คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chess : (Lycanthrophy) _ แขกยามราตรีกาล (2)
กระแสน้ำธาราด้านหน้ายังไหลเชี่ยว
ความใสสะท้อนเดือนทรงกลดวาดลงพื้นน้ำ ฉากความมืดพร้อมหมู่ไม้ประกอบกันเข้าที่ และอีกหนุ่มต่างแดน... ผู้ถูกวาดลงตราตรึงผืนน้ำในท่านั่งกอดเข่าจุ้มปุ๊ สีน้ำพะอืดพะอมคล้ายร้องให้ก็ไม่ปาน
ปากขยับขัดเสียงลมหวีดหวิว
"อา.. ข้าอยากกลับเชสอ่ะ
________________________________________________________________________________________
Chess : (Lycanthrophy)
ผู้มาเยือนยามราตรีกาล (2)
_________________________________________________________________________________________
เด็กหนุ่มเอนตัวลงนอนทับผืนหญ้านุ่มอันคลุมทับดินเย็น ก่อนกางแขนถ่างขาออกยืดสบาย ค่อยผ่อนลมหายใจหนักอก สีหน้าหน่ายก็เกลื่อนด้วยรอยยิ้มเอื่อยๆอย่างเยาะขันชีวิตตัวเองเล่น นึกย้อนถึงคำคนเป็นพี่ก็แย้มรอยยิ้มกว้างขึ้นอีก
'ระวังเหอะพอไปที่นั่นเหงาแล้วจะกอดเข่าจุ้มปุ๊ร้องคิดถึงเชสขึ้นมา'
นี่เขาโดนพี่อัฟฟาดักแต่ต้นเลยรึเนี่ย ?
ความคิดที่ย้อนทำให้หัวเราะตัวเอง ก่อนเบือนสายตาแลสภาพแวดล้อม
หญ้าก็นุ่มดี อากาศก็ใช้ได้ ลมพัดเข้าไม่ร้อนไม่หนาวเกิน เสียงเพลงธรรมชาติก็กล่อมหูหลับสบาย คงต้องยึดที่นี่ค้างซักคืนสองคืน ถ้าโชคดีเจอครึ่งร่างเมื่อไหร่จะได้กับเชสซะ...
แล้วภาพซามูไรหน้าบากดวงตาแดงก่ำกำลังแสยะยิ้มก็เข้าหลอนประสาท
ราฟว์หน้าซีดกำมือเขกหัวตัวเองเรียกสติ
ครึ่งร่าง ครึ่งร่าง ใครที่ไหนเขารับประกันว่าครึ่งร่างตนจะดูดีมีอีโก้ อาจจะเป็นกุ๊ยข้างถนน ไม่..ไม่สิน่า เอ่อ เอาที่ดูดีขึ้นหน่อยเด็กเรียนแว่นหนาเตอะ.. ไม่เอ๊า ! Super Pumpkin Man ยอดมนุษย์ฟักทองขวัญใจชาวประชา โอ้จอรส์อย่าล้อเล่นสิฟร่ะ !
ก่อนที่เขาจะจินตนาการไพล่ไปถึงเรื่องไร้สาระหลอนหลอกตัวเองมากกว่านี้ ก็รีบบ่ายเบี่ยงปิดเรื่องนี้เปิดเรื่องสภาพแวดล้อมเสีย
"วันนี้พระจันทร์กลมดีว่าไหม ?"
"นั่นสิ" เด็กหนุ่มตอบออกไปตามใจนึก ก่อนนึกย้อนอีกที 'ตนพูดกับใครหว่า ?' แต่ช่างปะไรไม่เหงามีคนคุยด้วยเป็นเพื่อนก็ดีแล้ว จากนั้นเขาก็เป็นฝ่ายต่อบทสนทนากับบุคคลคลายเหงาเสียเอง
เสียงขรึมแบบนี้คงรุ่นลุงล่ะมั้ง...
