ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chess : (Lycanthrophy) _ แขกยามราตรีกาล
ดวงจันทร์กลมโตลอยเด่นหรากลางนภามืดกำมะหยี่ เสียงหวีดหวิวลมพัดผ่านเป็นระลอกเรื่อยไป พัดให้กิ่งไม้ใบเสียดสีกันพร้อมพาใบแก่ลอยไปด้วย ประดุจเป็นเสียงเพลงบรรเลงจากธรรมชาติ... แล้วเสียงผู้ร้องไม่พึงฟังก็ขับขึ้นตาม
"พี่อัฟฟา ถึงรึยังอ่ะ~ " เด็กหนุ่มผมยุ่งเหยิงสีน้ำตาลเข้มซอยสั้นนาม 'ราฟว์' เอ่ยบ่นพรึมเป็นครั้งร้อยกว่า มือก็บ่ายเบี่ยงเหวี่ยงแหวกกิ่งต้นไผ่แล้วช้อนขาเดินแทรกผ่าน
"อีกนิดน่า" อัฟฟาตอบอย่างเอือมระอา เหนื่อยก็เหนื่อย เหนื่อยที่จะเดิน เหนื่อยที่จะฟัง รวมกันก็เป็นเหนื่อยยกกำลังสอง คิดแล้วก็ชวนเหนื่อยอีกรอบ จนจำต้องถอนหายใจระบายออกมา ค่อยแหวกไม้ไผ่เดินเข้าไป
"อีกนิดที่ว่าน่ะ กี่กิโล กี่เมตร กี่เซ็น กี่มิล กันเล่า" ราฟว์บ่นคราง
"โอ๊ย พอเข้าไปใจกลางดงไผ่นี่ก็ถึงแล้วน่า มีแรงมาบ่นก็หัดแบ่งแรงมาเดินซะ ! " น้ำเสียงตัดพ้อตวาดใส่ในรวดเดียว เล่นเอาคนไร้แรงเดินเงียบกริบไปฉับพลัน แต่ยังมิวายส่งคำระคายหูบ่นงุงิออกมา "ใจร้าย~"
______________________________________________________________________________________
Chess : (Lycanthrophy)
ผู้มาเยือนยามราตรีกาล
______________________________________________________________________________________
นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มกวาดตาแลรอบสภาพแวดล้อมหลังจากเข้ามาใจกลางดงป่าไผ่ มันเป็นที่ราบกว้างอยู่พอตัว แสงจันทร์สาดส่องเข้าหาได้ที่จนชัดตา ใจกลางพื้นไร้หญ้าก็ประดับด้วยรอยขูดขุดลึก เป็นรูปวงแหวนเวทดาว 5 แฉกพร้อมอักขระประหลาดภายใน
สำรวจสภาพแวดล้อมจบก็มาสำรวจตนดู เสื้อกล้ามดำ 4 แฉกจากเคยยุ่งเหยิงยับย่นอยู่แล้ว กลับเพิ่มอีโก้เข้าไปด้วยรอบข่วน ใบไผ่ซะเต็มตัว นึกพลางก็ปัดๆเอาเสื้อให้เรียบๆอย่างขอทีไปพลาง ค่อยแกะเศษใบออกไป ใจก็แต่หวังไว้หนอนไผ่คงไม่ติดมา ไม่งั้นเขาคนหนึ่งล่ะที่ไม่คิดจะเหยียบที่แห่งนี้เป็นครั้งที่ 2
