คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Chapter 13
Chapter 13
Liam’s part
ผมนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่โรงแรมในแอลเอ รอรถมารับไปขึ้นคอนเสิร์ตที่จะมีขึ้นในอีก 2 ชม.
“เลียม ไปกันเถอะ”
ไนออลมาสะกิดไหล่ผมเบาๆ
ผมพยักหน้าแล้วเดินตามไปขึ้นรถ ระหว่างทางเพื่อนผมแต่ละคนก็นั่งคุยโทรศัพท์กับแฟนตัวเองทั้งนั้น ส่วนผมก็ยังคงเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างรถเหมือนเดิม ฟังเพลงโปรดของเวนดี้ระหว่างที่การจราจรที่ค่อนข้างติดขัดเล็กน้อย
‘I know it makes no sense
But what else can I do
How can I move on
When I’m still in love with you…’
The man who can’t be moved เหตุการณ์ที่ทำให้เราเจอกันวันแรกทำให้ผมต้องยิ้มออกมา แต่ผมก็ร้องไห้ออกมาด้วย
ผมไม่ใช่คนที่ร้องไห้ง่าย แต่พอคิดถึงเธอทีไร น้ำตามันก็จะไหลออกมาทุกที...
คอนเสิร์ตดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง แฟนๆทุกคนทำให้พวกเราหายเหนื่อยขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นใบหน้าที่เปื้อนยิ้มของพวกเขา
ท่อนอินโทรของเพลงที่อยู่ในลิสต์ของเพลงที่เราอยากให้แฟนคลับฟังที่สุด 5 อันดับได้เริ่มขึ้น และเพลงนั้นเป็นเพลงที่ผมแนะนำไปเอง
เวนดี้...ไม่ว่าเธอจะล่องลอยอยู่ที่ไหนก็ตาม ขอให้เพลงนี้พาเธอกลับมาด้วยเถอะ
ผมท่องได้ใจเบาๆก่อนจะเริ่มร้อง
‘Shut the door
Turn the light off
I wanna be with you
I wanna feel your love
I wanna lay beside you
I cannot hide this
Even though I try’
ตอนนี้ผมรู้สึกได้ถึงก้อนอะไรสักอย่างที่จุกขึ้นมาในลำคอ ผมก้มหน้าลงเมื่อรู้ว่าน้ำตาของผมกำลังจะไหลในไม่ช้า
‘Heart beats harder
Time escapes me
Trembling hands
Touch skin
It makes this harder
And the tears stream down my face…’
ผมกลั้นน้ำตาต่อไปไม่ไหวแล้ว ความรู้สึกนี้มันท่วมท้นเกินกว่าจะเก็บไว้ข้างใน ผมรู้สึกได้ถึงกอดจากคนหลายๆคน ผมรู้สึกได้เลยว่าเพื่อนๆต้องเข้ามากอดผมแน่นอน ผมเลยร้องไห้ต่อไปอีกนิดหน่อย แล้วพวกเราก็กลับไปร้องเพลงต่อ
หลังจากคอนเสิร์ตในวันนั้นผมก็เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้เพื่อนๆฟัง ทุกคนก็เศร้าตามกับผมไปด้วย แต่อีฟก็บอกว่า อย่างน้อยเวนดี้ก็มีโอกาสรอดดีกว่าไม่มีเลย หลังจากนั้นเราก็ทัวร์คอนเสิร์ตต่ออีกนิดหน่อย แต่ผมก็เทียวไปลอนดอนอยู่บ่อยๆ ถึงมันจะเหนื่อยแต่ก็ยังคุ้มมากสำหรับผม
แต่ตอนนี้ทุกอย่างก็เริ่มลงตัวแล้ว ผมมาอยู่ลอนดอนได้บ่อยขึ้นแถมยังมีเวลาเหลือเฟืออยู่กับเวนดี้อีกต่างหาก
“เธอนี่ไม่เหนื่อยบ้างเลยหรอ หลับมาเกือบอาทิตย์แล้ว”
ผมพูดกับร่างที่นิ่งสนิทอยู่บนเตียง เธอไม่มีทีท่าว่าจะขยับส่วนใดของร่างกายเลย
“ถ้าเธอตื่นขึ้นมานะ ฉันจะพาเธอไปเที่ยวทุกที่ที่เธออยากไปเลย”
“...”
“ฉันจะพาเธอไปอิตาลี ไปกินพิซซ่า ไปหอเอนปิซ่า...”
“...”
“ฉันจะร้องเพลงให้เธอฟัง ฉันจะพาเธอไปดูดาว พาเธอไปพบครอบครัวฉัน...”
