คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ดวงตาที่เย้ยหยัน
.
.
.
.
.
.
.
.
ณ ท้องฟ้าที่ไหนสักแห่งของน่านน้ำแปซิฟิค
เลยไปไกลแสนไกลจากอ่าวโตเกียว มียาน GUTS wing สามลำกำลังทดสอบการบินและอาวุธชนิดใหม่อยู่เหนือน่านฟ้าแห่งนี้
“สมแล้วที่เป็นหัวหน้าหน่วยฟอลค่อนนะครับเนี่ย”
“อย่ามาชมกันมากดีกว่า ฮายาโอะวันนี้พวกนายยังต้องฝึกอีกเยอะ ฟอลค่อน ทู และ ทรี ตามมาชั้นมาด้วย ไปจุด วันโอไฟว์” หัวหน้าหน่วยของพวกเขาขับยานเลยไปก่อน
“ทราบแล้ว” ทั้งสองเครื่องที่เหลือได้บินตามกันมา
มียานอีกลำซึ่งก็เป็น GUTS wing เหมือนกัน กำลังหลบหลีกการไล่ล่าของคนในหน่วยเดียวกันอยู่
“เย้ย!! มากันเเล้ว” คนที่โดนไล่ตามพยายามเบี่ยงสุดชีวิต
“ไล่ต้อนเข้าไปอย่าให้หลุดศูนย์การเล็ง” หัวหน้ากล่าว
และไม่นานนัก เครื่องที่โดนไล่ตามก็โดนเครื่องหมายเลขสองเล็งเข้าเป้าในจอและยิงกระสุนจรวดใส่ ซึ่งมันไม่มีแรงระเบิดมากพอที่จะทำให้ยานร่วง
“อ้ากกก บ้าเอ้ย แพ้ซะแล้ว” นักบินในยานคนนั้นกล่าว
“ทำได้ดีมากแล้ว เอาล่ะใครที่โดนยิงก็กลับไปที่ฐานซะ คนที่ยังก็อยู่ฝึกต่อด้วย”
“ทราบแล้ว” ยานทั้งหลายต่างกลับไปประจำหน้าที่และฝึกฝนการไล่ล่าต่อ
จนในที่สุดกองยานกลุ่มนี้ก็ได้เคลื่นที่ผ่านหุบเขากลางทะเลแห่งหนึ่ง
“หัวหน้าครับ ข้างหน้าอีก 20 กิโลเมตร มีกลุ่มควันพลังงานประหลาดด้วยครับ”
“ว่ายังไงนะ งั้นหยุดซ้อมก่อนและไปตรวจสอบซิ”
ยานสามลำของ GUTS พากันบินไปและตรวจสอบจุดเกิดเหตุ
“อะไรวะเนี่ย?”
“นี่หน่วยฟอลค่อนติดต่อศูนย์ใหญ่ ที่จุดเซเว่นไฟว์ทูเจเอ้กท์ ตรวจพบสิ่งที่เหมือนดวงตาขนาดยักษ์อยู่ คาดว่าน่าจะเป็นปากปล่องภูเขาไฟ”
พวกเขาถ่ายภาพและส่งไปที่สำนักงานใหญ่ของ GUTS ซึ่งทำให้นักวิจัยของที่นั่นกำลังเกิดการถกเถียงกัน
“เจ้านี่มันตัวอะไรดวงตาของมันใหญ่มาก รัศมีมากกว่า 18 เมตรเลย”
“หมายความว่ายังไงเนี่ย?”
“ทำไมเรอะ?”
“ครับ ผบ. เจ้าสิ่งมีชีวิตตนนี้ ไม่มีปฏิกิริยาความร้อนเลยครับ”
“เป็นไปไม่ได้ ถ้างั้นมันต้องไม่ใช่สิ่งมีชีวิตสิ?”
“ไม่สามารถแยกแยะโครงสร้างทางฟิสิกส์ได้เลยด้วยครับ ไม่สาารถอธิบายด้วยกฏทางสรีระศาสตร์ด้วย”
ในที่สุดดวงตาที่พื้นตรงนั้นก็ทำการใช้พลังต้านแรงโน้มถ่วงทำให้หินจำนวนมหาศาลลอยขึ้นไปหาพวกยาน GUTS wing ที่มาเฝ้าดูมัน
“เฮ้ย!!!” หัวหน้าหน่วยฟอลค่อนได้รีบหลบออกไป
“แย่แล้วครับ หินจำนวนมากลอยขึ้นมาทางนี้ อ้ากกกกกกก!!!” นักบินเครื่องเบอร์สามโดนหินพุ่งทะลุยานระเบิดทันที
“มิสุทานิ!!!” หัวหน้าหน่วยของเขาตกใจมาก
อีกสองลำที่เหลือพากันหลบก้อนหินพวกนั้นสุดชีวิต
“หินพวกนี้ลอยได้ เพราะเจ้าสิ่งนั้นมันควบคุมโมเลกุลปฏิสสารครับ” นักวิจัยที่ศูนย์ใหญ่กล่าว
“แจ้งหน่วยฟอลค่อน รีบถอนกำลังออกมา ตอนนี้รักษาชีวิตก่อน!!!”
“ทราบแล้ว กำลังถอนกำลัง”
“กี้ๆๆๆๆๆๆ” ดวงตาที่พื้นนั้นมองดูราวกับเย้ยหยันมันเสกหินพุ่งใส่ยานอีกสองลำที่เหลือ
“หัวหน้า อ้ากกกกกกกก!!!” โครมมมมม!!! ยานเบอร์สองระเบิดคาที่ทันที
“ฮายาโอะ!!!!”
