คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : คำสัญญาที่ถูกลืม
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ซาโยะได้ตื่นขึ้นมาในทุ่งรกร้างแห่งหนึ่ง
“เฮือกกกก! ที่นี่มันที่ไหน?” ซาโยะมองไปรอบๆและก็พบแต่ทะเลทรายสุดลูกหูลูกตา ท้องฟ้าของที่นั่นเป็นสีแดงฉาน
“รู้สึกตัวเเล้วเหรอ?” มีหญิงสาวในชุดสีขาวดวงตาสีฟ้า ร่างกายของเธอเรืองเเสงส่องสว่างไสวอย่างเป็นประกายเจิดจ้า
“คุณเป็นใคร?” ซาโยะถามเธอขึ้นมา
“เรียกชั้นว่ายูซาเร่สิ ทริกเกอร์…….”
“ยูซาเร่?”
ยูซาเร่ไม่กล่าวสิ่งใด เธอทำเพียงเเค่เดินหันหลังให้ซาโยะและหันกลับมามองเธอ
“เธออยากเห็นรึเปล่า?”
“หืม?” ซาโยะสงสัย
“เธออยากรู้มั้ย? เรื่องราวเมื่อ 30 ล้านปีก่อนที่เธอยังไม่รู้น่ะ”
“………………” ซาโยะไม่พูดอะไรเพียงเเต่เธอเดินตามยูซาเร่ไปด้วยกัน
และทั้งสองเดินทางไปยังปราสาทโบราณที่ตั้งกลางทะเลทรายแห่งนั้น มันเป็นป้อมปราการที่ดูใหญ่โตโอ่อ่ามากๆ
“ที่นี่คือ?”
“ดินแดนแห่งมนุษย์ยักษ์เมื่อ 30 ล้านปีก่อน พวกเขาคือมนุษย์ยักษ์เพียงน้อยนิดที่ยังเหลือรอดจากสงครามครั้งใหญ่” ยูซาเร่กล่าว
“สงคราม จริงสิคุณไดโกะเคยพูดไว้นี่นา นี่เธอรู้จักชายคนนั้นด้วยเหรอ?”
ยูซาเร่เมินคำถามนั้นของซาโยะและเริ่มเล่าเรื่องต่อ
“พวกเขาที่เหลือเพียงหยิบมือคือมนุษย์ยักษ์ที่สำนึกผิดต่อความผิดที่พวกตนได้ก่อสงครามและหนีจากมิติของตนเองมาลงหลักปักฐานที่มิตินี้และดาวดวงนี้” ยูซาเร่กล่าว
ซาโยะเลยยืนเงียบและไม่ถามอะไรต่อ
“นักรบแห่งแสงที่เคยละทิ้งความมืดและหวนคืนสู่แสงสว่างนั้นมีมากมายหลายคน แต่ก็มีนักรบแห่งแสงหลายคนขายวิญญาณให้กับความมืดมามากมายเช่นกัน ดังเช่น เหล่าสามยักษ์แห่งความมืด”
“สามยักษ์แห่งความมืด อ้ะ?!!” ซาโยะรับรู้ถึงแรงสะเทือน
คามีร่า ดาร์กอน และ ฮิวดรัม เดินทางมาในร่างยักษ์มาที่หน้าเมืองของพวกยักษ์แห่งแสง
เหล่ายักษ์แห่งแสงที่เหลือต่างออกมาเพื่อจัดการกับผู้บุกรุก
“หึ เซี๊ยะ!!!” คามีร่าเริ่มการเสกแส้ลำแสงออกมาฟาด
ดาร์กอนและฮิวดรัมได้ต่อสู้กับพวกยักษ์แห่งแสงบางตนที่เข้ามาขวางพวกตน
การต่อสู้ทวีความรุนแรงมากขึ้น ยักษ์บางตนล้มตายและสลายไป
“เอ๊ะ?” ซาโยะตกใจมาก
"ยักษ์แห่งความมืด ความจริงนั้นมิได้มีเพียงสามตน" ยูซาเร่กล่าว
และทันใดนั้นมีลำแสงสีม่วงทมิฬพุ่งมาโดนพวกยักษ์แห่งแสงจนระเบิด
คามีร่าถึงกับหันไปมองด้วยความปิติยินดี
“เป็นไปไม่ได้ นั่นมัน?” ซาโยะที่เห็นมนุษย์ยักษ์ตนนั้นก็รู้ได้ทันที
มันมีรูปร่างเหมือนอุลตร้าแมนทริกเกอร์มากๆเพียงแต่มีรูปลักษณ์ที่ต่างกันสิ้นเชิงในหลายๆจุด
“นั่น?”
“ทริกเกอร์ดาร์ค” ยูซาเร่กล่าว
“ทริกเกอร์ดาร์คเหรอ?”