"อ่า บ้านลุงอยู่แถวนี้เหรอครับ"
"ไม่หรอก เพิ่งย้ายมาน่ะเห็นละแวกนี้เงียบๆเปลี่ยวๆดีเลยกะ 'ทำรัง' อยู่ที่นี่"
ช่างเป็นคนที่รสนิยมพิลึกเสียนี่กระไร
เด็กหนุ่มคิด แม้จะยังติดใจตรง 'ทำรัง' ก็ตาม ...เฮ้อ คนแก่ก็งี้ พูดอะไรก็เลอะเลือนเบลอไปหมด
คู่สนทนาในเงามืดชวนคุยกลับ
"แล้วเจ้าล่ะ บ้านอยู่แถวนี้รึ"
"อ้อไม่ได้อยู่แถวนี้หรอกครับ ข้าหลงมาน่ะ กะอยู่ค้างซักคืนสองคืนแล้วค่อยไป ไม่คิดอยู่นานเหมือนลุงหรอกครับ"
"เหรอ" น้ำเสียงตอบกลับแฝงแววประหลาด แต่เขาก็ไม่คิดใส่ใจ โคลงหัวขณะมองดวงเดือนกลางฟากฟ้าสีกำมะหยี่แล้วปล่อยไป ชวนคุยมั่ง
"ว่าแต่ บ้านเกิดลุงไม่ดีเหรอครับถึงย้ายมาตั้งหลักปักเลนที่นี่"
"ซะที่ไหนล่ะ บ้านเกิดข้าน่ะดีออก ติดก็มีพวกน่ารำคาญอวดแบ่งในศักดิ์ขี้หมากันทั้งนั้น" ชายวัยกลางหัวเราะในลำคอก่อนเสริม "ข้ามาจาก 'Chess' น่ะ"
เห ช่างดวงสมพง โอ้จอร์สทำได้ดีมาก ความชื่นชมชั่วขณะกลับพลิกผลัน เฮ้ย ! ใครว่าล่ะ จอร์สแก๊ !
คิดได้ก็ตวัดตามองเอนลุกขึ้นทันใดเวลาเดียวกับที่ใยเหนี่ยวหนาสีขาวขุ่นพุ่งพรวดเข้าหมายหัว ! ราฟว์ผงะฉุดหัวหงายพลันดีดเท้าไปอีกทางเว้นระยะด้วยท่าพร้อมรุกรับ นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มตรวจใบหน้าชายผู้สนทนา แม้แสงจะเปลี่ยว
บุรุษร่างใหญ่ใบหน้าตึงคมเข้มเคร่ง จักษุ์แดงโชนแสงทอประกายประกอบกับปากกว้างอันเหยียดออก ตีอายุคร่าวๆคงประมาณ 40 สะดุดก็แต่ตรงหลังมันราวกับมีของอะไรไปกระจุกอัดอยู่ในเสื้อกันหนาวจนโป่งขึ้นซะแปลกตา และอะไรที่ว่านั่น สัญชาติญาณเขาเตือนว่า..'อันตราย'...
ชายแปลกหน้าเหยียดยิ้ม เอ่ยคำชมอย่างคนฟังไม่ประสงค์จะรับ
"หึๆๆ สมกับเป็นตัวตลกแห่งเวลล์โจ ลือกันมาไม่ผิด เจอเจ้าตัวเป็นๆแล้วน่าขันเสียจริง"
ตัวตลกยิ้มแหย่รับคำ ไอ้นี่เจอตั้งแต่ต้นก็เยาะเขาตลอดกับไอ้คำ 'เป็นๆ' นี่สือความหมายชัดจนน่าถีบ ถึงใจจะคิดอย่างนั้นกลับพูดไปอย่าง "หืม ? เดี๋ยวนี้ที่นั่นตั้งฉายาพิลึกๆขนาดนั้น อย่างคำสุภาษิตที่ว่า คบคนพาลพาไปหาผิด โหแฮะ ข้ายังไม่ทันคบเลย คนตั้งมันเห่ยคนถูกประณามเลยเห่ยตาม ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วนะเนี่ย"
น้ำเสียงเย็น รอยยิ้มยั่ว มันรวมกันได้ดี ทั้งลื่นกะล่อน ย้อนด่าเป็นฉับๆกระชากอารมณ์กลับได้มั่น ไอ้เด็กนี่ไม่ได้ว่ามันคนเดียว แต่ปรามาสเหยียดอาณาจักรมันทั้งโครต !
คิ้วหนาขมวดเคร่งขึ้น รอยยิ้มกลับมาเป็นฝ่ายประดับปากกะล่อน
ก่อนสถานการณ์จะปะทุขึ้นราฟว์ก็เอ่ยถามเสียก่อน
"เอ่อ.. ลุง คงใช่นะ" มิวายยังกัดเข้าให้อีก "ระดับล่ะ ? พอน - รุค - บิชอบ ?"
มันแสยะยิ้ม "ว่าที่บิชอบเฟร้ย... ไอ้พอน"
ราฟว์ยิ้มรับคำปรามาส ก่อนกล่าสำทับแสร้งเสียงซื่อ "อ่าว ข้าก็นึกว่าพอนซะอีก แหมทีท่าไม่ให้เลยนะ-"
มันเร่งฉวยโอกาศเคลื่อนไหว โจมตีก่อนได้เปรียบ ! ร่างตรงหน้าหายไป !
"-ลุง" ราฟว์ยังคงพล่ามต่อให้จบประโยค มันปรากฎกายขึ้นข้างหลังเด็กหนุ่ม สีหน้าราฟว์ยังเรียบเฉย นิ้วมือชายวัยกลางประสานเหนือหัวทุ่มลง !
