ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    1D: Nobody Compares (one direction fanfic)

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 5

    • อัปเดตล่าสุด 4 มี.ค. 56


    บทที่ 5

     

            หลายครั้งในวันนี้ที่ฉันนั่งสงสัยพวกหนุ่มๆอย่างมาก ว่าใครคือ Mr.C ถ้าเดาจากชื่อก็คงไม่ใช่ เพราะไม่มีใครในนี้มีชื่อหรือนามสกุลขึ้นต้นด้วยตัว C ฉันเลยลองเดาจากนิสัยดู จากที่ฉันคุยกับ Mr.C มาตลอด เขาเป็นผู้ชาย ฉันแน่ใจอย่างแรง เขาดูอบอุ่นและขี้เล่น ที่สำคัญ เขาใส่ใจในรายละเอียดทุกอย่างของฉัน เดาได้จากที่เขาชอบให้ฉันเล่าเกี่ยวกับตัวฉัน

                “นี่ๆ อีฟ เอากระดาษแผ่นนั้นมาให้หน่อยสิ”นาตาเลียสะกิดไหล่ฉันเบาๆ ปลุกฉันตื่นจากภวังค์

                    ตอนนี้เราทำโปรเจ็กต์วิชาสังคม ซึ่งเราต้องทำส่งมิสเตอร์เกรย์ อาจารย์ที่ยุ่งงานกับงานโรงเรียนมากจนแทบไม่มีเวลามาสอน และโปรเจ็กต์นี้เป็นโปรเจ็กต์ที่เอาไปบวกกับเกรด ยิ่งทำให้มิสเตอร์เกร์ยไม่มีเวลามาสอนเลย ส่วนตอนนี้มีฉัน นาตาเลีย เดน่า ซูซาน จอห์น และอะแมนด้าที่มาหารายงานในห้องสมุด โชคดีที่จอห์นเป็นหลานของบรรณารักษ์ในห้องสมุด เลยทำให้เราเข้าออกง่ายขึ้น แม้ตอนนี้จะเป็นเวลา 1 ทุ่มที่เริ่มมืดแล้วก็ตาม

                    ตอนนี้โปรเจ็กต์ของเราเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เราเดินผ่านสนามฟุตบอล คนค่อนข้างเยอะเพราช่วงนี้มันใกล้กีฬาสีของโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นพวกเชียร์ลีดเดอร์ที่มาซ้อม พวกนักฟุตบอล และอื่นๆอีกเยอะแยะ

                    “อีฟ กลับยังไงหรอ”ซูซานถามขึ้น

                    “พอดีฉันว่าจะกลับรถเมลล์น่ะ ไปกับเดน่าและก็จอห์น”ฉันตอบ

                    “อ่อ ฉันกลับแล้วนะ พ่อมาแล้ว เจอกันวันจันทร์นะ”

                    “เจอกันจ้า”

                    เราก็แยกย้ายกันกลับบ้าน

     

                    ตอนแรก พวกหนุ่มๆก็ไม่ค่อยอยากให้ฉันกลับรถเมลล์คนเดียวหรอก ยิ่งเป็นช่วงค่ำแบบนี้ยิ่งเป็นห่วงใหญ่เลย แต่ทำไงได้ ฉันอยากลองนั่งรถเมลล์ลอนดอนดูนี่นา ฉันเลยบอกพวกเขาไปว่า ฉันมีเพื่อนนั่งมาด้วยไม่ต้องห่วง พวกเขาก็บ่นอีกนิดๆหน่อยๆตามประสาพี่ชายห่วงน้องสาว อันที่จริง พ่อห่วงลูกมากกว่า

                    “บายนะจ้ะ เจอกันวันจันทร์”

                    ฉันบอกลาเดน่าและจอห์นที่ต้องไปลงรถไปไกลอีก 2 ป้าย โชคดีนะที่เดน่ากับจอห์นบ้านใกล้กัน ไม่งั้นฉันคงห่วงเดน่าแย่เลย เธอเป็นคนสวยมากนะ เพียงแต่เธอไม่ชอบทำตัวเด่นดังเท่าไหร่

                    กริ๊ง! กริ๊ง!

    “ฮัลโหล”

                (อยู่ไหนแล้วอีฟ)

                    อ่อ เลียมนั่นเอง

                    “ตอนนี้เดินเข้าหมู่บ้านแล้ว อีกประมาณ 5 นาทีถึงบ้าน”

                    (อ่อ ดีแล้ว ให้ไปรับมั๊ย)

                    “ไม่ต้องหรอก เดี่ยวก็ถึงแล้วเนี่ย”ฉันบ่นอิดๆออดๆ

                    (โอเค เร็วๆนะ ทุกคนเป็นห่วง)

                    “รับทราบแล้วค่ะ”

                    ติ๊ด!

