ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    1D: Still the one (One direction fanfic)

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 6

    • อัปเดตล่าสุด 14 มิ.ย. 56


    Chapter 6
     

                5 วันต่อมากับการอยู่กับลูอิส ส่วนมากเราทะเลาะกันบ่อยมาก และจบลงด้วยการที่ฉันปิดประตูใส่หน้าเขา หรือไม่ก็เดินออกมาจากเขาทั้งน้ำตา

                    “เฮ้อ...”

                    ฉันถอนหายใจออกมาแรงๆ จนอีฟกับโจอี้ต้องถามออกมาอย่างสงสัย

                    “มีอะไรหรือเปล่าแอมเบอร์”

                    อีฟถามฉันด้วยความเป็นห่วง

                    อีฟทำงานในแผนกเภสัช ที่ต้องอยู่ในห้องจัดยาตลอดทั้งวัน แต่ถ้าเวลาพักเที่ยงแบบนี้ เธอก็จะมานั่งกินข้าวกับฉันและโจอี้ ฉันรู้มาว่า อีฟเป็นแฟนแฮร์รี่ สไตลส์ ที่อยู่วง One direction และก็สนิทโคตรๆกับลูอิส

                    “ไม่มีอะไรหรอก แค่ง่วงนอนหน่ะ”

                    ฉันงัดไม้เด็ดออกมา และมันจะเป็นเหตุผลให้ใครหลายคนไม่สงสัย

                    “ไหวหรือเปล่า วันนี้ต้องเข้าเวรรอบค่ำอีกนะ”

                    โจอี้เตือนความจำฉัน ฉันพยักหน้าว่ารู้

                    “ไม่ไหวก็ต้องไหวแหละ ไม่ต้องห่วงหรอก บางทีกาแฟสักแก้วคงทำให้ฉันดีขึ้น อ่อ ฉันไปก่อนนะ ต้องไปตรวจคนไข้น่ะ”

                    ฉันตัดบททุกคนและเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

                    นี่ฉันเป็นเอามากแล้วนะเนี่ย

     

                ตี 1

                    ฉันมาถึงอพาร์ทเมนต์ด้วยความเหนื่อยและเพลียสุดๆ พรุ่งนี้จะตื่นให้สายเลยคอยดู ฉันไขกุญแจห้องเข้าไปและล็อกตามหลัง  พอเดินผ่านห้องรับแขก ฉันก็มองเห็นร่างสูงนอนดูหนังอยู่บนโซฟา

                    “กลับดึกจัง”

                    ลูอิสพูดทั้งๆที่ตายังมองทีวีอยู่

                    “วันนี้ฉันเข้าเวรน่ะ และก็แวะไปเยี่ยมทรอยด้วย”

                     พอฉันพูดด้วยน้ำเสียงเหนือยๆ เดินเข้าครัวไปกินน้ำ และจังหวะที่ฉันกำลังจะเดินเข้าห้อง จู่ๆลูอิสก็พูดขึ้นมา

                    “พรุ่งนี้ฉันจะพาเธอไปเจอเพื่อนๆและก็แอลนะ”

                    ฉันชะงักเมื่อได้ยินลูอิสพูดถึงแฟนสาวของเขา

                    “นายไม่จะเป็นต้องพาฉันไปหรอก ฉันคงเป็นก้างขวางคอเปล่าๆ”

                    “ก็เพื่อนๆฉันอยากเจอเธอ ฉันเลยต้องพาไปตามคำเรียกร้องของเจ้าพวกนั่น”

                    ฉันคิดหนัก

                    “ฉันไปก็ได้”

                    ฉันพยักหน้าตอบเขาไปหลังจากคิดหนักเล็กน้อย

                    เอาวะ อย่างน้อยก็มีอีฟกับเวนดี้ หวังว่าพวกเพื่อนๆที่เหลือของลูอิสจะพาแฟนของพวกเค้ามาด้วยนะ

                   

                    วันต่อมา

                    ลูอิสเคยบอกฉันว่า เขาเล่าเรื่องฉันกับเพื่อนๆของเขา พวกเขาก็เข้าใจเรื่องการหมั้นของเรา และสัญญากันว่าจะปิดเรื่องนี้เป็นความลับ และโดยเฉพาะแอลเลนเนอร์ แฟนของเขายิ่งรู้ไม่ได้ใหญ่

                    ลูอิสเลี้ยวรถเข้ามาจอดในบริเวณบ้านหลังใหญ่และหรูมาก นี่คงเป็นบ้านพักของพวกเขาสินะ

                    “มาพอดีเลยลู อ้าว สวัสดีแอมเบอร์”

                    อีฟที่เหมือนว่าเพิ่งเห็นฉันก็เข้ามากอดทักทายฉันตามธรรมเนีนม อีฟเดินเข้ามาช่วยฉันขนของกินและก็เดินนำฉันไปที่ครัว ภายในครัวมีแต่ผู้หญิงที่มาช่วยกันจัดจานและทำอาหาร

