คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ที่พักที่ดีที่สุดในวันสิ้นโลก
นายหน้ารีบลุกขึ้นออกไปด้านนอกกับหลัวซวิน ออกนอกประตูก็ชี้ไปที่ตึกสูงไม่กี่แห่งแล้วนำเสนอ "ชุมชนหงจิ้ง เขตเมืองใหม่โซนตะวันตกเฉียงใต้ ที่พักในแต่ละชั้นยังไม่เสร็จเรียบร้อยดี เป็นส่วนหนึ่งที่ผู้พักในเมืองจะย้ายมาอยู่ คุณดูสิว่าบ้านหลังนี้อยู่ในทำเลทอง อยู่ด้านข้างไม่ติดถนน เงียบสงบและทิวทัศน์สวยงาม และยังเพิ่งตกแต่งใหม่ ถ้าคุณมองที่แห่งนี้โดยไม่เอนเอียง คือมีคนอยู่อาศัยไม่มากนัก แต่ในอนาคตจะเป็นศูนย์กลางการค้าเลยทีเดียว ถ้าคุณสนใจใกล้ๆที่ตรงนี้ตรงอาคารก่อสร้างไม่สูงนั่น มันล้อมเอาไว้เพื่อสร้างห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ... ..."
หลัวซวินที่อยู่ด้านข้างยิ้มไม่พูดอะไรและพยักหน้า เขานั้นรู้ดีว่าพื้นที่ทั้งหมดจะมีอยู่แค่สองอาคาร ห้างสรรพสินค้าในตำนานนั่นจะยังคงเป็นตำนานอย่างที่มันเป็น แต่พื้นที่ตรงนี้ในอนาคตจะกลายเป็นพื้นที่ทองคำสุดเบียดเสียดจริงๆ
เพราะที่นี่ใกล้กับค่ายทหารเมือง A และกรมทหารปืนใหญ่ก็ไม่ไกลจากที่นี่ อยู่ในเขตตะวันตกเฉียงใต้
อนาคตของเมือง A ในวันสิ้นโลกที่ซอมบี้เกิดขึ้น จะจัดตั้งค่ายผู้รอดชีวิตอยู่สองแห่ง หนึ่งอยู่ภายใต้การปกป้องของสองกองกำลังที่รีบเคลียร์พื้นที่ ค่ายตะวันตกเฉียงใต้ อีกแห่งคือค่ายตะวันออก
เมื่อค่ายเมือง M แตก เขาหนีมาตลอดเส้นทางขึ้นเหนือจนมาถึงค่ายตะวันตกเฉียงใต้ ในขณะที่ค่ายตะวันออกในปีที่สองของวันสิ้นโลก เขาเพิ่งหนีมาอยู่เมือง A ได้เพียงไม่นาน ซอมบี้และพืชกลายพันธุ์ก็ร่วมมือกันทำลายค่าย
ขณะนายหน้าพาชมชุมชนหงจิ้ง หลัวซวินรู้สึกโหยหาเล็กๆอยากจะเห็นชั้นล่างของอาคารสาม - ชั้นใต้ดินปีกตะวันออกของอาคารสาม ที่นั่น เมื่อเขาได้หนีหายนะวันสิ้นโลกมายังเมือง A เป็น 'บ้าน' เขาใช้ชีวิตอยู่กว่าแปดปี
แต่ชีวิตนี้เขามีทางเลือกที่ดีกว่า เขาย่อมไม่มีทางกลับไปอาศัยอยู่ในชั้นใต้ดิน - ไม่ต้องพูดถึงว่าตอนนี้ชั้นใต้ดินของชุมชนเปิดให้เช่าเฉพาะคนที่ทำธุรกิจคลังสินค้า
บนทางเดินใหม่เอี่ยม มีบางคนใช้ปากกากันน้ำเขียนหมายเลขโทรศัพท์ แปะป้ายโฆษณาแผ่นเล็ก ด้านหลังหรือด้านล่างเขียนว่า "รับตกแต่ง" หรือ "รับติดตั้งแอร์" หรือเขียนว่า "ส่งน้ำ" และอื่นๆอีกมากมาย แม้กระทั่งประตูลิฟต์ก็ไม่รอด
เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก ด้านในของลิฟต์ใหม่ก็ยังเต็มไปด้วยสิ่งเหล่านี้
นายหน้าเห็นหลัวซวินจ้องมองลายมือพวกนี้อย่างสนใจ ก็ได้แต่พูดด้วยรอยยิ้มเบี้ยวๆว่า "เพราะว่าอสังหาริมทรัพย์ยังไม่เรียบร้อยดี และตอนนี้ก็ไม่มีใคร คนพวกนี้ก็เลยล่วงหน้ามาทำงานของพวกเขา"
"นี่เป็นความคิดทางธุรกิจ" มองสิ่งเหล่านี้ในใจก็คิดอะไรแปลกๆเช่น 'โรคสะเก็ดเงิน' 'รอยสักทางเดิน' หลัวซวินช่วยไม่ได้ที่จะถอนหายใจ เขามาที่นี่เมื่อกำแพงได้แปดเปื้อนไปหมดแล้ว มีคราบจากซอมบี้ที่ตาย จำพวกพวกหนองขาวๆกับเลือดที่กระเด็น ก็เลยไม่เห็นร่องรอยของโฆษณาพวกนี้เลย
ทั้งสองคนเดินไปด้วยกันตลอดทางจนไปหยุดนั่งพักที่ชั้น 16 นายหน้าหยิบกุญแจออกมาไขเปิดประตู ใช่แล้ว เป็นบ้านหลังนี้ ...
