คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2
บทที่ 2
ภายในโพรงไม้ขนาดใหญ่ สามหนุ่มนั่งลงบนพื้นหญ้านุ่ม ปล่อยให้จิตวิญญาณแห่งพงไพรเป็นผู้เล่าเรื่อง
“เมื่อกี้เราคุยกันถึงไหนนะ” จิตวิญญาณแห่งพงไพรถามซ้ำ “เอ็นคิว” กอล์ฟตอบอย่างเบื่อๆ
...จะตายทั้งทีของไปอย่างสงบไม่ได้หรือไง...
“อ่า ใช่แล้ว พวกเจ้าเป็นเอ็นคิว เอ็นคิวคือ สิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างด้วยการผสมผสานวิทยาศาตร์และเวทมนต์ เดิมทีเอ็นคิวถูกใช้ในการทหารแต่ก็มีผู้ต่อต้าน จนสุดท้ายต้องล้มเลิกไป ปัจจุบันการสร้างเอ็นคิวถือว่าผิดกฎหมาย แต่พวกเจ้าก็ยังสามารถพบเอ็นคิวได้ทั่วไป ก็อย่างว่าแหละนะ ไม่ว่าจะในยุคสมัยใด เงินตราก็มีอำนาจมากกว่ากฎหมาย” เจลหัวเราะเบาๆกับคำบ่นของจิตวิญญาณแห่งพงไพร ...เรื่องแบบนี้มันคุ้นๆอยู่นา...
“พวกเจ้าทั้งสามเกิดจากการลักลอบสร้างเอ็นคิว เอาไว้ขายไปเป็นทาสอารมณ์ของพวกผู้ลากมากดีตัณหากลับ ดูจากหน้าตาของพวกเจ้าทั้งสามแล้ว คงจะเป็นสินค้าเกรด A++ เป็นแน่แท้ ราคาน่าจะหลายล้านอยู่ พวกเจ้ามีอะไรสงสัยไหม”
“เอ็นคิวต่างกับมนุษย์ยังไง เกรดต่างๆมีอะไรบ้างใช้อะไรเป็นตัวแบ่ง แล้วเมื่อไหร่ฉันจะขยับตัวได้” หยกยกมือถามเป็นชุด เล่นเอาจิตวิญญาณแห่งพงไพรเหงื่อตก
“ข้าจะตอบที่ละคำถาม เอ็นคิวมีทุกอย่างเหมือนมนุษย์ เพียงแต่เอ็นคิวทุกคนจะเป็นหมัน หมายความว่าพวกเจ้าจะไม่สามารถสืบสกุลได้ สาเหตุก็เป็นเพราะเอ็นคิวไม่ใช่มนุษย์จริงๆ แค่รูปร่างเหมือนมนุษย์เท่านั้น และไม่ได้เกิดจาก พ่อและแม่ที่เป็นมนุษย์ แต่เกิดจากวัตถุที่เปี่ยมด้วยพลังเวทย์”
“ขอข้านึกก่อนนะว่าพวกเจ้าเกิดจากอะไรกันบ้าง อืม...เจ้าดำ ชื่อกอล์ฟสินะ อ่า เจ้าเกิดจากเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ ส่วนเจ้าผมขาว เกิดจากน้ำค้างมายา เจ้าอีกคนก็ละอองฟ้า ไม่น่าเชื่อ วัตถุดิบที่ใช้สร้างพวกเจ้าเนี่ยเป็นวัตถุดิบในตำนานเลยนะ ข้าชักสงสัยว่าพวกนั้นจะลงทุนสร้างพวกเจ้าไปทำไม คงไม่ได้เอาไปขายในตลาดมืดอย่างที่ข้าคาดการณ์ไว้ซะแล้ว” จิตวิญญาณแห่งพงไพรยังคงตั้งหน้าตั้งตาอธิบาย ขณะที่หยกคนตั้งคำถาม เริ่มถักเปียเส้นเล็กๆให้ตัวเอง