ไม่ทันไรหัวหน้าหน่วยคนนั้นก็พลาดท่าและโดนหินยักษ์พุ่งขึ้นมาบดยานจากด้านล่างจนระเบิดกลางอากาศ
“สัญญาณชีพไม่มี ทีมฟอลค่อน เสียชีวิตหมดแล้วค่ะ” โอเปอเรเตอร์ที่ฐานกล่าว
“บ้าเอ้ย!!!” ผบ.ของ GUTS โกรธมาก
ตัดภาพมาที่ตาที่หัวเราะราวกับว่ามันสะใจมากที่ได้กลั่นแกล้งมนุษย์ที่ไร้ทางสู้
ณ โรงเรียนสตรีฮานะซากิกาว่า
“คุณฮิคาว่าคะ” รินโกะเดินเข้ามาในห้องสภานักเรียนและเห็นซาโยะกำลังนั่งเขียนรายงานอยู่ได้ทักเธอขึ้นมา
“อ้าว คุณชิโรกาเนะ สวัสดีค่ะ”
“คุณฮิคาว่ากำลังเขียนรายงานความประพฤตินักเรียนในระดับชั้นเหรอคะ?”
“ค่ะ ต้องส่งเย็นนี้ด้วย ช่วงนี้พวกทำผิดระเบียบก็เยอะมากขึ้น ภาระงานก็มากขึ้นด้วยสิ”
“เป็นกรรมการรักษาระเบียบก็เหนื่อยน่าดูเลยนะคะ”
“ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ ชั้นทำได้”
“ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกนะคะ ขอตัวไปเตรียมงานโต้วาทีของภาคที่จะจัดกันมะรืนนี้ก่อนะคะ” รินโกะหยิบเอกสารที่วางบนโต๊ะและเดินออกไป
“โชคดีค่ะ” ซาโยะกล่าว
“จริงเหรอเนี่ย ที่คุณชิโรกาเนะจำเรื่องเมื่อสามวันก่อนไม่ได้เลยน่ะ” ซาโยะกล่าวด้วยความสงสัย
หลังเลิกเรียนวันนั้น
ซาโยะที่เดินออกมาจากโรงเรียนก็เหลือบไปเห็นชายชุดดำโบกมือและยิ้มให้เธอ เขาคือ ไดโกะ มาโดกะ เจ้าเก่าเจ้าเดิม
“เฮ้อ……..” ซาโยะถอนหายใจและเดินไปคุยกับเขา
“มีธุระอะไรเหรอคะ? ขอเดานะคะสัตว์ประหลาดยักษ์หรือเอเลี่ยนอีกแล้ว?”
“อื้ม อันที่จริงมันยังไม่ได้มีตัวตนเป็ตัวหรอก ดูนี่สิ” ไดโกะยื่นแฟ้มเอกสารให้ซาโยะ
“นี่มัน?”
“แฟ้มงานลับของหน่วย GUTS น่ะ เมื่อเช้าวันนี้ทางนั้นได้จัดระบุสิ่งมีชีวิตปริศนาที่ภูเขาไฟยาวาตาริกลางทะเลอ่าวโตเกียวน่ะ”
“เดี๋ยวก่อนนะคะ เขายาวาตาริ?”
“รู้จักด้วยเหรอ?”
“ค่ะ เป็นภูเขาไฟกลางทะเลที่ไกลจากอ่าวโตเกียวแค่ 130 กิโลเมตรเท่านั้น แล้วทำไมเหรอคะ?”
“ลองอ่านเจ้านี่ดูแล้วจะเข้าใจเองนั่นแหละ”
ซาโยะอ่านแฟ้มเอกสารและเจอภาพของดวงตาปริศนาบนพื้น
“ดวงตา?”
“ใช่ ภาพนี้เป็นภาพที่ทีมฟอลค่อนถ่ายได้ก่อนจะเสียชีวิตยกทีม มันคือดวงตาและตอนนี้ก็ไม่มีใครอธิบายถึงการมีอยู่หรืิอรูปร่างของมันได้เลย”
“แต่คุณรู้สินะคะ”
“บอกตามตรงนะ ชั้นเองก็ไม่รู้”
“อะอ้าว?”
“ทำหน้าอย่างนั้นทำไมล่ะ ชั้นเองก็ไม่ได้รู้ทุกอย่างหรอกนะซาโยะคุง”
“เฮ้อ…….แล้วนี่จะให้ชั้นจัดการกับเจ้าตัวบ้านี่เหรอคะ ทั้งที่มันยังไม่เข้ามาที่เมืองนี่เลยเเท้ๆ”
“ชั้นคิดว่าเราควรจะกันกันไว้ดีกว่ามาแก้เอาบานปลายทีหลังนะ ตอนนี้มีข้อมูลของเจ้าสิ่งมีชีวิตตนนี้ถูกส่งมาวิจัยต่อที่เมืองนี่เเล้วด้วย”
“เห เเล้วที่ไหนเหรอคะ?”
“สถาบัน IS” ไดโกะตอบออกมาแบบหน้าตาเฉย
“อืมๆ…..ฮ้ะ?!!!” ซาโยะตกใจมาก
โรงเรียนนานาชาติ IS
นี่เป็นโรงเรียนสตรีสำหรับฝึกสอนผู้ใช้ Infinite Stratos อาวุธยุทโธปกรสำหรับการสำรวจอวกาศและการต่อสู้ทางการทหารที่ทรงประสิทธิภาพระดับนึงของโลก ซึ่งนักเรียนหญิงที่เป็นตัวแทนหัวกะทิระดับประเทศหลายๆรายต่างถูกส่งมาเรียนที่นี่
“อ้าวมาเเล้วเหรอ?” ชิโนโนโนะ ทาบาเนะ หรือบุคคลผู้สร้าง IS คนแรกของโลกกำลังนั่งง่วยนอยู่กับคอมพิวเตอร์สี่จอของเธอในห้องมืด จนมีคนเข้ามาหาเธอ
“ได้เรื่องอะไรมั่ง จากที่ทาง GUTS ส่งมาให้น่ะ” โอริมุระ จิฟุยุ ถามเธอขึ้นมา
“ดูสิๆ สสารในตัวเจ้านี่อธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ทั่วไปไม่ได้เลย เหมือนกับว่ามันเป็นผียังงั้นแหละ”
“เห ผีเหรอ ได้ยินจากปากเธอแบบนี้เนี่ยมันดูมีน้ำหนักขึ้นมามากเลยนะ”
“ทำไมล่ะ?”
