คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 10
Chapter 10
ฉันลืมตาขึ้นมาในห้องสีขาวที่ฉันค่อนข้างคุ้นเคยดี ฉันกวาดตาไปรอบห้องแต่ก็ไม่เห็นใครเลย
แต่แล้วประตูห้องก็เปิดขึ้น
ฉันหวังว่าจะเป็นเลียม แต่ไม่ใช่ นั่นพี่ชาลีต่างหาก
“เวนดี้”
พี่ชาลีเรียกชื่อฉันและเดินมาลูบหัวฉันเบาๆ
ฉันสอดสายตามองหาเลียม หวังว่าเขาจะอยู่ที่นี่ แต่เปล่าเลย เขาไม่ได้อยู่ที่นี่
“มองหาเลียมหรอ เขาเพิ่งกลับไปเมื่อกี้นี่เอง เขาบอกว่า เวนดี้คงไม่อยากเห็นหน้าเขาเวลาเวนดี้ตื่น”
“มัน...ไม่ใช่อย่างนั้น”
ฉันพึมพำเบาๆในลำคอ
“มีอะไรเล่าให้พี่ฟังได้นะ”
พี่ชาลีมองหน้าฉันด้วยความเป็นห่วง ฉันกำลังอ้าปากจะเล่า แต่กลับมีคนมาเคาะประตูซะก่อน
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
ปรากฏว่าคนที่เข้ามาก็คือหมอนั่นเอง
“พี่ฟ้า”
ฉันพึมพำชื่อหมอเบาๆ
“อ้าว เวนดี้”
พี่ฟ้าดูจะตกใจเล็กน้อย
“ถึงว่าหละชื่อคุ้นๆ”
เธอยิ้มและพูดกับฉัน
แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ในห้องไม่ได้มีแค่เรา 2 คน ฉันเพิ่งคิดได้ว่าพี่ชาลีก็อยู่ด้วย ฉันเลยแนะนำพี่ฟ้ากับพี่ชาลีให้รู้จักกัน หลังจากที่คุยกันเสร็จแล้ว พี่ฟ้าก็ตรวจและบอกอาการทีเดียวเลย
“สาเหตุที่โรคกำเริบนั่นก็เพราะว่า ไม่กินยาที่หมอให้ เดาๆดูแล้วน่าจะเป็นเวลาราวๆ 3 วันที่ไม่ได้กินยา เลยส่งผลให้ปอดเริ่มทำงานหนัก ยังไงพี่ก็ขอดูอาการก่อนนะ ยังกลับบ้านไม่ได้ภายในอาทิตย์นี้”
ฉันทำหน้าเศร้าเล็กน้อยแต่ก็ทำใจยอมรับแล้วหละ
“เอาน่า เดี๋ยวเลิกงานแล้วพี่จะมาบ่อยๆนะจ้ะ”
พี่ฟ้าจับไหล่ฉันเบาๆ นั่นทำให้ฉันรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาบ้าง
“ขอบคุณนะค่ะพี่ฟ้า”
“ด้วยความยินดีจ้ะ”
แล้วพี่ฟ้าก็เดินออกไป
เช้าวันต่อมา
วันนี้ก็เป็นเหมือนทุกๆวันที่ฉันมาอยู่รพ.ทุกครั้ง เรียนโฮมสคูลเสร็จก็กินยาและก็นอนต่อ พอตกเย็นพี่ชาลีกับพ่อก็มาอยู่ด้วย
แต่วันนี้มันแตกต่างจากวันอื่น เพราะว่า
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“เข้ามาได้ค่ะ”
ฉันตะโกนตอบไป เพราะฉันอยู่ห้องคนเดียวเลยไม่สามารถไปเปิดประตูให้แขกได้
ใบหน้าคุ้นเคยของผู้หญิงคนหนึ่งที่ฉันชอบคุยกับเธอมาก
“พี่แดเนียล”
ฉันพึมพำชื่อของผู้มาเยือนเบาๆ
