ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ความทรงจำสีจางๆ 49

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.ค. 50


    ตอนนั้นเคนนั่งจับมือกับเมยู่บนเตียง นั่งพิงฝาผนังเปิดทีวีดูไปด้วย ขณะนั้นเชื้อไฟเริ่มติดพร้อมที่จะลุกไหม้เต็มที่แล้ว การกระทำในคราวนั้นยากที่จะบรรยายออกมาเป็นคำพูด หนุ่มสาวอยู่กันสองต่อสอง ใครๆก็จินตนาการออกว่าเป็นแบบไหน เหมือนไฟลุกที่โชนอยู่ตลอดเวลา ไม่มีวันดับมอด ด้วยความที่ไฟโหมร้อนแรงอยู่ตลอดเวลาก็ยิ่งทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทีละนิดๆจนมาถึง จุดร้อนที่สุดของที่สุด วันนั้นเป็นวันที่สี่แล้วที่เราใช้ชีวิตร่วมกัน อยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่ดูแล้วความสุขที่เรามีให้กันมันใหญ่โตกว่าที่ห้องจะรับได้ ความสุขมันใหญ่โตเที่ยบได้แล้วเท่าจักรวาลก็ไม่ปาน และแล้ววันเวลาก็ดำเนินมาจนถึง วันที่ไฟปะไรกัณฑ์ที่ฟังดูจากนวนิยายทั่วไป ก็รู้สึกถึงความร้อนตามอยางบอกไม่ถูก "ก็มาถึงจนได้" วันนั้นเป็นวันที่ 5 ที่เราอยู่ร่วมกันมาภายใต้ห้องเล็กๆ และ แล้ววันนั้นไฟปะไรกัณฑ์ก็ได้เผาเราทั้งสองคนภายใต้ห้อง เล็กๆห้องนั้น รวมเป็นหนึ่งเดียวอย่างมีความสุขมากที่สุด  ไม่เคยมีความสุขแบบนี้มาก่อนจนเวลานั้น ณ นาทีนั้น ณ วินาทีนั้น เรื่องดำเนินมาจนถึงวินาทีนั้น ต่างก็คนก็มีความคิดตรงกัน อย่างที่ว่ามองตากันก็รู้ใจกัน ในที่สุดเราสองคนก็ลงเอยกัน

    นี่หรือที่เขาเรียกว่ารสรักที่แท้จริง ที่เหล่ามนุษย์ไฝ่หากัน หลังจากนั้นเราก็พากันอาบน้ำชำระร่างตัว ไปหาอะไรกินประทังความหิว พอกินเสร็จก็กลับหอพัก ชีวิตข้าวใหม่ปลามันอันมีความสุขที่สุดดำเนินอยู่แบบนั้นเรื่อยมาได้สักระยะหนึ่ง น้องชายก็กลับมาจากต่างจังหวัด เพราะมหาลัยเริ่มที่เปิดเรียนแล้ว ส่วนเมก็ต้องไปเรียน เพราะมหาลัยก็เปิดเรียนแล้วเช่นกัน เมต้องเดินทางไปเรียนที่มหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งย่านบางนา เคนอยู่บางเขนก็ต้องนั่งรถเมไปส่งเมทุกครั้ง ไปลงรถที่ บางกะปิ แล้วต่อรถตู้ ไปส่งเมที่ บางนา เมอยู่หอพักหญิงที่แม่เมเป็นคนหาให้ บางทีก็นั่งรถไฟฟ้าไปส่งจนถึงหอพักเลยที่เดียว นับว่าไกลมากๆ แต่ด้วยความรักอุปสรรคทั้งหมดไม่ใช่ปัญหา แม้ระยะทางจะไกลสักแค่ไหนปัญหาจะมากสักแค่ไหนก็ไม่ใช้อุปสรรรค  วันนั้นหลังจากไปส่งเม ตอนกลับนั่งอยู่บนรถตู้ เมก็โทรหาตลอด จนมาถึงหอพักนับว่าไกลมาก  นั่งรถ ไป - กลับ เกือบ 5 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่เคนก็ไม่รู้สึกเหนื่อยเลยสักนิด ในทางกลับกัน กลับมีความสุขเสียมากว่าที่ได้ใกล้ชิดเมแบบนี้   ทุกๆวันศุกร์พอเมเลิกเรียนเคนจะไปรอรับเมที่บางกะปิ  หรือบางทีมีวันหยุดหลายๆวัน เคนก็ต้องรับไปรับเมเช่นกัน บางทรีก็ไปรับถึงมหาลัยเลยทีเดียว เคนทำอยู่แบบนั้นแบบมีความสุข ไม่เคยบ่น  ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อยเลยสักนิด และทุกๆวันอาทิตย์ตอนเย็นๆ เคนก็นั่งรถเมไปส่งเมที่บางกะปิ บางทีไปถึงเร็วเราก็แวะเดินเล่นกันที่เดอะมอล  ตะวันนา แล้วก็เดินตลาดแถววินรถตู้ เมชอบซื้อรองเท้า ชอบซื้อต่างหู กระเป๋า เคนจำได้สนิทเลยว่าเมชอบซื้ออะไรบ้าง และของที่เมชอบกี่อย่าง  มีคราวนึงวันนั้นเคนนั่งรถไปส่งเมถึง หอพัก ก็แวะกินสุกี้ร้านป้าคนนึง  ธรรมดาแล้วเมชอบกินสุกี้ร้านป้าคนนี้มาก เมบอกว่าอร่อย  เคนไปกินวันนั้นก็ยอมรับว่าอร่อยมากจริงๆ หลังจากกินสุกี้ร้านป้าเสร็จแล้ว วันนั้นเมนึกยังไงไม่รู้ก็พูดลอยๆ  "ขึ้นว่า"
    "เราไปเที่ยวบางแสนกันป่าว"
    "ไปซิ่"  เคนพูดแบบที่เล่นทีจริง
    ตอนแรกคิดว่าเมพูดเล่น เอาจริงๆ แล้วก็คุยกันจริงๆ คุยเรื่องตังค์

