เมื่อชัยชนะครั้งใหญ่ปรากฏแก่ชาวเทวนคร กลียุคแห่งโรคระบาดใหญ่ที่แพร่ไปทั่วโลกธาตุระบบหนึ่งก็ได้สิ้นสุดลง ทว่าทุกอารยธรรมของมนุษย์ล่มสลายจนสิ้น เศษซากสิ่งมีชีวิตที่ตายด้วยโรคระบาดปรากฏอยู่ทั่วทุกหย่อมหญ้า โลกถูกปกคลุมไปด้วยผืนป่ากว้างใหญ่อีกครั้ง มนุษย์ต้องริเริ่มสร้างอารยธรรมขึ้นมาใหม่
ทว่า บรรดาซากศพที่อุดมไปด้วยโรคร้ายซึ่งตกค้างอยู่ทั่วโลกได้ทำให้ดินเสื่อมสภาพ น้ำเน่าเสีย อากาศเป็นพิษ สร้างมลภาวะให้สภาพแวดล้อมไปทั่วจนกลายเป็นอุปสรรคในการสร้างอารยธรรมของมวลมนุษย์อยู่ อเนกราชเทพบุตรผู้ดำรงตำแหน่งท้าวเวสสุวัณในกาลนั้นจึงประกาศหาอมนุษย์บริวารชั้นต่ำเพื่อให้ลงไปประจำการตามขุนเขาผืนป่าธารน้ำมหาสมุทรต่างๆพร้อมอนุญาติให้อมนุษย์เหล่านั้นมีสิทธิ์เก็บซากศพกินได้ตามใจชอบ
ผลจากการประกาศ ทำให้อมนุษย์น้อยใหญ่ขันอาสาลงไปทำหน้าที่ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ทำให้กเฬวรากซากศพโสโครกทั่วโลกลดลงอย่างรวดเร็ว
กระทั่งซากศพหมดไป ดิน น้ำ และอากาศมีเวลาได้ฟื้นฟูตัวเอง สภาพแวดล้อมจึงกลับมาสะอาดและปลอดภัย ท้าวอเนกราชเวสสุวัณจึงอนุญาติให้เหล่าอมนุษย์ที่มีความชอบขอพรได้ตนละ ๑ ข้อเพื่อเป็นรางวัลตอบแทนการเสียสละ
***
อมนุษย์บางพวก
ขอสิทธิ์ในการเก็บซากศพทั้งหมด
ที่มีอยู่ในอาณาเขตของพวกตนกินได้อย่างอิสระ
อมนุษย์บางพวก
ขอสิทธิ์ในการกำจัดผู้บุกรุกอาณาเขตได้ตามใจชอบ
อมนุษย์บางพวก
ขอสิทธิ์ในการจับสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย
ที่ล่วงล้ำอาณาเขตของพวกตนกินเป็นอาหาร
ฯลฯ
***
ฝ่ายพวกมนุษย์นั้น เมื่อไร้อุปสรรคเข้าขัดขวางก็เริ่มกลับมารวมตัวกันเป็นชนเผ่าขนาดย่อมๆเที่ยวเร่ร่อนไปตามสถานที่ต่างๆเพื่อล่าสัตว์ ทว่ายังไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งเพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งกับเหล่าอมนุษย์ แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีอมนุษย์หลายตนซึ่งไม่พอใจที่ถูกมนุษย์รบกวนและทำให้อาณาเขตของพวกตนสกปรกเสียหาย จึงเกิดการกระทบกระทั่งขึ้น