“เขาก็คือทริกเกอร์ในตอนที่ยังไม่พบกับแสงสว่าง ตอนนี้เขาเป็นแค่ยักษืที่ลุ่มหลงในพลังตนเองและความมัวเมาของสิ่งต่างๆเท่านั้น”
“แท้บบบบบ!!!” ทริกเกอร์ดาร์คจัดการกับพวกยักษ์แห่งแสงตายไปหลายราย จนฝ่ายแสงสว่างต้องล่าถอย
“หึหึหึ 555+ ต่อหน้าคนรักของข้าพวกเจ้าก็เป็นได้แค่มกดปลวกเท่านั้น!!” คามีร่าหัวเราะอย่างสะใจ
“คนรัก?” ซาโยะสงสัยขึ้นมา
“ทริกเกอร์ดาร์คและคามีร่าต่างมีความสัมพันธือันลึกซึ้งแก่กันและกันอยู่” ยูซาเร่กล่าว
“จัดการมันเลย ยอดรักของข้า” คามีร่าชี้นิ้วสั่ง
“แท้บบบบบบ!!!” ทริกเกอร์ดาร์คปล่อยลำแสงไม้ตายออกไปอย่างแรง
“อันตราย!!!” ซาโยะอินกับภาพตรงหน้าแบบสุดๆ
ตู้มมมมมมมม!!! เกิดระเบิดดังขึ้น หมอกควันปกคลุมไปทั่ว
พอหมอกควันมากมายหายไป ภาพตรงหน้าคือมนุษย์ยักษ์แห่งแสงที่เป็นผู้นำของเหล่าแสงสว่างที่เหลือ ณ เวลานั้น
“นี่แก ยังมีชีวิตอยู่อีกเหรอ? ทีก้า!!!” คามีร่ากล่าวออกมาด้วยความโมโห
“แจ้บบบบ!!” ทีก้าตั้งท่าและไม่ฟังอะไรทั้งนั้น เขาพร้อมปกป้องแสงสว่างสุดท้ายของเผ่าพันธุ์ของเขาเอาไว้
“ทีก้าคืออดีตยักษ์แห่งความมืดตนแรกที่ไขว่ขว้าหาแสงแสว่างมาได้ด้วยตนเองและคอยพิทักษ์แสงสว่างจากความมืดที่กลืนกินเรื่อยมา” ยูซาเร่เล่าเรื่องต่อ
“นั่นน่ะเหรอ ทีก้า……” ซาโยะกำลังตื่นตะลึงมากกว่าเดิม
“แจ้บ!! ท่าาาา!!!” ทีก้าเข้าต่อสู้กับทริกเกอร์ดาร์คและพวกเขาสูสีกันมาก คามีร่ากับพวกของเธอก็เปิดฉากต่อสู้กับยักษ์แห่งแสงที่เหลือ
การต่อสู้ของเหล่ายักษ์นั้นยิ่งใหญ่มากและสั่นสะเทือนไปทั่วโลกในเวลานั้น
“แต่…….ชั้นไม่เข้าใจเลย?” ซาโยะกล่าว
ยูซาเร่เลยหันมามอง
“ทำไมล่ะ ความมืดน่ะมันโดนชักจูงลงไปง่ายมากเลยเหรอ? ถึงขนาดที่เปลี่ยนยักษ์แห่งแสงให้เป็นความมืดได้น่ะ”
“เจ้าอยากได้คำตอบแบบไหนล่ะ?” ยูซาเร่กล่าว
“แน่นอนอยู่แล้ว ชั้นไม่อยากไปพัวพันกับไอ้เรื่องบ้าๆพรรค์นี้หรอกนะ เธกับคุณไดโกะเลิกบอกว่าชั้นคือแสงสว่างสักที เพราะชั้นน่ะ…..เพราะชั้น……” ซาโยะพูดไม่ออก
ยูซาเร่ก็มองด้วยความนิ่งเงียบ
“เพราะชั้นน่ะ ไม่ใช่คนที่ดีเลิศอะไรหรอกน่า!!!!” ซาโยะตะคอกออกไป
“ยังไงก็ตาม เธอก็คือแสงสว่างส่วนเหตุผลคือ………..” ยูซาเร่กล่าว
แต่ทันใดนั้น
“แท้บบบบบ!!!” ทริกเกอร์ดาร์คโดนทีก้าเหยียบอกและลงไปกองกับพื้นแล้ว
“ณ วินาทีนั้นยักษ์แห่งความมืด ได้เริ่มฉุกคิดอะไรได้บางอย่าง เหมือนกับเด็กสาวที่ถูกเลือก ที่กำลังสับสนในจิตใจ” ยูซาเร่กล่าวด้วยความกำกวม
ทีก้าจัดการกับพวกคามีร่า ดาร์กอน และ ฮิวดรัม ได้สามคนด้วยความเก่งกาจและแข็งแกร่งพร้อมกับขับไล่พวกนั้นออกไป
“ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ” แต่ก่อนที่พวกคามีร่าจะหนีไปนั้น
ทริกเกอร์ดาร์คได้หันมามองทางซ้ายราวกับว่าตัวเขานั้นมองเห็นซาโยะยืนอยู่
และแล้วคามีร่าก็พาพวกของตนทั้งหมดหนีไป
ทึีก้าถึงกับเข่าทรุดและยักษ์แห่งแสงบางตนออกมาช่วยกันพยุงทีก้ากลับไปพัก
“อะไรกัน?”
“ทีก้า ณ เวลานั้น อ่อนแอลงอย่างมาก ความมืดในโลกเวลานั้นเริ่มคลืบคลานมามากขึ้น แสงสว่างนั้นเริ่มน้อยนิด พลังของยักษ์แห่งแสงจะอ่อนแอลง แต่ถึงอย่างนั้นมีเพียงหนึ่งอย่างที่พวกเขาไม่ยอมให้ใครแย่งไปได้อย่างเด็ดขาด” ยูซาเร่กล่าว
“สิ่งที่ไม่ให้แย่งไปงั้นเหรอ?”
“เอทานิตี้คอร์” ยูซาเร่กล่าวออกมา
“อะไรอีกล่ะนั่น อ้ะ?!! เดี๋ยวก่อน เดี๋ยว!!!!” ซาโยะพยายามจะวิ่งไปขว้าตัวยูซาเร่แต่เธอก็ห่างงจากตัวยูซาเร่มากขั้น มากขึ้น
“เฮือออกกกก!!!” ซาโยะสุะดุ้งตื่นนอนขึ้นมาทันที
ตี๊ดๆๆๆ ตี๊ดๆๆๆ ตี๊ดๆๆๆ เสียงนาฬิกาปลุกของเธอนั้นดังถี่มาก
“โอ้ย วันนี้วันเสาร์นะ” ซาโยะเอานาิกาปลุกมากดปิดและยอมลุกไปเปิดหน้าต่างห้องตัวเองทันที
“ฝันอะไรกันแน่นะ ภาพพวกนั้นคือ 30 ล้านปีที่แล้วจริงๆงั้นเหรอ? ไม่เห็นจะเข้าใจอะไรสักอย่างเลย โอ้ยยยย!!!” ซาโยะปวดหัวกับเรื่องพวกนีี้มากสุดๆ
ซาโยะเดินลงมาอาบน้ำ ล้างหน้า และเเปรงฟัน พร้อมกับเปลี่ยนชุดออกไปข้างนอกและหิ้วกีตาร์ออกไปด้วย
“พี่คะ” ฮินะเดินลงมาทักทายพีี่สาวของเธอ
“อืม มีอะไร?”