    "เคนมีเท่าไหร่" เมถามแบบจริงจัง
    "เคนมีอยู่พันนึง" เคนตอบเสียงเบา
    " เมมีอยู่พันกว่าบาท โอเคตกลงไปกัน" เมพูดเสียงหวาน บีบเสียงเล็ก

    เรารอรถทัวร์ที่ป้ายรถเมหน้ามหาลัย ตอนนั้นประมาณ 4  โมงเย็นกว่าๆ เกือบห้าโมงแล้ว เราขึ้นรถทัวร์นั่งคุยนั่งชี้โน่นชี้นี่ดูวิวทิวทัศย์ข้างทางอย่างมีความสุข ด้วยความที่เราเพิ่งเคยไปเที่ยวบางแสนเป็นครั้งแรก บางครั้งก็เผลอหลับไปบ้าง   วันนั้นเราเดินทางไปถึง ตลาดหนองมนแบบงงๆ ดูนาฬิเกือบทุ่มแล้ว และนั่งรถสองแถวต่อเข้าไปยังหาดบางแสน ครั้งนั้นจำได้ติดใจรู้สึกตื่นเต้นมากเพราะเราเพิ่งเคยไปเที่ยวต่างจังหวัดเป็นครั้งแรกจริงๆ รถสองแถวพาเราไปส่งยังที่พัก ที่เค้าเรียกกันว่า "เก็ตเฮ้า" อะไรประมาณนั้น ยอมรับว่าค่าที่พักไม่แพงเลยจริงๆ ห้องแอร์ ประมาณ 300 บาท/คืน มี เตียงนอน โต๊ะเก้าอี่ ทีวี ตู้เย็น เคเบิลทีวี พร้อมเลยทีเดียว ส่วนห้องพัดลม ประมาณ 250 บาท/คืน ในห้องพักมีอะไรบ้างจำไม่ค่อยได้ เพราะไม่ค่อยได้พักบ่อยสักเท่าไหร่ ตอนนั้นสองทุ่มกว่าแล้ว บรรยากาศเป็นใจมาก บรรยากาศแบบนี้ไม่มีบ่อยนัก แปลกตา แปลกสถานที่ บรรยากาศดีมาก ดูนาฬิกา
    "อาว จะ 3 ทุ่มแล้วรึ" เคนอุทานเสียงดัง
    เราก็แต่งตัว เดินไปยัง 7 -11 ข้างที่พัก ซื้อขนม น้ำอัดลม น้ำแข็งหนึ่งถุง และ เบียร์หนึ่งขวด เรานั่งกินขนม กินเบียร์กันริมหาด ลมพัดอ่อยๆ นั่งดูเกรียวคลื่นซัดสาดหาดทรายขาวเข้าฝั่งเสียงดัง ซ่าๆ เห็นพวกเด็กตัวเล็กๆ และผู้คน ไม่มากมายนักดูแล้วเป็นธรรมชาติงามตายิ่งนัก พอกินเบียร์ กินขนม จนหมดแล้ว เมบอกเคนว่า
    "อยากเล่นน้ำจัง"  เมพูดเสียงหวานแบบอ้อนวอนบีบเสียงเล็ก
    "โอเค ไปเล่นกัน" เคนพูดเรียบๆ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×