ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (แปลแบบดำน้ำ) โอตาคุวันสิ้นโลก [ BL / Yaoi ]

    ลำดับตอนที่ #4 : ตกแต่งภายในขนานใหญ่

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.69K
      582
      18 ก.ค. 60

     ใจกลางเมือง A  ค่ำคืนนั้นคึกคักกว่ากลางวันเสมอ


     ที่บาร์แห่งหนึ่ง  ชายหญิงบางคนได้ฉวยโอกาสจากความมืดยามค่ำคืนสนุกสนานกับงานรื่นเริ่งที่นี่


     หญิงช่างยั่วในชุดกระโปรงรัดรูปขยับเอว 55 เซนติเมตรเป็นรูปทรง S  ก้าวเดินอย่างแมวไปยังโซฟาตรงมุมหนึ่ง


     "สุดหล่อ  ดื่มกันสักแก้วไหม?" สาวเซ็กซี่มองชายหนุ่มด้วยดวงตาเร่าร้อน  แต่เมื่อเขามองกลับมายังเจ้าหล่อน  วิญญาณก็เหมือนหลุดลอยออกจากร่าง


     ชายคนนี้มีดวงตาดอกท้อที่สุดแสนจะกระชากจิตใจผู้คน  ใต้ดวงตาซ้ายมีปานรูปหยดน้ำแสนทรงสเน่ห์  เมื่อเอนตัวพิงโซฟาอย่างเกียจคร้าน  อย่าว่าแต่ผู้หญิงคนนี้เลย - รวมผู้หญิงทั้งบาร์เข้าด้วยกัน  ก็ยังสู้รูปลักษณ์และท่วงท่าของชายคนนี้ไม่ได้


     ชายหนุ่มหรี่ตาลงเล็กน้อย  ดูคล้ายกำลังยิ้ม  แต่ดวงตาของเขากับฉายความเย็นชาออกมา  ริมฝีปากบางขยับเป็นคำพูดว่า - "ไสหัวไป"


     หญิงสาวนิ่งค้าง  คล้ายจะไม่ได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มพูด  ไม่ต้องรอให้เธอได้พูดอะไรอีก  มือใหญ่ก็ตบลงบนไหล่ของเธอ "คนสวย  ตรงนี้ไม่ใช่ที่ของเธอนะ"


     หญิงสาวหันกลับไปมอง  ต้องประหลาดใจที่เห็นชายแก่ 4 - 5 คน  ด้านหลังยังตามมาด้วยคนที่ดูเหมือนบอดี้การ์ดยืนอยู่ข้างโซฟา  หัวใจรู้สึกบีบคั้น  รีบหลบหนีไปทันที - คืนนี้กลับเลยดีกว่า!


     "บัตรนี้มีอยู่ 1 ล้าน  ให้แม่ของแกซะ" ชายวัยกลางคนนั่งตรงข้ามชายหนุ่ม  บัตรเครดิตวางบนโต๊ะที่กั้นระหว่างทั้งสองคน


     "ธุระของฉัน?  คุณไม่ให้เธอเองล่ะ?" ชายหนุ่มเชือนแช  หยันว่า "คุณเรียกผมออกมาเพราะเรื่องนี้?"


     "แกเป็นคนให้เธอจะดีกว่า  อย่างน้อยก็สายเลือดเดียวกัน  จะได้ไม่เหมือนครั้งที่แล้วที่บอกว่าไม่ได้ส่งเสียเลี้ยงดู" ชายแก่ขมวดคิ้ว "แกบอกเธอด้วยว่าเร็วๆนี้อาของแกจะได้รับคำตัดสิน  ให้เขาระวังเรื่องจากปัญหาเก่า  ตอนนี้ยังขยับตัวจัดการอะไรไม่ได้"


     ชายหนุ่มใช้สองนิ้วคีบบัตร  ยิ้มน้อยๆแกว่งด้านหน้าเขา "คุณจะไม่หย่า  แต่แค่ทำเรื่องเล็กๆน้อยๆก็ยังต้องให้ผมเป็นตัวกลาง?  เอี๋ยนฮั่น  ผมไม่ใช่ลูกน้องคุณนะ  เรื่องนี้ผมไม่สน  แค่ส่งใครสักคนรอบๆคุณไปสิ!" แล้วบัตรก็ร่วงลงบนโต๊ะ  เขาลุกขึ้นเดินไปที่ประตู


     เอี๋ยนฮั่นหน้าครึ้ม  สีหน้าดูไม่ดีอย่างมาก "ฉันอยากเจอแกด้วย..."


