษสีพวกนั้นมีการลงอาคมเอาไว้จำนวนหนึ่งด้วย ชั้นสัมผัสได้ล่ะ” อิเลน่าเปลี่ยนเป็นหน้าตาที่ดูจริงจังทันที

    “อ่า พอแล้วล่ะ เหล่าผู้มีความฝันเอ๋ย วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน ข้าต้องขอตัวก่อน” ยายแก่คนนั้นหอบข้าวของและอย่างอื่นพร้อมกับเริ่มหนีซาโยะและอิเลน่าที่จับไต๋เธอได้

    “หยุดนะ!!!” ซาโยะรีบวิ่งตามไปทันที อิเลน่าเองก็วิ่งตามไปด้วย

    “อ้าว ที่วิ่งไปนั่นซาโยะนี่นา?” ริสะที่เห็นซาโยะวิ่งสวนไปได้ทักขึ้นมา

    “พี่เหรอ?” ฮินะหันไปและพบซาโยะที่กำลังวิ่งหน้าตั้งกับอิเลน่า

    “พี่คะ เกิดอะไรขึ้นน่ะ?” ฮินะตกใจมากและทำอะไรไม่ถูก

    ซาโยะวิ่งตามมาและเธอกับอิเลน่าวิ่งตามยายแก่ที่หนีลงอุโมงค์ทางด่วนแถวนั้นลงไป

    “ชั้นจะไปดักข้างหน้านะคะ คุณซาโยะตามไปเลยค่ะ” อิเลน่ากล่าวและรีบควักไม้กวาดออกมาจากที่ไหนไม่รู้รีบบินไปดักทางเข้าอุโมงค์

    “โห เวทย์มนต์จริงๆแล้วล่ะเนี่ย?” ซาโยะรีบตามยายคนนั้นไป

    พอถึงใต้อุโมงค์ยายคนนั้นก็ต้องเจอกับอิเลน่าที่วิ่งมาดักจากด้านหน้า

    “หนีไม่พ้นแล้วล่ะ” อิเลน่ากล่าว

    ยายคนนั้นกำลังจะถอยหลังกลับไป แต่พบว่า….

    “ไม่ต้องไปไหนกันแล้วล่ะ” ซาโยะกล่าว

    ทั้งสองเดินเข้าใกล้ยายแก่คนนั้นทุกที ทุกที เเละหมายจะจับหญิงชราน่าสงสัยผู้นี้

    “เฮี๊ยกๆๆๆๆๆๆ ฮ้า ฮะๆๆๆๆ” ยายคนนั้นหัวเราะออกมาและใช้พลังของตัวเองในการวาปตัวเองหนี

    “อะไรกัน อ้าาาาาา!!!” อิเลน่าตกใจมาก

    ซาโยะถึงกับต้องถอยเล็กน้อย

    พลังในการเคลื่อนย้ายของยายคนนั้นสูงมากและพลังงานปริศนาได้พาซาโยะและอิเลน่าไปยังที่แห่งใหม่

    ทั้งสองถูกวาปมายังมิติพิศวงบางแห่ง ที่มีแมนชั่นร้างๆตรงหน้าทั้งคู่

    “นี่มันที่ไหนกันเนี่ย?” ซาโยะสงสัย

    “ลองเข้าไปดูกันเถอะค่ะ ชั้นรู้สึกไม่ดีเลย” อิเลน่ากล่าว

    ทั้งสองพากันเดินมาที่หน้าแมนชั่นนั่น ซาโยะเตรียมเอากัทส์สปาร์คเลนส์โมหดปืนออกมาเตรียมไว้

    “นักเรียนพกอาวุธได้ด้วยเหรอคะ?” อิเลน่าถาม

    “ไม่อยากฟังจากปากคนใช้เวทย์มนต์ได้หรอกค่ะ” 

