คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 9
Chapter 9
ถ้าถามฉันว่า ฉันรู้สึกแย่มั๊ยที่ฉันไล่เลียมไปทั้งๆที่เค้าอุตส่าห์ฝ่าฝนมาหาฉัน
ฉันตอบได้เต็มปากเลยว่า ฉันรู้สึกแย่มาก
“เวนดี้”
เสียงของพี่แดเนียลปลุกฉันออกจากห้วงความคิดของตัวเอง ตอนนี้ฉันกับพี่แดเนียลมานั่งเรียนกันที่ร้านกาแฟเปิดใหม่แถวบ้านฉัน ความสัมพันธ์ของฉันกับพี่แดเนียลยังคงเหมือนเดิม นั่นเพราะว่าฉันไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับเลียมไงหละ
“ว่าไงค่ะพี่แดเนียล”
“เป็นอะไรหรือเปล่า วันนี้ดูเหม่อๆไปนะ หยุดเรียนก่อนดีมั๊ย”
“ก็ดีค่ะ มันใกล้จะหมดเวลาแล้วด้วย”
ฉันเก็บหนังสือเข้ากระเป๋าตัวเองแล้วก็นั่งกินโกโก้ร้อนที่เพิ่งสั่งมา
“มีอะไรจะถามพี่หรือเปล่า”
พี่แดเนียลมองฉันอย่างไม่ละสายตา มีคำถามมากมายที่เกิดขึ้นมาในหัวฉัน ฉันถอนหายใจเบาๆ แล้วก็ถามขึ้น
“พี่กับเลียม เคยคบกันหรอค่ะ”
ฉันถามออกไปเบาๆ ฉันเบื่อที่ตัวเองไม่รู้อะไรสักอย่าง เพราะการอยู่รพ.มานานทำให้ฉันไม่ค่อยได้รู้ข่าวอะไรเท่าไหร่ ฉันเลยไม่เคยรู้มาก่อนว่าพี่แดเนียลเคยคบกับเลียมมาก่อน
“ใช่จ้ะ”
“แล้วพี่...จะกลับไปคบกับเลียมมั๊ยค่ะ”
ฉันรีบตบปากตัวเองเบาๆเมื่อรู้ว่าไม่ควรถามแบบนั้นออกไป
“คงเพราะข่าวนั้นสินะ”
พี่แดเนียลยิ้มเบาๆมาที่ฉัน สายตาของพี่แดนียลทำให้ฉันรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เหมือนเธอไม่รู้สีกอะไรกับข่าวนี่เลย
“พี่ขอบอกตามตรงเลยนะ พี่ไม่กลับไปคบกับเลียมแล้วหละ ไม่ใช่เพราะพี่ไม่รู้สึกอะไรกับเขาอีก พี่ยอมรับว่าพี่ยังคงรู้สึกดีกับเขาอยุ่ แต่มันคงไม่มากเท่าตอนที่เราคบกัน และอีกอย่าง พี่ไม่สามารถไปดึงเขาออกมาได้ในขณะที่เขายังมีความรักให้กับใครสักคนอยู่ และคนๆนั้นก็ไม่ใช่พี่”
“...”
“แต่เป็นเธอต่างหาก เวนดี้”
“!!!”
‘เลียมรักเธอมากเลยนะ ตอนที่เราเจอกันตอนนั้น เขาคุยเรื่องเธอไม่หยุดเลยหละ และเขาก็มักจะยิ้มทุกทีที่เขาพูดถึงเธอ พี่บอกได้เลยว่าไม่เคยมีใครทำให้เขาเป็นแบบนี้มาก่อน แม้แต่ตัวพี่เองก็เถอะ’
เสียงพี่แดเนียลยังคงก้องอยู่ในหัวของฉัน ทำให้ฉันรู้สึกมั่นใจขึ้นมากว่าเลียมรักฉัน
แต่รู้อะไรมั๊ย ต่อให้พี่แดเนียลไม่พูดออกมา ฉันก็คิดจะเลิกกับเลียมอยู่แล้วหละ
เพราะอะไรน่ะหรอ
เพราะฉันป่วยไงหละ และฉันก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นจะตายตอนไหน
มันคงจะดีถ้าเราเลิกกันไปเลย เขาจะได้ไม่จมปลักกับคนอย่างฉัน
ฉันไม่อยากให้เขาเสียใจ
เขามันบ้าที่รักผู้หญิงที่กำลังจะตายอย่างฉัน....
