ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    1D: Still the one (One direction fanfic)

    ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 11

    • อัปเดตล่าสุด 15 ก.ค. 56


    Chapter 11
     

                วันนี้ฉันไปเยี่ยมทรอยโดยที่พ่อก็เข็นรถเข็นและพาฉันไป

                    “เป็นยังไงบ้างค่ะทรอย”

                    ฉันถาม ในขณะที่มือของฉันก็ควานหามือของทรอย ทรอยจับมือฉันไว้และก็บีบเบาๆ

                    “ก็ดี แล้วแอมเบอร์หละ”

                    ฉันสัมผัสได้ถึงเสียงที่เหนื่อยๆของทรอย

                    “ก็ดีเหมือนกันค่ะ แต่ยังต้องพัฒนาทางด้านประสามสัมผัสส่วนอื่นอยู่นิดหน่อย ทำไมน้ำเสียงของทรอยเหมือนเหนื่อยๆหละค่ะ”

                    “พอดีว่า ฉันเพิ่งกินยาไปน่ะ เลยง่วงๆนิดนึง”

                    “อ่อ งั้นหนูไม่รบกวนแล้วหละค่ะ หนูไปก่อนนะค่ะ แล้วพรุ่งนี้เจอกัน”

                    “ไว้เจอกันนะแอมเบอร์”

                    “เดี๋ยวฉันไปส่งจ้ะ”

                    โจแอนนาห์พูดขึ้น

                    “ไม่เป็นไรหรอกค่ะโจแอนนาห์ หนูไปกับพ่อก็ได้ค่ะ คุณอยู่ดูแลทรอยดีกว่านะค่ะ”

                    “โอเคจ้ะ งั้นก็เจอกันนะจ้ะ”

                    ฉันยิ้มตอบ และพ่อฉันก็พาฉันกลับห้อง

                    ตกเย็น

                    ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

                แอ๊ดดด...

                    “สวัสดีอีฟ กะไว้แล้วเชียวว่าเธอต้องมาภายใน 5 นาทีนี้แน่ๆ”

                    ฉันพูดออกไปและยิ้มให้กับอีฟ

                    “พอดีว่าพ่อฉันออกไปข้างนอกน่ะ คงกลับมาอีกไม่นานแน่ๆ ขอบคุณที่เธอมาอยู่เป็นเพื่อนฉันนะ”

                    “...”

                    เงียบ แปลกแฮะ ปกติแล้วอีฟจะตอบฉันนะ แต่ทำไมวันนี้แปลกๆ    

                    “ทำไมเธอเงียบไปหละอีฟ เป็นอะไรหรือเปล่า”

                    “...”

                    “อีฟ...”

                    จู่ๆฉันก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสจากมือของผู้ชาย มือของฉันอยู่ในมือของเขาและเขาก็เอามือฉันไปทาบแก้มของเขา

                    “ลู...”

                    ฉันพึมพำชื่อของเขาเบาๆ

                    “ฟ้า...”

                    ชื่อของฉันออกมาจากปากของเขาเบาๆ

                    น้ำตาฉันไหลออกมาทันทีที่เขาเรียกชื่อฉันแบบนั้น

                    “ออกไปซะลู ฉันไม่อยากเจอนาย”

                    ฉันหันหน้าหนี และปาดน้ำตาออกลวกๆ

                    “เรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลยนะฟ้า หรืออันที่จริง เราไม่ได้คุยอะไรกันเลย”

                    “ไม่มีอะไรที่เราต้องคุยกันแล้วลู นายกลับไปซะเถอะ”

                เขาจับแขนฉันให้ไปเผชิญหน้ากับเขาทั้งๆที่ฉันตาบอด

                    “ไม่! เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง”

                    “นายอยากฟังอะไรอีกหละลู! นายอยากให้ฉันบอกว่าทำไมฉันถึงต้องไปใช่มั๊ย! ได้! ฉันจะบอกให้ ที่ฉันไปเพราะฉันไม่อยากเจ็บอีกต่อไปแล้ว เรื่องที่เจ็บที่สุดคือการที่นายเป็นคนให้สัญญานั้นกับฉัน และนายก็ผิดสัญญานั่นซะเอง!

                    ฉันได้แต่ยืนร้องไห้ ในใจอนากจะทุบอกเขา แต่ฉันมองไม่เห็น จู่ฉันก็รู้สีกได้ถึงอ้อมแขนที่กอดฉันไว้

                    “ฮึก...ฮือ...คนบ้า...นายมันนิสัยไม่ดี”

                    ฉันพูดอู้อื้อในอ้อมกอดของเขา

                    “ฉันขอโทษนะฟ้า ฉันขอโทษ”

                    ฉันไม่ตอบเพราะเอาแต่ร้องไห้ในอ้อมกอดของลูอิส

                    “ฉันขอโทษที่ไม่รักษาสัญญา แต่ฉันจะไม่ให้เธอไปจากชีวิตของฉันอีกแล้ว ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอ อย่าไล่ฉันออกไปจากชีวิตของเธอเลยนะฟ้า”

                    คำพูดของลูอิสทำให้ฉันเริ่มหยุดร้องไห้ ฉันผละออกจากอ้อมกอดของเขา

                    “แล้วแอลเลนเนอร์หละ”

                    “ฉันเลิกกับแอลไปตั้งนานแล้ว เราต่างคนต่างก็ไม่มีเวลาให้กันมากนัก เธอก็เลยบอกเลิกกับฉัน ตอนนี้เราเป็นแค่เพื่อนกันก็เท่านั้น”

