ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    1D: Still the one (One direction fanfic)

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 624
      0
      22 พ.ค. 56

    Chapter 1
     

                เฮ้อ...ในที่สุดการผ่าตัดก็เป็นไปได้ด้วยดี ฉันหละปลื้มใจ

                    “เหนื่อยมั๊ยฟ้า”

                    โจอี้หรือโจ หมอที่สนิทกับฉันมากที่สุด ฉันอนุญาตให้เขาเรียกฉันว่า ฟ้า ได้ เพราะโจอี้เป็นลูกเสี้ยวไทย ฉันสงวนชื่อไทยฉันไว้ให้คนที่สนิทกับฉันมากเรียก และสิทธิพิเศษสำหรับคนที่พูดไทยชัด

                    “ก็ไม่เหนื่อยหรอก แต่หงุดหงิด”

                    “เรื่องอะไรอ่ะ”

                    ฉันถอดหายใจเล็กน้อยและเล่าเรื่องทุกอย่างให้โจฟัง

                    “ฟ้าหละหงุดหงิด อยากเอาทุบหัวตานั่นให้หายแค้นไปเลย”

                    “ฮ่าๆๆ เอาเถอะน่า ถือซะว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตก็แล้วกัน”

                    “ประสบการณ์ที่ดีมากกกกก”

                    ฉันลากเสียงยาวๆประชด โจผลักหัวฉันเบาๆ และก็ขอตัวไปตรวจคนไข้ต่อ

    ขณะที่ฉันหาอะไรอ่านเล่นที่ร้านหนังสือในช่วงเลิกงาน สายตาฉันก็ไปสะดุดกับนิตยสารเล่มหนึ่ง ปกติฉันไม่ใช่คนที่อ่านหนังสือประเภทนี้ แต่ภาพของใครคนหนึ่งบนหน้าปกทำให้ฉันต้องหยิบขึ้นมา

                    ลูอิส ทอมลินสันห่างแฟนผิดปกติ???!!!’

                    ใบหน้าของผู้ชายคนหนึ่งที่ใส่ชุดสูทราคาแพงขั้นรอยแตกใหญ่ๆสีชมพูกับผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าตาน่ารักมาก ฉันไม่ได้สนใจข่าวหรอกนะ แต่ฉันสนใจใบหน้าของผู้ชายที่ชื่อลูอิส ทอมลินสันนี่ต่างหาก

                    ผมสีน้ำตาลเข้มแบบนี้ นัยน์ตาสีฟ้าคู่สวยแบบนี้ ทำให้ฉันต้องพึมพำชื่อใครคนหนึ่งออกมา

                    “ลู”

                    แต่เค้าคงไม่ใช่ลูอิสของฉันหรอก ลูอิสของฉันชื่อว่า ลูอิส ออสติน ไม่ใช่ ลูอิส ทอมลินสันอะไรนี้ ฉันวางนิตยสารไว้ที่เดิม และก็เดินออกไปจากร้านหนังสือ

                    เอ...แต่ตานั่นก็หน้าคุ้นๆนะ เหมือน....

                    “เฮ้ย นั่นมันคู่กรณีที่ชนรถฉันนี่หว่า”

                    ว้ากกก ฉันมีเรื่องกับลูอิส ทอมลินสันคนดังเลยหรอเนี่ย

     

                    ฟา..?

                    ฮ่าๆๆ ไม่ใช่ ฟ้า ต่างหาก ไหนพูดใหม่สิ ฟ้า

                    ฟ้า...