“คือว่าวันนี้ มีหนังเรื่องใหม่ที่เข้าโรงน่ะ เป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ด้วย หนูอยากไปดูกับพี่นะ วันนี้พี่ว่างนี่นา ไปด้วยกันไหมคะ?” ฮินะเชิญชวนเธอ
“……………” ซาโยะมองด้วยสายตาปลาตายและเรียบเฉยก่อนที่จะเมินให้ฮินะและเดินหนีออกไปนอกบ้านมาพร้อมกีตาร์ของตัวเอง
“ไม่ต้องคิดจะมาชวนชั้นให้ยากเลย” ซาโยะเดินออกไปนอกบ้านและปิดประตูใส่ฮินะทันที
ฮินะที่กำลังยิ้มได้เปลี่ยนสีหน้าทันทีหลังจากซาโยะไปแล้ว รอยยิ้มของเธอหายไปและมีน้ำตาเล็กน้อย
“พี่คะ……ฮึก” ฮินะเดินหนีกลับห้องตัวเองไป
อีกด้านหนึ่งในห้วงอวกาศเหนือพื้นโลก
มีเวิร์มโฮลขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นและเกิดพลังงานประหลาดจำนวนมากไหลผ่านช่องว่างของอวกาศออกมา
ทางด้านทีมงานของ GUTS ที่พื้นโลกได้ตรวจจับพลังงานมหาศาลออกมาได้
“เซคเตอร์น่านฟ้า K233 คาบสมุทรเกาหลี ตรวจพบคลื่นไมโครเวฟประหลาดครับ”
“รายงานสิ”
“ครับ เป็นคลื่นพลังงานรังสีไมโครเวฟจาก……ไม่จริง นอกชั้นบรรยากาศครับ!!!”
ทันทีที่เวิร์มโฮลเปิดออกจนสุดแล้ว มีสิ่งมีชีวิตตนหนึ่งร่วงลงมายังพื้นโลกบริเวณชายฝั่งเกาหลี
“ก๊าซซซซซซ!!!” สัตว์ประหลาดตนนั้นคำรามและชูอาวุธที่แขนของมันออกมาและร่ำร้อง
“ผบ.ครับ พลังงานจากสัตว์ประหลาดตัวนี้สูงมากครับ มีสิทธิสร้างความเสียหายต่อชุมชนที่พักอาศัยอย่างมากเลยครับ”
“เรียกหน่วยไลท์นิ่งและหน่วยเรดแฟลร์ไปสกัดกั้นมันจากเขตชายฝั่ง สั่งทางการเกาหลีประกาศภาวะฉุกเฉินด้วย ล่อมันออกไปที่ทางอื่นก่อน”
“ก๊าซซซซซซ!!!” ซูเปอร์คอฟมองเห็น GUTS wing จำนวนมากพากันบินมาจากอีกด้านหนึ่ง
“ก๊าซซซซซซซ!!! วิ้งๆๆๆ” ซูเปอร์คอฟปล่อยลำแสงออกจากศรีษะ และระเบิด GUTS Wing ไปหลายลำ
“บ้าเอ้ย เครื่องสองกับห้าเสร็จมันไปแล้ว ผบ.ครับ ขอคำสั่งด้วย”
“ผบ.ครับ มีรายงานใหม่เกี่ยวกับเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนั้นครับ”
“ว่ามาซิ”
“ครับ ดูเหมือนทุกที่ที่มันไปจะมีการคงอยู่ของคลื่นไมโครเวฟแรงสูงครับ ไม่สามารถเข้าใกล้มันได้เพราะจะทำให้อุปกรณ์อิิเล็กทรอนิคส์เกิดอาการรวนครับ”
“ถ้าอย่างนั้น เรียกหน่วยแบล็คไนท์ออกไปเสริมกำลัง ติดตั้งขีปนาวุธทำลายคลื่น EPF ด้วย”
“ทราบแล้ว”
GUTS Wing หน่วยที่สามออกมาสมทบพร้อมกับขีปนาวุธรูปแบบใหม่ที่มาเพื่อจัดการเจ้าอสูรตนนี้โดยเฉพาะ
“ระวัง เล็ง ยิงได้!!!” GUTS Wing ทีมใหม่ยิงจรวดออกไปสามลูก
ตู้มมมมมมมม!!! ระเบิดคลื่นสนามไฟฟ้าปั่นป่วน ทำให้ซูเปอร์คอฟเกิดอาการสั่นและสับสนเล็กน้อย
“สำเร็จ มันมึนไปแล้ว ระดมยิงเลเซอร์เข้าไป” หัวหน้ากองบินกล่าว
ฟิ้ววววววว ตู้มมมมมมม ห่าฝนเลเซอร์จำนวนมากพุ่งไไปโดนซูเปอร์คอฟ
“ก๊าซซซซซซ!!!” มันรีบหนีลงทะเลและล่าถอยหายไป
“มันหนีลงทะเลไปแล้วครับ”
“ตามสัญญาณของมันได้ไหม?”
“ไม่ได้ครับ คลื่นไมโครเวฟจากตัวมัน รบกวนการทำงานของคลื่นเรดาห์หมดเลยครับ”
“ชิ ถ้างั้นประกาศปลดภาวะฉุกเฉิน แต่การเฝ้าระวังให้อยู่ในระดับสีส้ม”
“ทราบแล้ว”
ดูเหมือนว่าทางทีมงานของหน่วย GUTS จะต้องทำงานกันหนักอีกครั้งแล้ว
ตัดมาที่ซาโยะที่มาซ้อมกีตาร์คนเดียวที่ CiRCLE
ซาโยะขมักเขม้นซ้อมกีตาร์อย่างไม่ลืมหูลืมตาเพื่อที่จะลืมอะไรๆหลายอย่างให้ได้
เธอเล่นกีตาร์โปร่งจนจบเพลงและก็หยุดนิ้วลงไป
“ไม่ มันยังไม่ได้ มันยังไม่พอ” ซาโยะกำลังเครียดหนักมาก
จนกระทั่งเจ้าของร้านอย่างคุณมารินะเดินเข้ามา
“ดีจ้า อ้าวซาโยะจังนี่นา วันนี้มาคนเดียวเหรอจ้ะ?”
“ดีค่ะคุณมารินะ” ซาโยะแค่หันมาทักทายและนั่งปรับสายกีตาร์ต่อ
“วันนี้โรเซเลียไม่มีซ้อมนี่นา เเล้วซาโยะจังมาทำอะไรเหรอ?”
“แตค่อยากระบายอารมณ์แค่นั้นเองค่ะ พอดีเจอเรื่องเเย่ๆมาหลายวันติดแล้วน่ะค่ะ”
“เหรอ เเล้วซาโยะจังอยากให้ช่วยอะไรรึเปล่าจ้ะ?”