     "ผมยังมีชีวิตอยู่  คุณไม่ต้องกังวล" ชายหนุ่มไม่กลับไปที่บาร์จนกระทั่งเขาออกไปจากพื้นที่กดดันก็สูดลมหายใจลึกๆ - อากาศข้างนอกดีกว่าเยอะ


    -

     

     วันรุ่งขึ้นหลัวซวินตื่นเพราะเสียงกดออดประตู


     ของที่สั่งไว้มาแล้ว?  เร็วมาก!


     หลัวซวินถอนหายใจพลางทอดถอนใจ  เมื่อก่อนตอนอยู่เมือง M  สั่งของออนไลน์ไม่เคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อน  อย่างน้อยกว่าพนักงานขนส่งจะมาหาก็ลากยาวไป 10 - 15 วันจนเป็นปกติ  ไม่คาดมาก่อนว่าเมืองใหญ่บริษัทขนส่งจะแข็งแกร่งขนาดนี้!


     เปิดโทรศัพท์ตรวจรายละเอียดข้าวของที่สั่งซื้อว่าเกือบทั้งหมดอยู่ในสถานะกำลังจัดส่งแล้ว  และยิ่งไปกว่านั้นสองรายการกำลังอยู่ในสถานะกำลังนำสินค้ามาส่งให้แล้ว


     เอาล่ะ  วันนี้อยู่บ้านเตรียมตัวรับสินค้าดีกว่า


     หลัวซวินถ่ายภาพ  สินค้ามือสองบางอย่างที่จำเป็นต้องลงมือแปรสภาพยังมาไม่ถึง  หมุนตัวกลับไปในห้องเพื่อยืนยันสภาพแต่ละห้อง  เขาต้องจัดสรรพื้นที่ในการใช้สอยของแต่ละห้อง


     ไม่ต้องพูดถึงว่า  ส่วนของชานขนาดใหญ่และระเบียงต้องเอาไว้ปลูกผัก  ห้องครัวใช้ประโยชน์แบบเดิม  ห้องเก็บของอยู่ติดห้องครัวและไม่มีหน้าต่าง  สามารถเปลี่ยนมันเป็นห้องเพาะเลี้ยงได้  เพาะพันธุ์สัตว์หรืออะไรทำนองนั้น  ห้องนั่งเล่นในชั้นแรกค่อนข้างกว้าง  สามารถกั้นพื้นที่บางส่วนไว้เก็บของ


     ชั้นสองมีสองห้องนอน  เลือกมาสักห้องหนึ่งไว้สำรองเป็นห้องเก็บของ  อีกห้องหนึ่งก็ไว้เป็นห้องนอนของเขาเอง  ชั้นสองมีห้องอาบน้ำที่มีอ่างอาบน้ำ ฝักบัว และอื่นๆ  ไม่ต้องย้ายมันในตอนนี้


     ถือแผนผังการก่อสร้างบ้านไว้ในมือข้างหนึ่ง  มืออีกข้างของหลัวซวินก็ไม่ลืมจะวาดสิ่งที่คิดลงไป - อย่างไรเสีย  ของสิ่งนี้ส่งคืนไปก็ไร้ประโยชน์  ไม่มีใครมาเรียกร้องเอาจากเขาหรอก...


