คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3
บทที่ 3
ร่างกายเปราะบางดั่งตุ๊กตาแก้วถูกยกขึ้นจากเตียงน้ำ เส้นผมสีขาวยาวสยายระผิวกายเนียนนุ่ม แม้เปลือกตาบางยังถูกปิดด้วยผ้านิ่ม ความงามของเอ็นคิวหนุ่มน้อยก็ยังคงเปล่งประกาย
หยกยังคงนอนนิ่งไม่ใช่เพราะว่าเต็มใจแต่เป็นเพราะขยับไม่ได้ต่างหาก
เด็กสาวที่กลายเป็นเด็กหนุ่มนับเลขในใจรอเวลาที่ตนจะกลับมาเคลื่อนไหวได้อีกครั้งอย่างใจจอใจจ่อ เสียงทุ้มแหบพร่าของชายชราที่ได้ยินในวันแรกดังขึ้นอีกครั้ง “เจ้า อุ้มเอ็นคิวเผือกตัวนั้นไว้ก่อน” ร่างที่อุ้มเธอหยุดนิ่ง หยกลอบสบถในใจ ...ไอ้แก่นี่ก็อีกคนเรียกเราว่าเผือกอีกแล้ว...
“เอาเอ็นคิวผมน้ำเงินเข้าไปก่อน” ...ผมน้ำเงิน เจลงั้นเหรอ น่าอิจฉาจังจะได้ขยับเป็นคนแรก... เสียงระเบิดตูมตามราวกับสนามรบลอยมาเข้าหูของเด็กหนุ่ม ตามด้วยเสียงอุทานอื้ออึงดังไปทั่ว
“น่าพอใจจริง เจ้าเอาเอ็นคิวผมทองเข้าไปได้แล้ว” เสียงคนแก่ดังขึ้นอีกครั้ง ...อะไรกัน ทำไมเราได้เข้าเป็นคนสุดท้ายทุกทีเลย... คราวนี้ทุกอย่างเงียบกริบมีเพียงสายลมอ่อนๆเคล้ากลิ่นหอมของดอกไม้เท่านั้น ไม่นานก็มีเสียงพูดคุยดังตามมา “ตาเจ้าแล้ว เอาเด็กเผือกเข้าไปได้แล้ว เฮ้อคราวนี้ข้าจะขาดทุนรึเปล่านะ”
ชายที่อุ้มเด็กหนุ่มนำร่างที่นอนนิ่งราวกับตุ๊กตาไร้ชีวิตวางลงให้บ่อน้ำ ผิวขาวบอบบางสัมผัสได้ถึงความเย็นที่คืบคลานเข้ามาก่อนที่ทั้งร่างบางจะจมลงหายลับไปใต้ผิวน้ำที่นิ่งสนิท
น้ำใสในบ่อชำระกลายเป็นสีม่วงขุ่น หมุนวนรอบร่างเล็กดันเด็กหนุ่มขึ้นสู่ผิวน้ำอีกครั้ง ก่อนจะโอบกอดกายขาวซีดอย่างอ่อนโยน ท่วงทำนองประหลาดลอยมาตามสายลม ฟังดูลึกลับแต่ก็เย้ายวนน่าค้นหา สายน้ำสีขุ่นห่อหุ้มเด็กนุ่มราวกับรังไหม เพียงอึดใจเดียวรังไหมก็เปิดออก เหล่าผีเสีอสีม่วงเรืองแสงนับพันก็โผบินออกมาย้อมบรรยากาศให้ดูราวกับความฝันแสนงดงาม
ร่างอรชรก้าวออกจากรังไหมที่ก่อเกิดจากสายน้ำ ปีกผีเสื้อขนาดใหญ่ที่กลางหลังกระพือเพียงครั้งก่อนกลายเป็นรอยประทับที่แผ่นหลังบาง เปลือกตาบางขยับแล้วเปิดขึ้นอย่างเชื่องช้า เผยให้เห็นดวงตางามสีเงิน เด็กหนุ่มคลี่ยิ้มเย้ายวน เพียงเสี้ยววินาทีที่หลับตาลง ทุกอย่างก็อันตรธานหายไป ราวกับเป็นภาพ ‘มายา’
หยกยิ้มหวานให้เพื่อนสนิททั้งสองก่อนจะเดินมาสมทบ ผ่านไปถึงห้านาทีกว่าที่มนุษย์รอบบ่อชำระจะรู้สึกตัว