ปึก ! เสียงแข็งกระแทกกัน แขนกร้านยกขึ้นป้องหัว น้ำเสียงหยอกตามติด
"ใจร้อนจัง ไม่ใช่วัยสะรุ่นนะครับ"
จันทราปรายแสงส่องนวลมา ก่อนกลืนตัวหายกลับเข้ากลีบเมฆ ทิ้งให้ความมืดกลืนกินบรรยากาศคุกรุ่นเบื้องล่างของ 2 ตัวการก่อเหตุ
ทั้ง 2 ดีดตัวถอยห่าง จ้องประสานประเมินเชิงกัน
คนหนึ่งอารมณ์กระหายฆ่าฟัน สีหน้าตอนนี้เขม่งขึ้นแผ่ไอดำอำมหิตไว้รอบร่าง เหยียดยิ้มแสยะส่งทะลวงใจ
คนหนึ่งอารมณ์เย็นขบขัน เสนอในรูปแบบเรียวปากรอยยิ้มกระจับ แย้มอยู่ นัยน์ตาเต้นระริกยั่วแกมกวน
แล้วคนอารมณ์ร้อนก็ติดกับ
ชายวัยกลางวิ่งเข้ามากหมัดง้างชก ราฟว์รอรับหมัดอันใหญ่เท่าหน้าเขา
วืดดดด....
ไม่ใช่หมัดนั้นจะไร้ความแม่นยำ รองเท้าบู๊ตสีดำบิดฝุ่นขมุงขึ้นเล็กน้อย ราฟว์หมุนตัวพลิ้วไปด้านหลังชายหนุ่มด้วยท่วงท่าคล่องทำนอง เตรียมหมัดชกไว้มั่น
ชายวัยกลางหันหน้ากลับมา ! หมัดของราฟว์ตรงรี่เข้าหน้า กระนั้นมันกลับไม่มีท่าทีผงะ มันอ้าปากขึ้นใยหนาสีขาวขุ่นก็พุ่งทะลวงหาเขา ! มือกร้านถูกดันกลับมา เด็กหนุ่มได้ยินเสียงกร๊อบอยู่ริบรี่ เขารีบยกอีกแขนตั้งรับก่อนมันจะทะลวงเข้าหน้ามาเฉาะหัว แรงอัดทำให้เท้าไม่ติดพื้น แต่เด็กหนุ่มก็ใช่ว่าจะเซ่อขนาดยอมกระเด็นปลิว เร่งแรงกดเท้าให้เหยียบดินแน่นจนไหลไปกับพื้นทังยืน
แล้วความรู้สึกถูกดึงกระตุกแขนอย่างแรงก็ตรงปักเข้ากลางใจอย่างคนรีเฟล็กเร็ว ตาหันเหเข้าหาสาเหตุแขนของเขาโดนใยแมงมุมนี่ฉุด !
ชายหนุ่มยิ้มโดยนัยน์ตาพราวระริก สะบัดหัวโดยแรง ราฟว์ก็ถูกใยแมงมุมฉุดขึ้นกลางฟ้าเพราะสรีระแสนเปี๊ยก
ราฟว์แค่นยิ้ม "แมงมุมบ้านไหนปล่อยใยทางปากว่ะ" ถามไปงั้นไม่หวังคำตอบ เขาสติดีพอหรือจะเรียกไอ้พวกบ้าก็ไม่ปาน เคลื่อนมืออีกข้างหยิบมีดสั้นเหน็บรองเท้าบูตออกมา เว้นว่าไม่ตวัดปลายมีด เด็กหนุ่มกลับยอมให้มันลากไปโดยดี จึงจำถอนคำ 'สติดี' เนื่องว่ามันแสดงถึงความ 'บ้า' โดยสิ้นเชิง
ชายวัยกลางตั้งหมัดรอรับ กำปั้นพร้อมสำหรับคนบ้า ก่อนง้างชกเต็มแรง !
2 มือกร้านเข้าคว้าหมับเข้าหยุดหมัดป้องหัวไม่ให้หลุดบ่า ชายวัยกลางเตรียมปล่อยใย นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มกระตุกไร้จะคิดใคร่เร่งตัดใยที่ข้อแขน มันคลายตัวหล่น แต่ยังไม่ทันร่วงเขาก็ปามีดเข้าปักกลางหน้าอกซ้ายชายหนุ่ม !
เคร้ง !!!
มีดดีดเด้งกลับตกพื้น ราฟว์มองแล้วหน้าหวอ เขาไม่คิดว่ามันจะออกมาอีท่านี้ ไม่ทันให้ตั้งตัวชายวัยกลางก็เงื้อเท้าเตะสูง ! ราฟว์ก้มหลบกัดฟันกรอด ทว่า... เร็วเกินคิด มือใหญ่พุ่งเข้าตะครุบคอเด็กหนุ่มกระชับอุ้งมือ บีบให้แหลก !!