"ราฟว์" เสียงเรียกสั่งตาคู่ขยับหันมองตาม อัฟฟากวักมือเข้าหาให้มาใจกลางวงแหวนเวท เด็กหนุ่มเดินเข้ามาอย่างว่าง่าย "ยืนอยู่ตรงนั้นสักพักมันจะส่งเจ้าข้ามมิติไปเอง"
"อื้อ"
"อวยพรให้โชคดีนะ" อัฟฟากล่างยิ้มจริงใจ ไอตัวดีก็กล่าวยิ้มจริงใจเช่นกัน ต่างเพียงเป็นยิ้มยั่ว
"เฮ้อ อิจฉาคนกำลังจะสบายวุ๊ย แต่ก็สงสารคนไม่มีแฟน" ว่าจบก็แสร้งถอนหายใจ หน้าตาน่าแตะจนคนไม่มีแฟนแทบจะเดินเข้าไปบรรลุเป้าหมายถึงที่
พลัน ! แสงเรืองเหลืองทองก็เรืองรองขึ้นจากพื้นเป็นรูปวงแหวนเวท ราฟว์ผงะเล็กน้อย ก่อนกล่าวคำสัพยอกหยอก "อ่า แอฟแฟ็คเยอะดีจังพี่อัฟฟาเนี่ย"
"ไม่ใช่แอฟแฟ็คที่ข้าทำ ตอนนี้มันกำลังจะพาเจ้าข้ามมิติอยู่รอมร่อแล้ว" อัฟฟาว่าหงุดหงิด
"ห๋า จริงง่ะ ? "
"แล้วข้าจะโกหกเจ้าไปทำไมเล่า"
"โกหกไปทำเล่นมั้ง" คำพูดที่เริ่มสร้างแววปรอทแตก อัฟฟาเหยียดยิ้มเหี๊ยม คนมองถึงกับสะอึก เจ้าตัวเลยหัวเราะแห้งๆแก้ต่างพลางขอโทษขอโพยไปทางสายตาเอา อึดใจต่อมาแสงทองก็จ้าขึ้นจนมองแทบไม่เห็น
"ลาละครับ" เสียงหายไปพร้อมกับตัวตน
ทิ้งสรรพสิ่งเงียบเชียบมืดมิด
มืด.... ?
ก็แหงล่ะเปลือกตาเขายังประกบกันอยู่นี่ เตือนความจำจบก็จะเผยอเปลือกตาออก จู่ๆความคิดระแวงก็พุ่งพรวดเข้าหัวเข้าให้
....ถ้าหากตัวเขาจู่ๆโผล่มายืนท่ามกลางเหล่าหมู่ประชาชีล่ะ ? มัน... สมควรจะทำยังไง ?
แล้วจิตใจก็เริ่มร้อนรนเร่งหาข้อแก้ตัว เหงื่อผุดเป็นเม็ดออกมาบ่งความหนักใจแม้ยังปิดเปลือกตาอยู่ ทำไงดี... ทำไงดี.... ไม่นานความคิดสุดเจ๋งก็แล่นปราดเข้าสมองอันรับงานต่อเนื่องถนัดนี่
"ดีครับ ! " ราฟว์ยิ้มโชว์ฟันกางมือขึ้น แต่ภาพเบื้องหน้าทำเด็กหนุ่มแข็งทื่อ กระดากอายแทบอยากกัดลิ้นให้เลือดออกตาย ...นี่เขาเป็นบ้าอะไรนี่ !? ส่งไม้ส่งมือยิ้มพูดกับ.... 'โถส้วม !!!'
ทวนอีกรอบก็สังเวชตัวเอง โรคจิตยังไงหยั่งงั้นก็ไม่ปาน จิตนึกย้ำเตือนหนัก ...ลืมซะ ลืมมันซะ ลืมโว๊ย !
เมื่อทำใจได้ก็เลื่อนล็อกแง้มประตู
ราฟว์แหล่ซ้ายขวาอย่ขณะ เมื่อไม่เห็นคนก็เดินออกมา เบื้องหน้าเป็นกระจก ซ้ายกระดาษชำระ คิดไปไกลก็สังเวชตัวเองรอบ 2 จิตนึกย้ำเตือนหนัก ...ลืมซะ ลืมมันซะ ลืมโว๊ย !