“ไม่ค่ะ ขอบคุณ พอดีชั้นอยากอยู่คนเดียวน่ะค่ะ”
“งั้นเหรอ? อืม….งั้นไม่รบกวนแล้วล่ะ ถ้าหิวก็มากินขนมที่เคาน์เตอร์ได้นะ เดี๋ยวขอตัวไปแปะใบปลิวก่อนนะ”
“โชคดีค่ะ” ซาโยะกล่าว
หลังจากนั้นไม่นานซาโยะก็เก็บกีตาร์ใส่กระเป๋าและเดินทางไปที่อื่นต่อ
ซาโยะมาที่หน้าสถานีรถไฟฟ้าของเขต 7 จากนั้นเจ้าตัวจึงได้เอากีตาร์ออกมาและเล่นดนตรีเปิดหมวกระบายอารมณ์อีกครั้ง
“โห ดูสิ เด็กคนนั้นเก่งจังเลย”
“เป็นผู้หญิงแท้ๆเเต่เล่นกีตาร์เทพมากเลยล่ะ”
“มาจากโรงเรียนไหนกันนะ โห”
“สุดยอดเพราะมากเลย”
ประชาชนทั่วไปที่ผ่านไปมาได้พากันถ่ายรูปและให้ทิปซาโยะที่มาเล่นดนตรีเปิดหมวกตอนนั้นกันมากมาย
แต่ดูเหมือนซาโยะจะไม่ยิ้มและกไม่ชอบใจบางอย่างอยู่ซึ่งเธอแสดงออกมาอย่างชัดเจนทางสีหน้า
ซาโยะเล่นไปหลายสิบเพลงจนหยุดเล่นเพื่อนนั่งพักก่อน
“ไม่ใช่ ชั้นเล่นได้แย่ลง ทำไมกันนะ เมื่อก่อนชั้นเล่นได้เเม่นยำกว่านี้นี่หนิ?!!!” ซาโยะนั่งกุมขมับและครุ่นคิด
“ต้องเป็นเพราะเจ้านี่แน่ๆ เพราะเเก เพราะเเกเเน่ๆ” ซาโยะเอากัทส์สปาร์คเลนส์ออกมาและดูมัน
เธอเงื้อมันขึ้นมาหมายจะเขวี้ยงมันทิ้งลงพื้นแต่ทว่า….
หมับ!!! มีคนมาจับมือเธอจากด้านหลังเอาไว้
“เหอ?!” ซาโยะหันมา
“เป็นความคิดที่ไม่ฉลาดเอาซะเลยนะ” ไดโกะ มาโดกะเดินมาเจอเธอพอดี
“ชิ” ซาโยะกระชากแขนตัวเองจากไดโกะ
“ทำไมถึงทำอะไรบ้าๆที่มันไร้ความหมายแบบนี้ล่ะ?”
“อย่างคุณมันจะไปเข้าใจอะไรล่ะ!!!”
“……….”
“คุณไดโกะ!!! คุณมันไม่เข้าใจหรอก ว่าการที่เกิดมาแล้วต้องอยู่แบบไม่มีใครเห็นหัวมาโดยตลอดตั้งแต่เกิด ต้องอยู่แบบเป็นเงาของคนคนนึงมาตลอดชีวิตน่ะ มันเจ็บปวดแค่ไหนน่ะ!!!”
“เรื่องนั้นมันก็ส่วนเรื่องนั้น เรื่องงานก็ส่วนเรื่องงานสิ”
“เเล้วเคยถามชั้นเองสักคำบ้างมั้ย? ถามบ้างมั้ยว่าชั้นอยากจะเป็นแสงงี่เง่าอะไรของคุณรึเปล่า!!!”
“……….”
“คำก็เงียบสองคำก็เงียบ พอกันที เอาไอ้ปืนบ้านี่ของคุณคืนไปเลย!!” ซาโยะขว้างกัทส์สปาร์คเลนส์ของเธอใส่ไดโกะไปเต็มๆ
ไดโกะได้แต่ยืนนิ่งเงียบไม่พูดอะไร ซาโยะสะพายกีตาร์และเดินหนีเขาไป
“เธอต่างหากที่ยังไม่เข้าใจอะไรเลยน่ะ ทริกเกอร์” ไดโกะกล่าว
อีกด้านหนึ่งที่ไหนสักแห่ง
จิซาโตะที่อยู่ในร่างของคามีร่ากำลังนั่งไถโทรศัพท์ของจิซาโตะเพื่อสืบค้นอดีตของตัวจิซาโตะเพิ่มเติม
หนึ่งในนั้นคือ IG ของตัวจิซาโตะเองที่ค่อนข้างมีรูปถ่ายกับซาโยะค่อนข้างเยอะมากอยู่ด้วย
“เห? ร่างสถิตของข้าเนี่ย มีอดีตกับร่างสถิตของทริกเกอร์มากขนาดนี้เชียวหรือเนี่ย ถ้างั้นความทรงจำในหัวของเด็กคนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสินะ” จิซาโตะที่ตอนนี้จิตใจคือคามีร่าได้นั่งยิ้มเล็กน้อย
“นี่เจ้าเอาแต่เล่นมือถือของยัยมนุษย์นั่นมาตั้งแต่หัววันแล้วนะคามีร่า” ฮิวดรัมกล่าว
“หนวกหูน่า ข้าจะทำอะไรมันก็เรื่องของข้า”
“เอาแต่ใจไม่เปลี่ยนเลยนะ”
“แล้วมีธุระอะไรของแกฮิวดรัม รีบๆพูดมาก่อนที่ข้าจะลงโทษแกข้อหาที่มาขัดเวลาส่วนตัวของข้า”
“เย็นไว้ เย็นไว้ ข้าแค่จะมาบอกว่า ตอนนี้การรวบรวมไอโซโทปสำหรับใช้งานกับสัตว์อสูรของพวกเรากำลังไปได้สวยเลย”
“งั้นเหรอ ต้องขอบใจเจ้าโง่ดาร์กอนนั่นสินะเนี่ย? แล้วทำไมอีก?”
“ตอนนี้มีสัตว์อสูรตนใหม่ที่ข้าล่อมันมาจากห้วงจักรวาลอันแสนไกลด้วยคลื่นรังสีไมโครเวฟที่ดึงดูดมันมาไงล่ะ”
“อ๋อ ซูเปอร์คอฟที่มาที่โลกนั่น ฝีมือแกเองเรอะ?” จิซาโตะกล่าวแต่ก็ยังเล่นมือถือต่อไป
“ตามนั้นแหละ ข้าจะลองใช้งานไอโซโทปพวกนี้เสริมพลังและทดลองกับสัตว์อสูรเพื่อสร้างสิ่งมีชีวิตที่แกร่งที่สุด และเมื่อกาลนั้น แม้กระทั่งเจ้าทริกเกอร์กไม่สามารถขัดขวางเราจากเอทานิตี้คอร์ได้อีกแล้ว 555555+ มันช่าง excellent จริงๆ!!”