"ชั้นแรกเป็นห้องนั่งเล่น ชาน ห้องครัว ห้องเก็บของ ชั้นสองจะมีห้องนอนใหญ่กับห้องนอนเล็ก ระเบียง ห้องน้ำ แล้วก็ห้องอาบน้ำ" นายหน้าคอยแนะนำเขาอยู่ด้านข้าง
"บ้านหลังนี้ตกแต่งอย่างดี แม้กระทั่งความปลอดภัยของประตูก็ดีกว่าที่อื่น เจ้าของวางแผนจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ แต่ในภายหลังดูเหมือนว่าจะต้องย้ายที่ทำงาน? ไปทำงานที่ไกลจากเขตตะวันตกเฉียงใต้มากๆ ดังนั้นครอบครัวของเขาก็เลยไม่ได้เดินเรื่องขอใช้ไฟฟ้า ... "
หลัวซวินพยักหน้าน้อยๆ ในใจนั้นรู้ดีว่าครอบครัวนี้ไม่ได้ไม่มีเหตุผลให้ไม่อยู่อาศัย บ้านหลังนี้เพราะมีระเบียงและชานบ้านขนาดใหญ่ พื้นที่ก็ค่อนข้างมาก ความจริงเตรียมไว้สำหรับผู้สูงอายุให้อยู่บ้านทำความสะอาดแก้เหงา แค่สุดท้ายเพิ่งจะแต่งบ้านเสร็จยังไม่ทันขอใช้ไฟฟ้า ผู้สูงอายุก็จากไปด้วยโรคชราเสียแล้ว บ้านจึงว่างเช่นนี้
นายหน้าอาจเกรงว่าเขาจะไม่อยากเช่า จึงจงใจทำให้มันคลุมเครือ
มองไปที่กระจกหน้าต่างใสขนาดใหญ่ด้านหน้า แสงอาทิตย์อุ่นๆสาดเข้ามา ในใจของหลัวซวินยิ่งพึงพอใจมากขึ้น เมื่อไปที่ชั้นสอง เขาไม่ได้มองที่ห้องนอนซึ่งว่างเปล่ามากเกินไป แต่มองตรงไปที่ระเบียง ระเบียงก็ปิดแน่นด้วยกระจก หนึ่งเพื่อความปลอดภัยของผู้สูงอายุ สองนั้นเพราะชั้นนี้ลมแรงมาก
หลัวซวินแทบกล่าวคำสรรเสริญออกมา ครอบครัวนี้ใช้กระจกเทมเปอร์ทั้งหมด! เพียงแค่กระจกนี้ ค่าเช่นเดือนละสามพันห้าเพื่อเช่าห้องชุดในขอบเมือง A นั้นหลัวซวินเองก็รู้สึกว่ามันคุ้มค่ามาก!
"โอเค บ้านหลังนี้ดีนะ"
"ถ้าอย่างนั้นคุณ?"
"เมื่อไหร่เจ้าของบ้านจะมาเซ็นสัญญาล่ะ?"