“อืมมาที่คำถามต่อไป เกรดของเอ็นคิว ถ้ามีหน้าตาธรรมดาก็จะเป็นพวกเกรด C แต่ถ้ามีพลังกายมหาศาลหรือมีพลังเวทย์อย่างใดอย่างหนึ่งก็จะเป็นเกรด B ถ้ามีทั้งสองอย่างก็จะเป็นเกรด A ถ้าหลังเกรดมีเครื่องหมาย + แสดงว่าเอ็นคิวตนนั้นมีรูปร่างหน้าตาดีด้วย แต่ถ้าเป็น A++ จะหมายความว่าพวกเจ้ามีคุณลักษณะบางอย่างโดดเด่นเป็นพิเศษ อย่างเจ้าผมขาวน่ะ เป็นพวกหน้าตาดีเกรด A++ ส่วนเจ้าดำมีพลังเวทย์ธาตุไม้เกรด A++” กอล์ฟตวัดตาจิกก่อนเถียงเบาๆ “ผิวข้าสีแทนต่างหาก”
“สุดท้ายหนุ่มตาเหยี่ยวนั่น ข้าสัมผัสได้ว่า พลังเวทย์ทุกธาตุของเจ้าเหนือกว่าจอมเวทย์ของเผ่าเทพ ข้าล่ะไม่เข้าใจจริง ปิศาจอย่างพวกเจ้าเกิดมากันทำไมนะ” หยกเลิกถักเปียเส้นที่ห้าให้ตัวเอง เจ้าตัวยุ่งหันไปทำตาแป่วใส่เพื่อนสนิท
“เจล หยกไม่พลังอะไรเลยอ่ะ เจลต้องคอยปกป้องหยกนะ” ร่างเล็กเอาหัวทุยไปไซ้อกกว้างของเพื่อนหน้าสวยอย่างออดอ้อน เจลคลี่ยิ้มประดับดวงหน้าคม แล้วลูบศรีษะสีขาวเบาๆ เหมือนยามปลอบไซโคลนเจ้าตูบที่บ้าน
...ไอ้บรรยากาศเจ้านายกับลูกหมานั่นมันอะไรกันฟ่ะ!!!!!!... กอล์ฟโวยวายในใจอย่างหงุดหงิด ...พระเจ้า หากชาติหน้ามีจริงโปรดเมตตาให้ลูกได้พบคนธรรมดาทีเถิด...
“อะแฮ่ม มาเข้าเรื่องกันต่อ ตอนนี้ร่างกายของพวกเจ้า อยู่ในเตียงปรับสภาพ และต้องนอนนิ่งๆอย่างนั้นไปอีกสองสัปดาห์ พอครบกำหนด พวกเจ้าจะถูกย้ายไปยังบ่อชำระ เมื่อผ่านพิธีชำระ พวกเจ้าก็จะสามารถขยับร่างกายได้ตามปกติ”
“แล้วสรุปว่า ที่นี่ที่ไหน แล้วนายเป็นใครมาอยู่กับพวกเราได้ยังไง” เจลเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็น ขณะที่หยกเริ่มถักเปียเส้นใหญ่ให้เพื่อนหนุ่มหน้าคมเจ้าของคำถาม “เรื่องนั้นมันมีอยู่ว่า....”
จิตวิญญาณแห่งพงไพรนิ่งเงียบ ราวกับกำลังจะกล่าวเรื่องสำคัญ สามสหายจ้องมองจิตวิญญาณแห่งพงไพรรอคอยคำตอบ จิตวิญญาณแห่งพงไพรสูดลมหายใจเฮือกใหญ่แล้วเปิดปาก
“ข้าว่างๆไม่มีไรทำ ก็เลยตามกลิ่นเวทย์ธาตุไม้ของเจ้าดำนี่มาเท่านั้นเอง”
“เหอะ” หยกหัวเราะเบาๆในลำคอ ดวงตากลมโตมองเปียสีน้ำเงินที่บรรจงถักให้เพื่อนอย่างตั้งใจ “แล้วนี่ไม่มีอะไรทำเลยเหรอ ฉันเริ่มเบื่อแล้วนะ จะให้นอนเฉยๆอีกตั้งสองสัปดาห์ ไม่เอาด้วยนะ รู้งี้ไปสวรรค์ดีกว่าจะได้ไปร่ำสุรากับเทวดาหนุ่มหล่อล่ำ อ๊า ซิกแพค~~~ มาม่ะที่รักขอหยกลูบหน่อย~~~” ร่างเล็กล้มตัวลงนอนกับพื้นนุ่ม จิตใจล่องลอยไปยังแสงสีขาว แต่แล้วเจ้าตัวกลับหยุดนิ่ง ก่อนจะกระเด้งตัวขึ้นมา “ตามพล็อตนิยายที่ขายตามท้องตลาด กรีนนี่ นายต้องเป็นพวกมีพลังพิเศษแล้วก็มาปั้นพวกฉันจนเป็นวีรบุรุษผู้กอบกู้โลกไม่ใช่เหรอ ไม่ก็บอกว่าพวกฉันเป็นรัชทายาทคนสำคัญ ที่กลับมาตามคำทำนายเมื่อ สิบกว่าปีก่อน อะไรทำนองนี้” กอล์ฟมองจิตวิญญาณแห่งพงไพรที่ลอยเป๋ด้วยความงุนงงอย่างสงสาร