    “ก็ อืม….สมเหตุสมผลดี” อิเลน่าเดินเข้าไปตามซาโยะ

    ทั้งสองเปิดแมนชั่นนั่นออกมาและพบกับสนามเด็กเล่นโล่งๆแทน

    “อะไรกันเนี่ย เราเข้ามาที่แมนชั่นนี่นา?” ซาโยะงงมาก

    “โครงข่ายเวทย์มนต์จินตภาพก็ไม่ใช่ ไม่สินี่ไม่มีเวทย์มนต์เป็นส่วนประกอบด้วยซ้ำ ราวกับว่าเป็นพลังแบบอื่นไปเล่ยน่ะ” อิเลน่าวิเคราะห์

    “แอ๊ดดดดดดด ตึง!!!” จู่ๆประตูก็ปิดไป

    ทั้งสองงงมากและจู่ๆก็มีเสียงเด็กเเรกเกิดร้องไห้ดังไปทั่วบริเวณ

    “นี่มันเริ่มจะเเปลกอีกแล้วสิเนี่ย?” ซาโยะกล่าว

    ทั้งสองเดินมาตามทางไปเรื่อยๆ และได้พบกับมนุษย์คนหนึ่งที่นั่งสัปปะหงกอยู่

    “นี่ คนนี่นา คุณคะ!!!” ซาโยะตะโกนเรียกและเดินเข้าไปใกล้ๆ

    “นี่คุณช่วยตื่นหน่อยสิ บอกเราทีที่นี่มันที่ไหนกันคะ?” ซาโยะเขย่าตัวเขา

    แต่ปรากฏว่าชายวัยรุ่นที่อายุราวนักเรียน ม.ปลายคนนั้นกลับตัวสีขาวซีดและไร้วิญญาณไปเรียบร้อยแล้ว ร่างของเขานั้นเป็นเเค่ร่างก่ายเปล่าๆไม่มีจิิตใจ

    “เหวอ?!!!” ซาโยะสะดุ้งเฮือกทันที

    “ดูเหมือนจะวิญญาณหลุดออกจากร่างนะ ดูนั่นสิ” อิเลน่าชี้ไปอีกจนซาโยะหันไปดู

    พวกเธอสองคนเห็นมนุษย์จำนวนมากนั้นนอนตายไร้วิญญาณจนสีขาวซีดเผือกมากมายก่ายกอง

    “นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย?” ซาโยะงงมาก

    วิ้งงงงงง ทันใดนั้นมีสัตว์ประหลาดยักษ์โผล่ออกมาจากป่าอีกด้านหนึ่ง

    อสูรมิติพิศวง กิลันโบ

    “เฮ้ะๆๆๆๆ” กิลันโบหัวเราะออกมาและยิงลำแสงจากตาของตนใส่ทั้งสองคนทันที

    “แช้ดดดดดดดด!!!” ลำแสงความเข้มข้นสูงสีม่วงพุ่งใส่อิเลน่าและซาโยะเต็มๆ

    “กรี๊ดดดดดดดด!!!” ทั้งสองโดนสูบสลายและหายไปจากตรงนั้นทันที

     

    ผ่านไปหลายชั่วโมง

    จากนั้นไม่นานทั้งสองคนก็ตื่นขึ้นมาในที่ที่แปลกตาจากเดิมไป

    ซาโยะและอิเลน่าตื่นมาในแคปซูลทรงกระบอกใส และทั้งสองก็ได้สติ

    ซาโยะตื่นขึ้นมาก็ทุบกระจกโหลของเธอเพื่อพยายามให้มันเเตกแต่ก็ไร้ผล

    อิเลน่าพยายามเอาคาถาทั้งหลายที่เธอมีลองทำลายแคปซูลนี่ดู แต่เธอก็หันมาหาซาโยะและส่ายหน้า

