คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1
Chapter 1
Niall’s part
ผมขับรถกลับจากปาร์ตี้สังสรรค์ที่บรรดาเพื่อนเก่าจัดขึ้น ผมเพิ่งมาถึงไอร์แลนด์มาประมาณเกือบ 2 วันแล้ว ผมกลับมาเยี่ยมแม่และพ่อ และก็พวกเพื่อนๆด้วย
ผมขับรถค่อนข้างเร็ว เพราะผมอยากถึงบ้านไวๆ แต่แล้วจู่ๆ อะไรไม่รู้ก็มาขวางหน้ารถผม ผมเหยียบเบรคทันที
เอี๊ยดดด!
เบื้องหน้าคือ หญิงสาวผมน้ำตาลอ่อน เสื้อไหมพรมแขนยาวสีดำ และกางเกงขาสั้นเลยเข่าคืบหนึ่ง ใบหน้ามีรอยตบ มุมปากมีเลือดไหล ที่หัวมีรอยเลือดแห้งๆ
ผมชักจะกลัวเธอแล้วสิ
แล้วเธอก็เป็นลมไป
“เฮ้ย อะไรวะเนี่ย”ผมพูดขึ้นเบาๆ
ผมเดินลงจากรถแล้วไปดูร่างที่ไร้สติของเธอ
“พระเจ้าเอ๊ย”
ผมสบถอีกครั้งแล้วก็อุ้มเธอขึ้นรถไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
“คนไข้คงตกใจมาก ให้เธอพักผ่อน อีกสัก 2-3 วันก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วนะครับ อ่อ คุณฮอแรนช่วยไปดูนี่ด้วยนะครับ”คุณหมออัลเบิร์ตเรียกผมไปพบขณะที่คุณพยาบาลก็ให้น้ำเกลือเธอ
“มีอะไรครับหมอ”ผมถามขึ้น หลังจากที่เรามาอยู่ที่ห้องของหมอเรียบร้อยแล้ว
“คนไข้ได้ถูกกระทบกระเทือนที่สมอง อาจทำให้ความจำบางส่วนหายไปหรือหายไปทั้งหมดเลย...”
“หมายความว่า เธอจะความจำเสื่อมหรอครับ”
“อาจจะใช่ครับ แต่ต้องรอดูอาการอีกทีนะครับ ร่างกายของคนไข้ไม่มีร่องรอยการข่มขืน มีแต่ร่องรอยบาดเจ็บนะครับ”
“แล้วด้านจิตใจ..”
“เรื่องนั้นต้องดูอาการอีกทีครับ มีอะไรอีกมั๊ยครับ”
“ไม่มีแล้วครับ ขอบคุณมากครับหมอ”
แล้วผมก็ออกจากห้องหมอ เดินไปที่ห้องของคนไข้ที่ผมพามาในวันนี้
ผมยืนมองร่างเล็กๆนั่นอย่างพิจารณา ผมเดินเข้าไปปัดผมออกจากใบหน้าของเธอ
“เธอเป็นใครกันนะ”
ผมพึมพำเบาๆ แล้วผมก็ไปนอนบนโซฟา
วันต่อมา
ผมตื่นขึ้นมา แล้วก็ลงไปซื้ออาหารเช้าที่ห้องอาหารในโรงพยาบาล โชคดีที่ผมตื่นเช้าเว่อร์ เลยทำให้สะดวกต่อการซื้อของ เป็นคนดังนี่มันยุ่งยากจริงๆเลย
พอผมขึ้นมาถึงห้อง ผมก็พบว่า ผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงได้ตื่นขึ้นมาแล้ว
“อ้าว ตื่นแล้วหรอ”
ผมทัก
“คุณเป็นใคร?”เธอถามขึ้น สำเนียงไม่ใช่บริทิชหรือไอริช แต่เป็นสำเนียงอเมริกันมากกว่า
“ผมเอ่อ...ผม...”
