ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปาฎิหาริย์แห่งหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #2 : ปาฎิหาริย์แห่งหัวใจ ตอนที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ย. 49


    หลังจากที่บริษัทนิรัติพงษ์ มุ่งมั่นบากบั่นกับการทำงานทุกคนในบริษัทโดยเฉพาะอภิชาตและนิชญา ต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดี ที่สุดตลอดเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ได้งานออกมาน่าภาคภูมิใจ

               

    นิช พรุ่งนี้คุณไปกับผมนะ อภิชาตขอร้องเรื่องนี้กับเธอ ครั้งที่ 3 ในรอบวันนี้

     

    บอสก็รู้หนิคะ ว่านิชไม่ชอลเข้างาน คนระดับไฮโซอย่างนี้ นิชอึดอัด ต้องไปคอยปั้นหน้ายิ้มและ ระมัดระวัง มารยาทตลอดเวลา   นิชทำไม่ได้หรอกค่ะ นิชญาปฏิเสธเสียงแข็ง

     

    วันรุ่งขึ้น   ซึ่งเป็นวันงานของคุณหญิงวีรวรรณ  นิชญากำลังแต่งตัวเพื่อที่จะไปร่วมงานเลี้ยง เนื่องจากคุณหญิงวีรวรรณโทรศัพท์มาเชิญเธอโดยตรง เธอจึงไม่อาจปฏิเสธได้เลย

     

                            นิช   คุณอิฐมารับแล้วลูก  แม่ของเธอส่งเสียงเรียกมาจากชั้นล่าง

    แม่บอกให้ บอสไปงานก่อนเถอะค่ะ   เดี๋ยวนิชตามไปนิชยังแต่งตัวไม่เสร็จ ให้เขาไปดูแลงานก่อนนะคะ นิชญาตะโกนตอบแม่ของเธอ

     

    ก็เธอยังแต่งตัวไม่เสร็จ คุณหญิงเพิ่งโทรมาชวนเธอเมื่อสักครู่นี้เอง   แม้ว่าเธอจะไม่อยากไป แต่นั่นก็ได้หมายความว่าเธอไม่ต้องแต่งตัวให้ดีเสียเมื่อไร  ยิ่งงานระดับนี้ จให้เธอแต่งตัวเป็นยาจกได้ยังไงกัน แต่เอ...พี่อิฐมารับทำไม ก็บอกไปแล้วว่าไม่ไปนี่นา   เอ๊ะ....คุณแม่โทรศัพท์ไปบอกพี่อิฐแน่ๆ เลย....เอ....แล้วคุณหญิงรู้เบอร์โทรศัพท์ได้ยังไง

     

    นิชญาแต่งตัวไปพร้อมกับ คำถามหลายอย่าง ที่ผุดขึ้นมาในหัวสมอง ประมาณ หนึ่งชั่วโมงกว่า ๆ เธอก็แต่งตัวเสร็จ  ผมของเธอถูกรวบขึ้นไปจนหมดติดด้วยกิ๊บไข่มุก   ซึ่งเข้ากับชุดราตรีสีครีมได้เป็นอย่างดี ผิวของเธอก็ช่างเหลืองนวล อยู่ใต้ผ้าคลุมไหล่บาง ๆ ทำให้เธอดูเหมือนไข่มุกอันเปล่งประกายยามราตรี

     

    เมื่อนิชญาเดินเข้าไปในงานของคุณหญิงวีรวรรณ   เธอกำลังพยายามมองหา อภิชาต   ท่ามกลางผู้คนมากมาย  ขณะที่เธอมองอยู่นั้นก็เกิดไปสะดุดตากับชายหนุ่ม รูปร่างสมส่วนในสูทสีดำที่ยืนคุยอยู่กับคุณหญิงวีรวรรณ   เธอยืนมองเขาที่ดูสง่างามราวกับเจ้าชาย  ท่าทางการพูดจาก็ดูหนักแน่มั่นคง มีรอยยิ้มที่ดูเป็นมิตรและอบอุ่นให้กับผู้คนมากมายอยู่ตลอดเวลา เธอเพ่งพินิจมองเขาด้วยความคุ้นกับบุคคลคนนี้มากเหลือเกิน จนเขาคงรู้สึกตัวจึงได้มองตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มเหมือนที่เจอกันในครั้งแรก  เขาก็คือแขกคนนั้นที่เคยเจอกับเธอเมื่อ 1 เดือนก่อน