    “ลาลาลาลา ลาลาลาลา ลาลาลา ลาลาลา~” มีเสียงของเด็กคนหนึ่งกำลังร้องเพลงอยู่

    ทั้งสองเลยเบนสายตาไปและเห็นเด็กชายวัย 10 ปี คนหนึ่งกำลังนั่งเล่นม้าไม้เเละร้องเพลงไปเรื่อยๆราวกับไร้สติอยู่

    ทั้งสองมองไปที่เด็กคนนั้นพร้อมกัน

    ซาโยะเบนสายตาไปจนพบกับกัทส์สปาร์คเลนส์ของตนนั้นวางอยู่ที่โต๊ะด้านข้างที่มีแก้วบรั่นดีวางไว้

    “อ่า ซวยชะมัด” เธอบ่นออกมา

    เอี๊ยดดดดดด ตึง!!! ยายแก่คนนั้นได้เปิดประตูเข้ามาและปิดมันลงพร้อมกับเดินกระเผลกไปหยิบบรั่นดีนั่นมาดื่มทันที

    “นี่!!! แกเป็นใครกันแน่ ตอบเรามาเดี๋ยวนี้นะ!!!” ซาโยะถาม

    “นี่ที่ไหนกันตอบมาหน่อยสิ!!!” อิเลน่าเสริม

    ยายแก่คนนั้นไม่สนอะไรทั้งสิ้นเธอเดินไปหาเด็กที่ร้องเพลงอยู่และลูบหน้าของเขา

    “เฮ้ย!!!” อย่านะ อย่าเเตะต้องเด็กคนนั้นนะ!!!" ซาโยะกล่าวออกมา

    “เฮี๊ยกกกกกๆๆๆๆๆ!!!” ยายแก่ทำการเปิดปากออกและดูดพลังวิญญาณออกจากตา หู จมูก และปากของเด็กคนนั้นในรปแบบพลังงานสีรุ้ง

    “อะไรกันเนี่ย?” อิเลน่าถึงกับเอามือกุมปาก

    ไม่นานนักเด็กคนนั้นก็ตัวขาวซีดและเหลือแต่ร่างไร้วิญญาณเท่านั้น

    “นี่แกทำอะไรกับเด็กคนนั้นกัน!!!” ซาโยะถาม

    “ข้าแค่ดูดวิญญาณความหวังและความฝันของมันออกมาน่ะสิ” 

    “บ้าไปแล้ว!!! นั่นวิญญาณคนคนนึงเลยนะ รีบคืนเขาไปได้แล้ว!!!” ฮิเลน่ากล่าว

    ยายคนนั้นเฟี้ยงแก้วบรั่นดีทิ้งและเดินไปโดยไม่สนใจทั้งสองคน

    “เฮี๊ยกกกกกๆๆๆๆๆ พวกมนุษย์วัยรุ่นน่ะไม่ต้องการความฝันหรอก เพราะจนถึงท้ายที่สุดแล้ว พวกมันเมื่อโตขึ้นไปก็ละทิ้งฝันของตัวเองไปกันหมดนั่นแหละ” ยายแก่ผลักร่างของเด็กชายผู้โดนสูบวิญญาณลงไปกองกับพื้น

    “เเล้วที่ที่แกส่งร่างคนพวกนั้นไปล่ะ?!!!” ซาโยะถามยาย

    “ข้าส่งพวกมันไปยังสุสานของคนเป็นที่ข้าสร้างไว้ยังไงล่ะ” 

    “สุสานคนเป็น?”

