ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปาฎิหาริย์แห่งหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #4 : ปาฎิหาริย์แห่งหัวใจตอนที่ 4

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ย. 49



                       หลังจากที่อภิชาตกลับมาจากต่างประเทศ นิชญาก็บอกให้ทราบถึงเรื่องงานที่ถูกกำหนดขึ้นในอีก 2 เดือนข้างหน้านี้ว่าเกี่ยวกับงานฉลองครบ 1 ปี ของบริษัท ศิระโอภาส ทัวร์แล้วก็เสนอเกี่ยวกับรายละเอียดและรูปแบบของงานที่เธอคิดไว้ขณะที่อภิชาตไม่อยู่ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะมีสีหน้าที่แปลกๆ ชอบกล

                           

                                        บอสคะ ฟังอยู่รึเปล่า เป็นอะไรคะ

                                       

                                        เปล่า  เอาตามที่นิชเสนอมานั่นและ

     อภิชาตพยายามรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด แล้วเขาก็เดินออกจากห้องประชุมไปยังห้องทำงาน  ซึ่งมีบิดาของเขารออยู่

     

            บิดาของเขาเห็นสีหน้ากระวนกระวายของลูกชายเพียงคนเดียวก็ตกใจ

                พ่อครับ พ่อรู้เรื่องที่ภูวนาทจะจ้างบริษัทเราทำงานให้กับเขารึยังครับ อภิชาตรีบถามบิดา

     

                พ่อรู้ แล้วแกจะยังไง  เขาแสดงท่าทียังไงกับนิชญาบ้าง บิดาถามเพื่อความแน่ใจ

     

                ผมว่าเขายังไม่ได้พูดอะไร  อย่างน้อยเขาก็ยังเกรงใจผม  เขาไม่รู้เรื่องอะไร   นอกจากเรื่องนิชา อภิชาตกังวลมากเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

     

                พ่อบอกแล้วว่าอย่าเอาเธอเข้ามาทำงานด้วย  ปล่อยเธอไว้ตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง   แล้วนี่แกจะเลิกทำไอ้งานบ้าๆ ได้รัง บิดาเริ่มหัวเสียกับผลที่จะตามมา

     

                พ่อครับ  ผมรักเขา และก็จะไม่เลิกทำง่ายๆ ด้วย   เพราะผมอดทนอยู่นานกว่าจะมีวันนี้  พ่อเลิกบงการผมเสียทีเถอะ  ผมจะแก้ปัญหาเอง อภิชาตกล่าวด้วยท่าทีมั่นใจแม้ว่าจะวิตกอยู่ลึกๆ

     

                            ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงอะไรสักอย่างหล่นลงมา  จึงได้รีบ ออกมาดู แต่ก็ไม่พบอะไร

     

                            แกมันรักตัวเอง  ไม่มีวันหรอกที่จะรักใครจริง บิดาของเขาส่งเสียงตามมาด้วยความโมโห

     

                            อภิชาตเป็นกังวลกับเรื่องนี้มาก  จนไม่เป็นอันทำงานเลย  เขาจึงให้นิชญาจัดการงานแทบทุกอย่างในบริษัท   แล้วก็พยายามคิดหาทางออกในเรื่องของนิชญาให้ดีที่สุด   แล้วเขาก็คิดออก เขาจึงไปหิชญาที่บ้านในคืนนั้น

     

                            นิช...นิชรู้ใช่มั้ย ว่าพี่คิดยังไงกับนิช  เราก็คบกันมานานแล้วนะ  พี่...พี่อยากขอนิชแต่งงาน อภิชาติพูดออกมาพร้อมกับมอบช่อดอกไม้ให้นิชญา

     

                            พี่อิฐ......แต่นิชยังมีภาระต้องดูแล  นิชต้องทำงาน ดูแอลพ่อแม่ แล้วก็น้อง    นิชญาอธบายด้วยความประหลาดใจที่จู่ๆ อภิชาติก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมาทั้งๆ ที่ไม่เคยเอ่ยขึ้นมาเลยตลอดเวลาที่เราคบกัน

     

                            พี่รักนิช   พี่อยากให้นิชเก็บไปคิดก่อน ก็ได้นะ อภิชาตเอ่ยพร้อมกับส่งสายตาประกายให้หญิงสาว

     

                            ค่ะ...นิชก็รู้สึกดีตั้งแต่ที่พี่อิฐช่วยนิชไว้   ถาไม่ใช่เพราะพี่ก็คงไม่มีนิชวันนี้หรอกค่ะ

                            นิชญากล่าวด้วยความตื้นตันนับตั้งแต่ที่เธอได้รับการช่วยเหลือจากอภิชาตตอนเธอประสบอุบัติเหตุ  ตอนนั้นถ้าไม่มีเขา นิชญาก็คงจะตายจากโลกนี้ไปนับแต่บัดนั้นแล้ว

     

                            ....................................................................

