คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ปาฎิหาริย์แห่งหัวใจ ตอนที่ 2
หลังจากที่บริษัทนิรัติพงษ์ มุ่งมั่นบากบั่นกับการทำงานทุกคนในบริษัทโดยเฉพาะอภิชาตและนิชญา ต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดี ที่สุดตลอดเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ได้งานออกมาน่าภาคภูมิใจ
“นิช พรุ่งนี้คุณไปกับผมนะ” อภิชาตขอร้องเรื่องนี้กับเธอ ครั้งที่ 3 ในรอบวันนี้
“บอสก็รู้หนิคะ ว่านิชไม่ชอลเข้างาน คนระดับไฮโซอย่างนี้ นิชอึดอัด ต้องไปคอยปั้นหน้ายิ้มและ ระมัดระวัง มารยาทตลอดเวลา นิชทำไม่ได้หรอกค่ะ” นิชญาปฏิเสธเสียงแข็ง
วันรุ่งขึ้น ซึ่งเป็นวันงานของคุณหญิงวีรวรรณ นิชญากำลังแต่งตัวเพื่อที่จะไปร่วมงานเลี้ยง เนื่องจากคุณหญิงวีรวรรณโทรศัพท์มาเชิญเธอโดยตรง เธอจึงไม่อาจปฏิเสธได้เลย
“นิช คุณอิฐมารับแล้วลูก” แม่ของเธอส่งเสียงเรียกมาจากชั้นล่าง
“แม่บอกให้ บอสไปงานก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวนิชตามไปนิชยังแต่งตัวไม่เสร็จ ให้เขาไปดูแลงานก่อนนะคะ” นิชญาตะโกนตอบแม่ของเธอ
ก็เธอยังแต่งตัวไม่เสร็จ คุณหญิงเพิ่งโทรมาชวนเธอเมื่อสักครู่นี้เอง แม้ว่าเธอจะไม่อยากไป แต่นั่นก็ได้หมายความว่าเธอไม่ต้องแต่งตัวให้ดีเสียเมื่อไร ยิ่งงานระดับนี้ จให้เธอแต่งตัวเป็นยาจกได้ยังไงกัน แต่เอ...พี่อิฐมารับทำไม ก็บอกไปแล้วว่าไม่ไปนี่นา เอ๊ะ....คุณแม่โทรศัพท์ไปบอกพี่อิฐแน่ๆ เลย....เอ....แล้วคุณหญิงรู้เบอร์โทรศัพท์ได้ยังไง
นิชญาแต่งตัวไปพร้อมกับ คำถามหลายอย่าง ที่ผุดขึ้นมาในหัวสมอง ประมาณ หนึ่งชั่วโมงกว่า ๆ เธอก็แต่งตัวเสร็จ ผมของเธอถูกรวบขึ้นไปจนหมดติดด้วยกิ๊บไข่มุก ซึ่งเข้ากับชุดราตรีสีครีมได้เป็นอย่างดี ผิวของเธอก็ช่างเหลืองนวล อยู่ใต้ผ้าคลุมไหล่บาง ๆ ทำให้เธอดูเหมือนไข่มุกอันเปล่งประกายยามราตรี
เมื่อนิชญาเดินเข้าไปในงานของคุณหญิงวีรวรรณ เธอกำลังพยายามมองหา อภิชาต ท่ามกลางผู้คนมากมาย ขณะที่เธอมองอยู่นั้นก็เกิดไปสะดุดตากับชายหนุ่ม รูปร่างสมส่วนในสูทสีดำที่ยืนคุยอยู่กับคุณหญิงวีรวรรณ เธอยืนมองเขาที่ดูสง่างามราวกับเจ้าชาย ท่าทางการพูดจาก็ดูหนักแน่มั่นคง มีรอยยิ้มที่ดูเป็นมิตรและอบอุ่นให้กับผู้คนมากมายอยู่ตลอดเวลา เธอเพ่งพินิจมองเขาด้วยความคุ้นกับบุคคลคนนี้มากเหลือเกิน จนเขาคงรู้สึกตัวจึงได้มองตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มเหมือนที่เจอกันในครั้งแรก เขาก็คือแขกคนนั้นที่เคยเจอกับเธอเมื่อ 1 เดือนก่อน
