ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    OverLeaf Ep 1 Rise of Enqueue [กำเนิดเอ็นคิว]

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.พ. 53


    บทที่ 4

     

    ร่างสีขาวเดินเข้าสู่ความมืดมิดดวงตาสีเงินทอประกายสดใสไร้ซึ่งแววแห่งความหวาดกลัว

     

    สุดปลายทางร่างเล็กก็พบกับชายหนุ่มคนหนึ่งคุกเข่าอยู่บนพื้นเย็น มือทั้งสองข้างโดนล่ามไว้กับโซ่ตรวนสีดำ ริมฝีปากไม่อาจเอื้อนเอ่ยเพราะถูกปิดด้วยสายหนังสีดำ กลิ่นเหม็นของสนิมคละเคล้ามากับกลิ่นคาวของโลหิต คลาเร็ทเดินเข้าไปหาร่างที่ถูกพันธนาการโดยไม่สนใจเสียงคำรามขู่จากร่างเบื้องหน้า ดวงตาสีเงินก็เบิกกว้างเมื่อสังเกตเห็นรอยแส้บนร่างกำยำ จิตสังหารบางเบาหลุดออกมาอย่างห้ามไม่ได้

     

    “ฝีมือมนุษย์พวกนั้นสินะ?” มือขาวลากผ่านรอยแส้อย่างอ่อนโยน เอ็นคิวบาดเจ็บบิดตัวหนีสัมผัสนุ่มนวลที่ร่างงดงามมอบให้ ดวงตาสีโลหิตเป็นประกายกร้าวดุร้าย “อย่าดื้อสิ ให้คลารี่รักษาแผลก่อนได้ไหม แผลเริ่มติดเชื้อแล้ว”

     

    “นายโชคดีนะที่คลารี่เป็นคนมาเจอ คลารี่เกิดจากน้ำค้างมายาที่ว่ากันว่าเป็นน้ำตาของหงส์เพลิงมายา ขึ้นชื่อว่าเป็นหงส์เพลิงก็ต้องถนัดเรื่องรักษาจริงไหม? ดังนั้นองค์ประกอบทุกส่วนในร่างกายของคลารี่ คือตัวยาที่มีสรรพคุณล้ำเลิศ”

     

    “อยู่นิ่งๆล่ะ คลารี่จะลงมือรักษาแล้ว” ดวงหน้างดงามก้มลงประชิดอกแกร่ง นิ่มนุ่มร้อนลากผ่านรอยแผลอย่างไม่นึกรังเกียจ เอ็นคิวผู้ถูกพันธนาการกระตุกตัวเกร็ง ลมหายใจเริ่มติดขัด ดวงหน้าซีดเซียวปรากฏสีแดงระเรื่อ คลาเร็ทลากลิ้นชื้นผ่านผิวกายชายตรงหน้าไม่สนใจร่างสูงที่ส่งเสียงอึกอักในลำคอ

     

    เวลาไหลผ่านไปอย่างเชื่องช้า แต่ในที่สุดการรักษาแสนวาบหวามก็จบลง ผู้ป่วยลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกขณะที่ผู้รักษาฉีกยิ้มพอใจในผลงานของตน ประโยคถัดมาที่ออกจากริมฝีปากกุหลาบทำให้ผู้ป่วยเบิ่งมองคุณหมออย่างตกใจ

     

    “คลารี่จะอาบน้ำให้นะ ถึงแม้คลารี่จะรักษาได้ทุกโรคแต่ถ้านายทำตัวสกปรกจนเป็นกลากเกลื้อน คลารี่ก็ไม่ยอมรักษาให้หรอกนะ”

     

    มือบางฉีกแขนเสื้อออก ก่อนกระซิบเรียกสายน้ำจากมวลอากาศ เด็กหนุ่มผู้ใช้มายาคลี่ยิ้ม แล้วลงมือเช็ดตัวชายหนุ่มตรงหน้า

     

    มายาพื้นฐานเกิดจาก น้ำ ลม และแสงสว่าง ดังนั้นถ้าเป็นธาตุพวกนี้ คลาเร็ทสามารถเรียกใช้ได้โดยไม่ต้องร่ายเวทย์

     

    ตัวเล็กจัดการทำความสะอาดโดยเริ่มจากเช็ดหน้าชายหนุ่ม มือบางปลดสายหนังที่ใช้ปิดปากของร่างสูงออก แต่เมื่อปากเป็นอิสระเท่านั้นล่ะ มหกรรมแย่งชิงผ้าก็เกิดขึ้น

     

    “ปล่อยผ้าเดี๋ยวนี้นะ นายเป็นหมาหรือเอ็นคิวกันแน่เนี่ย”

    “แฮ่~~~

    “ยังจะมาขู่อีก ทำตัวให้เหมือนมนุษย์หน่อยสิ!!!!