เมื่อถูกรุกราน เหล่าอมนุษย์ผู้เป็นเจ้าของอาณาเขตจึงตอบโต้ด้วยกลวิธีต่างๆ บ้างก็ส่งเสียงร้องข่มขวัญ บ้างก็สร้างภาพมายาข่มขวัญ บ้างก็จำแลงร่างเงาดำวูบไหวไปมาในความมืดของผืนป่า นิรมิตรูปกายให้น่าเกลียดน่ากลัว ฯลฯ เพื่อขับไล่พวกมนุษย์ออกจากอาณาเขตของพวกตน มนุษย์จึงต้องอพยพย้ายถิ่นฐานต่อไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย
ทว่าก็ยังมีอมนุษย์หลายพวกที่เห็นใจมวลมนุษย์ จึงอุทิศตนช่วยโน้มนำและดลใจให้บรรดาผู้จุติจากเทวโลกนำพามนุษย์สู่ดินแดนที่เหมาะแก่การลงหลักปักฐานในถิ่นที่เหมาะสม และยังติดต่อกับมนุษย์ทั้งในทางตรงและทางอ้อมเพื่อส่งมอบภูมิปัญญาเล็กๆน้อยๆบางประการให้มนุษย์นำไปใช้ริเริ่มสร้างอารยธรรม ทำให้อมนุษย์หลายตนได้รับความนับถือและถูกสักการะบูชาในฐานะของเทพผู้มีคุณประจำเผ่าต่างๆ
***
ขณะเดียวกัน อมนุษย์อีกหลายจำพวกที่หวงอาณาเขต ไม่ต้องการให้มนุษย์รบกวน และไม่พอใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นมนุษย์เหยียบย่างเข้ามาในอาณาเขตของตนเพื่อแสวงหาทรัพยากรรึสร้างที่อยู่อาศัยโดยพลการ ก็ยังพยายามขับไล่มนุษย์อยางต่อเนื่อง ซึ่งส่วนมากก็ประสบผลสำเร็จในการขับไล่มนุษย์ แต่ก็มีกลุ่มอมนุษย์ฤทธิ์น้อยหลายส่วนทำไม่สำเร็จเนื่องจากมนุษย์เริ่มคุ้นชินกับวิธีการเดิมๆและไม่อาจสู้ฤทธิ์เหล่าเทพประจำเผ่าได้ จึงจำเป็นต้องถอยร่นลึกเข้าไปในเขตของตน ทำให้ที่อยู่และเส้นทางสัญจรของมนุษย์มีมากขึ้นเรื่อยๆ
ฝ่ายพวกยักษ์นั้น เป็นอมนุษย์ที่มีอารมณ์เกรี้ยวกราดอยู่เป็นปกติวิสัย จึงมีการตอบโต้พวกมนุษย์ที่รุกล้ำเขตแดนของพวกตนด้วยวิธีการรุนแรงกว่าอมนุษย์ใดๆ และเนื่องจากเคยกินซากศพของมนุษย์ในภารกิจหลักมาช้านาน ทำให้ยักษ์หลายตนไม่ปฏิเสธที่จะจับมนุษย์กินให้สิ้นเรื่องเพื่อขจัดปัญหา ผลจากการใช้วิธีการรุนแรงดังกล่าวจึงทำให้พวกยักษ์หลายกลุ่มยังคงรักษาเขตแดนของตนจากการบุกรุกของมนุษย์ไว้ได้
***
ท้าวปุรินททะจอมเทพผู้เป็นใหญ่เหนือจอมเขาสิเนรุในขณะนั้น เล็งเห็นความวุ่นวายในโลก จึงคิดว่าหากมนุษย์ยังถูกคุกคามต่อไปคงไม่อาจพัฒนาอารยธรรมได้แน่ จึงพยายามช่วยเหลือมนุษย์ในทางอ้อมด้วยการคัดสรรเหล่าเทวบุตรเทวธิดาผู้จุติเหนือตักของตนซึ่งถึงกาลหมดบุญและสิ้นอายุขัยในเทวโลกให้จุติลงไปยังผืนโลกอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เป็นผู้ชี้นำมวลมนุษย์ต่อไปเมื่อถึงกาลอันเหมาะสม
ฯลฯ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น