“ชิ คำก็ทริกเกอร์ สองคำก็ทริกเกอร์ ไม่สบอารมณ์ชะมัดเลย” จิซาโตะเก็บมือถือไป
“ทำไมล่ะ อ๋อ เข้าใจล่ะพิษรักกำเริบสินะ”
“หืม?!!!” จิซาโตะรีบลุกพุ่งไปกระชากคอฮิวดรัมเข้ามาใกล้ๆหน้าเธอ
“เย้ย!!!”
“ฮิวดรัม ถ้าแกยังจะพูดว่าที่ข้าเป็นแบบนี้ไปเพราะมันอีกครั้งล่ะก็ ข้าจะจับแกไปเป็นอาหารของกอลซ่าอีกตัวของข้าแน่ๆ ช้าจะสับแกให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยคอยดู”
“โว้วๆ ก็ได้ๆ ปล่อยกันก่อนได้มั้ย?”
จิซาโตะปล่อยตัวของฮิวดรัมลงมา
“เฮ้อ…..เป็นยัยผู้หญิงป่าเถื่อนเหมือนเดิม” ฮิวดรัมหายตัวและจากไป
จิซาโตะหยิบมือถือออกมาและเปิดรูปคู่ตอนไปเที่ยวของจิซาโตะเองและซาโยะดู
“หึ เพื่อนงั้นเหรอ?” จิซาโตะยิ้มเล็กน้อย
ทางด้านของฮินะ
เธอตัดสินใจมาดูหนังคนเดียวที่โรงภาพยนต์
“ภาพยนต์ สไปเดอร์แมน โน เวย์ โฮมของโรงภาพยนต์ที่ 2 เปิดให้เข้าชมแล้วค่ะ” เสียงตามสายประกาศหน้าโรงหนังออกมา
ฮินะที่วันนี้ดูเศร้าสร้อยเป็นพิเศษได้จำใจเดินเข้าไปดูหนังเพียงคนเดียว
เธอมาดูหนังแบบที่ตรงข้างที่นั่งทั้งแถวของเธอไม่มีใครเลยสักคน ฮินะไม่ซื้อขนมเข้ามาทานด้วยซ้ำ ซึ่งโดยปกติฮินะมักจะซื้อป๊อปคอร์นมาด้วยเสมอเวลามาดูหนัง
ฮินะไม่มีสมาธิกับหนังเลยแม้แต่น้อย เธอมานั่งเศร้าและคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยคนเดียวในโรงหนังแห่งนี้
“ทำไมกันนะ ทำไมพี่เปลี่ยนไปขนาดนี้เลยล่ะ ทั้งที่เมื่อก่อนก็ยัง……..” ฮินะนั่งนึกความทรงจำในวัยเด็ก
ย้อนกลับไปเกือบสิบปีก่อน
ซาโยะและฮินะในวัยเจ็ดขวบได้ออกไปวิ่งเล่นกันข้างนอกบ้านในวันคริสมาสตร์อีฟ
หิมะโปรยปรายและสองข้างทางเต็มไปด้วยการเฉลิมฉลองเมอรี่คริสมาสตร์ในวันนั้น
“ฮะฮะฮ่า สนุกจังเลย!!!” ฮินะวัยเด็กที่พลังเต็มร้อยได้วิ่งนำแจ้นไปจนซาโยะตามไม่ทัน
“แฮ่กๆๆๆ ฮินะจัง รอด้วยพี่สิ!!!” ซาโยะวัยเด็กพยายามวิ่งตามไปด้วย
“โม่ ฮินะจัง จู่ๆก็วิ่งโร่ออกมาแบบนี้ เดี๋ยวคุณแม่ก็ดุเอาหรอกนะ” ซาโยะกล่าว
“แฮะๆ ขอโทษนะพี่จ๋า อ้า นั่นไง ไอ้นั่นอ่ะ ไอ้นั่น” ฮินะชี้ไปที่ร้านขายของทอดริมทาง
“เฟรนช์ฟรายส์ ว้าว…..เดี๋ยวไม่สิ!! ฮินะจัง รีบกลับบ้านก่อนเถอะ มันจะเริ่มมืดแล้วนะ ที่บ้านคุณแม่ก็ทำกับข้าวรอแล้วด้วยนะ”
“เห หรือพี่จ๋าไม่อยากกินเฟรนช์ฟรายส์ด้วยเหรอ? ของโปรดพี่จ๋านี่นา”
ซาโยะที่มองเด็กอีกคนที่ซื้อเฟรนช์ฟรายส์เดินออกไปด้วยรอยยิ้ม มันฝรั่งทอดในถ้วยของเด็กคนนั้นมีชีสและซอสมะเขือเทศมากมายจนยากที่ซาโยะจะอดใจไหว
“คือเรื่องนั้น……” ซาโยะยังคงลังเล
“ฮื้มฮื้ม 0w0” ฮินะยิ้มและเหมือนกำลังจะบอกว่าลองเลยๆ
“เห้อ……ช่วยไม่ได้ งั้นเอาสักนิดกันดีกว่านะ” ซาโยะยอมใจอ่อน
ทั้งสองดินไปสั่งลุงเจ้าของร้านเอาเฟรนช์ฟรายส์ไซส์จัมโบ้ถ้วยนึง
“เอ้า 500 เยนจ้า” คุณลุงคนนั้นยื่นถ้วยมันฝรั่งทอดให้
“ค่า เอ๊ะ?” ซาโยะตกใจมาก
“ทำไมเหรอพี่จ๋า?”
“พี่มีแค่ 300 เยนน่ะสิ ฮินะจังล่ะ?”
“หนูไม่มีสักแดงเลย เย้ๆ”
“อะอ้าว?” ซาโยะตกใจมากขึ้นและมองลุงเจ้าของร้ายอย่างรู้สึกผิด
"5555+ ลุงไม่ว่าหรอกเอาแค่ 300 เยนก็ได้ หนูเอาไปเลยนะ อ่ะ"
“เอ๊ะ? จะดีเหรอคะ?”