“อ่า มหาเวทย์มายา หึหึ” เสียงแหบพร่าของชายชราเอ่ยอย่างยินดี “พาไปห้องพักได้แล้ว” ชายชราสั่งก่อนหายตัวไป
หยกรับผ้านุ่มจากชายในชุดเกราะที่เด็กหนุ่มคาดว่าเป็นคนอุ้มตนมาที่นี่ ดวงตาใสพราวระยับ ริมฝีปากบางเอ่ยขอบคุณอย่างอ่อนหวานจนชายหนุ่มหน้างแดงด้วยความขวยเขิน
“มาเถอะ” เจลเอ่ยเสียงเย็น คว้าข้อมือบางให้ร่างเล็กเดินตามตนก่อนที่เจ้าตัววุ่นจะทำให้ชายทุกคนที่พบเจอหลงเสน่ห์
หยกสำรวจรอบกายอย่างตื่นเต้น ตอนนี้เขาอยู่ในปราสาทเก่าสีเทาหม่นตามที่พบเห็นในเทพนิยายปรัมปรา ทางเดินมืดมีเพียงโคมไฟช่วยทอแสงอ่อนแรงให้พอเห็นเส้นทางเลือนลาง ยิ่งลึกกลิ่นชื้นก็ยิ่งแรง ไม่ต้องบอกก็พอเดาได้ว่า ‘ห้องพัก’ ที่ตาแก่หงำเหงือกพูดถึงคือ ห้องขัง นั้นเอง
เสียงจอแจเบื้องหน้าบอกให้รู้ว่า ปริมาณเอ็นคิวที่ถูกลักลอบสร้างนั้นมีไม่น้อย เจลขมวดคิ้วคมเข้าหากัน ตามนิสัยชอบอยู่เงียบๆของตน ชายผู้นำทางหยิบลูกกุญแจสีทองขึ้นไขปลดแม่กุญแจ ก่อนเบี่ยงตัวหลบให้ทั้งสามเดินเข้าไป
ยามทั้งสามเข้ามาเยือนห้องขังมืดรูปสี่เหลี่ยมกว้างขวางซึ่งมีเอ็นคิวอยู่ทั้งสิ้นประมาณหกสิบตน เสียงพูดคุยราวนกกระจอกแตกรังเมื่อครู่เงียบสนิท เหลือแค่สายตานับถือที่ระคนด้วยความหวาดกลัว มีเพียงเด็กตัวเล็กๆเท่านั้นที่มองมาด้วยความสงสัย
เอ็นคิวเป็นสิ่งมีชีวิตพิเศษที่สามารถแยกแยะมนุษย์ออกจากพวกตนได้เพราะมีสัมผัสพิเศษและสัมผัสพิเศษนี้ยังนำมาใช้ในการประเมินความแข็งแกร่งของเอ็นคิวตนอื่น
ด้วยสัญชาตญาณพิเศษบางอย่างที่มีมาแต่กำเนิด ทำให้เอ็นคิวมอบความเคารพแก่เอ็นคิวที่แข็งแกร่งกว่า แต่ก็มีเอ็นคิวบางส่วนที่มีนิสัยดุร้าย เอ็นคิวพวกนี้จะไม่เชื่อฟังผู้ใด
เอ็นคิวหนุ่มร่างกายกำยำคนหนึ่งเดินเข้ามาหาทั้งสามก่อนจะโค้งตัวลงทำความเคารพ “สวัสดีขอรับ กระผมมีนามว่าฮอร์นขอรับ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยทักทาย เรียกเสียงหัวเราะหวานใสได้ไม่น้อย “สวัสดีครับ นี่ กีอัส จิน ส่วนผมชื่อ คลาเร็ท เรียกว่า คลารี่ ก็ได้ครับ แล้วก็ไม่ต้องสุภาพถึงขนาดนั้นก็ได้” คลาเร็ทเอ่ยแนะนำเพื่อนสนิททั้งสองด้วยชื่อใหม่ที่เพิ่งตกลงกันได้ก่อนออกจากมิติพิเศษของจิตวิญญาณแห่งพงไพร
“ขอรับ” แม้จะรับปากแต่น้ำเสียงของฮอร์นก็ยังคงไว้ด้วยความสุภาพ คลาเร็ทส่ายศรีษะด้วยความจนใจ “มารี นำเสื้อผ้าให้นายท่านทั้งหลายหน่อยเร็ว” หญิงสาวท่าทางเรียบร้อยพยักหน้า ก่อนจะเดินนำเด็กสาวอีกสามคนมา ในมือของเด็กสาวทั้งสามคือเสื้อผ้าสามชุด