                    “สวัสดีค่ะพี่ฟ้า”

                    เวนดี้ทักฉันเป็นภาษาไทยและยกมือไหว้ฉัน ทำให้ทุกคนในครัวสงสัยกันใหญ่เลยว่าเวนดี้พูดอะไร และเธอทำอะไร

                    “สวัสดีจ้ะเวนดี้ ไม่ต้องไหว้ก็ได้นะ ทุกคนสงสัยกันหมดแล้ว”

                    ฉันตอบกลับเป็นภาษาไทยเช่นกัน เรายิ้มให้กันและก็เปลี่ยนโหมดเป็นภาษาอังกฤษทันที

                    “เอ่อ...พอดีมันเป็นการทักทายในไทยน่ะค่ะ”

                    เวนดี้อธิบายให้ทุกคนฟัง ทุกคนก็พยักหน้าเข้าใจ

                    “อ่อ เข้าใจละ เออนี่ ลืมไปเลย ทุกคนนี่คือหมอแอมเบอร์ เพื่อนที่รพ.ของฉัน และก็เคยรักษาเวนดี้ด้วย”

                    ทุกคนยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร ฉันยิ้มและแนะนำตัว

                    “เรียกฉันว่า แอมเบอร์นะค่ะ”

                    ฉันยิ้มและแนะนำตัวกับทุกคนไป

                    “นี่คือ รอนนี่ แฟนไนออล”

                    อีฟแนะนำฉันกับผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าตาสวยมากๆ นัยน์ตาสีเขียวและผมสีน้ำตาลอ่อน

                    “และนี่ก็คือ อิซซาเบล แฟนเซนและก็เพื่อนสนิทของฉันที่เคยเล่าให้ฟัง”

                    อีฟผายมือไปที่ผู้หญิงที่ยิ้มสวย นัยน์ตาสีฟ้าและผมสีน้ำตาลอ่อน ฉันชอบเธอคนนี้จังเลย สวยและน่ารักในเวลาเดียวกัน ไม่น่าหละ เซน มาลิคถึงได้ยอมมอบใจให้เธอคนนี้ อีฟเคยเล่าเรื่องอิซซาเบลให้ฉันฟังบ่อยๆ

                    “และคนนี้ก็คือ แอลเลนเนอร์ เอ่อ... แฟนลูอิส”

                    คำว่า แฟนลูอิส ทิ่มมาที่ใจของฉันอย่างจัง และยิ่งมองไปที่ใบหน้าสวยของผู้หญิงผมสีน้ำตาลเข้ม นัยน์ตาสีน้ำตาลและรอยยิ้มที่น่ารักของเธอ ทำให้ฉันรู้เลยว่า ฉันเทียบอะไรไม่ได้กับผู้หญิงคนนี้ได้เลย

                    “คุณน่ารักจังเลย”

                    ฉันเอ่ยชมแอลเลนเนอร์ออกมา ทำให้เธอเขินออกมาเล็กน้อย

                    “ขอบคุณนะ เธอก็...เก่งเหมือนกัน เวนดี้กับอีฟเล่าเรื่องเธอให้ฉันฟังเยอะมากเลยหละ”

                    ฉันยิ้มรับคำชมนั่นออกมา เหมือนว่าแอลเลนเนอร์จะสังเกตเห็นแหวนที่อยู่บนนิ้วนางข้างซ้ายของฉัน

                    ให้ตาย ฉันถอดแหวนไม่ออก นี่แหละคือเหตุผลที่ทำให้แอลเลนเนอร์สงสัย

                    “แหวนเธอดู...คุ้นๆจังนะ เหมือนฉันเคยเห็นที่ไหนมาก่อน”

                    “อ่อ เอ่อ...”

                    จะตอบยังไงดีเนี่ย

                    “แต่มันก็สวยดีนะ เข้ากับเธอดี”

                    ใบหน้าสวยของแอลเลนเนอร์ยังคงยิ้มให้ฉัน ฉันยิ้มเจื่อนๆตอบไป

                    เหมือนว่าสถานการณ์เริ่มจะมาคุขึ้น อิซซาเบลเลยพูดขึ้นมา

                    “รอนนี่ พาสต้าหอมจังเลย ฉันว่าได้เวลาจัดจานแล้วหละนะ”

                    “อ่อ ใช่ๆ”

                    รอนนี่ทำหน้าเหลอหลาเล็กน้อย และความสนใจทั้งหมดมันก็ไปอยู่ที่พาสต้าทันที

                    “ให้ฉันช่วยจัดโต๊ะนะ”

                    ฉันเดินเข้าไปรับจานจากมือของอิซซาเบล

                    “ขอบคุณนะ”

                    ฉันบอกเธอเบาๆ

                    “ยินดีช่วยจ้ะ”

                    เธอตอบเบาๆ

                    ฉันหละอิจฉาเซนจริงๆเลยที่มีแฟนสวยและน่ารักขนาดนี้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×