“เพราะศูนย์วิจัยอื่นของเมืองแห่งการศึกษาก็พากันปวดหัวกับไอ้เจ้าดวงตานี่เหมือนกันน่ะสิ” จิฟุยุนั่งลงข้างๆทาบาเนะและคุยด้วย
“แย่จังเลยนะ อุตส่าเป็นวันหยุดของเธอทั้งทีกลับต้องมานั่งที่ทำงานแบบนี้ไม่ได้กลับไปหาน้องชายสุดที่รักเลยเนอะ” ทาบาเนะกล่าว
“อย่าพูดมากเเละทำงานของเธอต่อไปซะ”
“ค่าค่า” ทาบาเนะยิ้มและนั่งวิเคราะห์ข้อมูลต่อไปเรื่อยๆ
อีกด้านหนึ่ง
“ไว้เจอกันนะคุณชิโนโนโนะ” เพื่อนๆของโฮกิกล่าวลา
“ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ” ชิโนโนโนะ โฮกิกล่าวอำลาตามมารยาท
“เอาล่ะ ได้เวลาซ้อมต่อแล้ว” โฮกิสะพายดาบเคนโด้ไปยังลานฝึกทันที
หลังจากการฝึกไปประมาณหนึ่ง
“เฮ้อ……วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน” โฮกิเก็บข้าวของและเปลี่ยนชุดกลับเป็นชุดนักเรียนพร้อมกับเดินออกมาจากลานฝึก
“แน่ใจนะคะว่ามาทางนี้น่ะ” ซาโยะถามไดโกะ
“แน่นอนสิ ดูเหมือนหัวหน้าโอริมุระ จะรอเราอยู่ที่ห้องรับรองนะ” ไดโกะกล่าวเเละจอดรถที่หน้าประตูโรงเรียนทันที
“ขอดูบัตรด้วยค่ะ” รปภ.หญิงกล่าว
“นี่ครับ”
“คนจาก GUTS เหรอคะ ผบ.กำลังรอคุณอยู่ที่ห้องประชุมเลยค่ะ”
“ขอบคุณครับ” ไดโกะกล่าวและขับรถเข้าไป
เขาจอดรถและลงจากรถไป
“เอาเป็นว่า เธอรอชั้นข้างนอกแถวนั้นก็ได้นะซาโยะคุง ชั้นเข้าไปได้คนเดียวน่ะ”
“ค่ะ”
ไดโกะเดินเข้าไปแล้ว
ส่วนซาโยะนั้นนั่งรอที่สวนของโรงเรียน IS และมองไปรอบๆ
“สุดยอดแฮะ ชาวต่างขาติเต็มไปหมดเลย ก็นะ โรงเรียนนานาชาตินี่นา” ซาโยะกล่าว
เธอเดินไปเพื่อไปยังตู้กดน้ำและกดหาน้ำอัดลมเพื่อที่จะเอามาดื่มสักกระป๋อง
“เอาเป็นสไปรท์ก็เเล้วกัน อืมหรือจะเมาร์เทนดิวดีนะ อืมมมมมม” ซาโยะกำลังยืนง่วนหน้าตู้กดน้ำตรงนั้น
“เอาโคล่าดีกว่า” ซาโยะเอาโทรศัพท์มาแสกนจ่ายเงินตู้กดน้ำและกดเลือกโค้กหนึ่งกระป๋อง
เเคร่กๆๆ แต่แล้วก็เกิดปัญหาขึ้นจนได้
“อ้าว ติดตู้เหรอ ไม่เอาน่า โรงเรียนไฮเทคแทบจะที่สุดแล้ว ตู้กดน้ำดันมาเจ๊งเนี่ยนะ” ซาโยะไม่สบอารมณ์มาก
“หืม?” โฮกิที่เดินสะพายดาบไม้เดินผ่านมาเห็นซาโยะที่กำลังทะเลาะกับตู้กดน้ำพอดี
“เอ่อ คือว่า ขอโทษนะคะ” โฮกิถามเธอ
“คะ?”
“คือ ตู้นั่นมันมีปัญหาน่ะค่ะ สปริงตัวจ่ายมันเสีย”
“อ้าว แล้วไม่ติดป้ายไว้สักหน่อยรึไงเนี่ย?”
“นั่นสินะคะ งั้นเดี๋ยวชั้นช่วยเองค่ะ” โฮกิคว้าดาบไม้ออกมา
“เอ่อ ดาบเคนโด้เหรอคะ?”
“ช่วยหลบสักนิดนะคะ เดี๋ยวจะโดนเอา” โฮกิตั้งวงสวิงแบบกว้างมาก
“ย้ากกกกกกก!!! อิปป้ง!!!” โฮกิบรรจงฟาดสีข้างตู้กดน้ำแบบสุดแรงเกิด
ปั้ง!!!! ตู้รวนจนน้ำที่ซาโยะกดสั่งนั้นเด้งออกมา
“โห สุดยอด” ซาโยะตะลึงมาก ส่วนโฮกิก็หันมายิ้มให้
ทั้งสองไปนั่งกันตรงม้านั่งอีกที่ และก่อนไปซาโยะได้เอากระดาษมาเขียนแปะหน้าตู้ให้ว่า ตู้เสีย
“ฮ้าาาาา สดชื่น” ซาโยะดื่มน้ำอัดลมอย่างเอร็ดอร่อย
“ว่าแต่ เธอไม่ใช่นักเรียนที่นี่นี่นา?” โฮกิสังเกตุจากชุดนักเรียนของซาโยะเลยถามไป
“อ๋อ ลืมแนะนำตัวไปเลย ชั้น ฮิคาว่า ซาโยะ ปี 2 โรงเรียนสตรีฮานะซากิกาว่าค่ะ”
“ฮานะโจเหรอ? โรงเรียนสตรีจากในตัวเมืองน่ะเหรอคะ” โฮกิถาม
“ค่ะ แล้วเธอล่ะ”
“ชั้น ชิโนโนโนะ โฮกิ ปี 2 ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”
“เช่นกันค่ะ ว่าแต่ที่นี่เนี่ย ดูไฮเทคจังนะคะ ล้ำกว่าในเมืองไปหลายอย่างด้วย แถมยังพวกเกราะ IS นั่นอีก”
“แน่นอนอยู่แล้ว ที่นี่น่ะ ศูนย์รวมของนักเรียนหญิงหัวกะทิของทั้งโลกเลยนะ ไม่ใช่ธรรมดากันอยู่แล้วล่ะ แถมยังมีการฝึกสอน IS เพื่อการใช้งานอีกด้วย”
“เห ดูสุดยอดจริงๆนะคะที่นี่น่ะ เพิ่งมาครั้งแรกเลยตื่นเต้นสุดๆเลยค่ะ”
“แล้วคุณฮิคาว่ามาทำอะไรที่นี่ล่ะคะ?”