“พวกกระผมสัมผัสได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งของพวกท่านตั้งแต่ที่ท่านกำเนิดจึงได้จัดเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้พวกท่าน” ฮอร์นอธิบาย
“ขอบคุณครับ” คลาเร็ทคลี่ยิ้มหวานจนชายหนุ่มหลายคนหน้าขึ้นสี กีอัสหรือกอล์ฟไอเบาๆเป็นการเตือนสติให้เพื่อนตัวซีดเลิกหว่านเสน่ห์พร่ำเพรือ เจ้าตัวยุ่งแสร้งตีหน้าเป็นห่วงเป็นใยก่อนจะคว้าแขนจิน “จินแย่แล้ว กีอัสสำลักความน่ารักของคลารี่ล่ะ”
จินหรือชื่อเดิมคือ เจล ฉีกยิ้มสวย “ไม่ต้องเป็นห่วงมันหรอก ถึกๆอย่างมันตายยาก” ว่าแล้วจินก็อดใจไม่ไหว มือหนายกขึ้นลูบหัวเล็กๆของคลาเร็ทอย่างอ่อยโยน ...คิดถึงไซโคลนจัง ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ...
คลาเร็ทยิ้มแก้มปริกับสัมผัสเบาบางที่ร่างสูงมอบให้ โดยไม่รู้ความในใจของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย
“ตามกระผมมาเถอะขอรับ กระผมจะพาไปยังสถานที่เปลี่ยนเสื้อผ้า”
“ไม่เป็นไร” จินเอ่ยปฏิเสธ มือหนาโบกขึ้นเพียงครั้ง เสื้อผ้าทั้งหมดก็ปรากฏบนร่างทั้งสาม “ขอบใจจ้า” คลาเร็ทเอ่ยขอบคุณเพื่อนชายหน้าสวย
ดวงตาสีเงินกวาดมองรอบกายแต่แล้วก็ต้องสะดุดลงเมื่อเห็นเงาทะมึนอยู่ในมุมห้อง ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มอย่างถูกใจ “จินกับกีอัส คุยเรื่องนั่นกับฮอร์นไปก่อนนะ เดี๋ยวคลารี่มา”
ว่าแล้วเด็กหนุ่มก็ทิ้งสองเพื่อนซี้ไว้คุยเรื่องเครียดๆ ส่วนตัวเองก็เดินหายลับไปในเงาทะมึนโดยไม่ฟังเสียงห้าม
“ท่านคลาเร็ท อย่าไปครับทางนั่นมันอันตราย!!!!”
กีอัสคว้าแขนฮอร์นเอาไว้ “ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก รายนั้นเป็นพวกชอบเรื่องสนุก เดี๋ยวก็คงมีอะไรมาให้พวกเราแปลกใจอีกล่ะ อีกอย่างตรงนี้มีเรื่องที่น่าสนใจกว่าเยอะ”
“เรื่องที่น่าสนใจหรือขอรับ” กีอัสฉีกยิ้มมีเสน่ห์ตามแบบฉบับเพลย์บอยของตนจนสาวน้อยสาวใหญ่ตกอยู่ในภวังค์
“ใช่แล้ว เรื่องที่ว่าปราสาทแห่งนี้กำลังจะถูกทหารบุกยึดและ......” กีอัสเว้นช่วงอธิบายให้เหล่าผู้รับฟังตื่นเต้น ก่อนที่จะเอ่ยประโยคสะเทือนขวัญเอ็นคิวทุนตนในห้องขัง
“มีคำสั่งกระจายออกไปทั่วโลกให้กำจัดเอ็นคิวทุกตนทิ้งยังไงล่ะ”
ความคิดเห็น