ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    1D: Moments (one direction fanfic)

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2

    • อัปเดตล่าสุด 23 เม.ย. 56


    Chapter 2     
     

                     ฉันเดินกลับรพ.มาด้วยหัวใจที่พองโตด้วยความสุขที่ได้เห็นรอยยิ้มของเลียม นานแค่ไหนแล้วนะที่ฉันไม่ได้รู้สึกแบบนี้ แต่แล้วความสุขของฉันก็แทนที่ด้วยความตกใจและช็อคเมื่อเห็นครอบครัวตัวเองมากันพร้อมหน้าพร้อมตากันทุกคนเลย ทั้งพ่อ แม่ และพี่ชาลี

                    “เวนดี้!

                แม่เดินเข้ามากอดฉันแน่น

                    “เอ่อ...มีอะไรกันหรือเปล่าค่ะ”

                    ฉันกลั้นใจถามออกไป ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่าตัวเองทำอะไรลงไป

                    “หายไปไหนมา ทุกคนเป็นห่วงมากเลยนะเวนดี้”

                    พ่อเดินมาถามฉันหลังจากที่แม่ผละกอดออกไปแล้ว

                    “เวนดี้ไปเอ่อ...ไปเดินเล่นมาค่ะแด๊ด”

                    ฉันตอบเบาๆ

                    “แล้วทำไมไม่บอก ออกไปโดยพละการแบบนี้คนอื่นเค้าก็ตกใจแย่สิ”

                    “แม่ขา...เวนดี้ขอโทษนะค่ะแม่”

                    ฉันกอดแม่เบาๆ

                    “ผมว่านะครับ เราให้เวนดี้ไปพักฟื้นที่บ้านดีมั๊ย ยังไงน้องก็อาการดีขึ้นมากแล้ว อีกอย่างเปลี่ยนบรรยากาศบ้างก็ดีนะครับ”

                    พี่ชาลีบอกพ่อกับแม่ พวกท่านก็พยักหน้ากับเบาๆ

                    “งั้นเอางี้ ก็ให้ลูกย้ายกลับไปอยู่บ้านเหมือนเดิมก็แล้วกัน ย้ายออกพรุ่งนี้ตอนเย็นๆละกันนะ”

                    พ่อบอกแล้วก็ยิ้มให้ฉัน เหมือนท่านดีใจมากที่ฉันจะได้กลับบ้านซะที

                    “ขอบคุณมากๆเลยค่ะแด๊ด”

                    ฉันกอดพ่อแน่นๆ

                    ในที่สุดก็จะได้กลับบ้านซักที

     

                    วันต่อมา

                    ฉันต้องอยู่รพ.อีก 7 ชม.กว่าจะได้ออก เฮ้อ...เบื่อจัง ออกไปเดินเล่นดีกว่า

                    ฉันเดินออกจากห้องตัวเองไปที่คอฟฟี่ช็อป ฉันซื้อเครื่องดื่มแล้วก็เดินหาที่นั่งแต่แล้วที่นั่งก็เต็ม อาจเพราะตอนนี้เป็นช่วงใกล้เที่ยง เลยทำให้คนเข้าออกรพ.ค่อนข้างน้อย เจ้าหน้าที่รวมถึงหมอคนอื่นๆเลยมานั่งพักกัน

                    “เอ่อ..ที่ตรงนี้ว่างนะค่ะ นั่งได้เลยค่ะ”

                    เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งเรียกฉันไว้ ฉันหันหลังไปก็เห็นหน้าผู้หญิงหน้าตาสวยมาก แต่ใส่ชุดหมอ ฉันนั่งลงตรงข้ามพี่หมอคนสวยคนนี้

                    “ขอบคุณนะค่ะ”

                    ฉันยิ้มแล้วก็บอกเธอ

                    “สวัสดีจ้ะ พี่ชื่อแอมเบอร์ลีย์”

                    “ชื่อเวนดี้ค่ะ”

                    ฉันยื่นมือไปเช็กแฮนด์ตอบ

                    “เป็นคนไข้ของที่นี่หรอจ้ะ ฉันจะถามทำไมเนี่ย ใส่ชุดแบบนี้ก็ต้องเป็นคนไข้ที่นี่สิ”

                    เธอพึมพำสองประโยคหลังเป็นภาษาแม่ของฉัน ฉันยิ้มออกมาแล้วก็พูดไทยกับเธอ

                    “พี่เป็นคนไทยหรอค่ะ”

                    “ใช่จ้ะ อ้าว น้องก็คนไทยเหมือนกันหรอ”

                    “ใช่ค่ะ เป็นลูกครึ่งน่ะค่ะ”

                    “พี่ก็ลูกครึ่งเหมือนกัน ถึงแม้ว่าพ่อกับแม่พี่จะเป็นลูกครึ่งทั้งคู่ก็เหอะ”

                    “ดีใจจังเลยค่ะที่เจอคนไทยด้วยกัน”

                    “พี่ก็ดีใจมากเหมือนกัน คิดถึงภาษาบ้านเกิดมากเลยหละ อ่อ เรียกพี่ว่า ฟ้า นะ”

                    “ค่ะพี่ฟ้า”