“อ๋อ โดนคนพามาด้วยน่ะค่ะ”
"เป็นเพื่อนเหรอ?" โฮกิสงสัย
“เอาเป็นว่า ช่างหัวเขาเถอะค่ะ ว่าแต่คุณชิโนโนโนะดูแข็งแกร่งจังเลยนะคะ”
“เอ๊ะ?”
“ก็แบบพกดาบเคนโด้ แถมยังใช้มันได้อย่างดี ดูสามารถต่อสู้ได้ ชั้นมันพวกไม่กล้าได้กล้าเสีย พอเวลาไปเอาจริงเเล้วก็มักจะม้วนเสื่อกลับตลอดเลย”
“อืม งั้นเหรอ? นี่คุณฮิคาว่าคะ ทำไมไม่ลองเลิกคิดมากดูล่ะคะ?”
“เลิกคิดมากเหรอ?” ซาโยะสงสัย
“ก็แบบว่า บางครั้งที่ชั้นซ้อมดาบแล้วทำได้ไม่ดีพอ คือมักจะเป็นตอนช่วงที่มีอะไรมากวนใจน่ะค่ะ อื้มๆ เราลองทำสมองกลวงๆและไม่ต้องไปคิดอะไร บางทีเราอาจจะเกิดไอเดียอะไรดีๆขึ้นมาบ้างก็ได้น่ะค่ะ”
“ทำให้สมองกลวงๆ…..เหรอคะ?”
“ใช่แล้ว ไม่ต้องไปคิดมากหรอก ลองเดินหน้าชนไปซะ บางทีเราอาจจะได้อะไรดีๆกลับมาก็ได้ค่ะ เหมือนเป็นรางวัลของความกล้าที่จะลองแบบนั้นล่ะ”
“รางวัลของความกล้าเหรอ?” ซสโยะนั่งคิดเล็กน้อย
ทางด้านของไดโกะ
“สวัสดีครับ ผบ.โอริมุระ” ไดโกะกล่าวทักทาย
“คุณคงจะเป็นคนของทาง GUTS สินะ ชั้นโอริมุระ จิฟุยุค่ะ เชิญนั่งก่อน”
“ครับ” ไดโกะเลื่อนเก้าอี้มานั่ง ส่วนตรงข้ามโต๊ะของเขาก็เป็นจิฟุยุที่นั่งและเอางานวิจัยออกมาเป็นเล่ม
“จากที่ทาง GUTS ได้ขอให้ทางเราช่วยกันตรวจสอบกี่ยวกับดวงตาปริศนาที่เขายาวาตารินั่น เราได้ข้อสรุปมาดังนี้ค่ะ” จิฟุยุอ่านแฟ้ม
“ครับ”
“เจ้าสิ่งนั้น เป็นสารอนินทรีย์และไม่มีปฏิกิริยาความร้อน เป็นสิ่งมีชีวิตไม่ผิดแน่ แต่กลับกันมันสามารถแสดงสัยญาณการมีชีวิตออกมาอย่างเด่นชัดทั้งการกระทำและความสามารถในการแสดงอารมณ์ด้วยดวงตาที่เยาะเย้ยนั่นอีกด้วย”
“เพราะงั้น จึงสรุปว่าเป็นกึ่งสิ่งมีชีวิตสินะครับ ไม่เคยมีใครบัญญัติคำนี้มาก่อนด้วย”
“ตามนั้นค่ะ ทางเราขอเรียกเจ้าตัวนี้ว่า กันคิว ค่ะ”
“กันคิว?”
“ค่ะ อันที่จริงเคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นที่คาบสมุทรแอตแลนติดในเกาะซีแลนด์ทางตอนเหนือของยุโรป เกตุการณ์ในครั้งนั้นมีเครื่องบินที่จะไปสก็อตแลนด์จากอเมริกาได้หายสาปสูญไป รวมถึงเที่ยวบินอีกหลายเที่ยวที่ผ่านน่านน้ำบริเวณนี้นั้นก็พากันหายไปเช่นกัน”
“สาเหตุมาจากเจ้าตัวกันคิวนี่สินะครับเนี่ย?”
“ค่ะ และมันสามารถไปโผลในบริเวณที่มีสนามแม่เหล็กไฟฟ้าผันผวนได้ทั่วทุกมุมโลก เพราะไม่มีร่างที่แน่นอน นีี่เลยเป็นเหตุที่ดวงตาของมันโผล่ไปที่อื่นได้ด้วย”
“แล้วมันจะโจมตีพวกวัตุไปทำไม เอ๊ะ? หรือว่า?”
“ค่ะ เราไม่เคยพบซากของเครื่องบินหรือเรือที่หายไป เพราะว่าเจ้าสิ่งนั้น”
“มันดูดกลืนทุกอย่างเข้าไป!!!” ทั้งสองพูดพร้อมกัน
“ค่ะ อนินทรีย์วัตถุที่มันดูดเข้าไปสามารถดูดซับพลังงานและมวลสารทั้งหมดจนตัวมันสามารถขยายรัศมีดวงตาของมันให้ใหญ่ขึ้นได้” จิฟุยุเอารูปในแฟ้มออกมาโชว์ มันเป็นรูปโมเดลจำลองร่างของกันคิวที่สามารถสร้างร่างของตนเองได้แล้ว
“จะบอกว่า ไอ้เจ้าสัตว์ประหลาดที่ทางฟิสิกส์อธิบายไม่ได้เนี่ย สามารถก่อร่างตัวเองจากสิ่งที่ดูดกลืนไปได้สินะครับเนี่ย?”