“ดีสิ เพราะงั้นพวกเธอสองคนพี่น้องรักกันไว้นะ” ลุงคนนั้นกล่าว
“ขอบคุณมากค่า” ทั้งสองขอบคุณคุณลุงและเดินจากไป
ณ ริมแม่น้ำระหว่างทางกลับบ้าน ทั้งสองพี่น้องต่างทานเฟรนช์ฟรายส์ชีสอย่างเอร็ดอร่อย
“ง่ำๆ อร่อยจัง ง่ำๆ”
“ฮินะจัง ค่อยๆเคี้ยวสิ”
“ก็มันอร่อยนี่นา? ง่ำๆ”
ทั้งสองกินเฟรนช์ฟรายส์จนหมดและเอาขยะไปทิ้ง
“อิ่มเเล้วอ่ะ” ฮินะกล่าว
“เดี๋ยวก็โดนคุณแม่ดุเรื่องกินขนมก่อนกินข้าวหรอกเนี่ย” ซาโยะกล่าว
“อ้ะ พี่จ๋า ดาวตกนี่นา!!!” ฮินะชี้ไปบนท้องฟ้า
ดาวตกยามเย็นหลังอาทิตย์อัสดงในคืนวันคริสมาสต์ช่างเป็นภาพที่สวยงาม สองพี่น้องยืนมองมันด้วยกันที่ริมถนนข้างแม่น้ำใหญ่
“โห สวยจัง” ซาโยะกล่าว
“นี่พี่จ๋า อธิษฐานเร็วเข้า!” ฮินะประนมมือ
“หวา!!!” ซาโยะก็ประนมมือด้วย
พอดาวตกหมดไปแล้วทั้งสองก็มองหน้ากันเอง
“หมดแล้วล่ะ นี่พี่จ๋าขออะไรไปน่ะ” ฮินะหันมาถาม
“ฮินะจังล่ะขออะไรเหรอ?”
“หนูเหรอ? หนูขอให้ได้อยู่กับพี่จ๋าตลอดไปก็สุขใจแล้วล่ะ”
“เห? ซึ้งใจจังเลยนะ”
“แล้วของพี่จ๋าล่ะ เร็วเข้าๆ หนูอยากรู้”
“ของพี่เหรอ? อืมมมมมมม ความลับ”
“เอ๋!!!! ขี้โกงนี่นา พี่ฟังของหนูไปแล้วอ่าาาา”
“ก็ฮินะจังซื่อเองนี่นา 555+”
“55555+ นั่นสินะพี่จ๋า”
ทั้งสองหัวเราะและเดินกลับบ้านไป พร้อมกับเห็นต้นคริสมาสตร์กลางสวนสาธารณะที่เปิดไฟสวยงาม
ราวกับว่าทั้งสองเป็นพี่น้องที่รักกันดีมาก สายสัมพันธ์ของทั้งสองคงไม่มีอะไรที่สามารถตัดขาดจากกันได้
แต่ในตอนนี้ฮินะในปัจจุบันนั้นก็กำลังนั่งสับสนว่าตนเองนั้นไปทำอะไรไว้ให้ซาโยะตอนไหนถึงโดนเกลียดมากขนาดนี้กัน
จากนั้นไม่นาน ไฟทั้่วทั้งเมืองเเห่งการศึกษาก็ตกและติดใหม่อีกครั้ง
พรึ่บบบบบ!!! “เอ๊ะ? ไฟดับเหรอ?” ฮินะตกใจมาก
ทางด้านของซาโยะที่กำลังเดินอยู่ด้านนอกก็เจอแบบเดียวกัน
จู่ๆไฟฟ้าก็ดับและติดใหม่ แต่เนื่องจากมันกระทันหันมาก ทำให้การจราจรเกิดความผิดพลาด รถยนต์หลายคันชนกันเป็นทอดๆ เครื่องบินลำหนึ่งตกลงที่ลานสนามบิน เครื่องใช้ไฟฟ้าในเมืองต่างพากันติดๆดับๆและไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตเลยแม้เเต่น้อย
เกิดความวุ่นวายไปทั่วทุกหย่อมหญ้าของเมืองเเห่งการศึกษา
“นี่มันเกิดบ้าอะไรอีกแล้วเนี่ย?” ซาโยะรีบวิ่งไปทันที
“ซาโยะคุง!!!” ไดโกะ มาโดกะวิ่งมาเจอเธอพอดี
“นี่คุณไดโกะ นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นอีกแล้วคะเนี่ย วุ่นวายกันไปหมดเเล้ว!!!”
“อสูรสงครามอวกาศมันมาโน่นแล้ว!!!” ไดโกะกล่าว
ทันใดนั้นเอง ตัวการของคลื่นไมโครเวฟแปรปรวนทั้งเมืองก็ปรากฏตัวลงมาจากฟากฟ้า
“ก๊าซซซซซซซ!!!” ซูเปอร์คอฟลงมาจากท้องฟ้าและคำรามไปทั่ว
“นั่นเหรอตัวการ เดี๋ยวนะ ไคจูอีกแล้วเหรอ?!!!” ซาโยะกล่าว
“รีบหลบก่อนเร็ว!!!” ไดโกะสัมผัสอะไรบางอย่างได้และรีบพาซาโยะก้มหลบ
“หา? โอ้ย!!!” ซาโยะโดนผลักจนล้ม
ชิ้งงงงงง!!! มีบางอย่างเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงเเละเป็นสีน้ำเงินวิ่งตัดผ่านไป แต่แน่นอนมันพลาด
“พวกนั้นมันยักษ์แห่งความมืด” ไดโกะกล่าว
“หึ หลบได้เหรอเนี่ย ไม่เคยมีใครหลบความเร็วของข้าไปได้เลยนะจะบอกให้” ฮิวดรัมรูดดาบที่เเขนตัวเอง
“อ่า พวกแกอีกแล้วเหรอ?!!” ซาโยะกล่าวและลุกขึ้นมา
“เยส และตอนนี้พวกแกสองคนต้องคายความลับมาให้ข้าได้แล้วว่าเอทานิตี้คอร์มันอยู่ที่ไหนกัน?”
“รู้ไปชั้นก็ไม่ยอกพวกแกหรอก” ไดโกะกล่าว
“เอทานิตี้คอร์? หรือว่าที่คนคนนั้นพูดในฝัน?” ซาโยะคิดเสียงดังไปหน่อย
“คนคนนั้นเรอะ คงจะเป็นยูซาเร่สินะ งั้นแกเองก็รู้สินะว่ามันอยู่ที่ไหน?” ฮิวดรัมถาม
“บอกตามตรงนะ ก็เกือบแล้วล่ะ แต่ชั้นก็ไม่รู้อยู่ดี อยากรู้ก็็ถามไอ้ตาลุงคนข้างๆชั้นนี่ดิ?”
