คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : Special part
Special part
Wendy’s part
ถึงไทยแล้ว เย่.....!!!
อยากตะโกนดังๆสัก 10 รอบ หลังจากที่นั่งเมื่อยตูดมานานมากกกกกกกก
“โอ๊ยยยย ถึงซักที...เมื่อยชะมัดเลย”
ฉันบ่นเบาๆกับตัวเอง
“มาถึงก็บ่นเลยนะ ไม่คิดจะช่วยถือกระเป๋าหน่อยหรอ”
และแล้วฉันก็โดนบ่นจนได้ จะใครบ่นหละ ก็พี่ชาลีไง
“ไม่เป็นไรหรอกน่า ให้เวนดี้สนุกไปเถอะ ฉันขนได้”
เลียมพูดกับพี่ชาลีอย่างเข้าข้างฉัน ก็แหงหละ ถ้าเข้าข้างพี่ชาลีฉันงอนเขาแน่
“ช่ายยย เลียมพูดถูกที่สุด เอามาเถอะ เดี๋ยวเวนดี้ขนเอง”
ฉันพยายามจะเอากระเป๋าเดินทางของฉันมาจากเลียม แต่เขาก็ไม่ให้
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันขนได้จริงๆ”
เขายังยืนยันคำเดิม
“ตามใจ ถ้างั้นเวนดี้ถือกระเป๋าเลียมก็แล้วกัน”
ยังไม่ทันขาดคำ ฉันก็เอากระเป๋าของเลียมมาสะพายไว้เอง
ตอนนี้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางหมดแล้ว ฉันหายป่วย กลับมาลั้ลลาได้เหมือนเดิม ฉันกลับมาเรียนในรร.ตามปกติ และก็สามารถสอบเข้าในมหาวิทยาลัยชื่อดังของลอนดอนได้ ส่วนเรื่องเลียม เขาสนิทกับพ่อแม่ฉันมาก จนตอนนี้แม่ฉันรักเลียมมากกว่าฉันซะอีก และฉันก็สนิทกับครอบครัวเลียมด้วยนะ ฉันชอบครอบครัวของเลียมมากๆเลยหละ เป็นกันเองดี ส่วนพวกเพื่อนๆของเลียม ฉันหมายถึง พวกหนุ่มๆวง One direction ที่เหลือรวมถึงทีมงานคนสนิทอื่นๆ ฉันก็สนิทกับพวกเขามากเลยหละ รวมถึงแฟนสาวของพวกเขาด้วยนะ ฉันสนิทกับอีฟ รอนนี่และอิซซาเบลสุดๆเลย
“จันทร์เจ้าของแม่”
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าใครเรียกฉันแบบนี้ ก็แม่ฉันเองนั้นแหละ บางครั้งแม่ก็ชอบเรียกฉันว่า จันทร์เจ้า เพราะชื่อของฉันแปลว่า พระจันทร์
“แม่ขา...เวนดี้คิดถึงแม่จังเลย”
ฉันกอดแม่แน่นๆด้วยความคิดถึง
อ่อ ฉันลืมบอกไป ฉัน เลียม และพี่ชาลีมาไทยเพื่อมาเยี่ยมแม่ และพอดีว่าเลียมได้วันหยุดติดกันหลายวันพอดี ฉันก็เลยพาเขามาเที่ยวด้วยซะเลย
พวกเราทั้งสี่คน (รวมแม่ฉันด้วย) ขึ้นรถมุ่งหน้าไปที่บ้านเรา ซึ่งห่างจากร้านของแม่ประมาณเกือบ 5 กิโลได้
“เดี๋ยวเลียมนอนห้องเดียวกับชาลีนะลูก”
แม่ฉันบอกกับเลียมที่กำลังขนกระเป๋ากับชาลีอยู่
“ได้ครับผม”
“ส่วนจันทร์เจ้านอนห้องตัวเองไปเลย แม่บอกแม่บ้านให้ทำความสะอาดห้องไว้ให้ทุกคนเรียบร้อยแล้วหละ”
“ค่ะแม่”
ฉันรับคำแล้วก็ขนกระเป๋าไปที่ห้องตัวเองอย่างรวดเร็ว
ตุ้บ!