                    ฉันยิ้มตอบแล้วก็คุยกับพี่ฟ้าไปอีกนานเลย จนใกล้หมดเวลาพักของพี่ฟ้า เธอก็เลยขอตัวไปก่อน

     

                    ฉันเดินเหงาออกมาที่สวนหย่อมในรพ. ตอนนี้ภายในสวนหย่อมทีแค่ฉัน คนไข้อีก 2-3 คนที่ล้วนแล้วแต่เป็นคนแก่ ฉันเดินไปเรื่อยๆ จู่ๆฉันก็ได้ยินเสียงกีต้าร์ดังขึ้นมาเบาๆ เป็นจังหวะเพลงที่ฉันรู้จักดีเพราะฉันชอบและก็ฟังบ่อยๆ

                    ‘Going back to the corner

    where I first saw you

    Gonna camp in my sleeping bag

    I’m not gonna move…’

                เพลง The man who can’t be moved ของ The script ที่พี่ชาลีเอามาให้ฉันฟังในไอพอดจนเพลงนี้กลายเป็นเพลงโปรดของฉันไปแล้ว ตอนนี้กำลังร้องโดยผู้ชายคนหนึ่งที่ใส่หมวกแก๊ปอำพรางใบหน้า และก็ดีดกีต้าร์ฮัมเพลงสบายอารมณ์ราวกับว่านี่คือบ้านของเขางั้นแหละ

                    ฉันยืนฟังอย่างเสียมารยาท แต่มันก็เพราะจริงๆนี่นา เหมือนว่าเขาคงรู้ตัวว่ามีคนมามองเขา เขาเลยหยุดแล้วก็เงยหน้าขึ้นมา นัยน์ตาสีน้ำตาลคุ้นตาของเขาทำให้ฉันเผลอเรียกชื่อเขาออกมา

                    “เลียม...”

                    “อ้าว สวัสดีเวนดี้ ทำไมถึง...”

                    “เอ่อ....”

                    ฉันอ้ำอึ้ง ฉันไม่อยากให้ใครที่ฉันไม่คุ้นเคยมารู้ว่าฉันเป็นอะไร ฉันไม่ต้องการให้ใครมาสงสารหรือเห็นใจฉัน

                    “นั่งลงก่อนสิครับ แล้วค่อยเล่าก็ได้”

                    เขาขยับที่ให้ฉันนั่งข้างๆเขา ฉันนั่งลงแล้วก็เริ่มพูดออกมา

                    “ฉันเอ่อ...ฉัน...”

                    “ถ้าคุณไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไรนะครับ ผมไม่เซ้าซี้หรอก”

                    “จริงๆฉันก็ไม่ได้อะไรมากมายหรอกค่ะ แค่...เราไม่สนิทกันมากพอที่ฉันจะบอกเรื่องส่วนตัวของตัวเองให้ใครฟังเท่านั้นเอง”

                    ฉันรัวออกไปตามสมองสั่ง เลียมพยักหน้าเข้าใจ แล้วก็หันหน้าออกไปมองวิวที่อยู่เบื้องหน้าของเขา

                    ฉันรู้สึกแย่เล็กน้อยถึงปานกลางที่พูดแบบนั้นออกไป

                    “ฉันขอโทษนะค่ะที่พูดแบบนั้นออกไป..”

                    “ไม่เป็นไรหรอกครับ คนเรามักจะมีความลับที่ไม่อยากให้คนอื่นรู้ มันเป็นธรรมชาติน่ะ”

                    ฉันยิ้มออกมากับความคิดของเขา แล้วก็ตัดสินใจถามเขาว่ามาทำอะไร

                    “แล้วคุณหละค่ะ มาทำอะไรที่นี่”

                    “ผมเอาของมาให้เพื่อนน่ะครับ เธอทำงานที่แผนกเภสัช พอดีเธอลืมของไว้ที่บ้าน ผมก็เลยแวะเอามาให้แล้วก็รอรับซะเลย”

                    “อ่อ เธอคง...พิเศษสำหรับคุณมากเลยสินะค่ะ”

                    “สำหรับผม เธอก็พิเศษครับ เหมือนน้องสาวคนหนึ่ง”

                    ฉันพยักหน้าเข้าใจ

                    “เลียม! ไปกันเถอะ”

                    เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งที่เลียมเพิ่งพูดถึงเมื่อกี้ดังขึ้น

                    “ผมต้องไปแล้วนะครับ แล้วเจอกัน”

                    “เจอกันค่ะ”

                    แล้วเลียมก็เดินไปหาผู้หญิงที่เขาเพิ่งพูดถึง เธอสวยมากเลยหละ ผมบลอนด์ปนน้ำตาล นัยน์ตาสีเขียวเกือบเทา แต่ฉันไม่ค่อยคุ้นหน้าเลย สงสัยคงอยู่แผนกจ่ายยาละมั้ง

                     ฉันเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองอีกทีนึง เพื่อรอพี่ชาลีมารับกลับบ้าน


    __________________________________________

    ไรต์ขอโทษนะค่ะที่มาช้า

    เหนื่อยจากการเรียนมากๆเลย ไรต์ไม่ชอบเรียน Robot อ่าาาาาา


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×