     

                เช้าวันอาทิตย์ที่เฝ้ารอของนิชญามาถึงอีกครั้งหนึ่ง   วันนี้นิชญาวางแผนจะออกไปข้างนอกเพื่อพักผ่อน เธอจึงโทรชวนเพื่อนสนิทของเธออีกสองคนไปด้วยกัน

     

                            ศศิภา..มาริสา  ทางนี้จ๊ะ นิชญาตะโกนเรียกเพื่อนของเธอพร้อมกับกวักมือเรียก

                           

                            นิช เธอรู้จักร้านสวย ๆ อย่างนี้ก็ไม่บอกนะ  ศศิภาอดตำหนิเพื่อนไม่ได้   เพราะปกติพวกเธอจะนัดเจอตามโรงหนัง  ห้าง หรือไม่ก็ร้านอาหารทั่วไป

     

                            นี่...ฉันก็เพิ่งเคยมาเพมื่ออาทิตย์ก่อนเองนะ  แล้วจะหาโอกาสนัดเจอพวกเธอได้ยังไง  ศศิก็ยุ่งกับร้านเสื้อผ้า  สาก็ยุ่งกับร้านดอกไม้ กว่านฃจะนัดกันได้แทบตาย   นิชญาอธิบายมาอย่างยาวเหยียด

     

                            นี่ ยัยนิช  พร่ำซะยาวเชียวนะ  จะสั่งอาหารได้รึยังคะ แม่คนช่างพูด  ช่างเจรจา  น่คงมีร้านสวย ๆ มาแอบกินกับคุณอิฐสิท่า มาริสาเริ่มแซวเพื่อนสาวคตนเก่งของเธอ

     

                            บ้าหรอ พี่อิฐเขาเคยกินที่ไหนล่ะร้านธรรมดาน่ะ

                            นิชญาเริ่มคิดถึงจุดต่างกันตรงนี้ของตัวเธอกับอภิชาต  แล้วนี่เธอจะอยู่ร่วมชีวิตกับเขาได้เหรอ   เขาเป็นคนเข้ากับสังคม  แต่เธอไม่ชอบที่ที่มีคนมากมาย

     

                            นิช คิดอะไรหรอ  อาหารมาเต็มโต๊ะแล้วนะ  มัวแต่นึกอะไรอยู่ได้   เดี๋ยวพวกฉันกินหมดไม่รู้นะ  มาริสาเริ่มจัดการกับปลานึ่งเป็นอันดับแรก   พวกเธอเริ่มจัดการอาหารที่มีอยู่บนโต๊ะทีละนิด  ด้วยความเอร็ดอร่อย  จนลืมสังกตว่ามีคนเดินเข้ามาในร้าน

     

                            สวัสดีครับ คุณนิชญา ติดใจอาหารที่นี่หรือครับ

     

                            เจ้าของเสียงนุ่มและทุ้มนี้ ทำให้นิชญาถึงกับตกใจและทำช้อนส้อมในมือหล่นลงกระแทกกับจานข้าว

     

                            ผมขอโทษครับที่ทำให้คุณตกใจ  เพียงแต่ผมเห็นว่าคุณกับผมรู้จักกัน  หาว่าไม่เดินมาทักก็จะเสียมารยาท  แต่ผมก็คิดว่าคุณอยู่กับเพื่อน ๆ  อาจเป็นการรบกวนก็ได้  ภูวนาทกล่าวขอโทษ  ด้วยตกใจในทาทางของหญิงสาวที่เขาเห็นตั้งแต่ก้าวเท้าผ่านประตูมาแล้ว

     

                            เอ่อ...  ไม่ต้องของโทษก็ได้ค่ะ  ฉันซุ่มซ่ามเองน่ะค่ะ คุณภูวนาทคะ   นี่ศศิภากับมาริสา  เพื่อนของฉันค่ะ  นิชญากล่าวแนะนำหลังจากที่หาจากการตกใจเมื่อสักครู่

     

                            สวัสดีครับ  คุณศศิภา  และคุณมาริสา  ผมชื่อภูวนาทครับ ภูวนาทเอ่ยแนะนำตนเองต่อ หญิงสาวทั้งสองคนแล้วหันมาทางนิชญา

     

                            ติดใจอาหารและบรรยากาศที่นี่ เหมือนผมใช่มั้ยครับ คุณนิชญา ภูวนาทเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองอาหารที่ยังเหลืออยู่  ในจานเบื้องหน้า ซึ่งเหมือนกับวันนั้นที่สั่งให้เธอชิมไม่มีผิดเพี้ยน

     

                            ค่ะ  พอดีวันนี้ว่าง  ก็เลยพาเพื่อมาหาร้านอาหารไทยอร่อยๆ ทานบ้างน่ะค่ะ   นิชญาตอบด้วยความอายที่สภาพจานข้าวของเธอเต็มไปด้วยอาหารที่แย่งกันตักมากับเพื่อนๆ

     

                            ถ้าคุณนิชญากับเพื่อนๆ ไม่รังเกียจ ผมอยากจะขอนั่งโต๊ะร่วมด้วยได้มั้ยครับ  ภูวนาทกล่าวด้วยรอยยอิ้มบนใบหน้าอันงดงาม  ทำให้ไม่สามารถปฏิเสธได้