     เสียงออดดังขึ้นอีกครั้ง  ของที่สั่งไว้มาส่งแล้ว


    -


     "ซื่อ- ซื่อ-"


     เสียงสว่านไฟฟ้าที่ทำให้ผู้คนที่ได้ยินอดไม่ได้จะปวดหัว


     เสียงสว่านไฟฟ้าดังที่ตึกเจ็ดเป็นเวลานานกว่าครึ่งเดือนแล้ว  ชั้น 16 ห้องทางตะวันออก  บนพื้นทั่วบ้านนั้นเต็มไปด้วยเครื่องมือหลากหลายชนิด  กล่องเล็กกล่องใหญ่  และอุปกรณ์ดัดแปลงหน้าตาโบราณแปลกๆ


     วันนี้วันที่ 22 ตุลาคม  สิ่งทั้งหลายที่หลัวซวินสั่งซื้อทางออนไลน์ได้ถูกส่งมาที่บ้านหมดแล้ว


     ตอนนี้เขาแบ่งห้องนั่งเล่นเป็นสองส่วน  ส่วนที่ติดกับชานบ้านเต็มไปด้วยเครื่องมือที่ถูกดัดแปลง  ส่วนที่ติดกับประตูหน้าบ้านจัดวางเฟอร์นิเจอร์และของอย่างอื่น


     อาหารทั้งหมด  เมล็ดพันธุ์  ข้าวของสำรอง  อาหารสำเร็จรูป  ทั้งหมดจัดหมวดหมู่เก็บไว้ในห้องเก็บของชั้นหนึ่ง  และชั้นสองในห้องนอนเล็ก


     เฟอร์นิเจอร์  ของพวกนี้จำเป็นต้องซื้อ  อย่างน้อยภายในห้องนั่งเล่นก็ต้องมีโต๊ะ เก้าอี้ โซฟา  ห้องนอนก็ต้องมีเตียงสักหลังหนึ่ง?


     เพิ่งแปลงสภาพท่อ PVC ฆ่าเชื้อทำเป็นชั้นๆ  หลัวซวินถอนหายใจ  ทุบเอวที่ปวดเหมือนคนแก่แล้วเดินไปห้องน้ำเพื่อล้างมือ  เมื่อออกมาก็ไปที่ไมโครเวฟเพื่ออุ่นหมูย่าง


     ไมโครเวฟเมื่อซื้อกลับมาที่บ้านแล้ว  อีกวันหลังจากตรวจสอบว่าไม่มีปัญหาเรื่องคุณภาพ  หลัวซวินก็แกะฝาหน้าออก - เพื่อกันปัญหาเรื่องเสียงไปดึงดูดความสนใจในวันสิ้นโลก


     พึงพอใจที่เห็นห้องเป็นระเบียบ  หลัวซวินเอนพิงโซฟา  เครื่องมือที่ต้องดัดแปลงทั้งหมดก็ทำเสร็จแล้ว  ใช้เวลาสองวันเต็มน่าจะทำความสะอาดได้เรียบร้อย  เวลาที่เหลือก็เอาไว้เตรียมการอย่างอื่นเช่นการเพาะเลี้ยง  อย่างเช่นการสีข้าว  การทำแป้งสาลี  อย่างไรเสียการจุดไฟทุกวันในช่วงวันสิ้นโลกก็ไม่ใช่นิสัยที่ดี


     กินเสร็จแล้วก็โยนถุงพลาสติกทิ้งถังขยะ  หลัวซวินตบมือแล้วลุกขึ้นมาทำความสะอาดห้องอีกครั้ง  นอกจากเศษเล็กๆน้อยๆไม่มีประโยชน์อะไร  ทั้งหมดที่ดูแล้วอาจเอามาใช้งานได้ถูกรวมไว้ในห้องนอนเล็กชั้นสอง


     เอาชั้นวางไฮโดรโปนิกส์ กล่องเพาะเลี้ยง และอื่นๆ ไปจัดวางไว้บนชานบ้าน  บนระเบียงชั้นบน  ทันใดนั้นห้องก็ดูสะอาดขึ้นมาทันที


     โซฟาถูกผลักไปด้านหนึ่ง  แล้วเอาตู้ปลาขนาดใหญ่เข้ามาในห้องนั่งเล่น  หลัวซวินโล่งอกล้มตัวลงนอนบนโซฟา  หยิบมือถือขึ้นมาขมวดคิ้วเริ่มคิดอีกครั้ง


     ตอนนี้เขาเหลือเงินอยู่แค่ 5 หมื่น  แม้ว่าเงินจำนวนนี้จะสามารถซื้ออาหารและยารักษาโรคได้มาก  แต่เขาอยากจะซื้ออย่างอื่น  เช่น...  ...อยากเลี้ยงสัตว์ไว้ในบ้าน?