แล้วเสียงเพลงบรรเลงเคล้าเสียงจ้อกแจ้กคุยโจคร่าวๆก็กระทบเข้าหูเรียกสติ หางตาเหลือบเห็นประตู ครั้นจะเปิดออกสัญชาตญาณก็เตือนชะงักดึงมือกลับเข้าล้วงกระเป๋ากางเกงดำ ก่อนหยิบแหวนทองวงเกลี๊ยงออกมาสอดเข้านิ้วเข้ารู มันเปล่งแสงขาวสว่างชั่วครู่ดับไปพร้อมปรากฎหน้ากากในรูปแบบหมวกทรงสุนัขจิ้งจอกสีน้ำตาลเข้มแทน
เด็กหนุ่มใส่สวมกระชับ หน้ากากจิ้งจอกเผยริมฝีปาก และปอยผมอันแฉลบออกมา เขาก็เปิดประตูเดินออกไป
ทันที่ที่เปิดประตูออกหลากเสียงก็กระชันขึ้น ก่อนเจ้าตัวจะก้าวฝีเท้าพลางปรับหูให้เข้าสถานการณ์ เด็กหนุ่มเดินออกจากตรอกห้องน้ำ สุดทางเป็นแสงสีส้มออกเหลือง เดาได้ว่าคงเป็นสปอตไลท์ ยิ่งใกล้แสงนั่นมากเสียงก็ยิ่งมากตามทุกฝีเก้า แต่ไม่ทันที่จะได้สังเกตุอะไรไปมากกว่าแสงไฟ เงาดำของบุคคลร่างยักษ์ก็พาดทับเขาเข้าให้ ราฟว์เงยหน้ามอง
ชายหนุ่มถึกร่างบึกบึนในชุดซามูไร คาดด้ามดาบยาวไว้ตรงเอว มองลงต่ำ สายตาเย้ยหยันปรามาสประเมิณกดต่ำจนคนถูกมองแถบจะหัวติดดิน "เฮ๊ย ถอยดิว่ะ"
ราฟว์แทบจะฮุกซ้ายเข้าให้ ติดที่ว่า ถ้านี่เป็นดงซามูไรเถื่อนเขานี่ล่ะซวยทีหลัง เด็กหนุ่มขยับขาออกอย่างเสียมิได้ คิดแล้วก็กัดฟันกรอดเบาๆ แต่ความคิดถัดมาเล่นซะลมหายใจสะดุด
ถ้าหาก.... อีกครึ่งร่างของเขาเป็นพวกแบบน้ล่ะ !? คิดพลางนึก บุคคลไร้หน้า หัวโล้นไล่ลงค่อยมีผมผูกมวยตามฉบับซามูไร เพียงแค่นี้ก็สั่นหงึก แต่ใจเจ้ากรรมก็พาลระแวงหนักหนา หยุดความคิดไม่อยู่ ....แล้วหากเป็นหัวหน้ากลุ่มดงซามูไรเถื่อนล่ะ !?
แล้วบุคคลภาพจินตนาการก็ถูกเสริมเติ่มปั้นแต่งหน้าให้เคร่งแกร่งขึ้น ปะทับต่อด้วยรอบหน้าบากกลางหัวอย่างหัวหน้ากลุ่มโจรผู้ชั่วร้ายในหนังสือการ์ตูนมักมี เพิ่มดีกรีด้วยลูกยิ้มแสยะเปล่งแสงออร่าดำทะมึนเป็นนัยน์ๆ
หัวใจเด็กหนุ่มเริ่มเต้นตึกตัก.....
ริมฝีปากหนาของบุคลในจินตนาการเริ่มอ้าปาก ลูกตาแดงฉานฉาบเหลือบมองลงมา
ตึกตัก.... ตึกตัก.....
ริมฝีปากถูกยกขึ้น
ตึกตัก ตึกตัก... !