     

                            นิชญามองดูภูวนาทด้วยความแปลกใจ เพิ่มขึ้นไปอีกนอกจากเขาจะดูมีรสนิยมไทยแท้แล้ว  ก็ยังไม่ถือเนื้อถือตัวอย่างพวกคนใหญ่คนโตบางคน   ภูวนาททานอาหารด้วยความเป็นกันเอง ทำให้นิชญาคลายความอึดอัดลงไปบ้าง

     

                            ขอโทษนะครับ   ผมขอรับโทรศัพท์สักครู่  ภูวนาทรับโทรศัพท์มือถือ แล้วพูดอไรกับคนปลายสายอีกแค่ 2-3 ประโยค  ก็วางสายไป  พร้อมกับมองหน้านิชญาแล้วพูดว่า

     

                            ขอโทษนะครับ ผมคงต้องรีบกลับ  พอดีมีงานด่วน  งั้นเอาเป็นว่ามื้อนี้ ผมขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงสาวๆ  แล้วกันนะครับ  หวังว่าคราวหน้าคงจะมีโอกาสพบกันใหม่นะครับ  ภูวนาทกล่าวลา  พร้อมกับบอกบริกรเกี่ยวกับเรื่องค่าอาหารทั้งหมดนี้

     

                            หลังจากที่ภูวนาทเดิดนออกไปจากร้านอาหารแล้ว  มาริสากับศศิภาก็ทำท่าหัวเราะคิกคัก  และมองมาทางนิชญาด้วยแววตาที่มีเลสนัยบางอย่าง

                            นี่ พวกเธอคิดอะไรกันจ๊ะ  คุณภูวนาทเขาเป็นลูกค้าของฉันที่บริษัทจ๊ะ นิชญาเริ่มแก้ตัว พร้อมกับหน้าที่เริ่มจะมีสีแดงระเรื่อที่บริเวณแก้มทั้งสองข้าง

                           

                            เปล๊า...ทำไมต้องร้อนตัวด้วยล่ะ  ดูสิร้อนจนหน้าเงี้ยะแดงไปหมดแล้ว ศศิภาเอ่ยแซวเพราะนานทีนิชญาจะมีอาการแปลกๆ แบบนี้ให้เห็น

     

                            นิช  เคยมาร้านนี้กับคุณภูวนาทใช่มั้ย มาริสาถามเพื่อความแน่ใจ เพราะเธอสังเกตจากคำถามภูวนาทที่ถามนิชญา

     

                            ใช่...คือเรามาคุยกันเรื่องรายละเอียดของงานน่ะ

                           

                            นิชญาเริ่มพูดถึงเรื่องของภูวนาทให้กับเพื่อนสาวทั้งสองทุกอย่าง โดยไม่ปิดบัง  รวมทั้งเรื่องท่เขาสั่งอาหารได้ตรงใจเธอทุกอย่าง  ซึ่งเพื่อนของเธอก็ดูตั้งอกตั้งใจฟังเป็นอย่างดีทีเดียว

     

     

                            ว๊าว...น่าอิจฉาจังเลย  ได้มาทานข้าวกับคนหล่อๆ  รวยๆ ท่าทางก็ดี แถมยังรู้ใจอีก  เราน่ะเสียดายแนนิชจริงๆ นี่ถ้านิชยังไม่มีพี่อิฐล่ะก็  เราเชียร์คุณภูวนาทให้นิชเลยนะเนี่ย จริงมั้ยจ๊ะ..สา ศศิภาพูดพร้อมกับทำท่าใจลอยเหมือนกับว่าตามคนที่เพิ่งจะลากลับไปอย่างนั่นแหละ

     

                            อืม...เราก็ว่างั้นแล่ะ มาริสาที่กำลังใจลอยเหมือนกันรับคำ

     

                            นิชญาคิดถึงภาพตอนที่เธอถูกเพื่อนของเธอคะยั้นคะยอให้ยอมรับพี่อิฐเป็นแฟน  ถ้าเธอไม่ได้เพื่อนสองคนนี้พูดกรอกหู  เกี่ยวกับความดีของพี่อิฐตั้งแต่สมัยก่อนล่ะก็  เธอก็คงคบกับพี่อิฐแบบพี่  ต่อมาเรื่อยๆ หรอก  และตอนนั้นเธอก็ไม่เคยสนใจใคร  ในชีวิตของเธก็มีพี่อิฐคนเดียวนี่แหละที่คอยดูแลเธอ  เธอจึงยอมตกลง แต่...

                            ถ้าเป็นคุณภูวนาทล่ะก็  เธอต้องให้เพื่อนคะยั้นคะยอให้คบกับเขารึเปล่านะ   เอ....แล้วนี่เราคิดถึงเขาทำไมเนี่ย   ยิชญาตั้งคำถามกับตัวเองที่มักจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่เจอกับเขา...

     

                                       

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×