โลหะแหลมถูกจรดไว้กลางหัว ราฟว์ถือมีดสั้นเหน็บนั่น มือใหญ่ชะงักการบีบ นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเริ่มส่อแววข่มวาบ รอยยิ้มหยันเหยียดอกยั่ว "อ่าวลืมบอกไปมีดเหน็บผมไม่ได้มีเพียง 1"
แต่คนถูกยั่วกลับกล่าวโต้วาทีไม่เกรง "หึ งั้นเจ้าก็ให้เกรียติมือข้าด้วย รับรองบีบแหลกคามือไม่มีติแน่นอน"
"งั้นคงต้องลองดู..."
ราฟว์เอ่ยวาจาเย็นชากดมีดให้ทิ่มเข้าหัวมันจนเลือดซิบ ตัดกับเขาที่โดนมันบีบคอจอเลือดขึ้นหน้าแดงก่ำ คราวนี้ใครๆคงหาว่าเขาหน้าด้านไม่ได้ล่ะ...
สถานการณ์ตอนนี้ได้เสียเท่ากัน !
สื่อสารกันทางสายตา ทั้งสองผงะดีดออกห่างทันใดดุจแม่เหล็กคนล่ะขั้ว เนื่องด้วยเดาจากไม่มีใครอยากตายหรอก ทว่า คนบ้าก็ยังคงเป็นคนบ้าอยู่วันยันค่ำ
พลัน !
ราฟว์วิ่งเข้าหาก่อนเสียเอง
นัยน์ตาแดงฉาบฉานคมดุจเหยี่ยวปราดมองไอ้เด็กเล่นเล่ห์ตรงหน้า สมองนึกหวนประหวัดคำควีนอันเตือนไว้แต่ต้นว่า 'เล่ห์' นัก ตอนนี้แหละที่มันเชื่อจุใจ
"เฮ๊ยๆ ไอ้หนูเอาเลยเรอะ" ชายวัยกลางว่า ค่อยอ้าปาดเตรียมปล่อยใย
"ก็แค่ท่าเดิมๆ" ราฟว์ตอบกลับ ใจนึกสะดุดแววตาทอประกายรู้ทันของบุคคลตรงหน้า พลิกผลันกับขาอันไม่สะดุดเร่งรีบปราดเข้าประชิด
"คิดอย่างนั้นรึ" ชายวัยกลางตอบแทบกระซิบ ราฟว์ไม่สนเขามาอยู่ตรงหน้า มือพลันกำกันแน่น หมัดตรงพร้อมตัดเส้นประสาททุกเมื่อ
ใยแมงมุมพุ่งออกไป
ราฟว์เหยียดยิ้มร่า ไอ้ใยแบบนี้เห็นครั้งเดียวก็จับไต๋ได้แล้ว มันก็แค่พุ่งมาเป็นเส้นตรง จะหักเลี้ยวรึหลีหลบน่ะง่ายนิดเดียว รองเท้าบู๊ตดำบิดกะกระโจนหลบ ในช่วงวินาทีที่ใยนั่นพุ่งเข้านัยน์ตาเด็กหนุ่มเริ่มกระตุก
มันพุ่งมาช้าลง ?
ราฟว์ไม่คิดจะหาสาเหตุตอนนี้ เขากักฟันกรอด ตอนนี้ต้องหนีจากใยตรงหน้าให้พ้นระยะก่อน ยิ่งไกลยิ่งรับประกันความปลอดภัยได้ ขณะที่ชายวัยกลางเหยียดยิ้มแสยะ
ใยดิ่งพลันแผ่กว้าง มันกางเป็นตาข่ายแมงมุมกินรัสมีอาณาเขตเกินกว่าที่จะวิ่งหลบพ้นการจับกุมได้ ที่สำคัญบัดนี้มันกลางอยู่ตรงศรีษะของเด็กหนุ่มแล้ว ราฟว์ไม่คิดเงยหน้าขึ้นมอง ไม่ใช่ว่าไม่กลัว เพราะสายตาตื่นตระหนกมันฉายชัด หัวใจเด็กน้อยกำลังเต้นระส่ำ ถ้าถูกจับได้ ถ้าถูกจับได้ก็แสดงถึงการแพ้น่ะสิ เขา ไม่อยากแพ้ !!
แล้วตาข่ายก็กุมทับเกินควันขมุงลอยขึ้นสักพัก ก่อนค่อยๆเลือนลางหายไปปรากฏตาข่ายตุงๆแทน
"แกประมาทไปแล้วไอ้ลูกหมา" ชายวัยกลางกล่าวรอยยิ้มหยันผุดออกมา
สันมือหนักทุบปึก! เข้าท้ายทอยชายวัยกลาง
สายตาคนโดนทุบพร่าเลือนเพราะโดนเส้นประสาท มันไม่คิดมองคนทุบเท้าวิ่งหนีพ้นระยะ แปลกใจก็ทำไม ? ทำไมถึงไม่ทุบต่อทั้งทีๆมีความสามารถ ทำไมถึง... ชายหนุ่มวิ่งหนีพ้นระยะตวัดหันทันใด
คำตอบก็ประจักษ์เข้าจักษุ์
ราฟว์ยันเข่าหายใจถี่....
