ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    OverLeaf Ep 1 Rise of Enqueue [กำเนิดเอ็นคิว]

    ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 5

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.พ. 53


    บทที่ 5

     

    ห้องขังมืดมิด ขณะนี้กำลังตกอยู่ในความเครียด กีอัสนั่งกุมขมับ ส่วนจินก็ปล่อยจิตสังหารออกมาเป็นระยะ “ได้โปรดเถอะขอรับ” ฮอร์นและเอ็นคิวตนอื่นๆ คุกเข่าอ้อนวอน

     

    “จิน คลารี่กลับมาแล้ว!!!” ร่างเล็กสีขาววิ่งเข้ากอดร่างโปร่ง จินคลี่ยิ้มยินดีกระชับร่างเล็กเข้าแนบกาย ...อุปกรณ์คลายเครียดของเขามาแล้ว... ดวงตาคมประดุจเหยี่ยวมองแผลที่ริมฝีปากของเพื่อนสนิท

     

    “ไปทำอะไรมา” นิ้วเรียวสัมผัสริมฝีปากนิ่ม บาดแผลจางหายไปอย่างน่าอัศจรรย์ แม้บาดแผลจะหายไปแล้วแต่ริมฝีปากอวบอิ่มยังคงแดงเจ่อไม่หาย จินมองอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถาม

     

    “คลารี่ไปพาเพื่อนมาเพิ่ม โครว์มานี่สิ” คลาเร็ทโบกมือเรียกชายหนุ่มสีรัตติกาลที่บัดนี้ตกตะลึงกับความจริงที่ว่า แสงจันทร์ของตนมีเจ้าของแล้ว

     

    ดูเหมือนจินจะตีความสายตาสีทับทิมออก ร่างสูงคว้าร่างเล็กให้นั่งลงบนตักของตน สองมือรวบเอวบางไว้ แล้วเกยคางบนศรีษะนุ่ม ก่อนจะหันไปยักคิ้วให้ผู้มาใหม่อย่างสะใจ

     

    กีอัสมองเพื่อนหนุ่มแสนเงียบอย่างกลุ้มใจ ...ไอ้นิสัยหวงของนี่แก้ไม่หาย... ดวงเนตรสีอำพันมองชายหนุ่มผู้มาใหม่ ด้วยความเห็นใจจึงเอ่ยปาก “นายชื่อโครว์สินะ เรา กีอัส เป็นเพื่อนของคลารี่ ส่วนนั้นจิน ก็เป็นเพื่อนของคลารี่เหมือนกัน” ดูเหมือนหนุ่มผิวแทนจะเน้นคำความเพื่อนหนักไปนิด เจ้ามองสายตาคมจึงได้ส่งจิตสังหารคมดั่งมีดมาให้เป็นของกำนัล

     

    กีอัสแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มือหนาโบกเรียกเก้าอี้ พื้นหินยืดตัวขึ้นกลายเป็นเก้าอี้ให้ชายหนุ่มเส้นผมสีอีกา “นั่งสิ” ดูหนุ่มผิวแทนจะจงใจแกล้งเพราะเก้าอี้ที่ว่าอยู่ข้างร่างสูงนามจิน

     

    “อ้าว กีอัส นายอยู่ด้วยเหรอ” คลารี่ส่งเสียงทัก “เออสิ อยู่มาตั้งแต่แรกแล้ว”

     

    “ทำไมเมื่อกี้คลารี่ไม่ยักกะเห็น” กีอัสส่งเสียงในลำคอ “เหอะ คนอย่างฉันมันไม่สำคัญนิ” ...จะให้เห็นได้ยังไง เจอหน้าจินก็วิ่งหูตั้งหางตั้งเข้าไปหาแล้ว...

     

    “งืมๆ ว่าแต่พวกนายตั้งลัทธิอะไรกันเหรอ” คลาเร็ทชี้มือไปยังเอ็นคิวตนอื่นๆที่คุกเข่าหมอบตัวลง คล้ายกำลังคำนับพวกเขาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้

     

    “เปล่า พวกเขาขอให้เราเป็นผู้นำน่ะสิ” กีอัสบ่นพร้อมกุมขมับอีกครั้ง “ผู้นำ??”