“สวัสดีจ้ะเวนดี้ เห็นแอชลีย์บอกว่าเวนดี้เข้ารพ.พี่ก็เลยมาเยี่ยมน่ะจ้ะ”
พี่แดเนียลวางตระกร้าผลไม้ที่จัดไว้อย่างดีบนโต๊ะข้างทีวี แล้วก็เดินมานั่งข้างเตียง
“อาการเป็นยังไงบ้างจ้ะ”
“ก็ดีขึ้นแล้วค่ะ แต่หมอยังไม่ให้กลับบ้าน”
“หายไวๆนะจ้ะ”
พี่แดเนียลพูดพร้อมกับลูบหัวฉันไปด้วย
“ช่วงนี้เลียมดูเศร้าๆนะ จากที่เจอกันครั้งล่าสุดที่บริษัทเมื่อวาน”
ฉันทำหน้างงๆ พี่แดเนียลเลยอธิบายต่อ
“พอพี่เข้าไปคุย น้ำเสียงก็เหมือนคนที่ไม่ได้นอนมาเลย เหมือนคนมีเรื่องที่ต้องคิด”
“เขาคงเครียดจากการทำงานน่ะค่ะ คงไม่มีอะไรหรอกค่ะ”
ฉันพยายามปลอบใจตัวเอง
“พี่ว่าเรื่องงานคงไม่ใช่สาเหตุหรอก พี่ว่า น่าจะเป็นเรื่องของเวนดี้มากกว่า”
“เอ๋?”
“เลียมเล่าให้พี่ฟังว่า เวนดี้โรคกำเริบ เขาห่วงมาก แต่พออยากจะมาเยี่ยมทีไร ก็กลัวว่าเธอจะโกรธเขา ก็ไม่รู้ว่าเธอจะโกรธเขาทำไม แต่พี่ก็ไม่ได้ถามอะไรมากหรอก พี่ก็รับฟังเขาและให้กำลังใจเหมือนเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้นเอง”
ฉันก้มหน้าลงอย่างคนรู้สึกผิด แล้วก็พูดขึ้นมาเบาๆ
“ก่อนที่เวนดี้จะโรคกำเริบ เราทะเลาะกันนิดหน่อยน่ะค่ะ เวนดี้แค่คิดว่า เขาไม่เหมาะกับคนขี้โรคอย่างเวนดี้น่ะค่ะ”
“ทำไมพูดอย่างนั้นหละจ้ะเวนดี้ ไม่มีอะไรมากำหนดเรื่องความเหมาะสมของคนเราได้หรอกนะ อีกอย่าง เลียมเค้ารักเวนดี้มากเลยนะ”
ฉันเงยหน้ามองพี่แดเนียล
“แต่เวนดี้จะตายวันตายพรุ่งหรือเปล่าก็ไม่รู้ เวนดี้แค่ไม่อยากให้เลียมมาจมปลักกับคนอย่างเวนดี้”
“อย่าคิดอย่างนั้นสิเวนดี้ ยิ่งเธอผลักไสเลียมมากเท่าไหร่ เธอก็จะไม่มีความสุขนะ และเลียมก็เหมือนกัน”
“...”
ฉันเงียบ
นั่นสินะ ทำไมฉันไม่คิดเลยว่าเขารักฉันมากขนาดไหน
พี่แดเนียลลุกขึ้นและก็วางมือบนไหล่ฉัน ก่อนที่เธอจะไปเธอบอกฉันว่า
“และถ้าเวนดี้กำลังคิดว่าเลียมแค่เห็นใจ คงไม่ใช่หรอก พี่ยืนยันได้ว่าเขารักเธอมาก ไม่งั้นเขาคงไม่ยอมเสียเงินตั้งเกือบ 5 หมื่นปอนด์ เพื่อแบ่งเบาปัญหาของครอบครัวๆหนึ่งและยื้อชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งหรอกนะ”
“!!!”
__________________________________________
ขอโทษนะค่ะ ที่ไรต์อาจจะมาช้าบ้าง
พอดีไรต์เปิดเทอมแล้ว แถมครูก็พากันสั่งการบ้านอีก
ไรต์หละเซ็งเลย
ความคิดเห็น