“...”
ความเงียบที่ปกคุลมห้องทำให้น้ำตาผมเริ่มไหล
“ฉันจะ...จะพาเธอไป...เจอพวกเพื่อนๆของฉัน พวกเขาต้อง...ต้องดีใจมากแน่ๆ ที่เห็นเธอ”
อนาคตที่เริ่มดูจะเลือนลางมันทำให้ผมร้องไห้หนักขึ้นไปอีก ผมก้มหน้าเช็ดน้ำตาตัวเอง
ติ๊ด..ติ๊ด..ติ๊ด..ติ๊ด..ติ๊ด...
เสียงสัญญาณชีพจรของเวนดี้เริ่มถี่ขึ้นเรื่อยๆ ผมเลยรีบไปเรียกหมอมาดู
“ญาติคนไข้รอข้างนอกก่อนนะค่ะ”
พยาบาลคนหนึ่งเชิญผมออกมา ผมเลยนั่งรอหน้าห้อง ในใจก็ภาวนาขอให้เวนดี้ปลอดภัยด้วยเถิด
1 ชม.ต่อมา
หมอเดินออกมาจากห้องแล้ว ผมรีบเข้าไปถามอย่างรวดเร็ว
“หมอครับ เวนดี้เป็นยังไงบ้างครับ”
หมอยิ้มให้ผมแล้วก็พูด
“เวนดี้ปลอดภัย 100% ตอนนี้เราสามารถย้ายเธอไปที่ห้องพักฟื้นได้แล้วหละค่ะ”
ผมยิ้มออกมาแล้วก็ขอบคุณหมออย่างรวดเร็ว
2 วันต่อมา
วันแล้ววันเล่า เธอก็ยังคงนอนอยู่เหมือนเดิม ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาเลย
“แน่ใจนะเลียม แม่เกรงใจจังเลย เลียมมาเฝ้าเวนดี้หลายวันแล้วนะ”
แม่เวนดี้พูดกับผม ตอนนี้ผมสนิทกับครอบครัวของเวนดี้เรียบร้อยแล้วหละ
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ แค่ได้อยู่ใกล้เธอ ผมก็หายเหนื่อยแล้วหละครับ”
ผมยิ้มและตอบไป แม่ของเวนดี้ยิ้มออกมาเล็กน้อยและถอนหายใจเบาๆ
“แม่รบกวนด้วยนะจ้ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าแม่จะมาเยี่ยมใหม่”
“ครับผม”
ผมปิดประตูตามหลังเมื่อแม่เวนดี้ออกไปจากห้องเรียบร้อยแล้ว ผมล้มตัวนอนลงบนโซฟา หลับตาลง
กลางดึก
ผมตื่นขึ้นมาเพราะฝัน ผมฝันว่าเวนดี้เดินเข้ามาหาผม เอามือทาบแก้มของผมแล้วก็บอกว่า ตื่นเถอะนะเลียม
“เฮ้อ...เป็นเอามากนะเนี่ยเรา”
ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ แล้วก็ลุกขึ้นไปนั่งข้างเตียงเวนดี้ ประสานมือของผมเข้าไปที่มือของเธอ แล้วนั่งมองหน้าเธอ
ผมอยากให้เธอตื่นมาเร็วๆจัง...
อยากให้เธอเรียกชื่อผม...
“เลียม...”
เสียงคุ้นหูของคนที่ผมเฝ้ารอให้ตื่นขึ้นมาดังขึ้น
ผมเบิกตากว้างและยิ้มออกมาทันที
“เลียม...”
เวนดี้เรียกชื่อผม ขณะที่เปลือกตาของเธอค่อยๆเปิดขึ้นมา
“ฉะ...ฉันอยู่นี่แล้ว”
ผมลุกขึ้นแล้วก้มลงมองหน้าเธอ
“เลียม...”
เธอเปิดตาเต็มตาแล้ว ริมฝีปากของเธอค่อยๆคลี่ยิ้มออกมา
“เธอกลับมาแล้ว”
ผมโน้มหน้าลงไปจูบบนริมฝีปากของเธอด้วยความคิดถึง เธอจูบผมตอบ
ถึงเธอจะเป็นเหตุผลของน้ำตาของผมมาหลายครั้ง...
แต่เธอก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมยิ้มเหมือนกัน...
___________________________________________________________________________________________
ไรต์มาเพิ่มชื่อบทให้แล้วนะค่ะ
และแถมบทนี้ให้ด้วย :)
ความคิดเห็น