    “ใช่แล้ว พอล่ะ ข้าไม่มีธุระกับเจ้า กินวิญญาณของคนที่มันมีแต่ความดำมืดในจิตใจรังแต่จะทำให้รสชาตินั้นขมขึ้น” ยายแก่เดินมาที่แคปซูลของอิเลน่า

    “จะทำอะไรน่ะ แค่กๆๆๆ!!!” อิเลน่าโดนรมแก๊สในแคปซูลจนสลบไป

    “คุณอิเลน่า!!!!” ซาโยะตะโกนเรียกเธอ

    ยายแก่ทำการเดินเข้าไปเอาร่างของอิเลน่าออกมาและดูดวิญญาณไปจนหมด

    ร่างกายของอิเลน่ากลายสภาพไปจนสีซีดและไร้วิญญาณไปโดยสมบูรณ์

    “แฮ้ะๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!” ยายแก่คนนั้นเดินออกจากห้องไปและดำเนินแผนการของตนต่อ

    ทิ้งให้ซาโยะที่เจ็บใจทำอะไรไม่ได้ทุบตู้อยู่แบบนั้นจนบ้าคลั่ง

     

    ตกดึกคืนนั้น

    จู่ๆทุกคนที่ได้ไปเขียนขอพรวันทานาบาตะกับยายคนนี้ต่างพากันได้ยินเสียงดนตรีแปลกๆในความฝัน

    ทุกคนต่างตื่นขึ้นมาด้วยแววตาที่ไร้วิญญาณและเดินออกจากที่พักของตนไป

    ฮินะสะดุ้งตื่นขึ้นมาและตกใจราวกับตนเองเห็นฝันร้ายแปลกๆ

    “นี่มันอะไรกัน?” ฮินะเปิดหน้าต่างออกไปและมองไปที่ถนน

    เธอเห็นคนบางคนกำลังเดินเลื่อนลอยไร้สติและพากันไปรวมตัว ณ ที่เดียวกัน

    “นี่ ไปไหนกันน่ะ ฮัลโหล เฮ้!!!” ฮินะพยายามปลุกสติคนที่เดินไปแถวนั้น

    “ริสะจิ สึกุมิจัง” ฮินะเห็นทั้งสองคนกำลังเดินไปแบบไร้เรี่ยวแรงและเลื่อนลอย

    ฮินะพยายามเข้าไปห้ามทั้งสองคนแต่ทั้งสองก็ไม่ฟังอะไรทั้งสิ้นพร้อมกับผลักเธอและเดินไป

    ฮินะเลยตัดสินใจเดินตามคนพวกนี้ไป

     

    ณ สระน้ำในเขตการศึกษา 21 

    ที่นี่มีสวนสาธารณะพร้อมคลองขนาดใหญ่จากนอกเมือง ตอนนี้มันกำลังเกิดการสั่นสะเทือนครั้งใหญ่

    ครืนๆๆๆๆๆๆ ใต้คลองนี้มีบางสิ่งปรากฏออกมามันเป็นเหมือนก้อนกลมๆสีเทาขนาดยักษ์ที่เรืองเเสงได้ปรากฏขึ้น

    “เฮี๊ยกๆๆๆๆๆๆ มาเลย มาหาข้า มาสู่ดินแดนแห่งคำอธิษฐานที่พวกเจ้าปราถนา” ยายแก่คนนั้นขึ้นมายืนตะโกนกู่ร้องอย่างสุดเสียง

    เหยื่อจากพลังของกิลันโบพากันเดินอย่างไร้สติไปยังทรงกลมประหลาดตรงนั้น ทุกคนต่างพากันเดินเข้าไปคนเเล้วคนเล่า

    “หยุดนะ!!! อย่าเข้าไป อย่า!!!!” ฮินะรีบห้ามริสะและสึกุมิแต่ไม่เป็นผล

    เธอเหลือบไปเห็นแม่มดแก่คนนั้นกำลังยืนหัวเราะบนยอดทรงกลม

    “นั่นตัวการสินะ ทำไงดี ทำไงดี?” ฮินะสับสนมาก

    “หยุดน้าาาาาาาา!!!” ฮินะเผลอปล่อยออร่าพลังแห่งความมืดจำนวนหนึ่งออกมาจนพุ่งไปโดนแม่มดแก่ตนนั้น