“ลุงเหรอ? โห ปากร้ายขึ้นเยอะนะ ดีใจที่สนิทกับเธอมากขึ้นแล้วสิ” ไดโกะกล่าว
“ขอถอนคำพูดก็ได้ค่ะ ไม่อยากสนิทด้วย”
“พวกแกสองคนหยุดเล่นมุขฝืดๆพวกนั้นได้แล้ว เเล้วส่งเอทานิตี้คอร์มาซะ ไม่งั้นตาย!!!” ฮิวดรัมพุ่งมาด้วยความเร็ว
“หลบ!!!” ไดโกะผลักซาโยะอีกครั้งและเขาเองก็หลบความเร็วเหนือมนุษย์ของฮิวดรัมได้
“สองครั้ง!!! สองครั้งแล้วที่ข้าพลาดเป้า เป็นไปได้อย่างไงกัน!!!”
“มันเป็นไปแล้วฮิวดรัม!!” ไดโกะกล่าว
“หนอย ย้ากกกกกก!!!” ฮิวดรัมเดือดมาก
ไดโกะควักปืนกัทส์สปาร์คเลนส์ของซาโยะมายิงใส่และเร็วกว่า
“อ้ากกกกก!!!” ฮิวดรัมถอยออกไป
ไดโกะกระโดดต่อยและขว้างปืนคืนซาโยะ
“ซาโยะคุงรับไปซะ!!” ไดโกะกล่าว
“ค่ะ”
“รีบไปจัดการเจ้าสัตว์อสูรนั่น ทางนี้ชั้นจัดการเอง” ไดโกะหลบดาบของฮิวดรัมไปมา
“ค่ะ” ซาโยะจำใจวิ่งไปออกหน้าที่ตัวเองอีกครั้ง
“อย่าคิดหนีนะแก!!!” ฮิวดรัมจะตามไป แต่ทว่า…
ฟิ้ววววว!!! ไดโกะเอาปืนกัทส์สปาร์คเลนส์อีกกระบอกออกมาและยิงสวน
“คู่ต่อสู้ของแกคือชั้น” ไดโกะกล่าว
“ชิ งั้นก็ได้” ฮิวดรัมพุ่งกลับมา
และทั้งสองก็ต่อสู้กัน
ซาโยะรีบวิ่งไปที่ลับตาคนและเอากัทส์สปาร์คเลนส์ออกมาอีกครั้ง
“ทริกเกอร์!!!!” ซาโยะแปลงร่างเป็นอุลตร้าแมนทริกเกอร์แทบจะทันทีเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อน
(ซาวนด์ประกอบฉากที่นี่ กดเลย กด)
“ก๊าซซซซซซ วิ้งงงงงง!!!” ซูเปอร์คอฟไม่ระวังและโดนใครบางคนกระโดดถีบจนล้ม
โครมมมมมม!!! ทริกเกอร์กระโดดถีบหลังซูเปอร์คอฟไปเต็มๆ
“แท้บ!!!” ทริกเกอร์ตั้งท่าสู้และท้าทายสัตว์ประหลาดมันเข้า
ทั้งสองปะทะกันจนเกิดคลื่นช็อคเวฟสะเทือนไปทั่วเนื่องจากผลของคลื่นไมโครเวฟจากตัวของซูเปอร์คอฟ
“ก๊าซซซซซซซ!!!” ซูเปอร์คอฟเอาเคียวที่มือไล่ฟาดทริกเกอร์
ทริกเกอร์หลบและพยายามปัดป้องคมดาบของซูเปอร์คอฟเข้า
“แท้บบบบบ” ทริกเกอร์ปล่อยแสงแฮนด์แสลชออกมาและมันพุ่งเข้าใส่ศัตรู
“ก๊าซซซซซ!!!” ซูเปอร์คอฟตกใจมาก
ทริกเกอร์ทำมือเรียกอาวุธออกมาจากท้องฟ้า
Circle Arms!!!
ทริกเกอร์คว้าดาบเซอเคิลอาร์มของตนและเข้าฟาดฟันกับซูเปอร์คอฟทันที
“ย้ากกกกก!!!” ซาโยะที่อยู่ในนิมิตทริกเกอร์เหวี่ยงดาบมั่วซั่วมาก
โครมมมมม!!! นอกจากดาบจะโดนศัตรูแล้ว เธอยังฟาดโดนอาคารบ้านใกล้เรือนเคียงจนระเบิดไปด้วย
“ก๊าซซซซซซ วิ้งงงๆๆๆๆ” ซูเปอร์คอฟยิงลำแสงจากหัวเข้าใส่ทริกเกอร์เต็มๆ
“เทื้อ!!!” ทริกเกอร์กระเด็นและลงไปนอนกองทันที
ลำแสงของซูเปอร์คอฟนั้นจัดว่ารุนแรงชนิดที่ว่าโดนไปทีนึงก็เเทบจะเป็นอัมพาตเพราะคลื่นรังสีความถี่สูงด้วย
ทริกเกอร์ถึงกับลงไปนอนชักดิ้นชักงอเพราะฤทธิ์ลำแสงของมัน
“แย่แล้ว ซาโยะคุง!!!” ไดโกะมองขึ้นไป แต่ฮิวดรัมจู่โจมต่อ
“มองไปทางไหนของแก!!!” ฮิวดรัมฟาดดาบใส่ แต่ไดโกะหลบไปได้
“ฮึบ ย่ะ!!” ไดโกะยิงปืนสวนไปมากับฮิวดรัม
ทั้งสองประจันหน้ากันและเอาอาวุธมาปะทะพร้อมกับสนทนาไปด้วย
“ตกลงแล้วแกไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาจริงๆด้วยสินะ ไดโกะ มาโดกะ!!!” ฮิวดรัมกล่าว
“แน่นอน ไม่งั้นชั้นรับมือพวกแกไม่ได้ขนาดนี้หรอก” ไดโกะกล่าว
“น่าขำจริงๆ ถ้างั้นทำไมทริกเกอร์ไม่เลือกแกเป็นร่างสถิตกัน?!!” ฮิวดรัมสงสัย
“เรื่องนั้น เพราะชั้นคิดว่าเจ้าตัวทริกเกอร์เองคงมีเหตุผลที่เลือกเด็กคนนั้นอยู่ไงล่ะ” ไดโกะกล่าว
