ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    1D: Nobody Compares (one direction fanfic)

    ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 7

    • อัปเดตล่าสุด 4 มี.ค. 56


    บทที่ 7

     

                    วันนี้เป็นวันพฤหัส ก็เป็นวันเดย์ออฟของพวกหนุ่มๆอีกครั้ง แต่ว่า วันนี้ไม่ค่อยมีใครอยู่บ้าน เพราะส่วนมากก็ไปเดินเล่นแล้วก็แจกลายเซ็นต์แก้เบื่อ ส่วนน้อยที่อยู่บ้านก็อาจจะตื่นสายหรือไม่ก็มานั่งดูหนังกัน เหมือนฉัน ลูอิส และไนออลไง ส่วนที่เหลือก็ออกไปซื้อของเข้าบ้าน ส่วนเซนน่ะหรอ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า หลับแหงๆ ส่วนฉันทำไมไม่ไปเรียนน่ะหรอ เพราะวันนี้เป็นวันกีฬาสี และฉันไม่ชอบกีฬาสี ฉันเลยขี้เกียจไปโรงเรียนน่ะสิ

                “เรื่องนี้น่ากลัวจังวะ”ไนออลบ่น พร้อมกับกินป๊อปคอร์นไปด้วย

     

     

                    ตอนนี้เรานั่งดูเรื่อง The women in black ที่แดเนียล แรดคลิฟแสดง จะบอกว่า การดูหนังเรื่องนี้เป็นไอเดียฉันเอง เพราะฉันไม่กล้าดูคนเดียว บางที การมีเพื่อนมานั่งหลอนด้วยกันเป็นอะไรที่ดีมากเลยนะ

                    “กรี๊ด!” ผีโผล่ โคตรตกใจเลย แต่ขอบอกว่า เสียงกรี๊ดนี้ไม่มีแค่ฉันคนเดียว แต่มีไนออลและลูอิสด้วย 

                    “ฉันหละสงสารแดเนียลจริงๆเลย ไปอยู่บ้านคนเดียวแบบนั้น ทำไมไม่จัดปาร์ตี้วะ หาแนวร่วมมาช่วยกันหลอน”ไอเดียแปลกๆแบบนี้ เป็นใครไม่ได้นอกจากลูอิส

                “เขาไปทำงานเว้ย จริงๆฉันจะซื้อของมากินตุนไว้เยอะๆเลยนะ แล้วก็ชวนผีมากินด้วยกัน ฮ่าๆๆๆ”

                    เอากับเค้าอีกคน -_-!

               

                    เวลา 11.00 pm.

                หิวน้ำจัง... ฉันลุกออกจากห้องแล้วเดินลงไปกินน้ำ ตอนนี้ภายในบ้านค่อนข้างมืด ฉันเลยอาศัยไฟนีออนตรงห้องโถงที่เปิดไว้เพียงดวงเดียว ตอนนี้ทุกคนคงหลับกันหมดแล้ว คงเหลือแต่แฮร์รี่ เพราะตอนประมาณ 2 ทุ่มเขาบอกว่า จะออกไปข้างนอก เพราะจะไปหาเทย์เลอร์ สวิฟท์ ที่ตอนนี้เธออยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในลอนดอน

                    ครืน!! ครืน!!

                ฉันเอามือปิดหูอย่างรวดเร็ว เพราะเสียงฟ้าร้อง และฉันก็กลัวมันมาก

                    ปัง!

                    เสียงเหมือนคนปิดประตูรถ เดาว่า แฮร์รี่คงกลับมาแล้ว อีกสัก 5 นาทีคงเข้ามาในบ้าน

                    15 นาทีต่อมา

                    เอ..ทำไมเขาไม่เข้ามานะ หลบฝนหรือไง แต่ลานจอดรถก็อยู่ไม่ไกลจากประตูบ้านนะ

                    ฉันหยุดความสงสัย แล้วก็เดินไปหยิบร่ม แล้วเปิดประตูบ้าน เผื่อแฮร์รี่อาจจะหลบฝนที่ลานจอดรถ ฉันจะเอาร่มไปรับ

                    ผ่าง!

                พระเจ้า!

                เขาเป็นบ้าหรือไงนะ ทำไมถึงไปยืนตากฝนแบบนั้น อากาศก็เย็นจะตาย ไม่กลัวหวัดถามหาหรือไง

                    “นี่ แฮร์รี่ ทำไมไปยืนตากฝนแบบนั้น!”ฉันเดินเข้าไปถาม อันที่จริง ตะโกนมากกว่า เพราะระยะห่างของเราค่อนข้างมากทีเดียว

                    “...”