ชายวัยกลางเบิกตาวาวโรจน์ ความรู้สึกทั้งกลัวและโกรธกำลังพุ่งพล่านเข้าจุกอก แต่ก็ไม่อาจรั้งความงุ่นงงกระหายคำตอบได้ ชายวัยกลางหันขวับมองกลับไปยังตาข่ายอีกครั้ง
ตาข่ายเหนียวขาวขุ่นไม่มีทีท่าของสิ่งมีชีวิตสักนิด... แล้วไอ้ตุงๆเมื่อตะกี้นี้ล่ะ ?
คิดคำถามก็แลกลับยังเด็กหนุ่มด้วยหัวใจระส่าย
เขายังคงหอบ... ผมเริ่มปรกหน้าไปครึ่งซีกจนมองแทบไม่เห็นชัด ความรู้สึกหนาวยะเยือกจากเหงื่อโอบนั้นผสานกับลมหนาวยิ่งบาดหน้า แต่ความรู้สึกเหนือกว่านั้นคือ... 'แสบ' แสบจากกระแสไฟฟ้า การจะใช้พลังนี้ได้ก่อนอื่นต้องทนพลังตนให้ได้เสียก่อน เขายอมรับว่าทนไม่ไหว แต่ก็พอใช้ได้ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรง ประสบการณ์ที่เคยโดนช็อตมาแล้วยังเสียวสันหลังปล๊าบ เตือนไม่ให้ดันทุรัง ทว่า หากเขาไม่ดันทุรังซักนิด เขาจะแพ้.. และ ตาย...
เด็กหนุ่มจำเป็นต้องเลือก...
แล้วน้ำคำเปรยเบาๆก็กระทบเข้าหู เล่นเอาจากหายใจกระส่ำกลายสะดุดห้วง
"สายฟ้า... สินะ"
หัวใจของราฟว์เต้นแรงหวั่นตระหนก คิ้วมุ่นเคร่ง
รู้ได้ยังไง ? ความสามารถของกลุ่มมิเรณุ จะเป็นความลับกันเฉพาะวงในระดับสูงนี่ เท่าที่จำได้เขาไม่เคยเผลอโชว์ความสามารถกับใครไปทั่ว คนในกลุ่มก็ใช่ว่าจะเป็นพวกปากสว่านเสียเมื่อไหร่
ราฟว์สลัดหัวใจสั่นตระหนก เอาสติกดข่มหาคำตอบ นึกทบแต่เหตุการณ์แรก
ตัวนายกองหมู่แรกหมู่สองแค่ตัวล่อ ล่อ... เพื่ออะไรน่ะรึ ? ก็จะอะไรนอกจากสิ่ง 'เชื่อมต่อ' ของตัวเขากับมิตินี้ไงล่ะ ส่วนที่ยังติดใจก็มันรู้ทั้งสถานที่วงแหวนเวท ทั้งความสามารถ มันรู้ได้ไง ? 'สินะ' งั้นเหรอ ? เหมือนกับฟังมา งั้นไม่ผิดแน่
'เกลือเป็นหนอน'
แถมท่าทางจะตำแหน่งยศศักดิ์ใหญ่ซะด้วย รู้เกี่ยวกับครึ่งร่างได้คงไม่ใช่พวกพลหารเรือนเบี้ย แล้วนี่ครึ่งร่างเขาจะเป็นไงมั่งเนี่ย ที่รู้ๆพวกมันคงไม่บุกมาคนเดียวโด่เด่หรอก
หมัดหนักแหวกอากาศเข้ามา !
ราฟว์สะดุ้ง สัญชาติญาณกระชากสติฉุดหัวเอี่ยวหลบ
....ไอ้บ้า ! 'มัน' ที่ว่าหัวโด่อยู่นี่
ราฟว์ยิ้มรับคำด่าตัวเอง พลางยิ้มเยาะชายวัยกลางผู้ดูเหมือนพึ่งได้สติจากความกรุ่นระคนระส่ำ มันกล้ามาเต็มร้อยนี่ เขาจะตอบแทนให้ถึงกึ๋นเลย !