นายหน้ารีบติดต่อเจ้าของบ้านด้วยรอยยิ้ม
3500 หยวนต่อเดือน จ่ายล่วงหน้าสามเดือน รวมค่านายหน้าอีก 3500 หยวน
(TN: คิดค่าเงินจีนเทียบไทยอย่างง่ายๆ คูณห้าเข้าไปค่ะ)
ในเช้าวันที่ 1 ตุลาคม ทั้งสองฝ่ายเซ็นสัญญา หลัวซวินก็ได้กุญแจบ้านในฝันมา
ยืนอยู่ในห้องที่ว่างเปล่า หลัวซวินเพียงรู้สึกตื่นเต้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
บ้านหลังนี้เป็นที่อิจฉาอย่างมากในชีวิตที่แล้วของเขา เมื่อพวกเขามาถึงยังค่ายตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง A ที่ค่ายนั้นการปลูกผักเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก มีการแนะนำวิธีปลูกพืชรวมถึงการทำน้ำให้สะอาดและอื่นๆ
หลังจากตรวจสอบพบว่าเมล็ดพืชในพื้นที่เพาะปลูกใกล้ๆเมืองได้กลายพันธุ์ สถาบันวิจัยวิเคราะห์และระบุว่า ธัญพืชที่ได้นั้นมีวัฎจักรที่สั้น และยังสามารถใช้เป็นแหล่งพลังงานแก่ร่างกายมนุษย์ได้ การเพาะปลูกก็เสื่อมความนิยมลง
ในเวลานั้นหลัวซวินอาศัยอยู่ในพื้นที่ไม่กี่ตารางเมตรในชั้นใต้ดิน หน้าต่างเป็นเพียงเส้นบางๆ และยังล้อมรอบด้วยตึกกำบังไม่ให้แสงลอดเข้ามา ไม่เหมือนผู้ที่มาถึงค่ายก่อน พวกเขามีพื้นที่ระเบียงเล็กๆสามารถติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ไว้ใช้เอง เมื่อหลัวซวินต้องการไฟฟ้า เขาต้องซื้อต่อจากผู้คนในราคาสูง
แม้จะเป็นเช่นนั้น เขาก็ยังสามารถปลูกพืชที่ไม่จำเป็นต้องใช้แสงมากในชั้นใต้ดินเล็กๆนั้นได้ อย่างเช่นถั่วงอก ต้นหอมจีน กระเทียม โดยพืชเหล่านี้ไม่กลายพันธุ์ และเพราะเก็บซ่อนไว้ในสถานที่ค่อนข้างมืด ในขณะที่ด้านนอกนั้นเต็มไปด้วยพืชกลายพันธุ์ สุดท้ายเขาก็มีเงินเก็บจำนวนมาก
ความคิดของหลัวซวินที่สามารถนำไปลงมือปฏิบัตินั้นค่อนข้างแข็งแกร่ง แม้ว่าโลกด้านนอกจะมืดมน แต่เขายังคงหาทางรอดได้ ไม่ต้องพูดถึงว่าตอนนี้เขาได้ย้อนกลับมาอีกครั้ง?
ชุมชนหงจิ้งช่วงแรกต่อเติมเสร็จแค่แปดชั้นเท่านั้น เป็นส่วนหนึ่งของการย้ายที่อยู่จากย่านกลางเมืองในถนนทางทิศเหนือ ที่เหลืออีกหกชั้นเต็มกำลังอยู่ในช่วงโฆษณาขายบ้าน
ชุมชนแห่งนี้เพิ่งจะก่อสร้างเสร็จเมื่อสามเดือนก่อน บ้านที่เขาเช่าอยู่ตอนนี้เองก็เพิ่งจะตกแต่งแล้วเสร็จได้ไม่ถึงเดือน
จนกระทั่งวันสิ้นโลกมาถึง ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จก็มีแค่สี่อาคาร มีสองอาคารที่กำลังอยู่ในระหว่างต่อเติม อีกสองอาคารประตูและหน้าต่างยังไม่ได้ติดตั้งเลย สองอาคารที่กำลังต่อเติมนี้ท้ายสุดเมื่อวันสิ้นโลกมาถึงจะกลายเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่อยู่ภายใต้ความดูแลของกองทัพ เพราะบ้านทั้งหมดนี้เจ้าของไม่เคยปรากฏตัวเลยหลังวันสิ้นโลก และไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นเจ้าของ ในภายหลังพวกผู้รอดชีวิตจึงเข้ามาอยู่อาศัย
บ้านที่เขาเช่าเคยเป็นของครอบครัวสามคน เป็นพวกที่มาถึงในช่วงครึ่งเดือนแรก บ้านนี้ตกแต่งอย่างดี แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามันว่างเปล่า ไม่มีพวกเครื่องใช้ในบ้านเลย ผู้คนที่ย้ายมาอยู่ส่วนใหญ่เลือกนอนในถุงนอนภายในบ้านเช่า ใครจะใส่ใจว่าใช้วัสดุอะไรแต่งบ้าน? ต้องจ่ายเงินเท่าไหร่?