จะให้ตอบยังไงดีหละ ผมเป็นเจ้าของรถที่คุณเพิ่งวิ่งตัดหน้าเมื่อคืนไงครับ แล้วผมก็พาคุณส่งโรงพยาบาล
“แล้วฉันเป็นใครเนี่ย”
เธอพูดขึ้นก่อนที่ผมจะตอบ แล้วเธอก็เอามือจับไปที่หัวของเธอ ที่ตอนนี้มีผ้าพันอยู่
“คุณใจเย็นๆนะครับ คุณพอจะจำอะไรได้บ้างหรือเปล่า”
ผมถามขึ้น
“ฉันจำได้แค่ว่า ฉันตื่นขึ้นมาบนเตียงในห้องๆหรูห้องหนึ่ง แล้วจู่ๆสมองฉันก็สั่งว่าให้รีบออกจากห้องนั่นให้เร็วที่สุด แล้วฉันก็เห็นผู้ชายคนหนึ่ง เขาแก่ แต่เขาน่าจะรวย แล้วเขาก็พยายามจะ..”
พอเล่ามาถึงจุดนี้ ไหล่เธอเริ่มสั่น แล้วเสียงก็เริ่มสั่นด้วยเช่นกัน เธอก้มหน้าลงแต่ยังพยายามเล่าต่อ
“แล้วฉันก็ดิ้น เขาเลยตบหน้าฉัน ฉันเลยเอาขวดเหล้าทุบหัวเขา แล้วฉันก็หนีออกมา ฮึก..”
ตอนนี้ตัวเธอสั่นไปหมด แล้วเธอก็ร้องไห้
ผมเลยกอดเธอไว้
“ไม่เป็นไรนะครับ ผมจะช่วยคุณเอง”
“ตอนนี้ คนไข้อาจจะยังจำอะไรไม่ได้ แต่อาจจะเป็นเพียงระยะสั้น และก็ต้องมีตัวกระตุ้นด้วยนะครับ”
“แต่ปัญหาคือ ผมไม่รู้จักเธอนี่ครับ”
ผมพูดกับหมอ
“บางที คนไข้ก็ต้องการเวลานะครับ ให้เวลาเธอหน่อย อาจจะหากิจกรรมหรือพาไปที่ๆเธออาจจะจำได้ก็ได้ครับ”
“โอเคครับหมอ ขอบคุณมากครับ”
ผมกล่าวขอบคุณหมอ แล้วก็เดินออกจากห้องของหมอไป
Niall’s part
“ว่าแต่ ฉันยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย”
เธอพูดขึ้น หลังจากที่พยาบาลที่มาวัดความดันเธอ ออกจากห้องไปแล้ว เหลือเพียงแค่เรา 2 คน
“เรียกผมว่า ไนออล ก็แล้วกัน”
“ไนออล ชื่อเพราะจัง”
เธอพูดขึ้น
ผมยิ้มออกมา เธอเป็นผู้หญิงคนแรกนอกจากแม่ของผมที่บอกว่าชื่อผมเพราะ
“แล้วคุณหละ อยากให้ผมเรียกคุณว่าอะไรหละ”
“ฉัน...ฉันจำชื่อฉันไม่ได้”
เธอพูดขึ้น แล้วก็ก้มหน้าลง
“อืม...เอางี้มั๊ย เดี๋ยวผมตั้งชื่อให้คุณเอง”
“เอางั้นก็ได้”
“ชื่อ...กลอเรีย ดีมั๊ย”
“ไม่เอา แก่ไป”เธอบอก แล้วส่ายหน้าเบาๆ
“ชื่อ ไมลีย์”
ผมบอก เพราะตอนนี้เรานั่งดูเรื่อง The last song ที่ไมลีย์ ไซรัสแสดง
เธอส่ายหน้า
“งั้น...”
ผมคิดอย่างหนัก
รอนนี่
จู่ๆชื่อนี้ก็เข้ามาในหัวผม อาจเป็นเพราะหนังเรื่อง The last song ไมลีย์รับบทเป็น รอนนี่
“รอนนี่”
ผมพูดขึ้น
“รอนนี่หรอ...ดูเหมือนฉันจะคุ้นกับชื่อนี้นะ เอาชื่อนี้แหละ”
เธอพูดแล้วก็ยิ้มออกมา
ผมยิ้มตอบเธอ
ผมเริ่มชอบรอยยิ้มเธอซะแล้วสิ
ความคิดเห็น