“นิช มานานแล้วหรอ” เสียงทักของอภิชาตทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย
“เอ่อ...ค่ะ สักพักแล้ว นิชหาบอสไม่เจอค่ะ” นิชญาอ้ำอึ้งกับคำตอบ เพราะเธอมัวแต่มองเขานานเกินไปหน่อย
“งั้น ไปหาคุณหญิงกับผม ท่านรอจะพบนิชอยู่” อภิชาตพูดเสร็จก็ดึงมือเธอพาไปทางคุณหญิงวีรวรรณ
“สวัสดีครับ คุณหญิง นี่ไงครับ คุณนิชญา ที่เป็นคนคิดรูปแบบงานครั้งนี้” อภิชาตกล่าวแนะนำ
“สวัสดีค่ะ คุณหญิง” นิชญาอ้ำอึ้งเล็กน้อย
“อ๋อ แม่หนูคนนี้หรอ อธิบายงานได้ชัดเจน และละเอียดดี แล้วยังทำงานได้ดีอีก เก่งจริง ๆ นะจ๊ะ ทั้ง ๆ ที่ดูแล้วอายุก็ยังน้อย” คุณหญิงเอ่ยปากชมนิชญาด้วยความจริงใจ
“ขอบคุณค่ะ” นิชญาปลื้มที่ลูกค้าระดับไฮโซผู้นี้ กล่าวชมเธอ
“อ้อ...เกือบลืมแนะนำไป นี่คือคุณ ภูวนาท ศิระโอภาส ลูกชายของท่านพีระพงศ์ ศิระโอภาส กับคุณหญิงธีรกานต์จะ” คุณหญิงวีรวรรณกล่าวแนะนำบุรุษในชุดสูทดำ ที่ยืนอยู่ในวงสนทนาตั้งแต่แรก คำแนนำที่ส่งผลต่ออภิชาตที่ยืนอยู่ หากมีคนสังเกตดีๆ จะเห็นแววตาตระหนกเล็กน้อย แต่ก็รีบเก็บอาการและเอ่ยคำเพื่อทำความรู้จักอย่างเรียบเฉย
“สวัสดีครับคุณภูวนาท ผมชื่ออภิชาตครับ ส่วนนี่ก็คุณนิชญาเลขาฯ ของผมครับ”
“สวัสดีครับคุณอภิชาต และก็คุณนิชญา”บุรุษหนุ่มกล่าวด้วยเสียงสุขุม เยือกเย็น แต่ทว่าแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นและมั่นคง
คุณนิชญาเป็นอะไรรึเปล่า ทำไมดูไม่ค่อยพูดเลยล่ะ” คุณหญิงวีรวรรณถามด้วยความเป็นห่วง
“เปล่าค่ะ คือ...หนูไม่ทราบว่าจะพูดอะไรดีน่ะค่ะ” นิชญาตอบด้วยความไม่มั่นใจ ว่าทำไมตัวเองต้องเกร็งขนาดนี้ด้วย เธออยืนอยู่เงียบๆ ฟังการสนทนาต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวกับธุรกิจ เธอจึงทราบว่าบุรุษหนุ่มคนนั้น เป็นเจ้าของบริษัททัวร์ที่พึ่งจะเปิดใหม่ไม่ถึงปี ก็สร้างความไว้วางใจกับลูกค้าและสามารถขยายกิจการได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งตอนนี้เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นบริษัททัวร์เบอร์หนึ่งของไทย
“นิชญา...คุณช่วยคุยเป็นเพื่อนกับคุณภูวนาทสักครู่นะ ผมมีธุระไปคุยกับคุณหญิงสักครู่” อภิชาตบอกเธอขณะที่เธอกำลังยืนคิดอะไรอยู่ดี ๆ ความจริงเขาก็ไม่อยากทิ้งเธอไว้กับเขาคนนั้นนักหรอก
“ค่ะ...ได้ค่ะ” นิชตอบรับคำ