                    เขาไม่ตอบ ได้แต่ยืนก้มหน้า

                    “เข้ามาบ้านก่อนเถอะนะ เดี๋ยวเป็นหวัดเอา”

                    ฉันเดินเข้าไปหาเขา เอามือโอบไหล่ที่กว้างและอบอุ่นของเขา แล้วก็พยุงพาเขาเดินเข้าบ้าน ซึ่งมันก็ค่อนข้างง่าย เพราะเขายอมเดินมากับฉันแต่โดยดี

                    “เราเลิกกันแล้ว”จู่ๆแฮร์รี่ก็พูดขึ้นมา หลังจากที่เราเดินเข้ามาในบ้านเรียบร้อยแล้ว

                    “หืม?”

                    “เราเลิกกันแล้ว”

                    ฉันเดินเข้าไปกอดแฮร์รี่แล้วลูบหลังเขาเบาๆ

                    แล้วเขาก็สลบไปคาไหล่ของฉัน

                   

                    ตัวหนักชะมัดเลย

                    ฉันบ่นเบาๆก่อนจะพยายามลากแฮร์รี่ ไปที่ห้องนอนของเขา

                    ตุ้บ!

                ในที่สุด...

                    ฉันก็วางตัวเปียกๆของเขาลงบนที่นอนในห้องเขา

                    ฉันหละอยากกรี๊ดออกมาด้วยความดีใจเหมือนไนออลเจอของกิน แต่แล้วก็ฉุกคิดได้ว่า

                    ใครจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้แฮร์รี่วะเนี่ย??!!!!!

                ถ้าฉันเปลี่ยนหละ ม่ายยยยยยยยย ฉันไม่เอาหรอกนะ ถึงฉันจะเคยเห็นศพเวลาหมอเขาเอาไปชันสูตรมาบ้าง แต่ฉันก็ไม่เคยเห็นขั้นลึกอะไรแบบนั้นนะ

                    เอาไงดีวะเนี่ย

                    ฉันเดินไปมาอยู่ประมาณเกือบ 4 รอบได้ ถ้าฉันปล่อยเขาไว้ ปอดบวมต้องถามหาเขาแน่เลย

                    แล้วฉันก็รวบรวมความกล้า ไปเคาะห้องที่อยู่ใกล้กับแฮร์รี่ที่สุด

                    ฉันรู้ว่า เขาอาจจะยังไม่นอนหรอกมั้ง เพราะเขาอาจจะโทรคุยอยู่กับแฟนก็ได้ ก็คนมันมีแฟนนี่นะ

                    ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

                เจ้าของห้องก็ออกมาเปิดภายในเวลาไม่กี่นาที พร้อมกับโทรศัพท์คาหู เดาได้ไม่ยากหรอกว่าคุยกับแฟนแน่ๆ หัวฟูนิดหน่อย แต่ก็ไม่อาจทำให้เขาดูดีน้อยลงเลย

                    “ว่าไงอีฟ”

                    “เอ่อ...ลู ฉันรู้ว่าฉันอาจจะมารบกวน แต่นายช่วยไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้แฮร์รี่ทีได้มั๊ย พอดีเขาเปียกฝนน่ะ ฉันกลัวว่าเขาจะไม่สบาย”

                    “อ่อ... ได้สิ แน่นอน รอแปปนะ โอเค แอล ฉันต้องวางสายแล้ว ฝันดีจ้ะ ฮันนี่”แล้วเขาก็วางหูไป นี่ฉันมารบกวนถูกคนมั๊ยเนี่ย

                    แล้วฉันก็รอยืนรอลูอิสเปลี่ยนเสื้อผ้าให้แฮร์รี่

                    “เสร็จแล้ว เอ้อ.. อีฟ เธอช่วยเข้ามาดูแฮซหน่อยได้มั๊ย ฉันรู้สึกว่า ตัวมันร้อนๆ เหมือนจะเป็นหวัด”

                     “อ่อ ได้สิ”

                    ฉันตามลูอิสเข้าไปดูอาการแฮร์รี่ ฉันเอามืออังหน้าผากเขา ตัวร้อนจี๋เลย

                    ฉันหันไปหาลูอิส ในขณะที่เขาหาวออกมาทันที บางทีฉันอาจรบกวนเขามาพอแล้วหละ

                    “นาย เอ่อ...ไปพักเถอะนะ เดี๋ยวฉันดูแลเขาเอง”

                    “แล้วพรุ่งนี้เธอไม่ไปโรงเรียนหรอ”

                    “ไม่อ่ะ ฉันไม่ชอบกีฬาสีโรงเรียน เดี๋ยวพรุ่งนี้ถ้าเขาไม่หาย ฉันจะอยู่ดูแลเขาก็ได้”

                    “โอเค ฝากด้วยละกันนะ”