'เฮ๊ย ถอยดิว่ะ'
'อ๊ากกกก !!!!' เพียงแค่นี้ความคิดที่สร้างขึ้นมาก็หลอนคนจินตนาการเสียเองจนร้องโหวกเหวกในใจ พาลก็พาหอบแฮ่ก
แต่นับว่าเจ้าจอร์สยังมีเมตตตา หางนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มของเด็กหนุ่มต่างมิติผู้ใกล้จะบ้าเต็มตนก็กระทบเข้ากับ
เด็กสาววัยรุ่นๆ ผมสีเหลืองสลวยถูกม้วนไว้และปล่อยยาวลงมาจนติดพื้น หน้าผากสักเสี้ยวจันทร์ไว้ ประกอบกับชุดทรงผู้พิทักษ์เช่นนั้น นั่นล่ะใช่เลย 'เซลาห์มูน !' หล่อนกำลังจับคู่คุยกับ 'สโนไวท์' ข้างๆก็เป็นเด็กชายร่างตุ๊ย ผมเรียบแปล้มันวับ มาดนักธุระกิจร้อยล้าน น้ำหนักไขมันบ่งถึงความหนักกระเป๋าตังค์ได้อย่างดี ซึ่งกำลังปรายตาดูคนอื่นอย่างปรามาส แสยะยิ้มหยิ่งราวทุกคนน่าสมเพชไปเสียหมด
และไม่ทันตั้งตัว
กำปั้นสีเหลืองอันใส่ด้วยถุงมือยางรัดสีเหลืองจากผู้สวมชุดซุปเปอร์ฮีโร่ หัวเป็นฟักทองก็ได้ส่งหมัดมาทางเขาเสียแล้ว ! ราฟว์เอี๊ยวตัวหลบไปข้างๆด้วยสัญชาตญาณ กะสวนหมัดเข้าใส่ ก็รู้ตัวคน(?)ที่มันสู้ด้วยไม่ใช่เขา กลับเป็นอีกหนึ่งซึ่งอยู่ข้างเขาพอดี
มนุษย์ลูกกวาดหลบไป แต่มนุษย์ฟักทองยังตามติดมาประกป มันทำท่าอัดพลังก่อนปล่อยออกมาครั้งเดียว
"Super Pumpkin (=ฟักทอง) พันช !!! " มนุษย์ลูกกวาดถูกเสยคางขึ้นกลางอากาศก่อนตกลงมาสลบเหมือดคาที่ ครั้งเวลามั่นเหมาะ มนุษย์ฟักทองก็กล่าวสกู๊ปพร้อมเอกซ์ท่าเด็จ "Super Pumpkin Man ได้ปราบเหล่าร้าย เจ้าอสูร Candy Man ลุล่วงแล้ว น้องๆหนูๆจำไว้ให้ดีนะ การกินลูกกวาดจะทำให้ฟันผุ มาหมั่นกินฟักทองเพื่อสุขภาพกันเถอะ ! "
สิ้นคำปรารถ ราฟว์ก็หายไปไกลเสียแล้ว....