                แล้วเลียมก็วางสายไป ฉันรู้สึกเหมือนว่าพวกเขาเป็นคนในครอบครัวฉันเลยนะ ทุกคนเลย พวกเขาดูแลฉันดีมาก นี้แค่เดือนแรกเองนะเนี่ย แล้วอีก 3 เดือนฉันต้องจากพวกเขาไป ฉันจะไม่คิดถึงพวกเขาแย่หรอกหรอ

                    ซู่!

                    ฉันรู้สึกเสียวสันหลังเหมือนมีคนเดินตามฉันมา ฉันเลยเดินให้เร็วขึ้น อีกนิดเดียวฉันจะถึงรั้วบ้านแล้ว

                    หมับ!

                “เฮือก!

     

                Harry’s Part

                ทำไมเธอยังไม่ถึงบ้านอีกนะ

                    ผมเดินวนอยู่ในห้องรับแขกกับเพื่อนเป็นสิบๆรอบแล้วนะเนี่ย เราทุกคนห่วงเธอ

                    “เลียม ทำไมเธอยังไม่ถึงบ้านอีก”ผมถามขึ้น

                    “ฉันไม่รู้ แต่ฉันโทรไปเมื่อ 15 นาทีที่แล้ว เธอบอกว่ากำลังเดินเข้าหมู่บ้านอีก 5 นาทีถึงบ้าน”เลียมตอบ

                    “ฉันว่ามันไม่ปกติแล้วนะ”ลูอิสแย้ง

                    “บางทีเธออาจจะแวะซื้อของกินมาก็ได้นะ”เรื่องกินนี่ต้องไนออล

                    “เอางี้ ฉันจะออกไปตามเธอเอง”ผมบอก คว้าเสื้อโค้ทแล้วก็เดินออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว

     

                    พอผมเดินออกจากบ้าน แล้วก็เดินเข้าหมู่บ้านไปอีกประมาณ 10 เมตร  ผมก็ได้ยินเสียงคุ้นๆหู

                    “คืนสร้อยเส้นนั้นมาเถอะนะลุง”เสียงอีฟ ต้องใช่แน่ๆ

                    ผมเดินตามเสียงไป เหมือนเธอพูดอยู่กับใครสักคน

                    ผมแอบอยู่หลังเสาไม่ไกลจากเสียงเธอ ผมชะโงกหน้าไปดู ก็เห็นผู้ชายวัยกลางคนเนื้อตัวมอมแมมเหมือนคนจรจัด เขาโชว์สร้อยที่ผมซื้อให้เธอเหมือนเพื่อล่อเธอ

                    “นี่ เอามานะ”เธอพยายามคว้าเอาสร้อยเส้นนั้นมา แต่คนจรจัดกลับผลักเธอออกไป ทำให้เธอล้มลง

                    ผมทนไม่ไหวละ !!

                ไวเท่าความคิด ผมถีบยอดหน้าของคนจรจัดคนนั้น ผมคร่อมเขาแล้วก็พยายามเอาสร้อยเส้นนั้นออกมาจากมือเขา แต่ผมพลาดท่าเลยโดนต่อยไปหมัดนึง หมัดหนักชะมัด ผมเลยต่อยคืน คนจรจัดพลาดท่าไป ผมเลยได้โอกาส เอาสร้อยเส้นนั้นมาจากมือของเขา ผมพลาดท่าอีกครั้ง เขาต่อยผมไปอีกหมัดที่ท้อง ส่งผลให้ผมไปนอนกุมท้องบนพื้นคอนกรีตหนาๆ คนจรจัดวิ่งออกไปในความมืด พระเจ้า หมู่บ้านนี้เป็นหมุ่บ้านที่ไม่มีใครรู้จักที่สุดในลอนดอนนะ ทำไมเขาถึงมาขโมยของที่นี่ได้กัน

                    ผมลุกขึ้นแล้วเดินไปหาอีฟที่นั่งตัวสั่นอยู่ไม่ไกล ผมกอดเธอไว้ เธอร้องไห้ออกมา

                    “ฉันขอโทษ”เธอพูดอู้อี้

                    “ไม่มีอะไรต้องขอโทษหรอก กลับบ้านกันนะ”ผมบอกและลูบหัวเธอเบาๆ

                    ผมช่วยพยุงให้เธอลุกขึ้น

                    “โอ๊ย!”แล้วเธอก็ล้มไปอีกครั้ง

                    “ขอดูแผลหน่อยนะ”ผมถามความสมัครใจของเธอ

                    เธอพยักหน้าเบาๆ ผมเลยเลิกขากางเกงยีนส์ของเธอขึ้นอย่างเบามือที่สุด

                    โอ้ ชิท! แผลถลอกใหญ่มาก แถมเลือดไหลอย่างกับเขื่อนแตก

                    “ขี่หลังฉันเถอะ”