                    ฉันยิ้มตอบลูอิส พอเขาไปแล้ว ฉันก็ไปเอาผ้ากับถังน้ำอุ่นเพื่อเช็ดตัวให้แฮร์รี่

                    ฉันค่อยๆเช็ดไล่ไปเรื่อยๆ จนถึงจุดสำคัญของเขา

                    อ่ะๆ ฉันรู้ทุกคนคิดอะไรอยู่ :p

                    ก็....ซิกแพ็กเขาไงหละ

    โธ่....คิดไปได้ เอาหละ เข้าเรื่องกันต่อ

    พอถึงจุดนั้น หน้าฉันก็ร้อนผ่าวทันที เกิดมาไม่เคยเช็ดตัวให้ผู้ชายที่ไม่ใช่ครอบครัวมาก่อนเลยนะ แต่เอ...เขาก็เป็นอีกคนในอีกครอบครัวของฉันนี่นา คิดบ้าอะไรเนี่ยอีฟ ก็แค่ซิกแพ็กเองนะ

    ฉันรีบๆเช็ดซิกแพ็กของแฮร์รี่อย่างรวดเร็ว ตอนเช็ดอยู่ หัวใจฉันก็เต้นไม่เป็นจังหวะด้วย ให้ตาย ไม่ออกมาเต้นแร็ปเลยหละ

    พระเจ้า เสร็จจนได้ ฉันวัดปรอทให้เขาหลังจากเช็ดเสร็จประมาณเกือบ 20 นาที อาการเขาก็เริ่มดีขึ้นนิดหน่อย แต่ยังไม่ถึงขั้นที่อาจจะลุกจากเตียงได้ เพราะยังไงซะ ตัวก็ยังร้อนอยู่

     ฉันเช็ดตัวให้เขาอีกครั้ง เพื่อให้พิษไข้ทุเลาลงบ้าง ตอนนี้เหงื่อฉันท่วมตัวไปหมด ไม่ใช่เพราะอากาศร้อน แต่พิษไข้จากตัวแฮร์รี่ต่างหาก

                    ฉันเช็ดตัวให้เขาอีก 2-3 รอบได้ จะบอกว่า มันก็เหนื่อยเอาการเลยนะ แต่ตอบแทนที่เขาช่วยเหลือฉันตลอดมา ฉันจะไม่บ่นอะไรทั้งสิ้น เพราะฉันทำด้วยใจ เหมือนที่เขาก็ช่วยฉันด้วยใจเหมือนกัน

     

                    วันต่อมา

                    Harry’s Part

                ผมตื่นมาพร้อมกับอาการปวดหัวอย่างหนัก ตัวร้อน และลุกแทบไม่ขึ้น ผมไม่ใช่พวกที่เป็นไข้บ่อย แต่ถ้าเป็นแล้ว ก็จะเป็นประมาณเกือบ 2-3 วันกว่าจะหายดี เพราะผมต้องทำงานหนักเหมือนกับเพื่อนๆคนอื่นๆในวง

                    ผมพยายามลุกขึ้นจากที่นอน นี่มันกี่โมงแล้วนะ

                    ผมเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่ามันเป็นเวลา 10.00 am.

                ชิท!! ผมไปทำงานสายแล้วสิ

                    ผมพยายามจะลุกออกจากเตียง แต่อาหารมึนหัวก็เล่นงานผมเข้า เลยส่งผลให้ผมไปนั่งเข่าอ่อนอยู่ข้างเตียง

                    “แฮร์รี่!

                เสียงคุ้นๆที่ต้องได้ยินทุกวันของผู้หญิงคนเดียวในบ้านดังขึ้น เธอวางถาดอาหารไว้บนโต๊ะข้างๆเตียงผม แล้วก็เข้ามาพยุงผมไปนั่งบนเตียงดีๆ

                    “ลุกขึ้นมาทำไม”อีฟถามขึ้น

                    “ฉันจะ...แค่กๆ ไปทำงาน”ผมพยายามแค้นเสียงออกมาอย่างหนัก เพราะผมเริ่มเจ็บคอและไม่มีแรงจะพูด

                    “นายป่วยอยู่นะ”

                    “แล้วคนอื่นไปไหน”ผมถามเบี่ยงประเด็น

                    “เขาไปทำงานกันหมดแล้ว อีกอย่าง ทุกคนบอกว่า ให้นายพักผ่อนเยอะๆ จะได้มีแรงไปทำงานแล้วก็อย่าฝืนสังขารตัวเอง”

                    ผมเงียบ ไม่พูดอะไร เพราะผมไม่แรงจะพูด

                    “กินเถอะนะ จะได้นอนพักผ่อน”หลายครั้งที่ผมมักจะใจอ่อนกับเสียงของเธอ และก็รวมครั้งนี้ด้วย

                    ผมพยักหน้าเบาๆ

                    “ฉันว่า ฉันป้อนนายดีกว่า นายแทบไม่มีแรงจะทำอะไรอยู่แล้ว ขออนุญาตนะ”