ฉันล้มตัวลงนอนบนเตียงขนาดควีนไซส์ในห้องของตัวเองทันทีที่ถึงห้อง ฉันคิดถึงบ้านนี้จังเลย อยากกลับมาอยู่ที่ไทยจัง ฉันหลับตาลงแล้วฉันก็หลับไป
2 วันต่อมา
แม่ พี่ชาลี ฉันและเลียมไปเที่ยวกันหลายที่มากๆ ฉันถามเลียมว่า สนุกมั๊ย เขาตอบว่า สนุกมากๆเลย อยากมาคอนเสิร์ตที่ไทยเร็วๆ
แฟนใครไม่รู้ ปากหวานจริงๆ
ตอนนี้เรามาขึ้นเขาภูกระดึง เพื่อพาเลียมมาชมวิวสวยๆ โชคดีที่เรามาหน้าหนาว ไม่งั้นถ้ามาหน้าร้อนคงได้รับแดดเต็มๆ แต่ยิ่งขึ้นก็ยิ่งเหนื่อย
“ขี่หลังมั๊ย”
เลียมหันมาถามฉันอย่างเป็นห่วง ฉันส่ายหน้าเบาๆเป็นเชิงว่า ฉันยังไหวอยู่
ฉันประทับใจมากที่เขาจับมือฉันไม่ยอมปล่อย เดินนำหน้าฉันด้วยหละ
‘ที่ฉันเดินนำหน้าเธอ เพราะฉันจะได้รู้ว่าหนทางข้างหน้ามันปลอดภัยสำหรับเธอหรือเปล่า ถ้ามันไม่ปลอดภัย ฉันจะได้พาเธอเลี่ยงไปทางอื่น หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ ฉันจะทำทุกวิธีที่จะไม่ทำให้เธอเจ็บตัว’
เขาบอกฉันแบบนั้น นั่นทำให้ฉันยิ้มแทบไม่หุบตลอดการเดินทาง
ในที่สุด เราก็พิชิตยอดภูกระดึงจนได้
เรามานั่งดูวิวที่หน้าผา ซึ่งวิวก็สวยมากเลยหละ
“หนาวชะมัดเลย”
ฉันบ่นเบาๆและกอดตัวเองเพื่อคลายความหนาว แต่จู่ๆก็รู้สึกว่ามีคนเอาอะไรมาคลุมไหล่ฉัน ฉันหันไปมอง
เลียมเอาผ้าพันคอที่เป็นผ้าคลุมไหล่ด้วยของเขามาคลุมไหล่ฉัน
“ไม่หนาวหรือไง”
ฉันถามกลับ
“ขอแค่เธออุ่นก็พอแล้ว”
เขายิ้มให้ฉันหลังพูดจบ
“บ้า”
ฉันพึมพำเบาๆ แล้วหันไปมองเบื้องหน้า
จู่ๆเลียมก็ขยับตัวมานั่งข้างหลัง และกอดฉันจากข้างหลังนั่นทำให้ฉันยิ่งอุ่นขึ้นมากไปอีก
“อุ่นขึ้นบ้างหรือยัง”
“อะ...อุ่นสิ”
ฉันตอบเขาเบาๆ รู้สึกว่าตัวเองหน้าแดง
“ฉันรักเธอนะ”
เลียมกระซิบข้างหูฉันเบาๆ ราวกับว่าอยากให้ฉันได้ยินคนเดียว
“ฉันก็รักนาย”
ฉันตอบไปและหอมแก้มเขาทีนึง
ท่ามกลางความหนาวของเขาสูง...
ท่ามกลางความอบอุ่นที่เขามอบให้ฉัน...
ท่ามกลางความรักของเรา...
_______________________________________________________________________________________
จบแล้วววววววววว
พอดีว่าไรต์ติดลม เลยลงต่อให้เลย
เดี๋ยวเรื่องต่อไป ไรต์จะเอาลิงก์มาแปะให้นะค่ะ
ความคิดเห็น