“ยัยหยกเผือกหมายความว่า ระหว่างที่พวกเราว่างอยู่ นายช่วยสอนเรื่องต่างๆให้พวกเราได้ไหม” อดีตทอมมีเมตตาช่วยแปลภาษาต่างดาวสำหรับจิตวิญญาณแห่งพงไพรให้เข้าใจง่ายขึ้นแม้จะผิดความหมายไปนิดหน่อย(มั๊ง)
“ถ้าเป็นเรื่องนั้นข้ายินดีเป็นอย่างยิ่ง ฝึกในมิติพิเศษของข้าก็ดีไปอย่าง หนึ่งวันในนี้เท่ากับหนึ่งนาทีข้างนอกนั่น ข้าจะใช้เวลา 21,160 วันที่มีให้คุ้มค่า รับรองด้วยเกียรติ์ของจิตวิญญาณแห่งพงไพร พวกเจ้ารอบรู้ยิ่งกว่ามหาปราชญ์ แข็งแกร่งเยี่ยงปิศาจ และมีอำนาจเหนือจอมขมังเวทย์อย่างแน่นอน” จิตวิญญาณแห่งพงไพรเรืองแสงสีเขียวอย่างยินดี โดยหารู้ไม่ว่า เอ็นคิวสามคนนี้จะทำให้ตนปวดเศียรเวียนเกล้าจนไม่กล้ารับใครเป็นศิษย์อีกหลายพันปี
57 ปี 341 วันผ่านไป
“ในที่สุด....วันนี้ก็เป็นวันสุดท้าย !!!!!!!!!” จิตวิญญาณแห่งพงไพรเรืองแสงวูบวาบ “ข้าไม่เคยยินดีกับการลาจากครั้งไหนเท่าครั้งนี้!!!!!!” จิตวิญญาณแห่งพงไพรตะโกนแต่ก็ไม่ได้รับความสนในจากสามเกลอที่นั่งจิบน้ำชายามเช้า
“อ่ะ ร่างพวกเราถูกเคลื่อนย้ายแล้ว” หยกว่างถ้วยชาเบาๆ ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยดูน่ารักราวกับตุ๊กตา เด็กหนุ่มหน้าหวานปานน้ำผึ้งหันไปพูดกับจิตวิญญาณแห่งพงไพรที่ลอยไปมา
“ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะค่ะ อุ๊ย ครับ ไว้วันหลังพวกเราจะมาเยี่ยมกรีนนี่บ่อยๆนะ” หยกกล่าวก่อนคลี่ยิ้มสดใสแล้วร่างเล็กก็ค่อยจางหายไปกับสายลม
“แล้วเจอกันนะ กรีน” กอล์ฟโบกมือลาแล้วจางหายตามเพื่อนไป เจลที่อยู่เพียงลำพังแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ ก้มศรีษะให้จิตวิญญาณแห่งพงไพรเพียงเล็กน้อย ก่อนร่างเพรียวจะจางหายไปก็ทิ้งคำพูดหนึ่งให้ลอยตามสายลม
“หึ เขียวลอยได้...”
“กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซ เจ้าเด็กไม่มีสัมมาคารวะ จะไปไหนก็ไป ไม่ต้องกลับมาให้ข้าเห็นหน้าอีกนะ!!!!!!!!!!!!” ในห้วงมิติว่างเปล่า มีเพียงจิตวิญญาณแห่งพงไพรที่มีอายุนับพันปี ลอยไปมาอย่างฉุนเฉียว
ความคิดเห็น