     

    “โอ๊ย!!!” สุดท้ายคลาเร็ทก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ร่างเล็กล้มลงกับพื้นเมื่อมือลื่นหลุดจากเศษผ้า ดวงตาสีเงินคลอด้วยหยาดน้ำตา “ถ้าก้นฉันพังขึ้นมานะ นายต้องรับผิดชอบ!!!!” เด็กหนุ่มลุกขึ้นชี้หน้าเอ็นคิวหนุ่มที่ถูกจองจำซึ่งขณะนี้กำลังสะบัดผ้าในปากอย่างเมามัน

     

    “ที่สำคัญ แม้คลารี่คนนี้จะสดใส น่ารัก ใจดี มีเมตตา แต่คลารี่ก็ถือคติว่า มีบุญคุณไม่ต้องทดแทน หากมีความแค้นจงชำระ!!!” เสียงใสยังคงดังต่อไป แม้ว่าผู้ฟังจะไม่มีท่าทีสนใจเลยก็ตาม

     

    “ดังนั้น ค่าตอบแทนที่สุนัขไม่เต็มบาทอย่างนายเป็นต้นเหตุให้ก้นอันแสนบอบบางของฉันต้องช้ำคือ ชีวิต!!

      

    ดวงตาสีโลหิตเหลือบมองเด็กหนุ่มหน้าหวานเล็กน้อยก็จะหันไปกัดเศษผ้าต่ออย่างสนุกสนาน

     

    “อย่ามาเมินคลารี่นะ!!! คลารี่รู้นะว่านายฟังรู้เรื่อง อย่ามาแอ๊บเป็นสุนัขมีปัญหาต่อหน้าเจ้าแม่แห่งวงการแอ๊บอย่างฉันนะ!!

     

    ชายหนุ่มปล่อยเศษผ้าในปาก ดวงหน้าคมที่ซีดเซียวอยู่แล้วยิ่งซีดเข้าไปใหญ่ “เธอรู้” เสียงแหบพร่าดังขึ้น ที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้ใดสงสัย ทุกคนคิดเพียงแต่ว่าเขาคือเอ็นคิวที่มีแต่สัญชาตญาณดุร้าย ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง และไม่ฟังคำสั่งใดๆทั้งสิ้น พวกนั้นจึงกักขังและทรมานเขาอยู่ในความมืด

     

    “ใช่แล้ว คลารี่รู้ และที่นายเอาแต่กัดผ้าเพราะว่าหิวน้ำใช่ไหมล่ะ” ดวงตาสีทับทิมไม่ยอมสบสายตาสีเงิน แถมแก้มยังเป็นสีแดงระเรื่อ “คิคิ มานี่ อ้าปากดีๆ คลารี่จะป้อนน้ำให้เอง”

     

    ชายหนุ่มมีท่าทางเขินอายแต่ก็ยอมอ้าปากให้แต่โดยดี คลาเร็ทเรียกน้ำออกมาเป็นก้อนเล็กๆ ให้ลอยอยู่ในอากาศก่อนจะส่งเข้าปากของชายหนุ่ม “อ้าม” สักพักชายหนุ่มก็บอกว่าพอแล้ว

     

    บรรยากาศเงียบสงัดไร้ซึ่งวาจาใดๆ ดวงตาสีแสงจันทร์จ้องลึกลงไปในดวงตาสีโรหิต ชายหนุ่มได้แต่กระอักกระอวน เพราะเพิ่งจะสังเกตคนตรงหน้าชัดๆ ร่างสีขาวดูบริสุทธิ์ สะอาด และสูงส่ง ไม่ว่าจะมองยังไงเธอก็ไม่เข้ากับสถานที่สกปรกและมืดมนแห่งนี้ “ทำไม..” สุดท้ายชายหนุ่มก็เป็นผู้เอ่ยปาก เคียวเรียวเลิกขึ้นเป็นเชิงสงสัย

     

    “ทำไมถึงต้องมาดูแล ที่นี่ไม่เหมาะกับเด็กสาวอย่างเธอ” คลาเร็ทหัวเราะ ...เด็กสาวงั้นหรือ...