     

    “ได้โปรดเถอะขอรับ ถ้าเป็นพวกท่าน เหล่าเอ็นคิวจะได้กลับมาเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง” ฮอร์นแทรกขึ้นมา “พวกเราแค่อยากใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเท่านั้น ได้โปรดพาพวกเราไปกับท่านด้วยเถอะ”

     

    “หืม? ก็ไม่ต่างไปจากที่คลารี่คิดไว้ แต่แน่ใจแล้วเหรอ คลารี่ไม่มีอะไรเลยนะ พวกเรามีมาแค่ตัว ขนาดเสื้อผ้าที่ใส่อยู่พวกนายยังเป็นคนเตรียมให้เลย”

     

    “ขอรับ พวกข้าแน่ใจ ต่อให้ต้องตายพวกข้าก็จะขอติดตามพวกท่านไป ไม่ว่าจะลำบากแค่ได้พวกเราก็จะฝ่าฟัน”

     

    ดวงตาสีเงินหันมองเจ้าของตัก “คลารี่ตกลง จินก็ตกลงใช่ไหม??” ดวงตาสีฟ้ามีแววลังเลแต่ก็หายไปเมื่อร่างเล็กเอาหัวทุยมาไซร้แก้มพร้อมร้อง “น้าๆๆๆ”

     

    “ตกลง” เสียงทุ้มจากคนปากหนัก ทำให้กีอัสถอนหายใจ “สองในสามเสียงแล้ว พวกนายคงไม่คิดจะถามความเห็นของฉันสินะ”

     

    “เป็นอันว่าตกลง” คลาเร็ทสรุป เสียงใสเรียกรอยยิ้มยินดีจากเอ็นคิวที่กำลังคุกเข่า พร้อมเสียงตะโกนก้อง “ท่านคลาเร็ทๆๆ” ดวงตาทรงเสน่ห์ของกีอัสมองภาพตรงหน้า ...ยังไม่ทันจะตั้งหมู่บ้านตามแผน ก็ได้ประชากรซะแล้ว...

     

    ใช่แล้วแผนของพวกเขาก็คือ สร้างหมู่บ้านเล็กๆสักแห่งให้เอ็นคิวได้อยู่ร่วมกันอย่างสงบ หลังจากนั้นพวกเขาก็จะออกเดินทางไปทั่วโลกค้นหาประสบการณ์ใหม่ที่ไม่อาจหาได้จากโลกใบเก่า

     

      “กีอัส พวกทหารจะบุกปราสาทเมื่อไหร่” ร่างเล็กถามเพื่อนผิวแทน กีอัสนิ่งไปครู่ เพื่อฟังเสียงของแผ่นดิน “สักสามวันได้” คลาเร็ทพยักหน้ารับรู้แล้วโดนลงจากตักของร่างสูง “งั้นคลารี่พาโครว์ไปอาบน้ำก่อน” เด็กหนุ่มจูงมือร่างสูงเนื้อตัวมอมแมมไปหาหญิงสาวนามมารี

     

    “มารี คลารี่ทำชุดที่มารีให้ขาดซะแล้วขอโทษนะ” หญิงสาวคลี่ยิ้มงามประดับดวงหน้าสวย ร่างอรชรถอนสายบัวอย่างดงาม “ไม่เป็นไรเจ้าคะ มารีจะชุดใหม่มาให้นายท่านประเดี๋ยวนี้”

     

    “เดี๋ยวก่อน คลารี่จะไปอาบน้ำกับโครว์ ช่วยบอกทางหน่อยได้ไหม” ร่างบางรั้งหญิงสาวไว้ “ด้านในสุดเจ้าคะ”

     

    “ขอบคุณครับ มารีช่วยเตรียมชุดให้โครว์ด้วย คลารี่ไปก่อนนะ” หญิงสาวสวยรับคำ “เจ้าคะ”

     

    สองร่างเดินเคียงข้างกันด้านในสุดคือ บ่อน้ำ มีฉากไม้กั้นพอให้เป็นส่วนตัว ดวงตาสีแสงเดือนมองบรรยายกาศมืดมัวอย่างไม่ถูกใจ ร่างบางตัดสินใจสัมผัสผิวน้ำเบาๆ ริมฝีปากบางกระซิบถ้อยคำโบราณ บ่อน้ำก็เรืองแสงสีมรกต ช่วยให้ทิวทัศน์รอบกายดูดีขึ้นเยอะ

     

    “ท่านคลาเร็ทเจ้าคะ คุณมารีให้นำเครื่องอาบน้ำมาให้เจ้าคะ” เสียงเด็กสาวดังขึ้นหลังฉาก  “ขอบคุณนะ” เด็กหนุ่มขอบคุณก่อนจะรับตะกร้าสานมาไว้ในมือ เด็กสาวบิดตัวเขินอายกับรอยยิ้มหวานของหนุ่มหน้าหวาน ก่อนจะขอตัวไปทำงานอย่างอื่นต่อ

     

    คลาเร็ทนั่งตีขาอยู่ที่ขอบบ่อเพราะอาบน้ำเสร็จแล้ว ดวงตาสีเงินมองแผ่นหลังเปลือยเปล่าของร่างสูงที่พยายามแกะผมที่พันเป็นสังกะตังของตนเอง “ให้คลารี่ช่วยไหม” โครว์สะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า “มานี่สิ” เสียงหวานเรียก

     