หลังจากที่ฉันตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว ฉันก็นัดแนะสถานที่และเวลาให้เลียมมาเจอฉัน
ฉันยืนรอเขาอยู่ใต้ต้นไม้ที่เราเจอกันครั้งแรก ที่สวนสาธารณะที่เรามักจะเจอกันเสมอ
“เวนดี้”
เสียงของเลียมเรียกให้ฉันหันไปเผชิญหน้ากับเขา ฉันปั้นหน้าให้นิ่งที่สุด ทั้งๆที่ในใจอยากจะร้องไห้ออกมาเต็มที
“มีอะไรหรือเปล่า”
เขาถามฉันหลังจากที่เห็นสีหน้าของฉัน
“ออกไปจากชีวิตฉันซะเถอะเลียม”
ฉันพูดออกมาอย่างไม่รีรออะไรทั้งนั้น
“ทำไม”
เขาถามขึ้นหลังจากที่อึ้งมานาน
อย่าถามฉันเลยว่าทำไม
เพราะฉันเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน...
“เพราะฉันไม่คู่ควรกับนายไงเลียม”
สายตาตัดพ้อของเลียมมองมาที่ฉัน นัยน์ตาสีน้ำตาลที่ฉันชอบมอง ตอนนี้เริ่มมีน้ำตาคลอ
“อะไรทำให้เธอคิดแบบนั้น”
ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ แต่น้ำตาก็ไหลออกมาจนได้
“นายเป็นนักร้องดังระดับโลก นายมีผู้หญิงล้อมหน้าล้อมหลังนายมากมาย ส่วนฉัน ฉันเป็นแค่ยัยขี้โรคที่ทำให้ครอบครัวตัวเองเดือดร้อน และฉันไม่คู่ควรกับนายนะเลียม คงจะดีกว่าถ้านายไปจากชีวิตฉันซะ”
“อย่าพูดแบบนั้นสิ ไม่มีอะไรสามารถตัดสินเราได้หรอกนะ ขอร้องหละ อย่าไล่ฉันออกไปจากชีวิตเธอเลยนะเวนดี้”
เลียมเข้ามากอดฉัน ฉันรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของเขา ฉันอยากอยู่อย่างนี้นานๆ
พลั่ก!
ฉันรวบรวมแรงของตัวเองผลักเลียมออกไป จนเขาเซไปข้างหลัง
“นายมันบ้าไปแล้ว เลียม เพย์น! นายมันบ้าที่รักผู้หญิงที่กำลังจะตายอย่างฉัน!”
ฉันตะคอกใส่เขาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะวิ่งกลับบ้านทั้งๆที่น้ำตายังนองหน้า
เมื่อถึงบ้านตัวเองฉันก็ล็อกประตู ทรุดตัวลงนั่งทั้งน้ำตา และร้องไห้ออกมาอย่างหนัก
Tryna scream out my lungs
And make this harder
And the tears stream down my face…
ฉันเช็ดคราบน้ำตาตัวเองออกหลังจากที่ร้องไห้มาอย่างหนัก ฉันค่อยๆลุกแล้วก็เดินไปที่ห้องรับแขก ทั้งตัวลงนอนบนโซฟา
จู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีคนเอามือมาบีบหลอดลม รู้สึกว่าตัวเองหายใจไม่ออก
ฉันยื่นมือไปหยิบยาในกระเป๋า แต่มันก็ไม่มี จนฉันคิดได้ว่า ฉันเอามันไว้ในห้องนอนตัวเอง
“ช่วยด้วย...”
ฉันพูดออกมาอย่างยากลำบาก ทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีใครมาได้ยินฉันแน่ๆ
ฉันเอื้อมหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกง กดโทรหาพี่ชาลี รอสายตั้งนานแต่ก็ไม่มีใครรับ ฉันกดโทรหาพ่อ แต่ก็ไม่มีใครรับเหมือนกัน
ฉันเลยตัดสินใจกดเบอร์สุดท้ายที่อยู่ในลิสต์เบอร์ที่โปรดที่สุดของฉัน
‘เลียม’
ฉันกดโทรไป รอสายตั้งนานแต่ในที่สุดก็มีคนรับ
(ฮัลโหล)
น้ำเสียงเย็นชาของเขาพูดขึ้นมา ฉันยิ้มออกมาด้วยความดีใจ แต่อาการหายใจไม่ออกก็บีบเน้นเข้ามาเรื่อยๆ
“ฉัน...”
ตุ้บบ!
สติฉันขาดหายไปพร้อมกับโทรศัพท์ที่หล่นลงพื้น
ความคิดเห็น