                    ใช่ๆ แบบนั้นแหละ จำไว้นะ นายสนิทกับฉัน นายต้องเรียกฉันว่า ฟ้า เข้าใจนะ

                    เข้าใจ

                    เด็กชายพยักหน้าเข้าใจ เมื่อเด็กหญิงกำลังสอนเขาพูดชื่อไทยของเธอ สาเหตุนั่นมาจากที่เขาอยู่บ้านติดกับเธอ ไปเล่นบ้านเธอบ่อยๆ แล้วก็มักจะได้ยินพ่อกับแม่ของเด็กหญิงเรียกเธอว่า ฟ้า และอีกอย่าง เขาพิเศษสำหรับเธอ ไม่ใช่เพราะเขาเป็นเพื่อนคนแรกของเธอ ไม่ใช่เพราะพวกเขาอยู่บ้านติดกัน แต่เพราะเขาเป็นรักแรกของเธอต่างหาก

                    ว่าแต่ ฟ้า คืออะไรหรอ

                    เขาถามด้วยความสงสัย

                    แอมเบอร์ลีย์ แปลว่า ท้องฟ้า และพ่อกับแม่ก็เรียกฉันว่า ฟ้า มาตลอดเลย ส่วนคนอื่นก็ให้เรียกว่า แอมเบอร์ลีย์ไง

                    อ่อ งั้นฉันเรียกเธอว่า ฟ้า นะ ฉันชอบชื่อนี้

                    แน่นอนสิลูอิส

                    เด็กหญิงยิ้มตอบเด็กชาย

                   

    ฉันเปิดประตูไปที่ห้องของคนไข้คนหนึ่งที่ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในความดูแลของฉัน แต่ฉันก็มักจะมาหาเขาเสมอ

                    “อ้าว แอมเบอร์ เลิกงานแล้วหรอ”

                    คนไข้ที่นอนอยู่บนเตียงถามขึ้น

                    “เพิ่งเลิกเมื่อกี้เองค่ะทรอย”

                    ฉันยิ้มตอบไปและนั่งลงข้างเตียง

                    ทรอย ออสติน เป็นเพื่อนของพ่อฉัน และบ้านเราก็อยู่ใกล้กันสมัยที่ฉันอยู่ที่ดอนแคสเตอร์ตอนฉันยังเด็กๆ และเขาก็เป็นพ่อของ ลูอิส ทรอย ออสติน เพื่อนคนแรกและรักแรกของฉัน

                    “แล้วพ่อหละค่ะ”

                    ฉันถามถึงพ่อตัวเอง

                    “เคลวินเพิ่งกลับไปเมื่อกี้เอง เขาบอกว่า จะกลับไปเอาของที่ดอนแคสเตอร์แล้วก็มาที่นี่อีกทีนึง”

                    “โธ่..พ่อไม่น่าเทียวไปเทียวมาเลย พ่อน่าจะมาพักกับหนู”

                    “แหม...ก็เค้าชอบบ่นว่าอพาร์ทเมนต์หนูเล็กเกินไป ให้อยู่ที่นี่แหละ มาอยู่เป็นเพื่อนฉันด้วย”

                     “เดี๋ยวหนูมาดูแลทรอยก็ได้นี่นา ทรอยก็เหมือนพ่อของหนูเหมือนกันน้า...”

                    ฉันกอดทรอยเบาๆ

                    ทรอยเป็นโรคหัวใจ เขาเลยต้องเข้าๆออกๆโรงพยาบาลอยู่บ่อยๆ แต่รู้สึกว่าช่วงนี้จะได้อยู่ยาว เพราะครั้งที่แล้วโรคเขากำเริบหนักมาก และเขาก็เป็นเหมือนพ่ออีกคนของฉัน

                    “ไม่เอาหรอก ฉันไม่อยากให้หนูเหนื่อย”

                    “หนูไม่เหนื่อยหรอกค่ะ ได้อยู่กับทรอยสนุกดีออก”

                    “พูดแบบนี้เดี๋ยวพ่อเราก็น้อยใจหรอก ตอนเล็กๆก็ชอบมาอยู่กับฉันกับ...ลูอิส”

                    เสียงทรอยเริ่มเบาลงเมื่อเขาเอ่ยถึงลูอิส เขาไม่น่าหย่ากับโจแอนนาห์เลย พอฉันถามเหตุผล เขาก็ไม่บอก

                    “ไม่เอาน่าทรอย เดี๋ยวโรคกำเริบนะค่ะ เรามาดูบอลกันเถอะค่ะ”