อีกฝากหนึ่งของ 'Super Pumpkin Man' เด็กหนุ่มผมหยิกหย๊อง นัยน์ตากลวงโบ๋ เสื้อติดหยากไหย่ กำลังยื่นขวดน้ำให้กับเพื่อนของตน
แต่.... ไร้การตอบสนอง เด็กหนุ่มจึงเรียกกึ่งตะคอกซ้ำ "เฮ้ย ! 'ทริช' น้ำโว๊ย"
ใบหน้าฟักทองหันมา รับขวดน้ำไป "อ...เออขอบใจ โกย"
เจ้าของชื่อ 'โกย' หัวเราะพรืด เอ่ยวาจาระคายหูกลั๊วหัวเราะ "เฮ๊ย ฉันว่านายถอดหน้ากากซังกะบ๊วยนี่ออกก่อนเถอะ เห็นแล้วจะขำตาย"
ทริชจับปลายหน้ากากรูป Supper Pumpkin Man ช้อนขึ้นเหนือหัวทับผมสีน้ำตาลเข้ม เส้นยืดหน้ากากก็หย่อนย่นงอ ค่อยเผยใบหน้าแฝงอารมณ์หงุดหงิด นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มคุ้นขุ่มมุ่นเคร่ง ปากเถียงคำไป "นายก็เหมือนกันล่ะ ฉันเห็นหน้านั่นทีไรจะหัวใจวายตาย"
เจ้าของหน้ากากชวนหัวใจวายหัวเราะ กระนั้นก็ยังไม่ถอดหน้ากาก ค่อยว่าไปเรื่องอื่นที่สำคัญกว่า "ว่าแต่นายไม่ไปทำงานรึไง จะสามทุ่มแล้วนะ" ประโยคเตือนได้ผลจังงัง ทริชสะดุ้งทันใด ถามย้ำดังจนเกือบตะคอก "จริงเรอะ !? " แต่ไม่ทันคำตอบจะมาถึงเขาก็วิ่งออกไปไกลเสียแล้ว
ทริชขยับเร่งฝีเท้าเต็มที่ ผู้จัดการเขาไม่ใช่ประเภท 'พ่อพระมาเกิด' กลับกันอาจจะเป็น 'มารร้ายมาเกิด' ก็ได้ แอะอะก็ว่าหักเงิน ถ้าสายคราวนี้ 5% ไปแน่ๆ....
ราฟว์วิ่งเข้าเบียดผู้คนประหลาดหนีมา
ทริชวิ่งออกเบียดผู้คนประหลาดออกไป
โดยไม่ทันรู้ตัวก็สวนกันเข้าให้... แล้วในที่สุดก็ทำลายสถิตินักวิ่ง ! เขาวิ่งเต็มกำลังออกมาจากโรงเรียนโดยใช้เวลา 5 นาทีเศษ แบบนี้คงต้องจดบันทึกคัดส่งนักวิ่งทีมชาติ หากเด็กหนุ่มใจปักหลักกับงาน งาน งาน มากกว่า หรือจะขุดลึกเจาะใจเข้าไปกว่านั้นก็ เงิน เงิน เงิน อึดใจต่อมาเขาก็ผ่านประตูใหญ่โรงเรียน ซึ่งติดป้ายอยู่เด่นหรา 'Welcome To Fantasy Haven School' ไม่รู้ตัวก็ปล่อยคนต่างมิติติดเหง็กอยู่ในนั้นเสียแล้วอย่างเสียรู้เป็นที่สุด
หลอดไฟนีออนกระพริบปรี่ ติดที ดับที แล้วแสงไฟก็กระตุกทิ้งตัวดับวูปไปให้ความมืดกลืนกิน บ่งเค้าปริมาณจำนวนคนในแถบนี้ดี ระยะห่างของเสาไฟผุพังเก้กังข้างรั้วสนิมเขรอะกั้นป่ากว้าง ช่องทางสันจรแคบอันถูกขนาบไปด้วยกำแพงสีขุ่นโคลนจับ ตรอกเล็กมืดห่างไกลความเจริญขับเสียงสะท้อนของรองเท้าผ้าใบให้ก้องขึ้น เสียงหอบก็กระชันตาม
ยังดีที่เขาไม่ได้แต่งตัวแฟนซีมากมายอะไร หรือจะพูดให้ถูกเลยก็ไม่ได้แต่งเสียล่ะมากกว่า กับแค่เสื้อยืดแขนยาวขายาว เพิ่มอีโก้ขึ้นมาว่าแฟซีก็ตรงหน้ากาก Super Pumpkin Man ฮีโร่ขวัญใจเด็กๆ รายการสุดฮิต ยอดขายพุ่งพรวดในตอนนี้ แต่ถ้าจะให้เขาออกความความเห็น... 'ไม่สนุก' ที่สำคัญคือ ต้องรีบเร่งฝีเท้าให้ไปทำงานพิเศษทันภายใน 10 นาทีนี้ต่างหาก
ความคิดริดเริ่มก่อกังวลกายยิ่งหอบ แล้วจิตก็รำพันเสริมกำลังใจ
ไม่หรอกน่า ต้องทันสิ เขาอุตสาห์ลงทุนมาทางลัดแล้ว บวกกับฝีเท้านี่อีกคงทัน... สิน่า...
