คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4
Chapter 4
ระหว่างทาง
Wendy’s part
ฉันเหลือบมองคนที่เดินข้างๆฉันเล็กน้อย คิดถึงตอนที่พี่ชายฉันมาเล่าเรื่องการทำงานของเขากับ one direction ให้ฉันฟัง พี่ชายฉันเอาเพลงของพวกเขามาให้ฉันฟังแต่บังเอิญมีรูปติดมากับเพลงด้วย และคนแรกที่สะกดสายตาฉันให้จ้องอยู่ที่เค้าก็คือ เลียม เพย์น ฉันมักจะใจเต้นเร็วขึ้นเวลาเห็นหน้าเขา นัยน์ตาสีน้ำตาลที่มาพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูอบอุ่น ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนทำให้ฉันรู้สึกแบบที่เขาทำมาก่อนเลย
“จ้องผมไม่วางตาแบบนี้ผมก็ทำตัวไม่ถูกนะครับ”
สำเนียงอังกฤษของเขาที่มักจะพูดเร็วไปหน่อยแต่ตอนนี้ก็เริ่มพูดช้าลงบ้างแล้ว ทำให้ฉันหลุดจากห้วงความคิดของตัวเอง
“คะ?”
ฉันพูดออกมาเบาๆ แต่แล้วก็ต้องหลบสายตาเมื่อฉันเริ่มรู้สึกว่าตัวเองจ้องหน้าเขานานมากเลย เสียมารยาทจริงๆเลยฉัน
“เอ่อ...ขอโทษทีค่ะ”
“ฮ่าๆๆ ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมชินซะแล้วกับการถูกจ้องมอง”
ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเขาทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“ถึงแล้วหละค่ะ”
ฉันบอกแล้วเราก็หยุดที่หน้าบ้านของฉัน
“จะเข้าไปข้างในก่อนมั๊ยค่ะ”
ยังไม่ทันที่เลียมจะตอบ เสียงประตูหน้าบ้านฉันก็เปิดออกมาพร้อมกับร่างสูงของผู้ชายที่ฉันคุ้นตาอยู่ทุกๆวัน
“พี่ชาลี”
ฉันพึมพำชื่อเบาๆ
“อ้าว เลียม!”
“ชาลี!”
ต่างคนต่างอึ้งเมื่อเจอกัน ฉันเอามือลูบหน้าตัวเองเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าตัวเองจะเจออะไรบ้าง
“ทำไมถึงได้ไปเจอเลียม”
พี่ชายฉันยืนกอดอกถามฉันขึ้นอย่างเอาเรื่อง แต่ฉันก็ไม่กลัวเพราะฉันเจอมาบ่อยแล้ว ตามสเต็ปพี่ชายหวงน้องสาว พอหลังจากที่เลียมมาส่งฉัน พวกเขาก็ทักทายกันเล็กน้อยแล้วเลียมก็ขอตัวกลับก่อนเพราะเขาติดงานด่วน
ฉันถอนหายใจแล้วก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้พี่ชาลีฟัง
“เรื่องมันเป็นแบบนี้นี่เอง”
พี่ชาลีพึมพำเบาๆหลังจากที่ฉันเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
“ชอบเลียมมั๊ยหละ”
พี่ชาลีถามฉันอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่สายตาของเขาดูจริงจังมากเลย ฉันเลยเบือนหน้าหนีแล้วก็พูดออกมาเบาๆ
“ก็...ไม่รู้สิ เวนดี้รักใครไม่ได้หรอก คงไม่มีใครมารักคนที่กำลังจะตายอย่างเวนดี้”
พี่ชาลีจับหน้าฉันให้ไปเผชิญกับเขา นัยน์ตาสีเขียวของพี่ชาลีที่เหมือนกับฉันมองมาอย่างที่พี่ชายมองน้องสาวอย่างเป็นห่วงและเต็มไปด้วยความอบอุ่น
“อย่าพูดแบบนั้นสิเวนดี้ พี่ พ่อ และแม่จะทำทุกอย่างเพื่อให้เวนดี้มีชีวิตอยู่ ไม่ว่าจะแลกด้วยอะไรก็ตาม พวกเราสัญญา”
น้ำอุ่นๆไหลออกมาจากนัยน์ตาของฉัน ฉันรู้สึกดีที่พี่ชาลีบอกฉันแบบนั้นมาเสมอ แต่ฉันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวถ่วง พี่ชาลีลูบน้ำตาออกจากใบหน้าฉัน ก่อนจะลุกขึ้นแล้วก็ยิ้มออกมาเพื่อให้กำลังฉัน
“ป่ะ ไปกินข้าวกันเถอะ วันนี้พี่จะทำผัดพริกแกงสูตรแม่ให้กินกันนะ”
ฉันเดินตามพี่ชาลีไปที่ครัว นั่งมองพี่ชายฉันทำผัดพริงแกงที่แม่เคยสอนพวกเราให้ทำตั้งแต่ตอนอยู่ไทย
นี่สินะครอบครัว...