“ตามที่คุณเข้าใจนั่นแหละค่ะ”
“นักวิจัยของทางนี้เองเนี่ย สุดยอดไปเลยนะครับ สามารถหาคำตอบที่ไม่เคยมีใครหาได้ด้วย บางทีผมอยากพบเขาตัวเป็นๆจังนะครับ”
“เรื่องนั้นคงยากน่ะค่ะ เจ้าตัวเป็นคนหาตัวจับยากซะด้วย”
“555+ คงจะเขินงั้นเหรอครับ แต่ยอดไปเลย เท่านี้เราก็สามารถรับมือเจ้านี่ได้แล้วสินะครับ”
“ค่ะ เเต่มีข่าวร้ายอีกหนึ่งอย่าง”
“ข่าวร้าย?”
“ทางเราคาดการณ์ไว้ว่าอีกสิบสองชั่วโมง เจ้ากันคิวจะสามารถสร้างตัวเองจากการดูดวับสนามแม่เหล็กที่บริเวณนั้นจนสร้างร่างกายตัวเองได้สำเร็จค่ะ”
“ถ้างั้นต้องรีบรายงานทาง GUTS แล้วล่ะครับ แล้วรัศมีการก่อตัวของมันจะไกลเท่าไหร่ครับ”
“เรื่องนั้นทางเราคาดการณ์ที่มันจะสูงไซส์ถึง 55 เมตรเลยค่ะ”
“งั้นติดต่อกลับศูนย์ใหญ่ก่อนนะครับ” ไดโกะและจิฟุยุเดินออกไปนอกห้อง
ไดโกะเดินออกมาที่รถ และซาโยะและโฮกิอยู่แถวนั้นพอดี
“อ้าว คุณไดโกะมาแล้วล่ะ” ซาโยะกล่าว
“นั่นเพื่อนเธอเหรอคะ?” โฮกิถาม
“เอ่อ เรียกว่าโดนลากมายังจะดูดีกว่าน่ะค่ะ” ซาโยะกล่าว
“อ้าว ซาโยะคุงเราไปกันเถอะ ชั้นได้เรื่องแล้วล่ะ เจ้านั่นในอีกสิบสองชั่วโมงจะกลายเป็นไคจูขนาดยักษ์ที่จะมุ่งหน้าเข้ามาที่โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ของเมืองนี้ยังไงล่ะ” ไดโกะกล่าว
“ไคจูเหรอคะ?!!!” โฮกิตกใจมาก
“เฮ้อ…….ซื้อหวยไม่เคยถูกเลยอีหรอบนี้” ซาโยะถอนหายใจ
“ทำไมล่ะคะ?!!! รู้อยู่เเล้วเหรอ?”
“แบบพอดีเจออะไรแบบนี้จนเริ่มชินนิดๆแล้วล่ะค่ะ” ซาโยะกล่าว
ทันใดนั้นมีสายเข้าโทรศัพท์ของจิฟุยุทันที
“ค่ะ โอริมุระค่ะ อะไรนะ!!!” จิฟุยุตกใจมาก
“เอ๊ะ?!!” ทั้งสามคนหันมามอง
“เร็วกว่ากำหนด นี่มันได้พลังงานจากกากนิวเคลียร์ในทะเลงั้นเหรอ?!!! แค่นี้ก่อนนะ” จิฟุยุวางสายทันที
“เกิดอะไรขึ้นครับ?” ไดโกะถาม
“กันคิวสร้างร่างของมันได้แล้วค่ะ ตอนนี้เลย มีกากนิวเคลียร์จำนวนหนึ่งที่ไม่ได้รับการกำจัดลอยอยู่ในทะเลบริเวณนั้น” จิฟุยุกล่าว
“โอ้ งานหยาบแล้ว” ซาโยะกล่าว
“อีกนานแค่ไหนมันถึงมาึถึงที่นี่ครับ” ไดโกะกล่าว
“จากการคำนวนของเธอคนนั้นเเล้ว เร็วสุดคือสองชั่วโมงจะมาถึงโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เขตการศึกษาที่ 10 ค่ะ”
“ไม่ได้การแล้ว รีบสั่งอพยพคนเร็วเข้า เเจ้งไปทางเมืองกับทาง GUTS ให้ทราบก่อน” ไดโกะรีบขึ้นรถและคาดเข็มขัด
“ซาโยะคุงเร็วเข้า!!!” ไดโกะกล่าว
“ค่ะ!!!” ซาโยะขึ้นรถและคาดเข็มขัดไปด้วย
“ชั้นไปด้วยค่ะ” โฮกินั่งรถไปด้วยเธอรีบเปิดประตูหลังรถ
“เดี๋ยว ชิโนโนโนะ นี่เธอ?” จิฟุยุตกใจมาก
“ยังไงซะเราก็ต้องช่วยกันนะคะ ตอนนี้สัตว์ประหลาดที่ว่ากำลังจะมาถึงเเล้วไม่ใช่เหรอ การยับยั้งเหตุร้ายก็เป็นหน้าที่ของเรานะคะ”
“อืม งั้นไปซะ ชั้นจะประสานงานกับ GUTS ไปอพยพคนที่ชายฝั่งเอง” จิฟุยุรีบวิ่งกลับเข้าข้างใน
“งั้นซิ่งล่ะนะ” ไดโกะปลดเบรคมือและซิ่งรถเหยียบสุดชีวิต
บรื้นนนนนน!!! รถของไดโกะดริฟท์ออกไปและพุ่งไปด้วยความเร็วเพื่อที่จะไปที่ชายฝั่งของเมืองอีกฟากหนึ่ง
ณ กลางทะเลใหญ่ก่อนถึงฝั่งของเมืองแห่งการศึกษา
ทีมงาน GUTS และแอนตี้สกิลจำนวนหนึ่งพร้อมรถถังมากมายพากันมาจอดรอตรงนั้น
“หัวหน้าครับ เราพร้อมแล้ว”
“ดี สั่งกำลังเสริมทุกหน่วยของเราเล็งปิืนรอเอาไว้ หน่วยไลท์นิ่งออกปฏิบัติการณ์ ไปสกัดมันไว้!!!”
