คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 5
Chapter 5
วันต่อมา
‘You know I’ll be your life
Your voice, you’re reason to be…’
ฉันนั่งฟังเพลง Moments ของ one direction ในไอพอด ฉันนั่งฟังไปด้วยน้ำตาไหลไปด้วยเพราะอินกับเพลงมาก เพลงนี้พี่ชาลีช่วยเป็นโปรดิวเซอร์ให้ด้วยหละ ฉันเข้าใจอารมณ์คนแต่งได้เลย
ถ้าเกิดว่า...มีผู้ชายคนหนึ่งรักฉันมากขนาดนั้นแล้ววันหนึ่งฉันต้องตายขึ้นมา เขาจะอยู่ได้หรอ เขาจะตายตามฉันหรือเปล่า หรือเขาจะลืมฉันแล้วก็ก้าวเดินต่อไป
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
ฉันรีบเช็ดน้ำตาตัวเอง แล้วก็เดินไปเปิดประตูให้กับพี่แดเนียลที่เป็นครูสอนโฮมสคูลของฉันในช่วงนี้
“สวัสดีค่ะพี่แดเนียล”
“สวัสดีจ้ะเวนดี้”
ฉันหลีกทางให้เธอเดินเข้ามา แล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะสอนหนังสือที่เดิมอย่างเช่นเคย พี่แดเนียลที่เดินตามฉันมาก็นั่งลงแล้วเริ่มสอนหนังสือฉันตามเคย
“วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะจ้ะ”
พี่แดเนียลพูดพลางเก็บกระเป๋าของเธอไปด้วย
“โอ๊ยยย เรียนเสร็จสักที”
ฉันพูดพลางบิดขี้เกียจไปด้วย
“ฮ่าๆๆ วันนี้พี่ไปก่อนนะจ้ะ พี่ต้องไปซ้อมเต้นน่ะ”
“ค่ะ เดินทางดีๆนะค่ะ”
ฉันส่งพี่แดเนียลเสร็จ ฉันก็รีบเดินขึ้นห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที เพราะวันนี้ฉันวางแผนว่าจะไปซื้อหนังสืออยู่ๆแถวในย่านอยู่พอดีเลย
ฉันทิ้งโน้ตไว้ ล็อกบ้านให้เรียบร้อยแล้วก็เดินออกจากบ้านไป
ฉันซื้อหนังสือเสร็จแล้วก็เดินเอื่อยๆไปตามทาง
ครืน! ครืน!
ฝนที่ไม่มีทีท่าว่าจะตกก็ตกลงมาอย่างง่ายดาย ฉันรีบวิ่งไปหลบอยู่ที่ป้ายรถเมล์ แต่ป้ายรถเมล์ก็ไม่ได้ช่วยให้ฉันเปียกน้อยลง ในทางกลับกันยิ่งทำให้ฉันเปียกมากขึ้นไปอีก
“อ้าว เวนดี้”
จู่ๆเสียงของผู้ชายคนหนึ่งที่ฉันเจอทุกครั้งที่ออกจากบ้านก็ดังขึ้น เสื้อแจ็กเก็ทสีเทาที่สวมทับเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์และรองเท้าผ้าใบที่ดูเรียบๆแต่ก็มีราคาแพงทำให้ฉันรู้ทันทีเลยว่าใคร
“เลียม”
ฉันพูดชื่อของคนตรงหน้าเบาๆ
“เจอกันอีกแล้วสินะ”
เขาพูดแล้วก็เกาหัวแกรกๆอย่างเคอะเขิน
นี่เขาเขินหรอ...
“ใช่ เจอกันอีกแล้ว คุณมาทำอะไรแถวนี้หรอ”
ฉันถามอย่างสงสัย
“ก็...มาซื้อของนิดหน่อยน่ะครับ พอดีฝนตกเลยมาหลบอยู่ที่นี่น่ะครับ แล้วคุณหละ”
“ฉันมาซื้อหนังสือน่ะค่ะ”
“ท่าทางฝนจะตกนานเลยนะเนี่ย ผมว่าเราฝ่าฝนไปที่รถผมก่อนดีมั๊ยครับ”
“ฮะ?”
ในขณะที่ฉันกำลังอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน เขาก็ถอดเสื้อแจ็กเก็ทของเขา คลุมหัวเราทั้งสองคนไว้
“พอนับหนึ่งถึงสามแล้วเราก็รีบวิ่งไปตรงนั้นเลยนะครับ”
“ค่ะๆ”
ฉันพยักหน้าเข้าใจ
“หนึ่ง สอง สาม ไปเลยๆ”
ฉันกับเลียมออกวิ่งไปที่รถที่จอดอยู่ไม่ไกลจากหน้ารถเมล์เท่าไหร่ พอเราถึงตัวรถแล้ว เลียมก็เดินไปเปิดประตูทางฝั่งข้างคนขับให้ฉันเข้าไปนั่งอย่างรวดเร็ว เขาปิดประตูรถเมื่อเห็นว่าฉันเข้าไปนั่งเรียบร้อยแล้ว ส่วนตัวเขาก็รีบวิ่งอ้อมรถเพื่อมาขึ้นรถอีกฝั่งหนึ่ง ทำให้ตัวเขาเปียกมากขึ้น
“ส่งที่ไหนดีครับ”
เลียมหันมาถามฉันพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ ฉันยิ้มแล้วก็ตอบ
“ที่บ้านฉันก็แล้วกันค่ะ”
แล้วเราก็มุ่งหน้าไปที่บ้านฉัน
ระหว่างทาง
Liam’s part
ผมเหลือบมองร่างเล็กของผู้หญิงที่นั่งข้างๆผมเป็นระยะๆ เธอหลับตาพริ้มอยู่ แต่ร่างของเธอก็ยังสั่นเทาด้วยความหนาวจากแอร์เย็นของรถ ผมว่าผมหรี่แอร์มาอยู่ที่เลขน้อยสุดแล้วนะ
ตอนนี้รถค่อนข้างติด เพราะมันเป็นช่วงเลิกงานประกอบกับฝนยังตกไม่หยุดเลย ผมเลยเอื้อมมือไปหยิบแจ็กเก็ตอีกตัวที่อยู่เบาะหลัง แล้วเอามาห่มให้เธอ ร่างเธอสั่นน้อยลงแต่เธอก็ยังคงหลับอยู่เหมือนเดิม
ตึกตัก! ตึกตัก! ตึกตัก!
หัวใจผมมักจะเต้นแรงขึ้นเวลาที่คิดถึงเธอหรือเห็นหน้าเธอ ผมโน้มหน้าเข้าไปหาเธอเรื่อยๆ ริมฝีปากของเธอดึงดูดผม ประกอบใบหน้าของเธอ นัยน์ตาสีเขียวเกือบเทาที่เดาไม่ออกว่าจริงๆแล้วเธอรู้สึกยังไงกันแน่
ผมค่อยๆก้มลงบรรจงจูบที่แก้มของเธอเบาๆ แล้วก็ค่อยๆผละออกมา
“เฮ้ย เราทำอะไรไปวะเนี่ย”
ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆท่ามกลางความสับสนของตัวเอง
ความคิดเห็น