อย่างไรก็ตาม บ้านหลังนี้ด้วยเงิน 3500 หยวนนั้นไม่สามารถจะเช่าได้หรอก ถ้าไม่ใช่เพราะนี่เป็นมรดกจากผู้เฒ่าของเจ้าบ้าน พี่ชายน้องสาวทั้งหลายกำลังยุ่งวุ่นวายเรื่องครอบครัว ไม่รวมที่ยังไม่ได้ทำเรื่องขอใช้ไฟฟ้าเลย กระทั่งผู้เช่าได้มาถึง
หลัวซวินรู้จักเจ้าของบ้านหลังนี้หลังวันสิ้นโลก แซ่หวู เพราะบ้านของเขาเป็นชั้นลอยที่คิดเป็นสองชั้นเต็ม จึงเป็นบ้านที่ดีมาก ในภายหลังเมื่อสามารถซื้อแผงโซลาร์เซลล์ได้จากกองทัพ ผนังเกือบทั้งหมดนอกบ้านของเขาจึงเต็มไปด้วยแผงโซลาร์เซลล์ ถ้าหลัวซวินไม่จำต้องซื้อไฟฟ้าใช้ ก็คงไม่มาที่บ้านของเขา
หวูเจี่ยเป็นหญิงแกร่ง ชอบที่จะคิดราคาถูกลงเล็กน้อย ดังนั้นจึงมีผู้คนมาซื้อไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก ทั้งสองฝ่ายคุ้นเคยกันตามจำนวนที่ได้ติดต่อซื้อขาย แต่ว่าครอบครัวของเธอไม่ต้องพูดถึงเรื่องให้สิทธิพิเศษ แบตเตอรี่แบบซาร์จได้อันใหม่ของหลัวซวินที่ซื้อจากครอบครัวเธอแท้จริงแล้วเป็นของเก่า!
ในเวลานั้นทั้งสองฝ่ายเกือบจะต่อยตีกัน แต่สามีของเธอ ลูกของเธอ รวมทั้งเธอด้วย สามพุงและสะโพกใหญ่ๆยืนบังประตู มองหลัวซวินและพูดว่าถ้ากล้าทำก็ลงไปจากชั้น 16 ของพวกเขาซะ เขาจึงต้องกลืนเสียงลงท้องไป
บ้านของเขาอยู่ในทำเลที่ดีมาก ทุกวันพึ่งพาเพียงขายไฟฟ้าก็สามารถเลี้ยงครอบครัวได้แล้ว ครอบครัวนี้ไม่เพียงต่างจากครอบครัวอื่นที่ต้องปลูกผัก ลูกชายบ้านนี้แก่กว่าหลัวซวินไม่กี่ปี แต่ไม่เคยออกมาข้างนอกเลยสักครั้งเดียวแม้กระทั่งที่ชุมชนปลอดภัย! ต่อให้ถูกฆ่าก็ไม่ยอมเข้าร่วมทีมสำรวจ แม่ของเขาแทบทนไม่ได้
เจ้าของบ้านนี้หลังวันสิ้นโลกมาถึงได้กลับมายังค่ายตะวันตกเฉียงใต้หรือไม่? หลัวซวินไม่ทราบ แต่เกรงว่าเขาน่าจะตายจากภัยพิบัติครั้งนี้ แต่แม้ว่าพวกเขาจะกลับมา ตามกฎระเบียบที่ทางค่ายวางไว้ ถ้าพวกเขาไม่สามารถกลับไปอาศัยอยู่ที่บ้านเดิมได้ ทางค่ายจะเป็นฝ่ายจะจัดหาที่อยู่ให้
หลัวซวินไม่ใช่พระแม่มารีย์ที่จะคอยช่วยเหลือคนอื่น ชีวิตที่แล้วเขาเป็นคนธรรมดาอยู่ล่างสุดของสังคม ชีวิตนี้ก็ไม่คิดจะทำอะไรใหญ่เกินตัว
ตอนนี้ด้วยบ้านที่เขาต้องการ จะเป็นที่พักพิงเพื่อให้เขาอยู่รอด เขาอยากจะสร้างป้อมปราการที่สามารถทำให้ชีวิตนี้ของเขาดีกว่าชีวิตที่แล้ว ทำให้เขาใช้ชีวิตอย่างสบายใจได้นานๆหลังวันสิ้นโลกอันน่ากลัว
ตอนนี้เหลือเวลาอีก 57 วันก่อนวันสิ้นโลกจะมาถึง
ความคิดเห็น