"ปัดโถ่ รู้อยู่แล้วก็ไม่บอก ข้าจะได้ไม่ต้องอุ๊บไว้" เปิดการตอบแทนด้วยรูปแบบเดิม ท่ากวนๆนี่คงเป็นสันดารสุดรักสุดหวงสุดยอด อย่างไม่รู้จะกี่สุดต่อกี่สุดซะแล้ว
"ปากเจ้านี่นะ" ชายวัยกลางกระตุกคิ้ว กำหมัดแน่นง้างชกไปด้านหน้าหมายต่อยหน้าคนปากดี
เด็กหนุ่มตรงหน้าหายไปแล้ว ! ความมืดกลืนไอ้ลูกหมานั่นได้จนมันนึกสั่น
"ปากดีใช่ไหมล่า~"
เสียงเปรยกระซิบเบาๆจากข้างหลัง
พริบตาเดียวราฟว์ดีดเท้าแฝงตนอยู่ด้านหลัง เงียบกริบและรวดเร็วที่สุด เหนือกว่านั้นกำปั้นของเด็กหนุ่มฉายแสงประจุไฟฟ้าประกายเรืองรองแล่นเปรี๊ยรอบมือถี่ๆ ไม่ให้ตั้งตัวราฟว์ก็ชกเข้าไปยังหลังตุงๆนั่น !
รอยยิ้มเหยียดกลับเป็นของชายวัยกลาง...
เสื้ออันเคยหุ้ม 'บางอย่าง' อันตุงๆชวนขัดตาถูกฉีกขาด ! เผย 'บางอย่าง' ที่ว่าสังหรณ์อันตรายออกมา
มันพุ่งเข้าหาราฟว์ซึ่งทะลวงหมัดลึกเกินจะหลีกพ้น เด็กหนุ่มเบิกตากว้าง
ใบมีดทั้ง 4 ตวัดฉับ !
โลหิตกระเซ็น....
ปากบางหอบหายใจกระเส่า เม็ดเหงื่อผุดพายโพยโผนออกรูเหงื่อเข้าโชลมอาบดวงหน้ากระด้าน เนตรน้ำตาลเขม่งมอง คิ้วยาวก็สำทับส่งด้วยการกดให้เคร่งขึ้น เมื่อมือกร้านเริ่มบีบรัดสีข้างซ้าย เลือดก็ไหลซึมหยดไหลติ๋งเข้าให้ เ จ็บจนต้องกัดฟันกรอดข่มน้ำตาใต้ใบหน้าแค้นระคนอิดโรย
"หึ อย่างว่าไอ้ลูกหมานี่หนีไวจริงๆ" เสียงเกทับทำเอาราฟว์ตวัดสายตาเหี้ยมมองแม้ไม่ได้ผล มันยังพล่ามต่อ "แต่อย่างที่แกรู้ และแกเป็น..." มันชำเลืองแลยังแผลสากรรณ์เลือดไหลเปื้อนเต็มมือเด็กหนุ่ม กระดกมุมปากขึ้นเยาะ ลูกตาวาววับส่องความรู้สึกสมเพชทีมีต่อเด็กหนุ่มได้ชัดยิ่งกว่ากระจก เสริมต่อ "มันหนีไม่ได้ตลอด"
ราฟว์เบิกนัยน์ตากว้างกร้าน รู้สึกคันปากอยากตวาดด่าสาดมันเต็มทนขึ้นมารอมร่อ อารมณ์เด็กหนุ่มกำลังพุ่งพล่านพลานไปทั่ว เจ็บก็เจ็บ แสบก็แสบ โกรธก็โกรธ แถมเหนื่อยอีกต่างหาก โว๊ย วันนี้มันอะไรกันว่ะ !
ระบายความรู้สึกในใจก็แย้มยิ้ม ความขันลึกโดยสันดารสุดหวงก็เข้าอารมณ์นึกนิยมบุคคลเบื้องหน้า แต่หากไม่ใช่อย่าง Y ที่พวกท่าน หรือบางคนคิด มั่นใจได้เขาชายแท้ร้อยล้าน%
"แต่แกก็ทำได้ดีนี่ กับระดับรุคเรียกเลือดจากข้าได้"
ริมฝีปากคนฟังเหยียดรับ "หัวของแกจะเป็นบรรณาการเลื่อนขั้นสู่บิชอบ"
หึ อวดตนนัก !
"คิดจะติดสินบนเหรอลุง"
"เด็กอย่างแกจะรู้อะไร หากข้าได้เป็นคิง" นัยน์ตามันเริ่มเปล่งความหวังอย่างส่อตัณหาชัด "อำนาจเอย เงินทองเอย สาวงามเอย สุราเอย และแม้กระทั่งชีวิตแกทั้งโครตข้าก็ชิงมันมาได้ !" ว่าจบเสียงหัวเราะก็สะท้านขึ้น
สะท้านอย่างที่เขาไม่ชอบ ไม่สิ.... สะท้านอย่างที่เขาเกลียด !
ตำแหน่งคิงบ้าบออะไรกัน มีไปเหมือนล่ามโซ่ สาวงามก็ใช่ว่าจะงามใจไปเสียหมด สุรายิ่งแล้วใหญ่ มึนงงมัวเมามั่วสุม มันจะพังชีวิตตนเองเสียเปล่า คนละโมบผู้แสนโง่เขลา...