     

    “คลารี่เป็นผู้ชายต่างหาก”  เด็กหนุ่มเอ่ยแก้ แต่ชายหนุ่มดูจะไม่เชื่ออย่างแรง “จริงๆนะ ถ้าไม่เชื่อ คลารี่จะถอดเสื้อให้ดู” ว่าแล้วมือขาวก็เริ่มถอดกระดุม “เฮ้ย!! ไม่ต้อง!!!!” เอ็นคิวหนุ่มตะโกนห้าม นี่ถ้ามือเป็นอิสระเขาคงพุ่งไปห้ามแล้ว

     

    สุดท้ายกระดุมเม็ดสุดท้ายก็ถูกปลดลง แผ่นอกขาวเนียนปรากฏสู่สายตาคม ดวงหน้าของชายหนุ่มขึ้นสีหันหนีไปอีกทาง “พอเปิดให้ดูก็ไม่ยอมดูอีก คนเรา” คลาเร็ทบ่น “ทำมาเป็นเขิน ผู้ชายด้วยกันไม่เห็นจะเป็นไรเลย สรุปว่าเชื่อรึยัง”

     

    เอ็นคิวหนุ่มพยักหน้าอย่างจำยอม “ดีแล้ว ถ้ายังไม่เชื่ออีก คลารี่คงต้องถอดกางเกง”

     

    “ที่นี่ไม่เหมาะทั้งกับคลารี่และกับนายหรือว่าใครทั้งนั้น มากับคลารี่เถอะ คลารี่จะดูแลนายเอง” ชายหนุ่มลังเล ร่างตรงหน้าดูสว่างไสวเหลือเกิน เขาที่อยู่ในความมืดมิดไม่เคยได้สัมผัสแสงแดด ไม่เคยรับความอ่อนโยนหรือความอบอุ่น

     

    เวลาผ่านไปจนหัวใจเริ่มชินชา แต่ว่าอยู่ดีๆคนตรงหน้าก็ปรากฏตัวขึ้น มอบสัมผัสอ่อยโยน จนเขานึกกลัว กลัวว่าหัวใจที่แสนด้านชานี้จะเต้นอีกครั้ง

     

    สุดท้ายก็ไม่สามารถต้านทานแววตาคาดหวังได้ ศรีษะที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีดำผงกขึ้นลงเป็นเชิงยอมรับ ดวงหน้าหวานคลี่ยิ้มยินดี จนชายหนุ่มรำพึงรำพันในใจ ...เจิดจ้าเหลือเกิน...

     

    “คลารี่จะปลดโซ่ให้นะ” เพียงปลายนิ้วเรียวสัมผัส โซ่ตรวนสีนิลที่พันธนาการ พลันสลายเป็นผุยผง ชายหนุ่มทรุดตัวลงอย่างอ่อนแรง แทนที่จะได้สัมผัสพื้นแข็ง ร่างสูงกลับได้รับอ้อมกอดอบอุ่นแทน

     

    คลาเร็ทจัดท่าให้ชายหนุ่มนอนหนุนบนตักของตน “พักผ่อนซะเถอะ เมื่อตื่นมา เรื่องราวเลวร้ายจะถูกสายลมพัดพาไปแสนไกล”

     

    “ช่วยเรียกชื่อ..” เอ็นคิวหนุ่มแสนอ่อนแรงบอก “บอกชื่อนายมาสิ”

     

    “..โครว์” คลาเร็ทคลี่ยิ้ม ก่อนจะกัดริมฝีปากจะเลือดสีเงินไหลชโลม “ทานสิ” ริมฝีปากอวบอิ่มประทับบดเบียดริมฝีปากได้รูปของชายหนุ่ม เพียงปลายลิ้นได้สัมผัสหยาดโลหิต โครว์ก็เริ่มดูดริมฝีปากนิ่มอย่างรุนแรง ดื่มโลหิตเงินอย่างกระหายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน โลหิตสีเงินวาวไร้กลิ่นคาว รสชาติละมุนละไมราวกับน้ำทิพย์จากสวรรค์ กระตุ้นความต้องการของชายหนุ่มไม่สิ้นสุด

     

    ร่างเล็กถอนริมฝีปากออกเมื่อสีหน้าของโครว์ดีขึ้น “ยินดีที่ได้รู้จักโครว์ เรา คลาเร็ท”  

     

    “คลาเร็ท..แสงตะวัน” คลาเร็ทยิ้ม “คลารี่ไม่ใช่แสงตะวันหรอก” เสียงหวานปฏิเสธ

     

    “เป็นแค่แสงจันทร์ คอยนำทางเหล่าผู้เพนจรในคืนมืดมิดเท่านั้นเอง”

     

    “แสงจันทร์...” ความง่วงเข้าจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัว เปลือกตาของร่างสูงปิดลงอย่างไม่เต็มใจ เขาอยากจะมองแสงจันทร์แสนอ่อนโยนต่ออีกแม้เพียงเสี้ยววินาทีก็ยังดี

     

    “ราตรีสวัสดิ์ โครว์”

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×