ไฟจากเสาไฟถูกตัดวูบ-
แค่เลี้ยวโค้งตรงหน้า....
-ก่อนจะกระพริบปรี่กระตุกไฟจี๊ขึ้นมาอีก ทริชเร่งฝีเท้ามากขึ้นกะบิดเลี้ยวตรงหน้า
รองเท้าผ้าใบลายเด็กแนวยื่นออกมา ก่อนจะค่อยๆเผยใบหน้าผู้หลบในตรอกนี้ นัยน์ตาทริชสะดุด ผ่อนฝีเท้าลงวิ่งเอื่อยๆ แสงไฟเก่ายังทำงานได้ดี มันไล่ความมืดบดบังทัศนะ เผยบุรุษผมทรงแอร์โฟร์วร่างบึกบึนออกมา
"เฮ๊ย จะรีบไปไหนว่ะไอ้หนู" ทริชชะงักฝีเท้าหยุด หันหลังกลับ พวกนักเลงในตรอกนี้ก็ทยอยเดินออกมาต้อนรับเสียแล้ว
ซวย... ถึงไม่บอกก็รู้วันนี้เขาโชคร้ายสุดกู่
"ไอ้หนูใจกล้าดีนี่มาหยามถึงนี่ได้" คนผอมเก้งพูด
"ถ้าอยากออกไปก็รีบๆจ่ายค่าผ่านทางมาซะ" ไอ้คนผมทรงแอร์โฟร์วว่าขึ้นอีกครั้ง
"ขอโทษนะครับ ตอนนี้ผมไม่มีตังค์ และกำลังรีบมากด้วย เอาเป็นว่าช่วยเปิดทางขอผมผ่านไปด้วยนะครับ" พูดอย่างสุภาพ ไว้วานอย่างไว้ตัว แต่คนไถกลับตัวสั่นหงึกราวไปจี้เส้นเข้า ! มันตวัดสายตาวาวโรจณ์ ความทะนงผลักฝีเท้าเร่งประชิด พลางคำราม "มาถึงนี่กล้าพูดงี้อีกนะ ถ้าไม่มีตังค์ล่ะก็... เอาฟันมาจ่ายแทนล่ะกัน !! "
ทริชสะดุ้ง !
ชายผมทรงแอรโฟร์ววิ่งเข้าเงื้อหมัดไปด้านหลัง ลำตัวเข้าหาเด็กหนุ่มได้เหมาะก็ง้างกำปั้นกราดใส่หน้า
ทริชโก่งตัวงอข้อพับลง หลบในท่านั่งก้ม
ชายอ้วนอีกด้านไม่เลิกรีรอรีบวิ่งหาเพียรทุบไม้เบสบอลเข้าใส่เต็มแรง ทริชทาบฝ่ามือทั้ง 2 กับพื้น เกรงแขนเกร่งดีดเท้าขึ้นให้ตั้ง ไม่ทันให้พวกมันได้พูดพร่ำทำเพลง เขาใช้ปลายรองเท้าผ้าใบกระแทกใบหน้าคนผมทรงแอรโฟร์วทันที !