รอยยิ้มราฟว์ขมขื่น ประกายตาดูแคลนชัด แม้มือยังจับแผลฉกรรณ์ เปรย "ความคิดงี่เง่างมงาย"
แต่คนฟังกลับทอแววตาหมิ่นแคลนมากกว่า
"อย่างที่ควีนว่าเลย เจ้าน่ะยังอ่อนโลกนักไอ้ลูกหมา"
ไอ้ลูกหมาหัวเราะกดความรู้สึก เอ่ยปากถามข้อข้องใจด้วยวาจาเกือบขอร้อง เพียงไร้น้ำเสียงวานในคำพูดนั้น "งั้นช่วยบอกผมหน่อย ควีนคนดีของลุงคือใคร"
มันระเบิดเสียงหัวเราะลั่นก้องกัปนาท ก่อนโพล่งตะคอกกลั้วหัวเราะอย่างหยาม "กับแค่ไอ้คนใกล้ตายข้าไม่เปลื้องปากพูดหรอกโว๊ย !"
ราฟว์สดับฟังเงียบ ใบหน้าเรียบแปรยิ้มรับพยักหน้าหงึกเห็นด้วย
"อื้อ"
สิ้นคำ ! ราฟว์ก็กลืนตัวเข้าแฝงความมืด
ไร้เสียง... และรวดเร็วถึงขีดสุด
เจ้าของดวงตาแดงเพลิงกลับเริ่มละเลิกละลัก มันหันหน้ามองซ้ายขวาหวาดหวั่นระแวง
ชายวัยกลางยืนผวาท่ามกลางความมืดมิด สอดส่ายสายตาระแวดระวัง เสียดลมหวีดหวิวเข้าเสียดใบไม้รอบๆ เสียงแม่น้ำลำธารก็ยังคงไหลซ่าอย่างที่เคยเป็น ประหนึ่งไม่มีราฟว์อยู่แต่แรก...
แกร๊ก...
เนตรเพลิงตวัดหันทันที !
หมู่แมกไม้ยังคงเช่นเคย ชายวัยกลางพยายามคิดในแง่ดีอย่างไม่เคยมีมาก่อน ..ไม่หรอก แค่ลมหวีดเสียดกิ่งไม้เอง... มันก็แค่...ลม
ทว่า... นั่นกลับยิ่งทำให้ความระส่ำระส่ายก่อเกิดกัดกินจิตใจมัน มันไม่รู้ว่าเด็กนั่นจะออกมาเมื่อไร เด็กนั่นคงลงมือเพียงพริบตา แล้วความคิดก็สะท้อนภาพชวนสมเพชตัวเอง ชายวัยกลางกัดฟันกรอด~
นี่มันกลัวอะไรอยู่...? กับมัน ! ที่มีกล้ามเนื้อกายกำยำหนาใหญ่ เรี่ยวแรง พละกำลัง และแผลที่มีก็เพียงรอยช้ำบริเวณต้นคอจากฝ่ามืออันหวังตัดเส้นประสาทติดแค่ว่าไม่สำเร็จ หากเทียบกับไอ้เด็กตัวกระจ้อยร่อยไร้เรี่ยวแรงมาเทียบเทียม ความคิดผลุนผลันไร้สมองตรองไตร่ อีกทั้งแผลฉกรรณ์บริเวณสีข้างยังฝังลึก แค่ยืนมาโต้วาทีกันได้ก็ถือว่าทรหดได้สุดขีดจำกัดแล้วกระมัง
ชายวัยกลางยังคงยืนตั้งท่า สภาวะจิตใจไม่พรั่นพรึงเหมือนก่อนแล้ว แต่สีหน้ายังคงฉายแววระแวดระวังดุจเดิม นัยน์ตาแดงฉาบฉานยังคงตวัดมองทุกครั้งที่เกิดเสียง กระนั้นก็ยังไม่มีวี่แววของผู้อาศัย มันพยายามจับกลิ่นเลือด กลับกัน ราวฆานประสาทมันจะบกพร่องเสียเอง กลิ่นเลือดได้เลือนลางหายไปจนแทบสัมผัสไม่ได้
ระยะเวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ สถานการณ์ได้กดดันนเส้นประสาทตึงเครียดจนเส้นเลือดเต้นตุ๊บๆ เด่นชัด นอกจากเสียงสิ่งแวดล้อมอันเป็นลม น้ำ จิ้งหรีดแล้วมันได้ยินเพียงเสียงชัพจรเต้นระส่ำ มือเริ่มเย็นชื้นขึ้น ทว่าชายวัยกลางยังคงตั้งท่ารอ....