                    ผมพยักหน้าเบาๆอีกครั้ง จริงอย่างที่เธอว่าแหละ แรงจะลุกแทบไม่มี ถ้ากินข้าวอีก ถ้วยซุปนี้คงหกใส่ที่นอนแน่ๆ

                    “เธอไม่ไปเรียนหรอ”

                    ผมถามขึ้นมา เพื่อทำลายความเงียบที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับเธอ

                    “ไม่อ่ะ อาทิตย์นี้มีกีฬาสีทั้งอาทิตย์เลย ไม่ได้เรียนสักคาบ”

                    “แล้วเธอไม่ไปกีฬาสีโรงเรียนหรอ”

                    “ไม่หละ ฉันไม่ชอบกีฬาสีโรงเรียน เสียงดัง คนเยอะ”

                    เธอเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างแปลกมากสำหรับผม เพราะหลายคนชอบกีฬาสีโรงเรียน มันไม่ได้เรียน กีฬาก็สนุก แถมทำให้ได้รู้จักใครหลายๆคน แต่กับเธอ เป็นอะไรที่แปลกมาก ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิงเลย

                    “เอาหละเสร็จแล้ว เดี๋ยวฉันไปเอายามาให้ละกันนะ”

                    เธอหายไปเพียง 5 นาที แล้วก็กลับมาพร้อมกับน้ำอุ่นและยาหลายๆเม็ด

                    “อ่ะนี่”

                    ผมรับยาและน้ำมาจากเธอ ขอบอกเลยว่า เธอเป็นผู้หญิงคนแรกนอกจากแม่และเจมม่าที่ดูแลผมเวลาผมไม่สบาย

                พอหัวถึงหมอนปั๊บ ผมก็หลับไปเลย

                   

                    ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เพราะรู้สึกว่ามีใครเอาอะไรไม่รู้ออกจากปากผม พอมองดีๆ ก็เห็นอีฟ กำลังดูปรอทวัดไข้อยู่

                    “ดีขึ้นแล้วนิ แต่ต้องเช็ดตัวอีกครั้งก็ดีนะ”

                    แล้วผมก็หลับไป แต่ก็รู้สึกว่า มีใครมาเช็ดตัวให้ผม

                   

                    ผมตื่นมาอีก รู้สึกดีขึ้นมากเลย ตัวก็ไม่ร้อนมากเหมือนเมื่อเช้า แต่รู้สึกมีแรงมากขึ้น ผมมองไปรอบๆ ก็เห็นร่างเล็กๆที่คุ้นเคยดีนอนคอพับคออ่อนอยู่บนโซฟาตัวยาวที่ผมซื้อมาไว้นอนเล่นๆ ผมเลยลุกไปจัดท่านอนที่เธอน่าจะสบายตัวที่สุด แล้วก็เดินลงไปกินน้ำที่ครัวชั้นล่าง

                    ผมยืนคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน สาหุที่เทย์เลอร์กับผมเลิกกัน เป็นเพราะเราไม่มีเวลาให้กัน แถมทะเลาะกันบ่อยขึ้นด้วย ผมเคยอ่านบทสัมภาษณ์ของเทย์เลอร์ในแม็กกาซีนเล่มนึง เธอบอกว่า ถ้าเธอรู้สึกว่า คนๆนั้นไม่ใช่สำหรับเธอ เธอก็จะเลิกไปเลย เพราะมันเป็นเรื่องที่เสียเวลากับการที่ติดอยู่กับคนที่ไม่ใช่

                    บางที ผมอาจจะไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับเธอ และผมก็จะไม่รั้งเธอไว้

                    แต่บางที มันก็เจ็บเหมือนกันนะ กับการที่คิดถึงคนที่ไม่คิดถึงเรา

                    ผมสลัดเรื่องนี้ออกจากหัว แล้วก็ขึ้นไปนอนพักบนห้อง

                    ระหว่างนอนอยู่ ผมหันหน้าไปหาร่างเล็กๆที่นอนบนโซฟาในห้องของผม ใบหน้าที่มักจะสดใส รอยยิ้มที่มักจะทำให้ผมละลายทุกครั้งเวลาที่เห็น ริมฝีปากที่ผมเคยลิ้มรสนั้นมาแล้ว คิดแล้วก็ทำให้ผมหัวใจเต้นได้เสมอ มันเป็นจังหวะที่ผมไม่เคยได้สัมผัสมันมาก่อน มันเป็นความรู้สึกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข อยากจะปกป้องเธอ อยากทำให้เธอได้ยิ้มบ่อยๆ ผมไม่รู้ว่านี่เรียกว่า รักแท้ หรือเปล่า แต่ผมค่อนข้างมั่นใจว่า ผมละสายตาจากเธอไม่ได้จริงๆ 


                                                                                                                       


    ในที่สุด ก็ถึงตอนที่ทุกคนรอคอย :)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×