“ทราบแล้ว หน่วยไลท์นิ่ง ออกตัวได้” ยาน GUTS wing ห้าลำบินออกจากฝั่งพร้อมอาวุธหนักครบเซ็ท
“โรเจอร์ ทางนี้พบสัญญาณของกันคิวเเล้ว”
“โรเจอร์ ทราบแล้วเปลี่ยน เข้าตีขนาบสองข้างและยิงมิซไซล์ SS”
ภายในม่านหมอกกลางทะเลสีดำมีดวงตาขนาดยักษ์มองมายังพวก GUTS wing ที่บินไปมา
“พระเจ้าช่วย!!!” นักบินคนนึงร้องเสียงหลง
“กี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” กันคิวปรากฏตัวออกมาจากผิวน้ำและกรีดร้องออกมาราวกับเสียงหัวเราะ
“ใหญ่ชิบเป๋งเลย”
“ระดมยิงมิซไซล์ได้”
ฟิ้ววววววว!!! มิซไซล์จำนวนมากถูกระดมยิงจากเครื่องบินรบมากมาย
แต่ทว่า….ดวงตาของกันคิวนั้นดูดซับจรวดทั้งหมดเข้าไปในตัวเองและมันก็เเข็งแกร่งขึ้น
“บะ…บ้าน่า!!!”
“มันดูดจรวดเข้าไปจนหมดเลย อ้ากกกกกก!!!” GUTS wing ลำนั้นโดนลำแสงของกันคิวดูดเข้าไปและหายวับไปกับตา
“ว้ากกกกกกก!!!” ยานของ GUTS ทุกลำโดนกันคิวดูดเข้าไปจนหมดและดูเหมือนเจ้าสัตว์ประหลาดตนนี้จะแข็งแกร่งมากขึ้น
“กี้ๆๆๆๆๆๆ!!!” กันคิวค่อยๆเดินเข้ามายังชายฝั่งของเมืองมากขึ้นและมากขึ้น
ตอนนี้ทางเมืองแห่งการศึกษาและ GUTS ที่รอตรงชายฝั่งได้เตรียมพร้อมแล้ว
“เตรียมพร้อมยิงได้” หัวหน้าภาคสนามของ GUTS กำลังจะสั่งการแต่ทว่า
“เดี๋ยวก่อนครับ” ไดโกะที่กำลังขับรถได้ต่อโทรศัพท์มาพอดี
“นี่คุณเป็นใคร?”
“ผมไดโกะ มาโดกะครับ”
“อดีตเจ้าหน้าที่ไดโกะงั้นเหรอครับเนี่ย?”
“อย่าเพิ่งยิง ยิงไปที่ดวงตาของเจ้านั่นไม่ได้นะ เห็นพวกตะเข็บโลหะที่ตัวของมันไหม”
หัวหน้าหน่วย GUTS มองกล้องส่องทางไกลไปยังตัวกันคิวที่กำลังเดินมา
“ครับ มีพวกตะเข็บเหล็กตามตัวมันเต็มไปหมดเลยครับ”
“ทางฝ่ายวิจัยจากโรงเรียน IS บอกว่า ร่างกายของมันเป็นปฏิสสาร เพราะงั้นโจมตีที่ตะเข็บของมัน ถ้ามันหลุดออกร่างของมันจะกระจายเป็นชิ้นๆ”
“เข้าใจแล้วครับ ทุกหน่วย ระดมยิงไปที่เท้าและเเขนของมันซะ!!”
“ทราบแล้ว”
“3….2….1 ยิง!!!!”
พอสิ้นเสียงคำสั่ง จรวดและกระสุนปืนใหญ่จำนวนมากถูกระดมยิงจากชายฝั่งไปยังตัวของกันคิว
“กี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!” มันร้องออกมาถึงแม้จะไม่เป็นอะไร แต่มันก็เคลื่นที่ได้ช้าลงมาก
“สำเร็จ เหอ?!!!” ระหว่างที่กำลังดีใจกันนั้นเอง
“กี้!!!!!” กันคิวปล่อยลำแสงข้ามทะเลมายิงทำลายชายฝั่ง
“ถอย!!! ถอย!!!!!” ตู้มมมมมมม!! บริเวณชายฝั่งเกิดการระเบิดดังมาก
เจ้าหน้าที่ GUTS และแอนตี้สกิล จำนวนหนึ่งระเบิดเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสจำนวนมาก
“กี้!!!!!” กันคิวเดินมาเรื่อยๆและเร็วขึ้นจนมันขึ้นฝั่งมาบนชายหาดได้สำเร็จและมุ่งหน้าเข้ามาในเมืองเพื่อไปโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
“แย่แล้วคุณไดโกะ มันขึ้นมาบนบกแล้วค่ะ!!!” ซาโยะกล่าว
“ชั้นเห็นแล้ว พวกเธอเกาะเอาไว้นะ!!!” ไดโกะซิ่งรถแบบดริฟท์คิงและหลบซสกตึกถล่มด้วยลีลาการขับรถระดับเทพ
“กรี๊ดดดดดดด!!!” ซาโยะและโฮกิตกใจมาก ไม่ใช่ลำแสง แต่เป็นการขับรถอันน่ากลัวของไดโกะ
“กี้ๆๆๆๆๆๆๆ” กันคิวมองเห็นรถของไดโกะบนพื้นที่กำลังวิ่งมาหาจากที่ไกลๆ
“กี้ๆๆๆๆๆๆๆ” มันปล่อยลำแสงออกมาจากลูกตาของมัน
ตู้มมมมมม!!! ลำแสงพุ่งมาแต่ไดโกะหักรถหลบได้
“หนอย งั้นเจอนี่!!” ไดโกะดริฟท์รถและหักพวงมาลัยจนรถวิ่งไซด์โค้งปาดของถนนและหลบลำแสงของกันคิวได้
แต่ยางรถก็แตกออกรถไถลแทน
“อ้ากกกกก/กรี๊ดดดดด” ทั้งสามเกาะรถตัวเองอย่างสุดชีวิต
โครมมมมมมม!!! รถไดโกะพลิกคว่ำทันที
“อั่ก อ้าาาาาา!!” ซาโยะเอื้อมมือที่โชกเลือดออกไปเปิดประตูรถออกไป
“แฮ่กๆ คุณไดโกะ คุณชิโนโนโนะ” ซาโยะคลานออกมาและมองกลับเข้าไปในรถ
ทั้งไดโกะและโฮกินั้นนอนน็อคสลบไปแล้ว
“กี้ๆๆๆๆๆๆๆ!!!” กันคิวเดินมาและเยาะเย้ยซาโยะจากด้านบนและมองลงมา มันทำตาเหมือนอยากจะหัวเราะใส่เธอ
“ก็ได้ แกอยากจะให้ชั้นเล่นเจ็บๆกับแกใช่มั้ย ไอ้ลูกตาสีอุนจิเอ้ย!!!” ซาโยะเอากัทส์สปาร์คเลนส์ออกมาและชูมันขึ้นฟ้าพร้อมกับคีย์
Ultraman Trigger Multi Type
Boot Up!!! Zeperion!!!