    “อ้ากกกกกก!!!” มันกระเด็นล้มลง

    “เอ๊ะ?” ฮินะสงสัยมากและมองมือตัวเองไปมา

    แม่มดแก่ตนนั้นรีบกลับเข้าไปในทรงกลม เพราะตอนนี้พลังของฮินะนั้นทำให้มันเกิดความไม่เสถียรและกำลังจะร่วงลงสู่่พื้น

    เพล้งงงงง!!! แคปซูลที่ซาโยะอยู่นั้นแตกออกเพราะแรงกระแทกมหาศาล

    “อ้าาาาา!!! เจ็บ เจ็บเหลือเกิน!!!” ซาโยะหยิบกัทส์สปาร์คเลนส์ออกมาและทำการเสียบคีย์แปลงร่าง 

    “แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก ทริกเกอร์!!!!” ซาโยะชูสปาร์คเลนส์และประกายแสงก็เกิดขึ้น

    Ultraman Trigger Multi Type!!!

    “แท้บบบบ!!!” ทริกเกอร์ขยายร่างจนใหญ่และออกไปจับทรงกลมประหลาดของแม่มดแก่บินออกมาบนท้องฟ้า

    ทริกเกอร์คว้าทรงกลมออกมาและเอามันลงมาวางไว้ที่พื้น

    “แกนะแก!!” แม่มดแก่ตนนั้นกลายร่างกลับไปสู่ร่างที่แท้จริงและกลายเป็นกิลันโบ

    “วริ้ง!!” กิลันโบกระโดดออกมาและทริกเกอร์ก็หันมา พร้อมประจันหน้ากัน

    “แท้บบบ!!!” ทริกเกอร์เริ่มเปิดก่อนโดยการเข้าไปต่อย

    กิลันโบหลบได้และเอากรงเล็บฟาดและสวนกลับ

    ทริกเกอร์โดนซัดจนกระเด็นเล็กน้อยและพยายามพยุงตัวเอาไว้

    กิลันโบปล่อยลำแสงสีม่วงใส่จนทริกเกอร์หงายหลัง

    “แท้บบบบบบ!!!” ทริกเกอร์ล้มหัวฟาดพื้นทันที

    ทริกเกอร์รีบวิ่งมาและพยายามจับตัวกิลันโบแต่มันทำการม้วนหน้าและล็อคแขนทริกเกอร์ดัดมันไปจนทริกเกอร์เจ็บมาก

    “ท้าาาาาา!!!” ทริกเกอร์ร้องออกมา

    “อ๊าาาาาาา!!!” ซาโยะร้องด้วยความเจ็บสุดขั้วหัวใจ

    ทริกเกอร์พยายามไล่เตะศัตรูแต่มันก็หลบได้ทุกดอกและเอี้ยวตัวมาจับทริกเกอร์เอาไว้

    “แท้บบบบบบ!!!” ทริกเกอร์พยายามสลัดมันให้หลุดด้วยแรงที่มี

    “วริ้งงงงงง!!!” กิลันโบก็ล็อคเธอเอาไว้ไม่ปล่อย

    ทริกเกอร์สลัดมันไปและเหวี่ยงมันจนกระเด็น

    โครมมมมม!!! กิลันโบกระแทกพื้นเต็มๆ

    ทริกเกอร์กระโดดเตะและหมายจะถีบมันให้โดน

    ตู้มมมมมม!!! ทริกเกอร์กระโดดเตะอากาศและลงมาเหยียบพื้น

    กิลันโบหายตัวและเสียงหัวเราะของมันดังขึ้นในทุกๆทิศทาง

    “ฮึๆๆๆๆๆๆๆๆ” กิลันโบวาปไปมาและเข้าโจมตีทริกเกอร์ทุกทิศทาง

    “ท้าาาาาาา!!!” ทริกเกอร์โดนฟาดกรงเล็บไปเต็มหน้าจนล้ม

    กิลันโบหัวเราะและแยกร่างออกมา 5 ร่างพร้อมกับเคลื่อนที่ด้วยความเร็วจนทริกเกอร์มองตามไม่ทัน