ทั้งสองยังสู้กันต่อ ส่วนทริกเกอร์นั้นก็คัลเลอร์ไทม์เมอร์กระพริบเรียบร้อย
“แฮ่กๆๆ เพราะงี้ไงเลยไม่อยากจะเป็นหรอกไอ้แสงบ้าอะไรเนี่ย” ซาโยะกล่าวและนอนค้างเพราะฤทธิ์อัมพาต
“ก๊าซซซซซซซ!!!” ซูเปอร์คอฟเดินมาหมายจะปลิดชีพทริกเกอร์ทันที
“โอย ใครจะไปยอมกันเล่า!!! ชั้นไม่ยอมแพ้หรอก เพราะพวกแกจะมาเพื่อทำร้ายทุกคนแถมยังพรากคุณชิราซากิไปจากชั้น เพื่อนคนสำคัญที่สุดของชั้น!!! ชั้นจะไม่อภัยให้พวกแก!!!” ซาโยะฮึดเป็นครั้งสุดท้าย
“ย้ากกกกกกกก!!!” ซาโยะฮึดสู้ด้วยพลังและแรงที่เหลืออยู่
“แท้บ!!!” ทริกเกอร์จับดาบและค่อยๆลุกขึ้นมาอีกครั้ง
“แท้บบบบบบบบบบ!!!” ทริกเกอร์ฟาดดาบลงไปเต็มหน้าซูเปอร์คอฟที่กำลังวิ่งมาเต็มๆ
“ก๊าซซซซซ ก๊าซซซซ ก๊าซซซซซ” ซูเปอร์คอฟร้องเหมือนทรมาณมาก
“หน่านิ๊!!!” ฮิวดรัมตกใจมาก
“เห็นมั้ยล่ะ นั่นล่ะ ทำไมเธอคนนั้นถึงสู้ต่อได้ เพราะเขามีเหตุผลที่จะต้องสู้ไงล่ะ ถึงเจ้าตัวจะเพิ่งมารู้เอาก็เถอะ” ไดโกะกล่าว
“แท้บบบบ!!!” ทริกเกอร์เอาดาบปักพื้นและถอยหลังไป
เขาทำท่าและปลดปล่อยลำแสงเซเพเรี่ยนชุดใหญ่
“ท้าาาาาาาา!!!” ทริกเกอร์ปล่อยลำแสงออกไป
ตู้มมมมมมม!!! มันโดนซูเปอร์คอฟจนระเบิดเป็นเศษเล็กเศษน้อยทันที
“ชิ บ้าจริงเชียว ครั้งนี้จะฝากเอาไว้ก่อนแล้วกัน คราวหน้าพวกแกไม่รอดแน่” ฮิวดรัมหายตัวไป
“เดี๋ยวก่อน!! ชิ ไปซะแล้วเหรอเนี่ย?” ไดโกะกล่าว
“ทะ…..เทื้อออ!!!” ทริกเกอร์หมดพลังและกลายเป็นแสงอีกครั้ง
ไดโกะรีบวิ่งไปรับซาโยะที่คืนร่างพอดี
ซาโยะที่คืนร่างก็นอนแผ่หมดสภาพอีกครั้ง
“เฮื้ออออออ…………..” เจ้าตัวหมดแรงที่แม้แต่จะลุกเดินเองอีกแล้ว
“เหนื่อยหน่อยนะซาโยะคุง” ไดโกะเดินยิ้มมา
“ไม่ตลกนะคะคุณไดโกะ ช่วยชั้นลุกออกไปทีค่ะ”
“โอเค โอเค” ไดโกะมาพาเธอออกไป
ณ บ้านฮิคาว่า
ฮินะที่กลับมาถึงบ้านได้เปิดไฟหน้าบ้านทันที
“กลับมาแล้วค่า” เธอเดินเข้ามาก็พบว่ายังไม่มีใครอยู่บ้านเลย
“พี่หายไปอีกแล้วสิ…….” ฮินะทำหน้าเหงาหงอยและดูเศร้าออกมา
ฮินะเดินขึ้นไปที่ห้องของเธและนั่งอยู่ในนั้นเเบบเงียบๆไม่เปิดไฟ ตอนนี้สภาพจิตใจของเธอนั้นหดหู่น่าดู
“ทำไมกันนะ เราทำอะไรผิดตรงไหนกัน ทำไมพี่ถึงเกลียดเราล่ะ ไม่เห็นเข้าใจเลย……..” ฮินะนั่งพึมพำกับตนเอง
และเธอก็ล้มตัวนอนพร้อมกับหลับไปทั้งอย่างนั้น ปัญหาชีวิตของเธอนั้นยากยิ่งที่จะปรับความเข้าใจกันได้
ทางด้านของซาโยะและไดโกะ
“ตกลงตัดสินใจได้แล้วสินะว่าจะเป็็นเเสงสว่างต่อไปน่ะ” ไดโกะถามเธอขณะขับรถมาส่งซาโยะที่บ้าน
“ไม่ขอรับประกันค่ะ”
“อ้าว ไหงงั้นล่ะ?”
“ชั้นจะสู้ เเต่จะสู้ด้วยเหตุผลของชั้นเอง ต่อไปนี้ถ้าจะพาชั้นไปไหนชั้นจะพิจารณาเองค่ะ”
“งั้นเหรอ แต่ชั้นคิดว่าเราคงจะสนิทกันมากขึ้นกว่านี้ซะอีก 555+”
“ไม่ตลกและไม่ขำค่ะ”
“555+ นั่นสินะ เอ้า ถึงแล้วล่ะ ไว้เจอกันนะ”
“ขออย่าให้มาเจอกันเลยดีกว่าค่ะ” ซาโยะลงจากรถ
เธฮเดินกลับเข้าไปในบ้าน
“กลับมาแล้วค่ะ หืม?” ซาโยะเห็นรองเท้าของฮินะถอดเอาไว้
ซาโยะไม่ได้ใส่ใจอะไรและทำกิจวัตรของตัวเองปกติและไปเข้านอนที่ห้องตัวเองแบบปกติ
หารู้มั้ยว่าฮินะที่อยู่ห้องข้างๆนั้น รู้ตัวอยู่ตลอดและเธอก็รู้สึกน้อยใจที่พี่สาวของเธอนั้นเหมือนจะลืมสัยญาในวัยเด็กไปเสียแล้ว
“พี่คะ………….” น้ำตาของเด็กสาวไหลลงอาบแก้มและเธฮได้ผลอยหลับไป
แสงแห่งความหวังที่จะมุ่งไปสู่อนาคต อุลตร้าแมนทริกเกอร์
ความคิดเห็น