                    ฉันพยักหน้าเป็นเชิงว่าเข้าใจแล้ว

                “เธอยกโทษให้ฉันแล้วใช่มั๊ยฟ้า”

                    มืออุ่นๆของลูที่สัมผัสมาที่แก้มของฉัน ทำให้ฉันอุ่นใจ ฉันพยักหน้าเบาๆเป็นคำตอบ

                   

                    Louis’s part

                ผมนั่งเฝ้าร่างเล็กๆที่นอนอยู่บนเตียงของโรงพยาบาล ผมรู้มาจากอีฟและแฮร์รี่ว่าเธอตาบอด และยิ่งมาเห็นเธอในวันนี้ทำให้ผมกลั้นน้ำตาแทบไม่อยู่

                    ผมจูบบนหน้าผากเธอเบาๆและกระซิบบอก

                    “เดี๋ยวฉันกลับมานะ”

                    ผมค่อยๆปิดประตูห้องของฟ้าตามหลัง และก็เดินไปที่ห้องที่ผมมักจะแอบเยี่ยมตอนกลางคืนทุกๆวัน

                    ทรอย ออสติน

                ผมค่อยๆผลักประตูเข้าไปเพื่อไม่ให้คนที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ตื่นขึ้นมา ผมนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆเตียงและก็นั่งมอง แต่จู่ๆคนบนเตียงก็ตื่นขึ้นมา

                    “ว่าไงลู”

                    พ่อผมเรียกผมตั้งแต่ตอนที่ท่านยังไม่ทันได้ลืมตาขึ้นมา

                    “สวัสดีครับพ่อ พ่อรู้ว่าเป็นผมได้ยังไง”

                    ผมกระซิบกับพ่อเบาๆ เพื่อไม่ให้แม่ที่นอนอยู่บนเตียงของคนเฝ้าคนไข้ตื่นขึ้นมา

                    พ่อหันหน้ามาหาผมและก็ยิ้มบางๆ

                    “พ่อแอบเห็นลูมาเยี่ยมพ่อทุกวันเลย”

                    นี่คือเรื่องจริงที่ผมก็ปฏิเสธไม่ได้ ผมเลยพยักหน้ายอมรับเบาๆ ถึงผมจะโกรธแต่ฟ้าก็พูดถูก

                    ยังไงซะ เขาก็คือพ่อของผม

                    “จริงครับพ่อ”

                    ผมยิ้มบางๆตอบไป

                    “แอมเบอร์เป็นยังไงบ้างหละลูก ลูกคืนดีกับเธอหรือยัง”

                    “คืนดีกันแล้วครับพ่อ”

                    “ดีแล้วหละ พ่อกำลังคิด”

                    “คิดอะไรหรอครับ”

                    “พ่อกำลังคิดว่าพ่อจะบริจาคตาให้แอมเบอร์”

                    “...แต่...”

                    ผมพูดแทบไม่ออก

                    “พ่อไม่ไหวแล้วหละลู ร่างกายพ่อเริ่มทรุดลงเรื่อยๆแล้ว พ่อเลยคิดว่า ถ้าพ่อบริจาคตาให้ฟ้า เธอก็จะได้กับมาทำงานช่วยเหลือชีวิตคนอื่นที่เค้าอาจจะมีโอกาสมีชีวิตอยู่ได้มากกว่าพ่อ”

                    เสียงหอบหายใจของพ่อ ทำให้ผมรู้ว่าพ่อไม่ไหวแล้วจริงๆ

                    “พ่อไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้นก็ได้นะครับ”

                    ผมพูดออกมาหลังจากที่เราต่างให้ความเงียบปกคลุมห้อง

                    “พ่อไม่ได้ทำเพราะความจำเป็นอะไรทั้งนั่นลูก ที่พ่อทำ เพราะเราไม่รู้อนาคตข้างหน้า บางทีในวันข้างหน้า อาจจะไม่มีใครมาบริจาคตาให้แอมเบอร์ และเธอก็จะตาบอดแบบนี้ตลอดไป ลูกอยากให้มันเป็นอย่างนั้นหรอลู”

                    ผมเงียบ พ่อพูดถูก ถ้าเกิดว่าไม่มีใครบริจาคตาให้ฟ้า เธอก็จะตาบอดไปตลอดชีวิต ผมยอมให้มันเป็นอย่างนั้นไม่ได้หรอก เธอจะไม่ได้กลับมาทำงานที่เธอรัก และเธอก็จะไม่เห็นผม

                    “ผมจะบริจาคตาให้เธอเองครับพ่อ”

                    ผมเงยหน้ามองพ่อหลังจากพูดจบ

                    พ่อผมยิ้มออกมาเบาๆ และก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆ

                    “ไม่ได้หรอกลู ลูต้องทำงาน เดินสายทัวร์ ทำให้ใครหลายคนทั่วโลกมีความสุข ถ้าแอมเบอร์รู้ว่าลูกจะบริจาคตาให้เธอ เธอต้องไม่เห็นด้วยแน่ๆ เชื่อพ่อเถอะลู พ่อจะบริจาคตาให้แอมเบอร์เอง พ่อคุยกับหมอแล้ว”

                    ผมถอนหายใจเบาๆกับการตัดสินใจของพ่อ และพยักหน้าเบาๆ

                    “กลับไปเฝ้าแอมเบอร์เถอะลู เผื่อเธอตื่นมาแล้วไม่เจอลูก เธอจะใจหายเอา”

                    ผมยิ้มให้พ่อ และเดินออกจากห้องไป


    ____________________________________________________________________________________

    กลับมาแล้วววววววว

    ขอโทษรีดเดอร์ทุกๆคนนะค่ะที่ไรต์หายไปนาน :(


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×