    นิช มานานแล้วหรอ เสียงทักของอภิชาตทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย

    เอ่อ...ค่ะ สักพักแล้ว  นิชหาบอสไม่เจอค่ะ นิชญาอ้ำอึ้งกับคำตอบ เพราะเธอมัวแต่มองเขานานเกินไปหน่อย

     

                                        งั้น ไปหาคุณหญิงกับผม  ท่านรอจะพบนิชอยู่ อภิชาตพูดเสร็จก็ดึงมือเธอพาไปทางคุณหญิงวีรวรรณ

     

                            สวัสดีครับ  คุณหญิง  นี่ไงครับ คุณนิชญา ที่เป็นคนคิดรูปแบบงานครั้งนี้  อภิชาตกล่าวแนะนำ

     

                            สวัสดีค่ะ คุณหญิง นิชญาอ้ำอึ้งเล็กน้อย

     

                            อ๋อ แม่หนูคนนี้หรอ  อธิบายงานได้ชัดเจน   และละเอียดดี แล้วยังทำงานได้ดีอีก  เก่งจริง ๆ นะจ๊ะ  ทั้ง ๆ ที่ดูแล้วอายุก็ยังน้อย  คุณหญิงเอ่ยปากชมนิชญาด้วยความจริงใจ

     

                            ขอบคุณค่ะ นิชญาปลื้มที่ลูกค้าระดับไฮโซผู้นี้ กล่าวชมเธอ

                            อ้อ...เกือบลืมแนะนำไป  นี่คือคุณ ภูวนาท ศิระโอภาส  ลูกชายของท่านพีระพงศ์  ศิระโอภาส กับคุณหญิงธีรกานต์จะ คุณหญิงวีรวรรณกล่าวแนะนำบุรุษในชุดสูทดำ ที่ยืนอยู่ในวงสนทนาตั้งแต่แรก  คำแนนำที่ส่งผลต่ออภิชาตที่ยืนอยู่ หากมีคนสังเกตดีๆ จะเห็นแววตาตระหนกเล็กน้อย แต่ก็รีบเก็บอาการและเอ่ยคำเพื่อทำความรู้จักอย่างเรียบเฉย

     

                            สวัสดีครับคุณภูวนาท  ผมชื่ออภิชาตครับ  ส่วนนี่ก็คุณนิชญาเลขาฯ ของผมครับ

     

                            สวัสดีครับคุณอภิชาต  และก็คุณนิชญาบุรุษหนุ่มกล่าวด้วยเสียงสุขุม เยือกเย็น แต่ทว่าแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นและมั่นคง

                คุณนิชญาเป็นอะไรรึเปล่า ทำไมดูไม่ค่อยพูดเลยล่ะ คุณหญิงวีรวรรณถามด้วยความเป็นห่วง

     

                            เปล่าค่ะ  คือ...หนูไม่ทราบว่าจะพูดอะไรดีน่ะค่ะ นิชญาตอบด้วยความไม่มั่นใจ ว่าทำไมตัวเองต้องเกร็งขนาดนี้ด้วย  เธออยืนอยู่เงียบๆ ฟังการสนทนาต่อไปเรื่อยๆ  ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวกับธุรกิจ  เธอจึงทราบว่าบุรุษหนุ่มคนนั้น เป็นเจ้าของบริษัททัวร์ที่พึ่งจะเปิดใหม่ไม่ถึงปี   ก็สร้างความไว้วางใจกับลูกค้าและสามารถขยายกิจการได้อย่างรวดเร็ว  ซึ่งตอนนี้เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นบริษัททัวร์เบอร์หนึ่งของไทย

     

                    นิชญา...คุณช่วยคุยเป็นเพื่อนกับคุณภูวนาทสักครู่นะ  ผมมีธุระไปคุยกับคุณหญิงสักครู่  อภิชาตบอกเธอขณะที่เธอกำลังยืนคิดอะไรอยู่ดี ๆ ความจริงเขาก็ไม่อยากทิ้งเธอไว้กับเขาคนนั้นนักหรอก