     ในช่วงแรกที่วันสิ้นโลกมาถึง  นอกจากมนุษย์แล้ว  สัตว์อื่นๆบางตัวจะกลายเป็นซอมบี้ในทันที  แล้วหลังจากนั้น  นอกจากซอมบี้สัตว์ก็ยังมีสัตว์กลายพันธุ์อีก  ยิ่งสัตว์กลายพันธุ์มีจำนวนมากเท่าไหร่  มนุษย์ก็ยิ่งมีชะตากรรมเลวร้ายยิ่งกว่าเจอซอมบี้มากเท่านั้น


     แต่ถ้ามันเชื่อง  แม้ว่าภายหลังจะกลายพันธุ์  สัตว์กลายพันธุ์ก็จะไม่บ้าคลั่งและยังมีความสามารถในการต่อสู้สูงอีกด้วย


     อย่างน้อยถ้าคุณเลี้ยงหมาไว้ในบ้าน  เมื่อคุณออกไปข้างนอกเพื่อรวบรวมสัมภาระมันก็จะเฝ้าบ้านให้คุณ


     หลัวซวินยังจำได้ว่าเมื่อวันสิ้นโลกมาถึงสัตว์จำนวนมากกลายเป็นซอมบี้  และมันทำอันตรายต่อมนุษย์มากกว่าซอมบี้มนุษย์  ดังนั้นผู้คนจำนวนมากจึงหลีกเลี่ยงพวกสัตว์


     เวลานั้นเขายังอยู่ในเมือง M  มีชายแก่คนหนึ่งเลี้ยงหมาพันธุ์ปั๊ก  หมาตัวนี้ไม่กลายเป็นซอมบี้  วันสิ้นโลกทำให้กฎระเบียบในสังคมไร้ความหมาย  ผู้คนทุบทำลายเข้าไปในบ้านของคนอื่นเพื่อขโมยของ  แต่ครอบครัวนั้นเพราะว่าเลี้ยงหมาไว้พวกขโมยเลยไม่กล้าเข้าไป!


     แต่ถ้าเขาเลี้ยงหมา  หนึ่งคือเขาต้องเตรียมอาหารหมา กระดูกขัดฟัน และของอย่างอื่น  สองคือถ้าหมาที่เขาเลี้ยงไว้เกิดกลายเป็นซอมบี้ตั้งแต่วันสิ้นโลกวันแรกล่ะ?  แม้ว่าครั้งแรกอาจไม่เปลี่ยนแปลง  แต่ถ้าการกลายพันธุ์ในระลอกสองทำให้มันคลั่งขึ้นมา  เช่นนั้นเขาไม่โชคร้ายกระทั่งชีวิตตัวเองก็รักษาไว้ไม่ได้...


     "เฮ้อ... รออีกสักหน่อยก็แล้วกัน" สัตว์อื่นๆก็เหมือนกัน  ถ้าบ้านเลี้ยงไก่  แม้ว่าจะมีไข่ให้กินในวันสิ้นโลก  มีเนื้อไก่ให้กิน  แต่ไก่ก็อาจส่งเสียงทำให้คนสนใจ  หลัวซวินไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว  แต่ถ้าเป็นหมา... ...เขาก็อยากจะเลี้ยงสักตัวหนึ่ง


     ห้องเพาะเลี้ยง  หลัวซวินหย่อนเมล็ดลงในแผงเพาะ  ห้องได้ถูกปรับเปลี่ยนให้ทั้งอุณหภูมิห้องและความชื้นเหมาะสมกับเมล็ดพวกนี้งอกต้นกล้าออกมาในไม่กี่วันให้หลัง