                    “ฮ่าๆๆ เอาสิ”

                    แล้วฉันกับทรอยก็นั่งดูบอลกันอย่างเมามันส์

     

                    วันต่อมา

                    ฉันเดินไปทำงานตามปกติ เลิกงานตามปกติ และก็ไปเยี่ยมทรอยตามปกติ แต่วันนี้ฉันรู้สึกได้ว่า วันนี้มันจะไม่ปกติ

                    ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

                ฉันเคาะประตูสักพักก็มีคนมาเปิด

                    “โจแอนนาห์”

                    ฉันพึมพำชื่อของคนตรงหน้าเบาๆ

                    “หนูเป็นใครกันจ้ะ”

                    เธอยิ้มและถามฉันด้วยท่าทางที่ใจดีของเธอ

                    “หนู แอมเบอร์ ไงค่ะ”

                    ฉันยิ้มตอบเธอไป

                    “แอมเบอร์! สวยซะจนฉันจำไม่ได้เลยนะเนี่ย”

                    เธอเข้ามาจับมือฉันและลูบไปมา

                    “แหม..ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ หนูขอเข้าไปเยี่ยมทรอยได้มั๊ยค่ะ”

                    “เข้ามาสิจ้ะ”

                    เธอหลีกทางให้ฉันเข้าไป ฉันเดินเอาผลไม้เข้าไปวางและจัดการล้างและปลอกให้ทรอยกับโจแอนนาห์กิน

                    “ยังน่ารักเหมือนเดิมเลยนะจ้ะ ถ้าได้เป็นลูกสะใภ้ก็คงจะดี”

                    โจแอนนาห์พูดซะจนฉันเขิน

                    “ฉันว่าก็ดีเหมือนกันนะ แต่ลูอิสคบกับเอลเลนเนอร์อยู่ไม่ใช่หรอ”

                    พอทรอยพูดขึ้นมาแบบนั้น หัวใจฉันก็ตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที และเหมือนมันจะร้าวด้วยหละ

                    “แต่เห็นว่าตอนนี้ก็ห่างๆกันอยู่นะ”

                    พอโจแอนนาห์พูดแบบนั้น หัวใจฉันก็กลับมาพองโตขึ้นเหมือนเดิม

                    “แล้วลูอิสจะมาเยี่ยมทรอยมั๊ยค่ะ”

                    ฉันถามขึ้น

                    “เดี๋ยวก็คงจะมาแล้วหละ เห็นลูอิสบอกว่าวันนี้เขาว่าง”

                    โจแอนนาห์ยิ้มตอบฉัน

                    “กว่าจะหาเวลามาได้ ก็แทบหูไหม้เหมือนกันนะ ต้องโทรถามตั้งหลายครั้งแน่ะ”

                    “อ่อค่ะ”

                    อันที่จริง ฉันว่าจะกลับอพาร์ทเมนต์เพราะเห็นว่ามันเริ่มค่ำแล้ว แถมฝนก็ตั้งเค้าว่าจะตกด้วย แต่อยู่รอเจอลูก่อนคงไม่เสียหายอะไรหรอกเนาะ

                    ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

                “พูดถึงก็มาพอดีเลยนะ ตายยากจริงลูกคนนี้”

                    โจแอนนาห์พูดขึ้นและเดินไปเปิดประตู

                    ฉันจับมือทรอยที่กำลังตื่นเต้นที่จะได้เจอหน้าลูกชายของเขาครั้งแรกหลังจากที่หย่ากับโจแอนนาห์ เขารู้ว่าเขาโหดร้ายที่ไม่เคยไปเยี่ยมลูอิสเลยหลังจากที่หย่ากับโจแอนนาห์ แต่ฉันว่าเขาก็คงจะมีเหตุผลที่ไม่ได้ไปหาลูอิส

                    พอฉันหันไป ฉันก็เห็นพ่อฉันกำลังเดินเข้ามา ตามมาด้วยโจแอนนาห์และ...

                    “นาย!

            “เธอ!



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×