ไม่ว่าจะเจออะไรมา ก็ไม่มีทางทิ้งกัน....
เช้าวันต่อมา
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
ฉันเดินไปเปิดประตูอย่างรวดเร็วเพราะตอนนี้หิมะตกเดี๋ยวครูสอนโฮมสคูลฉันได้แข็งตายก่อน
เบื้องหน้าฉันคือผู้หญิงที่มีอายุพอๆกับพี่แอชลีย์ครูสอนโฮมสคูลของฉัน แต่เธอมีผมสีน้ำตาล นัยน์ตาสีน้ำตาล หุ่นดีเหมือนนางแบบเลยหละ
“สวัสดีจ้ะ”
เธอกล่าวขึ้นมาพร้อมกับยิ้มให้ฉัน
ฉันยิ้มตอบ
“สวัสดีค่ะ เข้ามาข้างในก่อนนะค่ะ อากาศหนาวมากเลย”
ฉันพูดแล้วก็หลีกทางให้เธอได้เข้ามาในบ้านที่อุ่นมากกว่าข้างนอก เธอแขวนเสื้อโค้ทไว้บนราวแขวนเสื้อโค้ทสำหรับแขกที่ต้องมีทุกบ้าน ฉันปิดประตูตามหลัง แล้วก็เดินนำเธอเข้าไปในห้องรับแขกที่มีโต๊ะสอนหนังสืออยู่ริมหน้าต่าง
“ชาหรือกาแฟดีค่ะ”
ฉันถามขึ้น
“ไม่หรอกจ้ะ พี่เพิ่งทานอาหารเช้ามา พี่อิ่มมากๆเลย”
ฉันยิ้มตอบเธอ พี่เค้าสุภาพจังเลย ฉันนั่งลงตรงข้ามแล้วก็พูดขึ้น
“เห็นว่าวันนี้พี่แอชลีย์มาไม่ได้ แล้วก็ให้พี่มาสอนแทน หนูชื่อ เวนดี้นะค่ะ”
ฉันยื่นมือไปเช็กแฮนด์กับพี่สาวคนสวยข้างหน้าฉัน
“พี่ชื่อ แดเนียลนะจ้ะ ยินดีที่ได้มาสอนจ้ะ”
พี่เค้าน่ารักมากเลย ฉันรู้สึกถูกชะตาอย่างบอกไม่ถูก
“จากที่แอชลีย์เล่ามา เวนดี้นี่เรียนดีนะ พี่ว่าเวนดี้คงได้ A ไม่ยากเลยหละ”
ฉันยิ้มอย่างเคอะเขิน ก็คนมันไม่เคยมีใครนอกจากครอบครัวชมนี่นา
แล้วเราก็เริ่มเรียนกันอย่างจริงๆจังๆ พี่แดเนียลสอนได้ดีมากพอๆกับพี่แอชลีย์เลยหละ และเธอก็สวยด้วยนะ
เวลาผ่านไปจนเลิกเรียน ฉันเลยถือโอกาสชวนพี่แดเนียลคุยเล็กน้อย เราเข้ากันได้ดีมากเลยหละ และฉันก็รู้สึกเหมือนเธอเป็นพี่สาวฉันอีกคนหนึ่งเลย
“พรุ่งนี้เจอกันนะจ้ะเวนดี้”
“เจอกันค่ะพี่แดเนียล เดินทางดีๆนะค่ะ”
“จ้ะ”
พี่แดเนียลหันมายิ้มให้ฉันแล้วก็เดินจากไป ฉันยิ้มอย่างดีใจที่วันนี้รู้สึกเหมือนได้พี่สาวอีกคน แล้วก็ปิดประตูบ้านตามหลัง
ความคิดเห็น