    “แท้บบบบ!!!” ทริกเกอร์มึนหัวจนในที่สุดก็อ่อนแอจนไทม์เมอร์คัลเลอร์กระพริบ

    กิลันโบเคลื่อนที่ไปมาแบบสลับไปสลับมา

    “แท้บ!!!” ทริกเกอร์ใช้ท่าไทม์เมอร์แฟลช เปล่งแสงออกมาจากกลางอกและภาพลวงตาของศัตรูก็สลายหายไป

    “วริ้งงงงงง!!!” กิลันโบเกิดอาการสับสน

    ทริกเกอร์ยืนตรงและเตรียมตัวปล่อยลำแสงเซเพเรี่ยน

    “แท้บบบบบ!!!” ทริกเกอร์ปล่อยลำแสงเผด็จศึก

    ตู้มมมมมม!!!! กิลันโบระเบิดจนสลายกลายเป็นเถ้าธุลีทันที วิญญาณที่กิลันโบดูดกลืนจำนวนมากไปนั้นต่างพุ่งกลับสู่ร่างกายของเจ้าของร่าง

    ทริกเกอร์ที่เหนื่อยล้าได้กลายเป็นแสงและสลายหายไป ซาโยะนั้นเหนื่อยสุดๆอีกตามเคย

    “อ่า…แขนชั้น อูย…” เธอลากตัวเองเพื่อไปรักษาที่โรงพยาบาลก่อนเพราะนู้สึกว่าตัวเองนั้นเเขนเกือบหัก

    และหลังจากการระเบิดของกิลันโบไม่นาน ทางแอนตี้สกิลและหน่วยงานอื่นๆของเมืองต่างเข้าช่วยเหลือเหล่าผู้คนที่ไม่ได้สติจากเหตุการณ์ในครั้งนี้จำนวนมาก เพื่อไปรับการรักษาจากโรงพยาบาล

    “นั่นน่ะเหรอ มนุษย์ยักษ์ที่ออกข่าวน่ะ ทำไมมันเหมือนกับ……” ฮินะมองการต่อสู้ของทริกเกอร์มาตั้งแต่เเรกและเธอก็นึกอะไรบางอย่างออก

    “เธอคือ ความมืด ความมืดที่จะสั่นสะท้านไปทั่วหัวใจของเธอ คือสิ่งที่จะปฏิวัติโลก” เสียงปริศนาในหัวของฮินะนั้นดังขึ้นไม่หยุดหย่อน

    “พอได้แล้ว พอสักที หยุดนะ กรี๊ดดดดดดด!!!” ฮิินะยืนกุมหัวและก้มลงพร้อมกับขอให้เสียงนี้หยุดลง

     

    ณ ท้องฟ้าที่กลายเป็นสีส้มแดงจุดหนึ่งที่ไหนสักแห่ง

     มีสายฟ้าและเปลวเพลิงเล็ดลอดออกมาและน่ากลัวราวกับว่ามันจะเผาผลาญทุกสิ่ง

    เสียงปริศนาของบางอย่างดังขึ้นมาจนกึกก้อง

    “อีกไม่ช้าโลกใบนี้จะถึงการกำเนิดใหม่ พลังเปลวเพลิงอันยิ่งใหญ่จะเผาผลาญความสกปรกทั้งหมดไปจากที่นี่ พวกเจ้าจงเชื่อฟังคำของผู้บุกเบิกใหม่ เดี๋ยวข้าจะเเสดงให้เห็น เปลวไฟเเห่งการมาโปรดของข้า……………..” 

    เสียงนั้นได้ดับไป มันคืออะไรกันแน่?

     

    แสงแห่งความหวังที่จะมุ่งไปสู่อนาคต อุลตร้าแมนทริกเกอร์

    (ลิ้งเพลงจบแบบหล่อเท่)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×