“ทริกเกอร์!!!!” ซาโยะกางมันออกและตะโกนจนสุดเสียงและเเสงจำนวนมากก็ได้ห่อหุ้มร่างกายของเธอเอาไว้
Ultraman Trigger Multi Type!!!
แสงสีม่วงก่อตัวขึ้นและมนุษย์ยักษ์แห่งแสง อุลตร้าแมน ทริกเกอร์ ได้ปรากฏกายออกมาอีกครั้ง
“หืม?!!!” ไดโกะตื่นขึ้นและรีบไปช่วยโฮกิที่สลบออกมานอกรถ
“ซาโยะคุงไปแล้วงั้นเหรอ? พยายามเข้าล่ะ” ไดโกะกล่าว
“แท้บบบบบ!!!” ทริกเกอร์ตั้งท่าสู้และวิ่งไปซัดกับกันคิวทันที
“กี้!!!!” กันคิวตกใจมากและตั้งท่าต่อสู้กับทริกเกอร์
โครมมมมมม!!! ทั้งสองพุ่งชนใส่กันจนบ้านเมืองสะเทือน
“แท้บบบ!!” ทริกเกอร์ถอยออกมาและหลบแส้ของกินคิวเข้าให้
ทริกเกอร์หลบได้และจับแส้ของมันพร้อมกับยกเท้าขวามาถีบตามันไปเต็มๆ
“กี้ๆๆๆๆๆ” กันคิวเหมือนจะเจ็บแต่มันปล่อยลำแสงออกมา
“หา?!!!” ซาโยะตกใจเล็กน้อย ก่อนที่จะรีบทำการวาดแขนกางออกให้บาเรียเเสงปรากฏขึ้น
“กี้!!!” กันคิวตกใจเล็กน้อย
“แท้บ” ทริกเกอร์เอียงคอเหมือนจะสะใจนิดๆและรีบวิ่งมาซัดหน้ามันต่อ
“กี้ๆๆๆๆๆ” กันคิวเอาหัวโหม่งหน้าทริกเกอร์ไปเต็มที่
“แท้บ!!!” ทริกเกอร์กระเด็นและล้มลงจนตึกพัง
โครมมมมมมม ตึกแถวนั้นถล่มไปพร้อมร่างทริกเกอร์ที่ล้มทับ
“โอ้ย ช่วยไม่ได้ ถ้างั้นต้องเจอนี่เเล้ว” ซาโยะเอาคีย์อีกอันออกมา
Ultraman Trigger Power Type!!!
Boot Up!!! Deracium!!!
“ทริกเกอร์!!!” ซาโยะชูกัทส์สปาร์คเลนส์ในนิมิตและจากนั้นเธอก็กลายร่างใหม่
ทริกเกอร์กลางร่างไปเป็นร่างพาวเวอร์ไทป์ที่กำยำมากขึ้น
“กี้!!!” กันคิวตะลึงงัน
“แท้บ!!” ทริกเกอร์กวักมือท้าทายมัน
กันคิววิ่งมาและหมายจะโหม่งหัวซัดหน้าอีกรอบ
แต่คราวนี้ทริกเกอร์รับการโจมตีได้ เเละเอากำปั้นทุบไปที่ตาของกันคิวจนบวมและดังมาก
“โครมมมมมม!!!” กันคิวโดนอัดจนตาแตก
“กี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” มันลงไปนอนหลับตาและดิ้นทรมาณ
“แท้บ!!!” ทริกเกอร์มายืนเยาะเย้ยมัน
“กี้!!!!!” กันคิวที่ตาแดงบวมได้หันมาและยิงแสงใส่หน้าทริกเกอร์เต็มๆ
“แท้บบบบบบบบ” ทริกเกอร์ลงไปนอนกองทันที
กันคิวอาศัยจังหวะรีบลุกมาคร่อมทริกเกอร์และเอาแส้ของตัวเองที่แขนสองข้างฟาดไปมาแบบไม่ยั้ง
“แท้บ แท้บ แท้บ” ทริกเกอร์สู้ไม่ได้เลย
“โอ้ย เจ็บๆๆๆๆ” ซาโยะร้องโอดครวญ
“กี้ๆๆๆๆๆๆ!!!” กันคิวร้องด้วยความโมโหหมายจะฆ่าทริกเกอร์ทิ้งด้วยความเดือดดาล
“แท้บ แท้บ!!! เทื้อออออ!!!” ทริกเกอร์น่วมไปหมด
กันคิวลุกออกมาและดูดตัวของทริกเกอร์ด้วยลำแสงเข้าไปในตัวของมัน
“ฮ้ะ?” ไดโกะที่มองอยู่ก็ตกใจ
“แท้บบบบบบบบบ!!!” ทริกเกอร์โดนดูดเข้าไปในตัวของกินคิวแล้ว
ภายในตัวของกันคิวนั้นเอง
“แท้บบบบ!!!” ทริกเกอร์ตกลงมาที่พื้นสีเนื้อด้านล่างและคัลเลอร์ไทม์เมอร์ของเธอเริ่มกระพริบ
“อ่า ที่นี่มัน ที่ไหน?” ซาโยะกล่าว