ไอร้อนถูกขับไล่ออกทางปากร้องแฮ่ก...แฮ่ก... ขณะที่ราฟว์ยังฝืนเคลื่อนเท้าไม่หยุด จากวิ่งเป็นเป็นเดิน ตามด้วยย่างเท้าถี่ๆ และหยุดลงในที่สุด เมื่อขาสองข้างสั่นกึกไม่อำนวย เขาพยายามพยุงร่างจากต้นไม้ข้างๆ ความอึดถึกซึ่งเคยถูกประนามบ่อยครั้งก็สิ้นฤทธิ์
สองเข่ากระแทกลงกับพื้นดิน ตาของเด็กหนุ่มเริ่มลาย กระนั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งการกัดริมฝีปากเรียกสติ เพราะตรงสีข้างเขาก็แสบเต็มกลืนแล้ว ราฟว์ค่อยๆเคลื่อนกายเข้าแฝงกายในหมูแมกไม้รอบด้าน หวังให้ต้นไม้พวกนี้ได้ปกคลุมร่างจากอันตราย เขาเอนหลังพิงเข้ากับต้นไม้ต้นหนึ่ง ค่อยๆเบือนมือข้างกุมแผลฉกรรณ์มามอง
ขนาดยาจกก็ยังรู้ว่าแผลหนัก มือของเขาชุ่มด้วยเลือดราวกับเพิ่งไปจุ่มหมึกแดงมาหมาดๆ
นี่เลือดเขาหรือเนี่ย ? คิดแล้วพลางทำหน้าเหยเก ...ชริ จะแบ่งไปที่หัวบ้างไม่ได้หรือไงนะ ปล่อยไปแบบนี้เสียดายชะมัด บ้าจริงไหลหยั่งกับเปิดก๊อกเลย แล้วนี่หัวข้าจะทนประคองสติไว้ได้เท่าไหร่เนี่ย
ราฟว์คิดค่อยๆไพล่นอกเรื่องไปไร้สาระอย่างสันดารชอบพา และเหตุผลที่ไม่แก้ไขนิสัยหรือจะเรียกข้ออ้างก็เป็นได้คือ ไม่อยากเครียดวิตกกังวลกระมัง มันคงดูงี่เง่ากับสถานการณ์อื่น แต่วินาทีนี้คงเหมาะสมที่จะขุดขึ้นมาใช้
"แต่ไอ้ลุงแมงมุมนี่ก็งี่เง่าแฮะ"
มิวายยังว่าคนอื่น ช่างไม่เหมาะกับปากของเด็กงี่เง่ายกกำลังสอง สาม สี่เสียเหลือเกิน
"รู้ทั้งรู้ ข้าเจ็บจนกระอัก ใครจะบ้ามุทะลุเข้าไปแส่หาเรื่องตายซะล่ะ ดูท่าไอ้ควีนนั่นไม้ได้บอกล่ะซิว่าข้าก็ 'ขี้ขลาด' ไม่ได้หาญราญชาญชัยเสียทุกเรื่อง แล้วนี่สาแก่ไหมล่ะ ให้ยืนขาแข็งเครียดกินกบาลไปทั้งคืน"
ว่าพลางก็หัวเราะ แล้วเจ็บจี๊ดขึ้นอีกรอบเมื่อมันเสียดเข้าแผลโดยตรง
"ป่านนี้คงรู้ตัวแล้วมั้ง ไม่ล่ะคนโง่อย่างมันรึ หึๆๆ เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับท่านราฟว์"
เสริมอีโก้ให้ตัวเองเสร็จสรรพ์ มือปริศนากลางความมืดหลังเด็กหนุ่มผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ก็โผล่ขึ้นกลางความมืด...
"รอให้แผลนี่หายก่อนเถอะ พ่อจะจับมาเชือ...ด- !"
น้ำคำหายไปพร้อมสีหน้าซีด แว๊ปหนึ่งเด็กหนุ่มรู้สึกถึงมือใครจับหมับเข้าให้ที่ไหล่ ความสับสนปนเปก็อลหม่านขึ้นในจิตใจอย่างคุมไม่อยู่ ร้องลั่นทันที
"ว๊ากกกก ลุกอย่าเพิ่งกินข้า ข้ามันไม่มีเนื้อให้โซ้ยหรอกนะ จ๊าก ! " พลางหลับตาปี๋ ป่ายมือสะแปะสะปะ ราฟว์เดาได้ถึงหน้าตากราดเกรี๊ยวของชายวัยกลางได้เป็นฉากๆ ไม่ว่ามุมมองไหนก็มีเงาดำทะมึนๆทั้งนั้น ทว่า... จิตใต้สำนึกในเรื่องสันดารยังริคิดพลาน ไอ้นี่ ชีวิตยาวชิบ !
"แว๊ก อย่านะ อย่านะ ! "
"ซ้อมละครอยู่รึไงทริช"
เสียงไม่คุ้นหูว่าขึ้น ราฟว์หันไปมองด้วยประกายตารื่นใส เอิบอิ่มด้วยน้ำตาอันคลอเบ้าที่เจ้าตัวรั้งไว้ไม่ยอมเสียเกรียติ
_____________________________________
ดู Gallery ทั้งหมด << คลิ๊กคร้าบ
ความคิดเห็น