                    ผมหันหลังให้เธอเพื่อให้เธอขี่หลัง

                    “ไม่เอาหรอก จากที่นายสู้กับคนจรจัดเมื่อกี้แล้ว ฉันว่านายต้องเจ็บท้องชัวร์ๆ ถ้าฉันขี่หลังนาย นายก็จะเจ็บท้องมากกว่าเดิมอีก”

                    “ช่างฉันเถอะน่า ฉันเป็นผู้ชายฉันทนได้ แต่เธอเป็นผู้หญิง ถ้าฉันปล่อยให้เธอเดินเอง แล้วแผลฉีกเกิดติดเชื้อขึ้นมาจะว่าไง”

                    ผมเถียงเธอกลับ

                สุดท้าย เธอก็ยอมขี่หลังผมแต่โดยดี เธอเอาคางมาเกยไหล่ผม ขณะที่เรากำลังเดินกลับบ้าน

                    “ทำไมเธอถึงไม่ทิ้งสร้อยไปหละ ถ้าเกิดว่าฉันไปไม่ทัน คนจรจัดคนนั้นจะทำอะไรเธอบ้าง เธอคิดหรือเปล่า”ผมรู้สึกโมโหเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านไปไม่นานมานี้

                    “ฉันไม่อยากให้คนที่ซื้อสร้อยให้ฉันผิดหวังว่า ฉันรักษาสร้อยเส้นนี้ไม่ได้”

                    ผมอึ้งไปสักพักกับคำพูดแค่ไม่กี่ประโยคของเธอ ถูกของเธอจริงๆแหละ

     

                “โอ๊ย”

                    ตอนนี้ลูอิสกำลังนั่งทำแผลให้อีฟอยู่ เรากลับมาถึงเมื่อประมาณ 10 นาทีที่แล้ว ทุกคนค่อนข้างตกใจมาก เพราะผมกับอีฟสภาพเหมือนเพิ่งไปฟัดกับแมวมา สภาพอีฟไม่เท่าไหร่หรอก แต่ผมแย่กว่า มุมปากเปื้อนเลือด เสื้อผ้ายับยู่ยี่ แล้วก็สกปรกอีกต่างหาก

                    “โอ๊ยๆ”พวกเรามุงดูลูทำแผลที่หัวเข่าให้อีฟ เพราะลูมันให้เหตุผลว่า ล็อตตี้น้องมันตอนเด็กๆมักจะหกล้มบ่อยๆ มันก็มานั่งทำแผลให้แบบนี้แหละ แต่ผมว่า เราคิดผิดนะ เพราะตอนนี้อีฟคงแสบมากถึงขนาดต้องกำเสื้อไนออลซะจนเสื้อมันยืดและยับหมด

                    “เอาหละ เสร็จแล้ว”ลูพูดขึ้น

                    “ขอบคุณนะลู”อีฟบอก หน้าตาเหมือนชาตินี้ฉันจะไม่ให้ลูอิสทำแผลให้อีก

                    “ตานายแล้วแฮซ”แล้วลูมันก็หันมาหาผม

                    “อ่อ ไม่ดีกว่ามั้ง เห็นสภาพอีฟแล้ว ฉันว่า ฉันให้เซนทำให้ดีกว่า”ผมตอบมันไป

                    “เอ่อ... ฉันทำให้แฮร์รี่เองก็ได้นะ ตอนนี้ดึกแล้ว พวกนายไปนอนเถอะ ทางนี้ไม่ต้องห่วง”คนเดียวที่เรียกมว่า แฮร์รี่ ในบ้านหลังนี้ก็มีแค่ อีฟ เท่านั้น และตอนนี้เธอก็อาสาที่จะทำแผลให้ผม

                    “โอเค ฝากด้วยนะอีฟ”เลียมตบบ่าเธอเบาๆ แล้วทุกคนก็แยกย้ายกันไป ทิ้งผมไว้กับอีฟอยู่หน้าทีวีกัน 2 คน

     

                    ”โอ๊ย”

                    ผมร้องออกมาเบาๆ ขณะที่อีฟทำแผลตรงมุมปากให้ผม

                    “ขอโทษนะ ฉันจะพยายามเบามือก็แล้วกันนะ”เธอบอกพร้อมกับทำหน้ารู้สึกผิด

                    “อืมๆ”