หลังจากนั้น คุณหญิงวีรวรรณก็เดินจากไปพร้อมกับอภิชาต ทิ้งให้ทั้งสองคนยืนอยู่ด้วยกันโดยไม่มีใครพูดอะไรเลย
“คุณนิชญาครับ คือถ้าคุณจะไม่ว่าอะไร ผมอยากจะขอให้คุณไปคุยกับผมข้างนอกได้มั้ยครับ” ภูวนาทกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
“ได้ค่ะ” นิชญาตอบรับด้วยน้ำเสียงที่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะเธอไม่อยากอยู่ในงานแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้ว
ทั้งสองเดินิกมาจากงานเลี้ยง มาสู่สวนดอกไม้ด้านนอกที่เต็มไปด้วยดอกไม้หลากหลายพันธุ์ ส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลอยู่ทั่วบริเวณสวน ทั้งสองเดินเล่นกันอยู่พักนึงก็เริ่มจะพูดคุยกันในเรื่องของงานที่ถูกจัดขึ้นในค่ำคืนนี้
“คุณจัดงานได้สวยมากครับ คิดรูปแบบของงานได้ดีและก็สมบูรณ์มากทีเดียว” ภูวนาทกล่าวชมเนื่องจากเขาพอใจกับงานที่สมบูรณ์แบบเมื่อเขาได้เดินสำรวจงานจนทั่ว แล้วก่อนที่เธอจะมาถึงงาน
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวตอบโดยไม่ได้มองตาผู้ที่ชมเธอถ้าหากเธอเงยหน้าขึ้นมามองเธอก็จะพบว่า สายตาที่เขามองเธนั้นไม่เพียงแค่ชื่นชมผลงานของเธอ เพียงอย่างเดียว หากแต่ชื่ชมความงามของเธออีกด้วย
“ผมอยากให้คุณ...เอ่อ...ผมหมายถึงบริษัทของคุณช่วยจัดงานเลี้ยงฉลองครบ 1 ปีของบริษัททัวร์ของผมจะได้มั้ยครับ คุณนิชญา” ภูวนาทพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นการเป็นงานมากขึ้น แต่สายตาก็ยังคงจับจ้องอยู่ที่ความงามราวกับไข่มุกยามราตรีของเธอ ที่เมื่อส่องกระทบกับแสงจันทร์ ยิ่งดูงามผุดผ่องขึ้นเป็นทวีคูณ
“เอ่อ ได้ค่ะ แต่คุณต้องไปตกลงกับบอสอีกีนะคะ ในเรื่องของรายละเอียดของงาน” นิชญาอธิบายอย่างคล่องแคล่ว ด้วยความที่เป็นเรื่องงานเธอจึงมุ่งมั่นเต็มที่ทีเดียว
“งั้นผมจะติดต่อกับคุณอีกที ถ้าผมจะตกลงเรื่องรูปแบบของงานนะครับ...ว่าแต่นี่เราก็ออกมานแล้ว กลับเข้าไปในงานดีกว่ามั้ยครับ คุณนิชญา” ภูวนาทพูดพลางดูเวลาซึ่งขณะนี้เข็นาฬิกาบอกว่า ห้าทุ่มเศษแล้ว
“ก็ดีเหมือนกันค่ะ” นิชญาพยักหน้าเห็นด้วย แล้วเดินตามภูวนาท กลับเข้ามาภายในงานเลี้ยงด้านในโรงแรม
ภายในงานคนค่อนข้างบางตากว่าตอนที่พวกเขาอยู่ในตอนแรก เนื่องจากแขกทยอยกลับกันบ้างแล้ว นิชญาอยู่ในงานต่อจนเกือบเที่ยงคืนจึงกลับบ้านด้วยความอ่อนเพลีย ตอนนี้ในใจเธอกำลังคิดถึงชื่อของ “ภูวนาท” ด้วยคุ้นเคยอยู่ในความทรงจำที่อาจลืมเลือนไป
ความคิดเห็น