จากนั้นดวงตานับร้อยนับพันได้เปิดออกมาและหัวเราะใส่ทริกเกอร์ที่กำลังจะตายในตัวของมัน
“ไอ้เจ้าลูกตาสีขี้เอ้ย อั่กกกก!!!” ซาโยะปวดหัวมาก
“แท้บบบบบ” ทริกเกอร์จับหัวตัวเองและเกิดอาการเจ็บหัวเหมือนกัน
“เสียงนี้มัน อะไรกัน อะไรกันเนี่ย แฮ่กๆๆ!!!” ซาโยะปวดหัวมาก
ภาพในอดีตของเธอประมาณสามปีก่อนได้ผุดขึ้นมา
“ยอดมากเลยนะฮินะ ลูกได้คะแนนเต็มอีกแล้ว” พ่อแม่ของซาโยะกำลังชื่นชมฮินะที่สอบได้คะแนนเต็มอยู่
“ขอบคุณมากค่ะ แฮะๆ” ฮินะที่ถูกชมได้ยิ้มดีใจ
โดยหารู้มั้ยว่า ซาโยะที่แอบมองจากอีกฟากหรือซาโยะในอดีตนั้น มองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉา
“ฮินะจังสุดยอดไปเลย ฮินะจังอัจฉริยะ ฮินะจังเก่งที่สุด” ภาพนั้นเป็นซาโยะที่ไม่มีใครเลย แต่กลับกันฝั่งของฮินะมีแต่คนมารุมล้อมเต็มไปหมดด้วยความยินดี
ในขณะที่ซาโยะนั้นกำลังคอตกและสิ้นหวังอยู่นั้น
“พี่คะ” ฮินะมาจับไหล่ของเธอ
“หนูอยากเล่นกีตาร์น่ะ พี่ช่วยสอนหนูได้มั้ย”
“สอนเหรอ? หึ อย่างเธอน่ะ เล่นมันไปเองเลย อัจฉริยะไม่ใช่เหรอ?!!! เก่งนักไม่ใช่เหรอ?!!!! ไปไหนก็ไปเลยไป!!!!” ซาโยะตะคอกใส่เธอ
“แต่พี่……”
“พอกันที ชั้นไม่มีน้องสาวอย่างเธอ!!!” ซาโยะหันหน้าหนี
“อึกกกกกก อ๊าาาาาาาาาาา!!!!” ซาโยะปวดหัวหนักมาก
“มากไปแล้วไอ้เจ้าลูกตาพวกนี้ ดีล่ะ ไม่ต้องไปคิดอะไรแล้ว ชั้นจะทะลวงแกออกไปซะ!!!” ซาโยะกล่าว
ทริกเกอร์รวบรวมพลังลำแสงก้อนสุดท้ายและปล่อยออกไป
“แท้บบบบบบบบบบบ!!!” ทริกเกอร์ใช้ลำแสงเดราเซี่ยมระเบิดกันคิวจากภายใน
“กี้!!!!!!!!!!!!” กันคิวโดนไฟคลอกอันร้องแรงระเบิดจากทุกส่วนข้างใน
“หืม?” ไดโกะมองมายังกันคิวที่นิ่งไป
ตู้มมมมมมมมม!!! ร่างของกันคิวระเบิดกระจาย ส่วนอุลตร้าแมนทริกเกอร์พาวเวอร์ไทป์กระโดดออกมา
“แท้บ……….เทื้อ…..” ทริกเกอร์กลายสภาพเป็นแสงด้วยความล้าและหายไป
“ซาโยะคุง…………” ไดโกะมองไปที่ที่ทริกเกอร์หายไปด้วยความเป็นห่วง
ซาโยะที่ตะเกียกตะกายตัวเองออกมาจากซากแถวนั้นได้ล้มลงนอนตรงพื้นแถวๆนั้น จากนั้นฝนก็ตกลงมาตรงนั้นเลย
ฝนเริ่มค่อยๆหนักขึ้น แต่ซาโยะก็ยังล้าจนขยับไปไหนไม่ได้
“หึ 55555+ 5555555555+” เธอหัวเราะออกมา
“ชั้นนี่มันบ้าจริงๆ บ้าจริงๆนั่นแหละ 5555555+ ก็ได้ ถ้ายังงั้นชั้นจะเอาด้วยก็ได้ ถ้าโลกอยากจะให้ชั้นเป็นฮีโร่นัก ชั้นจะเอาด้วย ไม่สนอะไรมันแล้ว พอกันที!!!!” ซาโยะตะโกนด้วยความคับเเค้นใจที่โชคชะตาเล่นตลกกับเธอแบบเลวร้าย
ไม่นานนักฝ่ายซ่อมบำรุงเมืองก็ออกมาพากันทำงาน
ไดโกะที่เดินมาท่ามกลางฝนที่ตกได้เห็นสภาพซาโยะที่น่าอดสููสุดๆ
“นี่น่ะเหรอ ผู้สืบทอดแสงสว่างตามคำทำนายน่ะ โลกนี้มันก็ตลกร้ายจริงๆนั่นแหละ” ไดโกะกล่าว
แสงแห่งความหวังที่จะมุ่งไปสู่อนาคต อุลตร้าแมนทริกเกอร์
ความคิดเห็น