                    ผมพยักหน้ารับเบาๆ ผมนั่งมองอีฟที่นั่งทำแผลให้ผม ตอนนี้หน้าเราห่างกันไม่กี่เซน ตาสีเขียวอมเทาที่มาพร้อมกับสายตามุ่งมั่นของเธอ ลมหายใจของเราที่ประสานกัน ทำให้ผมคิดถึงเรื่องจูบเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เรื่องนั่นทำให้ผมหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะเลย ส่วนตอนนี้ก็เหมือนกัน ผมหัวใจเต้นแรงมากๆ ความรู้สึกของผมที่มีต่อเธอ ไม่ใช่แค่พี่ชายห่วงน้องสาว แต่มันมากกว่านั้น ตั้งแต่ตอนที่ผมคุยเมลล์กับเธอวันแรกแล้ว เธอดูง่ายๆ มุ่งมั่น ซื่อสัตย์ และรักความสงบ ผมชอบที่จะนั่งคุยเมลล์กับเธอทั้งวันและทุกครั้งที่มีเวลาว่าง ใช่แล้วหละ ผมคือ Mr.C สาเหตุที่ผมให้เธอเรียกผมว่า Mr.C เพราะว่า ผมไม่อยากให้เธอรู้ว่าผมเป็นใคร และตัว C มาจากคำว่า Curly ซึ่งบอกลักษณะของผมได้ดี เพราะผมมีผมหยิกหยองคนเดียวในวง หวังว่าเธอคงยังไม่รู้นะ

                    “เอาหละ เสร็จแล้ว”

                    เสียงของอีฟปลุกผมให้ตื่นจากภวังค์ของผม

                    แล้วเธอก็เก็บอุปกรณ์ปฐมพยาบาลลงกล่อง แล้วก็ลุกขึ้นจะเอาไปเก็บ

                    “เดี๋ยว”ผมท้วงไว้

                    “อะไรหรอ”

                    “เธอเจ็บขาอยู่จะเดินไปได้ยังไง เอามาเถอะ เดี๋ยวฉันเก็บเอง”

                    เธอไม่เถียง แต่พยักหน้าโดยดี เธอยื่นกล่องปฐมพยาบาลให้ผม ผมเอาไปเก็บ

                    “ฉันไปนอนก่อนนะ”อีฟบอก

                    ยังไม่ทันที่เธอจะได้ก้าวไปไหน เธอก็ล้มลงอีกครั้ง แต่โชคดีที่เธอไม่ล้มทับแผล ไม่งั้นคงไม่พ้นฝีมือลูอีกแน่ๆ

                    ผมเข้าไปช้อนตัวเธอขึ้นมาจากพื้น

                    “เฮ้! นายจะทำอะไรน่ะ”เธอเริ่มโวย

                    “เธอเดินไม่ไหวหรอกนะ เดี๋ยวฉันไปส่งเธอที่ห้องเอง”

                    “แต่ฉันตัวหนักนะ”

                    “ขี่หลังเธอก็ขี่มาแล้ว แค่อุ้มเธอแค่นี้เองจะเป็นไรไป”

                    “เชอะ โอเคๆ ไม่เถียงละ”เธอยอมแพ้แต่โดยดี

                    พรึบ!

                “กรี๊ด!

                เธอเอาแขนมาโอบคอผมอย่างรวดเร็ว เพราะผมแกล้งเธอน่ะสิ ผมแกล้งกระตุกแขนผมเพื่อทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวจะหล่นกลางอากาศ

                    “นายทำอะไรของนายเนี่ย”อีฟพูดออกมา

                    “เสียวป่ะหละ”ผมถามกลับ

                    “โคตรน่ากลัวเลย ถ้าฉันตกลงไปจริงๆหละ”

                    “เธอไม่ตกหรอกน่า ตราบใดที่เธออยู่ในอ้อมแขนฉัน ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอร่วงแน่”

                    เราเงียบกันทั้งคู่ จนกระทั่งผมคิดได้ว่า บางทีผมอาจจะพูดเลี่ยนไป

                    ผมอุ้มเธอมาถึงห้องนอน แล้ววางเธอลงบนพื้นหน้าห้องของเธอ เพื่อให้เธอเดินเข้าไปเอง

                    “ขอบคุณนะ สำหรับเรื่องทุกอย่างในวันนี้”เธอบอกเบาๆ

                    “ไม่เป็นไรหรอก ทีหลังถ้ามีอะไรก็กดเบอร์ฉันได้นะ”

                    “โอเค ขอบคุณอีกครั้งนะ”

                    เธอยิ้มให้ผม พระเจ้า! หัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะอีกแล้ว ผมเลยยิ้มเบาๆให้เธอ แล้วก็เดินเข้าห้องของผมไป 

                                                                                                               


    ไรเตอร์มาแล้ววว

    วันนี้ไรเตอร์ไปดู Beautiful Cratures มา นางเอกน่ารักอ่ะ

    ใครไปดูมาบ้างแล้วขอเสียงหน่อย ฮิ้ววว!!


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×