เด็กหนุ่มแทบไม่มองผลงานรีบตวัดเท้าลง ตั้งตัวได้พลันก็วิ่งชกไอ้อ้วนอีกรอบ มันล้มฟลุบไป เวลาเดียวกับเสียงนาฬิกาดังจากโรงเรียนแว่วเข้าโสตหู
ทริชรู้ดีว่าหมายถึงกระไร ความหงุดหงิดก็พลุ่งพล่านขึ้น เปรยน้ำเสียงขู่กระชาก "บอกเป็นครั้งสุดท้าย เปิดทางซะถ้ายังไม่อยากเป็นเหมือน 2 ตัวนี่" เขาเน้น 'ตัว' อย่างชวนขนหัวลุก เสริมต่อ "เวลาฉันไม่ค่อยมีก็จริง แต่ถ้าพวกนายยังแกะกะลูกตาอยู่ เวลาพวกนายนั่นแหละจะจบไป !" พร้อมเขม้นตาดุใส่
กลับกัน ! มันกลับลายราดน้ำมันใส่กองเพลิง ชายหนุ่มร่างบิ๊กกล้ามใหญ่กัดฟันกรอด~ แค่นเสียงรอดไรฟัน "หยามกันนัก" ท่าทางราวคุมเชิงคล้ายหัวหน้า อึดใจต่อมาก็โพล่งขึ้นประกาศลั่น "พวกแก ! เล่นให้มันรู้ฤทธิ์นี่ถิ่นกู !! "
ลูกน้องอีก 3 คนกังขาอยู่ชั่วครู่ก่อนออกตัววิ่งไป เพราะหากพวกมันยังริคิดต่อต้าน จะโดนเฆี่ยนเอาเสียเอง
"ชิ" ทริชสถบ
ชายผิวสีโอวัลติลวิ่งเข้าหาหวดเท้าเข้าใส่ ทริชเอนหลังหลบพร้อมจับขามันหมุนพลิกทันใด ก่อนบิดเท้าหมุนกลับหลังชิงชกชายร่างผอมผู้กำหมัดหมายชกติดเพียงโดนแย่งฉากไป มันทั้งคู้ล้มลง
ทริชเอี๊ยวหลบแส้ดำ มันฉกเนื้อผ้าเขาไป เรียกเลือดซิบ กลับกันตรงที่ควรเจ็บกาย เขากลับเจ็บใจกว่า ...เสื้อยิ่งน้อยๆอยู่ ! แล้วค่อยเบือนหน้ามองผู้กุมแส้
เป็นชายคนเดียวกับที่สั่งลูกน้อง มันฟาดแส้มาอีกหน ทริชยกเท้าขึ้นหลบ เวลาที่บั่นทอนทำให้ใจเขายิ่งร้อนรน ใส่ลูกบ้าวิ่งเข้ารนหาที่เสียเอง !
แล้วก็โดนดีเข้าจริงๆ
แส้ดำฟาดเข้ากลางลำตัวเด็กหนุ่มจนต้องเซถลาหงายหลังกระแทกพื้น
ความแสบเรียกมือกร้านให้สัมพัส ทริชเอามือแตะหน้าท้องเบาๆ แล้วจำต้องร้องซีดหรี่นัยน์ตากลั้นเจ็บ เลือดเริ่มซึมผ่านเสื้อยืดออกมา เผยน้ำแดงๆจากแผลยาว
ฉับไว !
เงาดำตะคั่วผุดออกมาด้านหลังเด็กหนุ่ม ! ความมันจากขวดเหล้าที่มันยกประสานขึ้นเหนือหัวล้อแสงเล่น ทริชสะดุ้ง ไม่ทันตั้งตัวมันทุบขวดลงหัวเด็กหนุ่มฉับพลัน ! เศษแก้วปลิวว่อน แอลกอฮอล์ถูกเทละลอกออกไหล เข้าสาดเสื้อทริช
ทว่า... ยังดีแค่โดนสาด เมื่อช่วงวิเด็กหนุ่มกลิ้งตัวหลบไปกับพื้นทัน เพียงไม่สามารถหลบน้ำเหล้ากระเซ็นได้
เจ้าคนเตี้ยเท่าตุ่มจอมฉวยโอกาศสถบเสียดาย
เด็กหนุ่มแทนที่จะยิ่มยั่วส่ง กลับต้องรีบกระโจนหลบปลายแส้ดำโดยสัญชาติญาณ