    ร่างสูงก้าวเดินจากกลางบ่อน้ำไปหาเด็กหนุ่มที่ริมบ่อ ดวงตาสีแดงไม่กล้ามองร่างสีขาวโดยตรงแม้ที่ตักจะมีผ้าขาววางพาดปิดส่วนสำคัญไว้ก็เถอะ “หันหลังแล้วนั่งลง” โครว์หน้าแดงระเรื่อ เมื่อตระหนักว่าตนนั่งอยู่ระหว่างขาของเด็กหนุ่ม

     

    มือเรียวหยิบหวีไม้ซี่ห่าง ก่อนบรรจงสางลงบนเส้นผมสีขนกา “โครว์นายใช้เวทมนตร์ได้ไหม” เด็กหนุ่มเอ่ยถามขณะที่มือนิ่มยังคงหน้าที่ต่อไป “..ได้.” เสียงแหบนุ่มตอบเบาๆพอให้ร่างเล็กเบื้องหลังได้ยิน “โครว์ใช้เวทย์สายอะไร?”

     

    “ความ..มืด” ร่างสีนวลวางหวีลงพร้อมบทสนทนาที่จบลง “เสร็จแล้ว ไหนหันหน้ามาให้คลารี่ดูหน่อย”

     

    ดวงตาสีเงินมองเส้นไหมสีดำที่ปรกหน้าร่างสูงอย่างขบขัน “อย่าปล่อยให้ผมปรกหน้าสิ” นิ้วเรียวเอื้อมไปเกี่ยวเส้นผมยาวของร่างสูงให้ทัดหู เผยให้เห็นดวงหน้าคมคาย แพขนตาหนาขับให้ดวงตาที่เปล่งประกายราวทับทิมคมเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากได้รูปไร้ซึ่งรอยยิ้ม คนตรงหน้าจัดได้ว่าหน้าตาชนะกีอัสขาดลอย สงสัยงานนี้กีอัสคงได้เต้นเพราะมีคู่แข่งเป็นแน่

     

    “ว้าว ดูดีขึ้นเยอะเลย ไปแต่งตัวได้แล้ว เดี๋ยวจะไม่สบาย” แต่ยังไม่ทันได้ลุก ร่างสูงก็คว้าแขนบางไว้ก่อน “มีอะไร?” เสีบงหวานถาม คิ้วเรียวเลิกขึ้นเป็นเชิงถาม

     

    “โครว์...ของ..คลาเร็ท” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเบา แก้มทั้งสองเป็นสีชมพู

     

    เมื่อเหลือบเห็นประกายงุนงงในดวงตากลมโต ริมฝีปากได้รูปจึงขยับเอ่ยวาจาอีกครั้ง “อยู่..ด้วยกัน” ดวงหน้าหวานมีแววกังวลเมื่อตีความคำพูดของร่างสูงออก “แน่ใจเหรอ”

     

    “แสงจันทร์..ของ..โครว์” เสียงหัวเราะหวานใสดังจากร่างเล็ก “เอ็นคิวมีชีวิตอยู่แทบเป็นนิรันดร์นะ ถ้าทำพันธะสัญญา โครว์จะต้องอยู่กับคลารี่จนกว่าจะดับสูญนะ” ดวงตาสีโลหิตไร้ซึ่งประกายหวั่นไหว จ้องมองดวงหน้าหวานอย่างมาดมั่น จนเด็กหนุ่มใจอ่อน

     

    เสียงหวานดังก้องสะท้อนไปทั่วทั้งห้องขัง เหล่าเอ็นคิวทั้งหลายต่างหยุดนิ่งเพื่อฟังถ้อยจารึกแต่บรรพกาลที่เปี่ยมด้วยพลังและมนตร์ขลังถูกขับขานไพเราะราวลำนำจากแดนไกล

     

    “หยาดน้ำตาแห่งสวรรค์มิอาจกัดเซาะ เพลิงพิโรธจากนรกานต์มิอาจเผาผลาญ คมโลหะใดมิอาจตัดผ่าน วจีใดมิอาจสั่นคลอน แข็งแกร่งเหนือความจริง มีชัยเหนือความลวง” นิ้วเรียววาดอักขระโบราณลงบนแผ่นอกกว้าง “สายใยนี้จักรัดรึงมิอาจคลาย ผูกพันวิญญาณเจ้าเข้ากับวิญญาณข้า เคียงข้างกันชั่วนิจนิรันดร์”

     

    ร่างสูงคลี่ยิ้มยินดีเป็นครั้งแรก “ข้า โครว์จะขออยู่เคียงข้างท่านตลอดไป” อักขระเวทย์เปล่งแสงก่อนร้อยเรียงเป็นกุหลาบดำประทับอยู่เหนือหัวใจของร่างสูง ท่อนแขนบางโน้มตัวร่างสูงลงมา ริมฝีปากนิ่มประทับจุมพิตบนหน้าผากกว้าง

     

    “คลารี่ก็จะไม่มีวันทอดทิ้งนายเหมือนกัน”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×