     เพราะว่าจำเป็นต้องคิดถึงฤดูหนาว  แม้ว่าเขาจะมั่นใจเรื่องอุณหภูมิห้อง  แต่ก็ไม่กล้าปลูกผักจำนวนมาก  หนึ่งคือเขากินเองไม่หมด  ตอนนี้ไม่เหมาะจะเอาไปขาย  สองคือนอกจากสัตว์จะกลายพันธุ์แล้ว พืชเองก็ด้วย


     ถ้าผักที่ปลูกไว้กลายพันธุ์ตอนยังเป็นต้นอ่อน  หลัวซวินสามารถจัดการมันได้อย่างรวดเร็ว  แต่ถ้ามีจำนวนมากเกินไป  เช่นนั้นเขาก็อาจจะแตะต้องพวกมันไม่ได้  จำต้องทำลายโดยตรง


     แม้ว่าระเบียงสามารถปลูกพืชได้โดยง่าย  แต่หลัวซวินให้ความสำคัญกับไฮโดรโปนิกส์มากกว่า  แน่นอนว่าผักได้ปลูกไปแล้ว  และเขาก็กำลังจะไปขุดดินแถวๆนี้กลับมาในเร็วๆนี้  


     การปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์หนึ่งคือดูแลง่าย  สองคือใช้พื้นที่ไม่มาก  ตราบเท่าที่สารอาหารยังอยู่ในเกณฑ์  สามารถซื้อได้โดยตรงจากอินเตอร์เน็ต  รอจนวันสิ้นโลกมาถึงเขาก็สามารถกำหนดราคาของเขาเองได้  โชคดีที่เขามีประสบการณ์ด้านนี้พอสมควร


     เมล็ดผักที่เขาลองเพาะชั่วคราวตอนนี้มีจำนวนเพียงเล็กน้อย  มีผักชีฝรั่ง กะหล่ำปลี ผักกาดหางหงษ์  รวมทั้งของที่สั่งซื้อทางออนไลน์ตอนแรกคือต้นกล้าส้ม ต้นกล้าแอปเปิ้ล ต้นกล้าเชอร์รี่ และอื่นๆ  ซึ่งได้เอาลงกระถางไว้ในบ้านแล้ว


     เหลือเวลาให้เตรียมการอีกไม่กี่วันก่อนวันสิ้นโลกจะมาถึง  เมล็ดถั่วเขียวเมล็ดไม่งอกออกมาเป็นถั่วเหลืองก็เพียงพอแล้ว


     อยู่บ้านไม่กี่วัน  เมล็ดในถาดเพาะเลี้ยงก็งอกออกมาเกือบทั้งหมด  ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่ยังแน่ใจไม่ได้ว่ามันจะไม่กลายเป็นซอมบี้


     หลัวซวินค่อยๆตัดฟองน้ำอย่างระมัดระวัง  นำพวกมันไปปลูกด้วยวิธีไฮโดรโปลิกส์ในท่อ  ต่อท่อปั้มออกซิเจนเล็กๆที่ใช้ในตู้ปลาเพื่อเพิ่มอัตราสารอาหารให้เพียงพอ  วางการปลูกพืชไฮโดรโปนิกส์บนหิ้งเล็กๆก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์


     เพราะได้ปลูกผักในวันสิ้นโลก  ดังนั้นหลัวซวินจึงเลือกชั้นวางที่ค่อนข้างเล็ก  แต่ละสายพันธุ์มีไม่กี่สิบต้นเท่านั้น  หลายชั้นใช้ถังเก็บน้ำร่วมกัน


     มองแบตเตอรี่ลูกที่ห้าที่ชาร์จกับแผงโซลาร์เซลล์มานานแล้ว  มองห้องซึ่งจัดวางข้าวของอย่างเป็นระเบียบ  หลัวซวินเดินไปมาในบ้านสี่ห้ารอบจนสุดท้ายก็มั่นใจ...  ...เหมือนจะไม่มีอะไรให้ทำ?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×