ทริชลุกยืนขึ้นตั้งตัวได้ขวดเหล้าก็ถูกปาเข้า เขาเอี๊ยวหลบใจก็พลางนึกชื้นขึ้นเมื่อขวดเหล้าอาวุธ 1 เดียวของมันห่างมือไปเสียแล้ว ติดว่าใจกลับดิ่งลงพลัน เพราะขวดเหล้าถูกเตรียมไว้หลังมันนับสิบ
ว๊อย ! จะกระดกอะไรปานนี้
แส้ดำตวัดฉก ! สติดึงมือป้องท้อง ไม่ยอมรับซ้ำสองให้แผลฉกรรณ์ กระนั้นยังจำต้องยังหรี่ตาข่มเจ็บจากแผลใหม่ ริมฝีปากเม้มแน่นสะกดเสียง เจ็บทั้งตัว เจ็บทั้งใจ ช่างเป็นความรู้สึกชวนหงุดหงิดสิ้นดี
แล้วเด็กหนุ่มก็ก้มลงหลบขวดเหล้า เพียงเศษแก้วยังสะท้องจากเสามาบาดแก้ม ทริชกัดฟันกรอด ก่อนเปรยเสียงเรียบแทบกระซิบ "ช่วยไม่ได้แฮะ" เขาเอือมนิ้วไปด้านหลัง เผยช่องโหว่อย่างอีกฝ่ายไม่คิดจะพลาด !
สบโอกาศ !
ชายกล้ามใหญ่ตวัดแส้ไปทันควัน เด็กหนุ่มรีบตวัดมือทันใด
แส้ดำดิ่งฉกไล่เร็วไร้จะมองชัด
มือกร้านพุ่งแหวกรุกรวดจนกลืนหายไป
เพี๊ยะ !!
เสียงแส้ดำตวัดฉก
ฉก.. ฉกกับพื้นธรณี... ปลายแส้ถูกตัดขาด !!
ชายหนุ่มเจ้าของแส้เบิกตากว้างฉับพลัน เหงื่อผุดพรายขึ้นโอบหน้า พึมพำเสียงสั่น "ทำ-"
หมัดหนักเข้าอัดใบหน้าเต็มแรงดัง ปึก! เจ็บสะท้านทั่วร่างกระทั่งตัดเส้นประสาทรับรู้ให้จมสู่ความมืด มันล้มคว่ำกระแทกพื้นซีเมน
เด็กหนุ่มเลื่อนสายตามองหาอีกคน เหลียวหลังไปทางเสาไฟฟ้าผุเก่า ไอ้เตี้ยยืนตัวสั่นหงึก ครั้นเขาหรี่นัยน์ตาขู่ข่มด้วยท่วงท่าเดินหา มันสะดุ้งสติสะเทือนแตกยับรีบกระโพกกระเพกหนีหายลับไป
ลมกรรโชกพัดมา ความคุกรุ่นก็ถูกพัดไป
ทริชเหนื่อยหอบมือปาดทั้งเหงื่อทั้งเลือด ก่อนสำรวจสภาพตัวเอง เห็นแล้วอนาจใจ ไปสายยังไม่พอ พูดใหม่ก็ได้คือ สายมากๆ ดีกรีมีกลิ่นเลือด เสริมสภาพย่ำแย่แบบนี้อีก ใจก็พลันร้องขอถึงเทวดาสาธุ พระเจ้าจอร์สมัน(สัมปะหลัง)ยอดมากก็ยอม หรืออะไรก็ได้ อย่าให้เขาโดนไล่ออกเถิด
ภาวนาเสร็จก็ติดสปีชใส่เกียร์เท้าวิ่งเต็มแรง เลี้ยวเข้าตรอกผ่านป่าใหญ่...
ซึ่งหากลองมองลอดแมกไม้ลึกเข้าใจกลาง...
แผ่นหลังอีกหนึ่งหนุ่มผู้เดียวดายกำลังนั่งกอดเข่าจุ้มปุ๊อยู่ริมแม่น้ำ
___________________________________________________________
ดู Gallery ทั้งหมด << คลิ๊กคร้าบ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น