     

                            ค่ะ...ได้ค่ะ นิชตอบรับคำ

     

                            หลังจากนั้น คุณหญิงวีรวรรณก็เดินจากไปพร้อมกับอภิชาต ทิ้งให้ทั้งสองคนยืนอยู่ด้วยกันโดยไม่มีใครพูดอะไรเลย

    คุณนิชญาครับ  คือถ้าคุณจะไม่ว่าอะไร ผมอยากจะขอให้คุณไปคุยกับผมข้างนอกได้มั้ยครับ  ภูวนาทกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น

     

    ได้ค่ะ นิชญาตอบรับด้วยน้ำเสียงที่เห็นด้วยอย่างยิ่ง  เพราะเธอไม่อยากอยู่ในงานแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้ว

     

    ทั้งสองเดินิกมาจากงานเลี้ยง มาสู่สวนดอกไม้ด้านนอกที่เต็มไปด้วยดอกไม้หลากหลายพันธุ์ ส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลอยู่ทั่วบริเวณสวน  ทั้งสองเดินเล่นกันอยู่พักนึงก็เริ่มจะพูดคุยกันในเรื่องของงานที่ถูกจัดขึ้นในค่ำคืนนี้

     

    คุณจัดงานได้สวยมากครับ คิดรูปแบบของงานได้ดีและก็สมบูรณ์มากทีเดียว ภูวนาทกล่าวชมเนื่องจากเขาพอใจกับงานที่สมบูรณ์แบบเมื่อเขาได้เดินสำรวจงานจนทั่ว แล้วก่อนที่เธอจะมาถึงงาน

     

                            ขอบคุณค่ะ หญิงสาวตอบโดยไม่ได้มองตาผู้ที่ชมเธอถ้าหากเธอเงยหน้าขึ้นมามองเธอก็จะพบว่า  สายตาที่เขามองเธนั้นไม่เพียงแค่ชื่นชมผลงานของเธอ เพียงอย่างเดียว หากแต่ชื่ชมความงามของเธออีกด้วย

     

                            ผมอยากให้คุณ...เอ่อ...ผมหมายถึงบริษัทของคุณช่วยจัดงานเลี้ยงฉลองครบ 1 ปีของบริษัททัวร์ของผมจะได้มั้ยครับ คุณนิชญาภูวนาทพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นการเป็นงานมากขึ้น  แต่สายตาก็ยังคงจับจ้องอยู่ที่ความงามราวกับไข่มุกยามราตรีของเธอ ที่เมื่อส่องกระทบกับแสงจันทร์ ยิ่งดูงามผุดผ่องขึ้นเป็นทวีคูณ

     

    เอ่อ   ได้ค่ะ  แต่คุณต้องไปตกลงกับบอสอีกีนะคะ ในเรื่องของรายละเอียดของงาน นิชญาอธิบายอย่างคล่องแคล่ว ด้วยความที่เป็นเรื่องงานเธอจึงมุ่งมั่นเต็มที่ทีเดียว

    งั้นผมจะติดต่อกับคุณอีกที  ถ้าผมจะตกลงเรื่องรูปแบบของงานนะครับ...ว่าแต่นี่เราก็ออกมานแล้ว  กลับเข้าไปในงานดีกว่ามั้ยครับ คุณนิชญา ภูวนาทพูดพลางดูเวลาซึ่งขณะนี้เข็นาฬิกาบอกว่า ห้าทุ่มเศษแล้ว

    ก็ดีเหมือนกันค่ะ นิชญาพยักหน้าเห็นด้วย แล้วเดินตามภูวนาท กลับเข้ามาภายในงานเลี้ยงด้านในโรงแรม

     

    ภายในงานคนค่อนข้างบางตากว่าตอนที่พวกเขาอยู่ในตอนแรก เนื่องจากแขกทยอยกลับกันบ้างแล้ว  นิชญาอยู่ในงานต่อจนเกือบเที่ยงคืนจึงกลับบ้านด้วยความอ่อนเพลีย ตอนนี้ในใจเธอกำลังคิดถึงชื่อของ ภูวนาท ด้วยคุ้นเคยอยู่ในความทรงจำที่อาจลืมเลือนไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×